ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Killer สุดป่วนก๊วนโจรสลัด

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 3 ดอกไม้ไฟเปิดตัว และ เทศกาลแหกด่านนรก

    • อัปเดตล่าสุด 15 เม.ย. 55


     Chapter 3 ดอกไม้ไฟเปิดตัว และ เทศกาลแหกด่านนรก

     

                ทะเลทางเหนือไม่ไกลจากนอร์ธเกท

    “โอ่ยๆ   ออกแรงถูกให้มากกว่านี้หน่อย  นี่ก็ถือเป็นการฝึกนะ”  เสียงซีคเกอร์กวดขันผมแต่เช้า   ซึ่งกำลังถูพื้นเรืออยู่

    “ครับ!

    “เสียงค่อยจริง   ไม่ไหวแล้วรึไง  นายเองไม่ใช่เหรอที่บอกว่าอยากจะเก่งกว่านี้!!

    “ครับ!!!

                วันนี้เป็นวันที่2แล้วหล่ะครับที่ผมมาเป็นลูกเรือของThe Killer ซึ่งแน่นอนผมเองก็มีหน้าที่ของผม  ที่โดยตั้งแต่ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นผมต้องตื่นมาทำความสะอาดเรือ  พอพระอาทิตย์เริ่มขึ้นคุณซีคเกอร์ก็จะตื่นมาฝึกฝนร่างกายตอนเช้าซึ่งผมเองก็ขอให้เขาสอนผมด้วย  เพราะผมอย่างเก่งแบบเค้าบ้าง  ส่วนตอนบ่ายเจ้ซิลฟี่ก็จะไล่ให้ผมไปเรียนหนังสือกับแอลคุงซึ่งผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่  เพราะหนังสือของเขามีแต่เรื่องที่เข้าใจยากๆทั้งนั้น  และแอลคุงเองถ้าไม่มัวมาแกล้งผมก็นั่งนิ่งเป็นท่อนไม้ในท่าใช้ความคิดของเขาทั้งวัน   แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ชื่นชมในตัวเขาโดยเฉพาะเมื่อเราได้ผ่านเรื่องราวแบบเมื่อวานมา

                ย้อนไป 1 วันก่อน  ณ  สถานีท่าเรือนอร์ธเกท

    “นี่ลุงไม่เบื่อบ้างเร๊อะ!!  ที่ต้องมาฟังชั้นบ่นอยู่เนี่ย  รู้ว่าเบื่อยอมเถอะให้เราผ่านไปทีเถอะ”  เสียงอันเต็มไปด้วยความหงุดหงิดพร้อมหน้างิ้วคิ้วขมวดของเจ้ซิลฟี่ล้วนบ่งบอกถึงความรำคาญใจ

    “อย่างที่เคยเรียนนะครับ  ทางเราไม่สามารถบริการให้ได้จริง   ถ้าเกิดเรื่องนี้โดนจับได้ขึ้นมาทางเราจะแย่เอานะครับ”  และก็เหมือนหนังม้วนเดิมนายสถานียังคงได้แต่ปฏิเสธหัวชนฝา

                ณ  อีกมุมหนึ่งของสถานีท่าเรือนอร์ธเกท

                ผมเนลครับวันนี้ผมได้กลับมาที่สถานีท่าเรือนอร์ธเกทอีกครั้งและก็มาแอบอยู่ใกล้หน้าต่างตรงมุมตึกด้านนอกครับ   ทำไมผมต้องแอบเหรอครับ?  ก็เพราะว่าเจ้ซิลฟี่ไม่ยอมให้ผมตามมาหน่ะสิ  บอกให้อยู่ที่เรือน่าเบื่อออก   ผมอยากรู้นี่ว่าโจรสลัดเขาทำอะไรบ้างและยิ่งเห็นว่าทั้งซีคเกอร์คุงและแอลคุงมาด้วยผมยิ่งอยากตามมาดูครับ

    ……………………………………………………..

    “โอ้ย!!!!   ไม่ไหวจะเคลียร์ละนะ Ò[]ó!!  จะต้องทำยังไงถึงจะได้ไปเนี่ยบอกมาซิ”  เจ้ซิลฟี่แทบจะวีนแตก

    “เอ่อ  มันไม่ได้จริงๆครับ   โปรดเข้าใจเราด้วย”  นายสถานีก็เหงื่อแตกพลั่กปฏิเสธกลับไปอีก

    “นายต่างหากที่ต้องเข้าใจชั้น   มันจำเป็นนะเนี่ยÒ[]ó!!

    “ทางกระผมก็จำเป็นนะครับ  แหะๆ”

    “เปิดให้ชั้นประตูไหนก็ได้มาตั้ง7ประตูใช่มั๊ย  เปิดแค่ประตูเดียวแปบเดียว  ห้านาทีไม่เกินพวกชั้นก็ไปแล้ว   จะได้ไม่ต้องมาเหนื่อยด้วยกันทั้งคู่แบบนี้ไง”  เจ้ซิลฟี่พยายามข่มอารมณ์ขบฟันพูดอย่างที่สุด

    …….ไม่ได้ครับ”

                แค่นั้นแหละ  เจ้ซิลฟี่ก็ปรี๊ดแตก  มาทันที

    “อีตาลุงหน้าปลาจวด  ขี้งกเอ้ย  ชั้นจะตื๊บแก!!!”  เจ้ซิลฟี่ก็โดนตัวลอยจะข้ามไปเตะนายสถานีดีที่นายซีคเกอร์คว้าคอเสื้อไว้ทัน

    “เห้!!  เลิกทำเป็นเด็กได้แล้วน่า” ซีคเกอร์พูดพร้อมเอามือกุมหน้าผาก  ส่วนแอลคุงนั้นไม่ทำอะไรนอกจะยืนหัวเราะชอบใจอย่างเดียว   ปล่อยเสียงโวยวายเอ็ดตะโรดังอยู่อย่างนั้น

      ………………………………………………………

    “เอ่อ   เหมือนมาดูเด็กทะเลาะกันเลยแฮะ  = =” ไม่วายแม้แต่เนลเองยังกุมขมับเหนื่อยใจ    แต่ถึงอย่างนั้นเด็กน้อยก็ยังคงแอบซุ่มดูพวกซิลฟี่ต่อไปโดยไม่ได้ล่วงรู้เลยว่ามีอะไรที่คอยอยู่หลังจากนี้

                และในทันใดนั้นก็มีนายสถานีอีกคนหนึ่งวิ่งเข้ามาที่โต๊ะของนายสถานีที่กำลังคุยกับซิลฟี่   พร้อมส่งข้อความบางอย่างให้ในลักษณะกระซิบบอก    และในตอนนั้นเองสีหน้าของนายสถานีคนแรกก็เปลี่ยนไป

    “นี่ลุง  ตกลงว่าให้ชั้นไปได้ใช่มั๊ย”  เจ้ซิลฟี่ยังไม่ลดละความพยายาม  แต่คราวนี้เป็นตาลุงนายสถานีที่ทำหน้านิ่งเคร่งขรึมแล้วตอบมาว่า

    “ต้องขออภัยด้วยนะครับ   ทางเราไม่มีนโยบายให้บริการโจรสลัดซึ่งถือเป็นภัยคุกคายต่อปวงประชาชนครับ”  ซะงั้น  เหมือนหนังคนละม้วนละตอนนี้และออกแล้วหักดิบเสียด้วย  ทั้งสีหน้าอันหวาดวิตกของนายสถานีก็เปลี่ยนเป็นนิ่งสงบ  ทั้งยังใช้น้ำเสียงหยิ่งผยองแปลกๆ 

    “เอ๊ะ!!  ลุงนี่  สงสัยไข้จะขึ้น  เพี้ยนไปแล้วหรอ”

    “เปล่าครับผมสบายดี….สบายมากด้วย   แต่ผมคงให้คุณผ่านไปไม่ได้หรอกครับ”

    “โถ่เอ้ย!....ทำไมเข้าใจอะไรยากเนี่ย  ถ้ากลัวเป็นปัญหานักก็บอกว่าโดนข่มขู่ให้ทำก็ได้นี่”  นายสถานียิ้มกริ่มแปลกๆหลังจากได้ยินประโยคนี้

    “นั่นสินะครับ”

                ทันใดนั้น!!

    “หยุด!!!  อย่าขยับ   นี่กองทัพเรือ  จะยอมจำนนแต่โดยดี!!!

                อยู่ๆ  นายทหารเรือนับสิบก็วิ่งเข้ามาล้อมทั้งสามคนอย่างรวดเร็ว   สถานการณ์ตอนนี้เข้าขั้นวิกฤติขึ้นมาทันใด   เนลเองก็ตกใจกับภาพที่เกิดขึ้น  ยังคงแอบตัวสั่นอยู่ที่มุมอาคาร

    “เห๋….ทหารเรือมาได้ไงนะ”  สิ่งที่น่าแปลกกว่าคืออาการอันนิ่งเฉยของกัปตันสาว  ที่ดูไม่ได้ตื่นกลัวกับสถานการณ์เลยแต่อย่างใด

    “ต้องแสดงความเสียใจด้วยนะครับ   พวกคุณเป็นภัยคุกคามของที่นี่ถ้าผมจะเรียกทหารเรือมาก็คงไม่ผิดอะไรสินะครับ”  นายสถานีพูดเสียงพร้อมทำหน้าชั่วร้ายมาทันที

    “อื้ม…..นานแล้วนะเนี่ยที่ไม่ได้ถูกหักหลังจากคู่ค้าธุรกิจแบบนี้”

    “จะพูดอะไรหรือครับ  ทางเราไม่เคยทำธุรกิจที่ผิดกฎหมายแบบนั้นเลย….ซัก….ครั้ง….เดียว”

    “งั้นก็คงมาได้แค่นี้สินะ   ดีชั้นก็เบื่อเต็มทนที่จะต้องมานั่งเถียงตาแก่เป็นวันๆ”

    “ใช่แล้วหล่ะครับ  คุณมาได้แค่นี้แหละ”

    “เปล่าที่บอกแค่นี้หน่ะ….หมายถึงการเจรจา    แล้วก็นะ  อ๊ะ!!  นี่ชั้นให้”  ว่าแล้วซิลฟี่ก็โยนถุงเงินที่จะเป็นค่าผ่านทางให้

    “อะ..อะไรเนี่ย  ค่าอะไร”  ด้วยความงงงวยนายสถานีรับเงินมาแบบงงแตก  แต่ทุกอย่างก็ถูกเฉลยในที่สุด

    “เอ๋อ!....ค่าซ่อมประตูหน่ะ^^

                บรึ้ม!!!!!!!    เพร้ง!!! เสียงกระจกของสถานีแตกกระจายจากแรงอัดอากาศหมาศาลที่เกือบจะพร้อมกันกับเสียงกัปนาทที่กระหึ่มดังดั่งเสียงฟ้าจะถล่ม เปลวไฟแดงฉานสาดขึ้นเต็มท้องฟ้า  เหล่าทหารและผู้คนต่างตกใจหมอบลงด้วยความหวาดกลัว  ความอลหม่านก็อุบัติขึ้นผู้คนต่างหวีดร้องแตกตื่น  เหลือไว้เพียงรอยยิ้มอันหยิ่งผยองของสามโจรสลัดในความวุ่นวาย

    ………………………………………………………….

    …………………………………………

    ……………………….

    …………..

    …..

              เปลวไฟ?........................  คนวิ่ง?......................  เสียง………เสียงอะไรหน่ะ  ภาพเบลอๆลอยอยู่ไปมาแต่ในหัวผมกลับนึกอะไรไม่ออก  จากนั้นภาพต่างๆก็ค่อยๆชัดขึ้นมาและไม่นานผมก็รู้สึกตัว

    “โอ้ย!!  หัวชั้น   นี่ชั้นอยู่ที่ไหนเนี่ย ไฟ?   เสียงเอ๊ะอะโวยวาย?….ใช่!!เมือกี้อยู่ดีๆก็เกิดระเบิดขึ้นนี่นา”  เนลกำลังสลึมสลือจากการฟื้นขึ้นหลังหมดสติเพราะศีรษะไปกระแทกกับกำแพง

                เคร้ง!!!!  เสียงโลหะปะทะกันดังต่อเนื่องมาตลอดจากด้านในอาการผมจึงพยายามลุกขึ้นเกาะขอบหน้าต่างเพื่อดูเหตุการณ์ด้านใน

    ……………………………………………………….

    “นี่มันเว่อร์ไปแล้วนะ  ผมบอกเจ้านั่นแล้วนะว่าไม่ต้องแรงมากก็ได้  นี่คงจะพังไปหมดทั้งแถบแล้วมั้ง  ดูสิคนแตกตื่นกันใหญ่เลย”  แอลพึมพำบ่นท่ามกลางสนามรบต่อสู้ระหว่างโจรสลัดเดอะคิลเลอร์กับเหล่าทหารเรือ

    “เห้ๆ   มาช่วยกันก็ดีนะ  มันมากันแบบไม่ได้พักหายใจเลย”  ซีคเกอร์หันมาบ่นเพื่อร่วมทีม

    “จะกลัวไปทำไม  พวกนายไม่เป็นไรหรอกทหารเรือระดับนี้ไม่คระนามือหรอกจริงมั๊ย  อีกอย่างเจ้ซิลฟี่ก็ดูสนุกมากด้วย   อยากกลับก็ชวนเองดิ”

                พอหันไปก็จะเจอกัปตันสาวร่างบางกับอาวุธดาบRapierคู่(ดาบเรียวยาวที่มีการ์ดกันมือ)   กำลังร่ายรำอยู่ท่ามกลางเหล่ากองทหารที่เข้ามารุมล้อม  และรอยยิ้มที่กำลังปรากฏอยู่บนหน้าบอกได้อย่างดีถึงความสนุกสนานของเธอ  และที่สำคัญคือเธอใช้วิธีการฟาดด้านไร้คมสู้เอา  ซึ่งไม่ง่ายเลยที่จะทำแบบนั้นกับทุกคนที่มุ่งเข้ามาหมายเอาชีวิตเธอ

    “เอ่อเจ้ซิลฟี่ครับ  กลับกันเถอะ  เดี๋ยวพวกทหารเรือจะแห่กันมามากกว่านี้นะครับ”  ซีคเกอร์ตะโกนไป

    ……………………………………. และก็ไม่มีสัญญาณตอบรับกลับมา

    “เอ่เจ้ซิลฟี่ครับ  กลับกันเถอะ”

    ………………………………..

    “นี่!!  ไม่ได้เรื่องเลยนะนายหน่ะ  ชั้นเอง”  แอลคุงทนไม่ไหวต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเพื่อน

    “เจ้ซิลฟี่คราบบบบ    ถ้าช้าระวังจะไปไม่ทันเทศกาลช็อกโกแลตนะคราบบบ” 

    ทันใดนั้นกัปตันสาวก็ผ่าเหล่าทหารวิ่งออกไปนอกสถานีทันทีพร้อมตะโกนกลับมา

    “เร็วสิพวกนาย   ชักช้าอะไรกันอยู่!!!

    “จะเร็วไปแล้วเฟ้ย Ò[]ó!!!   ซีคเกอร์ถึงกับช๊อคต่อความใจง่ายของกัปตันที่มีต่อขนม

    ………………………………………………….

    “เห๋….สุดยอด  แต่ละคนเก่งๆทั้งนั้นเลย…….แต่แอลคุงไม่เห็นทำอะไรเลย  = =”  เนลทึ่งในความสามารถของเหล่าเดอะคิลเลอร์(2คน)

    “เอาหล่ะ   เราเองก็ได้เวลากลับเรือกันแล้วหล่ะ….  แล้วอยู่ๆตัวผมก็ลอยขึ้นจากพื้นเพราะเสียงหนึ่งลอยมา

    “ไอ่หนู  ลูกเต้าเหล่าใคร  ไม่รู้หรอว่าตอนนี้มันอันตรายกลับบ้านไปซะ   มันเกะกะทหารจะทำงาน”   

    O[]o!! จ๊ากกกก!!!!  ทหารเรือโดน….โดนจับแล้ว  T[]T!!    สิ้นหวัง!!  สิ้นหวังจริงๆคนอย่างเรานี่มัน   นี่มัน  ….เอ๊ะนั่นมัน  พวกเจ้ซิลฟี่นี่ 

    ทั้ง4สบตากัน   ดูเหมือนพวกทหารเรือยังจะไม่เห็นทั้ง3คน   เพราะกำลังหันหลังให้

    เนลทำท่ายืนมือไปเหมือนจะพูดว่า ช่วยผมด้วยTT^TT’

    แล้วซิลฟี่ก็ทำท่าสายหัวปัดมือเหมือนจะพูดว่า ยังช่วยไม่ได้

    จากนั้นแอลคุงก็ทำรูปมือเดินๆแล้วชี้ไปทางเรือเสร็จแล้วก็ทำมือท่าOKเพื่อที่จะบอกว่า เนียนๆทำเป็นประชาชนแล้วเจอกันที่เรือ  OK?’            

    จากนั้นเด็กหนุ่มก็พยักหน้าขยิบตาพร้อมส่งสัญญาณชูนิ้วโป้งให้  เหมือนจะบอกว่าเข้าใจแล้ว  แล้วก็…..

    . . . .

    “เจ้ซิลฟี่  ซีคเกอร์คุง  แอลคุง  ช่วยด้วย!!!!” 

    “เอ็งไม่ได้เข้าใจเลยนี่หว่า Ò[]ó!!!!!  แอลถึงขั้นลืมตัวปาก้อนหินไปติดหน้าผากเนล

              และในตอนนั้นนายทหารเรือก็หันมาพอดี 

    “พวกนาย…..พวกนายวันกลุ่มโจรสลัดThe Killer   ตามรายงานพวกแกล่มสลายไปเมื่อ5ปีก่อนแล้วหนี่ที่สงครามทางตอนใต้กลับกลุ่มโจรสลัดเรดเทียร์   แล้วทำไมพวกแกมาอยู่ที่นี่!!!

    “ซวยบรมเลย  ดันมาเจอทหารหน่วยข่าวกรองอีก  = =”  แอลพึมพำบ่นอยู่คนเดียว

    “เธอกัปตันเรือเดอะคิลเลอร์เลดี้ซาตาน (Lady Satan)  ซิลฟาเรีย  จี  เกล  อดีตค่าหัว120ล้านโกล และแกฉายานัยน์ตาปีศาจ(Evil eye)ซีคเกอร์  วอล์คแมน อดีตค่าหัว81ล้านโกล  ส่วนนาย……..

    ………………..

    “นาย………..

    ……………….

    “นาย………คือ….

    ………………..

    ………………..

    “ลืมก็บอกมาเถอะโว้ย Ò[]ó!!!  แอลวีนแตก

    “แหะๆ”  นายทหารเรือคนนั้นเกาหัวแบบเขินๆ

    “ไม่ต้องมาทำเขินกลบเกลื่อนเลย Ò[]ó!!!!

                และในตอนนั้นเอง  วิทยุสื่อสารของนายทหารเรือคนนั้นก็ดังขึ้น

    “แซ่ๆจากหน่วยD  ขอแจ้งรายงานสถานการณ์แซ่ๆ  พบตัวคนร้ายที่ก่อเหตุระเบิดแล้ว   แซ่ๆ   ตอนนี้คนร้ายยังอยู่ที่เกทที่4และดูเหมือนจะมีการเตรียมการบางอย่างต่อไป   แซ่ๆ  แต่ที่น่าตกใจคือผู้ก่อเหตุเป็นแค่เด็กเท่านั้น  ทราบรับเปลี่ยน”

                เสียงวิทยุสื่อสารนั่นดังพอที่จะได้ยินทั้งหมดทุกคน

    “นั่นโดนเจอตัวจนได้นะเจ้าพัตเตอร์”  ซีคเกอร์ในที่สุดก็ออกปากบ่นบ้าง

                จากนั้นนายทหารเรือก็หยิบวิทยุสื่อสารของตัวเองขึ้นมาและ

    “จากหน่วยB  พบกลุ่มโจรสลัดที่น่าจะป็นตัวก่อเหตุที่สถานีท่าเรือ  โปรดนำกำลังเสริมมาด่วน  ที่นี่มีทั้งโจรสลัดสาวซิลฟาเรียและนัยน์ตาปีศาจซีคเกอร์………พร้อมลูกเรืออีก2คน”

    “สรุปยังไงก็จำไม่ได้เร๊อะ Ò[]ó!!”  แอลไม่วายโกรธปนน้อยใจ  หลังจากนั้นก็มีมือหนึ่งมาวางบนไหล่ของแอล  พอหันไปก็เป็นเจ้ซิลฟี่นั้นเองเธอถอนหายใจพร้อมเอ่ยขึ้นว่า

    “จืดจางจนน่าสงสารเลยนะแอลคุง   เราจะจดจำเธอตลอดไป”

    “อย่าทำเหมือนผมจะไม่มีบทอีกเลยสิครับ Ò[]ó!!!!!

    “โถ่เลิกเล่นได้แล้วรีบชิงตัวเนลมาเถอะแล้วรีบๆกลับเรือสังหรณ์ใจไม่ดีเลย”  ซีคเกอร์พูดแทรกขึ้นมาตัดบทไปเฉย

    “เอ่อนั่นสินะ…..”  ว่าแล้วเจ้ซิลฟาเรียก็ปรี่เข้าประชิดในพริบตานั้น

    ตุ๊บ!!!!  ฮุกขวาเต็มๆ  นายทหารเรือยังไม่ได้ทนได้เตรียมใจเสียด้วยซ้ำ

    “ทหารเรือดี๋ยวนี้ไม่ค่อยจะเก่งเลยเนอะ  คิดถึงสมัยเจอกับเจ้าฉลามขาวนั่นจริงๆ  ถ้าเป็นหมอนั่นคงมันแน่”

    “งานงอกสิครับ  ถ้าเจอกันจริงๆอ่ะ”  แอลขัดมาทันที  แต่ในวินาทีนั้นเองเหล่าทหารเรือก็เข้าล้อมทั้งสี่ไว้

    “เห้ย….แปลกจริงทำไมวันนี้ทหารเรือดูแข็งขันกันจังเนี่ย….รีบๆฝ่าๆบอกไปเถอะ  แอลฝากเนลด้วยเดี๋ยวชั้นจะกรุยเปิดทางให้เอง  เจ้ซิลฟี่ช่วยต้านทางนี้ทีนะครับ”  ซีคเกอร์เบื่อกับการต้องเข้าปะทะเต็มทนเลยออกเสนอความคิดเห็น

    “ได้เลยจ๊ะ  ปล่อยตรงนี้ให้เป็นหน้าที่ชั้นเอง”  ว่าแล้วซิลฟี่ก็ชักดาบคู่คู่กายออกมาพร้อมในท่าเตรียมรับมือ  แล้วทั้งสามคนที่เหลือก็วิ่งฝ่าออกไป    แน่นอนเหล่าทหารเรือไม่ยอมแน่พวกมันต่างปรี่เข้าจะหมายโจมตีทั้งสามจากด้านหลังแต่

    อ๊าคคค!!!  เสียงกรีดร้องของนายทหารก็ดังขึ้นก่อนจะล้มลงไป

    “อย่าเสียมารยาทสิจ๊ะ  มาเมินสุภาพสตรีแบบนี้ใช้ไม่ได้ที่สุด”  สุภาพสตรีซาตานพูดพร้อมรอยยิ้มอย่างมีเลิศนัย

                อีกด้านหนึ่งไม่ใกล้จากจุดแรกเท่าไหร่นัก

    “นี่  เดี๋ยวเราต้องมาเคลียร์กันก่อนนะนายมาอยู่นี่ได้ยังไงเนล พวกเราบอกให้นายรออยู่ที่เรือไม่ใช่รึไง”  แอลถามเนลในขณะที่ทั้งสามกำลังวิ่งลัดเลาะแนวบ้านเรือไปยังเรือของพวกเขา  ซึ่งก็มีทหารเรือเจอเข้าและมีการปะทะอยู่เรื่อยๆ(มีซีคเกอร์ที่สูเป็นคนเดียวด้วย)

    “ก็ผมอยากรู้นี่ครับ   อยู่ดีๆก็กีดกันกันโดยไม่บอกไม่กล่าวเหตุผลอะไรเลย”  เนลตอบกลับมาซ้ำยังดูท่าทางหอบเสียแล้วด้วย

    “โถ่   บอกอะไรก็ทำๆไปเถอะ   ดูสิวุ่นวายใหญ่แล้ว”

    “นี่พวกนายทั้งสองคนเร่งความเร็วอีกนิดได้มั๊ย   แล้วก็ตามชั้นมาติดเลยหล่ะ”  ซีคเกอร์หลังจากเคลียร์พวกทหารเรือที่เข้ามาโจมตีเสร็จแล้วก็วิ่งแซงมาบอก

    “วิ่งเร็วสุดยอดเลย”  เนลอึ้งในความสามารถของซีคเกอร์

    “หมอนั่นหน่ะ  ถ้าเป็นเรื่องของการฝึกฝนร่างกายแล้ว  ไม่แพ้ใครเลยหล่ะ”  แอลตอบไป

    “แล้วแอลคุงหล่ะ  ทำอะไรได้บ้าง  ยิงบีม?”

    “ของแบบนั้นใครจะทำได้ฟระÒ[]ó!!”  แอลพูดพร้อมตบกะโหลกเนลไปทีนึง

    “แอลคุงนี่นอกจากแกล้งคนอื่นแล้ว   ไม่เห็นทำอะไรเลยT[]T”  เนลก็คงได้แต่คิดในใจ

    “พวกนายเลิกเล่นกันได้แล้ว   มีบางอย่างกำลังมา  ชั้นสัมผัสดะ….

                ตู้ม!!!!!  เงาดำทะมึนหนึ่งลอยมาจากบนฟ้าพร้อมฟาดดาบซามูไรเล่มหนึ่งลงมาด้วยความแรงเกินจะจินตนาการ  ฝุ่นตีคลุ้งไปทั่ว  เสียงฝีเท้าค่อยๆเดินออกมาจากกลุ่มควันฝุ่น  ค่อยๆเผยร่างเรียวบางของทหารหนุ่มผู้หนึ่ง  ผมสีบรอนซ์ทองสั้นเสยไปด้านหลังหมด  ใบหน้าเรียวหล่อไร้รอยตำหนิ  สำหรับทหารเรือนั้นนั่นบ่งบอกว่าเขาแข็งแกร่งแค่ไหนที่ไม่เคยได้รับบาดแผลเลย

    “พวกนาย  ล่วงหน้าไปก่อนเลย…..หมอนี่   อันตรายโครต”  ซีคเกอร์บอกกับแอลคุงซึ่งทางนั้นก็พยักหน้าแล้วก็คว้าแขนเนลวิ่งไปอีกทาง

                ซีคเกอร์เตรียมตั้งท่ารับการโจมตีอย่างตั้งใจ  เตรียมพร้อมสำหรับทุกวินาทีขณะจิตเพื่อป้องกันการจู่โจมให้เพื่อน

    “สบายใจได้  ซีคเกอร์คุง  ชั้นไม่ได้สนใจอะไรเพื่อนนายหรอก   ที่ชั้นอยากเจอคือนายต่างหาก”  นายทหารเรือปริศนาพูดขึ้น

    “แหม   ได้ยินแบบนี้ค่อยสบายใจหน่อย   จะได้ลุยได้เต็มที่…..แต่รู้จักชั้นแบบนี้นายเป็นใครกันแน่”

    “ฮ่าๆ  ลืมกันซะแล้วนะ   คุณเพื่อน!!!”  คำพูดนั้นทำเอาซีคเกอร์ตกใจไปชั่วขณะละในตอนนั้นเอง  แคร้ง!!!  เสียงดาบเข้าปะทะกันอย่างรุนแรงก็ดังสนั่นขึ้นเป็ยสัญญาณเปิดฉากการต่อสู้อันดุเดือด

                ถัดไปอีก5ช่วงตึก

    “แฮกๆ  ผมไม่ไหวแล้วแอลคุง   พักหน่อยได้มั๊ย”  เนลหน้าซีดเผือด  หอบก่อนที่จะล้มลงไป

    “เห้ยๆ  มาหยุดตรงนี้ก็เสร็จกันพอดีสิ  งั้นมานี่”  แอลลากเนลไปแอบอยู่ที่ซอกระหว่างสองตึก

    “ผมขอโทษครับ  ที่เป็นตัวถ่วง  แฮกๆ”

    “หยุดพูดแล้วรีบๆพักรีบๆหายเหนื่อยจะดีกว่านะ   ตอนนี้ทุกวินาทีมีค่านะ

    “ครับ …..

    “ดีมาก  เราจะผ่านมันไปด้วยกัน”  แอลพูดพร้อมลูบหัวเนล

                อีกด้านหนึ่ง  ณ  สถานีท่าเรือ

                เหล่าทหารเรือล้วนพ่ายแพ้นอนเกลื่อนเต็มพื้น   เหลือเพียงซิลฟี่เท่านั้นที่ยังคงยืนอยู่เป็นหลักฐานว่าใครชนะครั้งนี้เป็นของใคร

                “โอ้สุดยอดจริงๆสมกับที่เขาลือมาเลยนะ   เลดี้ ซาตาน ซิลฟาเรีย พอดีเลยใครๆก็เรียกผมว่าสุภาพบุรุษซาตานเหมือนกัน”  นายทหารร่างยักษ์คนหนึ่งออกมาพร้อมสนับมือเหล็ก   จากเท่าที่ดูเป็นชายร่างบึกบึนสูงกว่า2เมตร  ใส่หมวกทหารเรือหน้าตาดูเขร่งขรึมและเต็มได้วยบาดแผล  ผมสีดำแต่กายไม่ค่อยเรียบร้อยในชุดของทหารเรือนั่น  แลดูเหมือนพวกกุ้ยซะมากกว่า

    “ขอโทษนะ  พอดีซาตานหน่ะชั้นเคยเจอมาแล้ว  และหล่อกว่านายเป็นกองเลย”  ซิลฟี่ยิ้มตอบกลับไปอย่างไม่เกรงกลัว

    “เอ๋….ชักน่าสนุกสินะ  หึหึ”

                บรรยากาศกดดันประหลาดครอบคลุมพื้นที่อย่างหนาแน่น   หญิงร่างเล็กกับชายร่างยักษ์กำลังจะปะทะกันเพื่อยืนยันว่าใครกันแน่ที่เป็นซาตาน!!!

                อีกด้านหนึ่งที่ซอกตึกใกล้ท่าเรือ

    “เนล  เวลาไม่พอแล้วเราไปกันเถอะ”  แอลพูดขึ้นพร้อมฉุดมือเนลขึ้น

    “ครับ!”  เนลตอบกลับพร้อมออกวิ่ง  แต่ในทันใดนั้น ทั้งคู่ก็ต้องตกตะลึง  เมื่ออยู่ๆทหารกว่า30นายก็มาล้อมไว้ในทันที

    “อะอะไรกันเนี่ยรู้ได้ยังไง”  แอลเองก็ยอมรับว่าตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น

                และแทบจะในทันทีนั้น  พลุนำทางสีแดงก็วิ่งยาวขึ้นไปบนฟ้า  เป็นสัญญาณอย่างหนึ่งซึ่งนั่นทำให้แอลถึงกับเหงื่อตก

    “แย่ซะแล้ว  สัญญาณฉุกเฉินดังขึ้นซะแล้ว”  แอลบ่นพึมพำกับตัวเอง

    “หมายความว่าอะไรเหรอครับ”  เนลกระซิบถาม

    “เรือกำลังจะออกจากท่าเพราะต้านไม่ไหว  นี่เป็นสัญญาณให้กลับเรือทันที   แล้วนี่เราจะไปยังไงกัน….”  แอลพูดพร้อมก้มหน้ากุมขมับเลยทีเดียว

                แล้วสุดท้ายพวกเขาจะผ่านวิกฤตินี้ยังไง   เมื่อมาโดนจับกุมตัวเสียตรงนี้   คนธรรมดาสองคนที่ไม่ได้พิเศษอะไรจะผ่านมันไปได้ไหมแอลจะทำอย่างไร  แล้วเพื่อนของซีคเกอร์เป็นใครกันแน่และศึกตัดสินชื่อซาตานหล่ะ   ทั้งหมดจะเป็นอย่างไรนั้นโปรดติดตามในตอนต่อไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×