ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หักดิบรัก : B R O K E N L O V E

    ลำดับตอนที่ #4 : พิษรัก...สาวขายตรง(1)

    • อัปเดตล่าสุด 22 ต.ค. 50


    พิษรัก...สาวขายตรง (1)

     

    คงเป็นเวรกรรมของฉันเอง ที่ไม่อาจทำให้ฉันสามารถทำให้วินรับรู้ถึงความรักที่มีให้เขาได้..

     

                                    ...เป็นอีกคืนหนึ่งที่ฉันนอนไม่หลับ เฝ้าปะติดปะต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นตั้งแต่เช้าจนถึงเย็น เอาอีกแล้วเจ้าคำถามต่างๆ ชอบเข้ามาถามคำถามที่ฉันยากจะหาคำตอบให้กับมัน จะไม่ให้กลุ้มใจได้อย่างไร ก็วินเพิ่งจะถูกคนรักหักอกมา เมื่อมาเจอกับสาวสวยพูดจาออดอ้อนซะขนาดนั้น โอ้ย...ไม่อยากจะคิดเลย ขออย่าให้เป็นอย่างที่ฉันคิดเลยนะ...

     

                                    ...ที่ป้ายรถเมล์เช้าวันนี้ฉันรู้สึกเหม่อลอย คิดหาคำตอบต่อจากเมื่อคืน วินเดินเข้ามายืนใกล้ๆ ฉัน นี่คงเป็นวันแรกที่เราบังเอิญมารอรถเมล์พร้อมกัน...

    ไงเมย์...วันนี้คุยได้ยังล่ะ วินแซวขึ้น

    ฉันไม่ได้เป็นใบ้นี่ ฉันตอบห้วนๆ

    รถมาพอดีเลย..เร็วเข้าเดี๋ยวขึ้นรถไม่ทัน

    วินดึงขอมือให้ฉันเดินตามขึ้นรถเมล์ไปพร้อมกับเขา

     

                                    ...บนรถเมล์คนไม่แน่นเหมือนกับทุกวันแต่ทำไมฉันรู้สึกอึดอัดเหลือเกิน  วินยืนโหนรถเมล์อยู่ข้างเบาะที่ฉันนั่ง  ฉันรับหนังสือ 2-3 เล่มที่เขาถืออยู่มาวางบนตัก สายตาก็พลันเหลือบเห็นนามบัตรของแม่สาวชมพู่ ที่สอดอยู่ใต้ปกพลาสติกใสที่ห่อหุ้มหนังสือเล่มบนสุด มันทำให้ฉันว้าวุ่นใจมากยิ่งขึ้น นี่ถึงกับพกนามบัตรไว้ตลอดเลยหรือ...

    สวัสดีครับ ฉันเงยหน้าขึ้นมอง ขณะที่วินกำลังพูดคุยโทรศัพท์

    ได้ครับ  แล้วเย็นนี้ผมจะเข้าไปครับ

    เมย์..เย็นนี้ไปเป็นเพื่อนหน่อยนะ

    ไปไหน

    ก็คุณชมพู่โทรมาชวน บอกว่าเย็นนี้ที่บริษัทมีโปรแกรมพิเศษ อยากให้วินไปร่วมกิจกรรม

    เค้าไม่ได้ชวนฉันนี่ ฉันตอบแบบเล่นตัว

    ตกลงว่าไม่ไปใช่ไหม  เราไปคนเดียวก็ได้

    ฉันยังไม่ได้ตอบเลย แต่เขาสรุปการตัดสินใจให้ฉันเรียบร้อย ฉันได้แต่นั่งนิ่งหันหน้าออกทางหน้าต่างของรถเมล์เพื่อไม่ให้เขาได้เห็นว่าใบหน้าของฉันตอนนี้มันบ่งบอกถึงความไม่พึงพอใจอย่างยิ่ง

     

                                    ...ที่ริมระเบียงตอนเย็น ฉันมายืนรอดูว่าวินจะกลับมาตอนไหน แต่ก็ไม่มีวี่แววเลย บรรยากาศเริ่มมืดลงไปทั่วบริเวณ มีเพียงแสงไฟจากไฟทางตลอดทางเข้าซอย คนเพียงไม่กี่คนเดินผ่านเข้ามาในซอย แต่วินก็ไม่ได้มีปะปนอยู่ในคนจำนวนนั้น ฉันอยากจะยืนรอจนเห็นเขากลับมา แต่ก็สู้กับเจ้ายุงร้ายที่คอยมาเป็นมารความพยายามของฉัน...

     

    น้องเมย์...นอนหรือยังเอ่ย

    เสียงพี่หน่อยมาเคาะประตูเรียกที่หน้าห้อง

    ยังค่ะ...

    ฉันลุกไปเปิดประตู แล้วให้พี่หน่อยเข้ามาด้านใน  เราพากันมานั่งที่เตียงนอนของฉัน

    พี่หน่อยมีอะไรหรือเปล่าคะ

    คือพี่มีเรื่องรบกวนน้องเมย์หน่อยนะ

    รบกงรบกวนอะไรกันคะ คนกันเอง ว่าแต่มีอะไรว่ามาเลยคะ

    พี่จะฝากกุญแจห้องให้น้องเมย์ไว้ แล้วน้องเมย์ช่วยเลี้ยงปลาให้พี่หน่อยตอนช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ที่จะถึงนี้แหละ

    พี่หน่อยจะกลับบ้านที่ต่างจังหวัดเหรอคะ

    เปล่าหรอกจ้ะ..คือพี่ต้องไปสัมมนากับบริษัทที่พัทยาน่ะ

    ดีจังเลยค่ะ  บริษัทพี่หน่อยนี่เอาใจพนักงานน่าดูเลย

    โอ้ย..ถ้าน้องเมย์หมายถึงบริษัทที่พี่ทำประจำอยู่ล่ะก็ ผิดละ

    อ้าว.....

    บริษัทขายตรงน่ะ...เออน้องวินเค้าก็ไปนะ

    พี่เจอกับวินด้วยเหรอคะ ฉันถามพี่หน่อยเหมือนจะคาดคั้นเอาคำตอบ

    ใช่..พี่เจอเค้าเมื่อเย็นที่บริษัท วินเข้าฟังบรรยายกับวิทยากรด้วย แล้วทางบริษัทก็เสนอโปรแกรมสัมมนา เพื่อเพิ่มศักยภาพในการขายตรงให้เกิดผลประโยชน์สูงสุด โดยจัดสัมมนาที่พัทยาโน่นแน่ะ พี่เห็นว่ามันตรงกับวันหยุด ไม่ต้องลางาน ก็เลยลงทะเบียนไปกับเค้าด้วย

    พี่หน่อยสาธยายให้ฟังจนฉันไม่ต้องซักถามอะไรเพิ่มเติมเลย

    แล้วนายวิน เค้านึกยังไงถึงได้สมัครไปกะเขาด้วยล่ะ

    จริงๆ แล้วฉันแค่บ่นกับตัวเอง ไม่คิดว่าพี่หน่อยจะได้ยิน

    ตอนแรกน่ะ น้องวินเค้าก็ลังเล แต่ว่าน้องชมพู่น่ะสิคะยั้นคะยอจนใจอ่อน อีกอย่างคนก็แย่งกันลงทะเบียนด้วย

    ยัยชมพู่อีกแล้วหรือเนี่ยะ  นายวินนะนายวิน มันน่าจับมาเขกกะโหลกซะให้น่วมไปเลย

    เอ่อ..ยังไงๆ พี่ก็ฝากน้องเมย์ด้วยแล้วกันนะ พี่กลัวปลาจะอดอาหารตายซะก่อนที่พี่จะกลับ

    ค่ะ  แล้วเมย์จะดูแลให้ค่ะ

     

                    ...พี่หน่อยฝากธุระกับฉันแล้วก็ออกจากห้องไป  ในใจฉันอยากจะฝากธุระให้พี่หน่อยเหมือนกัน ก็แค่ให้จับตาดูพฤติกรรมของนายวินกะยัยชมพู่แทนฉันที แต่ก็อายที่จะบอกพี่หน่อยไป เพราะฉันกลัวพี่หน่อยจะล่วงรู้ว่าฉันแอบรักวินอยู่ในขณะนี้...

     

                    ...พี่หน่อยกลับไปนานแล้วแต่ทิ้งข่าวความเคลื่อนไหวของวิน ที่ทำให้ฉันเกือบคลุ้มคลั่งให้ได้ในตอนนี้ ฉันคิดเตลิดเปิดเปิงไปไหนต่อไหนแล้ว ระหว่างนายวินกับแม่สาวคนนั้น...

     

    .............................................................................................................................................................

     

                                    ...จากวันนั้นจนวันนี้เย็นวันศุกร์แล้ว วินไม่เคยปริปากบอกฉันเลยเรื่องที่จะไปสัมมนาที่พัทยา  ฉันเองก็ไม่กล้าถามเช่นกัน และตอนนี้ฉันเองก็ไม่อาจจะอดทนความอัดอั้นไว้ได้อีกต่อไป   เมื่อเห็น    วินเดินเข้าซอยมาจนใกล้ถึงหอพักแล้ว เขาหิ้วของพะรุงพะรังคงจะเป็นของที่เตรียมเดินทางไปพัทยาในวันพรุ่งนี้...

     

    แหม...จะไปเที่ยวไม่บอกกันบ้างเลยนะวิน

    ฉันรีบมาดักเขาไว้ก่อนที่จะผ่านหน้าหอพักไป แล้วถามคำถามเพื่อหยั่งเชิง

    อ๋อ..แล้วเมย์รู้ได้ไง  พี่หน่อยคงบอกแล้วสิ

    นี่ถ้าพี่หน่อยไม่บอก นายก็คงไม่บอกให้ฉันรู้ ฉันพูดดักคอ

    จริงๆ มันไม่ได้สำคัญนักหรอก ก็เลยไม่ได้บอก อีกอย่างไม่ค่อยอยากไปเท่าไหร่หรอก

    ไม่จริงละม้าง....เตรียมข้าวของซะขนาดนี้

    จริงสิ..แต่มันจำเป็น ไม่ได้ไปไหนมาตั้งนาน ก็ต้องเตรียมไว้บ้าง

    แล้วนายไปสมัครเป็นสมาชิกขายตรงตั้งแต่เมื่อไหร่...หา

    ก็ตั้งแต่วันที่ไปกับเมย์นั่นแหละ..พอสมัครแล้วก็ได้นวดหน้าฟรีไง

    ใจง่ายจริงนะ

    ก็ช่วยไม่ได้..ดีกว่านั่งรอเฉยๆ ไปก่อนดีกว่าต้องไปจัดกระเป๋าอีก

    เชิญเถอะ...เชอะ

    เอาน่า...เดี๋ยวจะซื้อของมาฝาก

     

                                    ...วินเดินจากไป ปล่อยให้ฉันยืนครุ่นคิดอยู่คนเดียว นี่ถ้าเป็นไปได้ฉันอยากไปแทนพี่หน่อยซะเอง จะได้คอยขัดขวางเขากับแม่สาวคนนั้น...

     

    .............................................................................................................................................................

     

                                    ...พี่หน่อยแวะเอากุญแจห้องมาฝากฉันตอนหกโมงเช้า แล้วรีบหอบกระเป๋าออกจากหอพักไป  วินก็คงไปขึ้นรถที่หน้าบริษัทเช่นกัน ฉันล้มตัวลงนอนต่อ  ตาเหม่อมองเพดาน พร้อมกับความคิดที่ว้าวุ่นอีกเช่นเคย  มารู้สึกอีกทีก็เกือบสิบเอ็ดโมงเข้าไปแล้ว  เพราะมีเสียงมือถือดังขึ้น วินนั่นเอง ฉันเป็นคนตั้งเสียงเรียกเข้าของเขาด้วยเพลงนี้เอง  เพราะมันมีความหมายว่าเรากำลังรักใครสักคนนั่นเอง...

    ว่าไงวิน.. ฉันทัก  ..ในใจก็รู้สึกดีใจที่วินโทรมาหา

    เมย์...เราเบื่อมากๆ เลย  วิทยากรพูดอะไรก็ไม่รู้ ยกตัวเองว่าเก่งอย่างนั้นเก่งอย่างนี้

    อดทนหน่อยสิวิน  สัมมนาก็อย่างนี้แหละ

    นี่เพิ่งจะเบรกแรกนะเนี่ยะ

    เอาน่า..เข้าไปฟังต่อแล้วลองหาประโยชน์จากการฟังดู ไปแล้วอย่าเสียเปล่าเลย

    เออๆ..งั้นเราเข้าไปฟังต่อนะ

     

                                    ...อย่างน้อยเวลาที่วินไม่สบายใจ เขาชอบโทรมาหาฉัน นี่แหละเป็นยาขนานเอกที่สามารถลบความรู้สึกว้าวุ่นลงได้บ้าง...

     

    เป็นไงดีขึ้นไหม ฉันรับโทรศัพท์จากวินเวลาเที่ยงกว่าๆ แล้ว

    น่าเบื่อเหมือนเดิม วินพูดน้ำเสียงเซ็งๆ

    ไม่เจอพี่หน่อยเหรอ

    พี่หน่อยนั่งด้านหน้าโน่น  ตั้งใจฟังน่าดู

    แล้วคนที่ชวนนายไปน่ะ เค้าไม่ดูแลนายเหรอ ฉันอดที่จะถามถึงแม่สาวคนนั้นไม่ได้

    หมายถึง..คุณชมพู่น่ะเหรอ  เค้าก็ต้องทำงานกับทีมงานเค้านะสิ

    นายก็หาเพื่อนคุยสิ จะได้หายเบื่อ

    ไม่ละ...ช่วงบ่ายเราจะหนีไปเดินเที่ยวริมทะเล

    ซะงั้น....

     

                                    ...ถ้าฉันไปพัทยาตอนนี้ได้ฉันคงหายตัวไปหานายแล้วล่ะนายวิน แต่อย่างน้อยฉันก็ได้รู้ว่ายัยชมพู่นั่นไม่ได้มาก้อล่อก้อติดกับเขา และฉันเพิ่งจะยิ้มอย่างสบายใจเพราะไม่ได้ยิ้มอย่างนี้มาหลายวันแล้ว...

     

                                    ป่านนี้วินจะเป็นยังไงบ้างนะ จะหายเบื่อหรือยังก็ไม่รู้ ฉันหยิบโทรศัพท์เพื่อกดไปหาพี่หน่อยเพื่อถามข่าวคราวของวิน...

    สวัสดีค่ะพี่หน่อย  เมย์เอง

    ว่ายังไงน้องเมย์..พูดเสียงดังๆ หน่อยนะ พี่ไม่ค่อยได้ยิน

    ก็จะได้ยินยังไงล่ะเสียงเพลงเหมือนอยู่ในดิสโก้เทค

    เดี๋ยวๆ นะ เดี๋ยวพี่ออกไปข้างนอกก่อน

    ได้ยินชัดหรือยังคะ

    ชัดแล้วน้องเมย์  พอดีเค้าจัดเลี้ยงให้พวกที่เข้าสัมมนา เลยเสียงดังไปหน่อย

    ไม่มีอะไรหรอกค่ะ  จะถามเรื่องวิน

    น้องวิน...ทำไมเหรอ

    ก็ฝากให้พี่หน่อยคุยเป็นเพื่อนเค้าหน่อย  เมื่อกลางวันโทรมาบอกว่าเบื่อ

    โอ้ย...น้องเมย์ไม่ต้องห่วงเลย  โน่นแดนซ์กระจายอยู่กะน้องชมพู่ข้างในแน่ะ

    เหรอคะ...งั้นพี่หน่อยไปสนุกต่อเถอะคะ

     

                                    ...ฉันรู้สึกสับสนมากหลังจากได้ข้อมูลจากพี่หน่อย ทำไมมันผิดกับที่ฉันได้พูดคุยกับเขาเมื่อกลางวัน ฉันไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไป กดโทรศัพท์ไปหาวิน เป้าหมายคืออยากรู้จากปากของเขานั่นเอง  ยิ่งโทรก็ยิ่งทำให้เครียดยิ่งขึ้น เพราะไม่มีการรับสายจากปลายทางที่โทรไปเลย  ฉันเดินกระวนกระวายอยู่ภายในห้องพักเฝ้ากดโทรศัพท์หาเขาอยู่เป็นระยะๆ แต่ก็ไร้ผลเช่นเคย....

     

    โหล... น้ำเสียงงัวเงียเมื่อฉันรับโทรศัพท์เมื่อกลางดึก หลังจากที่หลับไปเมื่อไหร่ก็ได้รู้

    เมย์เหรอ... เสียงของวิน เสียงที่ฉันต้องการได้ยินเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา

    เมย์มีอะไรหรือเปล่า เห็นโทรมาตั้งสิบกว่าครั้ง

    เปล่า..แค่เป็นห่วง

    อ๋อ..ไม่ต้องห่วงเราแล้วล่ะ เราไม่เบื่อแล้ว  ถ้าไม่มีอะไรงั้นเราขอตัวไปสนุกต่อนะ

     

                                    ...วินวางสายไป ปล่อยให้ฉันถือโทรศัพท์แนบหูค้างอยู่อย่างนั้น ฉันไม่เข้าใจผู้ชายคนนี้เลยว่าทำไมอารมณ์เค้ามันช่างผันแปรได้รวดเร็วปานนั้น ฉันไม่ควรคิดมากไปเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้เค้าก็กลับมาแล้วล่ะ...

     

                                    ...วันอาทิตย์ทั้งวันฉันไม่ยินเสียงโทรศัพท์ของวินเลย มีเพียงพี่หน่อยที่โทรมาเตือนเรื่องเลี้ยงปลาในห้องเท่านั้น  เวลาผ่านไปจนเกือบค่ำ พี่หน่อยมาเคาะประตูเอาของฝากมาให้ และขอกุญแจเข้าห้องคืน...

    สนุกไหมคะพี่หน่อย

    ก็งั้นๆ แหละแต่ก็ดีได้ความรู้ เทคนิคดีๆ หลายอย่าง

    แล้ววินคงเข้าหอพักไปแล้วสิคะ

    อ๋อ..น้องวินเหรอ  เค้าฝากมาบอกน้องเมย์ว่าจะเอาของฝากมาให้ทีหลังนะ เพราะเค้ายังไม่กลับวันนี้

    หา..ยังไม่กลับวันนี้

    ใช่..เห็นบอกว่าน้องชมพู่เค้าชวนไปเที่ยวบ้านที่สัตตหีบน่ะ น้องเค้าขับรถมาเอง

    ไปกะชมพู่... ฉันแทบไม่เชื่อหูตัวเองเลย

    ใช่..สองคนนี้เค้าสนิทสนมกันจะตายเห็นเต้นคู่กันตลอด

    แล้ววินจะกลับเมื่อไหร่คะพี่หน่อย

    อันนี้พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันนะ...พี่ขอตัวก่อนนะล้ามากๆ เลย ขอบใจนะที่เลี้ยงปลาให้

     

                                    ...พี่หน่อยออกไปแล้วปล่อยให้ฉันยืนงงอยู่ที่หน้าประตูเพียงลำพัง  คนบ้าอะไรบอกเราว่าเบื่อๆๆๆ  แต่พอถึงเวลากลับ ดันไม่กลับ แถมไปด้วยกันกับยัยชมพู่ตัวดีซะอีก  มันชักจะยังไงๆ ซะแล้ว โอ้ย...ฉันต้องนอนไม่หลับอีกแล้วหรือเนี่ยะ...

     

    นายวินคงจะกำลังมีความสุข แต่ฉันสิจมอยู่กับกองทุกข์เพียงลำพัง...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×