คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 5 ความฝัน และ การก้าวเดิน
Chapter 5 ความฝัน และ การก้าวเดิน
มุมตึกหนึ่งใกล้แนวท่าเรือนอร์ธเกทที่ๆแอลและเนคคุงโดยจับคุมตัวไว้
“เธอเองก็เป็นพวกเดียวกับโจรสลัดที่ก่อเรื่องสินะ” นายทหารเรือสูงใหญ่ใส่เสื้อมอซอๆคนหนึ่งกล่าวขึ้นพร้อมแหวกเหล่าทหารเข้ามา
“ชิ อย่างคิดว่าจะยอมแพ้นะเจ้าพวกบ้า!! นี่แอลทำอะไรหน่อยเถอะ” เนลหันมาพูดกับแอลในประโยคหลัง
“ยอมจำนนเถอะ ชั้นไม่มีพลังอะไรหรอก ชนะพวกนี้มันเกินตัวเกินไปนี่เป็นหนทางที่ดีที่สุดแล้ว..”
แอลพูดอย่างนั้นออกมาหน้าตาเฉย ทั้งๆที่ตัวเองก็เป็นถึงรองกัปตันแท้ๆ แอลเนี่ยอ่อนแอชะมัดเลย รู้งี้อยู่กับคุณซีกเกอร์ก็ดีหรอก คุณทำให้ผมผิดหวังนะแอล .
แล้วพวกทหารเรือก็ทำการคุมตัวเราโดยที่ฝั่งเราไม่ได้ขัดขืนเลย ทั้งๆที่ตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่กลับไปเป็นคนขี้ขลาดอีก ทั้งๆตั้งใจไว้แล้วที่จะสู้แบบลูกผู้ชาย แอลโทษนะ ผมไม่อยากเป็นแบบคุณ!!
และทันใดนั้นเด็กน้อยก็กัดไปที่ท่อนแขนของทหารเรือที่อยู่ข้างพร้อมขโมยดาบมาได้หนึ่งเล่ม ในขณะนั้นเด็กน้อยคิดแค่เพียงว่าจะสู้ถวายชีวิตแต่ ปึ๊ก!!!! มีอะไรบางอย่างกระแทกที่ท้ายทอยผมอย่างจัง แอล!! ทำไมคุณ .แล้วความมืดก็เข้าคลอบงำสติผมจนไม่อาจรับรู้สิ่งรอบตัว
..
กลับมาที่ลานต่อสู้ของซิลฟี่ ที่บัดนี้เงียบสงบผิดกับบริเวณโดยรอบ เหล่าทหารเรือนับร้อยนายที่ล้อมดูการประลองต่างชะงักงันกับสิ่งที่เกิดขึ้น รวดเร็วเหลือเกินไม่ทันรู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ทหารฝีมือดีที่สุดในตอนนั้นก็ล้มไปแล้ว
“ชั้นจะกลับเรือแล้ว ใครจะเข้ามาอีกมั๊ย?” เธอเอ่ยถามเหล่าทหารเรือที่กำลังห้อมล้อมเธออยู่
“
” เงียบสนิท!!
“งั้น ชั้นกลับหล่ะ เดี๋ยวไปไม่ทันเทศกาลช๊อคโกแลตน่ะ จ๊ะ ^^” สิ่งที่เธอทำกับคำพูดไม่ได้เข้ากันเลยซักนิด
และเมื่อเธอย่างก้าวไปทางไหนเหล่าทหารเรือก็จะแตกกรูเป็นทางให้เธอไปแต่โดยดี แต่ก่อนที่เธอจะไปก็หันมาทิ้งทวนคำพูดสุดท้ายไว้ว่า .
“ฝากบอกตาเฒ่าที่อยู่เบื้องบนด้วยนะ ว่าไม่นานหรอกชั้นซิลฟาเรียและเหล่าโจรสลัดเดอะคิลเลอร์จะกลับมาเอาคืนเรื่องเมื่อ 5 ปีก่อนแน่ แล้วเจอกัน”
..
อืมมมมม ..ทำไมมันโยกๆ ..ที่นี่ที่ไหนอีกเนี่ย .ชั้นกำลังถือดาบอยู่ไม่ใช่หรอ .จริงสิ!!!!
ทันใดนั้นเด็กน้อยก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ ตอนนี้เขากำลังอยู่บนไหล่ของนายทหารที่ดูเหมือนเป็นหัวหน้าคนนั้น
“ปล่อยชั้นนะ!!!” เนลพยายามดิ้นให้หลุดแต่ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์
“ตื่นมาก็ดิ้นพล่านเลยเหรอ ทำแสบเหมือนกันนะ” นายทหารคนนั้นกล่าวกับเนล
“ทำไมล่ะแอล ตอนนั้นทำไมถึงไม่ช่วยผมล่ะ ซ้ำยัง ..แอลขี้ขลาด!! ผมเกลียดแอลที่สุดเลย”
“เหมือนนายจะเข้าใจอะไรผิดๆอยู่นะ กล้าหาญกับบ้าบิ่นมันไม่เหมือนกันหรอกนะ ชั้นแค่ไม่ต้องการให้ใครต้องตายอย่างไร้ค่า จะทำอะไรต้องใจเย็นและรอบคอบเมื่อกี้ถ้าขืนนายสู้ต่อ นายอาจจะตายในไม่กี่วินาทีเลยก็ได้ เจียมตัวเองซะบ้างนะ”
เย็นชาเสียเหลือเกินคำพูดนั้นของแอล แต่มันก็จริงของเค้า อย่างเราสู้เขายังไงก็ไม่ชนะหรอก เจ็บใจในความอ่อนแอของตัวเองจริงๆ
“พวกนาย ไปจับพวกโจรสลัดที่เหลือเถอะ เจ้าสองคนนี่ชั้นจัดการเอง ดูมันก็ไม่ได้มีพิษภัยอะไรด้วย” นายทหารคนที่แบกผมอยู่ๆก็เอ่ยขึ้นมา
“จะดีหรอครับผู้กอง..” พวกทหารที่ติดตามท้วงขึ้นมา
“เจ้าพวกบ้า คิดว่าชั้นคนนี้เป็นใครกันแค่โจรสลัดอ่อนๆสองคนชั้นจัดการได้หน่า” เจ้าคนที่โดนเรียกว่าผู้กองยั๊วะใหญ่ในคำพูดของลูกน้อง
“งั้นพวกแกไปดูทางฝั่งตะวันตกสิ เผื่อพวกมันจะถูกไล่ต้อนไปทางนั้น”
“ครับ!!!”
แล้วพวกทหารเรือก็จากไปอย่างรวดเร็วทิ้งเราไว้สามคนกับผู้กองคนนั้น แต่ถึงแบบนั้นก็คงจะไม่เปลี่ยนแปลงอะไร ผู้กองคนนี้ดูเก่งเสียด้วย เฮ้อ หมดหวังแล้วสินะ..
“พอแล้วล่ะ .” อยู่แอลก็พูดขึ้นพร้อมมองมาที่ผู้กองคนนั้น
“อะ อะไรกันแอล” ผมตกใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของแอล
“อ๊าคคคคคคค” ฟลุ๊บ!!! อยู่ๆนายทหารเรือคนนั้นก็ร้องขึ้นแล้วล้มฟุบไป
ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเลย ทั้งๆที่แอลไม่ได้ทำอะไรเลยแท้ แค่จ้องตาเท่านั้น ไม่จริงหน่า หรือว่า .
“แอล .หรือว่านาย .”
“ใช่ชั้นเป็นผู้มีพลังจิตหน่ะ!!!”
“!!!!! มะ มะ .ไม่จริง กะ กะ โก..หก..น่า” ผมตกตะลึงไปไม่รู้จะทำไง
“ ..”
“ ”
“ ”
“ ”
“ก็โกหกน่ะสิ!!”
“oAo!! อะไรนะ!! งั้นแล้ว ทหารเรือคนนี้หล่ะ”
“อ๋อ เห้ยตื่นได้แล้วหล่ะ ไนท์” แอลเรียกนายทหารคนนั้นว่าไนท์พร้อมเอาเท้าเขี่ยๆ
“แหม..ใจร้ายจังนะครับ เอาเท้าเขี่ยกันเนี่ย ว่าแต่รู้ได้ยังไงครับว่าเป็นผม” คนที่ถูกเรียกว่าไนท์ค่อยๆลึกขึ้นพร้อมฉีกหน้ากากออกเผยโฉมหน้าที่คุ้นเคย ไนท์จริงๆเสียด้วย
“ทั้งๆที่ปลอมเป็นนายทหารมอซอๆเถื่อนๆ แต่กลับไม่ยอมล้างกลิ่นโคโลนที่มืออกเนี่ยนะ ไม่รอบคอบเลยนะ” แอลพูดอธิบายเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา
“แหม ก็คนเค้ารีบมาช่วยนี่นา แหะๆ” ไนท์พูดพร้อมเกาหัว
“เอาเป็นว่าขอบใจแล้วกันนะ..”
“นี่เดี๋ยวสิ ใครก็ได้ช่วยอธิบายหน่อย แอลนายรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่” อยู่ๆเนลก็ขัดบทสนทนาขึ้นมา
“ก็ตั้งแต่แรกที่เห็นมันหน่ะสิ” แอลตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย
และในตอนนั้นผมก็เข้าใจเหตุผลทั้งหมดที่แอลทำลงไปแล้ว .มีแค่ผมเท่านั้นที่คิดว่าเค้าจะไม่สู้ ความคิดทั้งหล่ายก่อนหน้านี้ที่เคยว่าให้เค้ามันทำให้ผมรู้สึกผิดมากเลยทีเดียว
“แอลผมขอโทษ ..ที่ .”
“ช่างมันเถอะ ..นายยังเด็ก ยังมีเวลาอีกมาก ค่อยๆเรียนรู้ไปนะ แล้วซักวันนายอาจจะได้มายืนแทนชั้นตรงนี้ก็ได้ ชั้นคาดหวังกับนายไว้มากนะ เจ้าเด็กใหม่” แอลพูดพร้อมยิ้มให้อย่างอ่อนโยนบางทีคนๆนี้อาจจะเป็นคนที่ละเอียดอ่อนมากก็ได้
“ว่าแต่นานเถอะไนท์ มาอยู่นี่งานนายเสร็จแล้วรึยัง แต่ถ้าจะว่ากันแล้วคงยังสินะ ถ้างานนายเสร็จแล้วนายไม่ปลอมตัวมาช่วยให้เมื่อตุ้มหรอกคงจะลุยฝ่าเข้ามาช่วยไปแล้ว แสดงว่านายทำงานเลทนะ ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ ถ้านายทำงานไม่สำเร็จชั้นจะงดให้นายเข้าห้องชั้นมาขโมยของกินนะจะบอกให้ แล้วก็จะแฉเรื่อง $%^&*(%^&*)_^%^&#@#$%^”
โอ้โหเป็นชุด ไนท์เองก็นั่งคุกเข่าฟังซะเหมือนโดนคุณพ่อเทศเลย = = คนๆนี้ใช่คนอ่อนโยนจริงเร้อ..
“แล้วก็ รีบๆกลับมาล่ะ อย่าให้ทุกคนเขาเป็นห่วงนานเข้าใจไหม ไปเถอะ” แค่ประโยคสุดท้ายเท่านั้นแหละที่ฟังดูอบอุ่นสุดๆเลย
“แหะๆ ไปละคร๊าบบบ!!!” ไนท์เองก็ดูเหมือนจะสนุกเสียเหลือเกิน แล้วเขาก็จากไปอย่างรวดเร็ว
“เอาล่ะๆ เราก็ไปต่อกันได้แล้ว” แอลพูดกลับผม
“อื้อ!!!”
เราทั้งสองแอบลัดเลาะตามซอกมุมตึกต่างๆไปเรื่อยๆ คอยหลบทหารเรือที่คอยตามหาพวกเราอยู่ ผมเองก็ดูเหมือนจะทำประโยชน์ให้แอลได้บ้างแล้วเพราะถนนแถวนี้ผมรู้จักเป็นอย่างดี
“เนล บรรดาตึกฝั่งขวาของเมืองเนี่ย ตึกที่ติดชายฝั่งแล้วสูงที่สุดต้องไปทางไหนหรอ” แอลเอ่ยถามผมในขณะที่เราแอบอยู่บริเวณหลังโรงเบียร์แห่งหนึ่ง
“มีตึกสูง 5 ชั้นอยู่ห่างจากนี่ไปทางตะวันออกเฉียงเหนืออีกประมาณ 500เมตรครับ” เนลตอบไป
“500เมตรเหรอ ถ้าคำนวณจากความเร็วของเรือแล้วก็ แย่หล่ะ”
“ทำไมหรือแอล .”
“เรือน่าจะอยู่แถวๆนั้นนะสิ ไม่น่าจะเกิน 3นาที เราต้องไปให้ถึงยอดตึกนั่นเพื่อกระโดดลงไปที่เรือ คงจะแอบๆหลบๆแบบนี้ไม่ไหวแน่ แอลนายวิ่งไหวมั๊ย”
“พอไหวครับ”
“งั้นสามนาทีจากนี้นายกับชั้นคงต้องวิ่งตลอดทาง500เมตรนั้น เราจะวิ่งฝ่าไปเลยเข้าใจนะ”
“อื้อ แอบตื่นเต้นนิดหน่อยครับ”
“ดี!! ขอให้ไม่โดนยิง!! ไป!!”
เป็นคำอวยพรแปลกของแอลครับ แต่ผมก็มาเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งในไม่กี่วินาทีต่อมา
“เจอพวกโจรสลัดแล้ว!!! ยอมมอบตัวซะจะได้ไม่เจ็บตัว!!!” เสียงบรรดาร้องกันเกรียวหลังจากเห็นพวกเราและอีกไม่กี่วินาทีต่อจากนั้นพอพวกเขาเห็นว่าพวกเราไม่ยอมหยุดก็เริ่มมีการยิงใส่เกิดขึ้น ปังๆๆๆ เสียงดังระงมไปหมด แสบหูชะมัด แอลก็คอยจูงมือผมลัดไปลัดมาตามตึกต่างๆอย่างกลับอยู่มาเป็นปี
“แฮกๆ แนล อีกไกลมั๊ย!!!” แอลถามขึ้นมาขณะวิ่งหนี ผมก็เงยมองหาซักพักก็ชี้ให้แอลดู
“นั่นครับแอล ตึกนั้นแหละ!!!” ปัง!!! อยู่ๆเสียงปืนนัดหนึ่งก็สะกิดใจผมให้หันไปดู ไม่จริง!!!
แอลถูกยิง!!!
เลือดไหลอาบต้นขาของแอลจนแดงฉานไปหมด แต่ถึงอย่างนั้นแอลก็กัดฟันลากผมไปต่อก่อนที่ผมจะเอ่ยอะไรซะอีก แต่ดูเหมือนจะถูกพระเจ้าทอดทิ้งมีทหารนายหนึ่งมาดักอยู่ตรงล่างตึกเป้าหมายของเรา แต่ในวินาทีเดียวกันนั้นแอลกระชากผมเข้าไปในอีกตึกหนึ่งที่อยู่ก่อนตึกเป้าหมาย
“แอล คุณถูกยิง!!” ผมพึ่งจะได้สติดี
“เล็กน้อยน่า เร็วเข้าขึ้นไปข้างบน!!” เห็นได้ชัดว่าขบฟันพูด
“แอลแต่นี่ไม่ใช่ตึกที่เราจะไป”
“ไม่มีเวลาอธิบายแล้วเร็ว!!” แอลกำชับมาอีกผมจึงได้แต่ประคองแอลตามเส้นทางที่เขาบอก
เราขึ้นบันไดมาจนถึงดาดฟ้า อาคารหลังนี้มีแค่ 4ชั้น เป็นลานโล่งๆที่ผมไม่อาจเข้าใจว่าเรามากันทำไม
“เนลมานี่!!!” ทันใดนั้นแอลก็เรียกผมที่กำลังยืนงงอยู่ ตอนนี้ในมือของเขามีผ้าเช็ดตัวสีขาวผืนหนึ่งอยู่ และพอผมมาอยู่อยู่ที่ขอบตึกจึงได้เข้าใจ ที่ดาดฟ้ามีสายไฟของงานเทศกาลอะไรซักอย่างเหลืออยู่ มันเชื่อมต่อจากดาดฟ้านี้ไปยังชั้น 4 ของตึกที่เป็นเป้าหมาย
“เนล เชื่อในตัวชั้นมั๊ย?” อยู่ๆแอลก็ถามผม
“มีเชื่อในตัวคุณครับ” รู้สึกเหมือนบรรยากาศแห่งมิตรภาพกำลังก่อตัวรอบตัวผม
.
“ดี!! ตายมาอย่าโทษกันนะ!! =[]= ” อีตาคนนี้พูดทำลายบรรยากาศได้อย่างสิ้นดีจริงๆ =A= ”
“เจอตัวแล้วพวกมันอยู่บนตึกนี้ครับ!!!” ในที่สุดพวกทหารเรือก็ตามมาทัน พวกเราจึงตัดสินใจกระโดนใช้ผ้าขนหนูแทนสายรอกไหลไปตามสายไฟนั้นอย่างรวดเร็ว ผมเองก็เกาะแอลไว้สุดชีวิตเช่นกันแต่แย่แล้ว!!!
อยู่ๆนายทหารเรือที่คุมประตูอยู่ชั้นล่างก็วิ่งขึ้นมารอที่ชั้น 4 ดักหน้าพวกเราไว้ อะไรกันเนี่ยอุตส่ามาได้ขนาดนี้แล้ว บ้าที่สุด
“เนลฟังที่ชั้นจะบอกให้ดีนะ ”
พอฟังแล้วมันก็ยากที่จะเชื่อ
“พวกนายยอมมอบตัวซะ” นายทหารคนนั้นกล่าวขึ้นก่อนเราจะไปถึง และทันใดนั้น วุ๊บ!! ทั้งคู่ก็อันตธานไปจากสายตาของนายทหารเรือในทันที
“เห้ย!!” แคร้ง!!! เสียงกระจกที่ชั้น 3 ทันใดนั้นนายทหารเรือถึงได้เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งสองคนปล่อยมือจากราวก่อนที่จะถึงแล้วอาศัยแรงส่งนั้นส่งตัวเองมาที่ชั้น 3 นายทหารเรือคนนั้นรีบวิ่งลงไปที่ชั้นสามโดยทันที แคร้ง!! เสียงกระจกที่ชั้นสามดังขึ้นอีกครั้ง พอลงมาก็พบกระจากบบานที่อยู่ติดกับทะเลแตกอยู่ก็รีบลงไปดู
“เจ้าพวกนั้นกระโดดลงไปจากตรงนี้หรอเนี่ย” นายทหารเรือเอ่ยขึ้นพร้อมมองหาทั้งสองคนจากหน้าต่างนั้น แต่ก็ไม่พบ หรือว่า!!!!!
“เจ้าบ้า โดดจากตรงนี้ก็ตายซิฟะ!!!” ผั๊วะ!!!โครม!!! เสียงแอลเอาเก้าอีกฟาดเต็มแรงจากทางด้านหลัง จนเก้าอีกหักคามือเลยทีเดียว
ตอนแรกที่ฟังแอลบอกแผนการนี้ผมยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเลยว่าจะสำเร็จ และไอ่ความแม่นยำในการคำนวณตอนปล่อยมือจากราวนั่นอีกถ้าพลาดก็ตายเลยนะนั่น ฟลุ๊ค .งั้นหรอกเหรอ .
“เมื่อยืนเอ๋ออะไรอยู่ได้ รีบไปชั้นบนเร็วเข้า” แอลเอ่ยขึ้นเรียกผมจากภวังค์
เราทั้งสองคนต่างพากันจนขึ้นมาถึงดาดฟ้าได้สำเร็จจนได้ และพอมองออกไปที่ทะเล ..นั่น เรือของเราล่ะ!!!
“แอล ดูนั่นสิเรือของพวกเราล่ะ เราทำสำเร็จแล้ว” ผมพูดกับแอลด้วยความดีใจสุดขีด
“งั้นเธอก็รีบไปสิ ที่เรือเจ้าพัตเตอร์จะเตรียมถุงลมนิรภัยไว้รองรับอยู่แล้ว ถ้าเธอพยายามต้องทำได้แน่ กล้าๆหน่อยแล้วกัน ชั้นคงไม่มีแรงพอที่จะกระโดดไปถึงหรอก .ทิ้งชั้นไว้ที่นี่แหละ” แอลยืนบอกกับผมท่ามกลางสายลมที่พัดผ่าน ด้วยเพราะตรงนี้เป็นที่สูงจึงไม่มีอะไรมาบัดบังแสงอาทิตย์อีกแล้ว แผลที่ถูกยิงของแอลจึงชัดเจนขึ้นมา หรือที่จริง .เขาแทบจะยืนไม่ไหวแล้ว มีแค่เพียงรอยยิ้มที่เขาแสดงตอบกลับมาเท่านั้น
.
กลับมาที่ด้านของซีกเกอร์บนถนนเส้นหนึ่งในเมืองนอร์ธเกท ในขณะที่ซีกเกอร์นึกเรื่องราวทั้งหมดออกนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนโศกเศร้าทันที
“นายมานี่เพื่อแก้แค้นชั้นที่ทรยศนายสินะ เอริค ” ซีกเกอร์เอ่ยขึ้น
“ใช่ ชั้นต้องทนทุกข์ทรมานกับเหตุผลของตัวเองก็ยังคอยเชื่อว่านายจะกลับมา ชั้นเฝ้าฝึกฝนตัวเองทุกวันเพราะเอาแต่โทษตัวเองว่าเพราะอ่อนแอนายจึงทิ้งไป ชั้นเจ็บปวดกับสิ่งนั้นมามากพอแล้ว แต่ทันที่ที่รู้ข่าวนายว่ามาเป็นโจรสลัดชั้นก็อดไม่ได้ที่จะไล่ล่านาย”
“งั้นนายมาเพื่อจะฆ่าชั้นสินะ” ซีกเกอร์ลดดาบลง แสดงถึงไม่ต้องการที่จะสู้แล้ว
“ชั้นเป็นทหารเรือ ชั้นทำอะไรตามกฎหมายของบ้านเมือง ชั้นมาเพื่อจะบอกนายว่า ถึงเวลากลับมาเล่นเกมไล่จับตามสัญญาแล้วนะ” เอริคเองก็ลดดาบลงและยิ้มให้ซีกเกอร์
“กติกาง่ายมาก นายเป็นคนหนีชั้นจะไล่จับ เล่นกันเกมเดียว ถ้านายแพ้ได้นอนซังเตตลอดชาติแน่เพื่อนรัก”
“ได้สิ แต่คงอีกนานโขเลยล่ะ” ซีกเกอร์นึกถึงคำพูดในวันวานแล้วก็ยิ้มตอบกลับไป
“งั้นก็ไปซะสิ เกมจะเริ่มแล้วนะ” เอริคเอ่ยกับเขาอีกครั้ง
“ขอบใจนะ ที่ยังยกโทษให้ชั้นอยู่หน่ะ” ซีกเกอร์ยิ้มเจือนแล้วเอ่ยออกไป พร้อมเดินหันหลังให้ดาบอย่างเชื่อใจ
“ใครจะไปยกโทษให้แกกันฟะ แต่ ..แค่ดีใจสุดๆเลยล่ะที่ได้เจอนายอีกครั้ง ” ในท้ายประโยคเอริคเหมือนพูดพึมพำกลัวอีกฝ่ายจะได้ยิน แล้วเขาเองก็เดินจากไปเช่นกัน
กลับมาที่ยอดตึกอีกครั้ง
“พูด พูดอะไรอ่ะ แอล” ในที่สุดเนลก็เอ่ยประโยคทำลายความเงียบนั่นลง
“ชั้นกระโดดไม่ไหวแล้ว นายไปเถอะ” แอลพูดย้ำอีกครั้ง
“แต่แอล จะให้ชั้นทิ้งนายไว้นี่คนเดียวไม่ได้หรอก อุตส่าฝ่ามาด้วยกันจนถึงตอนนี้แล้วนะ”
“ชั้นรู้ตัวตั้งแต่ถูกยิงแล้วว่าชั้นหมดทางไปต่อแล้วล่ะ แต่ไม่ใช่กับนาย ”
“เรื่องนั้นใครสน มาด้วยกันก็กลับด้วยกันนะแอล”
“เจ้าโง่!! บอกแล้วยังไง ให้ใช้สมองคิดชั้นในตอนนี้ไปไม่พ้นขอบรั้วเมือด้วยซ้ำ!! ไปซะ เดี๋ยวชั้นจะถ่วงเวาไว้ให้ ”
“นายต่างหากที่โง่!!! คนสติดีที่ไหนจะทิ้งเพื่อนกันได้ลงคอ!!!!”
ผมแอลครับ ตั้งแต่เกิดมาผมถูกคนยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะมาตั้งแต่เด็กก็พึ่งจะมีครั้งนี้แหละที่โดนด่าว่าโง่ หนำซ้ำยังเป็นแค่เด็กตัวกะเปี๊ยก แต่ทำไมน้า มันช่างฟังดูอบอุ่นเสียเหลือเกิน . ท่าจะเพี้ยนนะเรา
“เห้ย!! ใครหน่ะ!! อ๊าคคค” อยู่ๆก็มีเสียงผู้ชายหลายคนร้องดังระงมขึ้นมา หรือจะเป็นพวกทหารเรือ!!
“นั่นแหละ .เจ้านั่นมันซื่อบื้อจะตาย อย่าไปเชื่อมันมากนะเจ้าเด็กใหม่” เสียงที่คุ้นเคยของกัปตันหญิงดังขั้นมาและไม่นานเธอก็ปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าพวกเรา
“กัปตัน..”
“อาเจ้ซิลฟี่!!” เนลร้องด้วยความดีใจ
“ชอบทำตัวเป็นพระเอกอยู่เรื่อยนะ ทั้งๆตัวเองก็เหมือนพวกขี้ยาแท้ๆ” เจ้ซิลฟี่เดินมาตบไหล่แอล
“แหม ขอโทษนะครับที่เหมือนพระเอกขี้ยาหน่ะ = =” แหมปากคอเราะร้ายจริงนะเจ้ แอลคิดในใจ
“เอาหล่ะ รีบไปกันเถอะ ฮึ๊บ!!” ว่าแล้วเจ้ซิลฟี่ก็แบบแอลขึ้นไหล่หยั่งกะแบกนุ่น = = น่ากลัวจริงๆ
“เจ้ปล่อยผมนะ ผมไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ” แอลโวยวาย
“งั้นจะให้ทำไงพ่อคนเจ็บ” ซิลฟี่ถามเขา
“ปล่อยผมลงก่อนครับ” แอลตอบกลับไป
“อ๋อ อย่างนี่สิ..นะ!!” เฮ้ย!!!อยู่ๆเจ้แกก็ขว้างแอลลอยไปในอากาศเฉยเลย
“เจ้ ปล่อยไม่ใช่ขว้างงงงงงงงงงงงT[]T!!” เสียงแอลโหยหวนยาวนานจางไปในความลึก
“งั้นเราก็ตามไปกันเถอะ” ก่อนที่ผมจะได้ตอบเจ้ซิลฟี่ก็หิ้วผมแล้วก็กระโดดลงไป
เหมือนเรื่องราวในนิยายเลย จู่ๆผมก็ได้มาเป็นโจรสลัดจากคำชวนของคนที่พึ่งเคยเจอหน้า วิ่งหนีหัวซุกหัวซุนซะทั่วเมือง ได้พบเจอคนสุดยอดมากมายทั้งเก่งและแปลกๆเต็มไปหมด ไหนจะเหินเวหาอย่างบ้าบิ่นนี่อีก มีแต่เรื่องน่าสนุกทั้งนั้นเลยนะ โจรสลัดเนี่ย ฮิฮิ .
หลังจากนั้น แอลก็ถูกนำไปเข้าห้องพยาบาลด้วยสีหน้าไม่เต็มใจนัก(ทำไมก็ไม่รู้สิ) หลังจากนั้นไม่นาน ไนท์คุงกับซีกเกอร์ก็ตามมาสมทบจนครบ ที่อลังการงานสร้างคือเหล่าบรรดาเรือของพวกทหารเรือที่ตามนั้นต้องเจอกับทุ่นระเบิดม่านไฟของพัตเตอร์คุงเผาใบเรือจนไม่เหลือซากเลยนี่สิ มองไปก็สวยอีกแบบนะเนี่ย เอ๊ะ! ไม่สิมันออกจะค่อนข้างอันตรายนะนั่น ดูเหมือนว่าการเดินทางครั้งแรกของผมจะเริ่มต้นซักที ..
.
“เฮ้ๆ เจ้าหนูแอบหลับรึไง..” ในที่สุดเสียงแอลก็ปลุกผมจากภวังค์ นำตัวผมกลับมาที่เรือในวันที่ออกจากฝั่งหนึ่งวันให้หลังอีกครั้ง
“อ๊ะ!! โทษทีครับๆ พอดีเมื่อเช้าคุณซีกเกอร์เล่นผมจะอ่วมเลย เลยเพลียๆหน่ะครับ” ผมพูดพร้อมทำหน้าตาน่าสงสารใส่แอล
“ไม่ได้ผลหรอกเฟ้ย!! นายต้องเรียนชดใช้กับที่หายไปด้วย ไม่สิ วินัยไม่ดีอย่างนี้ลงโทษให้อ่านหนังสือเพิ่มอีกซักชั่วโมงสองชั่วโมงดีมั๊ยน้า ” ชั่วร้ายที่สุด!! T[]T!! ผมตะโกนอยู่ในใจ
“เอ่อ จะว่าไปเราก็โชคดีมากนะครับที่ตึกแรกที่ขึ้นไปมีสายไฟเชื่อมตึกอยู่หน่ะครับ” ผมพยายามเบี่ยงเบนประเด็นออกไป
“โชค? นายพูดถึงอะไร ทุกอย่างชั้นสำรวจมาหมดแล้วล่ะ แผนการหนีที่ใช้ก็อยู่ในการคำนวณทั้งหมดนั่นแหละ” แอลพูดอย่างเนิบๆเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา
“จริงดิ โม้แล้วมั้ง” ผมไม่อยากจะเชื่อนัก
“ไม่ได้ขอให้เชื่อซะหน่อย” ตอบกลับมาเหมือนไม่แคร์ซะด้วย
“แล้วตอนนั้นถามหาตึกจากผมทำไมล่ะ” ผมซักไซ้อีกครั้ง
“ก็แค่ยืนยัน นายคิดว่าชั้นจะจำหนทางหนีทั้ง44เส้นทางแบบเปะๆหมดรึไง มันเสียเวลานึกหน่ะ”
ใช่ไหมล่ะครับ มันเชื่อได้ยากจริงๆนะเนี่ย คุณผู้อ่านก็คิดเหมือนผมใช่ไหมครับ สรุปว่าหมอนี่มันเก่งจริงๆใช่ไหมเนี่ย ยังไงก็เถอะตอนนี้คงถึงเวลาที่ผมต้องไปเรียน(เป็นเพื่อนเล่น)กับเจ้ซิลฟี่ที่ท้ายเรือต่อแล้วครับ และทันทีที่ผมกำลังก้าวเท้าออกจากห้องของแอล(?)นั้น ก็มีเสียงสุดสยองลอยตามหลังมา
“แล้วก็อย่าลืม อ่านหนังสือชดเชยเวลาที่หลับไปทั้งหมด1ชั่วโมงกับอีก 21นาทีนะ บวกเวลาทำโทษอีกชั่วโมงครึ่ง พร้อมทดเวลาที่นายเอาแต่ถามเบี่ยงเบนประเด็นจากชั้นเมื่อกี้อีก 3นาทีครึ่งด้วยนะ ”
.....
..
.
O[]o!! ไอ้ปีศาจจจจจจจจจจจ T[]T!!
และแล้วการผจญภัยของผมมันก็พึ่งจะเริ่มขึ้นเท่านั้น
ความคิดเห็น