ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    JOQ Online คนจริงลวงโลก <มี E-Book>

    ลำดับตอนที่ #93 : บทที่91: การประลองประจำสัปดาห์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 12.3K
      108
      30 ธ.ค. 54

    บทที่91 การประลองประจำสัปดาห์

    การต่อสู้ของมาตาร์และเรย์น่า ใช้เวลาทั้งหมดเพียงแค่สามนาทีเท่านั้นเอง ตั้งแต่กระสุนเรลกันนัดแรกถูกยิงออกมา เพราะการรุกรับเป็นไปอย่างรวดเร็วโดยไม่มีแม้จังหวะที่ทั้งคู่จะยืนเฉยๆ

    จริงๆสามนาทีก็ถือว่านานพอสมควรแล้ว เมื่อการโจมตีแต่ละครั้งของเรย์น่าสำหรับมาตาร์แล้วหมายถึงความพ่ายแพ้หรือตายในทันที ไม่ว่าจะกระสุนเรลกันหรือแส้สายฟ้า เพราะแค่โดนเข้าไปเต็มๆเพียงครั้งเดียว มาตาร์คงจะติดสถานะช็อค เคลื่อนไหวไม่ได้ แล้วก็กลายเป็นเป้านิ่งให้เรย์น่าทรมานเหมือนเดิม

    และถึงแม้จะเป็นเวลาเช้ามืด แต่ก็ยังพอมีผู้คนอยู่รอบๆบ้าง ผู้คนที่เห็นการต่อสู้ของทั้งคู่ต่างซุบซิบถึงความโหดในการลงมือของมาตาร์ในตอนจบที่ซัดหญิงสาวอยู่ข้างเดียวจนเธอตายไปอย่างน่าอนาถ

    จริงๆแล้วมาตาร์ก็ไม่ได้อยากจะลงมือโหดแบบนี้หรอก เขายังจำได้ถึงครั้งแรกๆที่เขาลงมือฆ่าคนในเกมโดยใช้ค่าสถานะล้วนๆ ไม่พึ่งปราณเลย ตอนนั้นมันรู้สึกแย่กว่านี้เสียอีก แต่คงเพราะหลังๆมานี่เล่นกับยัยงูพิษบ่อยไปหน่อย ประสาทรับความรู้สึกโหดก็เลยตายด้านไปแล้วกระมัง

    มาตาร์เห็นผู้คนซุบซิบกันแล้วมองมาทางเขาก็พอจะเดาออกว่าคุยกันเรื่องอะไร แต่มันไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องไปสนใจมาก เพราะคนพวกนี้ไม่ได้รู้ว่าเรย์น่าเคยทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่ถึงไม่รู้ นี่ก็เป็นการต่อสู้ถึงตายธรรมดาไม่ใช่เหรอ ถ้าเปลี่ยนเป็นเขาตายบ้างผู้คนก็จะซุบซิบกันอยู่ดีแหละ ว่ายัยงูพิษมันซาดิสม์สุดๆยิ่งกว่าเขาในเวลานี้เสียอีก

    แม้โลกจะผ่านการล่มสลายมากี่ครั้ง แม้มนุษย์จะเกิดใหม่กี่รุ่น ความเท่าเทียมกันในเรื่องเพศมันก็ยังไม่เปลี่ยนหรอก ผู้หญิงถูกมองว่าเป็นเพศที่อ่อนแอและถูกเอาเปรียบอยู่เสมอ เป็นภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ตราบใดที่สรีระผู้หญิงกับผู้ชายยังไม่เหมือนกัน

    แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่มาตาร์ไม่ค่อยเข้าใจ ทำไมไอ้พวกรณรงค์สิทธิสตรีถึงลามเข้ามาในโลกฝันได้นะ ในเมื่อโลกนี้มีเพียงจิตเท่านั้นที่เข้ามาได้ ร่างกายมันไม่เกี่ยวแล้วสิ แต่คนเราก็ยังติดภาพลักษณ์อยู่ดีแหละนะ มาตาร์ได้แต่คิดแล้วก็ปลง ทั้งๆที่ตอนสร้างตัวละครในเกมสถานะร่างกายมันถูกตั้งมาเสมอกันแท้ๆ แต่พอผู้ชายอัดผู้หญิงกลับกลายเป็นว่าผู้ชายรังแกผู้หญิงซะนี่ ไม่ยุติธรรมกับผู้ชายเลยแฮะ

    “ผู้เล่นมาตาร์สังหารผู้เล่นเรย์น่าระดับ141 ได้รับประสบการณ์1,300 ผู้เล่นมาตาร์เลื่อนระดับเป็น 91 ค่ะ ผู้เล่นเรย์น่ามีค่าหัว สามารถรับค่าหัวได้ที่อาคารนักล่าค่ะ” เสียงจากระบบดังขึ้นมาในหัวของมาตาร์

    อืม ...ไปหาพวกคลาร่าดีกว่า มาตาร์คิดขึ้นมาแล้วก็เดินลอยหน้าลอยตา ไม่สนใจคนที่กำลังนินทาเขาอยู่

     

    “ฝากของเรียบร้อยแล้วค่ะมาตาร์” คลาร่ารายงานชายหนุ่มทันทีโดยไม่ถามถึงผลการต่อสู้ เพราะการที่มาตาร์มายืนอยู่กับเธอตรงนี้ก็เป็นคำตอบอยู่แล้ว

    “ดีมาก ...ว่าแต่มีเวลาเหลืออีกเยอะเลย ทำอะไรกันดีล่ะ?” มาตาร์ถามสามสาว

    เนื่องจากตอนนี้แค่เกือบๆหกโมงเท่านั้นเอง กว่าพวกโซล่าร์ซิสฯจะออนไลน์ก็อีกชั่วโมงกว่าๆ จะไปเก็บระดับคนเดียวก็เสียเวลาเดินไปเดินมา สู้รอไปพร้อมกับพวกโซล่าร์ซิสฯทีเดียวดีกว่า ง่วงหรือก็ไม่ หิวหรือก็เปล่า

    “มาตาร์สอนปราณให้คลาร่าได้มั้ยคะ” แม่หมาป่าสาวเรียกร้อง

    “หา? จะให้พาไปทำภารกิจเสริมปราณเหรอ” มาตาร์ตอบกลับแบบตื่นๆ เขากลัวว่าถ้าพาเธอไปทำภารกิจ บางทีอาจจะตายอีกรอบก็ได้

    “ไม่ใช่ค่ะ ใช้การรวมร่างแล้วก็สอนด้วยร่างกายตรงๆเลยไงคะ” คลาร่ากล่าว

    “เอ๋? มันทำแบบนั้นได้ด้วยเหรอเนี่ย” มาตาร์ไม่แน่ใจนักว่าถ้าประสานวิญญาณแล้วจะสามารถสอนปราณให้กันได้ด้วย

    “งั้นเราก็มาทดลองกันดูสิคะ ว่างไม่ใช่เหรอ” คลาร่าคะยั้นคะยอ

    “อือ ก็ได้ เราไม่ค่อยมีเวลาว่างด้วยกันนี่นะ” มาตาร์เห็นว่าถึงจะทำได้หรือไม่ได้ แต่อย่างน้อยเขาก็มีอะไรทำร่วมกับสามสาว

    “งั้นสอนเวทให้โมเรน่าด้วยนะ” แม่เสือสาวก็เรียกร้องบ้าง

    “บราวนี่ด้วย” แม่เหยี่ยวสาวพูดพร้อมกับกระตุกเสื้อชายหนุ่ม

    เพื่อไม่ให้มีใครรบกวน เพราะเขาต้องใช้ทักษะประสานวิญญาณ ดังนั้นมาตาร์จึงไปเปิดห้องในโรงแรมห้องหนึ่งเพื่อเอาไว้ฝึกกับสามสาวโดยเฉพาะ

     

    “ถ้างั้นคลาร่าลองก่อนละกันนะ” มาตาร์พูดขึ้นหลังจากที่เขานอนลงบนเตียง

    “ค่ะ” คลาร่าขานรับอย่างสดใส

    แล้วทันใดนั้น มาตาร์ก็เรียกใช้ทักษะประสานวิญญาณทันที สีหน้าของคลาร่าเปลี่ยนไป ส่วนร่างของมาตาร์ก็นอนแน่นิ่งไป

    “อืม งั้นลองใช้ปราณตามความเคยชินของพี่ดูก่อนนะ” มาตาร์ในร่างคลาร่าพูดขึ้น

    ค่ะ คลาร่าในหัวของมาตาร์ขานรับ

    “ฮึมม!

    มาตาร์ในร่างคลาร่าส่งเสียงขึ้นมาแล้วเกร็งปราณตามความเคยชินทันที แต่ไม่ว่าจะเกร็งพลังเท่าไหร่ ปราณก็ไม่ก่อเกิด เพราะเงื่อนไขในการใช้ปราณนั้นคือต้องรู้สึกว่าตนเองนั้นอยู่ในสภาวะวิกฤตซะก่อน อารมณ์ของมาตาร์ตอนนี้ไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นเลย ดังนั้นปราณจึงไม่ก่อเกิด

    ถ้าไปรับภารกิจเสริมปราณอาจจะทำให้ปราณเกิดขึ้นมาได้ แต่มาตาร์ก็ไม่อยากเสี่ยงให้สามสาวไปตายขณะทำภารกิจเลย แต่ก็ยังมีอีกวิธีหนึ่งคือการฝึกให้ปราณก่อเกิดอย่างช้าๆ แต่นั่นก็ต้องใช้เวลาเยอะ แค่ชั่วโมงเดียวยังไงก็ไม่ทัน

    “เฮ้อ เรื่องปราณนี่ท่าทางจะยากนะคลาร่า” มาตาร์ในร่างคลาร่าพูดขึ้นมา

    “แต่ถ้าลองเวทดูอาจจะทำได้เลยนะ” คราวนี้เป็นโมเรน่าพูดขึ้นมาบ้าง

    มาตาร์ย้ายจากร่างแม่หมาป่าสาวมาอยู่ในร่างแม่เสือสาวแทนแล้ว

    “ฮึบ!” มาตาร์ในร่างโมเรน่าส่งเสียงออกมาครั้งหนึ่งแล้วก็จับกระแสพลังธรรมชาติรอบๆตัวทันที

    วูม!

    ก้อนแสงสีขาวผุดขึ้นที่มือโมเรน่าในที่สุด

    “เออแฮะ เวทนี่ง่ายกว่าปราณอีกนะเนี่ย โมเรน่าจำความรู้สึกนี่เอาไว้นะ” มาตาร์พูดกับโมเรน่าที่อยู่ในตัว

    อื้อ โมเรน่าขานรับในหัวของมาตาร์

    หลังจากนั้นมาตาร์ก็ลองสร้างก้อนเวทให้โมเรน่าอีกหลายครั้ง จนพลังวิญญาณของโมเรน่าหมดลงเลยทีเดียว

    “ต่อไปก็บราวนี่นะ” มาตาร์ย้ายมาร่างของแม่เหยี่ยวสาวหลังจากที่สอนโมเรน่าเสร็จแล้ว

    มาตาร์ใช้เวทในร่างของบราวนี่ได้อย่างไม่มีปัญหา ชายหนุ่มสอนบราวนี่เหมือนกับที่สอนโมเรน่า จนพลังวิญญาณของบราวนี่หมดไปอีกคน

    “ดูท่าทางปราณกับพลังจิตจะมีปัญหามากที่สุดล่ะนะ” มาตาร์กลับเข้าร่างแล้วพูดขึ้นมา

    ตอนนี้กลายเป็นว่าคลาร่าเป็นคนเดียวที่ไม่มีอะไรก้าวหน้าเลย เธอทำหน้าห่อเหี่ยวอย่างเห็นได้ชัดจนมาตาร์ต้องเข้าไปปลอบเธอ

    “คลาร่าไม่ต้องเศร้าหรอกน่า ยังไงพี่ก็ต้องสอนจนคลาร่าใช้ปราณให้ได้แหละ” มาตาร์พูดขึ้นพร้อมกับใช้มือลูบหัวแม่หมาป่าสาวของเขา สงสัยต้องมาทบทวนวิธีใช้ปราณด้วยแล้วแฮะ เพราะทุกวันนี้ใช้ด้วยความเคยชิน ก็เลยไม่รู้ว่าจริงๆแล้วขั้นตอนการเกิดปราณมันทำได้ยังไง

    หลังจากนั้นมาตาร์ก็เลยลองโคจรปราณของเขาช้าๆ ดูว่ามันเริ่มที่ตรงไหน แล้วมันทำงานยังไง แต่ไม่ว่าจะลองโคจรดูกี่ครั้งเขาก็ไม่เข้าใจอยู่ดี มาตาร์ลองประสานวิญญาณกับคลาร่าอีกหลายครั้ง กลับไปกลับมาเมื่อเขาคิดว่าจับอะไรได้ แต่ลองจนถึงเจ็ดโมงก็ยังสอนปราณให้คลาร่าไม่ได้อยู่ดี ส่วนโมเรน่ากับบราวนี่ดูเหมือนจะเรียกพลังเวทได้เองแล้ว แต่ยังดูไม่ชำนาญกันเท่าไหร่

    พี่มาตาร์อยู่ไหนครับ ข้อความจากคริมซั่นเด้งขึ้นมา

    อยู่ในเมืองแล้ว จะมาซื้อของกันก่อนมั้ย มาตาร์รีบตอบกลับไปทันที เขาเกือบลืมไปแล้วว่านัดกับพวกโซล่าร์ซิสฯเอาไว้ตอนเจ็ดโมง

    “สาวๆ พวกโซล่าร์ซิสฯฟื้นกันแล้ว เดี๋ยวเราไปเก็บระดับกันนะ” มาตาร์บอกสามสาวเพื่อจะได้เตรียมตัว

    “โมเรน่าใช้เวทช่วยสู้ได้มั้ย” โมเรน่าถามขึ้นมา

    “อย่าเพิ่งเลยโมเรน่า พี่จะซ้อมกับพวกโซล่าร์ซิสฯด้วยน่ะ เอาไว้หลังงานประลองนะ พี่จะพาไปสู้ด้วยทุกที่เลย” มาตาร์ตอบแม่เสือสาว จริงๆแล้วเขาก็ขี้เกียจจะตอบคำถามพวกโซล่าร์ซิสด้วยว่าทำไมจู่ๆโมเรน่ากับบราวนี่ถึงใช้เวทขึ้นมาได้ จึงไม่ให้พวกเธอสู้ด้วย

     

    เวลาเจ็ดโมงครึ่ง พวกโซล่าร์ซิสฯทุกคนก็มาพร้อมกันที่ลานกลางเมือง

    “โอเค เรามีเวลาอีกเกือบสามชั่วโมงก่อนจะปิดการลงทะเบียน ระหว่างนั้นเก็บระดับให้ถึงร้อยเลยนะ” มาตาร์คำนวณเวลา

    “แล้วถ้าผู้หญิงคนนั้นตามมาฆ่าเราอีก เราจะทำยังไงดีคะ” โรสถามขึ้นมา เพราะมันเป็นไปได้ที่เรย์น่าจะตามมารังควานอีก โดยที่เธอยังไม่รู้ว่าเรย์น่านั้นตายไปอีกรอบหนึ่งแล้วด้วยฝีมือของมาตาร์

    “อืม ถ้ายัยงูพิษตามมาหาเรื่องเราอีก คราวนี้เราก็รวมพลังกันกำจัดยัยนั่นสิ ยังไงพวกเราห้าคนก็เหนือกว่าอยู่แล้ว อย่าลืมสิว่าเราเคยเอาชนะยัยนั่นมาครั้งนึงแล้วนะ!!” มาตาร์ปลุกใจพวกโซล่าร์ซิสฯ

    “โอ้วว!!” พวกโซล่าร์ซิสฯขานรับโดยพร้อมเพรียง

    แล้วทั้งหมดก็หายตัวจากลานกลางเมืองสู่พื้นที่พิเศษหน้าสนามต่อสู้

    และเมื่อมาตาร์กับสามสาวและโซล่าร์ซิสฯมาปรากฏตัวที่หน้าสนามต่อสู้ ทุกคนก็ต้องตกใจ เมื่อหญิงสาวผมขาว ยืนอยู่บริเวณนั้น

    “มาตาร์!! มาสู้กับชั้นเดี๋ยวนี้!!” เรย์น่าร้องท้าทายขึ้นมาทันทีที่เห็นว่ามาตาร์ปรากฏตัวขึ้นมา คราวนี้เธอท้าชายหนุ่มสู้ตรงๆเลย

    มาตาร์มองไปที่หญิงสาวแล้วก็ต้องถอนหายใจออกมา ดูท่าทางหญิงสาวคนนี้จะไม่สนใจแล้วว่าเธอจะฆ่าเขาได้หรือเปล่า ขอแค่เพียงตามมารังควานเขาได้เธอก็พอใจแล้ว

    “พวกเรา ไม่ต้องออกจากพื้นที่พิเศษนะ เดี๋ยวพี่ขอไปจัดการธุระแป๊ปนึง” มาตาร์พูดกับโซล่าร์ซิสฯก่อนจะเดินออกไปเผชิญหน้ากับเรย์น่า

    “แต่ว่า พี่มาตาร์ ไหนว่าให้พวกเราช่วยกันรุมนี่ครับ?” คริมซั่นถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง

    “ไม่ต้องกังวล พี่แค่จะไปเจรจากับยัยนี่เท่านั้นเอง” มาตาร์หันมาตอบก่อนจะเดินออกจากพื้นที่พิเศษไป

     

    “คุณเรย์น่า คุณสู้ผมไม่ไหวแล้ว ทำไมคุณถึงยังตามมารังควานผมไม่เลิกซักทีล่ะ” มาตาร์รู้สึกว่าการต่อสู้ครั้งนี้มันไม่สมควรจะเกิดขึ้นด้วยซ้ำ

    “เพราะชั้นแค้นแกไงล่ะ ชั้นจะไม่เลิกตามรังควานแก ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ตาม” เรย์น่ากล่าวด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจะร้องไห้

    “คุณมาแค้นอะไรผมเนี่ย แค่ผมไม่เข้ากิลด์คุณแค่นี้ถึงกับต้องแค้นกันขนาดนี้เลยเหรอ” จริงๆการพูดคุยนี้ควรจะเกิดขึ้นก่อนที่ทั้งคู่จะฆ่ากันตายไปแล้วหลายครั้งด้วยซ้ำ แต่ดันมาคุยกันตอนที่ต่างคนต่างตายกันไปแล้วไม่ต่ำกว่าสามครั้ง

    “มันไม่ต้องมีเหตุผลอะไรทั้งนั้นแหละ แค้นก็คือแค้น!” เรย์น่าไม่สนใจเหตุผลแล้ว เธอแค่อยากจะตามฆ่าเขาเท่านั้นเอง

    “ถ้าผมฆ่าคุณตอนนี้ก็จะกลายเป็นผมมีค่าหัวซะเอง จริงๆผมก็ไม่อยากจะฆ่าคุณแล้วล่ะนะ แต่พอดีผมกำลังอยู่ในช่วงไม่อยากเสียเวลาพอดี” มาตาร์คิดถึงการล้างค่าหัวที่เขาเคยฟังมา ถ้ามีค่าหัวคราวนี้ก็น่าจะลองใช้บริการดูสักครั้ง ดังนั้น

    ฟุบ!! ผึง!

    มาตาร์ไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายลงมือ ในเมื่อประกาศว่าอยากจะฆ่ากัน จริงๆก็ไม่ควรจะคุยกันแต่แรกแล้วด้วยซ้ำ ชายหนุ่มพุ่งเข้าประชิดหญิงสาวด้วยเท้าไร้เงาแล้วใช้กงจักรลมดีดร่างเธอขึ้นไปบนอากาศทันที

    การลงมือของมาตาร์นี้ไม่มีการเตือนล่วงหน้า เรย์น่าก็ตกใจเหมือนกันเพราะจู่ๆมาตาร์ก็ลงมือก่อน ทั้งๆที่ปกติเธอจะเป็นฝ่ายลงมือก่อนทุกครั้งเสมอ และเป็นครั้งแรกด้วยซ้ำที่เธอชวนเขาคุย เธอนึกว่าเขาอยากจะเลี่ยงการต่อสู้กันมากกว่านี้เสียอีก แต่กลายเป็นว่าชายหนุ่มไม่คิดจะประนีประนอมกับเธอเลย

    แซดด!! เปรี๊ยะ!!

    เรลกันพุ่งจากดินขึ้นสู่ท้องฟ้าเข้าปะทะร่างหญิงสาวที่ลอยอยู่บนอากาศ ที่แท้มาตาร์เก็บถุงมือที่ได้จากเรย์น่ามาใช้นั่นเอง

    ปึ้กก!!

    ร่างของเรย์น่าร่วงลงสู่พื้นโดยไร้การควบคุม เพราะเธอติดสถานะช็อคตั้งแต่ถูกกระสุนสายฟ้ายิงใส่กลางอากาศแล้ว แรงปะทะกับพื้นทำให้เธอกระอักเลือดออกมาทีเดียว

    วูมม

    “ถ้าคุณยังกลับมาหาผมอีกครั้ง ผมจะทรมานคุณให้สาหัสเลย คราวหน้าอย่าคิดว่าจะได้ตายง่ายๆเหมือนคราวนี้นะ” มาตาร์พูดเสียงเรียบๆใส่หญิงสาวที่ร่างกายไม่อาจขยับเขยื้อนได้พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาน้อยๆรอบดวงตาของเธอ พร้อมกับสร้างระเบิดวายุใส่มือลูกหนึ่ง

    ฟุบบ ตูมมม!!!

    มาตาร์อัดระเบิดวายุใส่หัวของเรย์น่าทันที หญิงสาวตาเหลือกขึ้นมาก่อนที่ผิวหนังจะโป่งพอง แล้วสมองของหญิงสาวก็ระเบิดกระจายออกมาก่อนที่ทุกอย่างจะกลายเป็นแสงแล้วหายไป

    “ผู้เล่นมาตาร์สังหารผู้เล่นเรย์น่า ระดับ 70 ได้รับค่าประสบการณ์ 19 ค่ะ” เสียงจากระบบดังขึ้นในหัวมาตาร์

    “เอาล่ะ ไปเก็บระดับกันได้แล้วพวกเรา” มาตาร์หันมายิ้มให้กับพวกโซล่าร์ซิสฯ

    พวกโซล่าร์ซิสฯแต่ละคนเหม่อเหมือนสติหลุดลอยไปครู่หนึ่งเมื่อเห็นภาพความโหดตรงหน้า ก่อนจะได้สติขึ้นมาเมื่อชายหนุ่มผมแดงหันมายิ้มให้

    “เอ้อ!! ครับ” คริมซั่นขานรับแล้วก็ค่อยๆเดินไปหามาตาร์อย่างหวาดๆ

    “พี่มาตาร์ทำไมโหดจังล่ะคะ” โรสถามออกมาตรงๆ

    “โหด?” มาตาร์สงสัยว่ามันโหดตรงไหน

    “เอ้อ ก็พี่มาตาร์ฆ่าผู้หญิงคนนั้นแบบนั้นน่ะค่ะ” โรสขยายความ

    “ระหว่างทรมานให้ตายช้าๆกับฆ่าให้ตายด้วยความรวดเร็ว โรสว่าอันไหนคือโหดล่ะ” มาตาร์ย้อนถามให้หญิงสาวสีชมพูช่างสงสัยได้คิด

    “แต่ทำไมพี่มาตาร์ถึงฆ่าเธอได้ง่ายนักล่ะฮ้า” มาเจนต้าก็สงสัยขึ้นมา เมื่อคราวที่แล้วยังสู้กันอย่างยากลำบากเลย

    “ก็ยัยนั่นประมาทนี่นา จะฆ่ากันแล้วชวนคุยเนี่ยนะ ใครคุยจริงๆก็โง่แล้วสิ” มาตาร์ตอบคำถามพร้อมออกเดินไปเรื่อยๆ

    “อืม ก็จริงนะครับ แต่ผมแปลกใจว่าทำไมอยู่ๆเธอถึงชวนคุยมากกว่าทั้งๆที่ปกติเอาแต่โจมตีพวกเราท่าเดียว” อาเชอร์สงสัยขึ้นมา

    มาตาร์แทบจะไม่ได้สนใจในประเด็นนี้มาก่อนเลย หรือว่าจริงๆแล้วที่เรย์น่ามาครั้งนี้ ไม่ได้อยากจะสู้จริงๆ แต่เขาก็ดันลงมือไปก่อนแล้วนี่สิ ถ้าไม่อยากฆ่ากันแล้วเรียกออกไปสู้กันตั้งแต่แรกทำไมนะ มีอะไรก็บอกกันตรงๆก็ได้นี่นา เฮ้อ ยัยนี่ก็เข้าใจยากอีกคนนึงละ

    กลายเป็นว่ามาตาร์ไปฆ่าเรย์น่าที่อาจจะอยากคืนดีกับเขาก็ได้ไปซะแล้วสิ แล้วคราวหน้าถ้าเรย์น่าโผล่มาอีกจะทำยังไงดีเนี่ย

    “พวกเราว่าถ้ายัยงูพิษกลับมาอีกคราวหน้าจะทำยังไงดีล่ะ ตอนนี้ระดับเธอต่ำกว่าพวกเรามากด้วยนะ คงสู้พวกเราไม่ได้แล้วล่ะ” มาตาร์ลองคำนวณระดับที่เป็นไปได้แล้ว ถ้าเรย์น่าฟื้นขึ้นมาครั้งนี้น่าจะมีระดับอยู่แถวๆหกสิบเท่านั้นเอง

    “ผมว่าจับตัวเธอเอาไว้จนกว่าพวกเราจะประลองเสร็จดีมั้ยครับ” อาเชอร์เสนอขึ้นมา

    “อืม ถ้ากลับมาอีกครั้งทำแบบนั้นก็ดีเหมือนกันนะ” คริมซั่นก็เห็นด้วย เพราะนอกจากจะไม่ต้องฆ่าแล้ว เรย์น่ายังไม่มาเกิดใหม่เรื่อยๆ จำกัดการเคลื่อนไหวของเธอได้อีกด้วย

    “โอเค ถ้าคราวหน้าเธอกลับมาก็จับตัวเธอเอาไว้ละกัน” มาตาร์คิดว่าซัดเข้าไปสักตุ้บสองตุ้บให้สลบแล้วจับมัดเอาไว้ก็ไม่เลวนัก

    แล้วพวกโซล่าร์ซิสฯก็เข้าป่าไปเพื่อเก็บระดับและฝึกการประสาน แล้วพวกเขาก็พบว่าสัมผัสของมาตาร์เปลี่ยนไป มันครอบคลุมมากกว่าเดิม คล่องแคล่วมากกว่าเดิม แม่นยำมากกว่าเดิม เวลาสองชั่วโมงในป่าฝูงนก ฝีมือของมาตาร์ทำเอาพวกโซล่าร์ซิสฯแทบจะลืมความโหดของมาตาร์ไปเลย เพราะว่ามาตาร์ยังคงปฏิบัติต่อพวกเขาเหมือนเดิมไม่ได้เปลี่ยนไป แล้วพวกโซล่าร์ซิสฯก็ได้รู้ว่า มาตาร์จะไม่ปรานีเวลาต่อสู้กับศัตรูเด็ดขาดไม่ว่ามันจะเป็นใครก็ตาม

     

    เวลาเก้าโมงครึ่ง พวกโซล่าร์ซิสออกมาจากป่าฝูงนกอย่างปลอดภัยโดยไม่โดนลอบสังหาร

    และก่อนที่ทุกคนจะกลับไปที่สนามต่อสู้เพื่อลงทะเบียน

    “อันนี้หน้ากากสั่งทำใหม่ค่ะ ทุกอย่างเหมือนเดิม หนูเพิ่งไปรับมาเมื่อเช้า” โรสหยิบหน้ากากมาแจกให้ทุกคน

    ทุกคนก็สวมหน้ากากเข้าไป แล้วทันใดนั้นทรงผม สีผม และสีตาของทุกคนก็ ...ไม่มีอะไรเปลี่ยนไป ยกเว้นมาตาร์คนเดียวที่เหมือนแปลงร่างเป็นซิลเวอร์ด้วยผมยาวสีเงินกับนัยน์ตาสีทอง ส่วนสามสาวมองมาตาร์ด้วยสายตาที่เป็นประกายปิ๊งปั๊งเลยทีเดียว

    “อ๊ะ! พี่มาตาร์มานี่ เดี๋ยวหนูมัดผมให้” โรสยังคงทำหน้าที่ของเธอ

    มาตาร์ต้องย่อตัวลงให้หญิงสาวสีชมพูมัดผมให้เขา

    เมื่อเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว ทั้งหมดจึงเดินไปที่โต๊ะลงทะเบียนหน้าสนามต่อสู้ทันที

     

    “ลงทะเบียนแบบทีมห้าคนครับ” คริมซั่นพูดขึ้นเมื่อเขามายืนอยู่หน้าโต๊ะลงทะเบียน

    “ขอชื่อทีมที่ใช้ลงทะเบียนด้วยค่ะ” พนักงานสาวเงยหน้าขึ้นมานับจำนวนคนในทีมว่ามีครบห้าคนจริง

    “โซล่าร์ซิสฯเรนเจอร์ครับ” คริมซั่นตอบอย่างแจ่มใส ในที่สุดก็ถึงวันที่ทีมโซล่าร์ซิสได้เกิดจริงๆแล้ว

    “เรียบร้อยค่ะ หมายเลขทีมคือ10นะคะ” พนักงานสาวบอกพร้อมกับยื่นป้ายหมายเลขสิบให้คริมซั่น

    พวกโซล่าร์ซิสฯได้หมายเลขสิบแปลว่าก่อนหน้านี้เพิ่งมีทีมแบบห้าคนแค่เก้าทีมเท่านั้นเอง การประลองแบบกลุ่มห้าคนนั้นมีจำนวนผู้เข้าแข่งขันน้อยอยู่แล้ว เพราะการรวมทีมให้ได้ห้าคนเพื่อมาประลองนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายนั่นเอง

    “ขอบคุณครับผม” คริมซั่นตอบพร้อมกับเดินนำเข้าไปด้านในสนามประลอง

    แต่แล้ว...

    แซดด!! เปรี๊ยะ!

    กระสุนเรลกันถูกยิงออกมาจากด้านหลัง แต่มาตาร์ซึ่งกางสัมผัสจนเป็นนิสัยไปแล้วไหวตัวทันแล้วก็ชักทอนฟาออกมาปัดมันออกไปได้ทัน แล้วเขาก็ส่งสัมผัสให้พวกโซล่าร์ซิสฯทันที

    ศัตรูก็ยังคงเป็นเรย์น่า คราวนี้เธอก็ยังกลับมาแม้ระดับจะน้อยแค่ไหนก็ตาม ดูท่าเธอคงจะสติแตกไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งๆที่ดูยังไงก็สู้มาตาร์ไม่ได้ แต่ก็ยังกลับมา

    ตุบ! ตุบ! ตุบ!

    “กุหลาบแย้ม!!” โรสวิ่งเข้าไปตรงๆแล้วก็ใช้ไหล่ของเธอพุ่งเข้ากระแทกร่างของเรย์น่าตรงๆ

    ฟุบ!

    แต่เรย์น่ากลับหลบได้

    เพียะ! ฉัวะ!

    แส้ของเรย์น่าตวัดใส่โรส แต่มาเจนต้าก็พุ่งเข้ามาด้วยความรวดเร็วแล้วใช้มีดของเธอตัดปลายแส้ออกก่อนที่มันจะฟาดไปโดนหญิงสาวสีชมพูของกลุ่ม

    ปึ้กก!

    “อุ้ก!

    แล้วในจังหวะเดียวกันนั้นคริมซั่นก็พุ่งเข้ามาอีกทางแล้วใช้ด้ามหอกกระทุ้งใส่ท้องของเรย์น่าจนเธอตัวงอไปทันที

    กรุ๊ง! กริ๊ง!

    แล้วลูกตุ้มเหล็กติดโซ่ของอาเชอร์ก็พุ่งเข้ามาพันร่างของหญิงสาวผมขาวเอาไว้ด้วยพลังจิต แล้วใช้โซ่พันร่างของหญิงสาวเอาไว้จนเธอดิ้นไม่หลุด

    “พวกแก..!!” เรย์น่าที่ถูกจำกัดอิสรภาพง้างปากเตรียมจะด่า แต่มาตาร์ก็หยิบเอาลูกยางขึ้นมาแล้วเอายัดปากเรย์น่าทันที

    “รู้มั้ยครับ ลูกยางเนี่ยเค้ามีขายที่ร้านขายของชำด้วยนะ เจ้าของร้านเค้ามีรสนิยมชอบเล่นอะไรแปลกๆน่ะครับ ผมเห็นว่ามันเหมาะกับคุณเรย์น่าดี เลยซื้อมาเล่นกับคุณ ถูกใจมั้ยครับ?” มาตาร์พูดจายียวนเลียนแบบเรย์น่าตอนที่เธอหยิบเทียนออกมาทรมานเขา

    แล้วมาตาร์กับพวกโซล่าร์ซิสฯก็ให้สามสาวช่วยกันแบกหญิงสาวผมยาวที่ถูกมัดและทำให้พูดไม่ได้เข้าไปที่ลานประลองด้วยกัน โดยไม่สนใจสายตาผู้คนที่มองพวกเขาด้วยความสงสัยเลย

     

    เมื่อเข้ามาข้างใน ผู้เข้าร่วมประลองส่วนหนึ่งก็ยืนรออยู่รอบๆแล้ว ทั้งแบบบุคคลและแบบทีม พวกโซล่าร์ซิสฯแต่ละคนดูตื่นเต้นกับบรรยากาศมาก

    “อ้าว! นั่นมันพวกปัญญาอ่อนบ้ายอดมนุษย์นี่นา อะไรเนี่ยใส่หน้ากากกันมาด้วย กลัวคนจำได้ว่าตัวจริงเป็นใครเหรอไง ฮ่าๆๆๆ” เสียงชายคนหนึ่งดังขึ้นมาทางพวกโซล่าร์ซิสฯ

    มาตาร์หันไปมอง ชายคนที่พูดออกมาอยู่ในกลุ่มคนที่มีกันห้าคน

    “นาย? เกรย์!!” คริมซั่นหันไปทางต้นเสียงแล้วก็พบว่าเป็นคนที่เขารู้จักมาก่อน

    “เฮ้ย! พวกเรารู้มะ เจ้าสี่คนนี่มันบ้ายอดมนุษย์ห้าสีเว่ย เพราะมันมีกันสี่คน มันก็เลยพยายามชวนชั้นเข้ากลุ่มด้วยจะได้เป็นห้าคน” เกรย์หันไปคุยกับพรรคพวกของตนด้วยอาการดูถูก

    “เอาจริงเด่ะ มันมีพวกบ้าอย่างนี้ด้วยเหรอวะ แล้วแกว่าไงล่ะ” เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มพูดออกมา

    “ฮ่าๆๆๆ ใครจะไปเล่นกับพวกปัญญาอ่อนวะ อ้าว มีครบห้าคนแล้วนี่หว่า ไอ้ปัญญาอ่อนตัวที่ห้า ฮ่าๆๆๆ” เกรย์พูดแล้วห็หันมาทางมาตาร์ พรรคพวกทั้งห้าคนก็หัวเราะกันใหญ่

    “พวกแกอย่ามาดูถูกพี่...”

    “คริมซั่นหยุดเถอะ เราไม่จำเป็นต้องไปเถียงกับคนพวกนี้หรอก” มาตาร์พูดขัดขึ้นมาก่อนที่คริมซั่นจะตอบโต้เกรย์

    “ฮ่าๆๆๆ คนที่ห้าสีอะไรล่ะ?” แต่เกรย์ก็ยังไม่หยุดที่จะดูถูกพวกโซล่าร์ซิสฯ

    “อ้า ผมคนที่ห้า ชื่อซิลเวอร์ครับ” มาตาร์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงสุภาพ คนแบบนี้มันมีจริงเหรอเนี่ย นึกว่ามีแต่ในนิยายน้ำเน่าซะอีก

    “ท่าทางนอบน้อมดีนี่หว่า ถ้าได้มาสู้กับพวกเรา ชั้นจะละเว้นชีวิตให้ละกันนะ ฮ่าๆๆๆ” เกรย์ตอบกลับด้วยความหยิ่งผยอง

    “ขอบคุณมากครับคุณเกรย์” มาตาร์ยังคงตอบกลับแบบยิ้มแย้ม

    ส่วนพวกโซล่าร์ซิสฯแต่ละคนหน้าเสียไปแล้วที่พี่ชายของกลุ่มอย่างมาตาร์โดนดูถูก โดยลืมไปแล้วว่าปกติมาตาร์จะปฏิบัติต่อคู่ต่อสู้อย่างไร

     

    Rewrite tag: แก้คำผิด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×