คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 3 ดอกไม้ไฟเปิดตัว และ เทศกาลแหกด่านนรก
ทะเลทางเหนือไม่ไกลจากนอร์ธเกท
“โอ่ยๆ ออกแรงถูกให้มากกว่านี้หน่อย นี่ก็ถือเป็นการฝึกนะ” เสียงซีคเกอร์กวดขันผมแต่เช้า ซึ่งกำลังถูพื้นเรืออยู่
“ครับ!”
“เสียงค่อยจริง ไม่ไหวแล้วรึไง นายเองไม่ใช่เหรอที่บอกว่าอยากจะเก่งกว่านี้!!”
“ครับ!!!”
วันนี้เป็นวันที่2แล้วหล่ะครับที่ผมมาเป็นลูกเรือของThe Killer ซึ่งแน่นอนผมเองก็มีหน้าที่ของผม ที่โดยตั้งแต่ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นผมต้องตื่นมาทำความสะอาดเรือ พอพระอาทิตย์เริ่มขึ้นคุณซีคเกอร์ก็จะตื่นมาฝึกฝนร่างกายตอนเช้าซึ่งผมเองก็ขอให้เขาสอนผมด้วย เพราะผมอย่างเก่งแบบเค้าบ้าง ส่วนตอนบ่ายเจ้ซิลฟี่ก็จะไล่ให้ผมไปเรียนหนังสือกับแอลคุงซึ่งผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เพราะหนังสือของเขามีแต่เรื่องที่เข้าใจยากๆทั้งนั้น และแอลคุงเองถ้าไม่มัวมาแกล้งผมก็นั่งนิ่งเป็นท่อนไม้ในท่าใช้ความคิดของเขาทั้งวัน แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ชื่นชมในตัวเขาโดยเฉพาะเมื่อเราได้ผ่านเรื่องราวแบบเมื่อวานมา
ย้อนไป 1 วันก่อน ณ สถานีท่าเรือนอร์ธเกท
“นี่ลุงไม่เบื่อบ้างเร๊อะ!! ที่ต้องมาฟังชั้นบ่นอยู่เนี่ย รู้ว่าเบื่อยอมเถอะให้เราผ่านไปทีเถอะ” เสียงอันเต็มไปด้วยความหงุดหงิดพร้อมหน้างิ้วคิ้วขมวดของเจ้ซิลฟี่ล้วนบ่งบอกถึงความรำคาญใจ
“อย่างที่เคยเรียนนะครับ ทางเราไม่สามารถบริการให้ได้จริง ถ้าเกิดเรื่องนี้โดนจับได้ขึ้นมาทางเราจะแย่เอานะครับ” และก็เหมือนหนังม้วนเดิมนายสถานียังคงได้แต่ปฏิเสธหัวชนฝา
ณ อีกมุมหนึ่งของสถานีท่าเรือนอร์ธเกท
ผมเนลครับวันนี้ผมได้กลับมาที่สถานีท่าเรือนอร์ธเกทอีกครั้งและก็มาแอบอยู่ใกล้หน้าต่างตรงมุมตึกด้านนอกครับ ทำไมผมต้องแอบเหรอครับ? ก็เพราะว่าเจ้ซิลฟี่ไม่ยอมให้ผมตามมาหน่ะสิ บอกให้อยู่ที่เรือน่าเบื่อออก ผมอยากรู้นี่ว่าโจรสลัดเขาทำอะไรบ้างและยิ่งเห็นว่าทั้งซีคเกอร์คุงและแอลคุงมาด้วยผมยิ่งอยากตามมาดูครับ
..
“โอ้ย!!!! ไม่ไหวจะเคลียร์ละนะ Ò[]ó!! จะต้องทำยังไงถึงจะได้ไปเนี่ยบอกมาซิ” เจ้ซิลฟี่แทบจะวีนแตก
“เอ่อ มันไม่ได้จริงๆครับ โปรดเข้าใจเราด้วย” นายสถานีก็เหงื่อแตกพลั่กปฏิเสธกลับไปอีก
“นายต่างหากที่ต้องเข้าใจชั้น มันจำเป็นนะเนี่ยÒ[]ó!!”
“ทางกระผมก็จำเป็นนะครับ แหะๆ”
“เปิดให้ชั้นประตูไหนก็ได้มาตั้ง7ประตูใช่มั๊ย เปิดแค่ประตูเดียวแปบเดียว ห้านาทีไม่เกินพวกชั้นก็ไปแล้ว จะได้ไม่ต้องมาเหนื่อยด้วยกันทั้งคู่แบบนี้ไง” เจ้ซิลฟี่พยายามข่มอารมณ์ขบฟันพูดอย่างที่สุด
“
.ไม่ได้ครับ”
แค่นั้นแหละ เจ้ซิลฟี่ก็ปรี๊ดแตก มาทันที
“อีตาลุงหน้าปลาจวด ขี้งกเอ้ย ชั้นจะตื๊บแก!!!” เจ้ซิลฟี่ก็โดนตัวลอยจะข้ามไปเตะนายสถานีดีที่นายซีคเกอร์คว้าคอเสื้อไว้ทัน
“เห้!! เลิกทำเป็นเด็กได้แล้วน่า” ซีคเกอร์พูดพร้อมเอามือกุมหน้าผาก ส่วนแอลคุงนั้นไม่ทำอะไรนอกจะยืนหัวเราะชอบใจอย่างเดียว ปล่อยเสียงโวยวายเอ็ดตะโรดังอยู่อย่างนั้น
“เอ่อ เหมือนมาดูเด็กทะเลาะกันเลยแฮะ = =” ไม่วายแม้แต่เนลเองยังกุมขมับเหนื่อยใจ แต่ถึงอย่างนั้นเด็กน้อยก็ยังคงแอบซุ่มดูพวกซิลฟี่ต่อไปโดยไม่ได้ล่วงรู้เลยว่ามีอะไรที่คอยอยู่หลังจากนี้
และในทันใดนั้นก็มีนายสถานีอีกคนหนึ่งวิ่งเข้ามาที่โต๊ะของนายสถานีที่กำลังคุยกับซิลฟี่ พร้อมส่งข้อความบางอย่างให้ในลักษณะกระซิบบอก และในตอนนั้นเองสีหน้าของนายสถานีคนแรกก็เปลี่ยนไป
“นี่ลุง ตกลงว่าให้ชั้นไปได้ใช่มั๊ย” เจ้ซิลฟี่ยังไม่ลดละความพยายาม แต่คราวนี้เป็นตาลุงนายสถานีที่ทำหน้านิ่งเคร่งขรึมแล้วตอบมาว่า
“ต้องขออภัยด้วยนะครับ ทางเราไม่มีนโยบายให้บริการโจรสลัดซึ่งถือเป็นภัยคุกคายต่อปวงประชาชนครับ” ซะงั้น เหมือนหนังคนละม้วนละตอนนี้และออกแล้วหักดิบเสียด้วย ทั้งสีหน้าอันหวาดวิตกของนายสถานีก็เปลี่ยนเป็นนิ่งสงบ ทั้งยังใช้น้ำเสียงหยิ่งผยองแปลกๆ
“เอ๊ะ!! ลุงนี่ สงสัยไข้จะขึ้น เพี้ยนไปแล้วหรอ”
“เปล่าครับผมสบายดี
.สบายมากด้วย แต่ผมคงให้คุณผ่านไปไม่ได้หรอกครับ”
“โถ่เอ้ย!....ทำไมเข้าใจอะไรยากเนี่ย ถ้ากลัวเป็นปัญหานักก็บอกว่าโดนข่มขู่ให้ทำก็ได้นี่” นายสถานียิ้มกริ่มแปลกๆหลังจากได้ยินประโยคนี้
“นั่นสินะครับ”
ทันใดนั้น!!
“หยุด!!! อย่าขยับ นี่กองทัพเรือ จะยอมจำนนแต่โดยดี!!!”
อยู่ๆ นายทหารเรือนับสิบก็วิ่งเข้ามาล้อมทั้งสามคนอย่างรวดเร็ว สถานการณ์ตอนนี้เข้าขั้นวิกฤติขึ้นมาทันใด เนลเองก็ตกใจกับภาพที่เกิดขึ้น ยังคงแอบตัวสั่นอยู่ที่มุมอาคาร
“เห๋
.ทหารเรือมาได้ไงนะ” สิ่งที่น่าแปลกกว่าคืออาการอันนิ่งเฉยของกัปตันสาว ที่ดูไม่ได้ตื่นกลัวกับสถานการณ์เลยแต่อย่างใด
“ต้องแสดงความเสียใจด้วยนะครับ พวกคุณเป็นภัยคุกคามของที่นี่ถ้าผมจะเรียกทหารเรือมาก็คงไม่ผิดอะไรสินะครับ” นายสถานีพูดเสียงพร้อมทำหน้าชั่วร้ายมาทันที
“อื้ม
..นานแล้วนะเนี่ยที่ไม่ได้ถูกหักหลังจากคู่ค้าธุรกิจแบบนี้”
“จะพูดอะไรหรือครับ ทางเราไม่เคยทำธุรกิจที่ผิดกฎหมายแบบนั้นเลย
.ซัก
.ครั้ง
.เดียว”
“งั้นก็คงมาได้แค่นี้สินะ ดีชั้นก็เบื่อเต็มทนที่จะต้องมานั่งเถียงตาแก่เป็นวันๆ”
“ใช่แล้วหล่ะครับ คุณมาได้แค่นี้แหละ”
“เปล่าที่บอกแค่นี้หน่ะ
.หมายถึงการเจรจา แล้วก็นะ อ๊ะ!! นี่ชั้นให้” ว่าแล้วซิลฟี่ก็โยนถุงเงินที่จะเป็นค่าผ่านทางให้
“อะ..อะไรเนี่ย ค่าอะไร” ด้วยความงงงวยนายสถานีรับเงินมาแบบงงแตก แต่ทุกอย่างก็ถูกเฉลยในที่สุด
“เอ๋อ!....ค่าซ่อมประตูหน่ะ^^”
บรึ้ม!!!!!!! เพร้ง!!! เสียงกระจกของสถานีแตกกระจายจากแรงอัดอากาศหมาศาลที่เกือบจะพร้อมกันกับเสียงกัปนาทที่กระหึ่มดังดั่งเสียงฟ้าจะถล่ม เปลวไฟแดงฉานสาดขึ้นเต็มท้องฟ้า เหล่าทหารและผู้คนต่างตกใจหมอบลงด้วยความหวาดกลัว ความอลหม่านก็อุบัติขึ้นผู้คนต่างหวีดร้องแตกตื่น เหลือไว้เพียงรอยยิ้มอันหยิ่งผยองของสามโจรสลัดในความวุ่นวาย
.
.
..
..
เปลวไฟ?........................ คนวิ่ง?...................... เสียง
เสียงอะไรหน่ะ ภาพเบลอๆลอยอยู่ไปมาแต่ในหัวผมกลับนึกอะไรไม่ออก จากนั้นภาพต่างๆก็ค่อยๆชัดขึ้นมาและไม่นานผมก็รู้สึกตัว
“โอ้ย!! หัวชั้น นี่ชั้นอยู่ที่ไหนเนี่ย ไฟ? เสียงเอ๊ะอะโวยวาย?
.ใช่!!เมือกี้อยู่ดีๆก็เกิดระเบิดขึ้นนี่นา” เนลกำลังสลึมสลือจากการฟื้นขึ้นหลังหมดสติเพราะศีรษะไปกระแทกกับกำแพง
เคร้ง!!!! เสียงโลหะปะทะกันดังต่อเนื่องมาตลอดจากด้านในอาการผมจึงพยายามลุกขึ้นเกาะขอบหน้าต่างเพื่อดูเหตุการณ์ด้านใน
.
“นี่มันเว่อร์ไปแล้วนะ ผมบอกเจ้านั่นแล้วนะว่าไม่ต้องแรงมากก็ได้ นี่คงจะพังไปหมดทั้งแถบแล้วมั้ง ดูสิคนแตกตื่นกันใหญ่เลย” แอลพึมพำบ่นท่ามกลางสนามรบต่อสู้ระหว่างโจรสลัดเดอะคิลเลอร์กับเหล่าทหารเรือ
“เห้ๆ มาช่วยกันก็ดีนะ มันมากันแบบไม่ได้พักหายใจเลย” ซีคเกอร์หันมาบ่นเพื่อร่วมทีม
“จะกลัวไปทำไม พวกนายไม่เป็นไรหรอกทหารเรือระดับนี้ไม่คระนามือหรอกจริงมั๊ย อีกอย่างเจ้ซิลฟี่ก็ดูสนุกมากด้วย อยากกลับก็ชวนเองดิ”
พอหันไปก็จะเจอกัปตันสาวร่างบางกับอาวุธดาบRapierคู่(ดาบเรียวยาวที่มีการ์ดกันมือ) กำลังร่ายรำอยู่ท่ามกลางเหล่ากองทหารที่เข้ามารุมล้อม และรอยยิ้มที่กำลังปรากฏอยู่บนหน้าบอกได้อย่างดีถึงความสนุกสนานของเธอ และที่สำคัญคือเธอใช้วิธีการฟาดด้านไร้คมสู้เอา ซึ่งไม่ง่ายเลยที่จะทำแบบนั้นกับทุกคนที่มุ่งเข้ามาหมายเอาชีวิตเธอ
“เอ่อ
เจ้ซิลฟี่ครับ กลับกันเถอะ เดี๋ยวพวกทหารเรือจะแห่กันมามากกว่านี้นะครับ” ซีคเกอร์ตะโกนไป
“
.” และก็ไม่มีสัญญาณตอบรับกลับมา
“เอ่เจ้ซิลฟี่ครับ กลับกันเถอะ”
“
..”
“นี่!! ไม่ได้เรื่องเลยนะนายหน่ะ ชั้นเอง” แอลคุงทนไม่ไหวต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเพื่อน
“เจ้ซิลฟี่คราบบบบ ถ้าช้าระวังจะไปไม่ทันเทศกาลช็อกโกแลตนะคราบบบ”
ทันใดนั้นกัปตันสาวก็ผ่าเหล่าทหารวิ่งออกไปนอกสถานีทันทีพร้อมตะโกนกลับมา
“เร็วสิพวกนาย ชักช้าอะไรกันอยู่!!!”
“จะเร็วไปแล้วเฟ้ย Ò[]ó!!! ” ซีคเกอร์ถึงกับช๊อคต่อความใจง่ายของกัปตันที่มีต่อขนม
.
“เห๋
.สุดยอด แต่ละคนเก่งๆทั้งนั้นเลย
.แต่แอลคุงไม่เห็นทำอะไรเลย = =” เนลทึ่งในความสามารถของเหล่าเดอะคิลเลอร์(2คน)
“เอาหล่ะ เราเองก็ได้เวลากลับเรือกันแล้วหล่ะ
.” แล้วอยู่ๆตัวผมก็ลอยขึ้นจากพื้นเพราะเสียงหนึ่งลอยมา
“ไอ่หนู ลูกเต้าเหล่าใคร ไม่รู้หรอว่าตอนนี้มันอันตรายกลับบ้านไปซะ มันเกะกะทหารจะทำงาน”
O[]o!! จ๊ากกกก!!!! ทหารเรือโดน
.โดนจับแล้ว T[]T!! สิ้นหวัง!! สิ้นหวังจริงๆคนอย่างเรานี่มัน นี่มัน
.เอ๊ะ
นั่นมัน พวกเจ้ซิลฟี่นี่
ทั้ง4สบตากัน ดูเหมือนพวกทหารเรือยังจะไม่เห็นทั้ง3คน เพราะกำลังหันหลังให้
เนลทำท่ายืนมือไปเหมือนจะพูดว่า ‘ช่วยผมด้วยTT^TT’
แล้วซิลฟี่ก็ทำท่าสายหัวปัดมือเหมือนจะพูดว่า ‘ยังช่วยไม่ได้’
จากนั้นแอลคุงก็ทำรูปมือเดินๆแล้วชี้ไปทางเรือเสร็จแล้วก็ทำมือท่าOKเพื่อที่จะบอกว่า ‘เนียนๆทำเป็นประชาชนแล้วเจอกันที่เรือ OK?’
จากนั้นเด็กหนุ่มก็พยักหน้าขยิบตาพร้อมส่งสัญญาณชูนิ้วโป้งให้ เหมือนจะบอกว่าเข้าใจแล้ว แล้วก็
..
. . . .
“เจ้ซิลฟี่ ซีคเกอร์คุง แอลคุง ช่วยด้วย!!!!”
“เอ็งไม่ได้เข้าใจเลยนี่หว่า Ò[]ó!!!!!” แอลถึงขั้นลืมตัวปาก้อนหินไปติดหน้าผากเนล
และในตอนนั้นนายทหารเรือก็หันมาพอดี
“พวกนาย
..พวกนายวันกลุ่มโจรสลัดThe Killer ตามรายงานพวกแกล่มสลายไปเมื่อ5ปีก่อนแล้วหนี่ที่สงครามทางตอนใต้กลับกลุ่มโจรสลัดเรดเทียร์ แล้วทำไมพวกแกมาอยู่ที่นี่!!!”
“ซวยบรมเลย ดันมาเจอทหารหน่วยข่าวกรองอีก = =” แอลพึมพำบ่นอยู่คนเดียว
“เธอกัปตันเรือเดอะคิลเลอร์เลดี้ซาตาน (Lady Satan) ซิลฟาเรีย จี เกล อดีตค่าหัว120ล้านโกล และแกฉายานัยน์ตาปีศาจ(Evil eye)ซีคเกอร์ วอล์คแมน อดีตค่าหัว81ล้านโกล ส่วนนาย
.. ”
“
..”
“นาย
..”
“
.”
“นาย
คือ
.”
“
..”
“
..”
“ลืมก็บอกมาเถอะโว้ย Ò[]ó!!!” แอลวีนแตก
“แหะๆ” นายทหารเรือคนนั้นเกาหัวแบบเขินๆ
“ไม่ต้องมาทำเขินกลบเกลื่อนเลย Ò[]ó!!!!”
และในตอนนั้นเอง วิทยุสื่อสารของนายทหารเรือคนนั้นก็ดังขึ้น
“แซ่ๆ
จากหน่วยD ขอแจ้งรายงานสถานการณ์
แซ่ๆ พบตัวคนร้ายที่ก่อเหตุระเบิดแล้ว แซ่ๆ ตอนนี้คนร้ายยังอยู่ที่เกทที่4และดูเหมือนจะมีการเตรียมการบางอย่างต่อไป แซ่ๆ แต่ที่น่าตกใจคือผู้ก่อเหตุเป็นแค่เด็กเท่านั้น ทราบรับเปลี่ยน”
เสียงวิทยุสื่อสารนั่นดังพอที่จะได้ยินทั้งหมดทุกคน
“นั่นโดนเจอตัวจนได้นะเจ้าพัตเตอร์” ซีคเกอร์ในที่สุดก็ออกปากบ่นบ้าง
จากนั้นนายทหารเรือก็หยิบวิทยุสื่อสารของตัวเองขึ้นมาและ
“จากหน่วยB พบกลุ่มโจรสลัดที่น่าจะป็นตัวก่อเหตุที่สถานีท่าเรือ โปรดนำกำลังเสริมมาด่วน ที่นี่มีทั้งโจรสลัดสาวซิลฟาเรียและนัยน์ตาปีศาจซีคเกอร์
พร้อมลูกเรืออีก2คน”
“สรุปยังไงก็จำไม่ได้เร๊อะ Ò[]ó!!” แอลไม่วายโกรธปนน้อยใจ หลังจากนั้นก็มีมือหนึ่งมาวางบนไหล่ของแอล พอหันไปก็เป็นเจ้ซิลฟี่นั้นเองเธอถอนหายใจพร้อมเอ่ยขึ้นว่า
“จืดจางจนน่าสงสารเลยนะแอลคุง เราจะจดจำเธอตลอดไป”
“อย่าทำเหมือนผมจะไม่มีบทอีกเลยสิครับ Ò[]ó!!!!!”
“โถ่
เลิกเล่นได้แล้วรีบชิงตัวเนลมาเถอะแล้วรีบๆกลับเรือสังหรณ์ใจไม่ดีเลย” ซีคเกอร์พูดแทรกขึ้นมาตัดบทไปเฉย
“เอ่อนั่นสินะ
..” ว่าแล้วเจ้ซิลฟาเรียก็ปรี่เข้าประชิดในพริบตานั้น
ตุ๊บ!!!! ฮุกขวาเต็มๆ นายทหารเรือยังไม่ได้ทนได้เตรียมใจเสียด้วยซ้ำ
“ทหารเรือดี๋ยวนี้ไม่ค่อยจะเก่งเลยเนอะ คิดถึงสมัยเจอกับเจ้าฉลามขาวนั่นจริงๆ ถ้าเป็นหมอนั่นคงมันแน่”
“งานงอกสิครับ ถ้าเจอกันจริงๆอ่ะ” แอลขัดมาทันที แต่ในวินาทีนั้นเองเหล่าทหารเรือก็เข้าล้อมทั้งสี่ไว้
“เห้ย
.แปลกจริงทำไมวันนี้ทหารเรือดูแข็งขันกันจังเนี่ย
.รีบๆฝ่าๆบอกไปเถอะ แอลฝากเนลด้วยเดี๋ยวชั้นจะกรุยเปิดทางให้เอง เจ้ซิลฟี่ช่วยต้านทางนี้ทีนะครับ” ซีคเกอร์เบื่อกับการต้องเข้าปะทะเต็มทนเลยออกเสนอความคิดเห็น
“ได้เลยจ๊ะ ปล่อยตรงนี้ให้เป็นหน้าที่ชั้นเอง” ว่าแล้วซิลฟี่ก็ชักดาบคู่คู่กายออกมาพร้อมในท่าเตรียมรับมือ แล้วทั้งสามคนที่เหลือก็วิ่งฝ่าออกไป แน่นอนเหล่าทหารเรือไม่ยอมแน่พวกมันต่างปรี่เข้าจะหมายโจมตีทั้งสามจากด้านหลังแต่
อ๊าคคค!!! เสียงกรีดร้องของนายทหารก็ดังขึ้นก่อนจะล้มลงไป
“อย่าเสียมารยาทสิจ๊ะ มาเมินสุภาพสตรีแบบนี้ใช้ไม่ได้ที่สุด” สุภาพสตรีซาตานพูดพร้อมรอยยิ้มอย่างมีเลิศนัย
อีกด้านหนึ่งไม่ใกล้จากจุดแรกเท่าไหร่นัก
“นี่ เดี๋ยวเราต้องมาเคลียร์กันก่อนนะนายมาอยู่นี่ได้ยังไงเนล พวกเราบอกให้นายรออยู่ที่เรือไม่ใช่รึไง” แอลถามเนลในขณะที่ทั้งสามกำลังวิ่งลัดเลาะแนวบ้านเรือไปยังเรือของพวกเขา ซึ่งก็มีทหารเรือเจอเข้าและมีการปะทะอยู่เรื่อยๆ(มีซีคเกอร์ที่สูเป็นคนเดียวด้วย)
“ก็ผมอยากรู้นี่ครับ อยู่ดีๆก็กีดกันกันโดยไม่บอกไม่กล่าวเหตุผลอะไรเลย” เนลตอบกลับมาซ้ำยังดูท่าทางหอบเสียแล้วด้วย
“โถ่ บอกอะไรก็ทำๆไปเถอะ ดูสิวุ่นวายใหญ่แล้ว”
“นี่พวกนายทั้งสองคนเร่งความเร็วอีกนิดได้มั๊ย แล้วก็ตามชั้นมาติดเลยหล่ะ” ซีคเกอร์หลังจากเคลียร์พวกทหารเรือที่เข้ามาโจมตีเสร็จแล้วก็วิ่งแซงมาบอก
“วิ่งเร็วสุดยอดเลย” เนลอึ้งในความสามารถของซีคเกอร์
“หมอนั่นหน่ะ ถ้าเป็นเรื่องของการฝึกฝนร่างกายแล้ว ไม่แพ้ใครเลยหล่ะ” แอลตอบไป
“แล้วแอลคุงหล่ะ ทำอะไรได้บ้าง ยิงบีม?”
“ของแบบนั้นใครจะทำได้ฟระÒ[]ó!!” แอลพูดพร้อมตบกะโหลกเนลไปทีนึง
“แอลคุงนี่นอกจากแกล้งคนอื่นแล้ว ไม่เห็นทำอะไรเลยT[]T” เนลก็คงได้แต่คิดในใจ
“พวกนายเลิกเล่นกันได้แล้ว มีบางอย่างกำลังมา ชั้นสัมผัสดะ
.”
ตู้ม!!!!! เงาดำทะมึนหนึ่งลอยมาจากบนฟ้าพร้อมฟาดดาบซามูไรเล่มหนึ่งลงมาด้วยความแรงเกินจะจินตนาการ ฝุ่นตีคลุ้งไปทั่ว เสียงฝีเท้าค่อยๆเดินออกมาจากกลุ่มควันฝุ่น ค่อยๆเผยร่างเรียวบางของทหารหนุ่มผู้หนึ่ง ผมสีบรอนซ์ทองสั้นเสยไปด้านหลังหมด ใบหน้าเรียวหล่อไร้รอยตำหนิ สำหรับทหารเรือนั้นนั่นบ่งบอกว่าเขาแข็งแกร่งแค่ไหนที่ไม่เคยได้รับบาดแผลเลย
“พวกนาย ล่วงหน้าไปก่อนเลย
..หมอนี่ อันตรายโครต” ซีคเกอร์บอกกับแอลคุงซึ่งทางนั้นก็พยักหน้าแล้วก็คว้าแขนเนลวิ่งไปอีกทาง
ซีคเกอร์เตรียมตั้งท่ารับการโจมตีอย่างตั้งใจ เตรียมพร้อมสำหรับทุกวินาทีขณะจิตเพื่อป้องกันการจู่โจมให้เพื่อน
“สบายใจได้ ซีคเกอร์คุง ชั้นไม่ได้สนใจอะไรเพื่อนนายหรอก ที่ชั้นอยากเจอคือนายต่างหาก” นายทหารเรือปริศนาพูดขึ้น
“แหม ได้ยินแบบนี้ค่อยสบายใจหน่อย จะได้ลุยได้เต็มที่
..แต่รู้จักชั้นแบบนี้นายเป็นใครกันแน่”
“ฮ่าๆ ลืมกันซะแล้วนะ คุณเพื่อน!!!” คำพูดนั้นทำเอาซีคเกอร์ตกใจไปชั่วขณะละในตอนนั้นเอง แคร้ง!!! เสียงดาบเข้าปะทะกันอย่างรุนแรงก็ดังสนั่นขึ้นเป็ยสัญญาณเปิดฉากการต่อสู้อันดุเดือด
ถัดไปอีก5ช่วงตึก
“แฮกๆ ผมไม่ไหวแล้วแอลคุง พักหน่อยได้มั๊ย” เนลหน้าซีดเผือด หอบก่อนที่จะล้มลงไป
“เห้ยๆ มาหยุดตรงนี้ก็เสร็จกันพอดีสิ งั้นมานี่” แอลลากเนลไปแอบอยู่ที่ซอกระหว่างสองตึก
“ผมขอโทษครับ ที่เป็นตัวถ่วง แฮกๆ”
“หยุดพูดแล้วรีบๆพักรีบๆหายเหนื่อยจะดีกว่านะ ตอนนี้ทุกวินาทีมีค่านะ
“ครับ
..”
“ดีมาก เราจะผ่านมันไปด้วยกัน” แอลพูดพร้อมลูบหัวเนล
อีกด้านหนึ่ง ณ สถานีท่าเรือ
เหล่าทหารเรือล้วนพ่ายแพ้นอนเกลื่อนเต็มพื้น เหลือเพียงซิลฟี่เท่านั้นที่ยังคงยืนอยู่เป็นหลักฐานว่าใครชนะครั้งนี้เป็นของใคร
“โอ้
สุดยอดจริงๆสมกับที่เขาลือมาเลยนะ เลดี้ ซาตาน ซิลฟาเรีย พอดีเลยใครๆก็เรียกผมว่าสุภาพบุรุษซาตานเหมือนกัน” นายทหารร่างยักษ์คนหนึ่งออกมาพร้อมสนับมือเหล็ก จากเท่าที่ดูเป็นชายร่างบึกบึนสูงกว่า2เมตร ใส่หมวกทหารเรือหน้าตาดูเขร่งขรึมและเต็มได้วยบาดแผล ผมสีดำแต่กายไม่ค่อยเรียบร้อยในชุดของทหารเรือนั่น แลดูเหมือนพวกกุ้ยซะมากกว่า
“ขอโทษนะ พอดีซาตานหน่ะชั้นเคยเจอมาแล้ว และหล่อกว่านายเป็นกองเลย” ซิลฟี่ยิ้มตอบกลับไปอย่างไม่เกรงกลัว
“เอ๋
.ชักน่าสนุกสินะ หึหึ”
บรรยากาศกดดันประหลาดครอบคลุมพื้นที่อย่างหนาแน่น หญิงร่างเล็กกับชายร่างยักษ์กำลังจะปะทะกันเพื่อยืนยันว่าใครกันแน่ที่เป็นซาตาน!!!
อีกด้านหนึ่งที่ซอกตึกใกล้ท่าเรือ
“เนล เวลาไม่พอแล้วเราไปกันเถอะ” แอลพูดขึ้นพร้อมฉุดมือเนลขึ้น
“ครับ!” เนลตอบกลับพร้อมออกวิ่ง แต่ในทันใดนั้น ทั้งคู่ก็ต้องตกตะลึง เมื่ออยู่ๆทหารกว่า30นายก็มาล้อมไว้ในทันที
“อะ
อะไรกันเนี่ย
รู้ได้ยังไง” แอลเองก็ยอมรับว่าตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
และแทบจะในทันทีนั้น พลุนำทางสีแดงก็วิ่งยาวขึ้นไปบนฟ้า เป็นสัญญาณอย่างหนึ่งซึ่งนั่นทำให้แอลถึงกับเหงื่อตก
“แย่ซะแล้ว สัญญาณฉุกเฉินดังขึ้นซะแล้ว” แอลบ่นพึมพำกับตัวเอง
“หมายความว่าอะไรเหรอครับ” เนลกระซิบถาม
“เรือกำลังจะออกจากท่าเพราะต้านไม่ไหว นี่เป็นสัญญาณให้กลับเรือทันที แล้วนี่เราจะไปยังไงกัน
.” แอลพูดพร้อมก้มหน้ากุมขมับเลยทีเดียว
แล้วสุดท้ายพวกเขาจะผ่านวิกฤตินี้ยังไง เมื่อมาโดนจับกุมตัวเสียตรงนี้ คนธรรมดาสองคนที่ไม่ได้พิเศษอะไรจะผ่านมันไปได้ไหมแอลจะทำอย่างไร แล้วเพื่อนของซีคเกอร์เป็นใครกันแน่และศึกตัดสินชื่อซาตานหล่ะ ทั้งหมดจะเป็นอย่างไรนั้นโปรดติดตามในตอนต่อไป
ความคิดเห็น