ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    JOQ Online คนจริงลวงโลก <มี E-Book>

    ลำดับตอนที่ #97 : บทที่95: พักชมการต่อสู้

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 11.34K
      101
      4 ธ.ค. 54

    บทที่95 พักชมการต่อสู้

    “และการประลองรอบต่อไป พบกับ..” เสียงพิธีกรดังลอดเข้ามาในห้องพัก

    พวกโซล่าร์ซิสฯไม่ใส่ใจกับการประลองรอบต่อไปมากนักเพราะซิลเวอร์ได้รับบาดเจ็บหนักมากที่หู พวกเขาต้องช่วยกันถ่ายปราณลมเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บให้เขา เพราะปราณของซิลเวอร์ก็ใช้แทบจะหมดตัวไปกับการต่อสู้แล้ว

    “เป็นยังไงบ้างคะ” โรสถามชายหนุ่มผมเงิน

    แต่ทว่าเขากลับไม่ตอบกลับมา ดูเหมือนว่าอาการบาดเจ็บของชายหนุ่มจะไม่ดีขึ้นเลย เขาจึงไม่ได้ยินสิ่งที่โรสพูด

    ก็อก! ก็อก!

    เสียงประตูห้องพักดังขึ้นมา

    “ใครฮ้า” มาเจนต้าเดินไปเปิดประตู แล้วเธอก็ต้องแปลกใจที่เห็นหญิงสาวสามคนที่หน้าประตูนั่น คนหนึ่งผิวขาวผมดำยาว คนหนึ่งผิวสีน้ำผึ้งผมสั้นสีดำสลับขาว และคนสุดท้ายผิวขาวมากผมยาวสลวยสีทองกับดวงตาสีฟ้าสดใส

    “มาตาร์เป็นยังไงบ้าง” หญิงสาวผมสั้นถามขึ้น

    “เอ้อ? ...อ๋อ! บาดเจ็บที่หูฮ่ะ ตอนนี้ยังไม่ดีขึ้นเลย” กะเทยสีบานเย็นพยายามนึกว่าเคยเห็นหญิงสาวพวกนี้ที่ไหนมาก่อน แล้วเธอก็นึกออกว่าเป็นคนรู้จักของมาตาร์ที่เคยเห็นในร้านอาหารอินเดียนั่นเอง

    “ให้พวกเราเข้าไปดูอาการหน่อยได้มั้ยคะ” หญิงสาวผมดำยาวขอร้องอย่างสุภาพ

    “เชิญฮ่า” มาเจนต้าอนุญาตให้สามสาวเข้ามาในห้องอย่างง่ายดาย

    “ใครมาเหรอมาเจนต้า” อาเชอร์เดินออกมาก็เห็นมาเจนต้าเชิญสามสาวเข้ามาในห้องพอดี

    “เอ้อ พวกเราเป็นเพื่อนพี่มาตาร์ค่ะ จะมาช่วยดูอาการบาดเจ็บให้น่ะค่ะ” หญิงสาวผมดำยาวตอบอย่างสุภาพกับชายหนุ่มสีฟ้า

    “เชิญครับๆ” อาเชอร์จำทั้งสองสาวได้ทันทีมีเพียงหญิงสาวผมทองเท่านั้นที่เขาไม่เคยเจอ แต่เขาก็ให้ทั้งสามเข้ามาแต่โดยดี

    และเมื่อทั้งสามสาวเดินเข้ามาข้างในห้อง พวกเธอก็เห็นชายหนุ่มผมเงินใส่หน้ากากบังตากำลังนั่งหลับตาพิงกำแพงอยู่บนม้านั่ง มีเด็กสาวสามคนนั่งอยู่ใกล้ๆ และชายหญิงอีกคู่หนึ่งกำลังพยายามถ่ายปราณรักษาอาการบาดเจ็บให้กับชายหนุ่มผมเงิน

    “อ๊ะ! พี่เมโลดี้ พี่ราตรี พี่แองจี้” คลาร่าทักขึ้นทันทีที่เห็นสามสาวเดินเข้ามาใกล้

    “ไงจ๊ะคลาร่า คิดถึงจังเลย ไม่เจอกันตั้งสองวันแน่ะ” เมโลดี้ทักทายแม่หมาป่าสาว เธอถึงขนาดนั่งนับวันเวลาที่ไม่ได้เจอกันเลยทีเดียว

    “นายมาตาร์นี่ก็บ้า ทำลายหูตัวเองเพื่อป้องกันเวทดนตรีเนี่ยนะ ไม่ได้คิดหน้าคิดหลังเล้ย” ราตรีพูดเสียงแข็งตามสไตล์เธอ ซึ่งจริงๆเธอก็เป็นห่วงเขาจะแย่แล้วนั่นแหละ

    “แต่คุณมาตาร์ก็ชอบสู้แบบเอาตัวเข้าแลกแบบนี้ประจำไม่ใช่เหรอ คุณราตรีจะห่วงมากมายทำไมล่ะ” แองเจล่าเคยเห็นมาตาร์สู้กับพวกเทพารักษ์ก็คิดว่ามาตาร์ชอบทำแบบนี้บ่อยๆ

    “ค...ใครเป็นห่วงกันยะ ชั้นแค่มาเป็นเพื่อนเมลต่างหาก” ราตรีแก้ตัวแทบไม่ทัน ทำเอาเมโลดี้หัวเราะออกมา

    “ฮะฮะ ให้พวกเราช่วยดูอาการบาดเจ็บพี่มาตาร์หน่อยนะคะ” เมโลดี้หัวเราะราตรีแล้วหันไปพูดกับโรสและคริมซั่นที่กำลังถ่ายปราณให้ชายหนุ่มผมเงินอยู่

    คริมซั่นกับโรสเห็นว่ามีคนอยากจะช่วย ทั้งคู่จึงถอยให้พวกเมโลดี้มีพื้นที่ด้านหน้าของชายหนุ่มผมเงิน

    ฉึบ!

    ราตรีเข้าไปถึงก็ถอดหน้ากากของชายหนุ่มออกทันที จากผมยาวสีเงินก็กลับเป็นผมแดงเดรดล็อคอีกครั้ง มาตาร์รู้สึกตัวว่ามีคนมาถอดหน้ากากของตนจึงลืมตาขึ้นมาดู แล้วเขาก็ยิ้มให้หญิงสาวผมสั้นตรงหน้าที่ส่งสายตาดุๆมาให้เขา

    มาตาร์จับสัมผัสได้ตั้งแต่แรกแล้วว่ามีคนเพิ่มเข้ามาในห้อง แต่ไม่ได้สนใจจะลืมตาขึ้นมาดู แต่ก็พอจะเดาได้ว่าใครมา พอลืมตาขึ้นมาเขาจึงไม่ได้ตกใจหรือแปลกใจอะไร

    “ทำมาเป็นยิ้มนะตาบ้า” ราตรีพูดใส่ชายหนุ่ม ทั้งๆที่รู้ว่าพูดไปเขาก็ไม่ได้ยินหรอก

    ส่วนมาตาร์ก็พอจะเดาได้ว่าราตรีพูดว่าอะไร

    “รัตกับเมลมาทำอะไรกันเหรอ?” มาตาร์ถามขึ้นมาเสียงดัง คงเพราะเขาไม่ได้ยินเสียงของตัวเองนั่นแหละ ถึงควบคุมความดังไม่ถูก

    “เงียบไปเลย พูดไปก็ไม่รู้เรื่อง” ราตรีพูดกับชายหนุ่มแล้วทำนิ้วเป็นสัญญาณห้ามปากว่าไม่ต้องพูดมากแล้ว

    ในกลุ่มพวกเมโลดี้นั้น ถ้าพูดถึงการเยียวยามีแค่ราตรีเท่านั้นที่ทำได้ เพราะเธอมีปราณลมอยู่คนเดียว ส่วนเมโลดี้กับแองเจล่าไม่มีเวทสายรักษาเลย

    “เทียร์” หญิงสาวผมสั้นเรียกคู่หูของเธอทันที

    แวบ!

    ทันใดนั้นก็มีแสงสว่างวาบออกมาจากสร้อยคอของราตรี แล้วลูกแก้วกลมๆใสๆก็ลอยออกมา พวกโซล่าร์ซิสฯแต่ละคนมองด้วยความสนใจเพราะไม่เคยเห็นเทียร์มาก่อน

    “อืม จะรักษามาตาร์ใช่มั้ย” เทียร์ถามขึ้นมา

    “รู้แล้วยังถามอีก” ราตรีพูดแล้วเธอก็ไม่เสียเวลาอีกต่อไป

    วูบบ!!

    ราตรีคว้าเจ้าลูกแก้วใสเอาไว้ใสมือแล้วเริ่มถ่ายปราณใส่เจ้าลูกแก้วนั่นทันที

    “อืม พี่เค้าจะทำอะไรน่ะคะ” โรสทนสงสัยไม่ได้จึงหันไปถามเมโลดี้ที่ท่าทางใจดี

    “รัตเค้ากำลังจะใช้ปราณลมรักษาให้พี่มาตาร์จ้ะ” เมโลดี้ตอบหญิงสาวสีชมพู

    “แล้วทำไมถึงต้องกำเจ้าลูกแก้วนั่นเอาไว้ด้วยล่ะคะ” โรสถามอีก

    “เทียร์จะเป็นคนคอยช่วยขยายปราณให้รัตจ้ะ ตอนนี้รัตกำลังถ่ายปราณให้เทียร์อยู่ อ๊ะ เสร็จแล้วนั่นไง” เมโลดี้อธิบายความสามารถของเทียร์คร่าวๆให้โรสฟัง ในขณะที่ราตรีก็ถ่ายปราณให้เทียร์เสร็จพอดี

    วูมม!

    ราตรียื่นมือที่ถือน้ำตาราตรีเอาไว้ออกมา แล้วนำไปจ่อที่หน้าผากของชายหนุ่มผมแดง แล้วเธอก็เริ่มถ่ายปราณผ่านเจ้าลูกแก้วนั่นอีกครั้งหนึ่ง

    มันเป็นเทคนิคที่ราตรีค้นพบเมื่อหัดใช้เทียร์ในการต่อสู้ ถ้าถ่ายปราณธาตุใดธาตุหนึ่งให้เทียร์ แล้วใช้มันอีกครั้งหนึ่งร่วมกับเทียร์ การแสดงผลของธาตุจะมากขึ้นเป็นสองเท่าเลยทีเดียว

    ปกติปราณมังกรจะมีความสามารถในการแปลงธาตุได้ไม่เท่ากับมนุษย์ที่มีธาตุประจำตัว แต่ความสามารถนี้ของเทียร์ทำให้ปราณมังกรของราตรีแสดงผลได้มากกว่าธาตุประจำตัวของมนุษย์เสียอีก แถมยังทำได้ทั้งห้าธาตุอีกด้วย แต่ก็ต้องเสียเวลาถ่ายปราณให้เทียร์ทุกครั้งก่อนใช้งาน

    และแล้วในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที มาตาร์ก็เริ่มรู้สึกได้ถึงเสียงโดยรอบ ปราณลมของราตรียังเหนือกว่าปราณลมของมาตาร์ไปเสียอีกในตอนนี้ ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกทึ่งขึ้นมาทันที

    “รัตนี่ฝึกยังไงเนี่ย ถึงได้ใช้ปราณเก่งขนาดนี้” มาตาร์พูดกับหญิงสาวที่รักษาให้เขา

    “อะไรยะ หายแล้วก็ถามเรื่องไร้สาระอย่างนี้เลยเหรอ” ราตรีทำน้ำเสียงไม่พอใจ

    “อ๊ะ! ขอบคุณนะรัต” ชายหนุ่มเกือบจะลืมขอบคุณในน้ำใจของหญิงสาวที่ช่วยรักษาหูให้เขา

    “อืม ว่าแต่นายน่ะ อะไรจะอยากได้โมโนไบค์นักหนาเนี่ย” ราตรีเข้าเรื่องที่มาตาร์ไม่ยอมบอกพวกเธอทันทีว่ามาประลอง

    “เอ้อ ...ก็แบบว่า มันอยากได้นี่นา” มาตาร์ก็ไม่มีเหตุผลอื่นจะอธิบายได้ดีกว่านี้ ก็ของมันชอบ มันก็เป็นเหตุเป็นผลในตัวมันอยู่แล้ว

    “เพราะโมโนไบค์มันเท่ห์ไงล่ะคะ ใครๆก็อยากได้กันทั้งนั้น พวกหนูยังอยากได้กันทุกคนเลย” โรสช่วยตอบแทนมาตาร์ เพราะพวกโซล่าร์ซิสฯไม่เคยสงสัยเรื่องที่ว่าทำไมต้องอยากได้โมโนไบค์เลย คนรสนิยมเดียวกันย่อมเข้าใจกันอยู่แล้ว

    “...” ราตรีพูดไม่ออก เพราะเธอรู้สึกเหมือนหลุดเข้ามาในวงคนพิลึกเข้าให้แล้ว เลยไม่อยากจะเถียงกับใคร เพราะคิดว่าคงไม่มีประโยชน์อะไรแน่นอน

    “แต่ว่าทำไมถึงต้องใช้ปราณรักษากันด้วยล่ะ แค่มีน้ำยาฟื้นพลังก็หายแล้วไม่ใช่เหรอ” มาตาร์สงสัยขึ้นมา

    “พี่มาตาร์บาดเจ็บขั้นสูญเสียอวัยวะค่ะ ถึงจะดูเหมือนแค่บาดเจ็บจุดเล็กๆ แต่มันไม่ต่างกับแขนขาดหรือขาขาดเลยนะคะ น้ำยาอะไรก็ซ่อมให้ไม่ได้หรอก ต้องไปโรงพยาบาลอย่างเดียว” เมโลดี้ให้ข้อมูล

    “เอ๋? แบบเดียวกันเลยเหรอ หูหนวกเนี่ยนะ” มาตาร์ยังงง เขาไม่คิดว่าแค่เอานิ้วจิ้มหูจะร้ายแรงขนาดนั้นถึงได้จิ้มลงไป

    “กระดูกหักยังดามได้ แขนขาดก็ต่อได้ถ้ามีแขนให้ต่อ หูหนวกนายจะเอาอวัยวะอะไรมาต่อเข้าไปล่ะยะ” ราตรีพูด

    “อ้าว มันไม่ได้คาอยู่ในหูอยู่แล้วเหรอวัตถุดิบน่ะ” มาตาร์ก็ยังเถียงอยู่ดี

    “มันก็ใช่แหละย่ะ แต่แค่ปราณลมระดับธรรมดาหรือน้ำยาน่ะทำไม่ได้หรอก” ราตรีพูดอีก

    ปราณของมาตาร์ยังไม่ฟื้น เขาจึงไม่รู้ว่าปราณของเขาทำได้หรือไม่ได้ แต่เขานึกว่าพวกโซล่าร์ซิสฯมีปราณลมไม่ถึงขั้นเสียอีกถึงรักษาเขาให้หายไม่ได้ ซึ่งจริงๆแล้วปราณลมของพวกโซล่าร์ซิสฯก็ไม่มีความสามารถถึงขั้นนั้นจริงๆ

    “แล้วทำไมรัตทำได้ล่ะ” มาตาร์สงสัย

    “เพราะชั้นเก่งไงล่ะยะ จะถามอีกมั้ย” ราตรีขี้เกียจพูดเรื่องนี้แล้วจึงตัดบททันที

    “เพราะความสามารถของชั้นทำให้ปราณแสดงผลเป็นสองเท่าไงล่ะ” เทียร์แทรกเข้ามาทันที ส่วนราตรีก็ทำสีหน้าขัดใจขึ้นมาเมื่อเทียร์ยังพูดเรื่องนี้ไม่หยุด

    “อ๋อ อย่างนี้นี่เอง” มาตาร์ทำท่าแสดงว่าเข้าใจ

    “เทียร์เธอกลับเข้าผนึกแล้วอยู่เงียบๆไปเลย” ราตรีสั่งคู่หูของเธอ

    “เชอะ” เทียร์เชื่อฟังแต่โดยดี ลูกแก้วสีใสส่องแสงวาบขึ้นมาแล้วหายเข้าไปในสร้อยคอของราตรีอีกครั้ง

    “แล้วเมลกับรัตรู้ได้ยังไงว่าชั้นมาประลองล่ะ” มาตาร์ถามเรื่องที่เขาสงสัยแต่แรก

    “มันเดายากขนาดนั้นเลยเหรอไง รางวัลการประลองประจำสัปดาห์มันก็แปะหราโชว์อยู่ที่หน้าประตูสนามต่อสู้อยู่แล้ว การที่นายซึ่งไม่มีธุระอะไรที่เกาะเริ่มต้นแต่ยังรั้งอยู่จนถึงวันนี้มันก็น่าจะพอเดาได้หรอก” ราตรีตอบ

    “...อย่างนี้นี่เอง” มาตาร์เพิ่งรู้ตัวว่าเขาเป็นคนที่ถูกคาดเดาการกระทำได้ง่ายขนาดนั้น

    “และผู้ชนะก็คือ ทีม ลมทะเลทรายครับ!” เสียงพิธีกรดังลอดเข้ามาในห้องพัก

    “อ๊ะ! จบไปอีกคู่นึงแล้วครับ” คริมซั่นทักขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงพิธีกร

    “เอ้อ ต่อไปพวกคุณเซซิลประลองใช่มั้ยคะ ไปดูกันมั้ยคะพี่มาตาร์” โรสชวนชายหนุ่มออกไปดูการแข่งขันคู่อื่น

    “อือ ไปดูหน่อยก็ดี จะได้เดินไปส่งพวกเมโลดี้ด้วยเลย” มาตาร์ตอบ

    “อ๋อ พอหมดธุระก็เลยไล่สินะยะ” ราตรีรู้สึกว่ามาตาร์ไม่อยากให้เธออยู่ตรงนี้นานๆ

    “ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกน่า พอดีชั้นอยากจะดูการประลองคู่นี้จริงๆ” มาตาร์พูดเสียงอ่อน เขาอยากจะไปดูทีมอีกทีมหนึ่งต่างหาก คือทีมโซลิดแอนลิควิดที่มี บิ๊กบอส คนนั้นอยู่

    “พี่มาตาร์เชิญดูได้ตามสบายเลยครับ เดี๋ยวผมเฝ้าห้องเอาไว้ให้” คริมซั่นพูดขึ้น

    “เอ๋? ทำไมต้องมีคนเฝ้าห้องด้วยล่ะคะ” เมโลดี้สงสัยขึ้นมา เพราะห้องพักของสนามประลองมันก็มีให้ผู้แข่งทุกคนอยู่แล้ว ถ้าไม่เฝ้าเอาไว้จะมีคนมาแย่งหรืออย่างไร

    “อ๋อ ไม่ได้เฝ้าห้องหรอกครับ แต่เฝ้าคนน่ะ” คริมซั่นตอบพรางชี้มือไปที่หญิงสาวผมขาวที่ถูกมัดเอาไว้ตรงมุมห้อง

    “ว้าย! ใครน่ะคะทำไมจับเธอมัดเอาไว้อย่างนั้นล่ะ” เมโลดี้ยังไม่เห็นว่าเป็นใคร แต่แค่เห็นว่ามีหญิงสาวถูกจับมัดเอาไว้อย่างแน่นหนาแล้วก็รู้สึกตกใจ

    “ยัยงูพิษที่เราเจอกันในร้านอาหารอินเดียไง จำได้มั้ย” มาตาร์ตอบเมโลดี้

    “อ๋อ ยัยนั่นเองเหรอ” ราตรีจำได้ทันที ตอนนั้นผู้หญิงคนนี้จู่ๆก็เข้าไปจูบมาตาร์ เธอยังอยากจะฟันดาบใส่สักสองสามดาบเลยตอนนั้น

    “พอดีเธอตามมาราวีพวกเราไม่หยุดน่ะครับ ฆ่าไปกี่รอบก็ตามมาอีก ก็เลยว่าจะจับเอาไว้อย่างนี้จนกว่าจะแข่งเสร็จ” อาเชอร์ให้ข้อมูลสาวๆ

    “เฮอะ สมน้ำหน้าแล้วยัยผู้หญิงไร้ยางอาย” ราตรีพูดพร้อมกับมองเรย์น่าอย่างเป็นศัตรู ส่วนเรย์น่าก็จ้องกลับราตรีอย่างเอาเรื่องเหมือนกัน

    “รีบไปกันเถอะน่า เดี๋ยวเค้าก็ประลองกันเสร็จพอดี แค่สิบนาทีก็ตายกันหมดแล้วมั้ง” มาตาร์รวบรัดแล้วเดินนำออกจากห้องพักทันที

    “เดี๋ยวชั้นอยู่เป็นเพื่อนนายเองคริมซั่น” อาเชอร์พูดออกมาเมื่อเห็นคนอื่นๆทยอยเดินออกไปกันหมด

    “ได้เลยเพื่อนรัก เดี๋ยวชั้นว่าจะคิดท่าไม้ตายใหม่ระหว่างพัก นายมาช่วยด้วยดีกว่านะ” คริมซั่นพูดออกมาอย่างร่าเริงขณะที่คนอื่นๆเดินออกจากห้องไปหมด

     

    เฮ! เฮ! เฮ! เฮ!

    เสียงผู้คนที่อยู่บนอัฒจันทร์ดังกึกก้องไปทั่วสนามประลอง ราตรี เมโลดี้ แองเจล่า เดินนำหน้ามาตาร์กับสามสาว และโรสกับมาเจนต้าไปบริเวณที่พวกเธอนั่งดูอยู่ในตอนแรก ซึ่งยังพอมีที่ว่างเหลือกันให้นั่งได้ทุกคน

    “ทีมไฟนอลเจอศึกหนักซะแล้วครับ” เสียงพิธีกรพูดขึ้นมา

    โซลิดสเนค

    ระดับ 100

    ไรเดน

    ระดับ 100

    โอเซลอท

    ระดับ 100

     

    มาตาร์มองไปที่ลานประลองพร้อมกับสำรวจคนในทีมโซลิดแอนลิควิดที่เหลืออีกสามคนที่เขาไม่เคยเห็น โซลิดเป็นชายวัยกลางคนดูคล้ายบิ๊กบอสมาก ไว้หนวด ไม่มีเครา แต่มีที่ปิดตาข้างซ้ายกลับกันกับของบิ๊กบอส ถือมีดกับปืนไว้ในมือแต่ละข้าง ไรเดนเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีเลยทีเดียวมีผมสีเงินใส่ชุดรัดรูปสีดำดูเหมือนจะใช้ดาบญี่ปุ่นเป็นอาวุธ โอเซลอทเป็นชายแก่มีหนวดและผมยาวมัดเอาไว้ ใช้ปืนลูกโม่สองกระบอกเป็นอาวุธ

    “นี่มันทีมคนแก่หรือไงเนี่ย” ราตรีพูดขึ้นมาเมื่อเห็นสมาชิกทั้งหมดของทีม ที่ไว้หนวดเคราซะสามคนจากห้าคน

    “แหม ถึงจะแก่แต่ก็ดูดีกันนะฮ้า” มาเจนต้ามองพวกทีมโซลิดฯตาเป็นมัน

    “เอ่อ เรามาดูเค้าสู้กันนะคะ” โรสพูดเมื่อเห็นว่าทั้งคู่คุยกันประเด็นอื่น

    ปัง! ปัง! ปัง!

    ทีดัสปล่อยลูกบอลเหมือนที่เคยสู้กับโรสออกมา แต่กลับถูกกระสุนปืนของโอเซลอทยิงเบี่ยงทิศทางได้หมด ทั้งๆที่ขนาดของลูกกระสุนต่างกับลูกบอลมาก

    “โอ้ กระสุนของโอเซลอทเป็นประสุนเสริมปราณครับ นานๆจะเห็นคนที่ทำได้อย่างนี้ซักคนนะครับเนี่ย” พิธีกรบรรยายเทคนิคที่โอเซลอทใช้

    บราวนี่เห็นคนที่ใช้ปืนเก่งเธอก็จ้องอย่างตั้งใจทันที

    “เดี๋ยวพอใช้ปราณได้แล้วเรามาหัดท่านี้กันนะ” มาตาร์พูดกับบราวนี่พร้อมลูบหัวเธออย่างเอ็นดูเมื่อเห็นท่าทางของแม่เหยี่ยวสาวที่ดูจะอยากใช้ปืนให้ได้แบบนี้บ้าง

    ฟิ้ว! ฟิ้ว! เคร้ง! ฉัวะ! ฉัวะ!

    ซีดานที่ขึ้นชื่อเรื่องความเร็วของทีมไฟนอลสู้กับไรเดน แต่มีดของซีดานกลับทำอะไรไรเดนไม่ได้เลย การเคลื่อนไหวของไรเดนรวดเร็ว และดาบยังรุนแรงมากอีกด้วย ซีดานค่อยๆถูกไล่ต้อนจนไร้ทางสู้ในที่สุด

    “พ่อลิงน้อยนั่นเร็วกว่าเดี๊ยนอีกนะฮ้า แต่กลับถูกไล่ต้อนง่ายๆเนี่ยนะ” มาเจนต้านึกถึงตอนที่เคยดวลมีดกับซีดาน ตอนนั้นเธอต้องทุ่มทั้งชีวิตถึงจะเร็วเทียบเท่ากับซีดานได้ แต่ไรเดนคนนี้กลับไล่ต้อนซีดานอย่างง่ายดาย

    ฉึก!! อ๊าคค!! ฉับบ!!

    แล้วดาบของไรเดนก็ปักเข้าร่างของซีดานก่อนที่ใบดาบจะถูกกระชากจนร่างของชายผมทองขาดเป็นสองท่อนแล้วกลายเป็นแสงหายไป

    “ซีดานเสร็จไปแล้วครับ อ๊ะ! ทีดัสก็ดูท่าจะไม่ไหวแล้วครับ” พิธีกรบรรยาย

    ทางด้านทีดัสกับโอเซลอท ชายชราผู้ใช้ปืนคู่กลับมาถือปืนมือเดียวแล้วใช้เทคนิครัวปืนด้วยการใช้อีกมือขึ้นนก

    ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!

    กระสุนปืนรัวออกมาทีเดียวหกนัด เจาะทะลุกลางลูกบอลของทีดัสแล้วฝังเข้าไปในร่างของชายหนุ่มผมกระเซิงทันที จนร่างของทีดัสกระเด็นถอยหลังไปก่อนจะสลายไปกลางอากาศ

    “นี่มันอะไรกันเนี่ย” เซซิลร้องออกมาด้วยความข้องใจ เพราะเขามั่นใจในฝีมือของพวกเขามากแต่กลับแพ้ให้กับทีมที่มีแต่คนแก่แบบนี้

    ฉึกก!!

    มีดถูกปักเข้ากลางหลังเซซิล ทะลุออกมาด้านหน้า ตัดขั้วหัวใจพอดี เซซิลฝืนตัวหันไปมองผู้ที่ลงมือ

    ปึดด!!

    ชายผู้ลงมือบิดใบมีดอีกครั้ง จนในที่สุดร่างของเซซิลก็หายไปทั้งๆที่ไม่รู้เลยว่าใครกันแน่ที่ลงมือ

    “เพราะพวกนายขาดประสบการณ์ไงล่ะ” ชายวัยกลางคนที่มีที่ปิดตาข้างซ้ายพูดขึ้น เป็นโซลิดสเนคนั่นเอง

    มาตาร์มองการต่อสู้อย่างตื่นตะลึง พวกทีมของเซซิลที่สู้กับเขานั้นถือว่าฝีมือสูสีกับเขาเมื่อสองวันก่อนกลับถูกกำจัดอย่างง่ายดาย

    ส่วนอีกสองคนที่เหลือของทีมไฟนอลถูกรุมโจมตีด้วยคนห้าคนอย่างไม่ปรานี ทั้งกระสุนปืนจากวงนอก และคมดาบจากวงใน ทำให้ทั้งสควอลและคราวด์อับจนหนทางจริงๆ เนื่องจากอาวุธที่พวกเขาใช้คือดาบ พวกทีมโซลิดฯไม่คิดจะเข้าไปแลกกับเขาเลย และพอเผลอก็จะถูกดาบของไรเด็นตอดเล็กตอดน้อยไปเรื่อยๆ จนสุดท้าย ทั้งคู่ก็นอนจมกองเลือดแบบไร้ทางขัดขืน

     

    “และผู้ชนะได้แกทีม โซลิดแอนลิควิดครับ!!” พิธีกรประกาศชื่อทีมชนะเมื่อผลลัพธ์กระจ่าง

    “พวกนี้สู้แบบกองโจร แต่ละคนล้วนมีวิชาการต่อสู้ในสนามรบทั้งนั้นเลยนี่นา” ราตรีพูดขึ้นมาเมื่อเห็นผลการต่อสู้

    “วิชาการต่อสู้ในสนามรบ?” มาตาร์ไม่เคยรู้เรื่องอะไรพวกนี้มาก่อนถามด้วยความสงสัย

    “เห็นสามคนนั้นมั้ย” ราตรีชี้ไปที่โซลิด ลิควิด และบิ๊กบอส

    “อื้อ” มาตาร์ขานรับ

    “วิชาที่พวกมันใช้เรียกว่าโคลสควอเตอร์คอมแบ็ต ใช้มีดร่วมกับปืน ถ้าศัตรูถอยห่างก็ใช้ปืน ถ้าเข้าใกล้ก็ใช้มีด ประกอบกับวิชาทุ่มและล็อคข้อต่อ เป็นวิชาที่เน้นการฆ่าฟันเป็นหลัก ไร้จุดบอด” ราตรีอธิบายให้มาตาร์ฟัง

    “สุดยอดเลยแฮะ” มาตาร์มองด้วยความทึ่ง

    “ถ้านายเข้ารอบชิงได้น่าจะเจอกับพวกนี้แน่นอนล่ะ ชั้นไม่เห็นว่าจะมีทางทำอะไรกับพวกนี้ได้เลย” ราตรีพูดในฐานะของคนที่ฝึกวิชาการต่อสู้

    “แฮะๆๆ แต่ยังไงชั้นก็ต้องชนะ แถมนี่ไม่ใช่สนามรบนะ ...แต่เป็นเกม” มาตาร์พูดด้วยความรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที

     

    ใครเดาคู่ชนะเลิศออกแล้วมั่ง?

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×