ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    JOQ Online คนจริงลวงโลก <มี E-Book>

    ลำดับตอนที่ #70 : บทที่68: ไม้ตายที่ถูกเก็บซ่อน

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 13.47K
      102
      22 ธ.ค. 54

    บทที่68 ไม้ตายที่ถูกเก็บซ่อน

    “รอบสุดท้ายนี้ผมขอเป็นการต่อสู้แบบคู่ได้มั้ยครับ” มาตาร์เอ่ยกับกลุ่มชายห้าคนนั้น

    “...ก็ได้ครับ” เซซิลเหมือนคิดอะไรอยู่ก่อนที่จะตอบออกมา

    “ขอบคุณที่ยอมตามใจผมนะครับ” มาตาร์ยิ้มเมื่อเซซิลตอบตกลง

    ส่วนคริมซั่นก็ทำหน้าสงสัยขึ้นมา ว่าทำไมจู่ๆมาตาร์ถึงอยากจะสู้แบบคู่กับเขาขึ้นมาในเมื่อรอบที่แล้วยังไม่ยอมให้เขาสู้เป็นคู่กับอาเชอร์อยู่เลย

    “คริมซั่นไม่ต้องคิดว่าเป็นการต่อสู้แบบคู่ คิดว่าสู้เดี่ยวๆไป พี่ไม่ไปช่วยนะ ไหวมั้ย” มาตาร์กระซิบที่ข้างๆหูของคริมซั่นเมื่อเห็นหน้าตาของชายหนุ่มชุดแดงซึ่งทำหน้างงๆอยู่

    “เอ๋? เอ้อ ไหวสิครับ แต่ว่าทำไม...?” คริมซั่นก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องสู้กันแบบคู่ด้วย

    “แล้วประลองแบบคู่แพ้ชนะกันยังไงครับ” เซซิลถามถึงกติกาในรอบสุดท้ายนี้

    “ก็ตายทั้งสองคน หรือบอกยอมแพ้ทั้งสองคนละกันครับ” มาตาร์ตอบ

    “หมายความว่าถ้าใครประกาศยอมแพ้ คนที่ประกาศนั้นก็ถอนตัวออกไปได้ใช่มั้ยครับ” เซซิลถามรายละเอียด

    “อืม แบบนั้นแหละครับ” มาตาร์ตอบ

    กติกาแบบนี้แตกต่างจากการประลองจริงที่สนามประลอง เพราะถ้าประกาศยอมแพ้หมายถึงแพ้ทั้งทีม แต่กติกาที่มาตาร์เสนอนี้เหมือนการต่อสู้แบบเดี่ยวมากกว่าที่ต้องยอมแพ้เป็นคนๆไป

    มาตาร์ส่งสัญญาณรวมกลุ่มกับคริมซั่น แล้วก็ส่งสัญญาณท้าประลองไปให้เซซิลกับคราวด์

    ฟิ้ว! ฟุบ! ฟุบ!

    มาตาร์พุ่งเข้าไปหาเซซิลทันทีที่อีกฝ่ายตอบรับสัญญาณการประลอง แต่เซซิลก็ไม่ได้ประมาท เขาหลบหมัดที่ปล่อยออกมาอย่างรวดเร็วของมาตาร์ได้ แล้วสวนกลับด้วยดาบเล่มยาวของเขา

    เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!

    อีกด้านหนึ่งก็ไม่ยอมน้อยหน้า คริมซั่นเข้าประชิดคราวด์แล้วแทงหอกออกไปสามครั้ง แต่ถูกดาบเล่มใหญ่ของคราวด์สกัดได้ตลอด

    พรึบ!! ฟูวว!

    ทันใดนั้นคมหอกของคริมซั่นก็มีเปลวเพลิงลุกขึ้น เขาเหวี่ยงหอกติดไฟนั่นใส่คราวทันที แต่คราวด์ก็ยังยกดาบขึ้นมากันได้อีก

    เคร้ง! เปรี๊ยะ!!

    ทันใดที่หอกของคริมซั่นกระทบกับดาบของคราวด์ก็เกิดประกายไฟสีฟ้าแลบแปลบปลาบออกมา

    “โอ๊ย!” คริมซั่นอุทานออกมาอย่างตกใจที่มือของเขารู้สึกเหมือนโดนไฟฟ้าช็อตพร้อมกับกระโดดถอยออกมา

    แต่คราวด์ก็ไม่เปิดโอกาสให้คริมซั่นได้มีเวลาตั้งตัว เขาเหวี่ยงดาบของเขาใส่คริมซั่นโดยใส่กำลังลงไปกะว่าจะผ่าร่างของคู่ต่อสู้ให้แยกออกจากกันเป็นสองเสี่ยงตั้งแต่หัวจรดเท้า

    ฟู้วว!! เปรี้ยง!!

    คริมซั่นปล่อยไฟออกมารบกวนคราวด์ก่อนจะกระโดดถอยออกไป ทำให้ดาบของคราวด์เสียจังหวะและฟันพลาดไปใส่พื้นแต่ทว่า

    ฉัวะ!!

    “อ๊ะ!

    คลื่นดาบวิ่งออกจากรัศมีการฟันของคราวด์พุ่งออกไปโดนคริมซั่นที่กระโดดถอยออกไปจนชายชุดแดงอุทานออกมาอย่างตกใจ

    “โห! มีคลื่นดาบด้วยเหรอเนี่ย ทำยังไงเนี่ย” โรสที่ดูการต่อสู้อยู่ห่างๆกับพวกสามสาวตื่นเต้นที่มีคนมีฝีมือถึงขั้นปล่อยคลื่นดาบออกมาได้ด้วย

    คริมซั่นซึ่งได้เลือดจากการโดนคลื่นดาบรู้สึกตัวแล้วว่าตนเองนั้นมีฝีมือสู้ชายผมทองที่ถือดาบเล่มใหญ่คนนี้ไม่ได้เลย

    ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!

    อีกด้านหนึ่งมาตาร์และเซซิลผลัดกันรุกรับ โดยที่โจมตีกันไม่โดนเลย ทั้งๆที่ต่อสู้กันระยะประชิด

    มาตาร์แปลกใจว่าทั้งๆที่ตนเองเร็วกว่าแต่ทำไมถึงโจมตีไม่โดนเลย ชายผมขาวผู้นี้ต้องมีความสามารถอะไรบางอย่างที่เขาไม่รู้แน่ๆ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นมาตาร์กลับมีความรู้สึกตื่นเต้นว่าจะมีอะไรแปลกใหม่ปรากฏออกมาจากพวกนักสู้กลุ่มนี้อีกไหม

    ฟุบ! ปึ้ก!

    “อั้ก!

    มาตาร์อดรนทนไม่ได้ที่จะปล่อยทีเด็ดของเขาออกมาก่อน หมัดพลังจิตโจมตีใส่เซซิลอย่างไม่ทันคาดคิด เมื่อระยะหมัดเปลี่ยนไป ชายผมชาวหลบไม่ทัน จึงโดนเข้าไปหนึ่งทีจนได้ในที่สุด แต่หลังจากนั้นมาตาร์ก็ต้องแปลกใจอีกเมื่อหมัดพลังจิตหมัดต่อๆมาของเขาต่อยไม่โดนอีกแล้ว

    ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฉัวะ!

    เซซิลหลบหมัดพลังจิตของมาตาร์ได้แล้วฟันสวนกลับมา มาตาร์เอี้ยวตัวหลบวิถีดาบ แต่กลับได้รับบาดเจ็บ

    ฟิ้ว!

    มาตาร์พุ่งถอยออกมาตั้งหลัก เขาเห็นว่าเสื้อของเขาเป็นรอยเหมือนถูกของมีคม ทั้งๆที่ตัวเขาไม่ได้อยู่ในวิถีดาบด้วยซ้ำ โดนอะไรเข้าไปวะเนี่ย แล้วอย่างนี้จะหลบพ้นได้ยังไงล่ะเนี่ย

    ฟิ้ว! ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!

    เซซิลไม่ปล่อยให้มาตาร์มีเวลาตั้งตัวมากนัก เขาพุ่งเข้ามาเพื่อจะโจมตีต่อทันที แต่มาตาร์สกัดเอาไว้ด้วยหมัดพลังจิตของเขา ทำให้เซซิลต้องคอยหลบไปหลบมา เข้าใกล้มาตาร์ไม่ได้สักที

    แซด!!

    ทันใดนั้นลำแสงสีขาวก็พุ่งออกมาจากดาบของเซซิล สวนกับหมัดพลังจิตของมาตาร์

    โฆเซ่เคยบอกว่าพลังปราณ จิต และเวทในเกมนี้สามารถหักล้างกันได้ ดังนั้นมาตาร์จึงลองผนึกปราณ เวท จิตเข้าไปในหมัดของเขาแล้วลองปัดเจ้าลำแสงสีขาวนั้น

    เพียะ!!

    ได้ผล ลำแสงหักเหไปตามทิศทางที่มาตาร์ปัดมันทิ้งไป แต่หลังหมัดของเขาก็มีร่องรอยของอาการบาดเจ็บเพราะสัมผัสเข้ากับลำแสงนั้น

    “โห! คุณมาตาร์นี่มีวิชาแปลกดีนะครับ” เซซิลเอ่ยชม มาตาร์ก็ยิ้มรับแต่ไม่ตอบอะไร

    ในที่สุดมาตาร์ก็เข้าใจว่าเขาโดนอะไรเข้าไปถึงแม้จะหลบวิถีดาบของเซซิลได้ก็ตาม มันคือปราณแสงของเซซิลนั่นเอง แต่มันถูกยิงออกมาจากดาบได้ทุกทิศทาง ถึงแม้ว่ามาตาร์จะหลับพ้นวิถีดาบได้ แต่พลังแสงกลับถูกยิงออกมาจากดาบหลังจากที่มาตาร์หลบพ้นไปแล้ว ถึงแม้จะไม่รุนแรงมาก แต่โดนบ่อยๆก็ไม่ดีเหมือนกัน และที่สำคัญ เขาคิดหาวิธีหลบเจ้าลำแสงนี่ไม่ได้เลย อยู่ห่างๆแบบนี้ยังพอปัดทิ้งได้ แต่ถ้าอยู่ใกล้ๆมีแต่โดน ทั้งๆที่ไม้ตายทั้งหมดของมาตาร์เป็นท่าระยะประชิดทั้งนั้น หมัดพลังจิตก็ไม่ใช่ท่าที่รุนแรงอะไร มันมีดีแค่เพิ่มระยะเท่านั้นเอง ถ้าเอาไว้ต่อยพวกนกก็พอไหว แต่เอาไว้ซัดกับยอดฝีมือคงไม่ค่อยมีประโยชน์มากนัก

    ทำยังไงดีเนี่ย เข้าใกล้ไม่ได้ อยู่ห่างก็ทำอะไรไม่ได้ ...หรือจะแลกชีวิตกันไปเลยดี ยอมโดนฟันแลกกับอัดไม้ตายใส่ ...ไม่ดีๆ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่ได้ฝึกอะไรน่ะสิ อุตส่าห์ได้สู้กับยอดฝีมือแล้ว มาตาร์วนเวียนอยู่กับความคิดของตัวเอง ตอนนี้เขาทำได้แค่หลบแสงของเซซิลแล้วโต้กลับด้วยหมัดพลังจิตจากระยะไกลเท่านั้น

    เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!

    เสียงดาบปะทะหอกดังออกมาจากอีกด้านหนึ่ง

    ฟู่ววว!!

    ไอน้ำสีขาวระเหยออกมาจากร่างของคริมซั่น ตอนนี้เขาแทบจะไม่คิดอะไรแล้ว เวลาสู้ก็ใช้สิ่งที่ตัวเองมีอยู่ออกมาให้หมดเท่านั้นเอง คริมซั่นโคจรปราณไฟไปทั่วร่าง ตอนนี้ร่างกายของเขากำลังร้อนระอุ

    คุณสมบัติของไฟก็คือการสั่นไหว พลังงานที่เกิดจากการสั่นไหวนี้ทำให้เกิดพลังงานและความร้อน ผู้ที่โคจรปราณไฟคลุมร่างจะทำให้ร่างกายมีพลังสูงขึ้น แต่ก็จะมีความร้อนเกิดขึ้นในร่างด้วย ซึ่งความร้อนที่เกิดขึ้นนี้หากไม่ได้ระบายออกก็จะเป็นการทำร้ายตัวเอง แต่คริมซั่นไม่สนใจ ในเมื่อคู่ต่อสู้มีฝีมือสูงกว่า สิ่งที่เขาทำได้ก็คือการทุ่มชีวิตลงไปเท่านั้น

    เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!

    การโจมตีของคริมซั่นแต่ละครั้งรุนแรงจนดาบของคราวด์ถูกดีดออกและถูกต้อนให้ถอยหลังไปเรื่อยๆ สายตาอันมุ่งมั่นและจิตใจอันร้อนแรงของเขาบ่งบอกว่ายอมตายแล้ว แต่ก็ขอลากคู่ต่อสู้ไปด้วยกัน

    “ฮ่าๆๆๆ” คริมซั่นหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง การทุ่มชีวิตลงไปมันรู้สึกสนุกดีจริงๆ

    เคร้งง!!!

    “อึ้ก!!

    หอกของคริมซั่นหวดลงมา ดาบของคราวด์สะบัดขึ้นไป และแรงปะทะก็ทำให้ทั้งคู่กระเด็นถอยออกไป คราวด์ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการปะทะครั้งนี้ ส่วนคริมซั่นก็ได้รับบาดเจ็บไม่ต่างกัน เมื่อเขาต้องรับทั้งแรงกระแทกและผลจากปราณอันร้อนระอุของตนเอง

    “ดี!! ชั้นก็จะทุ่มบ้างล่ะนะ” คราวด์แผดเสียงออกมาเมื่อเห็นว่าคู่ต่อสู้ของเขาโจมตีมาด้วยชีวิต

     

    “อืม ใช้อวตารมารเหรอเนี่ย” ซีดานเห็นว่าร่างของคราวด์เปล่งแสงออกมา

    อวตารมาร ทักษะประจำเผ่าของเผ่ามาร ทำให้ค่าพลังจิตใจเพิ่มขึ้นสูงถึงห้าเท่า มีผลต่อความรุนแรงของเวทมนตร์โดยตรง

    ปกติร่างกายของคนที่เลือกเผ่ามาร ค่าสถานะสามอย่างของร่างกายคือพลังกาย ความคล่องตัว และความอึดจะลดน้อยลงหนึ่งในห้า แต่คราวด์ซึ่งเป็นเผ่ามารกลับเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วราวกับเผ่ามังกรเพราะเขาฝึกฝนร่างกายของเขาอย่างหนักนั่นเอง เป็นคนที่มักจะใช้ร่างกายสู้มากกว่าเวทมนตร์ แต่เมื่อร่างกายที่แข็งแกร่งใช้ควบคู่กับพลังเวทอันรุนแรง ผลลัพธ์จึงสูงส่งยิ่ง

     

    ดาบเล่มโตของคราวด์มีไฟลุกท่วมออกมาพร้อมกับประกายสายฟ้าวิ่งพล่านไปทั่ว แสงสีส้มปนฟ้าของไฟกับสายฟ้าบนดาบวาดเป็นวงหมุนโค้งลงมาอย่างรวดเร็ว

    ส่วนคริมซั่นก็ไม่สนใจอาการบาดเจ็บของตนเองอยู่แล้ว เขาไม่รีรอที่จะสาวเท้าเข้าไปแล้วออกแรงฟาดฟันหอกของเขาลงมาอีก คราวนี้เขาผนึกปราณลงอาวุธด้วย แสงสีส้มจากเปลวเพลิงที่คมหอกวาดเป็นวงโค้งสวนกลับไปเหมือนกัน

    เคร้งง!! เปรี๊ยะ!!

    “อ๊ากกก!!

    ดาบกับหอกปะทะกันอย่างรุนแรง สายฟ้าแล่นจากดาบไปสู่หอกแล้วเข้าโจมตีคริมซั่นจนเขาแข็งค้างไป คมดาบแฝงปราณและเวททำลายหอกของคริมซั่นเป็นชิ้นๆ แล้วลากผ่านร่างกายของคริมซั่นไป จนร่างของชายชุดแดงที่ถูกช็อตด้วยสายฟ้าลุกไหม้ขึ้นตามทางดาบที่ลากผ่าน

    แล้วร่างของคริมซั่นก็สลายไปโดยไม่เหลือแม้แต่เสื้อผ้า เพราะมันถูกเพลิงจากดาบเล่มโตของคราวด์เผาผลาญไปจนหมดสิ้น

    “คริมซั่น!

    โรสที่ดูอยู่อุทานออกมาด้วยความตกใจ การโจมตีครั้งสุดท้ายนั่นรุนแรงจนความร้อนแผ่มาถึงบริเวณที่เธอนั่งอยู่เลยทีเดียว

     

    “อืม มันก็แค่ดาบที่ใส่ปราณกับเวทไฟกับสายฟ้าเองแท้ๆ แต่กลับรุนแรงจนต้านไม่อยู่เลยนะครับ” ทีดัสพูดขึ้นเมื่อเห็นผลลัพธ์ของการประลองแล้ว

    “จริงๆหมอนี่เหมาะที่จะเล่นเผ่ามังกรมากกว่าตั้งเยอะ แต่มันบอกว่าขี้เกียจควบคุมปราณหลายธาตุ มันยุ่งยาก ก็เลยเลือกเผ่ามารแล้วเสริมด้วยเวทแทน กลายเป็นว่าเน้นแต่การโจมตีตรงๆที่แม้แต่เผ่ามังกรบางคนยังสู้ความแรงไม่ได้” ซีดานเล่าเรื่องเพื่อนร่วมทีมผมทองให้น้องใหม่ของทีมอย่างทีดัสฟัง

    “แล้วพี่คราวด์เค้าเล่นเวทสายอะไรล่ะครับนั่น” ทีดัสถามอีก เพราะเขาเพิ่งเคยเห็นคราวด์ใช้เวทเป็นครั้งแรก

    “ไม่มีสาย ไฟกับสายฟ้านั่นเกิดจากผลึกเวทที่ใส่เอาไว้ที่ดาบ” ซีดานตอบ

    “หา? ทำไมดาบถึงติดผลึกเวทได้ด้วยล่ะครับ” ทีดัสสงสัยขึ้นมา เขานึกว่าผลึกเวทเอามาทำถุงมือได้อย่างเดียวเสียอีก ไม่ว่าใครใช้ผลึกเวทก็เห็นแต่คนสวมถุงมือ

    “ผลึกเวทเอาไปใส่ที่ไหนก็ได้ทั้งนั้นแหละ ถือเอาไว้เฉยๆยังใช้ได้เลย ถุงมือก็เป็นแค่อุปกรณ์ช่วยถือชิ้นหนึ่งเท่านั้นเอง แต่เจ้าคราวด์มันใช้ดาบเป็นที่ถือผลึกเวทไปในตัวไง เพราะมันบอกว่ายังไงก็ต้องฝึกใช้ดาบให้คล่อง จะแยกไปใส่ถุงมือทำไม” ซีดานอธิบายถึงวิธีใช้ผลึกเวทให้ทีดัสฟัง

    “แต่พี่คราวด์นี่ก็ควบคุมพลังเวทเก่งนะครับ ขนาดดาบที่มีผลึกเวทสองชิ้น ยังเลือกที่จะให้แสดงผลแค่อย่างเดียวได้ด้วย” ทีดัสเอ่ยชมเพื่อนร่วมทีมหลังจากเห็นว่าครั้งแรกๆคราวด์ปล่อยแค่สายฟ้าออกมา แต่ครั้งสุดท้ายเท่านั้นถึงจะปล่อยทั้งไฟทั้งสายฟ้าออกมาพร้อมๆกัน

    “แค่เห็นมันเป็นเผ่ามารที่แข็งแรงขนาดนี้ก็น่าจะรู้แล้วว่ามันบ้าฝึกขนาดไหน” ซีดานพูดแล้วก็จ้องไปที่การต่อสู้ที่ยังไม่จบลง

     

    ตอนนี้การต่อสู้ไม่ใช่หนึ่งต่อหนึ่ง แต่กลายเป็นสองต่อหนึ่งไปแล้ว เมื่อคราวด์ไม่มีคู่ค่อสู้เขาก็สามารถมาช่วยเซซิลสู้ได้

    จริงๆจะถือว่าการจับคู่สู้ด้วยกติกาแบบนี้ฝ่ายที่มีฝีมือต่ำกว่าจะเสียเปรียบอย่างมากเพราะฝ่ายที่ฝีมือสูงกว่าก็จะเหลือคนเยอะกว่าในท้ายที่สุดแล้วก็รุมกันโจมตีได้ซึ่งทำให้ผลการประลองยิ่งชัดเจนยิ่งขึ้นไปอีก ...ถ้าฝีมือคนที่เหลืออยู่ต่ำกว่าจริงๆล่ะก็

     

    คริมซั่นเสร็จไปแล้วเรอะ มาตาร์คิดขึ้นหลังจากเห็นว่าคริมซั่นเสร็จคราวด์ไปแล้ว

    นี่เป็นแผนการหนึ่งที่มาตาร์ต้องการจะวางดักพวกนักสู้ทั้งห้าคนนี้เอาไว้ ตอนที่มาตาร์ปฏิเสธการจับคู่ของคริมซั่นกับอาเชอร์เพราะไม่อยากให้รู้ว่าพวกโซล่าร์ซิสฯนั้นสู้แบบทีม ซึ่งจะมีประสิทธิภาพเหนือกว่าสู้แบบคนเดียวมาก ซึ่งเขาก็คาดว่าเซซิลซึ่งมีความคิดที่ละเอียดอ่อนอาจจะดูออกแล้ว เขาจึงจัดการต่อสู้แบบคู่เป็นรอบสุดท้าย เพื่อให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้มีการต่อสู้แบบเป็นทีมซ่อนอยู่

    และอันที่จริง มาตาร์ก็สู้แบบทีมไม่เป็นด้วยเพราะปกติเขาสู้คนเดียวมาตลอด ดังนั้นจึงไม่ส่อแววพิรุธออกไป ถึงสุดท้ายแล้วมันทำให้เขาต้องมาสู้แบบโดนรุม ซึ่งมาตาร์ก็ต้องการจะพิสูจน์ด้วยเหมือนกันว่าพวกห้าคนนี้เล่นแบบทีมเป็นหรือเปล่าเหมือนกัน การที่เขาโดนรุมนี่แหละที่จะหาข้อมูลได้

    จะอยู่ได้นานกี่นาทีนะเรา มาตาร์คิดขึ้นหลังจากเห็นแล้วว่าตนเองโดนล้อมเอาไว้จากสองทางแล้ว

    แวบ! ปึ้ก!

    ลำแสงของเซซิลพุ่งออกมา มาตาร์เกร็งพลังต้านรับเอาไว้เพราะหลบไม่ทัน

    จุดแข็งของธาตุแสงอย่างหนึ่งก็คือความเร็วของลำแสงที่ไม่ต่างจากความเร็วแสงเลยนั่นแหละถึงจะไม่รุนแรงมากหรือแฝงค่าสถานะผิดปกติเหมือนธาตุอื่นแต่โดนเข้าไปมากๆก็ตายได้เหมือนกัน วิธีหลบจึงต้องอ่านทางให้ออกเท่านั้น ซึ่งมาตาร์สามารถอ่านได้ในระดับหนึ่ง แต่ไม่ใช่ทั้งหมดจึงหลบได้บ้าง หลบไม่ได้บ้าง ซึ่งก็ต้องใช้ปราณเสริมพลังป้องกันเอาไว้หรือใช้พลังจิตหักล้าง

    ฟิ้ว! ฟุบ!! เปรี้ยง!

    คราวด์พุ่งเข้ามาแล้วเงื้อดาบอันใหญ่โตของเขาฟันเข้ามา แต่มาตาร์กลับหลบได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องหันไปมอง เนื่องจากเขาคอยกางลมรับรู้เอาไว้เฉพาะด้านหลังเรียบร้อย ซึ่งมันมีรัศมีประมาณห้าเมตร ทำให้เขารับรู้ได้ว่าคราวด์จะเข้ามาโจมตี แล้วดินบริเวณที่มาตาร์เคยยืนอยู่แตกออกมาเพราะความแรงจากดาบของคราวด์

    ฟุ่บ! เปรี้ยง!

    มาตาร์ใช้เคล็ดเท้าไร้เงาประชิดคราวด์ที่ฟาดดาบลงมาจนสุดตัวแล้วเตะเข้าไปที่หลังมือด้วยเคล็ดเดียวกันจนมือของคราวด์ที่กำดาบอยู่สะบัดไปอีกด้านหนึ่งทันที

    ที่ผ่านมามาตาร์ยังไม่ได้ใช้เคล็ดความเร่งหรือเท้าไร้เงาออกมาก่อนเลยสักครั้ง จู่ๆความเร็วที่เปลี่ยนไปทำให้คราวด์เสียท่านั่นเอง

    ฮึฮึฮึ ไม้ตายเค้าเอาไว้ใช้ช่วงเวลาแบบนี้แหละ มาตาร์คิดขึ้นมาในขณะที่กำลังจะตามไปซ้ำคราวด์

    ฟิ้ว! แวบ! เพียะ!

    ลำแสงจากเซซิลพุ่งออกมาสกัดมาตาร์เอาไว้ ซึ่งชายหนุ่มผมแดงก็กะเอาไว้แล้วจึงปัดมันออกไปอย่างทันท่วงที ทำให้เสียจังหวะที่จะตามซ้ำคราวด์ไปด้วย

    “คุณมาตาร์นี่เจ้าเล่ห์จริงๆนะครับ ก่อนหน้านี้ไม่เห็นเร็วแบบนี้เลย” เซซิลพูดขึ้นมาหลังจากเห็นว่าการเคลื่อนไหวของมาตาร์เปลี่ยนไป

    มาตาร์ยิ้มรับแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา มันก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอไง นายเองก็ยังไม่ได้แสดงอะไรออกมาให้ดูซักอย่าง

    มาตาร์พยายามจะเก็บซ่อนฝีมือเอาไว้ให้มากที่สุด กงจักรลมของเขาก็ยังไม่ได้ใช้ออกมาเลยสักครั้งเดียว ตอนนี้ที่เซซิลเห็นก็มีแค่เท้าไร้เงานี่กับหมัดพลังจิตเท่านั้นเอง

    ฟืดด!!

    คลื่นดาบจากคราวด์พุ่งเข้ามาโจมตีมาตาร์ มาตาร์โยกตัวหลบ แต่แล้ว

    ฉัวะ!

    ดาบของเซซิลพุ่งออกมาจากอีกทิศหนึ่งเฉี่ยวเข้าไปที่ร่างของมาตาร์จนเขาได้รับบาดเจ็บ

    เข้าขากันดีเหมือนกันแฮะ มาตาร์คิดขึ้นหลังจากที่เห็นว่าทั้งคู่สามารถโจมตีประสานกันได้ด้วย รู้จักการหลอกล่อให้ศัตรูไปอีกทางแล้วดักโจมตีอีกทาง แต่จุดอ่อนของการโจมตีของพวกนายก็คือการโจมตีเป็นเส้นตรงนี่แหละ มาตาร์คิดขึ้นมาแล้วก็เปลี่ยนทางพุ่งเข้าไปคราวด์ซึ่งเคลื่อนไหวได้ช้ากว่าเซซิลแทน

    ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ! ปึ้ก! ปึ้ก! ปึ้ก!

    เคล็ดเท้าไร้เงาผสมกับหมัดความเร่งชุดเล็กที่เพิ่มพลังจิตเข้าไปโจมตีคราวด์ไม่หยุด คราวด์ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู่ที่ผ่านมาแถมยังโดนเตะแขนไปอีกทีหนึ่งด้วยจึงไม่คล่องแคล่วเหมือนเดิมแล้วก็รับได้บ้างไม่ได้บ้าง ในขณะที่เซซิลก็พุ่งตัวเฉียงไปอีกทิศหนึ่งเพื่อที่จะเสริมการโจมตีให้คราวด์ แต่แล้ว มาตาร์กลับเปลี่ยนทิศของตนเองให้สอดคล้องกับการเคลื่อนที่ของเซซิลโดยไม่ต้องหันมามองเลย

    นี่มัน!!?’ เซซิลตื่นตกใจขึ้นมาทันทีหลังจากที่เห็นพฤติกรรมของมาตาร์

    สิ่งที่มาตาร์ทำก็คือ ทำตัวให้อยู่ตรงกลางระหว่างเส้นตรงที่เชื่อมคราวด์กับเซซิลเอาไว้ตลอดเวลา เนื่องจากการโจมตีด้วยลำแสงของเซซิลเป็นเส้นตรง คลื่นดาบของคราวด์ก็เป็นเส้นตรง ถ้ามาตาร์ยังอยู่ระหว่างพวกเขาสองคนอยู่แบบนี้ การโจมตีที่พลาดก็จะไปทำร้ายเพื่อนร่วมทีมแทนนั่นเอง ทำให้พวกเขาไม่สามารถโจมตีเสริมมาจากระยะไกลได้

    ร้ายกาจมาก เซซิลคิดอย่างชื่นชมเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มที่เป็นคู่ต่อสู้คนสุดท้ายนี้นอกจากจะมีฝีมือเหลือร้ายแล้วยังฉลาดวางแผนอีกด้วย

    อย่างนี้คงต้องปล่อยไม้ตายออกมาซะแล้วล่ะมั้ง เซซิลคิดขึ้นพร้อมกับทำอะไรบางอย่าง ในขณะที่มาตาร์ก็กำลังโจมตีคราวด์ไม่หยุดโดยไม่หันมามองเซซิลเลย

    ยังจัดการคราวด์ตอนนี้ไม่ได้ เพราะถ้ามีสองคนเราจะสะดวกกว่า มาตาร์วางแผนที่จะตัดกำลังของทั้งคู่จนโทรมก่อนแล้วค่อยจัดการทีเดียว เพราะถ้าเขาจัดการคราวด์ไปตอนนี้ จะเหลือเซซิลเป็นศัตรูคนเดียว และจุดอ่อนอย่างที่ทั้งคู่มีตอนนี้ก็จะหายไปทันที

    จึ้ก!

    เซซิลปักดาบของเขาลงพื้นแล้วก็ยืนสงบนิ่งทันที

     

    “เฮ้ย!!” ซีดานอุทานออกมาเมื่อเห็นท่าทางของเซซิล

    “อะไรพี่ซีดาน” ทีดัสถามขึ้นมา เขาไม่เข้าใจว่ามีอะไรน่าตื่นเต้นกัน หรือจะเป็นเรื่องที่คราวด์เสียเปรียบอยู่ตอนนี้

    “พี่เซซิลจะปล่อยไม้ตายออกมาเหรอเนี่ย” ซีดานพูดออกมาอย่างตื่นเต้น

    “ไม้ตายเหรอ?” ทีดัสมองอย่างสนใจแล้วหันไปถามเพื่อนร่วมทีมอีกคน “สควอลเคยเห็นรึเปล่า”

    “หึ” สควอลส่งเสียงออกมาหนึ่งครั้งเหมือนจะบอกว่า เคยเห็นหรือไม่เคนเห็นก็ไม่เห็นจะสำคัญในเมื่อตอนนี้ก็กำลังจะได้เห็นกันหมดนี่อยู่แล้ว

     

    ปึ้ก! ฟิ้ว! ปึ้ก! ปึ้ก! ปึ้ก! ปึ้ก!

    หมัดเล็กๆค่อยๆตอดคราวด์อย่างช้าๆ ในขณะที่คราวด์พยายามจะสวนออกมาบ้างแต่ก็ไม่โดนคู่ต่อสู้เลย

    “ชิ!” คราวด์เริ่มหงุดหงิด เขาจึงเรียกใช้ทักษะอวตารมารอีกครั้ง

    เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ!

    ในขณะที่อวตารมารเริ่มแสดงผล กระแสไฟฟ้าไหลออกมาจากดาบของคราวด์ อีกด้านหนึ่งก็เกิดเสียงอะไรบางอย่างขึ้นมาเหมือนกัน

    วูมม!!

    ทันใดนั่นพลังก้อนสีดำที่ไร้ซึ่งสำเนียงก็ถูกปล่อยใส่พื้นดินใกล้ๆกับเท้าของมาตาร์จนเกิดเป็นกลุ่มเงาสีดำขึ้นบนพื้น

    ฟิ้วว!!

    “เฮ่ยย!!” มาตาร์อุทานออกมาอย่างตกใจ เมื่อดาบของคราวด์ที่เต็มไปด้วยพลังเวทถูกเหวี่ยงออกมาในขณะที่เขาก้าวเท้าออกไปจากพื้นดินไม่ได้ เกิดอะไรขึ้น!!!?’

     

    ตายมั้ยนะ -_-?

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×