คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 2 งานต้อนรับ และ ปมเก่าอันดำมืด
Chapter 2 งานต้อนรับ และ ปมเก่าอันดำมืด
ณ สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า เวลเนส 1 เดือนก่อน
“เห้ย เนล หมู่นี้แกดูอ้วนขึ้นรึเปล่านะ ต้องไดเอทบ้างละ ดีหล่ะงั้นข้าช่วยเอง” หมั๊บ!! เสียงคว้าขนมปังก้อนบนถาดอาหารของเนล อุบัติขึ้นจากเด็กชายอีกคนหนึ่งที่มีลักษณะตัวโตกว่า ผมสีบรอนซ์ทองสั้นหน้าตาอันหยิ่งผยองบอกถึงความแน่พอตัวของเด็กคนนี้
นี่แทบจะเป็นเรื่องปกติของที่นี่ ในเวลเนสแห่งนี้มีเด็กมากมายถูกพามาในแต่ละปีไม่น้อย เนื่องจากเป็นงานการกุศลเงินบริจาคก็ไม่ได้มากมายอะไร การเป็นอยู่สำหรับที่นี่เลยลำบากพอดู และถึงแม้ว่าพวกเด็กที่นี่จะโตมาด้วยกันแต่เราไม่ได้สนิทกันทุกคนหรอกครับ
“ไบรอัน ไม่ได้นะ ชั้นยังไม่อิ่มเลย” ฉันพูดพร้อมพยายามคว้าขนมปังคืน แต่อีกฝ่ายก็ใช้กำลังที่มากกว่ากระชากไป
“แก ตัวนิดเดียวกินนิดเดียวก็พอแล้ว ชั้นนี่สินตัวโตกว่าแกต้องกินเยอะกว่าก็ถูกต้องแล้วนี่”
“แก ก็กินส่วนของแกไปแล้วนี่ นี่มันของชั้น!!”
“มีอะไรหรอไบรอัน ให้ช่วยมั๊ย” เสียงเด็กชายสวมแว่นหนาเตอะอีกคนแทรกขึ้นมาพร้อมเดินมาหาผมกับไบรอัน
“ก็หมอนี่นะสิเดฟ แค่ขอแบ่งกันกินนิดหน่อยทำโวยวายไปได้” ไบรอันพูดโดยไม่มีน้ำเสียงของความสำนึกผิดเลยแม้แต่น้อย
“เอ่อนะ เดี๋ยวชั้นเคลียร์ให้นะไบรอัน” เด็กชายที่ชื่อเดฟพูดพร้อมเดินมาประจันหน้าผม
“นี่เนล นายก็แบ่งๆเขาไปเถอะ คิดซะว่าเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีไง”
“นายเป็นบ้าอะไรไปเดฟ ทำไมเราต้องทำแบบนั้น” ความจริงก่อนหน้านี้ผมกับเดฟสนิทกันมากแต่หมูนี้เดฟดูเปลี่ยนไป
“แน่นอน เพราะคนฉลาดมักจะเลือกที่จะเลี่ยงมีปัญหาไง และนายก็ควรทำตามที่ชั้นบอก ชั้นไม่อยากให้นายต้องมีเรื่องกับหมอนี่” ในประโยคหลังเดฟลดเสียงมาเป็นกระซิบคุยกับผม
“นายต้องเสียสติไปแน่ เดฟไหนนายบอกฝันอยากเป็นอัยการกะอีแค่อันตพาลนายยังกลัว!”
“หน่อย!! ปากดีนักนะ” ไบรอันกระโจนใส่ผมทันที เขานั่งคร่อมพร้อมเหวี่ยงกำปั้นมาเป็นชุด ผมเองก็ต่อยสวนไปอย่างมั่วๆหวังจะทำให้หลุดจากจุดที่เสียเปรียบนี้แต่ผมก็แพ้แรงของไบรอัน สุดท้ายก็กลายเป็นผมที่โดนต่อยอยู่ฝ่ายเดียว
“เดฟช่วยชั้นด้วย
” ผมส่งข้อความนี้ผ่านสายตาของผมไปให้เดฟแต่
. ก็กลับเห็นแค่เดฟที่หลับตาผมไป
ผมยังคงระดมต่อยอย่างทารุณท่ามกลางสายตาหลายสิบคูนที่ยืนมองดูเฉยๆ ไม่มีใครเลยที่จะเข้ามาช่วย ไม่มีใครเลย ไม่มี
.แม้ซักคนเดียว
“นี่พวกเธอหยุดทะเลาะกันเดี๋ยวนี้นะ!!!!” เสียงดุดังขึ้นสนั่นเมื่อผู้หญิงรุ่นป้าสวมแว่นร่างเพรียวเดินมาพร้อมไม้เรียวด้ามยาว
“ป้าแมรี่มา!!!!” เสียงใครซักคนในกลุ่มคนที่มุงดูตะโกนขึ้น พร้อมกันนั้นความวุ่นวายก็บังเกิดภาพเด็กวิ่งหนีแตกกระเจิงเหมือนหนูหนีแมวก็ไม่ปานก็อุบัติขึ้นทิ้งคู่กรณีสองคนให้เผชิญกับหญิงที่ชื่อป้าแมรี่
เราทั้งสองถูกพามานั่งในห้องปกครอง โดยที่มีป้าแมรี่อบรมอยู่
“คิดอะไรกันอยู่ กินข้าวหม้อเดียวกันแท้ๆยังมาททะเลาะกันอีก พวกเธอจะถูกสั่งกักบริเวณและงดข้าวเย็น
.”
“แต่ป้าแมรี่ครับกรุณาฟังผมก่อนคือไบร
.”
“ไม่ต้องมาแก้ตัวอะไรทั้งนั้น ชั้นไม่ฟัง ผิดก็คือผิด”
“แต่ผม
”
“ก็บอกว่าไม่ต้องมาแก้ตัว เธอไม่อายบ้างหรอเนล ทำไมเป็นคนทำผิดแล้วไม่รับผิดเนี่ย ทะเลาะวิวาทก็คือทะเลาะวิวาทไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ตามกฎพวกเธอผิด! อย่าทำให้คุณไดแอนน่าผิดหวังในตัวเธอไปมากกว่านี้เลย”
“
”
“ดีมาก พวกเธอสองคนไปได้แล้ว!!”
แล้วเราสองคนก็เดินออกมาจากห้องปกครอง ไบรอันนั้นเดินไปทางห้องนั่งเล่นด้วยสีหน้าไม่ทุกข์ไม่ร้อนอะไรทั้งนั้น เขาแทบไม่ได้ฟังด้วยซ้ำตอนอยู่ในห้อง ผมเดินไปเรื่อยๆตามเส้นทางไประเบียงใกล้สวนดอกไม้ ที่ๆป้าไดแอนน่าชอบอยู่และในที่สุดผมก็ถึง ในเวลาโพล้เพล้เช่นนี้สวนดอกไม้ยังคงงดงามเหมือนกับวันก่อนๆที่เขาเคยมานั่งดูและปลูกพร้อมป้าไดแอนน่า
“ป้าไดแอนน่าครับ ถ้าป้ายังอยู่เรื่องแบบนี้คงไม่เกิด ป้าแมรี่ไม่เคยคิดจะเข้าใจผมเลยเธอมองแค่ว่าพวกเรามันตัวปัญหา เมื่อก่อนไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรป้าก็จะคอยเอาใจใส่และเชื่อใจพวกเราเสมอ ป้าเป็นคนสอนให้ผมเป็นคนดีรักความยุติธรรม ผมยังอยากฟังนิทานจากป้า ปลูกต้นไม้ด้วยกัน วาดรูปให้ดู แล้วทำไม
..ทำไมถึงรีบจากไปขนาดนี้ครับ ฮือ
เวลเนสที่ไม่มีป้าไดแอนน่าไม่เห็นจะน่าอยู่เลย
.”และแล้วภาพความทรงจำของผมก็ดำมืดลง
.
ผมรู้สึกตัวขึ้นอีกครั้ง ในห้องแปลกๆไม่คุ้นตา ที่ดูทุกอย่างโครงเครงไม่สิ มันโครงเครงเพราะว่าเราอยู่บนเรือ ใช่แล้ว เมื่อวานชั้นได้เจอกับพวกโจรสลัดและถูกชักชวนเป็นพวก ผมก้มลงมาดูเหล่าบาดแผลเมื่อวานที่ตอนนี้ถูกปฐมพยาบาลอย่างดี แต่เอ
..ผมมาอยู่นี่ได้ยังไง ความทรงจำของผมเหมือนจะหายไปช่วงหนึ่ง
.เอ
เกิดอะไรขึ้นนะ
“ฟื้นแล้วหรอ
”
ผมสะดุ้งแล้วหันขวับไปยังแหล่งเสียงซึ่งก็พบชายผมดำกระเซิงสั้นที่มีลักษณะท่าทางเหมือนขี้ยาที่ใส่เสื้อแขนยาวสีขาวกางเกงยีนที่อยู่กับกัปตันหญิง
เอ่อ..เจ้ซิลฟี่นี่
“คุณคือ
.”
“ชั้นแอล ส่วนเธอก็ชื่อเนลสินะ ได้ยินมาหมดแล้วหล่ะ”
“เอ่อนี่ผมอยู่
..”
“อยู่บนเรือแร๊พบิทคิลไง เรือของเหล่าพลพรรคโจรสลัดเดอะคิลเลอร์”
“เอ๋อครับ แล้วนี่เมื่อวานผม
”
“อะไรกัน นายจำไม่ได้หรอว่าเจออะไรมา”
“จำไม่ค่อยได้เลยอ่ะครับ มันเลือนๆลางๆไปหมด”
“ก็ลองพยายามนึกดูซี่” แอลยิ้มให้ผมอย่างนึกสนุกอะไรบางอย่าง และผมก็ลองทำตามที่เขาบอกดู
“จะลองดูนะครับ เมื่อวานตอนช่วงบ่ายผมเจอเจ้ซิลฟี่ และเรากำลังเดือนทางกลับมาที่เรือ
..”
“
.”
“
..เอ่อ
.ข้าว! เราสามคนไปกินข้าวกันต่อ เพราะพี่ซีคเกอร์ขอนั่งพักก่อน ยังไม่ยอมกลับไปทำแผล ระหว่างทางก็มีนักเลงมาหาเรืองอีกสองสามครั้ง
..แล้ว
.”
“
.”
“กว่าจะถึงเรือตรงท่าเรือลับ(ไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นสถานีท่าอย่างเป็นทางการ)ฝั่งตะวันตกก็มืดแล้ว
เจ้ซิลฟี่บอกว่าจะไปทำแผลให้พี่ซีคเกอร์ก่อนให้รออยู่ที่ลานใต้กระโดงเรือ
แล้ว
.แล้ว
.ใช่!! เด็กผู้ชายผมเจอเด็กผู้ชายคนหนึ่ง”
“
..”แอลเริ่มเผยรอยยิ้มที่มุมปาก
“ในคืนที่เงียบสงบมีเพียงเสียงลมโกรงใบเรือและแสงจันทร์ที่ลอยค้างฟ้า ผมก็พบเขา เขาออกมาจากเงามืดที่พาดผ่านตัวเรือพร้อมดวงตาสีแดงที่สะท้อนแสงจันทร์อย่างชัดเจน ผมสีดำสนิทค่อยๆโผล่พ้นเงาเรืออกมาในชุดเชิตยาวสีขาวกางเกงยาวสีดำ ที่บนหัวก็มีแว่นกันลมอยู่ที่สำคัญ
..ใช่ในมือของเขามี
เจ้านั่นอยู่”
“
.”
“
. มันเป็นกล่องสีดำสนิทไม่มีลวดลาย เขายื่นมันมาให้ผมโดยไม่พูดไม่กล่าวอะไร”
“ในทีแรกผมไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แค่ยืนสบตาสีแดงคู่นั้นอยู่อย่างอึดอัด เจ้าของกล่องยังคงยืนเชื้อเชิญให้รับกล่องไปอย่างสงบนิ่ง”
“และแล้วเพราะอะไรผมก็ไม่แน่ใจผมก็ยื่นมืออกไปรับ ผมไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่สุดท้ายผมก็ได้รับรับกล่องนั้นมาตามสายตาที่เชื้อเชิญ”
“งั้นหรอ เธอรับมันมาสินะ แล้วเธอก็เปิดมันออกใช่รึเปล่า”
“อ่า
..ครับใช่
.แต่ทันทีที่เปิดออก โลกก็เหมือนขาดหายไปดำวูบทันทีจากนั้นผมก็จำอะไรไม่ได้เลย”
“เธอหน่ะ จะว่าโชคดีหรือโชคร้ายนะ ที่ต้องมาเจอ1ใน7สิ่งน่าสะพรึ่งกลัวของเรือแร๊พบิทคิล”
“หรือว่า
..ที่ผมเจอจะเป็น
ผะ
ผะ
ผิ..”
“พัตเตอร์ไงหล่ะ!!!”
“ห๊า!! ผีชื่อพัตเตอร์!!! O[]o!!”
“พัตเตอร์เฉยๆเฟ้ย Ò[]ó!! และก็มันก็ยังไม่ตายด้วยถึงจะคอยตามหลอกหลอนเก่งนักก็เถอะ”
“พัตเตอร์
.เด็กคนนั้นหรอครับ
คนสินะครับ” ผมพูดพร้อมถอนหายใจ
“เอาเถอะ มีคนอยากพบเธอมากมายข้างนอก ถ้าไหวแล้วก็ออกไปสูดอากาศข้างนอกกันเถอะ”
“ครับ” ผมพูดพร้อมดีดตัวขึ้นจากเตียง ซึ่งแอลก็ตั้งท่าเปิดประตูให้อยู่แล้ว
และในทันทีที่ประตูเปิดออกนั่นเอง
“ยินดีต้อนรับลูกเรือคนใหม่!!!!” เป็นการประสานเสียงที่ดังมากในเวลาที่แสงแดดยังแรง เวลานี่ไม่น่าจะเกินบ่ายโมงแต่ทุกคนก็อยู่ในสภาพพร้อมฉลอง คนสิบกว่าคนอยู่ในสภาพเตรียมลุยเหมือนตั้งหน้าตั้งตาคอยมานาน ต่างมีแก้วเบียร์อยู่ในมืออย่างพร้อมเพรียง ถึงจะแปลกใจแต่ก็ปนด้วยความดีใจ นานแล้วครับที่ไม่มีใครใส่ใจผมขนาดนี้
“เอ้าช้าอยู่ทำไม ฉลอง!!!” เสียงใครซักคนตะโกนขึ้นมา
“เดี๋ยวสิย๊ะ Ò[]ó!! จะรีบไปไหน สนแต่จะดื่มท่าเดียวเลยนะ ให้ชั้นกล่าวอะไรก่อนสิ” เจ้ซิลฟี่วีนแตกแต่ดูเหมือนบรรยากาศจะเป็นไปอย่างฮาเฮเสียมากกว่าแลดูอบอุ่นดี
และเจ้ซิลฟี่ก็กล่าวซะดูเป็นพิธีการมาก แต่ผมก็แอบละอายใจที่ต้องยอมรับว่าไม่ได้ตั้งใจฟังเท่าไหร่ เพราะกำลังหลงอยู่ในบรรยากาศที่ครื้นเครงของที่นี่ บ้างก็คุยกันสนุกสนานบ้างก็แซวเจ้ซิลฟี่และก็ต้องถูกเจ้ซิลฟี่วีนกลับมา น่าสนุกจริงๆ ไอ่การเป็นโจรสลัดเนี่ยน่าสนุกจริงๆ
“
..ดังนั้น ชั้นซิลฟาเรีย จี. เกล กัปตันเรือของ เดอะคิลเลอร์ขอประกาศอย่างเป็นทางการว่า ลีโอนาโด เนลเป็นสมาชิกเรืออย่างเป็นทางการ!! ” ฮิ ฮิ ขอโทษนะครับเจ้ซิลฟี่กว่าผมจะตั้งใจก็พูดจบพอดี ฮ่าๆ
“เอ้าเสร็จแล้วก็ฉลอง!!!” เสียงพลพรรคโจรสลัดประกาศก้องอย่างครื้นเครง
“ยัง!! ยังเหลืออีกหนึ่งสิ่งที่ต้องทำ” เจ้ซิลฟี่รีบเบรกทุกคนก่อน
“พวกนายลืมแล้วหรือ ใครที่ทำให้เราต้องคอยตาค้างกันตลอดคืน ใครที่ทำให้งานเราเกือบล่มไม่เป็นท่า
..เบิกตัวจำเลย” ซิลฟี่พูดพร้อมตบมือแป๊ะๆสองทีเป็นการเรียกให้เอาใครบางคนออกมา
แล้วอยู่ดีๆพวกโจรสลัดก็แหวกกันเป็นแนวเป็นเส้นไปสู่ประตูห้องๆหนึ่งจากอีกปลายฟากฝั่ง และในทันใดนั้น ประตูก็เปิดออก และภาพที่เห็นคือ ซีคเกอร์นั่นเอง กำลังแบกอะไรบางอย่างอยู่ มันถูกพันด้วยเชือกอย่างแน่นหนาและสิ่งนั้น! กำลังดิ้นพร่ายอยู่บนไหล่ของซีคเกอร์เลย ซีคเกอร์ค่อยๆแบกมาจนมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม ตุ๊บ!! เสียงเขาว่างเจ้าสิ่งนั้นลง
“นี่มันอะไรกันเนี่ยแค่ล้อเล่นเอง จริงจังไปได้ O[]o!!!” เสียงตะโกนออกมาจากเจ้านั่นทันทีที่ซีคเกอร์วางลง และในเวลาเดียวกันนั้นเองผมก็ได้เห็นใบหน้าของคนที่ถูกพันธนาการอย่างแน่นหนาไว้
..เด็กคนนั้นนั่นเอง!!!
“นายนั่นเอง เอ่อพัตเตอร์สินะ” ผมถามหยั่งเชิงไป
“นายนั่นเองเจ้าเด็กใหม่ เอ่อเรื่องเมื่อคืนเอาเป็นว่าชั้นขอโทษละกัน ชั้นอาจจะเล่นแรไปหน่อย เพื่อเป็นการขอโทษจะยอมให้นายเรียกชั้นว่าลูกพี่ก็ได้นะ”
“ลูกพี่?”
“หน่อยทำเค้าแล้วยังจะมาอวดดีอีก” โป้ก!!! เสียงเขกหัวดังสนั่น จากมือของเจ้ซิลฟี่
“อะไรกันเจ้ มันเจ็บนะ O[]o!! แน่จริงก็ปล่อยผมสิเจ้ไม่ได้เขกผมหรอก”
“อ้อเหรอ แสดงว่าต้องรีบเก็บกำไรตอนนี้ให้มากๆ” โป้ก!!ว่าแล้วเจ้ซิลฟี่ก็ซัดไปอีกที
“อี๊!!! เจ็บโว้ยยยยย” เสียงพัตเตอร์ร้องลั่นพร้อมดิ้นพล่านเป็นหนอนโดนน้ำร้อนราดทีเดียว
“พอเถอะครับ ผมไม่ได้ติดใจอะไร” ผมไม่ได้ติดใจอะไรมากมายอย่างที่บอกครับ
“จริงหรอเนล แต่หมอนี่มันแกล้งเธอไว้นะ เธอไม่ติดใจอะไรเลยหรอ” อาเจ้ซิลฟี่ถามผม
“ครับ แต่เอ
จะว่าไปมีอย่างหนึ่งที่ผมติดใจอยู่หน่ะครับ กล่องสีดำใบนั้นหน่ะครับ ที่จริงมันคืออะไร”
“อ๋อนายพูดถึงสิ่งประดิษฐ์หมายเลข132หรอ เป็นไงเจ๋งใช่มั๊ยล่า ชั้นขอตั้งชื่อมันว่า กล่องหลอกเจ้าโง่ ” เขาพูดพร้อมความภาคภูมิใจที่ทำผมเคืองนิดๆกับชื่อกล่องนั่น
“แหมพูดดีจริงนะ กล่องนี่ใช่มั๊ย” เจ้ซิลฟี่พูดพร้อมโชว์กล่องนั่น
“เอ้อเอาแบบนี้สิ เพื่อเป็นการแสดงความขอโทษนายเปิดกล่องอันแสนภาคภูมิใจนั้นให้เนลดูเป็นขวัญตาทีเถอะ” แอลที่ยืนเงียบมานานอยู่ๆก็เสนอคววามคิดนี้ขึ้นมาพร้อมหันมายิ้มอย่างนึกสนุก
“
..” พัตเตอร์เงียบไปในบัดดล
“นี่อย่าบอกนะว่าไม่กล้าที่จะเจอกับของเล่นของตัวเองหน่ะ หือ??” แอลพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยการยั่วโมโห พร้อมยิ้มอันกวนโอ้ยนั่น
“จะบ้าหรอ ใครจะไปกลัว และอีกอย่างมันก็ไม่ใช่ของเล่นด้วย นี่เป็นสิ่งประดิษฐ์ระดับอัจฉริยะนะ ก็ได้ๆชั้นจะเปิดมันเอง!!!” ในที่สุดพัตเตอร์ก็ปรี๊ดแตกจนเผลอตบปากรับคำแอลไป ซึ่งในตอนนั้นเองซีคเกอร์ก็แกะเชือกให้พร้อมวางกล่องไว้ข้างๆ พัตเตอร์หยิบมันขึ้นมาพร้อมเหงื่อที่แตกพลั๊กเต็มตัว ทำไงได้เขาต่างหากที่รู้ดีว่ามีอะไรอยู่ข้างใน แต่ก็ต้องเปิดงั้นหรอ
.
“จะยอมรับว่าป๊อดแล้วก็วิ่งหนีไปเลยก็ได้นะ ชั้นจะทำเป็นลืมๆไปซะ” เสียงแอลลอยมาด้วยอาการเหน็บแนม จนตอนนี้ผมมั่นใจแล้วว่าแอลคนนี้ ชอบแกล้งคนมากยิ่งกว่าพัตเตอร์อีก = =a”
“จะบ้าหรอ ไม่หนีหรอกน่า
จะ
จะเปิดละนะ!!!!” โผล๊ก!!!! เสียงนวมแดงยักษ์โผล่พรวดเข้าเสยเต็มปลายคางพัตเตอร์อย่างจัง!! หลังจากนั้นเขาก็นอนสงบนิ่งไม่ติงกาย เอาเป็นว่าเมื่อคืนผมรู้ละว่าผมโดนอะไร
“ฮ่ะๆ พวกมนุษย์นี่บ้ายุดีแท้เนอะ มีแต่พวกบ้าๆทั้งนั้น ฮ่าๆ แต่อย่างน้อยกล่องนั่นก็ได้ทำงานสมชื่อหน่ะนะ ฮ่าๆ”
“ปีศาจชัดๆเอ็งหน่ะ” เป็นเสียงอุทานอย่างพร้อมเพรียงของคนบนเรือที่กำลังทำหน้าเอือมซึ่งแปลกที่ผมเองก็คิดแบบนั้นเช่นกัน
“เอาหล่ะ ชั่งมันเถอะซีคเกอร์เอาศพพัตเตอร์ไปเก็บ แล้วเรามาฉลองกันเถอะ!!!” เสียงเจ้ซิลฟี่ประกาศเริ่มงานสังสรรค์ซึ่งเหมือนกันตั้งตารอมานั้นทุกคนโห่ร้องยินดี ชนฉลองกันอย่างไม่เกรงใจแดดที่กำลังร้อนผ่าวได้ใจ
งานฉลองมีกันอย่างยาวนานจะตอนกลางดึก ทุกคนดูสนุกสนานกันมาก ต่างเมากันใหญ่มีคนมากมายเข้ามาคุยกับผมต่างเล่าเรื่องต่างให้ผมฟังเยอะแยะไปหมด ถึงผมเองจะอายุไม่ถึงที่จะดื่มกับพวกเขาได้แต่ผมก็สนุกมากจะเพลียและเผลอหลับไป
กลางดึกของวันนั้น
“ใช้งบไม่บันยะบันยังเลยนะครับ อย่างนี้เป้าหมายของเราคราวนี้คงจะพลาดไม่ได้ซะแล้ว” เสียงแอลลอยมาในความมืดเหมือนจะพูดกับใครที่หัวเรือ
“ฮ่าๆ คงอย่างนั้น มันนี้ทุกคนดูสนุกชั้นไม่เสียดายหรอกแอล” และเสียงที่ตอบกลับมาคือเสียงของกัปตันสาวนั่นเอง
“ยังใจดีเหมือนเดิมเลยนะครับ แต่ผมอยากจะขอคุยเรื่องลอสเทรชเชอร์(สมบัติที่สาบสูญ)คราวนี้หน่อยสิครับ ผมอยากจะถามว่าเราแน่ใจแล้วหรือที่จะมุ่งเป้าไปที่หัวใจนางเงือก”
“ทำไมรึแอล อย่างนอยไม่ใช่คนที่จะกลัวเรื่องสงครามทางเหนือหรอกนะ งั้นมีเหตุผลอะไรให้นายลังเล”
“ก็อย่างที่รู้กันครับทุกๆปีจะมีข่าวลือเรื่องลอสเทรชเชอร์ออกมาประมาณ4-5อย่างซึ่งแน่นอน มันก็คือเป้าหมายของเหล่าโจรสลัดซึ่งก็ต่างต้องการเพื่อแย่งชิงมาซึ่งชื่อเสียงและเงินทอง และในปีนี้ก็มีข่าวของลอสเทรชเชอร์4ชิ้น ได้แก่หัวใจนางเงือกของทะเลเหนือ มงกุฎเพชรของอาณาจักรวาทีเชียร์ที่ล่มสลายของทะเลตะวันตก หยดน้ำตาของปีศาจของทะเลใต้ และ กล่องสมบัติของโจรสลัดแมงมุมน้ำที่เคยมีชื่อเมื่อ60ปีก่อนของทะเลตะวันออก”
“แอล มีอะไรก็พูดมาเถอะ ปกตินายไม่ใช่คนที่พูดอะไรอ้อมค้อมแบบนี้”
“
..อ่าครับ
.ผมได้ยินข่าวลือมาว่า หัวใจนางเงือกก็ตกเป็นเป้าหมายของ
เรดเทียร์ด้วยครับ”
กัปตันสาวสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำนี้ แต่แล้วก็สงบนิ่งไป ทิ้งความเงียบไว้ให้ปกคลุมไปทั่ว
“กลุ่มโจรสลัดเรดเทียร์จะมาร่วมวงด้วยงั้นหรอ ก็น่าสนุกดีนี่ ว่าแต่นายเถอะ ไหวแน่เหรอถ้าต้องเจอเธออีกครั้ง”
แอลเงียบไป เหมือนจะเตรียมใจพูดบางอย่าง
“คนที่มีสิทธิ์กำหนดเส้นทางการเดินเรือของแร๊พบิทคิลคือกัปตันนะครับ ผมไหวอยู่แล้ว บางที่นี่อาจจะเป็นการส่งสัญญาณจากฟ้าที่ต้องการจะบอกให้ผมเลิกหนีแล้วก็ได้นะครับ” แอลพูดพร้อมยิ้มเจือนๆ
“งั้นก็ดี
.โจรสลัดหน่ะนะ รู้ทั้งรู้ว่าจะมีคนมาแย่งสมบัติก็ยิ่งยอมอยู่เฉยๆไม่ได้หรอกงานนี้ท้าชนเต็มกำลังอยู่แล้ว เพื่อศักดิ์ศรีของเดอะคิลเลอร์รุ่นก่อนด้วย” คราวนี้เป็นซิลฟี่เองที่พูดพร้อมยิ้มที่แฝงไปด้วยความโศกเศร้า
เรื่องราวที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไรกันแน่ เรดเทียร์นั้นเกี่ยวพันธ์อย่างไรกับเดอะคิลเลอร์และเธอคนนั้นที่ซิลฟี่พูดถึงคือใคร โปรดติดตามตอนต่อไป
ความคิดเห็น