ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หักดิบรัก : B R O K E N L O V E

    ลำดับตอนที่ #3 : ด้วยรัก..หวังดี (2)

    • อัปเดตล่าสุด 22 ต.ค. 50


    ด้วยรัก..หวังดี (2)

     

    มะเร็งร้ายที่เกาะกินหัวใจฉัน.. มันเริ่มสำแดงฤทธิ์ออกมาพร้อมกับคราบน้ำตาที่ลบได้ยากเย็น..

     

                                    ...ฉันกับวินยืนสบตากันอยู่ครู่หนึ่ง สายตาของฉันเหมือนกำลังค้นหาคำตอบจากหลายๆ คำถามที่ฉันเฝ้าถามตัวเองในหลายๆ นาทีที่ผ่านมา แต่สายตาของวินมันเต็มไปด้วยร่องรอยของความเศร้า ผิดหวัง อย่างเห็นได้ชัด...

     

    เมย์...ขอให้เราได้เข้าไปข้างในหน่อยนะ

    ฉันไม่ได้ตอบอะไร เบี่ยงตัวให้เขาได้เดินเข้ามาโดยง่ายก่อนที่จะปิดประตูห้องกลับเข้าที่เดิม  แล้วฉันก็ต้องตะลึงที่ถูกจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัว วินโผเข้ามากอดฉันพร้อมกับร้องไห้ ฉันยืนตัวแข็งทำอะไรไม่ถูกเลย เพิ่งเคยเห็นผู้ชายร้องไห้ วินไม่ได้พูดอะไร ฉันก็ไม่ได้ถามอะไรปล่อยให้เขาได้กอดฉันและร้องไห้อยู่อย่างนั้น นานเท่าไรฉันไม่อยากจะรู้หรอกนะแค่เขากอดฉันอยู่อย่างนี้ตลอดไป ฉันก็รู้สึกอบอุ่นใจเหลือเกิน มือที่แข็งทื่ออยู่ข้างลำตัวของฉันค่อยๆ เคลื่อนออกไปโอบรัดเขาเช่นกัน มันคงทำตามคำสั่งของหัวใจที่ตอนนี้ฉันควบคุมมันไม่อยู่แล้ว...

     

    เราขอโทษนะเมย์..ที่...

    อย่าพูดถึงมันเลย เอาเป็นว่าฉันดีใจนะที่นายมา ทีนี้บอกให้ฉันรู้ได้หรือยังว่าเกิดอะไรขึ้นกะนาย

    เขาหลบสายตาฉันไปในฉับพลัน เหมือนครุ่นคิดอะไรอยู่ เขาคงกำลังต่อสู้กับความคิดระหว่างการตัดสินใจที่จะเล่าหรือไม่เล่าให้ฉันฟัง

    เอ่อ....

    เอาล่ะ..ถ้านายยังไม่สบายใจล่ะก็ยังไม่เล่าให้ฉันฟังก็ได้นะ

    ฉันรีบพูดตัดบทเมื่อเห็นเขาทำท่าอึดอัดที่จะเล่า แต่ในใจของฉันนั้นหรือมันเต้นตูมตามอยากจะรู้ให้ได้ในบัดดลเชียว ได้แต่สะกดใจไว้เงียบๆ

    แพรเค้าบอกเลิกกับเรา... เขากล่าวออกมาอย่างยากเย็นเหลือเกิน น้ำเสียงสั่นเครือชอบกล น้ำตาของลูกผู้ชายก็ไหลออกมาโดยอัตโนมัติ ใครว่าผู้ชายร้องไห้ไม่เป็น ต่อไปฉันคงต้องเถียงเพราะ วิน ผู้ชายทั้งแท่งกำลังนั่งร้องไห้อยู่ต่อหน้าของฉันนี่ไง

    แพร...แฟนนายเหรอ ฉันก็ถามไปอย่างนั้นแหละ เพราะพอจะเดาออกจากข้อมูลที่เพื่อนของเขาแซวเมื่อตอนเย็น

    ใช่...แต่ตอนนี้เค้าคงไปเป็นแฟนคนอื่นแล้ว

    โธ่เอ้ย...เรื่องขี้ปะติ๋วเค้าไม่รักเรา ไม่เห็นจะต้องแคร์อะไรเลยน่า ชิวๆ

    ฉันแค่อยากปลอบใจเขาเท่านั้น ทั้งที่จริงๆ อยากจะร้องไห้ด้วยซ้ำที่รู้ว่าเขามีแฟน แต่อีกใจก็แอบลิงโลดที่ปัจจุบันเค้ากำลังครองตำแหน่งชายโสดแล้ว

    พูดง่ายนะเมย์..เมย์ไม่เคยมีความรัก เมย์คงไม่รู้หรอกว่าเวลาคนอกหักมันทรมานแค่ไหน

    ชิชะฉันอยากจะบอกเขาซะเหลือเกินว่าเมื่อกี้ฉันเพิ่งอกหัก เมื่อเขาบอกว่ามีแฟนไง แล้วยังมาหาว่าฉันไม่เคยมีความรัก  มันน่าจะต่อยหน้าให้หงายไปเลย

    เอ่อ...มันก็ใช่นะ แต่ว่าถ้าฉันมีความรักแล้วอกหักอย่างนาย ฉันจะไม่ทรมานตัวเองหรอกนะ ฉันจะบอกให้นะ ความรักมันก็เหมือนสิว พอมันอักเสบเราก็บีบมันทิ้งไปซะ..ง่ายจะตาย

    ฉันเอามือแตะบ่าของวิน คำปลอบใจของฉันคงจะทำให้เขาคิดได้บ้างนะเพราะท่าทางวินสงบลงบ้างแล้ว เขาทำท่าเหมือนกำลังคิดอะไรอย่างหนัก นึกแล้วก็ตลกนะคำที่ฉันพูดออกไปหากเกิดขึ้นกับฉันจริงๆ ฉันจะทำได้อย่างที่คิดหรือเปล่านะ

    ขอบคุณนะเมย์...เรากลับล่ะนะ

    นายโอเคนะวิน....

    อืม...ต่อไปเราคงต้องหนักแน่นให้มากกว่านี้

    วินลุกขึ้นเดินไปที่ประตู แต่ต้องสะดุดอยู่กับที่เมื่อฉันเรียกไว้ จริงๆ แล้วฉันก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับเขา แต่ในความรู้สึกของฉันเพียงไม่อยากให้เขารีบกลับไปตอนนี้เลย

    เอ่อ...ฉันก็ต้องขอบคุณนายนะวิน ที่นายแคร์ความรู้สึกของฉัน

    ไปนะ..

    เขาหันมายิ้มให้ฉัน แล้วเดินออกจากประตูไป  ฉันลุกขึ้นตามไปที่ประตูก่อนจะเปิดประตูออกไปยืนมองเขาเดินจากไป

    วิน...เขาหันกลับมาหาฉัน

    เอ่อ...ถ้าพรุ่งนี้นายว่างไม่มีอะไรทำละก็ เก้าโมงเช้าไปธุระกับฉันไหม

     

    ...เขายังคงยิ้มให้ฉัน แต่ไม่มีคำตอบใดหลุดออกมาจากปากของเขาเลย วินเดินจาก

    ไปแล้วปล่อยให้ฉันยืนมองตามเขาไป พร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าของฉันที่อยากจะอวดให้ใครต่อใครได้เห็นว่าฉันก็มีความสุขเป็นเหมือนกัน...

     

    .............................................................................................................................................................

     

                                    ...วันนี้เป็นอีกวันที่ฉันตื่นมาพร้อมกับความสุข จะมีใครรู้บ้างไหมว่ากว่าที่ฉันจะผ่านเมื่อวานมาได้มันมีบททดสอบอะไรบ้างที่เกิดขึ้นกับฉัน...

     

    เมย์..เมย์ ตื่นหรือยังจ๊ะ

    ฉันเปิดประตูออกทันทีที่ได้ยินเสียงพี่หน่อยมาเรียก ฉันอยู่ในชุดที่พร้อมจะออกไปธุระข้างนอกแล้ว  ธุระของฉันก็คือไปกับพี่หน่อยนั่นเอง พี่หน่อยทำงานเป็นพนักงานออฟฟิศของบริษัทแห่งหนึ่ง แต่ด้วยความคล่องแคล่วบวกกับความขยัน และอัธยาสัยไมตรีทำให้พี่หน่อยอยู่เฉยไม่ค่อยจะเป็น วันนี้พี่หน่อยจะพาฉันไปที่บริษัทอีกแห่งหนึ่งที่ไม่ใช่ที่ทำงานของพี่หน่อย เราเดินออกไปจากหอพักพร้อมๆ กัน

    เมย์...เมย์...รอเราด้วย

    ฉันหันไปตามเสียงเรียกที่คุ้นเคย วินนั่นเองที่วิ่งกระหืดกระหอบตามฉันกับพี่หน่อยมา

    คนอะไร..ชวนกันแล้วก็ไม่ยอมรอกัน

    เอ่อ...ก็ฉันคิดว่านายไม่ได้สนใจนี่นา  เออ...วิน นี่พี่หน่อยเค้าอยู่หอพักเดียวกับเราน่ะ พี่หน่อยคะ นี่วิน เพื่อนเมย์เองคะ ฉันแนะนำให้ทั้งสองคนได้รู้จักกัน

    สวัสดีครับพี่หน่อย..ว่าแต่ว่าวันนี้จะพาผมไปไหนกันล่ะครับ

    ไป....

    เออน่า...ไม่ต้องรู้หรอก เดี๋ยวไปถึงก็รู้เองแหละ

    ฉันชิงพูดก่อนที่พี่หน่อยจะตอบวิน   ให้รู้คำตอบได้ยังไงล่ะว่าเรากำลังจะไปบริษัทที่ทำธุรกิจขายตรงเครื่องสำอาง วันก่อนพี่หน่อยจับคูปองในฐานะตัวแทนขายของบริษัทนี้ได้บัตรฟรีสำหรับนวดหน้าทำหน้ามาสองใบ เลยชวนให้ฉันมาใช้บริการด้วย...วินตามเราสองคนมาอย่างว่าง่าย ในใจของฉันก็คิดนะว่าวินจะทำหน้ายังไงถ้าไปถึงที่นั่นแล้ว...

     

                    ...เรานั่งรถมาได้ไม่นานนักเพราะบริษัทอยู่ห่างจากหอพักเราไม่เกิน 10 ป้ายรถเมล์ เราทั้งสามคนเดินเข้าไปในบริษัทแห่งนี้ ฉันชำเลืองมองดูวินแล้วนึกขำในท่าทางที่เต็มไปด้วยความสงสัย

    เมย์...นี่มันบริษัทขายเครื่องสำอางนี่นา

    เขาถามฉันด้วยความสงสัย

    ก็ใช่นะสิ  แล้วไง จะกลับก็ได้นะ

    ฉันเย้าเค้าเล่น เพียงแค่อยากให้เค้าขำๆ แต่ผิดคาดที่เค้าไม่ขำเลยสักนิด

    กลับไปก็ไม่มีอะไรทำ ตั้งใจมาแล้วนี่ แล้วจะให้เรารอตรงไหนล่ะ

    ก็ตรงนั้นแหละ..เดี๋ยวฉันกะพี่หน่อยไปใช้บริการเสริมความสวยสักชั่วโมง รับรองสวยจนนายจำไม่ได้เชียว..

    ฉันชี้ให้วินไปนั่งรอตรงส่วนบริการลูกค้า แล้วพยักพเยิดกับพี่หน่อยให้เดินเข้าไปด้านในของบริษัท

     

                    ... ฉันกับพี่หน่อยเข้าไปใช้บริการตามขั้นตอนของบริษัทที่ระบุมาในคูปอง จนเพลิน ใช้เวลาไปชั่วโมงกว่าๆ เราก็เดินออกมาหาวินตรงที่นัดหมาย แต่ไม่รู้ว่าวินหายไปไหน โทรหาก็ไม่รับสาย เอ..หรือว่าจะกลับไปแล้ว ฉันได้แต่คิดอย่างนั้น ก็ผู้ชายที่ไหนจะมานั่งอดทนรอผู้หญิงเสริมสวยได้นานนัก ฉันพยายามจะกลับหลายหนแล้วแต่พี่หน่อยคะยั้นคะยอให้นั่งรอวิน เผื่อว่าวินจะมีธุระอะไรแล้วไม่ทันได้ฝากบอกกับใครไว้ให้เรารู้...

     

    ขอโทษนะครับพี่หน่อย...ขอโทษนะเมย์ที่ให้รอนาน

    ฉันกับพี่หน่อยหันไปตามเสียงที่คุ้นเคยนั้น พร้อมกับต้องพบกับความประหลาดใจอย่างยิ่ง วิน ซึ่งกลับมามีใบหน้ายิ้มแย้ม แถมยังใสผ่องประดุจกับไปเสริมความงามมาพร้อมกับฉันและพี่หน่อย ข้างๆ ของวิน มีหญิงสาวนางหนึ่ง บุคลิกดี หน้าตาสดสวยทีเดียว ซึ่งคงเป็นพนักงานของบริษัทแห่งนี้ เพราะสังเกตได้จากชุดฟอร์มซึ่งเป็นชุดของบริษัทแห่งนี้...

    โอ้โห...วินไปทำอะไรมาน่ะ หล่อกว่าเมื่อเช้าอีก

    พี่หน่อยเอ่ยปากถามวิน เมื่อได้สติจากความประหลาดใจ

    เอ่อ..คือตอนที่ผมนั่งรอเมย์กับพี่หน่อย ไม่รู้จะทำอะไร อ่านหนังสือไปซะตั้งหลายเล่มเลยครับ  พอดีคุณชมพู่ เข้ามาแนะนำสินค้าของบริษัท แล้วก็ชวนไปเสริมหล่อมานิดหน่อยครับ

    เออ..ดีเหมือนกัน เมย์ยังพูดกับพี่เลยว่าป่านนี้วินคงหนีกลับไปซะแล้ว

    ที่ไหนได้... ฉันพูดต่อจากพี่หน่อย ด้วยหางเสียงที่ไม่ค่อยพอใจนัก

    อย่าโกรธไปเลยน่าเมย์   ก็คุณชมพู่น่ะสิพูดหว่านล้อมเราซะอยู่หมัดเลย

    จ้า....งั้นเรากลับกันเถอะ เดี๋ยวพี่หน่อยจะไปธุระที่อื่นอีก

    ฉันรีบตัดบทชวนวินและพี่หน่อยกลับในทันที 

    เอ่อ..คุณวินคะ  นี่นามบัตรของชมพู่ค่ะ

    แม่สาวสวยที่วินแนะนำเมื่อครู่ นำนามบัตรมาส่งให้กับวิน

    ขออนุญาต ให้ชมพู่จดเบอร์โทรของคุณวินไว้หน่อยนะคะ

    วินบอกเบอร์โทรศัพท์ให้แม่สาวสวยคนนั้นไปอย่างว่าง่าย  ฉันไม่รีรออีกต่อไปรีบสาวเท้านำหน้าเดินออกมาจากบริษัทอย่างหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก  พี่หน่อยเดินตามมาติดๆ ในขณะที่วินยังยืนคุยอยู่กับแม่สาวคนนั้นสักครู่จึงเดินออกมาก

    แหมเจอสาวสวยเข้าหน่อย  กระดี๊กระด๊าจังเลยนะวินฉันแซวด้วยเสียงจริงจัง

    ก็ธรรมดา คนหล่อ เจอกะคนสวย จริงไหมครับพี่หน่อย

    พี่หน่อยยิ้มให้วินแทนคำตอบ แต่เหลือบมองอากัปกิริยาของฉันอยู่ในที

     

                    ...เมื่อมาถึงปากซอยเข้าหอพัก พี่หน่อยขอตัวไปทำธุระต่อปล่อยให้ฉันและวิน เดินเข้าซอยมาด้วยกัน ตลอดทางเดินจากปากซอยถึงหอพักก็ไม่ไกลนัก แต่ฉันรู้สึกว่าเหมือนฉันกำลังเดินอยู่บนเส้นทางที่ยาวไกลเหลือเกิน ฉันกับวินไม่ได้พูดอะไรกันเลยแม้แต่คำเดียว จนวินต้องเป็นฝ่ายเริ่มต้นก่อน...

    เป็นอะไร...ผีเข้าสิงร่างเธอเหรอเมย์ ไม่พูดไม่จาอะไรเลย

    เขาถามฉันเป็นทีเล่น พร้อมกับหัวเราะหึๆ ในลำคอ

    ป่าว...ไม่ได้เป็นอะไรสักกะหน่อย แค่ไม่อยากคุยก็เท่านั้น

    ยังไม่ทันที่เราจะสนทนากันต่อ เสียงโทรศัพท์ของวินก็ดังขึ้น เขาหยิบขึ้นมาดูหน้าจอ แล้วพูดลอยๆ ว่าไม่รู้เบอร์ใคร แต่พอพูดไปสักครู่ก็รู้สึกว่าเขาคุยกันคุ้นเคยดี ฉันเลยเดินนำหน้าต่อไป แต่หูฉันก็คอยเงี่ยฟังการสนทนานั้นอยู่นะ แม้จะไม่ถนัดและไม่รู้ความเท่าไรนัก

    ไม่อยากรู้เหรอว่าใครโทรมา

    ใครจะโทรมา แล้วเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ

    คุณชมพู่...

    ชื่อนี้มันทำให้ฉันสะดุดขึ้นมาทันที

    แม่สาวสวยเมื่อกี้เนี่ยะนะ โทรมา

    ใช่ ...เค้าก็แค่โทรมาบอกข่าวการบริการพิเศษของบริษัทน่ะ ยังคุยไม่รู้เรื่องเลย เค้าบอกว่าจะโทรมาใหม่ อะไรก็ไม่รู้เนอะ..

     

                    ...ฉันไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ วินส่งฉันที่หน้าหอพักแล้วขอตัวกลับไปยังหอพักของเขา ฉันยืนมองเขาเดินจากไป พร้อมกับเสียงโทรศัพท์ของเขาที่ดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง....

     

    ชมพู่...แม่สาวสวยคนนี้ ทำไมเธอต้องเข้ามามีบทบาทกับชีวิตของฉันด้วยนะ วินก็ท่าทางจะพร้อมเปิดใจรับหล่อนซะด้วยสิ...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×