ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หักดิบรัก : B R O K E N L O V E

    ลำดับตอนที่ #1 : รักแรก...แรกรัก

    • อัปเดตล่าสุด 19 ต.ค. 50


                                                                                                    

                                                                               รักแรก...แรกรัก

                      "
    วิน..คือชายหนุ่มที่ฉันอยู่ใกล้ๆ เขาแล้วรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก"

                              ...
    หลังจากที่ฉันพยายามวิ่งแข่งกับเม็ดฝนที่กำลังโปรยปรายลงมาอย่างไม่ขาดสาย แล้วมาหยุดอยู่ตรงหน้าหอพักที่ฉันเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ได้ไม่นาน เมื่อตอนฉันเรียนอยู่ปี 1 ฉันอยู่หอพักหญิงใกล้มหาวิทยาลัย แต่เพื่อความประหยัดค่าใช้จ่ายและเพื่อให้ชีวิตคนเมืองมือใหม่อย่างฉันจะได้ดำเนินไปอย่างราบรื่นต่อไป ที่สำคัญฉันคิดว่า ปี 2 ฉันโตพอที่จะสามารถดูแลตัวเองได้แล้ว และการที่ฉันเลือกที่จะอยู่หอพักรวมก็เป็นวิธีหนึ่งในการลดค่าใช้จ่ายนั่นเอง

    "เปียกฝนหมดเลยนะครับ" เสียงปริศนาเอ่ยทักขึ้น

    "หน้าฝนก็อย่างนี้แหละครับ...ทำเอาคนอย่างเราเดือดร้อนไปด้วย"

    ฉันไม่ได้สนใจในคำพูดเหล่านั้นหรอก เพราะไม่แน่ใจว่าเขาพูดคนเดียวหรือพูดอยู่กับใคร

    "คุณเพิ่งกลับจากมหาวิทยาลัยเหรอครับ" ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงอันนุ่ม และยิ้มอย่างเป็นมิตรให้ฉัน

    "เอ่อ...ค่ะ" ฉันตอบเขาไปเมื่อแน่ใจว่าเขาพูดอยู่กับฉัน

    "คุณคงเข้ามาอยู่ใหม่..ฉันไม่เคยเห็นคุณเลย"

    ฉันขมวดคิ้วเล็กน้อยทำท่าเหมือนพยายามนึกให้ได้ว่าเคยเห็นชายที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าหรือไม่

    "ไม่ใช่ครับ...ผมเพียงแค่เข้ามาหลบฝนครับ"

    "อ๋อเหรอคะ..เอ่อ..ฉันขออนุญาตนะคะจะเข้าข้างใน" 

    เขาขยับตัวเพื่อหลีกทางให้ฉันเมื่อรู้ตัวว่ายืนขวางทางเข้าหอพักอยู่ ใบหน้าของเขายิ้มอย่างเขินอาย และยังไม่ทันที่ฉันจะได้กล่าวขอบคุณเขา เขาก็วิ่งฝ่าสายฝนไปภายในซอย ฉันได้แต่ยืนมองเขาไปจนสุดสายตา...

                      ...
    คืนนั้นฉันจำได้ว่าฉันนอนไม่หลับอย่างที่เคย ภาพของชายหนุ่มเสียงนุ่มนวล ใบหน้ายิ้มอย่างเป็นมิตร เมื่อเย็นนี้ยังคงวนเวียนเข้ามาในห้วงความคิดของฉันตลอดเวลา ทำไมฉันต้องนึกถึงหน้าเขาด้วยนะ  แล้วเขาเป็นใครนะ เขาอยู่ในซอยนี้หรือเปล่า ทำไม......... หลากหลายคำถามผลัดเปลี่ยนกันเข้ามาชิงหาคำตอบให้กับต้วฉัน แต่ฉันก็ไม่สามารถตอบได้แม้แต่คำถามเดียว เพราะฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเขาเลยสักนิด ฉันเพียงแต่รู้ว่าคืนนี้ฉันรู้สึกว่าฉันสามารถนอนหลับไปพร้อมกับใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มแห่งความสุขไม่เหมือนกับหลายๆ คืนที่ผ่านมา.....

                      ...
    เช้าวันรุ่งขึ้นระหว่างทางที่ฉันกำลังเดินไปป้ายรถเมล์ปากซอย  หัวใจฉันเต้นอย่างที่ไม่เคยเป็น สายตาสอดส่ายเหมือนกำลังหาใครบางคนที่อาจจะเดินปะปนอยู่กับผู้คนที่สัญจรไปมาในซอยแห่งนี้ ฉันมัวหลงระเริงกับเกมส์การค้นหาเป้าหมายจนเกือบพลาดรถเมล์ที่ฉันใช้เป็นเครื่องเดินทางไปมหาวิทยาลัยเป็นประจำ

                      ...
    ไม่น่าเชื่อเลยว่า ชายหนุ่มที่ฉันกวาดสายตาหามาตั้งแต่เช้าจะมาปรากฏกายอยู่ตรงหน้าของฉัน ที่ไม่คาดคิดก็คือเขาเรียนอยู่ที่เดียวกับฉันด้วย สายตาของฉันมองไปยังชายหนุ่มที่กำลังสาละวนอยู่กับการเลือกหาหนังสืออยู่ที่ชั้นหนังสือของห้องสมุด ฉันไม่รอเวลารีบก้าวเท้าเข้าไปยังเป้าหมายทันที...

    "
    กำลังหาหนังสืออะไรอยู่เหรอคะ"
    "
    อ๋อ...คุณนั่นเองครับ" ชายหนุ่มผละจากภารกิจที่ทำอยู่ทักฉัน
    "
    กำลังหาหนังสือไปทำรายงานส่งอาจารย์ครับ แต่หาได้ไม่ครบเลยครับ"
    "
    ฉันพอจะช่วยคุณได้ไหมคะ" 
    ฉันไม่ได้รอคำตอบจากปากของเขาแม้เพียงนิด ลงมือช่วยค้นหาหนังสือทั้งที่ยังไม่ทราบเลยว่าเขาต้องการหาหนังสืออะไร จนเค้าต้องเอ่ยปากบอกชื่อหนังสือ เมื่อเห็นว่าฉันพยายามแสดงน้ำใจอย่างออกนอกหน้า ฉันใช้เวลาไม่นานก็ช่วยเขาหาหนังสือจนครบ
    "
    ต้องขอบคุณมากนะครับ คุณ...."
    "
    เมย์ค่ะ" ฉันชิงบอกชื่อของฉันโดยไม่ลังเลใจเลยสักนิด
    "
    ครับ คุณเมย์ ผมวินครับ ถ้าไม่ได้คุณช่วยผมคงต้องหาอีกนานเลย"
    "
    ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเต็มใจช่วยเหลือค่ะ"

                     ...
    แน่นอนเราไม่ได้หยุดความสัมพันธ์ไว้เพียงแค่นั้น เพราะฉันได้มีโอกาสคุยกับเขาอีกนานสองนานก่อนที่เราจะแยกย้ายกันไป จากเหตุการณ์วันนั้นมันทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันยิ่งอยากจะเห็นหน้าเขาอีก อยากพูดคุย เขาทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยวในโลกนี้อีกต่อไป ทุกๆ คืนฉันก็ยังคงคิดถึงเขา คำถามต่างๆ ก็ยังคงแวะมาทักทายฉันเหมือนทุกๆ คืนที่ผ่านมา และฉันก็สัญญากับคำถามเหล่านั้นว่าฉันจะต้องหาคำตอบมาเป็นของขวัญให้กับพวกมันให้ได้..........

                     ...
    เย็นวันอาทิตย์ ฉันออกมายืนรับลมที่ระเบียงชั้นสองของหอพัก ซึ่งปกติฉันจะออกมานั่งอ่านหนังสือ บ้างก็คุยกับเพื่อนที่พักในหอพักแห่งนี้ อยู่บ่อยๆ เมื่อมีโอกาส ขณะที่สายตาของฉันมองบรรยากาศที่เป็นไปภายในซอยบังเอิญไปสะดุดกับร่างของชายคนหนึ่งที่ฉันคุ้นเคย แต่ทำไมวันนี้เขาดูไม่มีชีวิตชีวาเอาเสียเลย..

    "
    คุณวินคะ..คุนวิน" ฉันตะโกน พร้อมกับโบกมือให้เขาจากระเบียงด้านบน
    เขาเพียงแค่เงยหน้าขึ้นมามองเพื่อแสดงความรับรู้ว่าเขาเห็นฉัน แล้วเขาก็เดินต่อไปโดยไม่ได้โต้ตอบอะไรกับฉัน ใช่...ฉันไม่ปล่อยให้เวลามันเดินไปได้นานนัก ฉันรีบถลาวิ่งลงบันไดออกจากหอพักเพื่อไปค้นหาสิ่งที่ฉันอยากจะรู้ในขณะนั้น
    "
    คุณวิน...คุณมีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าคะ" ฉันถามเมื่อวิ่งไปจนประชิดตัวเขา
    "
    ไม่เป็นไรหรอกครับ เพียงแค่...เอ่อ...รายงานที่ผมต้องส่งอาจารย์พรุ่งนี้สิครับ ถูกเจ้าไวรัสมันเล่นงานหมดเลย พรุ่งนี้เลยไม่รู้จะได้ส่งหรือเปล่าก็ไม่รู้ครับ"
    "
    แย่เลยนะคะ  แต่ก็ไม่เป็นไรนี่ยังเหลือเวลา คุณก็ทำมันขึ้นมาใหม่สิคะ"
    "
    พูดง่ายจริงนะคุณ..ผมใช้เวลาตั้งหลายวันกว่าจะพิมพ์มันขึ้นมาได้น่ะ" เขาพูดอย่างหมดหวัง
    "
    คุณจะกลัวอะไรคะ  มือโปรจะช่วยคุณเอง"
    "
    มือโปร?!?...." เขาทำหน้างง
    "
    ก็ยืนอยู่ตรงหน้าคุณนี่ไงคะ...ฉันขออาสาช่วยคุณเอง รับรองคิดไม่แพง สนหรือเปล่าคะ"

                     ...
    ใช่ค่ะ ฉันเสนอตัวอาสาช่วยเขาพิมพ์รายงานไม่รู้ว่าอะไรมาดลใจให้ฉันพูดไปโดยไม่ทันคิดอย่างนั้น แต่เหตุผลหนึ่งก็คือฉันมั่นใจในฝีมือการพิมพ์เร็วของฉัน แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลสำคัญเท่ากับการที่จะได้มีโอกาสอยู่ใกล้กับผู้ชายที่ฉันเฝ้านึกถึงแต่ใบหน้าของเขาก่อนหลับอย่างมีความสุขในทุกค่ำคืนนั่นเอง ปัญหามันไม่ใช่แค่นั้นสิ เพราะวินพักอยู่ในหอพักชาย ซึ่งฉันคงไม่กล้าที่จะเข้าไปช่วยเขาพิมพ์รายงานที่หอพักของเขาแน่ๆ ทางออกเลยมาลงตัวที่ห้องของฉัน ตอนแรกวินก็ออกจะเกรงใจแต่เหตุผลที่ฉันยกมาอ้างต่างๆ นานา คงพอที่จะให้วิน ยอมหอบหนังสือ ตำราและเอกสารเพื่อมาทำรายงานที่หอพักที่ฉันอยู่

    "
    อืม...คุณเมย์จัดห้องได้สวยน่าอยู่นะครับ" เขาเอ่ยปากชมเมื่อพ้นประตูห้องของฉันเข้ามาด้านใน ฉันได้แต่อมยิ้มด้วยความภูมิใจก็อุตส่าห์ลงแรงเสียเหงื่อไปหลายหยด ในเวลาอันน้อยนิดก่อนเขาจะมาถึง ฉันเริ่มลงมือพิมพ์รายงานให้เขา ในขณะที่วินก็กุลีกุจอค้นข้อมูลจากในหนังสือ ตำราและเอกสารต่างๆ ส่งให้ฉันพิมพ์อย่างต่อเนื่อง หลายครั้งที่เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ ฉัน มันทำให้ฉันรู้สึกใจเต้นและมีพลังอย่างมหาศาลที่จะต่อสู้กับความง่วง นี่แหละมั้งที่เขาบอกว่าเวลาที่เราทำอะไรให้กับคนที่เรารู้สึกพิเศษ เราก็จะลืมแม้ความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบาก ความทุกข์ทรมาน จะมีแต่ความสุขที่เต็มเปี่ยมอยู่ในหัวใจ....

                        ...
    หลายครั้งที่ฉันต้องเรียกชื่อเขาให้ตื่นขึ้นมานั่งคุยเป็นเพื่อน เพราะเขามักจะเผลอหลับฟุบไปกับกองหนังสือที่เขาขนมานั่นเอง แม้เวลาที่เขาหลับฉันยังแอบมอบเขาเพื่อเป็นการชาร์ตแบตเตอรี่ให้มีพลังในการพิมพ์งานอย่างมีความสุข ตีห้ากว่าๆ ภารกิจที่ฉันขันอาสามานั้นก็สำเร็จลุล่วง มันเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของฉันเลยทีเดียว

    "
    คุณวิน...ตื่นเถอะคะ งานเสร็จแล้วนะคะ" ฉันเอื้อมมือไปเขย่าตัวของเขาอย่างตื่นเต้น
    "
    หา...เสร็จแล้วเหรอ" เขาขยี้ตาเพื่อให้คลายจากความง่วง
    "
    เสร็จแล้วสิคะ ให้รู้ซะบ้างว่าใครทำ" ฉันพูดอย่างภาคภูมิเหมือนเป็นวีรสตรีที่ชนะสงครามก็ไม่ปาน
    "
    ขอบคุณมากนะครับ คุณเมย์ ผมนี่แย่จัง ทำให้คุณพลอยเดือดร้อนไปด้วย"
    "
    ไม่เดือดร้อนสักนิด...ฉันเต็มใจทำเองต่างหาก อย่าคิดมากไปเลยค่ะ"
    "
    ยังไงก็ต้องขอบคุณครับ เอ่อ..ผมไม่รู้จะตอบแทนคุณเมย์ยังไง" เขายกมือขึ้นเกาศีรษะแก้เก้อ
    "
    ไม่ต้องหรอกค่ะ..เพียงแค่ต่อไป คุณเรียกฉันว่า เมย์ ไม่ต้องมี คุณ นำหน้า แล้วฉันก็จะเรียกคุณว่า วิน ok นะคะ"
    ฉันสรุปโดยเผด็จการ ไม่รอแม้แต่คำตอบรับหรือปฏิเสธจากเขาเลย  วินรีบเก็บหนังสือ ตำราและเอกสาร รวมทั้งรายงานที่เพิ่งออกมาจากเตาอบร้อนๆ กึ่งเดินกึ่งวิ่งออกไปจากหอพัก โดยไม่ได้สนใจสายตาหลายคู่ที่มองตามไปอย่างสงสัย

                        ...
    นับจากนั้นมา วิน ก็เป็นแขกที่คุ้นเคยของหอพักแห่งนี้ เพราะวินมักจะมีงานมาให้ฉันช่วยพิมพ์เสมอ ที่สำคัญฉันเองก็เต็มใจซะดัวยสิ แถมยังแอบภาวนาให้อาจารย์สั่งรายงานให้วินเยอะๆ เราจะได้มีโอกาสอยู่ใกล้ชิดกันบ่อยมากขึ้น ฉันรู้สึกว่าฉันมีความสุขทุกครั้งที่มีวินอยู่ใกล้ๆ หัวใจเต้นแรง ยิ่งได้เห็นรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ของเขา มันซึมแทรกเข้าในในทุกอณูของความรู้สึกของฉันเลยทีเดียว อาการอย่างนี้บ่งบอกได้ว่า วิน เป็นคนพิเศษที่ฉันรอคอยมานาน และความรู้สึกแบบนี้แหละที่ฉันเรียกมันว่า "ความรัก"

                       ...
    ไม่รู้ว่าในเศษเสี้ยวของความรู้สึกของวิน จะมีสิ่งที่ฉันเรียกว่าความรักเจือปนอยู่บ้างไหม ในข้อนี้ฉันคงไม่มีโอกาสได้รับรู้ได้เลย แต่ก็ไม่เป็นไรแค่ วิน มีความรู้สึกดีๆ กับฉันแบบนี้ ฉันของเท่านี้ก็พอ...

                 
    นี่แหละคือจุดเริ่มต้นความรักของฉันที่มีต่อวิน ดูแล้วมันน่าจะราบรื่นตลอดรอดฝั่ง.....ถ้า.........

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×