ตอนที่ 21 : บทที่ ๙ หนามยอกใจ
หลังจากที่ทั้งคมน์และนิลินต่างรับรู้ความรู้สึกของกันและกัน นับจากวันนั้นเขาก็หายหน้าไป นานเกือบสองอาทิตย์ที่ชายหนุ่มไม่ได้แวะเวียนมาเยี่ยมเยือนนิลินและมารดาเหมือนอย่างเคย หญิงสาวยอมรับกับตนเองเงียบๆ ว่าคิดถึง แต่ก็พยายามบอกตนเองว่าดีแล้วที่เขาห่างไปแบบนี้ มันดีใจของหล่อน
สำหรับคมน์แล้ว เขายอมรับว่าเสียใจที่เคยทำให้หญิงสาวผิดหวังจนฝังใจจึงพยายามอยู่ให้ห่างชั่วคราว กระทั่งวันนี้เขาได้พามารดามาซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ทำให้ได้พบกับคนที่เขาไม่เคยคิดจะพบอีกโดยบังเอิญ
“พี่คมน์ มาซื้อของหรือคะ”
คมน์หันไปตามเสียงทักจากด้านหลังขณะรอมารดาลองเสื้อภายในร้าน ส่วนเขายืนดูโทรศัพท์ฆาเวลาไปพลาง
“ยุ”
ยุ หรือ ยุดาวรรณยิ้มหวานให้คมน์ หญิงสาวคือเพื่อนร่วมห้องและเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันกับนิลินสมัยเรียนมัธยมเรียกว่าเป็นเพื่อนสนิทกันก็ไม่ผิด มาแยกย้ายตอนที่ต่างฝ่ายต่างเข้าเรียนมหาวิทยาลัย
“พี่คมน์สบายดีหรือคะ” ยุดาวรรณยิ้มหวานให้คนตัวสูงตรงหน้า คมน์ดูไม่เปลี่ยนไปสักเท่าไร ยังหล่อเหมือนเดิม เพียงแต่ดูสุขุมขึ้นตามวัย เวลาเดียวกันคมน์กวาดตามองคนตรงหน้าอย่างรวดเร็ว ยุดาวรรณเป็นลูกสาวของแม่ค้าขายผลไม้ในตลาด เมื่อหลายปีก่อนเขาได้ข่าวว่าหล่อนไปเรียนต่อและทำงานในต่างประเทศ
“สบายดี”
“ดีใจที่เจอพี่คมน์ ยุเพิ่งกลับมาจากออสเตรเลียเมื่ออาทิตย์ก่อน กลับมาอยู่บ้านเลยนะคะคราวนี้ นี่กำลังหาเวลาไปเยี่ยมพี่คมน์อยู่พอดีเลยค่ะ แต่มาเจอกันแบบนี้ก็ดีใจ พี่คมน์พอมีเวลาว่างไหม ยุอยากชวนไปหาอะไรดื่มกันสักแก้ว”
ไม่เพียงน้ำเสียงอ่อนหวาน แต่รอยยิ้มและสายตาหวานกว่า ราวกับว่าต้องการรื้อฟื้นความหลังครั้งเก่า ชายหนุ่มลอบผ่อนลมหายใจแล้วตอบ
“วันนี้คงไม่สะดวก เพราะพี่พาแม่พาซื้อเสื้อผ้า อีกเดี๋ยวก็จะกลับแล้ว” เขาตอบตามความจริง ทำให้คนงามตรงหน้ามีสีหน้าผิดหวังลงอย่างชัดเจน
“ว้า เสียดายจัง ถ้าอย่างนั้น ยุไปหาที่บ้านนะคะ”
ไม่ทันที่คมน์จะปฏิเสธเสียงของมารดาก็ดังขึ้น
“คมน์แม่เสร็จแล้วลูก กลับบ้านกัน” ฉวีบอกกับลูกชายก่อนจะหันมามองผู้หญิงสาวสวยคุ้นหน้าคุ้นตา ยุดาวรรณยิ้มหวานให้นางพร้อมยกมือไหว้ทำความเคารพ
“สวัสดีค่ะแม่ จำยุได้ไหมคะ”
ฉวีขมวดคิ้วนิ่วหน้านึก และแล้วความทรงจำครั้งเก่าก็ผุดขึ้นมาในความคิด นางเบิกตากว้างก่อนจะมองลูกชายสลับกับสาวสวยแล้วยิ้มให้
“อ้อ! จำได้แล้วจ้ะ ไม่เจอกันเสียนานนะ หนูสวยขึ้นมากจนป้าเกือบจำไม่ได้” ฉวีตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ไม่ได้แทนตัวเองว่าแม่เหมือนที่อีกฝ่ายพยายามเรียก ก่อนหันไปมองลูกชายด้วยสายตาจับผิด แต่คมน์ดูปกติไม่วอกแวกหรืออ่อนไหวแต่อย่างใด จึงถอนหายใจแล้วเอ่ยชวนลูกกลับ
“กลับกันเถอะ เดี๋ยวพ่อจะรอนาน ป้าขอตัวกลับก่อนนะหนู”
ยุดาวรรณค่อนข้างผิดหวังที่ฉวีไม่ได้ให้ความสำคัญหรือความสนใจในตัวหล่อน เช่นเดียวกับคมน์ที่ดูท่าทางระวังตัวเสียจนน่าหมั่นไส้ คล้ายกับว่าพยายามกันตัวเองออกและเว้นระยะห่างจากหล่อน เขาดูสุขุมไม่เหมือนเมื่อก่อนที่หูตาแพรวพราวเล่นง่ายกว่านี้มาก แต่ใครจะรู้ เขาอาจจะแค่วางท่าไปอย่างนั้น เพราะนิสัยเนื้อในของคนเราใช่ว่าจะเปลี่ยนไปได้ง่ายๆ คิดถึงเรื่องนี้ก็พานให้คิดถึงอดีตเพื่อนรัก...
“ลินสบายดีไหมคะ”
คำถามของอีกฝ่ายทำให้คนที่กำลังก้าวออกจากหน้าร้านเสื้อต้องชะงักทั้งแม่และลูก ฉวีมีรอยยิ้มแต้มใบหน้าจางๆ ต่างจากแววตาที่เรียบจัด ส่วนคมน์ไม่ยิ้มเลยแต่เขายังมีแก่ใจตอบออกมา
“สบายดี พี่กลับก่อนนะ” เขาพูดแค่นั้นก็หันไปรับของจากมือแม่แล้วเดินตามกันออกไปทันที ทิ้งให้สาวสวยยืนมองด้วยสายตาวาววับ รอยยิ้มที่ฉาบอยู่บนใบหน้าเรียวจางหายในพริบตา
ฉวีมองใบหน้าคมคายด้านข้างของลูกชายแล้วถอนหายใจ แม้จะดูท่าทางเฉยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะรู้สึกอะไรกับการได้พบหน้าผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง แต่นางสัมผัสได้ว่าลูกชายกำลังเกิดความกังวลอยู่ลึกๆ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ความวัวำม่ทันกาย ความควายเข้ามาแทรก ระวังตัวนะพี่คมน์ ศึกหลายด้าน
เพราะผู้ชายดีๆ เหลือน้อยลง
โจทย์เก่าโจทย์ใหม่เรียงหน้าตามกันมาเลอ หึๆ ชั้นควรจะเชียร์แกรมั้ยเนี่ย ฮึ
อย่าตกม้าตายซะก่อนนะยะ