ตอนที่ 38 : ๘ ริษยา
ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ภายในร้านค่อนข้างเงียบ มีเสียงดนตรีคลอเบาๆ และเสียงของลูกค้าที่ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจพูดคุยแผ่วๆ ทั้งสามเดินตามพนักงานเข้าไปยังส่วนกลางของร้าน พรนภาเลือกที่นั่งติดกับฉันท์ทัต ขณะที่มิ่งขวัญเลือกที่จะนั่งฝั่งตรงข้ามของคนทั้งสอง
ชายหนุ่มมองหญิงสาวด้วยแววตาดุๆ ทว่าคนตัวบางทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เขาจึงเอ่ยถามว่าหล่อนต้องการอะไร
“จะกินอะไรดีคุณมิ่ง”
มิ่งขวัญชะงักไปนิดหนึ่ง แต่ไม่ลืมปรายตามองไปยังนางแบบสาวสวยที่หน้าตึงอยู่ข้างๆ คนเอาแต่ใจตัวเอง
“อะไรก็ได้ค่ะ”
คิ้วเข้มเลิกขึ้นนิดๆ พลางหันไปบอกกับพนักงาน
“งั้นเอาเหมือนผมก็แล้วกัน...” เขาสั่งพลางเอ่ยเมนูที่ตนเองเลือก ก่อนจะหันไปมองพรนภา “คุณล่ะ ทานอะไรดี”
หญิงสาวเม้มปากอย่างขัดใจ เขาไม่ให้เกียรติหล่อนสักนิด ก่อนจะบอกรายการอาหารที่ตนเลือกกับพนักงาน
พนักงานนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟเป็นอันดับแรก ระหว่างนั้นจิรสินและผู้หญิงของเขากำลังเดินผ่านโต๊ะที่ฉันท์ทัตนั่งอยู่พอดีเกิดเห็นเข้า จึงพาฝ่ายหญิงไปนั่งยังโต๊ะด้านใน แล้วกลับมาทักทายญาติผู้พี่ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“สวัสดีครับพี่ทัต อิจฉาจัง วันนี้ควบสองเลยนะครับ”
จิรสินปรายตาจากพรนภามายังมิ่งขวัญ พลางกวาดตามองอย่างไม่เกรงใจคนที่นั่งหน้าเรียบสนิทสักนิด
“ประโยคนั้นเอาไว้ใช้กับนายเถอะ ฉันออกมากับคุณมิ่ง ส่วนพรนภาเราบังเอิญเจอกัน” เขาโต้กลับอย่างไม่คิดไว้หน้าใครทั้งนั้น ทำให้จิรสินเลิกคิ้วสูง ก่อนจะหัวเราะเบาๆ แล้วบอก
“แต่ผมไม่มีแบบคุณมิ่งเลยสักคนนะครับ แลกกันสักคืนไหม?”
ขาดคำ คอเสื้อของจิรสินก็ถูกกระชากจากคนที่นั่งนิ่งๆ ก่อนหน้าอย่างรวดเร็ว ทำให้มิ่งขวัญและพรนภาต่างร้องอุทานด้วยความตกใจ ในขณะที่คนอื่นๆ หันมามองเป็นตาเดียว
ดวงตาคมกริบของฉันท์ทัตวาวโรจน์ ก่อนจะกระซิบบอกด้วยน้ำเสียงกระด้างจัดว่า
“ถ้าแกไม่อยากให้ปากเน่าๆ ของแกต้องเดือดร้อน ถอนคำพูดเมื่อครู่แล้วขอโทษคุณมิ่งขวัญเสีย!”
เขาผลักจิรสินจนเซไปอีกทาง ดวงตาวาววับน่ากลัว แต่เมื่อฝ่ายนั้นทรงตัวได้ก็แสยะยิ้ม แล้วกวาดตามองไปรอบๆ จึงพบว่ากำลังตกเป็นเป้าสายตาของพนักงานที่เมียงมองดูท่าทีและลูกค้าที่หันไปซุบซิบนินทา รวมทั้งสาวสวยที่เขาควงมาก็กำลังมองด้วยสายตาเป็นคำถามเช่นกัน
“แหม... พูดเล่นแค่นิดเดียวทำไมพี่ทัตต้องโกรธด้วยล่ะครับ ดูสิ คุณมิ่งเธอยังไม่โกรธเลย จริงไหมครับ” ความหน้าหนาทำให้จิรสินหันไปยิ้มเหยียดๆ กับมิ่งขวัญ หญิงสาวเม้มปากด้วยความโกรธ คิดว่าหากฉันท์ทัตลุกขึ้นทำร้ายคนตรงหน้าหล่อนจะไม่ห้ามเลยสักคำ
“คิดว่าฉันพูดเล่นหรือไง” น้ำเสียงเย็นชาและสีหน้าเรียบตึงทำให้จิรสินแสร้งตีหน้าระรื่น แม้รู้ดีว่าสีหน้าและท่าทางแบบนี้อาจทำให้เขาคว่ำลงอีกครั้งหลังจากที่เคยถูกฝ่ายนั้นยำเสียยับเมื่อครั้งสมัยเป็นหนุ่มน้อย
“โธ่... กะอีแค่” จิรสินยังไม่ทันพูดจบ น้ำเสียงเข้มต่ำก็ดังขึ้นว่า
“ไอ้สิน...”
คำเรียกขานที่เปลี่ยนไปและไม่ไว้หน้าทำให้พรนภาและ มิ่งขวัญต่างนิ่งงันและหวั่นใจ ก่อนหันมามองจิรสินเป็นตาเดียว ฝ่ายนั้นเห็นว่าหมดเวลาเล่นของเขาแล้วจึงเอ่ยออกมาว่า
“ก็ได้ครับ ผมต้องขอโทษคุณมิ่งด้วย ที่พูดอะไรไม่คิด ความจริงผมเป็นคนสนุกสนาน แล้วก็เคยพูดแบบนี้บ่อยๆ พี่ทัตเองก็ไม่เห็นจะเดือดร้อนอะไร แต่มาคราวนี้...” เขามองมิ่งขวัญเลยไปยัง ฉันท์ทัตและหยุดที่พรนภาซึ่งรู้ดีว่าอีกฝ่ายพยายามหวนคืนมาหาญาติผู้พี่ของตนด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ “เอาเถอะครับ ถึงอย่างไรผมก็ผิดที่พูดไม่คิดแต่แรก ขอโทษด้วยนะครับพี่ทัต”
สีหน้าคนพูดไม่มีแววสำนึก แต่ก็ยังยอมโน้มศีรษะลงเหมือนรับผิด แต่ฉันท์ทัตแสยะปากก่อนโพล่งออกมาก่อนที่ฝ่ายนั้นจะจากไป
“หยุดทำตัวปัญญาอ่อนแล้วทำเรื่องดีๆ ตั้งใจทำงานเสียบ้าง เผื่อว่ากิจการจะดีขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น ไม่ใช่ทำตัวเลวๆ เที่ยวปากหมาเห่าไปทั่ว ไม่อย่างนั้นกิจการของนายก็คงจะเจริญฮวบๆ ไม่สิ้นสุดอยู่แบบนี้นี่แหละ!”
น้ำเสียงเยาะๆ และนัยน์ตาแข็งกระด้างเหยียดหยันของ ฉันท์ทัตทำให้รอยยิ้มสะใจที่คิดว่าทำให้อีกฝ่ายโกรธได้จางหายทันที ก่อนจะบดกรามแน่นและพยายามผ่อนหายใจอย่างข่มความรู้สึก
“ขอบคุณที่เตือนครับ แต่ผมรู้ดีว่ากำลังทำอะไรอยู่!”
สีหน้าเข้มจัดของจิรสินทำให้คนที่กล้าสั่งสอนพยักหน้ายิ้ม รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นนิดหน่อย
“รู้ก็ดี แต่ทางที่ดีทำให้ดีด้วยจะยิ่งเป็นผลดี เพราะขืนทำอะไรตามใจโดยไม่รู้เหนือรู้ใต้ สักแต่ใช้เงินอุดรอยรั่วในธุรกิจที่จะเจ๊งแหล่ไม่เจ๊งแหล่แบบนี้ก็เหมือนกับการถลุงเงินของคุณลุงทิ้งไปวันๆ เท่านั้น สักวันก็คงล้มเหมือนที่แล้วๆ มานั่นแหละ”
คนตั้งใจหาเรื่องกัดฟันกรอด ใบหน้าตึงเปรี๊ยะ หากเป็นแก้วคงแตกละเอียดไม่มีชิ้นดี ที่จู่ๆ ก็เดินมาให้เขาด่าถึงที่!
เมื่อด่าผู้น้องจนรู้สึกดีขึ้นแล้ว ฉันท์ทัตจึงหันไปสบตามิ่งขวัญยิ้มๆ
“ต้องขอโทษแทนนายสินที่พูดจาเลอะเทอะและแสดงกิริยาหยาบคายด้วยนะคุณมิ่ง แต่อย่าคิดมากไปเลย คนบางคนต่อให้โตจนหมาเลียตูดไม่ถึงก็ยังไม่รู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร” จิรสินกำมือแน่น ร้อนวาบไปตลอดแนวสันหลังเมื่อสบตาวาววับน่าเกรงขามของ ฉันท์ทัต “ไม่มีอะไรแล้วก็ไปเสียสิ โน่น ผู้หญิงคนนั้นชะเง้อจนคอยาวเป็นยีราฟ สุภาพบุรุษเขาไม่ปล่อยให้ผู้หญิงคอยนาน”
คนถูกตำหนิแกมสั่งสอนกัดฟันแน่น เหงื่อซึมออกตามไรผมเพราะความโกรธ ถามตนเองว่ามายืนให้โดนด่าทำไม!
“ขอบคุณที่แนะนำ งั้นก็ขอตัว!”
พูดจบจิรสินก็หมุนตัวกลับไปยังโต๊ะอาหารของตน ทำให้ มิ่งขวัญต้องถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะหันมาเห็นว่าฉันท์ทัตนั่งลงด้วยอาการสงบนิ่ง ใบหน้าของเขาเรียบสงบก่อนจนมองไม่ออกว่าก่อนหน้านี้เกือบมีเรื่อง ชายหนุ่มสบตาหล่อนพลางเลิกคิ้ว...
“ไม่นั่งเหรอ”
มิ่งขวัญนั่งฉุบลงทันทีที่ถูกทัก แต่ไม่ลืมปรายตามองไปยัง พรนภา ฝ่ายนั้นเบือนหน้าหนีทว่าในใจกำลังคิดถึงคำพูดของจิรสินที่ทิ้งท้ายไว้ให้คิด
ความจริงผมเป็นคนสนุกสนาน แล้วก็เคยพูดแบบนี้บ่อยๆ พี่ทัตเองก็ไม่เห็นจะเดือดร้อนอะไร แต่มาคราวนี้...
พรนภาเหลือบตามองอดีตคนรักของตนด้วยหัวใจหวั่นไหว เกิดความกลัวว่าเขาจะคิดกับผู้หญิงหน้าแฉล้มคนนี้มากกว่าผู้หญิงแก้ขัดทั่วไป เพราะหากเป็นเช่นนั้นหล่อนคงอยู่ไม่เป็นสุขแน่นอน...
คุณทัตหนูมิ่งพร้อมโหลดแล้วนะคะ ฝากนิยายอีบุ๊กของนิราอรด้วยนะคะ ^^
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
