คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #85 : บทที่83: ความตายอันร้อนแรง
บทที่83 ความตายอันร้อนแรง
วูบ! วูบ! วูบ!
มาตาร์พยายามใช้เท้าไร้เงาเตะเจ้าเทวดา แต่มันกลับเคลื่อนตัวหลบได้ง่ายๆ เนื่องจากมาตาร์เหลือปราณน้อยมาก เขาไม่สามารถใช้พลังเต็มที่ได้ ไม่อย่างนั้นคงลงไปนอนนิ่งเพราะปราณหมดก่อนแน่ ที่เขาทำนั้นคือการถ่วงเวลาเฉยๆเท่านั้นเอง เพื่อให้เรย์น่าหนีไปให้ได้
“หนีไปเร็วๆเซ่ยัยงูพิษ!! เธอจะมาตายตอนนี้ไม่ได้นะ!” มาตาร์ตะโกนใส่เรย์น่า
เรย์น่ารู้สึกลังเลขึ้นมา ทำไมจู่ๆผู้ชายคนนี้ถึงนึกอยากจะปกป้องเธอขึ้นมา ทั้งๆที่พยายามฆ่ากันมาตลอดแท้ๆ
ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!
“ยัยบ้า! เธอต้องมาตามฆ่าชั้นอีกหลายรอบ ถ้าเธอตายก็กระจอกลง ชั้นก็ไม่มีที่ซ้อมมือน่ะเซ่!!” มาตาร์พูดออกมาตรงๆ เพราะเขาคิดว่าที่เรย์น่าไม่ยอมไปนี่อาจจะเกรงใจอะไรเขาหรือเปล่า
ฟุบบ!!
หอกของเทวดาสวนมาตาร์เข้าให้ แต่มาตาร์ยังใช้กงจักรลมดีดตัวออกมาทัน กระนั้นเขาก็ยังมีแผลบางๆที่แก้มอยู่ดี ถ้าเมื่อสักครู่ถอยไม่ทันมีหวังหัวได้ขาดครึ่งไปแล้ว
ฟูววว!!
ไฟของอิฟรีทพุ่งเข้าใส่เทวดาเต็มๆ แต่มันไม่คิดจะหลบเลย
วูมม!!
ปรากฏโล่ใสๆมาบังลูกไฟนั้นเอาไว้ แล้วลูกไฟก็หยุดนิ่งอยู่กลางอากาศแล้วตกลงมาอย่างหมดแรง เหมือนถูกดูดพลังเข้าไป
แซดดด!!
ลำแสงสีขาวปนแดงพุ่งกลับไปใส่เจ้าอสูรไฟ แต่ดูเหมือนเจ้าอสูรไฟจะไม่ได้รับบาดเจ็บเท่าไหร่
“เจ้าเป็นอสูรธาตุไฟสินะ ถึงได้ไม่เป็นอะไร” เทวดาพูดขึ้นหลังจากเห็นผลลัพธ์ของลำแสงของตนที่ทำอะไรอิฟรีทไม่ได้
มาตาร์แค่มองก็พอจะสังเกตเห็นได้ เวทเกราะนี้มันดูดพลังที่สัมผัสมันได้แล้วยิงกลับไปใส่คนที่ปล่อยใส่มัน ลูกไฟของอิฟรีทถูกดูดพลัง แล้วพลังไฟนั้นก็ถูกหลอมรวมกับแสงแล้วยิงกลับไป
‘สู้ไม่ได้ ...ยังไงก็สู้ไม่ได้ ความสามารถแบบนี้มันไร้เทียมทานเกินไปแล้ว’ มาตาร์คิดขึ้นหลังจากรู้ว่าเจ้าเทวดานี้ทำอะไรได้บ้าง
“ยังไม่หนีไปอีกยัยงูพิษ! เธอทำอะไรมันไม่ได้หรอกน่า!” มาตาร์เห็นว่าเรย์น่ายังไม่ไปจึงเอ่ยไล่เธออีกครั้ง
“มันเรื่องของชั้น ชั้นไม่ยอมเป็นหนี้บุญคุณแกหรอก” เรย์น่าพูดออกมา เรื่องที่เธอสู้ไม่ได้นั้นเธอรู้ดี แต่ผู้ชายคนนี้ไม่มีสิทธิ์มาสั่งเธอให้ทำโน่นทำนี่ ถ้าเขาบอกให้เธอหนี เธอก็จะไม่หนี
“ดี!! งั้นชั้นหนี เธอคอยถ่วงเวลาให้ด้วยนะ” มาตาร์มาลองคิดดูอีกที ถ้ายัยงูพิษนี่ถูกสัตว์อสูรฆ่า ก็ไม่ได้ลดระดับลงมากสักหน่อย จากร้อยสี่สิบเหลือร้อยยี่สิบหกก็ยังเยอะอยู่ดี ต่างจากโดนผู้เล่นคนอื่นฆ่าที่จะลดระดับลงครึ่งหนึ่ง
ฟิ้วว!!
ว่าแล้วมาตาร์ก็วิ่งหนีจริงๆ คราวนี้เล่นเอาเรย์น่างงเป็นไก่ตาแตก เพราะตอนแรกดูเหมือนมาตาร์จะยอมสละชีวิตเพื่อให้เธอหนีได้ แต่ตอนนี้กลับทิ้งให้เธอเป็นเหยื่อล่อแทนซะอย่างนั้น
“แก!! ไอ้ผู้ชายเฮงซวย!” เรย์น่าด่ามาตาร์ขึ้นมาก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรเผ่าเทพระดับสี่ร้อย
ตอนนี้เรย์น่าอยากจะหนีก็ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว เพราะดูท่าเจ้าเทวดาตัวนี้คงจะไม่ยอมปล่อยให้เธอหนีไปไหนแน่ๆ แต่แล้วเจ้าเทวดากลับหายตัวไปต่อหน้าเธอ
ฟู่วว! ผัวะ!!
“อั้กก!!”
จู่ๆเจ้าเทวดาก็มาปรากฏตัวตรงหน้ามาตาร์ที่กำลังวิ่งหนีแล้วก็ซัดเขาไปทีหนึ่ง จนชายหนุ่มตัวปลิวไปเลย
“เราเกลียดคนแบบเจ้าที่สุด ทิ้งคนอื่นแล้วหนีเอาตัวรอดคนเดียว” เทวดาพูดขึ้นมา ดูเหมือนมันจะยึดติดในคุณธรรมอะไรบางอย่าง
เรย์น่าเห็นเป็นโอกาส ดังนั้นคราวนี้เธอจึงหนีอย่างไม่ลังเล ‘สมน้ำหน้าแล้ว ไอ้ผู้ชายเฮงซวย เกือบหลงกลมันแล้วมั้ยล่ะ’
“หา?” มาตาร์ยันกายลุกขึ้นมาอย่างทุลักทุเล เขาเกิดสงสัยในตรรกะของเจ้าเทวดาขึ้นมาโดยไม่ได้สนใจทางเรย์น่าแล้ว “แปลว่านายชอบคนที่สู้จนตัวตายเพื่อคนอื่นเรอะ”
“คนเช่นนั้นเป็นคนมีคุณธรรม เราย่อมชอบ แต่เจ้ามันไร้คุณธรรมเราอยากฆ่าเจ้ายิ่งนัก” เทวดาพูดขึ้นมาอีกพร้อมเดินเข้ามาใกล้ชายหนุ่ม
“ทั้งๆที่นายเป็นคนที่เป็นสาเหตุให้หนีเนี่ยนะ” มาตาร์ยอมเสียเวลาพูดกับเทวดา เพราะเขาสู้มันไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าถ่วงเวลาได้นานพลังอาจจะฟื้นขึ้นมาพอใช้ก็ได้
“มันไม่เกี่ยวกับเรา เราแค่ทำตามหน้าที่เท่านั้น แต่เมื่อเห็นคนอย่างเจ้าทำให้เราอยากจะลงมือฆ่าเจ้าก่อน” เทวดายังให้เหตุผลอีก
“ทุเรศน่า! ขนาดตัวเองยังมาไล่ฆ่าคนอื่น แล้วยังจะมีหน้ามาพูดถึงคุณธรรมหรือความดีด้วยเรอะ” มาตาร์ยังเถียงเพื่อถ่วงเวลา เขาต้องหาเรื่องพูดให้นานที่สุดเพื่อจะได้มีเวลาฟื้นพลัง ‘ไหนๆเจ้าเทวดานี่มันก็บ้าคุณธรรมขนาดนี้ ลองยั่วให้มันสติแตกไปเลยดีมั้ยเนี่ย’
“เราเป็นผู้ยึดถือในคุณงามความดี เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราทำถือว่าดี ส่วนเจ้านั้นเป็นตัวชั่วแน่นอน” เทวดาก็ไม่ยอมแพ้เหมือนกัน แต่ดูตรรกะมันเข้าข้างตัวเองยังไงก็ไม่รู้
“ถ้านายบอกว่าชั้นเป็นคนชั่ว งั้นตอนนี้ชั้นอยากจะกลับตัวเป็นคนดีแล้ว นายจะให้โอกาสชั้นมั้ยล่ะ” มาตาร์เห็นว่าเจ้าเทวดานี่มันตรรกะเพี้ยนๆดี เลยอยากยั่วเล่นเอามันแทนแล้ว ถึงตายก็ยอม ขอทำให้มันสติแตกหน่อยเถอะ
“คนแบบเจ้ามันเชื่อถือไม่ได้หรอก เจ้าแค่พูดจาเอาตัวรอดเท่านั้นเอง พอเจ้ารอดตายไปได้ พฤติกรรมของเจ้าก็คงจะเหมือนเดิม” เทวดาเหมือนรู้ทันว่ามาตาร์แค่พูดเอาตัวรอดเท่านั้นเอง
“ตกลงนายไม่คิดจะให้โอกาสใครเลยสินะ คิดเข้าข้างตัวเองชัดๆเลยนี่นา นายรู้ได้ยังไงว่าชั้นโกหก ถ้าชั้นไม่โกหกก็เท่ากับว่านายตัดโอกาสชั้นในการทำให้ชั้นกลับตัวกลับใจเชียวนะ ถ้านายฆ่าชั้นตอนนี้ ชั้นก็จะกลายเป็นคนเลวจริงๆล่ะ เพราะนายไม่ยอมเชื่อที่ชั้นพูดดังนั้นชั้นก็ไม่คิดว่าชั้นพูดอะไรจะมีคนเชื่ออีกต่อไปแล้ว กลายเป็นว่านายนั่นแหละที่เป็นคนแพร่เชื้อชั่วสู่โลกนี้เพราะพฤติกรรมบ้าคุณธรรมของนาย” มาตาร์รุกต่อด้วยความเมามัน ‘ไอ้พวกตรรกวิบัติมันต้องเจอลูกนี้ ฮ่าๆๆๆ’
“จะให้โอกาสใครก็ควรจะดูว่าสันดานคนผู้นั้นเป็นอย่างไร แต่เจ้านั้นมันชั่วไปถึงกระดูกแล้ว” เทวดายังเถียงกลับมา ดูท่ายังไงเจ้าเทวดานี่ก็คงจะไม่ยอมปล่อยมาตาร์ไปแน่ๆ
“ถ้าอย่างนั้นในสายตานายคนชั่วก็คือชั่วไม่มีดี คนดีก็คือดีไม่มีชั่วเลยเรอะ” มาตาร์ก็ชักจะหงุดหงิดกับไอ้คาแรกเตอร์เทวดาถือคุณธรรมนี่เต็มทีแล้ว มันช่างมองโลกได้แตกต่างกับเขาสิ้นดี
“ไม่ใช่ มนุษย์ย่อมมีดีมีชั่ว” เจ้าเทวดาเริ่มขุดหลุมฝังตัวเองจากคำของมาตาร์จนได้
“อย่างนั้นนายคงต้องฆ่ามนุษย์ให้หมดโลกแล้วล่ะมั้งถ้าอยากจะกำจัดความชั่วเนี่ย เพราะมนุษย์มันมีชั่วทุกคนนั่นแหละ และพร้อมๆกันนั่นนายก็จะฆ่าดีในมนุษย์คนนั้นตามไปด้วยนะ เหมือนที่นายจะฆ่าชั้นเพราะคิดว่าชั้นชั่วนั่นแหละพร้อมๆกันนั้นนายก็ฆ่าความดีในตัวชั้นไปด้วยกัน เพราะชั้นมันก็มนุษย์คนหนึ่ง ไม่ใช่เทวดา ฮ่าๆๆๆ” มาตาร์ตอกเทวดากลับอย่างสะใจ ในที่สุดเขาก็คิดว่าเจ้าเทวดาไม่สามารถจะหาอะไรมาเถียงกับเขาได้แล้ว ‘ไอ้บ้าเอ๊ย อยากทำแต่ความดีก็ไปบวชสิเฟ่ย ไม่ใช่มาเล่นเป็นเทวดา’
“อ๊า!!” เทวดาเริ่มเถียงไม่ออก จะว่าเพราะสมองมันถูกจำกัดมาแค่นี้หรือขาดประสบการณ์ก็ไม่แน่ใจ เลยไม่สามารถสรรหาคำมาเถียงได้ เพราะพฤติกรรมของมันเป็นอย่างที่มาตาร์พูดจริงๆ ถ้ามันเชื่อว่ามนุษย์มีทั้งดีทั้งชั่วมันก็ไม่สามารถลงมือได้ถ้ายังยึดถือคุณธรรมอยู่ เพราะมันจะฆ่าความดีไปด้วยนั่นเอง
“ยอมรับมาเถอะน่า นายฆ่าเพราะแค่อยากฆ่า ถ้าเป็นอย่างนั้นนายก็ฆ่าชั้นได้ตามสบายเลยนะ เพราะชั้นก็ทำแบบนั้นเหมือนกัน เลิกพูดเรื่องคุณธรรมได้แล้ว” มาตาร์เริ่มชักจูงเจ้าเทวดาให้ออกจากวิถีธรรมที่มันยึดถือแล้ว แต่ถ้าเทวดาเชื่อตามที่เขาพูดจริงๆ มาตาร์ก็ตายแน่นอน ‘แต่ชั้นเถียงชนะเว่ย ฮ่าๆๆๆ’
ทันใดนั้นมาตาร์สัมผัสอะไรบางอย่างได้ เขาเริ่มมองเห็นความหวังในการรอดชีวิตแล้ว
“เฮ่! นายเทวดา แต่เรื่องที่นายยึดถือมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรหรอกนะ เทวดาแสนดียังมีตัวตนจริงเลยนี่นะ คนที่มีแต่ความดีล้วนๆเนี่ย” มาตาร์พูดพร้อมกับให้กำลังใจเจ้าเทวดาที่ดูท่าทางห่อเหี่ยวลงไป แต่จริงๆแล้วมาตาร์แดกดันต่างหาก ซึ่งมันก็คงไม่รู้ตัวหรอก
“ชั้นจะเป็นคนเลวให้นายซัดก็ได้ ถ้าชั้นโดนนายอัดแล้วถือว่าชั้นกลับตัวกลับใจได้ก็แล้วกัน บางทีถ้าชั้นเจ็บตัวซะหน่อยอาจจะหลาบจำก็ได้นะ” มาตาร์เปลี่ยนแนวพูดจากหน้ามือเป็นหลังมือ ทำเอาเจ้าเทวดาสับสนแต่ก็เริ่มมีความมั่นใจขึ้น เพราะสิ่งที่มาตาร์พูดเป็นสิ่งที่มันยึดถือตั้งแต่แรก ‘ถ้าอัดคนเลว มันคงจะหลาบจำและกลับตัวเป็นคนดี’
“ก็ได้ เราจะให้โอกาสเจ้าหนีอีกครั้ง แล้วเราจะตามไปฆ่าเจ้าเพื่อกำจัดความชั่ว” เทวดาพูดขึ้นอย่างมีความหวัง ในที่สุดมันก็ได้ทำตามหน้าที่ของมันทั้งยังไม่ขัดต่อตรรกะที่มันยึดถือ
“โอ๊ยย! ชั้นไม่หนีแล้ว แต่ชั้นขออัดนายก่อนทีนึงได้มะ ถือว่าเป็นค่ายินยอมให้นายฆ่า โอเค้?” มาตาร์พูดอย่างยิ้มแย้ม
“หึหึ ย่อมได้ แค่มนุษย์ระดับต่ำอย่างเจ้า อัดเรากี่ครั้งเราก็หารู้สึกอะไรไม่” เจ้าเทวดายินยอมให้มาตาร์อัดก่อนหนึ่งครั้งตามใจ ถือว่าเป็นน้ำใจที่ทำให้มันรู้สึกสบายใจขึ้นมา
“เอาล่ะนะ เตรียมตัว!!” มาตาร์ง้างหมัดขึ้นแล้วประกาศเสียงดัง
“สาม ...สอง ...หนึ่ง” มาตาร์นับถอยหลังให้เจ้าเทวดาได้ยินชัดๆด้วย
ผัวะ! ปัง! ฉัวะ! ตุ้บ!
ทันใดนั้นหมัดของมาตาร์ก็พุ่งเข้าใส่ร่างเจ้าเทวดา พร้อมกับการโจมตีอีกสามอย่างพร้อมๆกัน
“รุมสกรัมม!!” มาตาร์ตะโกนออกมาอย่างสะใจ เพราะเขารอโอกาสนี้มานานแล้ว
สามสาวเข้ามาในระยะที่ทักษะเชื่อมวิญญาณแสดงผลนานแล้ว เขาต้องพูดจาถ่วงเวลาให้เทวดาไขว้เขว แล้วให้สามสาวเข้ามาในระยะจู่โจมให้ได้ บราวนี่มาถึงก่อนแล้วบินอยู่บนฟ้านานแล้ว เนื่องจากนี่เป็นป่าฝูงนก การที่มีนกบินอยู่จึงไม่ผิดสังเกต ส่วนคลาร่ากับโมเรน่าก็ใช้ร่างสัตว์ค่อยๆย่องเข้ามาใกล้จากทางด้านหลัง
มาตาร์พูดเสียงดังเพื่อกลบเสียงทั้งคู่และให้จังหวะโจมตี เมื่อเขานับถอยหลัง สามสาวก็เข้าโจมตีอย่างพร้อมเพรียงกัน บราวนี่โจมตีลงมาจากฟ้า ส่วนสามสาวก็เข้าประชิด แปลงร่างเป็นมนุษย์แล้วโจมตีในจังหวะเดียวกับมาตาร์ เพื่อให้ผลของทักษะรุมสกรัมแสดงผล
ตุ้บ! ผัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ!
เจ้าเทวดายืนมึนเพราะทักษะรุมสกรัมจริงๆ ด้วยระดับที่ต่างกันถึงสามร้อย การโจมตีของทั้งสี่เหลือแค่หนึ่งในร้อยเท่านั้นเอง แต่ด้วยวิธีผลัดกันโจมตี ทำให้ทักษะแสดงผลตลอดเวลา
“มาตาร์คะ อาวุธค่ะ” คลาร่าใช้มือข้างหนึ่งส่งทอนฟาให้มาตาร์ในขณะที่อีกมือหนึ่งก็โจมตีด้วยดาบของเธอไม่หยุด
“ขอบใจมากคลาร่า พวกเรามาได้จังหวะพอดีเลยนะ” มาตาร์รับทอนฟามาขณะที่ขาก็เตะเจ้าเทวดาไปด้วย
“แล้วเรย์น่าล่ะ” โมเรน่าถามขึ้นมาขณะที่กรงเล็บของเธอก็ข่วนเจ้าเทวดาไม่หยุดเหมือนกัน
“หนีไปแล้วล่ะ” มาตาร์ตอบพร้อมทั้งเริ่มใช้ทอนฟาฟาดเทวดาอย่างรวดเร็วเหมือนใช้มันเป็นที่ซ้อมมือ
“...” บราวนี่ก็ลงพื้นมาแล้วใช้สเปอร์ของเธอตอกส้นใส่เทวดาไปเรื่อยๆจะได้ไม่เปลืองลูกกระสุน
“แต่เมื่อกี๊มาตาร์คุยอะไรกับเจ้านี่เหรอ” โมเรน่าถามขึ้นมาขณะที่ซัดเจ้าเทวดานี่ไปเรื่อยๆ
“อ๋อ ก็เจ้าเทวดานี่มันงี่เง่าน่ะ เลยสั่งสอนมันไปรอบนึง” มาตาร์เล่าให้ฟังถึงเนื้อหาที่เขากับเทวดาคุยกัน ซึ่งพวกสามสาวก็ไม่ได้เข้าใจหรอก เพราะพวกเธอไม่เคยคิดเรื่องความดีความชั่วอะไรนี่อยู่แล้ว
เจ้าเทวดาถึงจะรู้สึกมึนแต่ก็ได้ยินเนื้อหาที่มาตาร์กับสามสาวคุยกันตลอด และตัวมันช่างรู้สึกว่าตัวเองช่างโง่เหลือเกินที่ไปเสียเวลาพูดคุยกับเจ้าชั่วคนนี้
“เอ้อ เคยได้ยินคำนี้มั้ยคลาร่า ‘ธรรมะย่อมชนะอธรรม’ น่ะ” มาตาร์หาเรื่องคุยให้เจ้าเทวดาเจ็บใจเล่นอีก สีหน้าของเจ้าเทวดาตอนนี้นอกจากตาลอยแล้วยังกัดฟันด้วยความแค้นด้วย
“ไม่เคยค่ะ ‘ธรรมะย่อมชนะอธรรม’ คืออะไรคะ” คลาร่าถามอย่างสดใสขณะที่ทั้งต่อยทั้งฟันเจ้าเทวดาไม่หยุด
“ก็หมายความว่า ‘คนชนะย่อมเป็นฝ่ายถูก แล้วคนแพ้ย่อมเป็นฝ่ายผิดน่ะสิ’ ฮ่าๆๆๆ” มาตาร์เบี่ยงเบนความหมายของสำนวนนี้ตามใจเขา แต่เอาเข้าจริงๆแล้วมันอาจจะเป็นความหมายที่แท้จริงของสำนวนนี้ก็ได้ ซึ่งที่จริงเขาก็แค่พูดให้เจ้าเทวดาที่ฟังอยู่เจ็บใจเล่นเท่านั้นแหละ
หลังจากนั้นสามสาวและมาตาร์ก็คุยเล่นกันขณะใช้ทักษะรุมสกรัมอัดเจ้าเทวดาที่ยืนมึนเพราะติดสถานะมึนงงอย่างสบายอารมณ์ จนเวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมง ตอนหลังๆปราณของมาตาร์ฟื้นขึ้นมาแล้ว ก็เลยใส่พลังได้มากขึ้น เจ้าเทวดาค่อยๆทรุดโทรมพร้อมกับรอยช้ำตามตัวและเลือดที่กระอักออกจากปากไม่หยุด
แล้วในที่สุด เจ้าเทวดาระดับสี่ร้อยก็นอนจมกองเลือดเพราะผู้เล่นระดับร้อยกับสัตว์เลี้ยงอีกสามตัวจนได้
“ผู้เล่นมาตาร์สังหารเทวดาระดับ 400 ได้รับประสบการณ์ 7,525 ค่ะ” เสียงจากระบบดังขึ้น
เนื่องจากระดับของมาตาร์สูงสุดที่หนึ่งร้อยแล้วระดับก็เลยไม่เพิ่มขึ้น ในขณะที่สามสาวระดับขึ้นคนละเจ็ด
“มาตาร์คะ มีหอกของเทวดาตกอยู่ด้วยล่ะค่ะ” คลาร่าหยิบหอกของเทวดามาให้มาตาร์
ปกติสัตว์อสูรในเกมนี้เวลาตายร่างก็จะไม่หายไป แล้วก็ไม่ตกอะไรมาให้นอกจากเงินเท่านั้นเพราะต้องการความสมจริงจนถึงที่สุดนั่นเอง ส่วนอาวุธหรือชุดเกราะนั้นจะได้รับจากสัตว์อสูรก็ต่อเมื่อมันถือมาเองเท่านั้น เพราะฉะนั้นหอกหรือเสื้อผ้าของเทวดา ถ้าอยากได้ก็ต้องไปปลดมาเอง ถ้าอยากจะกินเนื้อก็ต้องไปชำแหละมาเองเหมือนกัน แต่เนื้อเทวดาคงไม่มีใครคิดจะกินกระมัง
“หอกเทวดาเหรอ ...เอาไปขายหรือเอาไปให้คริมซั่นดีหว่า” มาตาร์สำรวจดู หอกเทวดาก็ไม่ได้พิเศษอะไร “ทั้งๆที่เป็นสัตว์อสูรระดับสี่ร้อยแท้ๆ แต่กลับพกของธรรมดาๆ เกมนี้นี่มันหาของใช้ดีๆยากจังน้า”
“บางทีคงต้องออกจากเกาะเริ่มต้นก่อนมั้งคะ” คลาร่ากล่าว
“คงงั้นมั้ง” มาตาร์นึกถึงถุงมือเรลกันของเรย์น่าขึ้นมา เพราะแค่เพิ่มอุปกรณ์มาชิ้นเดียว แทบจะทำให้ยัยงูพิษไร้เทียมทานเลยทีเดียว
หลังจากมาตาร์พักผ่อนเพื่อให้พลังฟื้นคืนเรียบร้อยแล้วก็ใส่เสื้อผ้าที่สามสาวเอามาให้ เขาก็พาพวกเธอเดินออกจากป่าฝูงนกทันที
แต่ทว่า...
ลูกไฟลูกใหญ่ปลิวใส่มาตาร์และสามสาวแบบไม่ให้สุ้มให้เสียง
ตูมม!!
“เฮ้ยอะไร!” มาตาร์กระโดดหลบพร้อมกับอุทานออกมา
“ได้เวลาตายของแกแล้วยังไงล่ะ!!” เสียงหญิงสาวที่คุ้นเคยดังขึ้น
ที่แท้ก็คือเรย์น่านั่นเอง แต่มาตาร์ก็ต้องกลุ้มใจขึ้น เมื่อเรย์น่าปรากฏตัวออกมาในร่างประสานกับอิฟรีทเรียบร้อย
ฟู่ววว!! ตูมม!!
กรงเล็บติดไฟของเรย์น่าพุ่งเข้าใส่มาตาร์แบบไม่ต้องพูดอะไรให้มากความ มาตาร์หลบหลีกอย่างทุลักทุเล แถมยังโดนไฟลวกเข้าไปที่ขาด้วย
จริงๆเรย์น่าไม่ได้หนีไปไกลเมื่อตอนที่มาตาร์สู้กับเทวดา และเธอก็เห็นวิธีต่อสู้ของชายหนุ่มแล้ว ถ้าเปิดโอกาสให้เจ้าผู้ชายกลับกลอกคนนี้พูดล่ะก็ ต้องเสียท่าแน่ๆ ดังนั้นต้องรีบฆ่ามันเมื่อเจอหน้าในทันที
ปัง!! ปัง!! ปัง!! ฟูววว!!
กระสุนของบราวนี่พุ่งเข้าใส่เรย์น่า แต่เธอใช้ไฟของเธอหลอมกระสุนพวกนั้นให้หายไปกลางอากาศเลย
“พวกแกไม่มีทางชนะชั้นได้หรอก ตายไปอีกรอบซะเถอะ!!” เรย์น่าตวาดออกมาพร้อมกับใช้ไม้ตายของเธอออกมาทันที
ครืนนน!!
ทันใดนั้นพื้นที่รอบๆก็เกิดความร้อนสูงจนมาตาร์และสามสาวหายใจแทบไม่ออก
“อะไรเนี่ย!?” มาตาร์ตกใจกับผลลัพธ์ของมัน
มันคืออาณาเขตไฟที่ต้องใช้พลังวิญญาณสูงมาก แต่มันเป็นท่าที่ไม่สามารถหลบหนีได้ ภายในรัศมียี่สิบเมตรรอบตัวเรย์น่าจะเป็นพื้นที่ไฟนรก ที่ทุกอย่างจะถูกเผาผลาญไปอย่างช้าๆแม้กระทั่งอากาศ เป็นสาเหตุให้มาตาร์และสามสาวหายใจไม่ค่อยออกนั่นเอง
“ตายซะเถอะแก” เรย์น่าไม่จำเป็นต้องตอบคำถาม เธอเหวี่ยงกรงเล็บมาทางมาตาร์ที่เคลื่อนไหวไม่สะดวกทันที
ตูมม!! พลักก!! พลักก!!
“คลาร่า! โมเรน่า!”
วินาทีที่กรงเล็บจะเข้าปะทะตัวชายหนุ่ม แม่หมาป่าสาวกับแม่เสือสาวก็พร้อมใจกันพุ่งเข้าใส่กรงเล็บนั้นทันทีจนพวกเธอถูกตบกระเด็นไปทั้งคู่ นอนจมกองเลือด
“เจ้าพวกมดปลวก น่ารำคาญ!” เรย์น่าไม่อยากจะเสียเวลากับสัตว์เลี้ยง เธอใช้กรงเล็บอีกข้างตะปบใส่มาตาร์ทันที
ตูมมม!! พลักก!!
“อ็อค!! บราวนี่!!”
คราวนี้เป็นแม่เหยี่ยวสาวที่พุ่งออกมารับ แต่ด้วยความรุนแรงของกรงเล็บ ทั้งบราวนี่และมาตาร์จึงถูกตบกระเด็นไปพร้อมกันจนกระอักเลือดออกมา
‘แล้วแบบนี้จะสู้ยังไงดีเนี่ย’ มาตาร์คิดหาหนทางไม่ออกจริงๆ เวลาอย่างนี้จะทำอย่างไรดี ร่างกายได้รับบาดเจ็บ รอบๆตัวก็เป็นอากาศที่ร้อนจนหายใจแทบไม่ออก
‘หนีสินะ!!’ มาตาร์คิดได้แล้วก็ใช้พลังจิตยกตัวสามสาวมารวมกัน
“คิดหนีเหรอ!! ไม่มีทาง!!” เรย์น่าเหมือนจะรู้ทันเมื่อเห็นว่ามาตาร์ใช้พลังจิต
จริงๆแล้วมาตาร์บาดเจ็บที่ขาเพราะโดนไฟลวก หายใจก็ไม่สะดวก แต่เขาก็ไม่คิดยอมแพ้ง่ายๆ การยกตัวสามสาวเป็นเหยื่อล่อที่ทำให้เรย์น่าร้อนรนเท่านั้นเอง
ตูมม!! ฉึกก!!
กรงเล็บไฟของเรย์น่าเหวี่ยงมาใส่มาตาร์ แต่เขาเกร็งปราณน้ำแข็งเอาไว้ให้เป็นดาบแล้วพุ่งส่วนใส่กรงเล็บเหมือนกัน
“อ๊ายยย!!” เรย์น่าร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่อแท่งน้ำแข็งแทงทะลุมือเธอ
แต่มาตาร์ก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน ร่างกายของเขาโดนไฟครอกไปทั้งตัว พร้อมด้วยกระดูกแขนหักทั้งสองข้างเพราะรับแรงปะทะจากกรงเล็บของเรย์น่าเต็มๆ จนเขาแทบจะกระดุกกระดิกไม่ได้แล้ว
“อยากจะได้คนไว้ซ้อมมือนักใช่มั้ย? ฮ้า!!” เรย์น่าแผดเสียงออกมา มีชั่วขณะหนึ่งแล้วที่เธอเกือบจะใจอ่อนเพราะผู้ชายคนนี้ แต่แล้วเธอเหมือนกับถูกทรยศเข้าให้เมื่อมาตาร์ทิ้งเธอหนีไปจริงๆ ดังนั้นเธอจึงได้แค้นเขามากขึ้นไปอีก แค้นที่เธอเกือบจะเผลอเชื่อใจคนอื่นอีกแล้ว
ความโกรธของเธอจึงมีมากขึ้นไปอีก แล้วเอามาระบายกับมาตาร์อีกครั้งจนได้
“จำเอาไว้นะ ถ้าแกฟื้นขึ้นมาอีก ชั้นจะตามมาฆ่าแกอีก!!” เรย์น่าตะโกนพร้อมกับกระโดดขึ้นสูง แล้วรวบรวมพลังเป็นลูกไฟก้อนใหญ่ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางถึงยี่สิบเมตร เหมือนตึกขนาดสี่ชั้นเลยทีเดียว
มาตาร์รวบรวมกำลังเฮือกสุดท้าย ฝืนตัวลุกขึ้นยืน แล้วเกร็งพลังปราณน้ำแข็งอีกครั้งเข้าสู่มือขวา
“ฮึๆๆ แล้วเจอกันใหม่เรย์น่า หวังว่านี่คงไม่ใช่ครั้งสุดท้าย” มาตาร์พูดขึ้นมาด้วยเสียงที่แผ่วเบา
“ตายยย!!!!” เรย์น่าทุ่มลูกไฟยักษ์ใส่มาตาร์ทันที
“อสรพิษตาเดียว!!” มาตาร์ใช้ไม้ตายก้นหีบทันที ไหนๆถ้าจะต้องตาย เขาก็ขอให้มีความก้าวหน้ามากขึ้น อสรพิษตาเดียวที่เขาพยายามหลีกเลี่ยงการใช้มันมาตลอดได้ออกมาในที่สุด
ลำแสงสีขาวพุ่งฉวัดเฉวียนออกจากมือขวาของมาตาร์ที่มีปราณน้ำแข็งคลุมอยู่เข้าใส่ลูกไฟยักษ์ที่เคลื่อนต่ำลงมาเรื่อยๆทันที มันเป็นการทดลองของมาตาร์ว่าเขาจะสามารถรวมเวทกับปราณเข้าด้วยกันได้หรือเปล่านั่นเอง
“ฮึ้ยย!!” มาตาร์ส่งเสียงร้องออกมาด้วยความทรมาน เจ้าอสรพิษตาเดียวยังคงควบคุมไม่ได้และดูดเวทออกจากตัวชายหนุ่มจนเขารู้สึกทรมาน แต่มาตาร์ก็สังเกตเห็นว่าบริเวณที่เจ้างูขาวตัวยาวเคลื่อนผ่าน บริเวณนั้นไฟจะดับมอดลง ‘ใช้ได้จริงๆด้วยแฮะ’
“ฮึ้ยย! ไปทางยัยงูพิษซี่!” มาตาร์ยังพยายามสะบัดมือที่หักจนเสียรูปของเขาไปควบคุมอสรพิษตาเดียวให้เลื้อยไปทางเรย์น่า แต่มันก็พยศเหลือเกิน ขณะที่ลูกไฟยักษ์ก็คลุมไปทั่วบริเวณแล้ว
ฟู่ววว!!!
ในวินาทีสุดท้าย มาตาร์เห็นรอบๆตัวของเขาไฟลุกท่วม สามสาวที่นอนอยู่ใกล้ๆไฟลุกขึ้นมาแล้วค่อยๆกลายเป็นแสงไป ร่างของเขาก็ค่อยๆติดไฟขึ้นมา แต่สายตาเขายังคงจ้องมองที่หญิงสาวคนนั้นพร้อมกับพยายามบังคับงูน้ำแข็งของเขาให้เข้าจู่โจมเธอ
เปรี๊ยะ!!! โอ๊ยย!! ฟู่วววว!!!
“ฮึๆ”
ก่อนที่เขาจะไม่รู้สึกอะไรอีกนอกจากความร้อนที่เผาไหม้จนรู้สึกเหมือนอยู่ในห้องแช่แข็งที่มีอุณหภูมิติดลบ เสียงร้องของเรย์น่ายังทำให้เขาหัวเราะออกมาได้ แล้วทุกอย่างก็พร่าเลือนไป
จริงๆมันเป็นบทรักของทั้งคู่นะ รู้สึกอย่างนั้น
ความคิดเห็น