ตอนที่ 7 : บทที่ ๒ ยิ่งเจ็บยิ่งรัก
เกือบสิบห้านาทีอันธิตาก็แต่งตัวเรียบร้อย ชายหนุ่มรีบเข้าไปพยุงร่างเล็กที่อยู่ในชุดรัดกุมมากกว่าเมื่อคืน คิดถึงวีรกรรมของหล่อนแล้วเขาก็หงุดหงิดขึ้นมาอีก ไม่ใช่เพราะการแต่งตัวเปิดเผยของหล่อนหรอกหรือ วันนี้ถึงต้องมาเป็นไข้ขนาดนี้ เขาเกือบส่ายหน้า ไม่อยากพูดให้อีกฝ่ายเสียใจแต่ก็อดไม่ได้
“คราวหน้าก็อย่าแต่งตัวแบบนั้นอีกนะอัน เห็นไหมนอกจากไม่ปลอดภัยแล้วยังไม่ได้ทำให้อบอุ่นเลยสักนิด” เขาสบตาหล่อนอย่างตำหนิ ทำให้อันธิตาต้องหลบตาลงอย่างรู้สึกผิด ยอมรับว่าหล่อนทำตัวน่าละอายจริงๆ แต่เมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อคืนก็พาให้คิดถึงคนรักของเขาอีก หญิงสาวช้อนตามองคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของตนด้วยสายตาตัดพ้อโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันเห็น ขณะพากันเดินตรงไปยังลิฟต์เพื่อออกไปหาหมอตามที่เขาบอก...
ทั้งสองออกมาจากโรงพยาบาลหลังจากตรวจร่างกายเรียบร้อย สรุปได้ว่าหญิงสาวเป็นไข้หวัดจริงๆ ชายหนุ่มจึงตัดสินใจพาหญิงสาวกลับห้อง แล้วสั่งให้หล่อนนอนพักผ่อน ส่วนตัวเขาเองเข้าครัวทำซุปให้หล่อน
อันธิตามองร่างสูงๆ ของพ่อครัวจำเป็นกำลังวุ่นวายอยู่หน้าเตาแล้วอมยิ้มจางๆ แม้เขาจะไม่ได้รักหล่อนเลยแต่ความเป็นคนดีมีน้ำใจทำให้คนตัวโตๆ คนหนึ่งยอมเสียเวลาดูแลหล่อน หนำซ้ำยังทำอาหารให้คนป่วยเสียด้วย เพราะเขาน่ารักแบบนี้อย่างไร หล่อนถึงได้หลงรักเขา ทั้งที่รู้ว่าเขามีคนรักอยู่แล้วทั้งคน
หญิงสาวหลับตาลงเมื่อคิดถึงใบหน้าสวยจัดของปาริสา คนรักของกษิดิศ ผู้หญิงคนนั้นสวยมากและกษิดิศก็คงรักมากเช่นกัน ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่บินลัดฟ้ามาหาคนรักทั้งที่อยู่ในช่วงฮันนีมูนของหล่อนและเขาแน่นอน หญิงสาวน้ำตาซึมเมื่อตระหนักถึงความเป็นจริง ว่าเขาไม่รักหล่อน...
ซุปเสร็จเรียบร้อย กษิดิศก็เดินมาเสิร์ฟจนถึงเตียงนอน เขาวางถ้วยซุปร้อนๆ บนโต๊ะ แล้วนั่งลงข้างร่างนุ่มที่หลับสนิท พลางยกมือขึ้นไล้ไปตามนวลแก้มและเกลี่ยเส้นผมให้พ้นใบหน้างาม เขารู้ว่าอันธิตาเป็นสาวสวย แม้ไม่ฉูดฉาดบาดตาเช่นปาริสา แต่ก็หวานละมุนมองไม่เคยเบื่อ มีหลายคนบอกไว้อย่างนั้นแต่เขาไม่เคยสนใจ จนกระทั่งเวลานี้ ที่เขาได้มีโอกาสพิศดวงหน้างามของภรรยาอย่างจริงจังและใกล้ชิดเป็นครั้งแรก...
แต่แล้วเขาก็รีบสลัดความชื่นชมนั้นออก พลางสูดลมหายใจยาวๆ ก่อนจะปลุกหญิงสาวเบาๆ เพื่อให้ตื่นขึ้นรับประทานซุปก่อนจะทานยาแก้ไข้
“อัน ตื่นเถอะ” เมื่อหญิงสาวลืมตาขึ้นชายหนุ่มก็ช่วยประคองร่างบางให้นั่งแล้วจับหมอนวางตั้งให้หล่อนอิงได้สะดวก “เดี๋ยวทานซุปร้อนๆ ก่อนนะ อิ่มแล้วจะได้ทานยาตาม” เขาเลื่อนถ้วยซุปมาตรงหน้าหญิงสาว อันธิตามองซุปแล้วเงยหน้าขึ้นมองตาคนพูดพร้อมรอยยิ้มที่ยังดูเซียวๆ
“ขอบคุณพี่ดิศมากนะคะ ที่ดูแลอัน”
“ไม่ต้องขอบคุณพี่หรอก มันเป็นหน้าที่ของพี่อยู่แล้ว” เขาพูดโดยไม่ทันได้คิด แต่คนฟังกลับรู้สึกสะกิดใจเต็มแรง ใช่สิ สำหรับหล่อน เขาถือว่าเป็นหน้าที่ ไม่เหมือนคนรักของเขาที่คงทำด้วยความเต็มใจ หญิงสาวหลุบตาลง ปิดบังดวงตาเจ็บปวดร้าวราน ฝืนรับประทานซุปจนหมดถ้วยแล้วตามด้วยยา ก่อนล้มตัวนอนพักอีกครั้งโดยไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีก
อาการซึมๆ ของหญิงสาวทำให้กษิดิศรู้สึกกังวล ไม่รู้ว่าทำอะไรให้หล่อนคิดมากอีกหรือเปล่า ก่อนห่มผ้าให้หญิงสาวแล้วเดินออกมานั่งที่ชุดรับแขก คว้าโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วถอนใจ เขาสัญญากับปาริสาว่าจะกลับไปหาหล่อนเย็นนี้ ทว่าอันธิตาไม่สบายแบบนี้เขาก็ไม่กล้าทิ้งหล่อนไว้ลำพัง จึงตัดสินใจต่อสายถึงคนรัก...
“เมื่อไรจะมาคะดิศ ปลารออยู่นะคะ วันนี้ปลาตั้งใจจะทำอาหารให้ดิศทานด้วย” น้ำเสียงหวานเจื้อยแจ้วเอาใจ ทำให้กษิดิศเกิดความรู้สึกผิดต่อคนรักขึ้นมาอีก เวลานี้เขาเปรียบเสมือนคนที่ยืนอยู่บนทางแยก จะไปซ้ายก็ไม่ได้ จะไปขวาก็ลำบาก ชายหนุ่มหันไปมองคนที่นอนแบ็บบนเตียงกว้างแล้วผ่อนลมหายใจ
“ปลา คือวันนี้ผมคงไปหาคุณไม่ได้ เดี๋ยวสิปลาฟังผมก่อน” เขารีบอธิบายเมื่อหญิงสาวโวยวาย “คือว่าอันไม่สบายผมต้องดูแลเธอก่อน เอาไว้พรุ่งนี้จะรีบไปหาแต่เช้าเลย”
“ฮึ! สำออยสิ ปลาไม่เชื่อว่าแม่นั่นจะเจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมา คงตั้งใจรั้งดิศเอาไว้ไม่ให้มาหาปลามากกว่าน่ะสิ!” หญิงสาวต่อว่าอย่างไม่พอใจ ยิ่งรับฟังเรื่องราวของอันธิตามากขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งเกลียดผู้หญิงคนนั้นมากขึ้นเป็นทวีคูณ
ชายหนุ่มฟังคำประณามของคนรักแล้วหนักใจ เรื่องนี้คนผิดไม่ใช่ทั้งปาริสาและอันธิตา แต่เป็นเขาที่ทำให้ทุกอย่างวุ่นวาย และเริ่มคิดว่าเขาไม่ควรมาที่นี่แต่แรก
“ปลา ผมขอโทษนะ แต่วันนี้ผมไปหาคุณไม่ได้จริงๆ” เขาพูดจบก็วางสายทันทีโดยไม่รอให้คนรักประท้วง และตัดสินใจปิดเครื่องมือสื่อสารก่อนจะเดินไปยังเตียงกว้างที่มีร่างบางนอนเหยียดยาวบนนั้น
วันถัดมาอาการของอันธิตาดีขึ้น กษิดิศจึงรีบไปหาคนรักทันทีปาริสาเองก็คิดใหม่ว่าหล่อนไม่ควรอาละวาดกับเขา เพราะยิ่งหล่อนเล่นงิ้วใส่มากเท่าไร อาจจะยิ่งทำให้อีกฝ่ายถอยหนีหล่อนเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ วันนี้หญิงสาวจึงยิ้มแย้มและทำเป็นลืมเรื่องวันก่อนเสียสิ้น นอกเสียจากจะเอาใจชายหนุ่มอย่างอ่อนหวาน ให้เขาทิ้งหล่อนไม่ลง…
“ปลาคิดว่าคุณจะกลับไปเมืองไทยเสียแล้ว” ปาริสากอดเอวเขาเอาไว้พลางซบหน้ากับแผงอกกว้างของชายหนุ่ม
“อีกสองวันถึงจะกลับ” เขาตอบพลางจูบแก้มคนรัก ทำให้คนที่กอดเขาเอาไว้ใจหายวาบ
“เร็วจังเลยนะคะ ปลาคงคิดถึงคุณแทบขาดใจ” หญิงสาวกอดเขาแน่นขึ้น ใบหน้าเศร้าหมอง น้ำเสียงสั่นเครือ ชายหนุ่มใจไหวยวบสงสารคนรักจับใจ จึงตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ปาริสามองชายหนุ่มอย่างกังขา กระทั่งเสียงปลายสายดังขึ้นกษิดิศจึงกล่าวออกมาว่า
“อัน สองวันนี้พี่คงไม่กลับห้องนะ พี่อยากให้ดูแลตัวเองให้ดี แล้วเจอกันวันกลับเลยได้ไหม”
คำพูดของชายหนุ่มทำให้หัวใจของปาริสาลิงโลด พอใจยิ่งยวดที่เขาจะอยู่กับหล่อนไปจนกระทั่งถึงเวลาเดินทางกลับเมืองไทย ไม่กี่วินาทีชายหนุ่มก็วางสาย เขาสบตาหล่อนยิ้มๆ แล้วบอก
“ผมจะอยู่กับคุณจนถึงวันเดินทาง”
เพียงแค่นั้น ปาริสาก็โผขึ้นจูบริมฝีปากได้รูปอย่างหนักหน่วงเพราะความดีใจ ก่อนจะพากันล้มลงไปยังโซฟาตัวยาว เสื้อกางเกงถูกสลัดออกในเวลาไม่กี่นาที เหลือเพียงกายเปลือยเปล่าและเสียงกระเส่าที่เคล้าไปกับอารมณ์ดำฤษณาที่ปะทุขึ้นอย่างยากจะหยุดยั้ง...
กลางดึกคืนนั้น บนเตียงกว้างขณะที่กษิดิศหลับสนิท ปาริสาตื่นขึ้นมาพร้อมกับแอบหยิบโทรศัพท์ของชายหนุ่ม เลื่อนหาเบอร์ของอันธิตา ปาริสาแสยะยิ้มเมื่อพบเบอร์โทร.ของอีกฝ่าย หญิงสาวหลุบตามองชายหนุ่มแล้วเบียดตัวเข้าหาพร้อมกับกดโหมดเซลฟีเพื่อถ่ายภาพคู่ของหล่อนและกษิดิศในสภาพผ้าห่มเลื่อนลงปิดเพียงแค่เอวสอบ เผยให้เห็นอกกว้างตึงแน่น มีเส้นขนประปรายเรียงตัวเป็นระเบียบตั้งแต่แผงอกเป็นแนวยาวจนหายลับลงไปภายใต้ผ้าห่มผืนหนา ก่อนจะยิ้มให้กล้องแล้วกดบันทึกวิดีโอ...
“แค่นี้ก็เรียบร้อย ดูสิว่าผู้ดีแบบเธอจะทนได้สักกี่น้ำ” ปาริสากดส่งภาพและคลิปให้กับอันธิตาทันทีอย่างไม่ลังเล ก่อนจะกดลบออกจากเครื่องเพื่อกำจัดหลักฐานไม่ให้กษิดิศรู้
เสียงเตือนจากโทรศัพท์ ทำให้คนที่นอนไม่หลับเพราะจดจ่อถึงสามีพลิกตัวกลับไปคว้ามาเปิดดู ทันทีที่เปิดข้อความนั้น หญิงสาวก็ตัวแข็งทื่อเมื่อไล่ตามองตั้งแต่รูปภาพไปจนถึงคลิปวิดีโอที่ถูกส่งมา...
“สวัสดีค่ะคุณอัน ต้องขอโทษที่รบกวนเสียกลางดึก แต่อากาศเย็นๆ แบบนี้ฉันอดเป็นห่วงคุณไม่ได้ เพราะได้ข่าวว่าป่วย เลยมาบอกว่าดิศเขาคงไม่ว่างกลับไปให้ความอบอุ่นคุณจนกว่าจะเดินทางกลับหรอกนะคะ เพราะตอนนี้เขาอยู่กับฉันค่ะ ดูสิคะหลับสนิทเชียว คงจะเพลีย...”
ปาริสาพูดเสียงอ่อนหวาน พลางยกมือขึ้นลูบแผงอกกว้างของชายหนุ่มแผ่วเบา ก่อนจะเลื่อนไล้ริมฝีปากลงกับสันกราม แล้วหันมามองกล้องพร้อมบอกว่า “ยังไงก็ห่มผ้าหนาๆ แทนไปก่อนแล้วกันนะคะ ถึงเวลาแล้วฉันจะส่งเขาคืนให้คุณ”
อันธิตานิ่งงันจนคลิปวิดีโอนั้นหยุดเคลื่อนไหว หล่อนวางโทรศัพท์ลงที่เดิม หลับตาลงพร้อมน้ำใสๆ ที่ไหลออกมาจากทางหางตากัดฟันแน่นไม่ให้มีเสียงร้องไห้ มือกำผ้าห่มจนยับย่น หัวใจปวดร้าวเมื่อคิดถึงภาพนั้นอีกครั้ง
ผู้หญิงคนนั้นใจร้ายนัก ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเขาไปอยู่ด้วยกันแบบนั้นจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง แต่คงไม่หนำใจ กล้าส่งคลิปบ้าๆ มาให้อีก คิดจะฆ่ากันให้ตายทั้งเป็นอย่างนั้นหรือ แล้วหล่อนจะทนได้อีกสักกี่วันกัน ที่จะไม่อาละวาดจนแตกหักยับเยินกันไปข้างหนึ่ง!
สั่งซื้อรูปเล่มได้ที่ร้านบุ๊กฟอร์ฟันและร้านนิยายรักดอตคอมนะคะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

29 ความคิดเห็น
-
#12 readernook (จากตอนที่ 7)วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2562 / 10:12อันหยุดโง่สักที#120