ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    JOQ Online คนจริงลวงโลก <มี E-Book>

    ลำดับตอนที่ #152 : บทที่147: แขนซ้ายสีดำ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 11.12K
      107
      7 ก.พ. 55

    บทที่147 แขนซ้ายสีดำ

    ปัง!

    ทินนี่ล้วงปืนสั้นออกมาหนึ่งกระบอกแล้วยิงไปที่ร่างของอสูรดำนั่นทันที

    ปุ้ง!

    แล้วกระสุนก็แตกออกกลายเป็นตาข่ายเข้าคลุมร่างของเจ้าอสูรร่างสีดำเอาไว้จนมันขยับเขยื้อนได้อย่างลำบาก

    การตัดสินใจและการเลือกใช้อาวุธของชายร่างอ้วนนับว่ายอดเยี่ยม เพราะเพียงเห็นแค่การยึดร่างของเจ้าอสูรดำเพียงแค่นั้นก็สามารถใช้การโจมตีที่จนเองได้เปรียบได้ทันที แถมไม่มีลังเลด้วย แม้ว่าร่างนั้นจะเคยเป็นเพื่อนของตนเองมาก่อนก็ตาม

    ตูม! ตูม! ตูม!

    ทินนี่ชักปืนกระบอกยาวที่มีปากกระบอกขนาดหนึ่งเซนติเมตรขึ้นมาแล้วยิงใส่เจ้าอสูรดำไม่ยั้งจนร่างของมันกระจัดกระจายออกมาทีละนิด

    “โฮกก!!” เจ้าอสูรดำส่งเสียงคำรามออกมาทีหนึ่งพร้อมกับออกแรงกระชากตาข่ายที่คลุมร่างของมันเอาไว้

    “ไม่มีทางหรอก ตาข่ายนั่นทำด้วยแร่พิเศษที่ชั้นคิดขึ้นเองเชียวนะ มันทั้งเหนียวและแข็งแรงถึงขั้นรับน้ำหนักได้มากกว่าสิบตันด้วยความหนาเพียงหนึ่งมิลลิเมตรเท่านั้น” ทินนี่ร่างอ้วนกล่าวอย่างภาคภูมิใจ

     

    โอ้โห เจ้าอ้วนนี่มันเก่งขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย นึกว่าเป็นลูกไล่ให้เจ้าผอมนั่นซะอีก มาตาร์คิดขึ้นมาเมื่อเห็นท่าทีของทินนี่ซึ่งปกติจะดูโง่ๆเซ่อๆ แต่เอาเข้าจริงๆดูเหมือนจะเป็นผู้เล่นที่ใช้สมองมากกว่าใช้กำลัง แถมรู้สึกเหมือนจะเป็นช่างตีเหล็กที่มีฝีมือเสียด้วย เพราะเห็นมีอุปกรณ์แปลกๆที่คิดเองไว้ใช้งานด้วย ทั้งเครื่องย้ายมวลสาร แล้วยังมีตาข่ายนี่อีก

     

    หนืด!

    แต่แล้วทันใดนั้นร่างของเจ้าอสูรดำกลับค่อยๆหลอมรวมเข้ากับตาข่ายนั้น

    “เฮ่ย!!” ชายร่างอ้วนร้องขึ้นมาอย่างตระหนกเมื่อเห็นว่าเจ้าอสูรดำนี้ไม่ได้กลืนกินได้แค่สิ่งมีชีวิต ตาข่ายของเขากำลังถูกดูดกลืน แล้วถ้ามองดูให้ดี ดาบเล่มสีเงินนั่นก็หายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ คาดว่าคงจะถูกดูดกลืนเข้าไปตั้งแต่แรกแล้ว”

    “ฮ่าๆๆๆ นี่มันเจ๋งจริงๆ เจ้าหัวขาวนั่นพลาดซะแล้วที่ทำให้ข้ามีความสามารถแบบนี้” เจ้าปีศาจสีดำพูดออกมาอย่างยินดี ดูเหมือนว่าแม้แต่ตัวมันเองก็คาดไม่ถึงว่าตนเองนั้นจะมีความสามารถดูดกลืนสสารอื่นแบบนี้ คาดว่าคงเป็นความสามารถที่เกิดขึ้นใหม่หลังจากที่เจ้าปีศาจถูกผนึกในครั้งก่อน

    ปัง! ปัง! เผละ! เผละ!

    กระสุนปืนขนาดหนึ่งเซนติเมตรยังยิงออกมาไม่หยุด ร่างของเจ้าอสูรดำก็ยังถูกยิงจนกระจุยอยู่ดี

    “ฮึ้ยย! รำคาญจริง!!” เจ้าอสูรดำแค่นเสียงออกมาพร้อมกับพุ่งเข้าใส่ชายร่างอ้วนทันทีที่มันดูดกลืนตาข่ายจนมันสามารถขยับตัวได้บ้างแล้ว

    ฟิ้ว! ปัง! ปึกก!

    เจ้าอสูรดำพุ่งเข้าไป กระสุนถูกยิงสวนออกมา แล้วก็ถูกหยุดเอาไว้ที่ผิวหนังของเจ้าอสูรนั่นก่อนจะร่วงลงสู่พื้นอย่างหมดแรง

    “อะไรเนี่ย!? ทำไมยิงไม่เข้าแล้วล่ะ” ทินนี่ตะโกนออกมาด้วยความแปลกใจพร้อมกับกระโดดถอยหลังออกไปอีก

    “ฮ่าๆๆๆ ก็แกบอกเองไม่ใช่เหรอ ว่าตาข่ายของแกแข็งแกร่ง ข้าก็เอามันมาคลุมตัวไว้น่ะสิ” เจ้าปีศาจสีดำนั่นพูดออกมาอย่างคึกคะนอง

    “หมายความว่าแกเอาสิ่งที่ดูดกลืนเข้าไปใช้งานได้ด้วยเหรอเนี่ย!!” ชายร่างอ้วนกล่าวออกมาอย่างตกตะลึง ความสามารถแบบนี้มันจะไร้เทียมทานเกินไปแล้ว ดูดกลืนสิ่งมีชีวิต ดูดกลืนสิ่งไม่มีชีวิต แล้วยังเอาสิ่งที่ดูดกลืนนั้นมาใช้งานได้อีกด้วย แบบนี้จะมีใครทำอะไรมันได้ แล้วมันถูกผนึกตั้งแต่แรกได้อย่างไรกัน

    “ฮ่าๆๆๆ” เจ้าอสูรดำหัวเราะออกมาเป็นคำตอบ

    ฟิ้วว!! เชียะ!

    กรงเล็บของเจ้าอสูรเฉี่ยวร่างของชายร่างอ้วนไปเล็กน้อย

    “หืม?” ชายร่างอ้วนสังเกตเห็นความผิดปกติทันที ด้วยกำลังและความเร็วของเจ้าอสูรดำแล้ว ถึงแม้มันจะถูกยับยั้งการเคลื่อนไหวจากกระสุนของเขาก็ตาม แต่มันก็ไม่น่าจะพลาดการโจมตีเมื่อสักครู่ไปได้

     

    เอ๋? อะไรน่ะ!?’ มาตาร์ที่มองดูอยู่ไกลๆก็สังเกตเห็นความผิดปกติเช่นกัน สิ่งที่เขาเห็นมันออกจะแปลกประหลาด แต่เขาก็ไม่น่าจะมองพลาดไป

    เจ้าอสูรดำนั้น ครั้งแรกที่มันกลืนร่างของแฟ็ตตี้ไป ตัวมันสูงกว่าทินนี่อย่างเห็นได้ชัด แต่ตอนนี้ตัวมันสูงพอๆกับทินนี่เท่านั้นเอง และดูท่าจะตัวเล็กลงเรื่อยๆด้วย

     

    “อะไรเนี่ย!? เกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของข้า!” อสูรดำอุทานออกมาด้วยความตกใจ

    เมื่อครั้งที่เจ้าอสูรดูดกลืนแขนของเนปจูนได้ แขนของเนปจูนก็ถูกตัดทิ้งเอาไว้อย่างนั้น แล้วในเวลาไม่นานมันก็หยุดเคลื่อนไหว แล้วแขนที่ดูดกลืนมาได้ก็ค่อยๆหายไป จนสุดท้ายแล้วก็เหลือแต่ดาบเปล่าๆปักอยู่บนพื้นหิน

    เนปจูนเห็นดังนั้นก็คาดการณ์ถึงความสามารถของเจ้าอสูรดำตัวนี้ได้ว่า มันต้องดูดกลืนปราณ จิต เวทเข้าไปก่อน เพื่อให้ผลึกวิญญาณทำงาน หลังจากนั้นมันจึงจะใช้ความสามารถของมันได้ ซึ่งก็คือความสามารถในการดูดกลืนสิ่งมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิต แต่หากมันไม่ได้พลังปราณ จิต หรือเวทหล่อเลี้ยงแล้วล่ะก็ ผลึกเวทที่ทำให้วิญญาณของเจ้าอสูรดำนี้ทำงานได้ก็จะหมดพลัง แล้วเจ้าอสูรดำนี่ก็จะหมดพลังตามมาในท้ายที่สุด

    นั่นคือ ถ้าอยู่ห่างๆจากเจ้าอสูรนี่ ไม่ให้มันดูดพลังได้ มันก็จะฝ่อไปเอง

    การโจมตีของทินนี่ที่ผ่านมาทั้งหมด เป็นการโจมตีทางกายภาพด้วยกระสุนปืนล้วนๆ ไม่ได้มีปราณ จิตหรือเวทแฝงอยู่เลย ดังนั้นเมื่อเจ้าอสูรดำดูดพลังจากร่างของแฟ็ตตี้หมด มันก็เริ่มฝ่อไปนั่นเอง ส่งผลให้ตัวของมันเล็กลงเรื่อยๆ

    ควิ้ง! ควิ้ง!

    “ไม่นะ! ม่ายย!!” อสูรดำแผดเสียงออกมาพร้อมกับเรียกดาบสีเงินที่ยาวครึ่งหนึ่งของดาบที่มันดูดกลืนไปออกมาจากแขนทั้งสองข้าง พร้อมกับเหวี่ยงดาบที่แขนนั่นเข้าใส่ทินนี่ทันที

    ฟวับ! ฟวับ!

    “เข้าใจล่ะ แกมันก็แค่อสูรที่ถูกผนึก ข้าไม่จำเป็นต้องเสียเวลาสู้กับแกหรอก” ชายร่างอ้วนเข้าใจสถานการณ์อย่างรวดเร็ว พร้อมกับกระโดดถอยออกไปทันที

    ปุ้ง! ปุ้ง! พรึบบ!!

    กระสุนตาข่ายถูกยิงออกมาอีกสองนัดเข้าคลุมร่างของเจ้าอสูรดำนั่นเอาไว้อีกครั้งทันที แล้วชายร่างอ้วนก็ถอนตัวออกจากห้องสมบัติทันที

    “แก!! กลับมาก่อน กลับมาให้ข้าดูดพลังเดี๋ยวนี้!!” เจ้าอสูรดำตะโกนขึ้นมาอย่างร้อนรนขณะที่ถูกตาข่ายคลุมร่างเอาไว้อีกครั้ง ซึ่งมันก็ค่อยๆดูดกลืนเจ้าตาข่ายนั้นเข้าไปช้าๆ พร้อมๆกับขนาดตัวที่เล็กลงเรื่อยๆเหมือนกัน

    เจ้าอสูรดำตระหนักดีว่าการไล่ตามชายร่างอ้วนนั่นไปคงไม่มีประโยชน์แน่แล้ว ดูจากการคิดวิเคราะห์และการตัดสินใจ ถือว่ามันเป็นคนที่เล่นด้วยยากทีเดียว ถึงจะตามไปได้ก็ไม่แน่ว่าอาจจะถูกอาวุธถ่วงเวลาอีกหลายอย่าง จนสุดท้ายมันก็คงจะหมดพลังและถูกผนึกเอาไว้อย่างเดิมเป็นแน่

    ดังนั้นทางเลือกที่เหลืออยู่ จึงเป็น...

    ซวยล่ะสิ ไอ้ระดับพันนั่นมันจะมาเล่นงานตูแทนเรอะ มาตาร์เห็นแล้วว่าเจ้าอสูรสีดำนั่นหันกลับมาทางเขาซึ่งถูกขังอยู่ในอาณาเขตพิเศษ

    “แก!! จงมาเป็นร่างกายให้ข้าซะดีๆ!” อสูรดำแค่นเสียงออกมาพร้อมกับเดินมาทางชายหนุ่มหัวฟูช้าๆ

    “ยังไม่แน่ว่าเดียมอนจะฝ่าอาณาเขตนี้เข้ามาได้นะครับคุณแอฟโร” เสียงนุ่มๆพูดขึ้นมาเมื่อเห็นสถานการณ์ตรงหน้า

    “หวังว่าคงจะเป็นอย่างนั้นนะสไลป ...แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นผมก็ออกไปจากที่นี่ไม่ได้เหมือนกันนะ แบบนั้นก็ตายเปล่าชัดๆ” ชายหนุ่มหัวฟูตอบกลับโมโนไบค์ของเขาอย่างครุ่นคิด

    “คุณแอฟโรอยากจะออกไปเสี่ยงกับเดียมอนเหรอครับ” พ่อบ้านถามความเห็นเจ้านายของเขา

    “ไม่หรอก ผมไม่อยากจะกลับไปที่เกาะไรเดอร์อีกรอบตอนนี้ ยัยนั่นเป็นตายร้ายดียังไงยังไม่รู้เลย แต่ก็ไม่แน่ ตายแล้วอาจจะกลับไปที่เกาะเหมือนกันก็ได้ ฮ่าๆๆๆ” มาตาร์ย่อมหมายถึงเรย์น่าที่เขาติดต่อไม่ได้ตั้งแต่เข้ามาอยู่ในร่างของโมบี้ดิ๊กแล้ว

    “ถ้ายังไงลองเสี่ยงกับลูกแก้วที่คุณมาตาร์เพิ่งได้มาดีมั้ยครับ” พ่อบ้านเสียงนุ่มเสนอทางเลือกที่ไม่คาดคิด

    “หา? สไลปรู้เหรอว่าไอ้ลูกแก้วพวกนั้นมันคืออะไร” มาตาร์ถามด้วยความสงสัย

    “ถ้ามันไม่มีปฏิกิริยากับเวท ปราณหรือพลังจิต ก็สันนิษฐานได้ว่ามันอาจจะเป็นผนึกครับ” พ่อบ้านเสียงนุ่มตอบ

    “หา? ผนึกเหรอ? ที่เอาไว้ใส่สัตว์เลี้ยงหรือผู้ติดตามน่ะนะ” ชายหนุ่มหัวฟูถามขึ้น

    “ใช่ครับ เพราะถ้าคิดว่ามันเป็นวัตถุดิบอะไรซักอย่าง มันก็ไม่น่าจะมีรูปร่างเป็นทรงกลมแบบนั้น แถมมีเหมือนกันเป็นสิบๆลูกด้วย” พ่อบ้านให้เหตุผล

    “ปกติผนึกมันใช้ผนึกได้แต่สัตว์เลี้ยงไม่ใช่เหรอสไลป จะเอามาผนึกเจ้าตัวดำนั่นเนี่ยนะ ไม่น่าจะทำได้” มาตาร์ยังไม่แน่ใจว่าเจ้าลูกแก้วพวกนั้นจะช่วยเขาได้ เพราะเจ้าตัวดำนั่นน่าจะพยศจนไม่ยอมเป็นผู้ติดตามให้ใครแน่ๆ

    “แต่ก็น่าลองดูไม่ใช่เหรอครับ” พ่อบ้านกล่าว

    กึ้งง!!

    เสียงดังขึ้นมาจากกำแพงที่มองไม่เห็น เจ้าอสูรดำนั่น ในที่สุดมันก็เข้ามาโจมตีแล้ว

    “โอเค งั้นถ้าเจ้านั่นทำลายอาณาเขตได้ก็ลองใช้ลูกแก้วนี่เลยละกัน” ชายหนุ่มหัวฟูพูดพร้อมกับหยิบลูกแก้วออกมาจากเข็มขัดลูกหนึ่ง

    หวืดด!!

    แขนของเจ้าอสูรดำนั่นกลายสภาพเหมือนเป็นของเหลว แล้วเริ่มกลืนเข้ากับเนื้อของกำแพงอากาศนั้นทันที จากแขนที่มีสีดำก็เริ่มใสเหมือนกำแพง

    “เฮ้ย!! มันดูดกลืนได้แม้กระทั่งกำแพงอาณาเขตเนี่ยนะ” มาตาร์อุทานออกมาอย่างตกใจ ดูเหมือนเขาจะได้เผชิญหน้ากับเจ้าอสูรสีดำนี่แน่ๆ

    กรึก!!

    “ฮ่าๆๆๆ” เจ้าอสูรดำหัวเราะออกมาพร้อมกับหักกำแพงที่มองไม่เห็นออกไปทันที จนมันเป็นรูขึ้นมา ซึ่งมาตาร์สามารถรับรู้ได้จากบรรยากาศในอาณาเขตที่เปลี่ยนไป

    วูบ!

    มาตาร์ขว้างลูกแก้วลูกหนึ่งเข้าใส่เจ้าอสูรสีดำทันที

    แวบ!

    แต่แล้วทันใดนั้น พลันปรากฏร่างของเด็กสาวขึ้นมาคนหนึ่งทันที

    มากาเร็ต

    ระดับ 100

     

    “เอ๋?” มาตาร์สำรวจอย่างรวดเร็วแล้วก็พบว่าเธอมีระดับหนึ่งร้อย

    “เจ้านายเรียกมากาเร็ตเหรอคะ?” เด็กสาวถามชายหนุ่มหัวฟู

    “เอ๋?” มาตาร์เริ่มงงเข้าไปอีก จู่ๆเด็กสาวคนนี้ก็เรียกเขาเป็นเจ้านาย

    “แกตายย!!” อสูรดำฟาดแขนลงมาใส่ร่างของชายหนุ่มทันที

    “ห้ามทำร้ายเจ้านายนะ!!” เด็กสาวตะโกนขึ้นมาแล้วก็พุ่งร่างเข้าใส่เจ้าอสูรดำนั่นทันที

    ฟิ้ว! พลัก!

    “อ๊ะ!!” มาตาร์ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก มันเป็นสิ่งที่เกินจากความคาดหมายของเขา

    “ฮ่าๆๆๆ เป็นแกก่อนก็ได้” อสูรดำหัวเราะออกมาก่อนจะเริ่มดูดกลืนร่างของเด็กสาวทันที

    “อ๊ายยย!!” เด็กสาวกรีดร้องออกมาด้วยความทรมานพร้อมๆกับร่างที่ค่อยๆถูกกลืนกินไป

    “นี่มัน! ...อะไรกันเนี่ย!?” มาตาร์ขมวดคิ้ว เขาเริ่มคาดเดาได้แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น

    “เด็กคนนั้นคือสัตว์เลี้ยงที่สูญเสียความทรงจำครับ เธอคิดว่าคุณแอฟโรเป็นเจ้านาย” เสียงนุ่มๆกล่าวขึ้นมาเรียบๆ

    “มัน ...ลบความทรงจำได้จริงๆเหรอเนี่ย!” มาตาร์พูดออกมาด้วยความโกรธ มันเป็นสิ่งที่เนปจูนทำกับสัตว์อสูรที่ถูกผนึก และมันอาจจะเป็นสิ่งที่เนปจูนทำกับสามสาวของเขา

    “ถ้าความภักดีของเธอยังเหลืออยู่ เธอก็จะไปฟื้นที่จุดเกิดของเจ้านายเธอเองครับ” พ่อบ้านให้คำตอบที่ชายหนุ่มหัวฟูน่าจะตั้งคำถาม

    “ไอ้เนปจูน~น” มาตาร์พูดออกมาเสียงต่ำพร้อมกับกัดฟันแน่น

    วืด! วืด! วูบ! วูบ!

    แล้วชายหนุ่มก็หยิบเอาลูกแก้วที่เหลือออกมาแล้วปาใส่เจ้าอสูรดำที่กำลังดูดกลืนร่างของเด็กสาวอยู่ทันที

    แวบ! แวบ! แวบ!

    ลูกแก้วถูกดูดกลืนไป แล้วก็ปรากฏร่างของเด็กสาวและเด็กหนุ่มเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ

    “เจ้านายขา/ครับ” เด็กเหล่านั้นเมื่อปรากฏร่าง ต่างก็เรียกชายหนุ่มหัวฟูว่าเจ้านายทุกคน

    “เนปจูน~น” มาตาร์เริ่มขาดสติ เขารู้สึกเหมือนความโกรธของเขาเอ่อขึ้นมาจนมันจวนจะระเบิดอยู่แล้ว

    แวบ! แวบ! แวบ!

    ร่างของสัตว์เลี้ยงร่างมนุษย์ปรากฏเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนลูกแก้วที่ชายหนุ่มพกเอาไว้หมดไป เจ้าอสูรสีดำนั่นก็กลืนกินผนึกเข้าไปจนหมด พร้อมๆกับร่างกายที่รู้สึกว่าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เพราะมันมีอาการเหมือนกับกินอิ่มจนจุก เหมือนถูกยัดอาหารใส่ท้องในปริมาณมหาศาลเกินกว่าที่มันจะรับได้ ทำให้มันยืนค้างอยู่กับที่เฉยๆ

    ชายหนุ่มมองไปทั่วๆก็ไม่พบว่ามีร่างของเด็กสาวที่เขาต้องการ

    “เจ้านายขา/ครับ” เด็กเหล่านั้นเรียกชายหนุ่มหัวฟูด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

    “ไม่ใช่” ชายหนุ่มเอ่ยออกมาเบาๆ

    “เจ้านาย?” เด็กเหล่านั้นทำหน้าแปลกใจขึ้นมาอีก ว่าทำไมชายหนุ่มหัวฟูถึงไม่รับที่จะเป็นเจ้านายพวกเขา

    “ไม่ใช่!!” มาตาร์ตะโกนออกมาอย่างเหลืออดในที่สุด “กลับไปซะ!! กลับไปหาเจ้านายตัวจริงของพวกแกซะ!!

    “ก็เจ้านายอยู่ที่นี่แล้วไงคะ?” เด็กสาวคนหนึ่งพูดขึ้นมาอย่างสงสัย ใบหน้าของเธอช่างไร้เดียงสา

    “คืนร่าง!!” มาตาร์ใช้คำสั่งคืนร่าง พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา

    ตูมมม!!! ตูมมม!!! ตูมมม!!!

    “ชั้นไม่ใช่เจ้านายของพวกแก!! ตายไปซะให้หมด!!!” หัตถ์พระเจ้าถูกปล่อยออกมาเต็มแรง ใส่พวกสัตว์เลี้ยงร่างมนุษย์เหล่านั้นทันที มาตาร์กวาดร่างของพวกมันหายไปจนหมดโดยที่ไม่มีใครทันส่งเสียงร้องออกมาสักแอะ

    การคืนร่างของมาตาร์นั้น นอกจากค่าสถานะจะสูงเป็นสิบเท่าของร่างไรเดอร์แล้ว พลังปราณยังเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า ประกอบกับทักษะเสริมปราณและเสริมพลังจิตที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมสิบเท่า หัตถ์พระเจ้าหมัดเดียวก็มีกำลังมากกว่าเดิมเป็นร้อยเท่าแล้ว แค่กวาดมือไปเบาๆพวกสัตว์อสูรเหล่านี้ก็ตายง่ายๆ แต่นี่เขากลับต่อยเต็มแรง เล่นเอาพื้นห้องพังไปเป็นแถบ

    สิ่งที่ทำให้มาตาร์โกรธนั้นคือการที่สัตว์เลี้ยงเหล่านั้นถูกลบความทรงจำ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่น่าจะเกิดกับสามสาวของเขาด้วยเหมือนกัน การเห็นสัตว์เลี้ยงของคนอื่นเรียกเขาว่าเจ้านาย ย่อมหมายความว่าทั้งคลาร่า โมเรน่าและบราวนี่ ก็อาจจะมีสภาพไม่ต่างจากนี้

    “ไอ้เนปจูน!! ออกมาสิโว้ยย!!!” ชายหนุ่มผมแดงร้องตะโกนท้าทายออกมาทันที โดยหารู้ไม่ว่าเจ้าของปราสาทแห่งนี้กำลังอยุ่ในช่วงรอเกิดอยู่เพราะโดนชายผู้มีค่าหัวสูงสุดในเกมปราบลงไปแล้วรอบหนึ่ง

    “อึก! ฮึๆๆๆ” เสียงอสูรดำหัวเราะออกมาอย่างทุลักทุเล ดูเหมือนมันจะยังรู้สึกจุกอยู่ที่กลืนผนึกเข้าไปถึงสามสิบกว่าลูก

    จริงๆแล้วผนึกนี้เกิดขึ้นจากความต้องการของเนปจูนเพื่อใช้กักขังสัตว์อสูรให้ตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง ซึ่งพัฒนามาเพื่อที่จะเอาไว้ขังเดียมอนโดยเฉพาะ แต่มันก็ยังไม่สมบูรณ์ ถึงกระนั้นมันก็ยังขังสัตว์อสูรแบบธรรมดาตัวอื่นๆให้ตัดขาดจากโลกภายนอกได้

    “หัวเราะอะไรไอ้ดำ!!” มาตาร์ยังไม่คืนสติ เขายังโกรธอยู่ เสียงหัวเราะของเดียมอนเหมือนยิ่งยั่วให้เขาโกรธมากขึ้น

    “หัวเราะแกไง!” อสูรดำตอบ

    ตูมมม!!!

    หัตถ์พระเจ้าขนาดสามเมตร ใหญ่มิดตัวเจ้าเดียมอน ตรงเข้าขยี้ร่างของมันให้แหลกเหลวจมดินไปทันที

    ตูมม!!

    และทันทีที่หัตถ์พระเจ้าหายไป กำปั้นยักษ์อันใหม่ก็ถูกซัดเข้าไปตรงที่เดิม ทำเอาเศษเนื้อสีดำนั่นเริ่มแหลกเหลวเหมือนโดนตำด้วยสากและครกหิน

    หมับ!

    แต่แล้วแขนซ้ายพลังจิตของมาตาร์กลับถูกเจ้าของเหลวสีดำที่ยืดขึ้นมาจากก้นหลุมนั่นจับเอาไว้

    “ฮ่าๆๆๆ พลังของแกมันแรงดีจริงๆเจ้าหนุ่ม แกนี่เหมาะจะให้ชั้นดูดกลืนซะจริงๆ” เสียงของเดียมอนดังขึ้นมา

    วูบ! วูมม!

    มาตาร์สลายแขนซ้ายทิ้งทันทีพร้อมกับเรียกกระสุนพรากสังขารขึ้นมาใส่ในมือข้างขวา

    “ตายซะไอ้ดำ!!” มาตาร์ตะโกนขึ้นพร้อมกับใช้หัตถ์พระเจ้านำกระสุนพรากสังขารพุ่งออกจากมือขวาด้วยความรวดเร็วใส่ร่างที่เหลวแหลกของเดียมอนที่ไม่มีที่ยึดทันที

    วูมม!!

    เกิดรัศมีวงกลมที่มองไม่เห็นขึ้น ลบเอาหัตถ์พระเจ้าและร่างแหลกเหลวสีดำนั่นหายไปส่วนหนึ่งทันที

    หมับบ!!

    แต่เจ้าของเหลวสีดำนั้นยังดื้อ มันใช้ส่วนหนึ่งยึดมาเกาะที่แขนซ้ายของชายหนุ่มผมแดงได้ในที่สุด

     

    ...แล้วมันก็เริ่มขึ้น

     

    แขนซ้ายของมาตาร์เริ่มกลายเป็นสีดำทันที ไล่จากบริเวณข้อศอกลามขึ้นไปที่ต้นแขน

    “ฮึ้ยย!!” มาตาร์ก็ยังไม่ยอมแพ้ เขาใช้พลังจิตอันเข้มข้นของเขากระชากเศษร่างของเดียมอนออกไปทันที

    การชักเย่อระหว่างอสูรดำที่ร่างเหลือเพียงเศษชิ้นส่วนกับพลังจิตขั้นสิบที่รุนแรงของมาตาร์ก็เริ่มขึ้น

    เซลล์ของอสูรดำกลืนกินแขนของมาตาร์ไปส่วนหนึ่ง แต่มาตาร์กลับใช้พลังจิตดันมันออกไปโดยไม่สนใจความเจ็บปวดที่ได้รับ แขนของเขายืดออกไปเฉพาะส่วนที่เป็นสีดำเท่านั้นจนเหมือนว่าแขนงอกออกมาสมบูรณ์ แต่แท้จริงแล้วมันเป็นการดึงเอาเซลล์แขนของมาตาร์เองซึ่งผสมกับเซลล์ของเจ้าอสูรดำออกไปเท่านั้นเอง

    “ฮ่าๆๆๆ แกไม่รอดแน่!” แขนซ้ายสีดำของมาตาร์พูดขึ้น

    วูบ!

    ระเบิดวายุถูกสร้างขึ้นมาที่มือข้างขวาทันที

    “แกสิไม่รอด!” มาตาร์แค่นเสียงออกมาพร้อมกับอัดระเบิดเข้าใส่แขนซ้ายของเขาทันที

    วูบ! ฟุบ!

    แต่ก่อนที่ระเบิดวายุจะระเบิดแขนซ้ายของเขาออกมา เวลาของการคืนร่างกลับหมดลงพอดี ระเบิดวายุสลายไปแล้วกลายเป็นปราณบริสุทธิ์ธรรมดา

    “เฮ้ยย!!” ชายหนุ่มแอฟโรอุทานออกมาด้วยความตกใจ

    “ฮ่าๆๆ แกตาย!” เดียมอนหัวเราะออกมาอย่างผู้ชนะพร้อมกับเริ่มดูดกลืนร่างของมาตาร์ต่อทันที

    กึก!

    แต่แล้วเจ้าอสูรสีดำกลับคืบไปไม่ได้แม้สักมิลลิเมตรเดียว แขนของชายหนุ่มหยุดเป็นสีดำจนถึงแค่ช่วงไหล่เท่านั้น

    “เฮ่ย! แกทำอะไรลงไป!!” เจ้าอสูรดำเอ่ยออกมาอย่างแปลกใจเพราะมันไม่สามารถดูดกลืนร่างของชายหนุ่มหัวฟูได้

    ผัวะ! โอ๊ยย!!

    มาตาร์ไม่ยอมเสียจังหวะเขาทิ้งตัวลงพื้นแล้วฟาดแขนซ้ายที่มีเจ้าเดียมอนใส่พื้นทันที แต่ว่าสิ่งที่เขารู้สึกกลับประหลาดนัก เมื่อชายหนุ่มหัวฟูรู้สึกเจ็บเสียเอง

    “อ้าวเฮ่ย!! ทำไมชั้นเจ็บเองล่ะเนี่ย” มาตาร์อุทานออกมาอย่างประหลาดใจ เพราะเขาน่าจะไม่รู้สึกเจ็บสิ ในเมื่อแขนซ้ายของเขาเป็นร่างของเดียมอนไปแล้ว

    วูบ!

    และเหตุการณ์ประหลาดก็เกิดขึ้นต่อเนื่องอีก เมื่อร่างของเดียมอนที่ต่อออกมาจากศอกของชายหนุ่มหัวฟูค่อยๆหดสั้นลงจนกลับมาตรงบริเวณใกล้ข้อศอกอีกครั้ง

    “แก!! แกทำอะไรลงไป” เดียมอนส่งเสียงออกมาอีกครั้งหนึ่ง

    แล้วหลังจากนั้นทุกอย่างก็สงบลง มีเพียงท่อนแขนของมาตาร์เท่านั้นที่กลายเป็นสีดำตั้งแต่หัวไหล่ถึงข้อศอกทั้งที่ยังด้วนอยู่เหมือนเดิม แต่นอกเหนือจากนั้น ไม่มีวี่แววว่าเจ้าเดียมอนจะอาละวาดออกมาอีกเลย

    “เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?” ชายหนุ่มหัวฟูเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่เข้าใจ

     

    นึกว่าจะกลายเป็นแขนสุดวิเศษสินะ แต่มันยังด้วนอยู่เลยนะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×