ตอนที่ 12 : บทที่ ๖ เพื่อนเก่า
๖
เพื่อนเก่า
ร่างสูงใหญ่ซ้ำยังกำยำของชายผิวเข้มก้าวลงจากรถจี๊ปสีดำที่หน้าบ้านของนิลิน ทำให้คนที่อยู่ในบ้านต้องก้าวออกมาดูพลางหรี่ตามอง กระทั่งชายร่างสูงมาหยุดอยู่ด้านนอกรั้ว ความคลับคล้ายคลับคลาทำให้หญิงสาวพยายามนึก และเมื่อคนที่อยู่นอกรั้วส่งยิ้มให้ หญิงสาวจึงจำได้ในวินาทีนั้น
“โนช!”
เสียงร้องทักออกมาด้วยความดีใจเรียกมารดาให้ก้าวตามออกมาจากภายในบ้าน ส่วนหญิงสาวเดินแกมวิ่งออกไปเปิดประตูรั้วให้เพื่อนเก่าทันที
“โนชเหรอ โอ๊ย หายไปไหนมาตั้งนาน เข้ามาก่อนนะ ลินเปิดรั้วให้”
มาโนชยิ้มให้หญิงสาวอย่างยินดีไม่แพ้กัน ดวงตาคู่คมลอบมองเพื่อนรักในอดีตไม่คลาด
“ดีใจที่เจอลินเหมือนกัน ยังคิดอยู่ว่าลินจะอยู่บ้านไหม” ชายหนุ่มกวาดตามองอดีตเพื่อนด้วยแววตาชื่นชม นิลินยังคงน่ารักเช่นเดิม และสวยมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว
สายตาชื่นชมที่มาโนชมองมาอย่างไม่คิดปิดบังความรู้สึกทำให้นิลินแก้มร้อน
“เข้าบ้านก่อนเถอะ” หญิงสาวรีบเปิดรั้วให้เพื่อนนำรถเข้ามาจอดเอาไว้ภายในบริเวณบ้าน มาโนชยิ้มให้อีกฝ่ายแล้วรีบขยับรถเข้ามาทันที หญิงสาวรอจนอีกฝ่ายลงมาจากรจี๊ปแล้วเดินนำเข้าไปด้านในซึ่งมีมารดายืนรออยู่ นางกำลังคิดว่าคนตัวโตหน้าตาดีที่เดินตามหลังบุตรสาวมานั้นเป็นใคร
“สวัสดีครับแม่ ผมมาโนชเองครับ” เขาทำความเคารพจำปีพร้อมกับแนะนำตัวเองเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายทำท่าจำเขาไม่ได้
จำปีนิ่งคิด แล้วก็เบิกตาโตก่อนจะยิ้มกว้างแล้วก้าวเข้าไปหา ยกมือขึ้นลูกไหล่ลูบแขนอีกฝ่ายอย่างดีใจแกมแปลกใจและชื่นกับความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นจนไม่อยากจะเชื่อสายตาของมาโนช
จากเด็กหนุ่มยากจน หยุดเรียนเพียงแค่มอหกแล้วเดินทางตามบิดาออกจากหมู่บ้านไปทำงานก่อสร้าง วันนี้มาโนชกลับมาพร้อมความสมบูรณ์พรั่งพร้อมกลายเป็นชายหนุ่มกำยำ มีสง่าราศีจนจำไม่ได้
“ตายแล้ว นี่โนชเองเรอะ โตเป็นหนุ่มใหญ่ หล่อเสียจนแม่จำไม่ได้เลย แล้วนี่กลับมาเยี่ยมบ้านใช่ไหม พ่อเราล่ะ มาด้วยหรือเปล่า”
จำปีไต่ถามถึงคนเคยรู้จัก ยินดียิ่งนักที่ได้พบหน้ากันอีกครั้ง เพราะจากไปนานจนแทบลืมเลือน
“พ่อก็มาครับ ตอนนี้อยู่ที่บ้านป้า ผมเลยขอตัวมาหาแม่กับ ลินที่นี่” มาโนชบอกเล่า สายตาคมเข้มมองเพื่อนรักที่เขาไม่เคยลืมเลือนเป็นระยะ ทำให้จำปีปรายตามองลูกสาวแล้วยิ้มจาง
“เอ้าๆ มานั่งก่อนมาลูก แล้วนี่ถืออะไรมาเยอะแยะ” นางหลุบสายตามองของพะรุงพะรังในมือของชายหนุ่ม มาโนชนึกได้จึงรีบยกของฝากส่งให้กับสองแม่ลูก
“ก็พวกของฝากน่ะครับ ผมหิ้วมาฝากแม่กับลิน ช่วยรับไปด้วยนะครับ ผมตั้งใจซื้อมาฝากจริงๆ”
ทั้งสีหน้าแววตาและน้ำเสียงจริงใจของชายหนุ่มรุ่นลูกทำให้คนเป็นแม่รับไปด้วยความตื้นตันใจ
“ขอบใจมากนะโนช”
“ครับแม่”
“นั่งคุยกันไปก่อนนะ เดี๋ยวแม่มา” จำปีเปิดทางให้สองหนุ่มสาวได้พูดคุยกันอย่างสะดวก ระหว่างนั้นนางก็หายเข้าไปใสครัว เตรียมผลไม้และเครื่องดื่มต้อนรับแขก
มาโนชกวาดตามองเพื่อนรักด้่วยสายตาชื่นชมไม่หยุดหย่อน มองนานเสียจนคนถูกมองรู้สึกเขินนิดๆ
“มองอะไรนักหนาโนช” นิลินเอ่ยทักท้วงพลางยิ้มให้ มาโนชกะพริบตาที่จ้องมองเพื่อนรักซึ่งอยู่ในใจของเขาไม่เคยจางพร้อมรอยยิ้มกว้าง ดีใจเหลือเกินที่ได้พบหล่อนในวันนี้
“ก็มองลินน่ะสิ รู้ไหม ตอนที่เราขับรถมาบ้านลิน เราลุ้นแทบตายว่าจะได้เจอลินหรือเปล่า ใจหนึ่งก็กลัวไม่เจอ ถึงกับขนาดภาวนาของให้ลินอยู่บ้านเลยนะ” เขาบอกพลางหัวเราะขันตัวเอง ทำให้่นิลินต้องหัวเราะตามไปด้วย เวลานั้นหญิงสาวได้มีโอกาสสำรวจเพื่อนในอดีตคนนี้ชัดๆ เป็นครั้งแรก
มาโนชมีร่างกายสูงใหญ่กว่าแต่ก่อนมาก ใบหน้าแม้ไม่ถึงกับหล่อเหล่าแต่ก็คมคายเรียกสายตาสาวๆ ได้ไม่ยาก หล่อนเคยรับรู้มาจากแม่ว่าอีกชายหนุ่มติดตามบิดาขี้เหล้าออกจากหมู่บ้านไปทำงานก่อสร้างกับญาติ ทำให้นึกเสียดายที่อีกฝ่ายไม่ได้เรียนอย่างที่เขาต้องการ แต่ก็เข้าใจดีว่าเป็นเพราะฐานะที่ยากจนข้นแค้น ทำให้มาโนชจำต้องหันเหไปทำงานแทน
“แม่เคยบอกว่าโนชตามพ่อไปทำงานก่อสร้าง ตอนนี้โนชยังทำอยู่หรือเปล่า”
มาโนชยิ้มให้เพื่อนรัก เขาไม่เคยอายที่จะบอกกับใครว่าตนนั้นเคยทำงานอะไรมาก่อน หลายคนอาจมองว่าเขานั้นต่ำต้อย แต่เพราะงานต่ำต้อยนี้นี่แหละที่ทำให้เขามีวันนี้
“ใช่ ตอนที่เรียนจบมอหกเรากะจะไปสมัครงานโรงงาน แต่พอดีลุงของเราที่เป็นช่างรับเหมาก่อสร้างมาหาและชวนให้พ่อเราไปทำงานด้วย เราก็เลยตัดสินใจไปกับพ่อ ไม่ได้ไปทำงานโรงงานเหมือนที่คิดเอาไว้ในตอนแรกหรอก”
เขาเล่าด้วยสีหน้าเจือยิ้ม ไม่ได้มีอาการอึดอัดหรืออับอายใดๆ ตรงกันข้ามเขาดูภาคภูมิใจกับเส้นทางชีวิตเส้นนี้เสียด้วยซ้ำไป
นิลินมองเพื่อนที่แตกต่างออกไปจากเดิม แตกต่างไปในทางที่ดี แล้วคิดว่าเขาคงประสบความสำเร็จกับชีวิตและอาชีพที่เลือกนี้ไม่น้อย รับรู้ได้จากความสมบูรณ์พูลสุขที่ปรากฏชัดในยามนี้
“แล้วเป็นไงบ้าง โนชคงเหนื่อยมากใช่ไหม”
น้ำเสียงอาทรที่ไม่เคยต่างไปจากวันวานของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มตื้นตันใจ เขามองคนตัวบางใบหน้างามตรงหน้าแล้วหัวใจวิบวับพราวพร่าง ตวามรู้สึกที่เคยมีต่อหล่อนยังคงอยู่ยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน
“ตอนแรกเราเหนื่อยมาก เกือบจะถอดใจไปหลายหน แต่พอเห็นพ่อที่ขี้เหล่าของเราทำงานหนัก เราก็สงสาร กัดฟันทำไปเรื่อยๆ วันหนึ่งลุงของเราเห็นแวว เลยเรียกเราไปสอนงาน สอนทุกอย่างเริ่มตั้งแต่เป็นจับกังไปจนถึงวิธีการสร้างบ้าน เรารู้สึกสนุกมาก เราทำกับกับลุงได้สักปีหนึ่ง ก็เลยไปสมัครเรียนต่อ เราสอบเข้าเทคนิคได้ แล้วเลือกเรียนช่างก่อสร้าง ระหว่างเรียนเราก็ยังทำงานเป็นจับกังนะ หาเงินเรียนไปด้วย จากนั้นเราสอบเข้ามาหาวิทยาลัย เรียนจบก็คิดจะกลับมาทำงานกับลุงเหมือนเดิม แต่ลุงไล่ให้เราไปทำงานกับบริษัทใหญ่ๆ ลุงบอกว่าเราต้องหาประสบการณ์ให้มากกว่านี้ เราก็เลยทำตามคำแนะนำ จากนั้นเราได้ทำงานกับบริษัทรับสร้างบ้าน” เขาบอกชื่อ ทำให้หญิงสาวอ้าปากค้างทำตาโต เพราะเป็นบริษัทดังระดับประเทศ
“โอ้โห ใครจะคิด” นิลินดีใจจนน้ำตาซึม ไม่คิดว่าเพื่อนรักที่เคยอัตคัดขัดสนไปเสียทุกอย่างนั้นสุดท้ายกลับถีบตัวเองสู่จุดที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ได้ขนาดนี้
มาโนชยิ้มกว้าง แววตาพราวระยับบอกถึงความภูมิใจในตัวเองอย่างเปี่ยมล้น
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ดีคะ มีคู่แข่ง ดีและเก่งเหมือนกัน จะได้เป็นมวยถูกคู่
ระวัง
มคปด
นะครับนะ
555
คู่แข่งมาแล้วนะ พี่คมน์