ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    JOQ Online คนจริงลวงโลก <มี E-Book>

    ลำดับตอนที่ #9 : บทที่8: เทพ มังกร มาร

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 20.38K
      125
      21 ธ.ค. 54

    บทที่8 เทพ มังกร มาร

    “ถ้าคุณมาตาร์เข้าใจ ขออนุญาตทดสอบความรู้หน่อยนะคะ” นาตาลียิ้มกริ่มมองมาทางชายหนุ่ม

    มาตาร์รู้สึกหนาวๆร้อนๆขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ แต่ท่าทางของพนักงานสาวคนนี้เหมือนกับจะสามารถฆ่าเขาได้ถ้าเขาเกิดเข้าใจเรื่องธาตุผิดไปสักอย่าง

    “เอ่อ ...ได้ครับ” มาตาร์ตอบกลับแบบหวาดๆ

    “ธาตุธรรมชาติทั้งห้า สามารถใช้เสริมกันได้มั้ยคะ” พนักงานสาวถาม ซึ่งคำถามนี้อยู่ในคำกล่าวของเธอแล้วทั้งสิ้น

    “...ด ได้ครับ” มาตาร์ตอบกลับด้วยความลุ้นระทึก เขายังกลัวว่าถ้าตอบผิดอาจจะโดนสอยร่วงแบบไม่รู้ตัวโดยพนักงานสาวผู้มีระดับถึง342 แถมเชี่ยวชาญการใช้ธาตุด้วย จากที่ดูว่าเธอสามารถถึงขั้นใช้วิชาแปรธาตุ

    “ถูกต้องค่ะ แล้วธาตุลมใช้เสริมธาตุอะไรได้บ้างคะ” เธอยังคงมีตัวช่วยด้วยการเปิดตารางธาตุให้ชายหนุ่มดู เพื่อเทียบเคียง



    “ธาตุลม ใช้เสริม...ธาตุ ไฟ ..น้ำแข็ง สายฟ้า แล้วก็ดินได้ครับ” มาตาร์ตอบพร้อมเหลือบไปมองตารางธาตุ

    “ถูกต้องค่ะ แล้วธาตุไฟใช้เสริมธาตุอะไรได้บ้างคะ”

    พนักงานสาวถามความรู้ที่เธอไม่เคยบอกตรงๆ เพราะเธอไม่เคยบอกกับมาตาร์ว่าธาตุอื่นนอกจากลมมันเสริมธาตุอื่นได้ ซึ่งมันก็ทำให้มาตาร์นิ่งอึ้งงงงันอยู่สักครู่ ก่อนจะรวบรวมสติกล่าวออกมา

    “ธาตุไฟใช้เสริม ...ธาตุ ...สายฟ้า” มาตาร์ตอบแล้วหันมามองหน้าพนักงานสาวแบบขอความคิดเห็น เธอเพียงแต่ยิ้มแย้มแล้วพยักหน้าเหมือนเดิม แต่ก็ยังไม่พูดอะไรออกมาอีก

    “เอิ่มม ..น้ำแข็ง” มาตาร์ตอบแบบไม่แน่ใจเพราะมันดูขัดๆกันยังไงชอบกล แต่เขาจำได้ว่าพนักงานสาวเคยพูดว่าเส้นทุกเส้นในรูปมีความหมาย

    นาตาลียังคงยิ้มแล้วพยักหน้า แต่เธอก็ยังไม่พูดอะไรออกมา ทำให้มาตาร์ต้องพูดต่อไปอีก

    “...แล้วก็ ลม”

    “ถูกต้องค่ะ” เธอพูดต่อทันทีโดยไม่ต้องให้มาตาร์ลุ้น

    แต่เมื่อมาตาร์ตอบถูก เขาก็มั่นใจแล้วว่าเส้นในตารางธาตุนี้มีความหมายอย่างไร

    “แล้วธาตุสายฟ้าใช้เสริมธาตุอะไรได้บ้างคะ” นาตาลีถามต่อทันทีด้วยเสียงใสๆ

    “ธาตุสายฟ้าใช้เสริมธาตุไฟ ลม แล้วก็ดินได้ครับ” มาตาร์ตอบอย่างมั่นใจ แค่ลากเส้นที่เชื่อมถึงกันได้มันก็ใช้เสริมกันได้ นั่นคือคำตอบ

    “ถ้าอย่างนั้น ธาตุน้ำแข็ง ใช้เสริมธาตุอะไรไม่ได้คะ” คราวนี้นาตาลีถามแบบกลับด้าน

    “ธาตุน้ำแข็งใช้เสริมธาตุสายฟ้าไม่ได้ครับ” แต่มาตาร์ซึ่งเข้าใจแล้วก็ตอบกลับแบบสบาย

    “ถูกต้องค่ะ คุณมาตาร์เข้าใจธาตุธรรมชาติดีแล้วจริงๆด้วย” พนักงานสาวยิ้มแย้มแสดงความยินดี

    ส่วนมาตาร์ก็โล่งอกที่ตอบถูก ถ้าตอบผิดซักข้อมีโฮแหงๆเลยตู คิดแล้วก็เสียวสันหลังวาบ

    “คุณมาตาร์คงจะสังเกตเห็นเส้นที่ลากเชื่อมโยงธาตุทั้งห้าเอาไว้แล้วใช่มั้ยคะ” พนักงานถามเสียงสดใส ตามาร์ก็พยักหน้าตอบ

    “ตามปกติแล้ว ภารกิจธาตุนั้นจะเลือกได้เพียงธาตุเดียวนะคะ แต่ด้วยความสัมพันธ์ของธาตุธรรมชาติทำให้สามารถใช้ธาตุข้างเคียงได้ด้วย ดิชั้นจะยกตัวอย่างให้ฟังนะคะ สมมุติคุณมาตาร์รับภารกิจของธาตุไฟสำเร็จ แล้วมีธาตุไฟเป็นธาตุหลัก การใช้ธาตุไฟล้วนๆอาจจะทำให้พลังไฟของคุณมาตาร์รุนแรงขึ้นเท่าไหร่ก็ได้ตามการฝึกฝน คุณมาตาร์คิดว่าท่าพื้นฐานที่สุดของการใช้ไฟคืออะไรคะ” พนักงานสาวถามความคิดเห็นของมาตาร์

    “เอ่อ บอลไฟมั้งครับ แบบว่ายิงลูกไฟออกไปเผาอะไรเทือกนั้น” มาตาร์ตอบ

    “คุณมาตาร์ตอบอย่างที่ดิชั้นคิดเอาไว้เลยนะคะ” นาตาลีมีสีหน้ายิ้มแย้มที่ได้ยินคำตอบของมาตาร์

    “แล้วมันถูกต้องมั้ยล่ะครับ” มาตาร์สงสัยถึงปฏิกิริยาของพนักงานสาว

    “มันไม่ถูกต้องค่ะ ตามหลักของคนที่ใช้ธาตุไฟล้วนๆ การจะปล่อยไฟออกจากตัวมันทำไม่ได้ ต้องมีธาตุน้ำแข็งและลมช่วยเสริมพร้อมๆกันค่ะถึงจะทำได้ ส่วนท่าพื้นฐานของการใช้ไฟล้วนๆคือการเข้าไปเผาระยะประชิด พอจะเห็นภาพมั้ยคะ” พนักงานสาวตอบยิ้มแย้ม เพราะถ้ามาตาร์ตอบถูกเลยทีเดียวจะทำให้ยกตัวอย่างได้ยาก

    “การควบคุมเพลิงให้เป็นลูกบอลได้นั้นต้องมีธาตุน้ำแข็งคอยหน่วงรอบๆเอาไว้ ยิ่งความต่างของธาตุไฟและน้ำแข็งมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น แล้วเวลาปล่อยลูกบอลออกไป ถ้าไม่มีธาตุลมคอยเสริม จะทำให้ลูกบอลควบคุมทิศทางไม่ได้ เห็นภาพรึยังคะ” นาตาลีบรรยายถึงการใช้ท่าที่เรียกว่าบอลเพลิง ที่ดูเหมือนจะปล่อยกันง่ายๆ แต่กลับใช้ความซับซ้อนขนาดนี้

    “โห ต่างกับเกมอื่นเยอะเลย แต่ก็พอจะเห็นภาพแล้วล่ะครับ การมีธาตุลมอยู่ตรงกลางทำให้ทุกธาตุมีท่าระยะไกลใช้ และการมีธาตุลมอยู่ตรงกลางก็ทำให้ธาตุอื่นๆมีท่าที่ใช้ฟื้นฟูด้วย ถูกมั้ยครับ” มาตาร์รู้สึกทึ่งกับตารางธาตุที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี

    “อันนั้นมันเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลค่ะ ถือว่าคุณมาตาร์ได้กำไรที่คิดได้ไกลถึงขนาดนั้น ดิชั้นบอกแล้วว่ามันขึ้นอยู่กับจินตนาการ ซึ่งมันอาจจะยิ่งใหญ่กว่าที่คุณมาตาร์คิดเอาไว้ก็ได้นะคะ” พนักงานสาวช่วยเสริม

    “สิ่งที่เสมอภาคกันในเกมนี้คือร่างกาย แต่สิ่งที่ทำให้มันไม่เสมอภาคกันก็คือวิธีใช้ทั้งร่างกายกับความคิดนะคะ เพราะฉะนั้น คิดให้เยอะ” พนักงานสาวให้ความรู้เพิ่มเติมชายหนุ่ม

    “ต่อมาธาตุพิเศษสองธาตุ คือแสงกับความมืดนะคะ” พนักงานสาวเปลี่ยนเรื่องทันที

    มาตาร์ที่กำลังอยู่ในอารมณ์อื่นก็หันมาสนใจในสิ่งที่พนักงานสาวกำลังจะพูดทันทีเหมือนกัน

    “จริงๆทั้งแสงกับความมืดก็ยังอิงหลักของฟิสิกส์อยู่ แต่สองธาตุนี้จะมีจินตภาพช่วยเสริมด้วยค่ะ” พนักงานสาวกล่าว

    “ยังไงครับ จินตภาพ?” มาตาร์ทำหน้าสงสัย

    “พอพูดถึงภาพลักษณ์ของแสงแล้วนึกถึงอะไรบ้างล่ะคะ” พนักงานสาวถาม

    “ถ้าแสงก็ ความดี ความศักดิ์สิทธิ์ ...ประมาณนี้แหละครับ” มาตาร์ตอบ

    “แล้วความมืดล่ะคะ ให้ภาพลักษณ์ยังไง” พนักงานสาวถามอีก

    “ก็ตรงข้ามกับแสงแหละครับ ความชั่วร้าย เลวทราม ความไม่ดีทั้งหลาย” มาตาร์ก็ตอบอีก

    “แต่จริงๆแล้วมันไม่เกี่ยวกันเลยนะคะ” พนักงานสาวเฉลย

    “อ้าว? เหรอครับ” มาตาร์งง

    “แต่ถึงอย่างนั้นธาตุพิเศษทั้งสองนี่ก็ช่วยทำให้จินตภาพนั้นเกิดผลลัพธ์อย่างที่เราคิดได้ค่ะ” นาตาลีย้อนเข้าให้อีกที

    “เอ๋อ??” มาตาร์เจอย้อนกลับไปกลับมาจึงชักจะงง

    “มาพูดถึงคุณสมบัติทางฟิสิกส์กันก่อนดีกว่าค่ะ แสงคืออะไรคะ” พนักงานสาวยิ้มให้มาตาร์อย่างงามก่อนจะเปลี่ยนหัวข้อ

    “แสงก็คือความสว่างไงครับ” มาตาร์ตอบไปทื่อๆ

    “ไม่ใช่แค่นั้นค่ะ แสงคือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าชนิดหนึ่ง” พนักงานสาวเริ่มแจกความรู้ทันที ทำเอามาตาร์เบลอไปนิดหนึ่ง

    “คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า?” มาตาร์ถามกลับหน้างงๆ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านี่ก็คุ้นๆอยู่ แต่ไม่เชี่ยวชาญเท่าไหร่

    “จะว่าเป็นธาตุสายต่อเนื่องจากธาตุสายฟ้าก็ได้ค่ะ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเกิดจากการปล่อยพลังงานของอิเล็คตรอน ที่เราเห็นเป็นแสงได้นั้นเพราะมันมีความยาวคลื่นที่เข้ากันได้กับประสาทตาของเรา เคยได้ยินมั้ยคะว่าสัตว์อื่นๆเช่นสุนัขจะมองเห็นสีได้ไม่เท่ากับตาของมนุษย์” นาตาลีร่ายยาว

    “แต่แค่คลื่นที่ตามนุษย์รับได้ยังไม่ครอบคลุมความสามารถของธาตุแสงค่ะ ธาตุแสงคือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าทุกความยาวและความถี่ ซึ่งมันทำให้เราทำแบบนี้ได้” นาตาลีว่าแล้วก็ใช้นิ้วชี้ของตนเองตวัดเข้าที่มุมโต๊ะ

    มีแสงสีฟ้าเป็นลำออกมา เฉือนมุมโต๊ะจนร่วงลงมาที่พื้น

    “หรือว่าแบบนี้”

    นาตาลีชี้นิ้วไปที่มุมโต๊ะที่ตกพื้นไป มีแสงพุ่งออกมาจากนิ้วของเธอบางๆ พอเธอกระตุกนิ้ว เศษมุมโต๊ะชิ้นนั้นก็ลอยมาเข้ามือของเธออย่างง่ายดาย โดยที่เธอไม่ต้องขยับร่างกายส่วนอื่นเลย

    “ครั้งแรกดิชั้นปล่อยเลเซอร์ออกมาค่ะ ส่วนครั้งที่สองดิชั้นยิงอนุภาคอิเล็คตรอนย้อนกลับเปลี่ยนให้วัตถุมีสภาพเป็นแม่เหล็กแล้วดึงมันเข้ามาค่ะ ถ้าคุณมาตาร์มีจินตนาการมากกว่านี้ ก็สามารถใช้ประโยชน์จากธาตุแสงได้หลายอย่างนะคะ” พนักงานสาวยิ้มเหมือนที่เธอทำเมื่อสักครู่เป็นเรื่องธรรมดาๆ

    แต่มาตาร์อ้าปากค้างไปตั้งแต่เห็นเธอยิงเลเซอร์ออกมาจากนิ้วได้แล้ว

    “จะใช้แสงในการหลอกตาหรือสร้างภาพลวงตาก็ได้นะคะ” พนักงานสาวเพิ่มข้อมูล

    “อ๊ะ! เดี๋ยวครับ ไอ้การหลอกตาหรือลวงตานี่มันเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่เข้ากับแสงเลยนี่ครับ” มาตาร์เริ่มมีสติกลับคืนมาเล็กน้อย

    “นั่นเป็นภาพลักษณ์ในความคิดของคุณมาตาร์ค่ะ แต่ดิฉันเห็นว่าแสงหลอกตาได้มากกว่าความมืดเยอะ” พนักงานสาวกระตุ้นต่อมความคิดให้มาตาร์

    “หรือว่า ...แสงกับความมืดนี่สามารถเอามาใช้ได้ดั่งใจโดยไม่ต้องสนคุณสมบัติทางฟิสิกส์ของมันก็ได้ครับ” มาตาร์เริ่มใช้ความคิดวิเคราะห์คำพูดของนาตาลี

    “ใช่ค่ะ มันถึงได้จัดเป็นธาตุพิเศษไงคะ คุณมาตาร์จะเห็นได้ว่าในรูปนี้แสงจะอยู่ข้างบนและข้างล่างของวงกลมวงนอก ส่วนความมืดจะอยู่ทางด้านซ้ายและขวาของวงนอก” พนักงานสาวอธิบาย

    “คำถามค่ะ ธาตุแสงเสริมด้วยธาตุอะไรได้บ้างคะ” พนักงานสาวยิ้มแล้วยิงคำถามทันที

    “อืม จากรูปนี่ ธาตุแสงเสริมได้ด้วย ไฟ สายฟ้า น้ำแข็ง ดิน” มาตาร์ตอบด้วยหลักการเดิม

    “เกือบถูกค่ะ แต่จริงๆแล้วจากรูปสามารถบอกได้นะคะ ว่าธาตุธรรมชาติทั้งสี่มีส่วนเสริมให้ธาตุแสง แต่นั่นเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ธาตุหลักๆที่ส่งเสริมแสงก็คือความมืด” พนักงานสาวตอบพร้อมชี้ให้ดูที่ภาพ

    มาตาร์ตกตะลึง เขานึกไม่ถึงว่าสิ่งที่ภาพลักษณ์ตรงข้ามกันจะเสริมกันได้ตรงๆ

    “มันไม่น่าแปลกใจอะไรหรอกค่ะ ที่ไหนมีเงาชัดเจนที่นั่นย่อมมีแสงที่แรงกล้า ที่ไหนมีเงาสลัวที่นั่นมีแสงเพียงเล็กน้อย” นาตาลีคนงามยกตัวอย่าง

    มาตาร์ได้ฟังก็มีสีหน้าเข้าใจ

    “ต่อมาคุณสมบัติทางฟิสิกส์ของความมืดล่ะคะ” พนักงานสาวถามถึงธาตุสุดท้าย

    “ความมืดก็ ...ว่างเปล่า มั้งครับ” มาตาร์ตอบแบบไม่แน่ใจ

    “ถูกแล้วค่ะ ความมืดคืออวกาศอันว่างเปล่า คือหลุมดำ คือแรงดึงดูด คือเวลา” พนักงานสาวเสริมคำตอบของมาตาร์เข้ามาอีก

    “โอ้โห คือแรงดึงดูดและเวลาด้วยเหรอครับ” มาตาร์ตื่นเต้นกับคุณสมบัติของความมืด

    “ใช่ค่ะ จะทำให้ดูนะคะ” พอพูดจบพนักงานสาวก็หายไปต่อหน้าต่อตาของมาตาร์เหมือนกับแวบหายไป

    “เป็นไงคะ” เสียงพนักงานสาวดังขึ้นมาจากข้างหลังของชายหนุ่ม

    มาตาร์หันหลังไปแต่ไม่มีใครอยู่ พอเขาหันหน้ากลับมาอีกครั้ง นาตาลีก็กลับมานั่งอยู่ที่เดิมแล้ว

    “เมื่อซักครู่ ดิชั้นใช้ธาตุความมืดเปลี่ยนแปลงการไหลของเวลารอบตัวคุณมาตาร์ค่ะ คือคุณมาตาร์จะไม่รู้สึกว่าเวลารอบตัวไหล สำหรับดิชั้นแล้วจะเห็นเหมือนกับว่าคุณมาตาร์แข็งอยู่กับที่ค่ะ แล้วดิชั้นก็ลุกออกมาจากเก้าอี้เดินไปข้างหลังคุณมาตาร์ พอดิชั้นปล่อยให้เวลาไหลเหมือนเดิม คุณมาตาร์ก็เลยเห็นเหมือนกับว่าดิชั้นหายไป” พนักงานสาวบอกสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวมาตาร์เมื่อสักครู่ ทำเอาชายหนุ่มตะลึงค้างไปอีกรอบ

    อันที่จริงแล้วคนที่ใช้พลังธาตุได้ขนาดนาตาลีในเกมนี้นั้น มีไม่ถึงพันคนด้วยซ้ำในผู้เล่นหมื่นล้านคนซึ่งนาตาลีนั้นเป็นเพียง NPC มิใช่ผู้เล่น แต่การที่มาตาร์มาพบนาตาลีในช่วงเพิ่งเล่นเกมจึงรู้สึกเหมือนกับว่า ไม่ว่าใครๆก็ทำอย่างนี้ได้เป็นสาเหตุให้เขามีจินตนาการอันบรรเจิดในเวลาต่อมา ซึ่งผู้เล่นเหล่านั้นล้วนเคยเจอนาตาลีสอนกันมาก่อนทั้งนั้น จึงถือว่าถ้าใครได้เจอนาตาลีที่อาคารรับรองก็โชคดีไป ถึงแม้จะมีบางคนจิตตกจนสลบก่อนที่นาตาลีจะบอกข้อมูลทั้งหมดก็ตาม

    “และในทางกลับกันนะคะ ธาตุธรรมชาติทั้งสี่ สามารถเสริมด้วยแสงและความมืดได้ โดยส่วนใหญ่จะใช้ภาพลักษณ์เสริมมากกว่าไม่ใช่คุณสมบัติ ยกตัวอย่างเช่น” นาตาลีพูดจบก็หงายมือขึ้นมา

    ลูกไฟสีส้มลอยอยู่ในมือเธอ แล้วก็เปลี่ยนเป็นสีเขียว ฟ้า ม่วง แล้วก็กลายเป็นสีขาว อีกสักพักหนึ่ง เปลวไฟกลับกลายเป็นสีดำ มาตาร์มองลูกไฟที่เปลี่ยนสีได้หลากหลายด้วยความทึ่ง

    แล้วนาตาลีก็กำมือ ลูกไฟก็หายวับไป

    “ไฟสามารถเสริมด้วยธาตุแสงหรือความมืดก็ได้เห็นมั้ยคะ” นาตาลีพูดยิ้มแย้ม มาตาร์พยักหน้าว่าเข้าใจ

    “ทีนี้มาเข้าเรื่องหลักของเรากันได้แล้วค่ะ” พนักงานสาวเข้าเรื่องทันที

    “ครับ?” มาตาร์ที่ฟังคำอธิบายเรื่องธาตุมายืดยาวกลับลืมไปแล้วว่าตอนเริ่มต้นเขามาทำอะไร

    “เผ่าพันธุ์ไงคะ” พนักงานสาวเตือน

    “อ๋อ!! ใช่ครับๆ” มาตาร์นึกขึ้นได้

    “มังกรเน้นร่างกายที่แข็งแรงและรวดเร็วเป็นหลักสามารถใช้พลังธาตุธรรมชาติได้ทั้งห้าอย่างค่ะ แต่จะใช้พลังอย่างอื่นไม่ได้อีกเลย” พนักงานสาวเริ่ม

    “พลังอย่างอื่น?” มาตาร์สงสัยว่าไอ้อย่างอื่นนี่มันมีอะไรบ้าง

    “พลังอย่างอื่นก็อย่างเช่น เวทมนตร์ พลังจิต หรือพลังใดใดก็ตามนอกเหนือจากพลังธาตุธรรมชาติค่ะ” พนักงานสาวตอบ

    “เป็นเผ่าที่มีทางเลือกน้อยจังนะครับ”

    “มังกรอาจจะไม่ได้เน้นที่ลูกเล่นมากนัก แต่ความที่เผ่านี้มีทางให้เดินชัดเจน ทำให้ผู้เล่นเผ่ามังกรส่วนใหญ่เก่งแน่นอนค่ะ เท่าที่ดิชั้นสังเกตพวกผู้เล่นเผ่ามังกรมักจะคิดค้นเพลงมวยหรือเพลงอาวุธเฉพาะตัวขึ้นมาค่ะ ความเก่งไม่ได้ขึ้นอยู่กับความหลากหลายของท่า แต่อยู่ที่ความชำนาญมากกว่า ดิชั้นเคยเห็นผู้เล่นที่มีท่าไม้ตายท่าเดียวชนะเลิศการประลองที่สนามต่อสู้ด้วยนะคะ” พนักงานสาวให้ข้อมูล

    “มีสนามต่อสู้ด้วยเหรอครับ” มาตาร์สงสัยเพราะเขาไม่เคยไปมาก่อน

    “มีค่ะ อยู่ทางทิศใต้ พ้นป่าฝูงนกไป ซึ่งเป็นป่าที่ฝ่ายากที่สุดในสามป่ารอบเมืองเริ่มต้นแล้วล่ะค่ะ” พนักงานสาวบอกรายละเอียดให้ชายหนุ่มรู้

    กว่าจะได้ไปคงอีกนานแหงเลย แค่ป่าแมวยังไม่ได้ลองเลยมาตาร์นึกถึงตัวเขาที่ไม่เคยเดินไปไกลกว่าป่าแมวเลย

    “ส่วนมารก็จะเน้นที่เวทมนตร์ เผ่านี้จะมีร่างกายอ่อนด้อยกว่าเผ่าอื่น แต่พลังโจมตีด้วยค่าจิตใจจะสูงมาก ใช้พลังธาตุความมืดได้เท่านั้น แต่ก็สามารถใช้เวทมนตร์ธาตุทดแทนก็ได้ ประกอบกับพลังวิญญาณที่ฟื้นตัวเร็ว ทำให้การเข้าใกล้เผ่ามารทำได้ยากค่ะ” พนักงานสาวให้ข้อมูลต่อไป

    “เอ้อ พลังธาตุกับเวทมนตร์นี่มันต่างกันเหรอครับ” มาตาร์สงสัยเพราะคิดว่าพลังธาตุคือเวทมนตร์มาตลอด

    “ต่างกันค่ะ พลังธาตุจะใช้ออกได้ง่ายและรวดเร็ว ซึ่งมันแปลงมาจากปราณค่ะ” พนักงานสาวตอบ

    “ปราณ? เกมนี้มีใช้ด้วยเหรอครับ” มาตาร์ยังไม่เคยเห็นใครใช้เลย อาจจะเป็นเพราะเขาไม่ค่อยสนใจคนอื่นก็เป็นได้

    “ที่ถนนทางเลือกนี้ก็มีภารกิจให้ทำค่ะ อ้อเผ่ามังกรจะได้รับปราณมังกรทันทีที่ได้รับเผ่านะคะ ถ้าคุณมาตาร์เลือกเผ่ามังกรไม่ต้องทำภารกิจเสริมปราณก็ได้ ซึ่งปราณมังกรจะเป็นปราณที่แปลงเป็นพลังธาตุได้ง่ายค่ะ” พนักงานสาวให้ข้อมูลเพิ่มเติม

    “แล้วมันมีปราณให้เลือกหลายๆแบบมั้ยครับ” มาตาร์ถามเพราะบางเกมก็มีปราณเป็นสิบๆอย่าง

    “ไม่ค่ะ ปราณในเกมนี้มีอย่างเดียว แต่วิธีใช้ขึ้นอยู่กับผู้เล่นค่ะ ผู้เล่นที่มีปราณแล้วถ้าไปเปลี่ยนเป็นเผ่ามังกร ปราณก็กลายเป็นปราณมังกรอยู่ดีแล้วก็ต้องเริ่มฝึกปราณใหม่” พนักงานสาวเตือนถึงการเสียเวลาถ้ารับภารกิจซ้ำซ้อน

    “ส่วนเวทมนตร์นะคะจะต้องใช้กับอุปกรณ์เวทเท่านั้น แต่เรื่องความหลากหลายนี่รับประกันเลยค่ะ เพราะเวทมนตร์ธาตุนี่ก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีเวทอักษร เวทดนตรี และอีกมากมายที่สาธยายไม่หมด” นาตาลีตอบยิ้มร่า

    มาตาร์นึกถึงยัยแม่มดซารีน่าที่ฆ่าเขาเมื่อเช้า ที่มือของเจ้าหล่อนก็สวมถุงมือแปลกๆ คงจะเป็นอุปกรณ์เวทสักอย่าง

    “คุณมาตาร์สามารถรับภารกิจพื้นฐานพลังเวทได้ที่ถนนทางเลือกนี้เหมือนกันค่ะ แต่ถ้ามีพื้นฐานพลังเวทแล้วจะเปลี่ยนเป็นเผ่ามังกรไม่ได้นะคะ” พนักงานสาวให้ข้อมูลอีก มาตาร์ฟังแล้วก็พยักหน้า

    “ส่วนเผ่าเทพเน้นค่าพลังสมาธิ อาวุธยิงจะเหมาะกับเผ่าเทพที่สุด ใช้ธาตุพลังแสงได้เท่านั้น ส่วนเวทมนตร์ก็สามารถใช้ได้แต่จะไม่รุนแรงเท่าเผ่ามาร และยังมีพลังจิตเสริมเข้ามาอีก เป็นเผ่าที่หลากหลายที่สุดค่ะ แต่ก็เล่นยากที่สุดด้วยเหมือนกัน เพราะตัวเลือกเยอะเหลือเกิน” พนักงานสาวแจกแจงรายละเอียด

    “พลังจิต?” มาตาร์สงสัยกับชื่อพลังใหม่ๆที่ได้ยิน

    “เผ่ามนุษย์ก็สามารถรับภารกิจพื้นฐานพลังจิตได้ค่ะ ถ้ามีพลังจิตแล้วจะเปลี่ยนเป็นเผ่ามังกรกับมารไม่ได้นะคะ ส่วนพลังจิตนั้นมีไว้ใช้เพื่อสนับสนุนการเคลื่อนไหวมากกว่าโจมตีค่ะ เช่นการลอยตัว หายตัว หรือจะใช้สร้างอาวุธพลังจิตก็ได้ แต่ดิชั้นว่าอาวุธที่สร้างด้วยปราณจะรุนแรงกว่านะคะ  ถ้าคุณมาตาร์เน้นที่ลีลา เผ่าเทพนี่ก็น่าสนใจค่ะ” พนักงานสาวบอกข้อมูลพร้อมสรุป

    “เผ่ามังกรใช้ธาตุได้ห้าธาตุ เผ่ามารใช้ธาตุได้ธาตุเดียวกับเวทมนตร์ ส่วนเผ่าเทพก็มีพลังจิตเพิ่มขึ้นมา ถ้าอย่างนั้นจะมีใครเล่นเผ่ามารกันล่ะครับ เพราะใช้ได้ธาตุเดียวเหมือนเทพถึงจะใช้เวทได้แรงกว่าก็เถอะ แต่เทพกลับมีพลังจิตเพิ่มเข้ามาด้วย” มาตาร์นึกถึงความสมดุลของเผ่าต่างๆ เรื่องเผ่ามังกรไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้วเพราะเห็นว่าการใช้ได้ห้าธาตุมันก็น่าจะเหนือกว่าเผ่าอื่นอยู่เยอะแล้ว แต่เผ่ามารดูยังไงก็ด้อยกว่าเผ่าเทพ

    “เผ่ามารนอกจากมีความสามารถในการใช้เวทได้แรงกว่าเผ่าอื่นแล้ว ยังสามารถใช้เวทได้หลากหลายกว่าเผ่าอื่นด้วยค่ะ โดยรับรองว่าความหลากหลายอันนี้จะชดเชยในส่วนที่ไม่มีพลังจิตได้แน่นอน” นาตาลียืนยันความสามารถของเผ่าต่างๆที่มีความสมดุลกันแน่นอน

    “อ้อ อย่างนั้นเหรอครับ อืม แล้วมนุษย์ล่ะครับ ถ้าเทียบกับเทพแล้วผมว่ามันแทบจะเหมือนกันเลยนะ ใช้พลังธาตุ เวท แล้วก็พลังจิตได้เหมือนกันทุกอย่างเลยนี่” มาตาร์สงสัยขึ้นมาอีก

    “ความต่างของมนุษย์กับเทพ คือขีดจำกัดเรื่องธาตุค่ะ มนุษย์ที่เลือกธาตุประจำตัวเป็นธาตุแสงกับเทพมีความแตกต่างซึ่งเห็นได้ชัดอย่างหนึ่ง นั่นคือมนุษย์สามารถใช้ธาตุข้างเคียงอย่างความมืดหรือธาตุธรรมชาติได้ แต่เทพไม่อนุญาตให้ใช้ธาตุข้างเคียงได้ค่ะ ซึ่งเหมือนกับมารที่ใช้ธาตุอื่นนอกจากความมืดไม่ได้เลย ซึ่งเผ่าอื่นๆนอกจากมนุษย์จะมีความสามารถทางร่างกายที่ช่วยชดเชยในเรื่องขีดจำกัดนั้นอยู่แล้ว” พนักงานสาวตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม และช่วยไขข้อข้องใจให้ชายหนุ่มได้ในที่สุด

    “อืม ...ไม่ว่าเผ่าไหนก็มีดีของตัวเองนะครับแม้แต่มนุษย์” มาตาร์เริ่มกลุ้มใจเพราะเลือกไม่ถูก

    “ใช่ค่ะทุกเผ่ามีข้อดีและข้อด้อย สิ่งที่สำคัญคือความชอบของผู้เล่นมากกว่าค่ะ” นาตาลียิ้มแบบนางงามส่งท้าย

    หลังจากรู้ข้อมูลแล้ว มาตาร์ก็ออกมายืนที่ถนนทางเลือกอีกครั้ง โดยที่ยังตัดสินใจไม่ได้เลยว่าจะเลือกเผ่าอะไร แต่เขามีสิ่งที่อยากจะฝึกฝนเพิ่มเติมเอาไว้ในใจแล้ว

     

    Rewrite tag : แก้คำผิด เพิ่มเนื้อหาที่คุยกันเรื่องความแตกต่างของเผ่าทั้งสี่

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×