ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    JOQ Online คนจริงลวงโลก <มี E-Book>

    ลำดับตอนที่ #62 : บทที่60: ภารกิจเผ่าเทพ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 13.82K
      98
      11 พ.ย. 54

    บทที่60 ภารกิจเผ่าเทพ

    การจะสำเร็จภารกิจเผ่าทั้งสาม ต้องนำของที่ใช้ทำภารกิจมาส่งที่อาคารภารกิจประจำเผ่า แล้วผู้ส่งภารกิจจะได้ของเพื่อใช้ในการเปลี่ยนเผ่า ซึ่งที่เมืองเริ่มต้นทั้งสิบเมืองมีอาคารภารกิจประจำเผ่าทุกเมืองอยู่แล้ว

    แล้วผู้เล่นที่ออกจากเมืองเริ่มต้นก่อนจะทำภารกิจเผ่าล่ะ? ถ้าอยากจะทำภารกิจต้องกลับมาที่เมืองเริ่มต้นหรือ?

    คำตอบก็คือไม่ เพราะที่เมืองบางเมืองนอกจากเมืองเริ่มต้นก็จะมีภารกิจประจำเผ่าให้ทำ เพียงแต่ของที่ใช้ทำภารกิจจะไม่เหมือนที่เมืองเริ่มต้นเท่านั้นเอง และด้วยหลักการเดียวกันนี้ เมืองเริ่มต้นทั้งสิบเมือง ก็ใช้ของทำภารกิจไม่เหมือนกันเลย สิ่งที่สำคัญสำหรับสำเร็จภารกิจก็คือ ความสามาถในการหาของมาได้ต่างหาก ไม่ใช่สิ่งของที่ได้มา

    โดยของที่ใช้ทำภารกิจบางครั้งก็มีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามสภาวะของสถานที่ทำภารกิจ อย่างเช่นของที่ใช้ทำภารกิจเผ่ามังกรนั้น แต่ก่อนคือเขามังกรซึ่งก็หาได้ที่ป่าแมวเปลี่ยว โดยการไปขูดเอาเศษเขาของมังกรที่ถูกผนึกเอาไว้เท่านั้นเอง แต่เมื่อมีคนไปปลดปล่อยมังกรได้สำเร็จ ของทำภารกิจจึงเปลี่ยนเป็นเลือดงูเห่าแทน ซึ่งก็ยังคงต้องหาเอาจากป่าแมวเปลี่ยวเหมือนเดิม ซึ่งก็ไม่ได้ง่ายหรือยากกว่าเดิม เพราะมันยังคงต้องเดินตะลุยในป่าแมวเปลี่ยวเพื่อเสาะหาอยู่นั่นเอง

    เคยมีคนเข้าใจผิดว่าของที่ใช้ทำภารกิจก็คือของที่ใช้ในการเปลี่ยนเผ่า ถึงขั้นมีคนเคยลองดื่มเลือดงูเห่าหรือพิษงูเห่าลงไปด้วยตัวเอง แต่ผลก็คือไม่เกิดอะไรขึ้นเลยสำหรับคนที่กินเลือดงูเห่า ส่วนคนที่กินพิษ ก็ตายไปตามระเบียบ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าของที่ใช้ทำภารกิจไม่มีความเกี่ยวข้องกับของที่ใช้เปลี่ยนเผ่า ซึ่งนั่นก็ต้องเป็นช่วงก่อนที่ของทำภารกิจจะเปลี่ยนไปเท่านั้น เช่นถ้าใช้เขามังกรผสมกับเลือดมังกรโดยใส่ความต้องการของมังกรลงไป ผู้ที่ดื่มเลือดมังกรนั้นก็จะสามารถสำเร็จภารกิจเผ่ามังกรได้จริงๆ แม้ไม่ต้องรับภารกิจจากอาคารประจำเผ่า แต่จะมีมังกรที่ไหนยอมให้ผู้เล่นทั่วไปเปลี่ยนเผ่าได้ตามต้องการ นอกจากมังกรประจำอาคารภารกิจประจำเผ่าเท่านั้นที่จะยอมยกเลือดให้สำหรับคนที่เอาของมาส่งให้

    และน้ำตานางฟ้า ก็อยู่ในเกณฑ์ของก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงไปเหมือนกัน ซึ่งหลังจากที่นางฟ้าหายไปจากบ่อศักดิ์สิทธิ์แล้วของที่ใช้ทำภารกิจก็เปลี่ยนแปลงไป แต่ก็บังเอิญเกิดเหตุสัตว์อสูรเผ่าเทพถูกขังแทนนางฟ้าพอดี ของที่ใช้ทำภารกิจจึงไม่เปลี่ยนแปลงไปมากนัก แค่เปลี่ยนจากน้ำตานางฟ้าไปเป็นน้ำตาเทพารักษ์เท่านั้นเอง

     

    เวลาตี5 ร่างสามร่างเป็นชายหนึ่งหญิงสองปรากฏขึ้นที่ลานกลางเมือง

    “มาตาร์กลับมาแล้ว!” แม่หมาป่าสาวร้องทักขึ้นทันทีที่เห็นร่างชายหนุ่มผมแดง

    “ไงสาวๆ การฝึกเป็นยังไงมั่ง” มาตาร์ถามขึ้นมาเมื่อเห็นสามสาวของเขาเดินเข้ามาหา

    “โมเรน่าเก่งขึ้นด้วย” แม่เสือสาวพูดอวดทันทีพร้อมทั้งมาเกาะแขนมาตาร์

    “บราวนี่เก่งกว่า” แม่เหยี่ยวสาวพูดพร้อมมาเกาะแขนอีกข้าง

    แองเจล่าเห็นพฤติกรรมของสามสาวแล้วก็ลอบคิดในใจ โห เป็นเหมือนที่ท่านเมโลดี้ว่าไว้จริงๆ มีสาวๆมาหลงคุณมาตาร์เยอะแยะเลย

    “เอ๊ะ! แล้วนั่นใครน่ะ?” ราตรีทักขึ้นมาเมื่อเห็นนางฟ้าแองเจล่า

    “นางฟ้าที่ชั้นบอกแกไง” เมโลดี้ตอบข้อสงสัยของเพื่อนสาว

    “หา? นางฟ้า” ราตรียังไม่เข้าใจอยู่ดี ไปหาน้ำตานางฟ้าไหงได้นางฟ้ากลับมาตัวเป็นๆ

    “ใช่แล้ว เรานี่แหละคือนางฟ้าประจำตัวของท่านเมโลดี้ ส่วนเจ้าก็คือสาวอีกคนหนึ่งของคุณมาตาร์สินะ” นางฟ้าปากมากโพล่งออกมาแบบไม่ดูกาลเทศะ ทำเอาเมโลดี้ห้ามแทบไม่ทัน

    “ว่ายังไงนะ! ใครว่าชั้นเป็นผู้หญิงของนายมาตาร์กัน ฮ้า!?” ราตรีตอบกลับเสียงดุพร้อมเขม่นใส่แม่นางฟ้าผมทอง

    “อ้าว ไม่ใช่หรอกหรือนี่ เราคงเข้าใจผิดไปเอง ก็เราได้ยินจากท่านเมโ..” แม่นางฟ้าจอมกวนยังพูดไม่ทันจบประโยครังสีอำมหิตจากเมโลดี้ก็แผ่ออกมากดดันให้นางฟ้าปากมากสงบคำลงบ้าง

    “แองเจล่าเป็นนางฟ้าประจำตัวของชั้นจ้ะ เก็บมาจากบ่อศักดิ์สิทธิ์ เห็นว่าน่าสงสารก็เลยช่วยมาจากก้นบ่อ” เมโลดี้พูดแนะนำนางฟ้าของเธอให้เพื่อนสาวรู้จัก พร้อมแฝงข้อความเตือนนางฟ้าของเธอไปด้วยกันเก็บมากับน่าสงสาร

    “อ๋อเหรอยะ เป็นนางฟ้าที่เคยอยู่ก้นบ่อมาก่อนนี่เอง” ราตรีตอบกลับเพื่อสาวพร้อมเหน็บแนมแม่นางฟ้าไปด้วยกันทีเดียว นางฟ้าก้นบ่อ

    ช่างเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยจริงๆ ราตรีกับเมโลดี้ เล่นเอาแม่นางฟ้าจอมกวนเงียบปากไปทันที

    “แองจี้เก่งมากเลยนะ มีความสามารถที่พิเศษมากเลยทีเดียว เรารอดตายกลับมาได้นี่ก็เพราะมีเธออยู่ด้วยแท้ๆ” มาตาร์เล่นบทพระเอกหลังจากเห็นว่าสาวๆอีกสองคนกำลังเล่นบทตัวอิจฉาอยู่ ทำเอาแม่นางฟ้ายิ้มออกมาได้ คุณมาตาร์ใจดีกับสาวทุกคนจริงๆด้วยแฮะ

    “จริงด้วย แองจี้เป็นสัตว์อสูรเผ่าเทพเต็มขั้น มีความสามารถเทียบเท่ากับผู้เล่นคนนึงเลยนะ” เมโลดี้เสริมขึ้นมาหลังจากเห็นว่าหัวข้อการสนทนาเบี่ยงไปทางอื่นแล้ว และเป็นการปลอบใจนางฟ้าของเธอด้วย

    “เหรอ แล้วน้ำตานางฟ้าล่ะ ใช้ของแม่แองเจล่านี่ได้เลยรึเปล่า ต้องร้องไห้ก่อนใช่มั้ย ร้องออกมั้ยจ๊ะ ให้ชั้นช่วยมั้ย” ราตรียังไม่เลิก แถมใส่เป็นชุด เมื่อเธอเสนอตัวอยากจะเป็นคนทำให้นางฟ้าร้องไห้

    “งื้~อ” นางฟ้าผมทองร้องเสียงหลงพร้อมเข้ามาหลบหลังเจ้านายของเธอ

    “รัตก็ เลิกแกล้งแองจี้ได้แล้วจ้ะ” เมโลดี้ปรามเพื่อนสาว

    “ฮึ ยัยนางฟ้าติงต๊อง” เพียงเวลาไม่นานราตรีก็สามารถจับลักษณะของแองเจล่าได้ถูกต้อง

    “เราไปส่งภารกิจกันเถอะ” มาตาร์ตัดบทชวนทุกคนพร้อมทั้งเดินนำไปทันที

    แล้วทั้งมาตาร์กับสามสาวและพวกเมโลดี้ทั้งหมดก็เดินไปด้วยกันเป็นขบวนใหญ่ไปยังถนนทางเลือก โดยนางฟ้าแองเจล่าคุยทำความรู้จักกับคนอื่นๆไปตลอดทาง

    “พี่มาตาร์คะ ให้หนูทำภารกิจเผ่าเทพเสร็จก่อนแล้วเราไปทำภารกิจเสริมจิตพร้อมกันนะคะ” เมโลดี้เอ่ยชวนชายหนุ่ม

    “อืม แล้วภารกิจเผ่าเทพมันจะอันตรายเหมือนของเผ่ามังกรรึเปล่าเนี่ย” มาตาร์ทวนเรื่องเก่าที่ราตรีเกือบตายไปเมื่อตอนทำภารกิจเผ่ามังกร

    “ถ้าอันตรายจะกลัวอะไรล่ะ มีนายกับชั้นอยู่ทั้งคน เราไม่ปล่อยให้ยัยเมลตายอยู่แล้วล่ะ จริงมั้ย” ราตรีหันมาพูดกับมาตาร์ เพราะเธอกับชายหนุ่มผมแดงเป็นสองคนในจำนวนหลายคนในที่นี้ที่มีปราณลมพอจะช่วยเยียวยาใครก็ตามที่ทรมานได้

    “อืม งั้นพี่เข้าไปช่วยด้วยละกัน” มาตาร์เสนอตัวแล้วเดินเข้าไปในอาคารภารกิจเผ่าเทพพร้อมๆกับเมโลดี้และแองเจล่า โดยมีราตรีเดินตามเข้าไปอีกคน ส่วนสามสาวและมัลโก้ก็ยืนรออยู่ข้างนอก เพราะไม่อย่างนั้นกลุ่มจะใหญ่เกินไปสำหรับคนทำภารกิจแค่คนเดียว

    “ของที่ใช้ทำภารกิจเปลี่ยนไปแล้วครับ เราไม่รับน้ำตานางฟ้าแล้ว แต่เรารับน้ำตาเทพารักษ์แทน” ชายหนุ่มชุดขาวประจำอาคารภารกิจเผ่าเทพพูดขึ้นหลังจากที่รู้ความประสงค์ของเมโลดี้

    “อ้าว แล้วกันสิ อุตส่าห์พานางฟ้าตัวเป็นๆมา แต่ดันใช้ไม่ได้แล้ว” ราตรีบ่นอุบอิบ

    “แต่ถ้ามีนางฟ้าอยู่ พวกคุณสามารถสร้างของที่ใช้ทำภารกิจเผ่าเทพเองได้นะครับ แถมยังสำเร็จง่ายกว่าของที่ได้จากผมด้วย” ชายหนุ่มชุดขาวแนะนำขึ้นทันที

    “เอ๋? เราสร้างของที่ใช้ทำภารกิจเองได้ด้วยเหรอคะ” เมโลดี้ถามออกมาด้วยความสงสัย

    “ใช้น้ำตาผสมกับเลือดของสัตว์อสูรเผ่าเทพโดยใส่ความนึกคิดว่าอยากจะมอบพลังให้เจ้าของภารกิจของสัตว์อสูรตนนั้น ก็จะได้ของที่ใช้ทำภารกิจเฉพาะตัวของคนคนนั้นครับ” ชายชุดขาวพูด

    “หมายความว่าต้องใช้เลือดและน้ำตาของเราผสมกันโดยที่เราก็ต้องคิดว่าอยากให้ท่านเมโลดี้กลายเป็นเทพอย่างนั้นใช่มั้ย” แองเจล่าถามชายชุดขาวเพื่อความแน่ใจ

    “ใช่แล้วครับ” ชายชุดขาวตอบ

    เพราะฉะนั้นด้วยวิธีการแบบนี้ ของที่ใช้ทำภารกิจจึงเป็นของส่วนบุคคล ไม่สามารถนำไปให้ผู้อื่นได้ เพราะไม่มีความนึกคิดของสัตว์อสูรที่อยากจะมอบพลังให้นั่นเอง และถ้าผู้อื่นที่ไม่ใช่เจ้าของกินเข้าไปก็จะไม่เกิดผลลัพธ์ใดใดทั้งสิ้น

     “อืม งั้นเราไปเปิดโรงแรมกันก่อนละกัน แล้วค่อยสร้างของทำภารกิจ เผื่อว่าผลของมันจะทรมานมาก จะได้มีที่นอนสบายๆ” ราตรีเสนอขึ้นมา

    “อื้ม ลำบากแองจี้หน่อยนะจ้ะ ต้องเสียทั้งเลือดทั้งน้ำตา” เมโลดี้กล่าวกับนางฟ้าของเธออย่างอ่อนโยน

    “ไม่เป็นไรท่านเมโลดี้ เทียบกับการพาเราออกมาจากคุกนรกแล้วแค่นี้ยังน้อยเกินไปด้วยซ้ำ” แม่นางฟ้าผมทองกล่าว

    “ยัยนางฟ้านี่ก็มีด้านจริงจังเหมือนกันนี่นะ” ราตรีเอ่ยแซวขึ้นมาหลังจากเห็นแต่ด้านปากมากของนางฟ้าผมทอง

    “เราจริงจังเสมอนั่นแหละคุณราตรี” นางฟ้าผมทองตอบกลับ โดยเธอก็ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าด้านที่โก๊ะๆของเธอนั้นมันเยอะกว่าอย่างเห็นได้ชัด

    แล้วทั้งหมดก็เปิดห้องโรงแรมเป็นสามห้อง เมโลดี้และแองเจล่าพักอยู่กับราตรี มาตาร์อยู่กับสามสาว แล้วมัลโก้แยกไปคนเดียว แต่ทั้งหมดก็มารวมกันอยู่ที่ห้องของเมโลดี้ก่อนเพื่อคอยดูผลลัพธ์ของน้ำตานางฟ้าของแองเจล่า

    ข้างหน้าแองเจล่าเป็นถ้วยเปล่าใบหนึ่ง เธอจ้องมองที่ถ้วยเขม็ง แล้วยื่นมือไปที่ถ้วย แล้วใช้มีดกรีดข้อมือเป็นแผลเล็กๆจนเลือดไหลลงไปในถ้วย ได้ครึ่งหนึ่ง ส่วนมาตาร์ก็มองด้วยความเสียวไส้ เพราะถ้าเป็นเขา เขาคงจะกรีดที่ปลายนิ้วเล็กๆเท่านั้น ไม่ถึงขั้นต้องกรีดที่ข้อมือหรอก ซึ่งจริงๆแองเจล่าก็ทำถูกแล้วล่ะ เพราะถ้าทำแบบที่มาตาร์คิด กว่าจะได้เลือดขนาดนี้คงต้องรอเป็นชั่วโมง

    มือของราตรีเอื้อมเข้ามาที่ข้อมือของแองเจล่าแล้วถ่ายปราณให้ทันทีโดยไม่ต้องขอร้อง ใบหน้าของราตรีเต็มไปด้วยความอ่อนโยน ทัศนคติของแองเจล่าต่อราตรีก็เริ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อย จากที่เธอคิดว่าราตรีเป็นผู้หญิงแข็งกระด้างและชอบแกล้งเธอ กลับกลายเป็นผู้หญิงที่อ่อนโยนและใจดี

    “ได้เลือดเราแล้ว ต่อไปก็ต้องน้ำตาสินะ” นางฟ้าแองเจล่าพูดขึ้นมาพร้อมกับทำหน้าลำบากใจ เพราะคนอยู่ในห้องนี้เยอะเหลือเกิน จู่ๆจะให้เธอร้องออกมาก็เขิน แถมเธอคิดเรื่องที่จะทำให้เธอเสียใจตอนนี้ไม่ออกเลย จะให้ร้องออกมาได้อย่างไร

    “ไม่ยากจ้ะแองจี้ ลองคิดว่าที่นี่เป็นก้นบ่อศักดิ์สิทธิ์สิจ๊ะ ชั้นเห็นเธอร้องไห้เก่งออกจะตาย” เมโลดี้พูดออกมาด้วยสีหน้ายิ้มๆเมื่อเห็นปฏิกิริยาของนางฟ้าผมทอง

    “ก้นบ่อศักดิ์สิทธิ์เหรอ ...คุกนรกนั่นน่ะเหรอ อืม”

    แองเจล่าพูดพร้อมกับนึกภาพว่าห้องของโรงแรมคือคุกใต้ดินอันมืดมิด มีแต่ก้อนหินเย็นๆเรียงรายอยู่รอบตัว ขังเธอเอาไว้ให้ปราศจากอิสระ

     

    น้ำตาของนางฟ้าผมทองเริ่มซึมออกมาเมื่อจินตนาการถึงประสบการณ์อันเลวร้ายของเธอ

    “มาริโอ้ ...จาคอบ ...แอนโทนี่ ...กาเบรียล ...จูเลียส ...โดมินิก ...” แองเจล่าเริ่มเพ้อชื่อต่างๆออกมาไม่หยุด

    ที่เธอเคยบอกว่าเธอตั้งชื่อให้ก้อนหินทุกก้อนในคุกนั้นเป็นความจริง เธอเริ่มทวนชื่อก้อนหินเหล่านั้นขึ้นมาทีละชื่อช้าๆ ในสายตาของแองเจล่าตอนนี้ ห้องของโรงแรมอันตรธานไปแล้ว ที่ที่เธอกำลังนั่งอยู่มันคือคุกที่มีแต่หิน ไม่มีผู้คนในห้อง มีแต่ความมืดมิดและแสงสลัวที่สะท้อนออกมาบางๆตามกำแพงคุกเท่านั้น ดวงตาของนางฟ้าผมทองเริ่มมีน้ำตาเอ่อออกมาเรื่อยๆ ดวงตาของเธอเหม่อลอยจนแทบจะไร้วิญญาณ

    “ฮึก ฮือ~~อ” น้ำตาของแองเจล่าไหลออกมาไม่หยุดพร้อมกับเสียงสะอื้น

    มันคือนรกแห่งความเงียบเหงา นางฟ้าผมทองถูกขังอยู่ในคุกอยู่เพียงผู้เดียวโดยไม่ได้คุยกับใครเลยนอกจากเพื่อนในจินตนาการของตนเอง ไม่ว่าเธอจะชวนพวกก้อนหินคุยเท่าไหร่พวกมันก็ไม่ตอบโต้ ถึงจะสร้างตุ๊กตาและมอบชีวิตให้ แต่เธอก็รู้ดีว่ามันเป็นเพียงสิ่งเทียมเท่านั้น เธอยังคงอยู่คนเดียวที่นี่ ...ตลอดกาล

    “แองเจล่า!!” ทันใดนั้นราตรีตรงเข้ามากอดนางฟ้าผมทองทันทีที่เห็นว่าเธอเริ่มหลุดออกจากสภาพความเป็นจริงไปอยู่ที่ไหนแล้วก็ไม่รู้ “พอแล้วแองเจล่า เธอไม่ต้องร้องแล้ว!” ราตรีแทบจะร้องไห้ตามนางฟ้าเมื่อเห็นท่าทางอันเปล่าเปลี่ยวของเธอ มันเกินจากที่เธอคาดเอาไว้มาก มันไม่ใช่ประสบการณ์ที่มนุษย์ปกติจะทนได้เลย

    “เราอยู่ตรงนี้เป็นเพื่อนเธอนะแองจี้” มือของเมโลดี้เข้ามากุมมือนางฟ้าของเธอเอาไว้ ดวงตาของเธอก็เริ่มจะมีน้ำตาเอ่อออกมาแล้วเหมือนกัน เธอไม่เคยคิดเลยว่าประสบการณ์ของแองเจล่ามันจะร้ายกาจถึงเพียงนี้ ช่วงเวลาแวบเดียวบรรยากาศอันโศกเศร้าแผ่ออกมาจากแองเจล่าจนเธอรู้สึกได้

    แองเจล่าได้สติขึ้นมาเมื่อรับรู้ความอบอุ่นจากร่างกายของราตรีที่กอดเธออยู่ และมือของเมโลดี้ที่กุมมือเธออยู่

    “ท่านเมโลดี้? คุณราตรี?” แองเจล่ากลับมาอยู่ในห้องของโรงแรมที่มีคนอยู่พร้อมกับมองไปรอบๆตัวอย่างงงๆ ดูเหมือนเธอจะหลุดออกไปอยู่ที่คุกใต้บ่อมาจริงๆ “ฮือ~~อ เราดีใจมากเลยที่เราอยู่ที่นี่” จากน้ำตาแห่งความทุกข์เปลี่ยนเป็นน้ำตาแห่งความดีใจ เธอโล่งอกเมื่อรู้ว่ามีคนอยู่รอบๆตัวเธอ

    “แองเจล่า เธอน่าสงสารมาก ชั้นไม่แกล้งเธอแล้ว” ราตรีกอดแองเจล่าพร้อมกับพูดออกมาอย่างอ่อนโยน

    “ฮึก ...คุณราตรีใจดีจัง” แองเจล่าเอ่ยชมออกมาตรงๆ ทำเอาราตรีหน้าแดงขึ้นมาทันที แล้วผละออกจากแม่นางฟ้าขี้เหงาทันที

    “ค ...ใครใจดีกันยะ อย่าได้ใจเกินไปนะ” ราตรีพูดเสียงแข็งออกมา โรคปากไม่ตรงกับใจของเธอนี่เกิดขึ้นกับทุกคนได้จริงๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ชายก็ได้

    ส่วนเมโลดี้ยิ้มให้แองเจล่าอย่างมีนัย เหมือนที่บอกเลยมั้ยล่ะ ดูเหมือนหญิงสาวนัยน์ตาสีมรกตจะเคยบอกเรื่องนิสัยเพื่อนสาวของเธอให้นางฟ้าฟังแล้ว

    ส่วนนางฟ้าเห็นท่าทางของราตรีที่เหมือนที่เคยฟังมาก็ยิ้มออกมาได้อีกครั้ง อะไรจะขี้อายขนาดนี้

     

    หลังจากที่ได้น้ำตาผสมลงในถ้วยแล้ว ก็ได้ของเหลวสีแดงใสๆขึ้นมา

    “ใช้ได้แล้วกระมังท่านเมโลดี้” แองเจล่าพูดออกมาอย่างไม่แน่ใจเมื่อมองลงไปที่ถ้วยนั้น

    “ลองดื่มดูก็รู้มั้งจ๊ะ” เมโลดี้พูดพร้อมกับหยิบถ้วยนั้นขึ้นมาจ่อปาก

    “มันออกจะเยอะไปหน่อยนะนั่น คงไม่ต้องดื่มจนหมดหรอกมั้ง ขนาดตอนของชั้นยังน้อยกว่านี้ตั้งครึ่ง” ราตรีพูดขึ้นมา เพราะตอนที่เธอดื่มเลือดตอนทำภารกิจเผ่ามังกรมันอยู่ในขวดที่ความจุน้อยกว่านี้อีกเท่าตัวด้วยซ้ำ เธอยังแทบจะตาย

    “งั้นชั้นดื่มแค่ครึ่งเดียวละกันนะ” เมโลดี้พูดแล้วก็ดื่มของเหลวในถ้วยเข้าไปทันทีท่ามกลางความลุ้นระทึกของผู้คนในห้อง

    อึก อึก

    เสียงของเหลวไหลลงคอเมโลดี้ลงไป แล้วทันใดนั้น

    “ฮึก ...อึก” สีหน้าของเมโลดี้ดูเหมือนจะเจ็บปวดขึ้นมาทันทีพร้อมกับสีหน้าพะอืดพะอม

    “เมล! ทรมานรึเปล่า” ราตรีร้องถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง

    เมโลดี้ส่ายหน้าออกมา พร้อมกับหน้าที่เหมือนจะร้องไห้

    “เอ่ ...หรือว่าเมื่อสักครู่เราจะทำอะไรผิดไป” แองเจล่าพูดออกมาเมื่อเห็นอาการของเมโลดี้

    “มันมีอะไรผิดเหรอแองเจล่า ก็ในเมื่อเราผสมน้ำตากับเลือดของเธอตามที่อาคารภารกิจบอกแล้วนี่นา” ราตรีถามขึ้นมา เพราะส่วนผสมก็ครบ แล้วอาการทรมานอาจจะต่างจากของเธอนิดหน่อยแต่คิดว่าเป็นอาการปกติ หญิงสาวคิดว่ามันคงไม่มีอะไรผิดพลาด

    “ก็ตอนที่เราคิดว่าอยากแบ่งพลังให้ เราไม่ได้คิดถึงท่านเมโลดี้คนเดียวนี่นา” นางฟ้าแองเจล่าพูดออกมาอย่างไม่แน่ใจ

    “เอ๋? แล้วถ้าเป็นอย่างนั้นมันจะใช้ไม่ได้ผลเหรอ” ราตรีถามขึ้นมาอย่างร้อนรน

    “เราก็ไม่รู้เหมือนกัน ข้อมูลเรื่องวิธีทำของเหลวนี้เราก็รู้มาพร้อมคุณราตรีนั่นแหละ”

    “แล้วทำไมเธอไม่คิดถึงเมลคนเดียวนะ คิดถึงคนอื่นด้วยทำไมล่ะเนี่ย” ราตรีบ่นออกมา เมื่อเห็นอาการพะอืดพะอมของเมโลดี้ยังไม่หาย มันเหมือนทรมานเพราะอยากจะคายออกมามากกว่าทรมานเพราะได้รับบาดเจ็บ

    “ก็คุณราตรีออกจะใจดีขนาดนั้น เราก็เลยเผลอคิดถึงคุณราตรีด้วยอีกคนน่ะสิตอนที่ร้องไห้น่ะ” แองเจล่าพูดออกมาเรียบๆเหมือนมันไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร

    “หา? เธอคิดถึงชั้นหรอกเหรอแองเจล่า” ราตรีเริ่มรู้สึกผิดที่เธออาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ส่วนผสมเพี้ยนไปก็ได้

    “ลองทำใหม่ดีมั้ยท่านเมโลดี้ คายของเดิมออกมา เดี๋ยวเราร้องไห้ใหม่อีกรอบก็ได้” แองเจล่าเสนอวิธีแก้ปัญหาที่น่าจะดีที่สุด

    แต่เมโลดี้ส่ายหัวอย่างแรง พร้อมกับทนอึดกับความรู้สึกที่ไม่อาจบรรยายต่อไป ราตรีก็เห็นด้วยกับเมโลดี้ เธอไม่อยากให้นางฟ้าแองเจล่าร้องไห้อีกรอบหนึ่งแล้ว

    “แองเจล่า เธอถ่ายความรู้สึกเข้าไปในของเหลวที่อยู่ในตัวเมโลดี้ใหม่ได้มั้ย เพิ่มความรู้สึกให้เมโลดี้ลงไปน่ะ” ราตรีเสนออีกวิธี

    “เราจะลองดูละกัน” แองเจล่าฟังข้อเสนอแล้วก็จับมือเมโลดี้เอาไว้ทันทีแล้วใส่ความรู้สึกที่อยากจะมอบพลังให้เมโลดี้เพิ่มมากขึ้น

    แล้วทันใดนั้นสีหน้าของเมโลดี้ก็ดีขึ้นทันที ดูเหมือนจะหายทรมานลงไปเยอะทีเดียว

    ผึง!

    แต่แล้วมือของแองเจล่าก็เหมือนถูกผลักออกมาทันที ในขณะที่เมโลดี้ก็มีสีหน้าย่ำแย่เหมือนเดิม

    “เกิดอะไรขึ้น” ราตรีถามขึ้นอย่างร้อนรน

    “เราเพิ่มความรู้สึกให้คุณเมโลดี้ได้ แต่ความรู้สึกของคุณราตรีมันยังค้างอยู่น่ะ ก็เลยผลักเราออกมา” แองเจล่าเฉลย

    “หา? ใช้วิธีเจือจางลงก็ไม่ได้เหรอเนี่ย แล้วจะทำยังไง...” ราตรีพูดถึงตรงนี้แล้วเหมือนจะคิดอะไรได้ “แองเจล่า เธอส่งความรู้สึกที่ค้างอยู่ในร่างเมลเข้ามาที่ชั้นได้มั้ย ถ้ามันเป็นความรู้สึกที่มีต่อชั้นมันก็ไม่น่าจะมีปัญหาใช่มั้ย”

    “เราจะลองดูนะ” แองเจล่าพูดพร้อมกับจับมือของทั้งเมโลดี้และราตรีเอาไว้อย่างละข้าง

    ผึง!!

    แล้วผลก็กลับเป็นเหมือนเดิม ความรู้สึกที่มีต่อราตรียังตกค้างอยู่ในร่างเมโลดี้และขับมันออกมาไม่ได้ แล้วก็เกิดแรงผลักร่างทั้งสามออกจากกันอีกครั้ง

    “ทำไม่ได้เหรอแองเจล่า” ราตรีถามขึ้นมาอีกครั้ง

    “ทำได้ เพียงแต่ว่าร่างคุณราตรีไม่มีสื่อที่จะรับความรู้สึกน่ะ เราเลยย้ายมันออกมาไม่ได้” แองเจล่าเฉลย

    “สื่อเหรอ? หมายความว่ายังไงแองเจล่า” ราตรีร้อนรน

    “ก็ตัวทำละลายอย่างน้ำตาและเลือดของเราไง ในร่างคุณราตรีไม่มีของเหลวนี้ คุณราตรีก็เลยรับมันเอาไว้ไม่ได้” แองเจล่ากล่าวเหมือนจะเริ่มเข้าใจหน้าที่ของของเหลวนี้แล้ว

    “ถ้างั้นชั้นจะดื่มมันด้วยก็ไม่มีปัญหาใช่มั้ย” ราตรีพูดแล้วก็หยิบเอาของเหลวที่เหลืออยู่ครึ่งถ้วยใส่ปากทันที

    เคยมีคนลองที่จะรับภารกิจเผ่าสองเผ่ามาแล้วเพื่อหวังว่าอาจจะมีเผ่าลูกครึ่งที่มีความสามารถของสองเผ่าเกิดขึ้นมา โดยส่งของทำภารกิจสองอย่างโดยยังไม่ดื่มของเหลวนั้นเข้าไป เมื่อยังไม่ดื่มก็ถือว่ายังไม่สำเร็จภารกิจเลือกเผ่า และเมื่อได้ของเหลวนั้นมาก็ลองดื่มมันเข้าไปพร้อมกัน แต่ผลลัพธ์ที่ผ่านมาคือ ตายหมด100% หลังจากนั้นเคยมีคนคิดจะดื่มแยกกัน แต่ผลลัพธ์ก็คือ ของเหลวที่ดื่มไปที่หลังไม่ส่งผลอะไรเลย ในขณะที่ความทรมานขณะดื่มยังมีเหมือนปกติ และบางคนก็ตายหลังจากดื่มของเหลวอย่างที่สองลงไป

    “อึก!” ราตรีเกิดอาการพะอืดพะอมปนทรมานขึ้นมาทันทีที่ดื่มของเหลวนั้นเข้าไป

    แต่หญิงสาวก็ยังมีสติ เธอจับมือของแองเจล่าเอาไว้เพื่อให้เธอย้ายความรู้สึกจากร่างของเพื่อนรักของเธอมาใส่เธอแม้ว่าตอนนี้เธอจะรู้สึกทรมานแค่ไหนก็ตาม

     

    ราตรีจะได้เผ่าลับมั้ยน้า =_= ...ส่วนมาตาร์ไม่ต้องลุ้นเลยนะ ไม่ได้หรอก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×