คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #86 : บทที่84: โซล่าร์ซิสฯปะทะเรย์น่า
บทที่84 โซล่าร์ซิสฯปะทะเรย์น่า
“แฮก! แฮก! แฮก!” เรย์น่าคืนร่างแล้วหอบด้วยความเหนื่อยอ่อน
หญิงสาวยืนอยู่ท่ามกลางความวอดวายของป่าที่ถูกเผาไหม้ รัศมีรอบตัวเธอกว่าห้าสิบเมตรเต็มไปด้วยควันไฟ พื้นที่ดำเป็นตอตะโก และต้นไม้ที่ยืนต้นแห้งตายเพราะความร้อนของลูกไฟยักษ์ลูกสุดท้ายที่เธอปล่อยออกมา
‘ต้องกลับไปพักผ่อนซะหน่อย วันนี้รวมร่างไปสองครั้งแล้ว’ เรย์น่าคิดขึ้นถึงข้อจำกัดในการใช้เวทอัญเชิญของเธอ
เวทอัญเชิญนั้นไม่ใช่ว่ามีพลังวิญญาณพอแล้วจะเรียกเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะต้องมีช่วงเว้นระยะเวลาหนึ่งด้วย ถึงจะอัญเชิญอสูรตัวเดิมออกมาได้ สำหรับผู้ที่มีอสูรอัญเชิญหลายตัวนั้นก็จะสามารถลบจุดอ่อนตรงนี้ไปได้ แต่เรย์น่ามีเวทอัญเชิญสองบท เป็นอสูรที่เอาไว้สู้หนึ่งบท กับเวทล้างบางหนึ่งบทที่ตอนนี้เธอใช้ไม่ได้แล้วเพราะพลังวิญญาณไม่พอจะเรียกออกมา เท่ากับมีใช้แค่หนึ่งบทเท่านั้นคืออสูรไฟอิฟรีท ดังนั้นช่วงนี้เธอจึงใช้เวทอัญเชิญไม่ได้ไปพักหนึ่ง
“คราวนี้จะฝึกอะไรดีครับคุณมาตาร์” เสียงนุ่มๆของพ่อบ้านดังขึ้นเมื่อชายหนุ่มรู้สึกตัวขึ้นมาบนโซฟาในห้องสีขาว
“อืม ฝึกต่อจากคราวที่แล้วสิ” มาตาร์บอกพ่อบ้าน
“มาตาร์ขา” แม่หมาป่าสาวร้องทักขึ้น
“ว่าไงคลาร่า” มาตาร์หันไปทางเด็กสาวผมขาวที่เป็นต้นเสียง
“พวกเรามีทักษะใหม่ค่ะ” คลาร่าตอบ
“หา?” มาตาร์สงสัยขึ้นมา มันมีไม่บ่อยนักที่พวกสามสาวของเขาจะมีทักษะเพิ่มขึ้น
มาตาร์ลองเปิดดูค่าสถานะผู้ติดตามของพวกเธอขึ้นมา
ความภักดี 2000/2000 |
“หืม ความภักดีขึ้นถึงสองพันแล้วเหรอเนี่ย ทำไมขึ้นเร็วกันแบบนี้ล่ะเนี่ย” มาตาร์ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเงื่อนไขการขึ้นค่าความภักดีที่เร็วและแรงแบบนี้เกิดจากอะไร ซึ่งโฆเซ่ก็ไม่บอกเขาเรื่องนี้เหมือนกัน
ส่วนใหญ่ทักษะของสัตว์เลี้ยงก็จะเกิดขึ้นตามค่าความภักดีที่สูงขึ้น สำหรับค่าความภักดี 2,000 นี้ ผู้เล่นทั่วไปต้องใช้เวลาเกือบสี่ปีในการเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงอย่างดี ถึงจะมาถึงขั้นนี้ได้ แต่มาตาร์กลับใช้เวลาแค่สิบห้าวันเท่านั้น
“มีทักษะอะไรไหม่เนี่ย” มาตาร์ไล่ค่าสถานะลงไปเรื่อยๆ แล้วก็เห็นว่ามันมีทักษะใหม่ขึ้นมาจริงๆ
“หา!? ...ทักษะนี้ใช้งานยังไงเนี่ย?” มาตาร์อ่านชื่อทักษะแล้วก็ต้องแปลกใจ
“ลองใช้ดูเลยมั้ยล่ะครับ” พ่อบ้านเสนอขึ้นมา
“อือ ก็ต้องลองดูล่ะนะ” มาตาร์ก็เห็นด้วย ทางเดียวที่จะรู้ว่าทักษะใหม่นี้ทำงานได้อย่างไรก็คือต้องลองใช้งานมันดู
และแล้วหนึ่งชั่วโมงในแมนชั่นแห่งความตายก็หมดลงอีกครั้งหลังจากที่มาตาร์กับสามสาวฝึกฝนกันอย่างหนักเหมือนเดิม
“หวังว่าอาคารภารกิจจะตอบได้นะ” มาตาร์พูดกับพ่อบ้านก่อนที่เขาจะออกจากแมนชั่นแห่งความตาย
“ขอให้ทักษะนี้ทำได้อย่างที่หวังนะครับ” พ่อบ้านพูดอวยพรให้มาตาร์
“แฮะ หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น” มาตาร์ยิ้มให้พ่อบ้านแล้วก้าวเข้าประตู ไปสู่เกมทันที
เวลาหกโมงเย็น มาตาร์และสามสาวในร่างสัตว์ปรากฏตัวขึ้นที่พื้นที่พิเศษหน้าสนามต่อสู้
“พี่มาตาร์” เสียงผู้ชายร้องทักขึ้นมาทันที
“โอ้ว คริมซั่น” มาตาร์ทักกลับผู้ที่เรียกเขา
“ตกลงตายเหรอครับ” ชายในชุดแดงถามขึ้นเมื่อเห็นว่ามาตาร์เกิดมาตัวเปล่าๆ
“แฮะๆ ก็ตายน่ะแหละ สู้กันหนึ่งต่อหนึ่งยังไงก็แพ้นะ” ถึงแม้มาตาร์จะเคยฆ่าเรย์น่าได้หนึ่งครั้ง แต่ตอนนั้นมันเป็นการเล่นทีเผลอแบบที่หญิงสาวไม่มีอุปกรณ์เวทติดตัวด้วย “แล้วนี่ยัยงูพิษไม่มาตามฆ่าเหรอเนี่ย”
“ไม่เลยครับ พวกผมเองก็รออยู่ แต่สงสัยยัยนั่นจะตามแต่พี่มาตาร์จริงๆ ถ้ามีแต่พวกผมเธอคงจะไม่สนใจล่ะมั้ง” คริมซั่นสันนิษฐาน
ความจริงแล้วนอกจากเพราะเรย์น่าจะตามฆ่ามาตาร์คนเดียวแล้ว เธอยังต้องพักผ่อนรอให้เวทอัญเชิญใช้งานได้อีกครั้งด้วย ดังนั้นช่วงนี้เธอจึงยังไม่ลงมือ
“งั้นเดี๋ยวพี่ขอเข้าเมืองไปเอาของก่อนละกัน ถ้าบังเอิญเจอเธอเข้ากลางทางจะล่อมาให้ที่นี่นะ” มาตาร์บอกสิ่งที่เขาจะทำ
“อย่าเลยค่ะ เดี๋ยวหนีไม่ทันก็ตายอีก เข้าเมืองไปด้วยกันหมดนี่ดีกว่า ถ้าเจอจะได้เริ่มซ้อมเลย หนูเบื่อจะแย่แล้ว ซ้อมกันเองเนี่ย” โรสพูดขึ้นมา
“เบื่อซ้อมกันเองหรือเบื่อที่ไม่มีพี่มาตาร์มาซ้อมด้วยกันฮ้าหนูโรส” มาเจนต้ากระซิบข้างหูโรสอย่างรู้ทัน เล่นเอาหญิงสาวผมชมพูหน้าแดงไป
“ก็ดีเหมือนกันนะครับพี่มาตาร์ ถ้าเจอยัยนั่นกะทันหัน หนีไม่ทันก็จะเสียเวลาไปอีก” อาเชอร์เห็นด้วยกับความคิดของโรส
ดังนั้นมาตาร์และพวกโซล่าร์ซิสฯจึงยกโขยงกันเข้าเมืองทั้งหมด เพื่อไม่ให้เสียเวลา เผื่อเจอเรย์น่ากลางเมืองจะได้เริ่มซ้อมกันเลยไม่ต้องวิ่งล่อเธอไปมา แต่ถึงมาตาร์จะไปรับของเรียบร้อยแล้วก็ยังไม่เห็นวี่แววของเรย์น่าเลย
“ยัยงูพิษเลิกตามรังควานแล้วเหรอเนี่ย ...ไม่จริงน่า” มาตาร์พูดออกมาอย่างผิดหวัง
มันเป็นเรื่องที่แปลก มาตาร์และโซล่าร์ซิสฯกำลังรอคนมาตามฆ่าพวกเขาอยู่ด้วยความหวัง แทนที่จะเกรงกลัวหรือรำคาญ
“ถ้าอย่างนั้นพี่ขอไปทำธุระที่ถนนทางเลือกหน่อยนะ” มาตาร์พูดถึงสิ่งที่เขาอยากจะทำอีกอย่างก่อนจะกลับไปซ้อมกันที่เดิม
“ได้ครับ” คริมซั่นขานรับ แล้วพวกโซล่าร์ซิสฯก็เดินตามมาตาร์ไปถนนทางเลือกโดยไม่ถามอะไร
มาตาร์เดินมาหยุดที่หน้าอาคารภารกิจเผ่าเทพ
“เดี๋ยวพี่มานะ รอแป๊บนึง” มาตาร์ว่าแล้วก็เดินเข้าไปในอาคารภารกิจเผ่าเทพพร้อมกับสามสาวทันที
“ภารกิจเผ่าเทพเหรอ มาทำอะไรที่นี่หว่า?” คริมซั่นเอ่ยออกมาอย่างแปลกใจ
“นั่นน่ะสิ พี่มาตาร์เค้าเปลี่ยนเผ่าไม่ได้แล้วไม่ใช่เหรอฮ้า” มาเจนต้าก็สงสัยเหมือนกัน
“อาจจะแค่มาถามข้อมูลล่ะมั้ง” โรสเดา
“เรื่องของคนอื่นเราไม่ต้องรู้หมดก็ได้มั้ง” อาเชอร์พูดขึ้นมา เพราะนี่มันก็เป็นเรื่องส่วนตัวของผู้เล่นคนอื่น
“เสร็จแล้ว กลับไปซ้อมกันเถอะ” มาตาร์พูดขึ้นหลังจากเดินออกมาจากอาคารภารกิจเผ่าเทพด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“เอ๋? เสร็จแล้วเหรอคะ เร็วจัง” โรสแปลกใจที่มาตาร์เข้าไปไม่ถึงหนึ่งนาทีเลยด้วยซ้ำ
“ก็แค่มาถามข้อมูลอะไรนิดหน่อยเท่านั้นเองนี่นา” มาตาร์ตอบ
“อ้าว แล้วสามสาวล่ะครับพี่” คริมซั่นถามขึ้นมาเมื่อไม่เห็นสามสาวตามมาตาร์มา
“พี่ใช้ให้ไปทำธุระน่ะ” มาตาร์ตอบเรียบๆ
“...เหรอครับ” คริมซั่นรับคำ จริงเขาก็อยากจะถามมาตาร์เหมือนกันว่าธุระอะไร แต่ก็นึกขึ้นได้ว่ามันคงจะละลาบละล้วงเกินไป จึงไม่ถามออกมา
“วันนี้ยังไม่ได้เจอพี่มาตาร์เลยเนอะรัต” เมโลดี้คุยกับเพื่อนสาวขณะที่พวกเธอกำลังกินข้าวเย็นกันอยู่ในร้านอาหารญี่ปุ่นซึ่งมีนางฟ้าผมทองร่วมโต๊ะด้วยอีกหนึ่งคน
“ไม่เจอแล้วไงล่ะ ไม่ได้ตัวติดกันซะหน่อยจะได้ต้องเจอกันทุกวัน” ราตรีตอบกลับเพื่อนสาวขณะหยิบซูชิใส่ปาก
“แต่เดี๋ยวมะรืนนี้ก็เดินทางแล้ว คงได้เจอกันทุกวันเองแหละเนอะ” เมโลดี้พูดขึ้นมาอีกพร้อมๆกับซดชาเขียวในถ้วย
“ฮึ” ราตรีทำท่าเหมือนไม่สนใจ ซึ่งจริงๆแล้วเธอก็คิดถึงชายหนุ่มเหมือนกันนั่นแหละ แต่มันไม่มีเหตุที่จะให้เจอเลย จะชวนมากินข้าวเฉยๆก็ดันออฟไลน์ไปซะอีก ซึ่งมันเป็นช่วงเวลาที่มาตาร์ตายอยู่พอดีนั่นเอง
หลังจากที่มาตาร์สำเร็จภารกิจเสริมจิตเช้าเมื่อวานแล้ว มาตาร์ก็รีบร้อนหายไปคนเดียว แล้วก็ไม่ติดต่อกลับมาหาราตรีหรือเมโลดี้เลยสักครั้งเดียว ซึ่งปกติมาตาร์ก็จะไม่ติดต่อกลับมาก่อนอยู่แล้วล่ะ ถ้าเข้าไม่ได้มีเรื่องขอให้พวกเธอช่วยเหลือ จึงดูเหมือนว่าสองสาวมีสัมพันธ์กับชายหนุ่มแค่เรื่องผลประโยชน์เท่านั้นเอง ทั้งๆที่พวกเธอทั้งคู่ไม่อยากจะให้มันเป็นอย่างนั้น พวกเธออยากจะให้ไปไหนมาไหนด้วยกัน ไปล่าด้วยกัน ไปกินข้าวด้วยกัน ไปซ้อมด้วยกันเหมือนเพื่อนตามปกติเขาทำกันมากกว่า แต่จะให้พวกเธอเป็นฝ่ายชวนก่อนทุกครั้งมันก็เกินไป พวกเธออยากจะให้มาตาร์ชวนพวกเธอไปไหนมาไหนบ้าง แต่ก็ได้แต่คอยเก้อ
ส่วนมาตาร์นั้น แทบจะลืมราตรีกับเมโลดี้ไปเลย เพราะขณะนี้เขากำลังจดจ่ออยู่กับของรางวัลจากการประลองประจำสัปดาห์ เพราะเวลาฝึกซ้อมนั้นน้อยเหลือเกิน ถึงพวกโซล่าร์ซิสฯจะมีพัฒนาการที่ดีแต่ยังขาดประสบการณ์อยู่เยอะ และเขาก็ไม่หวังพึ่งทั้งสองสาวเลยด้วย ไม่อยากให้รู้ด้วยว่าเขาเข้าประลองเพราะโมโนไบค์อีกแล้ว ขนาดตอนเสียโมโนไบค์คันเก่าไปให้บรันโด้พวกเธอยังไม่รู้เลย เขาขี้เกียจจะมาตอบคำถามว่าแล้วคันเก่าหายไปไหน ทั้งๆที่ถ้าได้มาจริงๆป่านนี้อาจจะหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้เพราะตายไปไม่รู้กี่รอบแล้ว บางทีหลังจากได้รางวัลมาแล้วมาตาร์คงทำได้แค่ฝากมันเอาไว้ที่ร้านรับฝากก็ได้ ถ้าไม่อยากเสียมันไป แต่มันจะกลายเป็นแค่ของรกๆที่ไม่ได้ใช้งานไปซะเปล่าๆ
เวลาทุ่มครึ่ง มาตาร์และเหล่าโซล่าร์ซิสฯกลับมาปรากฏตัวที่พื้นที่พิเศษหน้าสนามต่อสู้อีกครั้ง
“เข้าป่าไปซ้อมแบบห้าคนให้เคยชินกันรอบนึงก่อนละกันนะ พี่จะได้คืนระดับเป็นร้อยเหมือนเดิมด้วย” มาตาร์เสนอขึ้น
“ได้เลยครับ พวกเราซ้อมกันสี่คนจนเบื่อแล้ว” คริมซั่นรับ
“แต่ว่าคราวนี้ พี่มีความสามารถใหม่ให้พวกเราเล่นกันด้วยนา” มาตาร์พูดขึ้นมาอย่างแจ่มใสเหมือนรู้ว่าพวกโซล่าร์ซิสฯจะต้องชอบความสามารถใหม่ของเขาแน่นอน
“พี่มาตาร์มีความสามารถใหม่อีกแล้วเหรอคะ” โรสรู้สึกทึ่งมาก เพราะตั้งแต่ฝึกซ้อมกับมาตาร์มาแค่วันกว่าๆ แต่พี่ชายคนนี้ก็แสดงความสามารถใหม่ๆให้เธอดูไม่หยุด
“เดี๋ยวเข้าป่าไปก็รู้เอง จับสัมผัสให้ดีละกันนะพวกโซล่าร์ซิสฯทั้งหลาย” มาตาร์พูดอย่างมีเลศนัยแล้วก็เดินนำเข้าป่าฝูงนกไปทันที
แล้วเวลาก็ผ่านไปสองชั่วโมง โซล่าร์ซิสฯกับมาตาร์แทบจะล้างป่าฝูงนกด้วยทีมเวิร์คห้าคนและความสามารถใหม่ของมาตาร์
ตูม! ตูม!
ลูกเหล็กของอาเชอร์ยิงใส่นกกลุ่มสุดท้ายจนมันร่วงลงมาตายหมดในที่สุด
“เอาล่ะ ตอนนี้ระดับพี่ขึ้นถึงร้อยเหมือนเดิมแล้ว ออกไปซ้อมข้างนอกป่ากันได้แล้วมั้ง” มาตาร์ชวนพวกโซล่าร์ซิสฯออกจากป่าฝูงนก
“ดีครับ ผมเห็นพี่มาตาร์แล้วได้ไอเดียในการฝึกอีกเยอะเลย” คริมซั่นรับคำแล้วก็ตามมาตาร์ออกจากป่าฝูงนก
เปรี๊ยะ!!
ทันใดที่พวกโซล่าร์ซิสฯพ้นออกมาจากป่าฝูงนก พื้นดินตรงหน้าพวกเขาก็แตกร้าวทันที
“ไชโย!! มาแล้วพี่มาตาร์” คริมซั่นร้องขึ้นมาอย่างดีใจเมื่อเห็นว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น
เวลาผ่านไปสี่ชั่วโมงหลังจากเรย์น่าฆ่ามาตาร์ในป่า และตอนนี้เธอก็พร้อมจะตามมาราวีอีกครั้ง
ตูมม!! ฮูมมม!!
อสูรไฟอิฟรีทปรากฏตัวออกมา แล้วคำรามใส่พวกโซล่าร์ซิสฯทันที
“เชื่อมสัมผัส!!” มาตาร์ตะโกนขึ้น
แล้วพวกโซล่าร์ซิสฯก็กระจายตัวออกทันที
“ย้ากกก!!!” โรสร้องตะโกนแล้วพุ่งเข้าใส่อิฟรีททันที โดยมีมาตาร์วิ่งตามมาข้างหลังด้วย
วืดด!! ตูมม!!
อสูรไฟเห็นหญิงสาวเข้ามาใกล้ก็เหวี่ยงกรงเล็บไฟของมันเข้าใส่ทันที แต่ว่าโรสกระโดดหลบไปอีกทางหนึ่งด้วยความเร็วที่เหนือกว่า ส่วนกรงเล็บของเจ้าอสูรไฟพลาดไปโดนพื้นจนดินกระจุยขึ้นมา
“Risen Rose! (กุหลาบแย้ม)” โรสตะโกนชื่อท่าไม้ตายพร้อมกับวกกลับมาแล้วใช้ไหล่ของเธอกระแทกเข้าไปที่จุดอับที่เกิดจากการเหวี่ยงกรงเล็บซึ่งอยู่บริเวณซี่โครง
กร๊อบบ!!
ไหล่ของหญิงสาวเสริมด้วยปราณน้ำแข็งกระแทกเข้าไปเต็มๆ แต่ไม่ใช่แค่นั้นเมื่ออีกด้านหนึ่ง มาตาร์ซึ่งพุ่งไปอีกทางเข้าประชิดอสูรไฟ
ซวบบบ!!
ปลายของทอนฟาซึ้งยื่นออกมาทะลวงเข้าไปจนมิดแล้วตามด้วยสันหมัดของมาตาร์อีกเมื่อเขาใช้หมัดความเร่งเสริมเคล็ดลมหมุนวนเยือกแข็งอัดเข้าไปเต็มๆ
ฮูมมม!!
อสูรไฟร้องออกมาอย่างเจ็บปวดเมื่อมันโดนทะลวงซี่โครงทั้งสองด้านพร้อมกัน
“ย้ากกก!!” คริมซั่นส่งเสียงแล้ววิ่งเข้าหาอสูรไฟตรงๆ
ตุบ!! ตับ!! ฉัวะ!! ฉัวะ!!
ระหว่างนั้นมาตาร์กับโรสที่ประชิดตัวอสูรไฟอยู่ก็โจมตีมันไม่หยุดด้วยการโจมตีต่อเนื่องชุดเล็กๆจากเคล็ดหมัดความเร่งของทั้งคู่
วูบ!! วูบ!! โฮกกก!!
เจ้าอสูรไฟโบกกรงเล็บของมันไปมาพร้อมกับไฟที่ปะทุออกมาจากพื้น จนมาตาร์และโรสเข้าประชิดไม่ได้อีก
“หอกทะลวงสวรรค์!!!” คริมซั่นตะโกนพร้อมกระโดดพุ่งเข้าใส่อิฟรีทโดยไม่สนใจว่าจะมีไฟปะทุขวางหน้าเขาอยู่หรือไม่
ฟุบบบ!!
จังหวะที่ร่างของคริมซั่นจะเข้าปะทะกับกำแพงไฟนั้น พลันร่างของชายหนุ่มกลับหายไปแล้วปรากฏตัวอีกทีด้านหลังของเจ้าอสูรไฟแล้ว พร้อมด้วยการเก๊กท่าจบแวบหนึ่ง ก่อนจะกระโดดเปลี่ยนทิศไปอีกทาง
ฉูดด!! ฮูมมม!!
อิฟรีทคำรามอออกมาพร้อมกลับเลือดที่กระฉูดออกมาจากด้านหลังของมัน
มันเป็นเคล็ดการโจมตีย่อยๆของหอกดาวตกไม้ตายของคริมซั่นนั่นเอง โดยคริมซั่นตัดปราณไฟออกไปเพราะมันทำอะไรเจ้าอิฟรีทไม่ได้ แต่ยังคงการเคลื่อนที่ด้วยพลังจิตในจังหวะโจมตีอยู่ ซึ่งทำให้เขาสามารถทะลุผ่านกำแพงไฟมาปรากฏตัวอีกด้านพร้อมกับการโจมตีที่หลังของอสูรไฟ แล้วยังตั้งชื่อเป็นท่าไม้ตายใหม่ขึ้นมาอีกด้วย ถึงมันจะไม่ได้บันทึกเอาไว้เป็นไม้ตายอย่างเป็นทางการก็เถอะ
“มาเจนต้า! อาเชอร์!” มาตาร์ที่กระโดดถอยออกมาร้องเรียกชื่อชายหนุ่มสีน้ำเงินและกะเทยสีบานเย็นทันที ซึ่งทั้งคู่ก็เข้ามาประชิดตัวชายหนุ่มผมแดงทันทีที่เรียกเพราะรู้ล่วงหน้าอยู่แล้วจากการเชื่อมสัมผัส
ปึ้ก! ปึ้ก!
ทั้งคู่ใช้มือประทับไปที่หลังของมาตาร์ แล้วเริ่มถ่ายปราณให้ชายหนุ่มผมแดงทันที
บุ๋ง!
ทันใดนั้นก้อนน้ำขนาดใหญ่ก็เกิดขึ้นตรงหน้ามาตาร์ที่ใช้สองมือประคองมันอยู่ทันที
“สายฟ้าวารี!!!” อาเชอร์และมาเจนต้าประสานเสียงกันขึ้นมา ในขณะที่มาตาร์ผลักก้อนน้ำเข้าใส่อสูรไฟ
ฟิ้วว!! ตูมมม!! เปรี๊ยะ!! เปรี๊ยะ!! เปรี๊ยะ!!
ถึงแม้จะมีกำแพงไฟกั้นอยู่ก็ตาม แต่ก้อนน้ำลูกใหญ่พุ่งทะลุแล้วเข้ากระแทกอสูรไฟด้วยความรุนแรงจนตัวมันสะบัดไปเลยทีเดียว พร้อมๆกับพลังสายฟ้าที่ช็อตจนตัวมันกระตุก
ตูม! ตูม! ตูม!
โรสเห็นเป็นโอกาส เจ้าอสูรไฟโดนฟ้าช็อตจนแข็งค้างไป เธอจึงใช้ไหล่เสริมปราณน้ำแข็งกระแทกเข้าไปอีกสามครั้งซ้อน จนตัวมันกระเด็นถอยหลังไปอย่างควบคุมไม่ได้
การต่อสู้ประสานเป็นไปอย่างรวดเร็วมาก ตั้งแต่อิฟรีทปรากฏตัวขึ้นมา ยังไม่ถึงห้านาทีดีด้วยซ้ำ แต่มันกลับถูกโจมตีจนสะบักสะบอมไปหมดแล้ว โดยทำร้ายพวกโซล่าร์ซิสฯไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
มันแน่นอนอยู่แล้ว เพราะครั้งที่แล้วขนาดพวกโซล่าร์ซิสฯสี่คนบาดเจ็บปางตายอยู่ก่อนแล้วยังต้อนเจ้าอสูรไฟจนจนมุมมาแล้ว คราวนี้ร่างกายสมบูรณ์เต็มที่แถมมีกันห้าคนอีก มันก็ต้องง่ายอยู่แล้ว
เรย์น่าที่ดูอยู่ไกลๆก็คาดไม่ถึงเหมือนกัน ไม่นึกว่าพวกโซล่าร์ซิสฯรวมกันห้าคนจะร้ายกาจขนาดนี้ ถ้าเธอไม่รวมร่างสู้ล่ะก็ สู้ไม่ได้แน่นอน เพราะทีมเวิร์คของพวกนี้มันเหนือชั้นเกินไป
พวกโซล่าร์ซิสก็รู้ดีอยู่แล้วว่าแค่ไอ้ตัวนี้มันไม่พอมือพวกเขาหรอก ต้องให้เรย์น่ารวมร่างมาสู้เท่านั้นแหละ ถึงจะได้ฝึกเป็นจริงเป็นจัง แต่ก็มีสิทธิ์จะแพ้สูงเหมือนกัน
“พี่ขอสั่งห้ามทักษะรุมสกรัมนะ” มาตาร์พูดขึ้นก่อนที่จะเริ่มการฝึก
“อ้าว ทำไมล่ะครับ ทักษะไร้เทียมทานของพวกเราเชียวนะนั่น” คริมซั่นสงสัยขึ้นมา
“เพราะการประลองจริงคู่ต่อสู้มีกันห้าคนเหมือนกัน ไม่ใช่คนเดียวแบบนี้ ดังนั้นโอกาสการใช้รุมสกรัมตอนประลองจริงน่ะ แทบไม่มี เราเน้นฝึกท่าต่อเนื่องและท่าประสานกันดีกว่า เชื่อมสัมผัสแล้วโจมตีต่อเนื่องนี่แหละ อาวุธที่ร้ายกาจที่สุดของพวกเรา” มาตาร์บอกกับพวกโซล่าร์ซิสฯ
“จงเป็นพลังให้ข้า อิฟรีท!!” เสียงเรย์น่าดังมาจากอีกทิศทางหนึ่ง
แล้วทันใดนั้นร่างของอิฟรีทก็หายไปแล้วร่างรวมของเรย์น่ากับอสูรไฟ ก็กระโดดเข้ามาตรงกลางวงแทนทันที
ตูมมม!!!
กรงเล็บอันใหญ่ทั้งคู่โตของเรย์น่าเสียบเข้าไปในดิน แล้วก็ปรากฏรอยแตกระแหงออกเป็นรัศมี พร้อมๆกับลาวาที่ปะทุออกมาเป็นชั้นๆ จนพวกโซล่าร์ซิสฯเข้าใกล้ไม่ได้ ต้องกระโดดถอยออกมา
“พวกแกอยากตาย ชั้นก็จะให้พวกแกตาย!!” เรย์น่าแผดเสียงออกมา
“โรส!” มาตาร์ตะโกนเรียกโรสทันที
หญิงสาวสีชมพูเข้ามากอดคอมาตาร์อย่างรู้งาน แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังมีหน้าแดงออกมาบ้าง ชายหนุ่มอุ้มหญิงสาวขึ้นแล้วใช้กงจักรลมพุ่งขึ้นฟ้าทันที
โชคดีที่อิฟรีทเป็นอสูรไฟแล้วโรสมีปราณธาตุน้ำแข็ง ...ถ้าคนอื่นในทีมมีปราณธาตุน้ำแข็งล่ะก็ =_=
ความคิดเห็น