ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    JOQ Online คนจริงลวงโลก <มี E-Book>

    ลำดับตอนที่ #58 : บทที่56: นางฟ้าติงต๊อง

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 14.05K
      107
      21 ธ.ค. 54

    บทที่56 นางฟ้าติงต๊อง

    ภารกิจช่วยนางฟ้านี้ถือว่าไม่ง่ายเลย ขั้นแรกคือต้องระเหยน้ำในบ่อให้หมด แค่ขั้นตอนนี้ผู้เล่นปกติก็ทำกันแทบไม่ได้แล้ว แต่เนื่องจากแก๊งแม่สีทำทิ้งเอาไว้แล้ว มาตาร์และเมโลดี้จึงฝ่าด่านนี้อย่างง่ายดาย

    ขั้นต่อมาก็ไม่ได้ง่ายกว่ากันสักเท่าไร นั่นคือการทำลายกำแพงที่ก้นบ่อ ซึ่งต้องใช้พลังโจมตีสูงมาก หรือไม่ก็ต้องมีวิธีพิเศษในการเปิดเข้าไป ซึ่งมาตาร์ก็สามารถฝ่าด่านนี้ไปได้เพราะเขี้ยวธรณีของเขา สำหรับผู้เล่นหน้าใหม่แล้ว นี่เป็นอีกภารกิจหนึ่งที่ไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะเวทที่เมืองเริ่มต้นมันมีจำกัดเพียงไม่กี่สายเท่านั้น แต่บังเอิญว่ามาตาร์เลือกสายเวทที่ไม่ได้มีตามปกติที่เมืองเริ่มต้น แถมยังได้เขี้ยวธรณีมาจากภารกิจลับระดับสูงด้วย

    ส่วนขั้นสุดท้าย สำคัญที่สุด เมื่อเจอนางฟ้าแลัวจะทำอย่างไรกับเธอ มาตาร์นั้นคิดแต่เพียงว่านางฟ้านั้นจำต้องอยู่ที่นี่เพราะมันเป็นภารกิจของระบบที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ส่วนเมโลดี้ไม่สนใจเรื่องนั้น เธอรู้สึกสงสารและอยากช่วยนางฟ้าเท่านั้น นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เมโลดี้ได้รับนางฟ้าเป็นผู้ติดตาม

    “แล้วเธอทำอะไรได้บ้างล่ะ” มาตาร์ถามนางฟ้าจอมร้องไห้ขึ้นมา เมื่อเห็นเธอมั่นใจมากว่าสามารถพาพวกเขาฝ่าฝูงนกแร้งออกไปได้ สงสัยคราวหน้าเวลาเจอสัตว์อสูรสาวต้องชิงตั้งชื่อให้ก่อนซะแล้ว จะได้ไม่พลาดเหมือนคราวนี้

    “เจ้าเป็นใครกัน เราเป็นนางฟ้าที่มีความสามารถของเทพทุกอย่างเชียวนะ คิดมาดูถูกกันหรือไร” นางฟ้าพูดอย่างไว้ตัวเมื่อได้ยินคำถามของชายหนุ่ม

    “แองจี้ อย่าพูดจาเสียมารยาทสิจ๊ะ พี่มาตาร์เป็นคนที่พาชั้นเข้ามาเจอเธอนะ ถ้าไม่มีพี่มาตาร์เธอก็ไม่มีทางได้เจอกับชั้นหรอกนะจ๊ะ” เมโลดี้พูดปรามนางฟ้าของเธอเมื่อเห็นท่าทีที่แสดงออกมา

    “เราขอโทษ เจ้าก็มีส่วนช่วยเราเหมือนกันสินะ” แม่นางฟ้าเปลี่ยนท่าทีทันทีเมื่อได้ยินคำสั่งของเจ้านายของเธอ

    “งั้นคุณแองเจล่าทำอะไรได้บ้างล่ะครับ” มาตาร์ก็เปลี่ยนคำพูดไปเหมือนกันเมื่อเห็นกิริยาของนางฟ้าจอมร้องไห้ตนนี้ เขามักจะปรับเปลี่ยนคำพูดให้เหมาะสมกับผู้ที่เขาพูดด้วยเสมอ ดูจากนิสัยแล้ว ก็ถือว่าเราโชคดีที่ไม่ได้ยัยนี่ติดสอยห้อยตามมาอีกคน เฮ้อ เกือบไปแล้ว

    “เจ้าเรียกเราว่าแองจี้แบบท่านเมโลดี้ก็ได้ เราไม่ถือ เราจะคิดซะว่าเจ้าก็เป็นผู้มีพระคุณคนหนึ่งของเราเหมือนกัน” แม่นางฟ้ายังใส่ใจกับเรื่องเล็กน้อยรอบตัว

    “แล้วว่ายังไงล่ะจ๊ะ เธอทำอะไรได้บ้าง จะได้ช่วยกันหาวิธีฝ่าฝูงนกแร้งนั่นออกไป” เมโลดี้ทวนคำของชายหนุ่มให้เมื่อเห็นว่านางฟ้าของเธอมัวแต่ใส่ใจกับเรื่องอื่น

    “เรามีปราณพลังแสง เรามีเวทลับ แล้วเราก็มีพลังจิตสร้างตุ๊กตา” นางฟ้าตอบคำของเมโลดี้

    “...”

    “...”

    มาตาร์และเมโลดี้หันมามองหน้ากัน มันก็ไม่ได้ต่างจากผู้เล่นที่เลือกเผ่าเทพคนหนึ่งเท่าไหร่ ทำไมถึงได้ดูมั่นใจขนาดนั้น แล้วไอ้พลังจิตสร้างตุ๊กตานี่มันจะช่วยอะไรได้ แต่ยังมีของที่ดูน่าลุ้นอยู่อีกอันหนึ่ง

    “แล้วเวทลับนี่คือเวทอะไรจ๊ะ” เมโลดี้ถามจุดสำคัญขึ้นมา

    “มันคือเวทให้ชีวิต เวทลับที่หาได้ยากยิ่ง” นางฟ้าตอบ

    “เวทให้ชีวิต? ...ทำให้คนตายฟื้นอย่างนั้นน่ะเหรอจ๊ะ!” เมโลดี้พูดออกมาอย่างตื่นเต้น เวทแบบนี้มันสุดยอดจริงๆด้วย แต่มันจะใช้ฝ่าฝูงนกได้ยังไงล่ะ

    “ไม่ใช่ เวทของเราทำให้คนตายฟื้นไม่ได้ แต่เวทของเราทำให้สิ่งไม่มีชีวิต มีชีวิตขึ้นมาต่างหาก” แม่นางฟ้าแก้ไขความเข้าใจผิด

    “ให้ชีวิตกับสิ่งไม่มีชีวิตเหรอ” มาตาร์พึมพำออกมาเบาๆ “แองจี้! เธอนี่ยอดเยี่ยมจริงๆด้วย” มาตาร์อุทานออกมาเมื่อเขาคิดอะไรบางอย่างออก แม่นางฟ้าพอได้ยินคำชมก็กระหยิ่มยิ้มย่องขึ้นมาทันที

    “สุดยอดยังไงเหรอคะพี่มาตาร์” เมโลดี้ถามขึ้นมา ดูเหมือนเธอจะตามความคิดของชายหนุ่มไม่ทัน

    “เดี๋ยวเมลก็รู้ แองจี้! เธอให้ชีวิตได้พร้อมๆกันมากที่สุดกี่ตัว แล้วนานเท่าไหร่” มาตาร์หันมาตอบเมโลดี้แล้วหันมาถามแม่นางฟ้าทันที

    “เราให้ชีวิตได้มากที่สุดห้าชีวิตพร้อมๆกัน ถ้าคำนวณพลังวิญญาณตอนนี้จะอยู่ได้ประมาณสิบนาที” นางฟ้าผมทองตอบ

    “หมายความว่าถ้าให้ชีวิตน้อยกว่านั้นก็จะอยู่ได้นานกว่านั้นสินะ อืม แล้วตุ๊กตาที่เธอสร้างล่ะ เป็นแบบไหน แล้วสร้างได้กี่ตัว” มาตาร์ถามแม่นางฟ้าต่อ ถึงตอนนี้เมโลดี้เริ่มเข้าใจแล้วว่าเขาจะทำอะไร

    “ตุ๊กตาตอนนี้เราสร้างได้สามแบบมีทั้งแบบน่ารัก แบบแข็งแรง แล้วก็แบบบินได้ สร้างได้ห้าตัวพร้อมกัน รัศมีห้าสิบเมตร” นางฟ้าตอบ

    “อืม...มีรัศมีด้วยเหรอเนี่ย” มาตาร์ครุ่นคิดอีกครั้งเมื่อรับรู้ว่าความสามารถของนางฟ้าไม่เหมือนที่เขาคิดเอาไว้สักเท่าไร

    “ทำไมเหรอคะพี่มาตาร์” เมโลดี้ถามขึ้นมาเมื่อเห็นมาตาร์มีท่าทีกลุ้มใจ

    “ก็ตอนแรกคิดว่าจะใช้ตุ๊กตาของแองจี้ถ่วงเวลาให้เราหนี แต่ถ้ามีระยะทำการแบบนี้ ยังไงก็หนีไม่พ้น อย่างนี้คงต้องทำศึกระยะยาวซะแล้วล่ะ” มาตาร์เอ่ยขึ้นมา

    แล้วมาตาร์ก็คุยกับเมโลดี้และแองเจล่าถึงแผนการที่เขาคิดขึ้น

     

    แป๊ก! แป๊ก! แป๊ก! แป๊ก! ...แป๊ก! แป๊ก! แป๊ก! แป๊ก!

    เสียงไม้กระแทกกันเป็นจังหวะช้าสลับเร็ว เกิดจากหญิงสาวสองคน คนหนึ่งเป็นหญิงสาวผมสั้นสีดำสลับขาว กำลังใช้ดาบไม้อันยาว ส่วนอีกคนเป็นเด็กสาวผมสั้นสีขาวกำลังใช้ดาบไม้ท่อนสั้นสองอัน

    “ดาบมีไว้ฟันไม่ได้มีไว้รับการโจมตี ถ้าหลบได้ก็หลบแล้วฟันสวนกลับมา” หญิงสาวผมดำพูดในขณะที่มือก็ขยับดาบไม้ฟันเป็นจังหวะ

    “ค่ะ พี่ราตรี” เด็กสาวผมขาวขานรับแล้วก็พยายามเคลื่อนไหวตามคำแนะนำ

    ส่วนอีกด้านหนึ่ง เด็กสาวสองคนกำลังจับคู่ฝึกซ้อมด้วยมือเปล่า ซึ่งทำกันแบบช้าๆ

    ปึ้ก ....ปึ้ก ....ปึ้ก

    ขาของเด็กสาวผมสีน้ำตาลยกขึ้นมากันกรงเล็บของเด็กสาวผมดำที่ถูกเหวี่ยงออกมา ก่อนที่จะใช้ขาที่กันกรงเล็บนั้นสะบัดเตะออก แต่เด็กสาวผมดำกลับใช้มืออีกข้างกันไว้ได้ แล้วล็อคขานั้นไว้ แล้วทั้งคู่ก็ยื้อกันไปมา

    “บราวนี่ ทำไมไม่ยอมใช้แขนเลยล่ะครับ” ชายหนุ่มผมขาวทักขึ้นมาเมื่อเห็นท่าทางการต่อสู้ของเด็กหญิงผมน้ำตาลที่ไม่ยอมใช้แขนในการต่อสู้ระยะประชิดเลย

    “แขนบราวนี่มีไว้ถือปืน ไม่ได้มีไว้โจมตีระยะใกล้” เด็กสาวผมน้ำตาลตอบ

    “อยากจะสร้างสไตล์การต่อสู้เฉพาะตัวมันก็ดีครับ แต่ว่า แขนที่ถือปืนอยู่ ก็ใช้ได้ในระยะใกล้นะ” ชายหนุ่มผมขาวช่วยเปิดมุมมองใหม่ๆให้เด็กสาวผมน้ำตาล

    หลังจากนั้นท่าทางของเด็กสาวผมน้ำตาลก็เปลี่ยนไป เธอเริ่มใช้มือในการตั้งรับมากขึ้น

    ชายหนุ่มผมขาวเห็นแล้วก็ยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจ อืม เด็กพวกนี้เรียนรู้เร็ว แถมเชื่อฟังดีอีกต่างหาก คุณมาตาร์เลี้ยงให้เป็นเด็กดีแบบนี้ได้ยังไงกันนะ

     

    พรึบ!

    “นี่ไงล่ะตุ๊กตาของเรา ดูแข็งแกร่งใช่มั้ยล่ะ” แม่นางฟ้าผมทองอวดขึ้นอย่างภูมิใจหลังจากที่เธอใช้พลังจิตสร้างตุ๊กตารูปร่างเหมือนทหารใส่เกราะขึ้นมาตัวหนึ่ง

    “หา!!?” มาตาร์อุทานออกมาอย่างตกใจเมื่อเห็นตุ๊กตาของนางฟ้าแองเจล่า

    “...” ส่วนเมโลดี้ก็พูดไม่ออกเมื่อเห็นตุ๊กตาทหารที่ดูแข็งแรงบึกบึนนั้น

    “มีปัญหาอะไรกันรึพวกเจ้า ทำไมดูท่าทางตกใจเยี่ยงนั้น” นางฟ้าถามขึ้นหลังจากเห็นปฏิกิริยาของคนทั้งสอง

    “นี่มันตุ๊กตาจริงๆเหรอเนี่ย” มาตาร์เอ่ยออกมา เมื่อเห็นว่ารายละเอียดของเจ้าตุ๊กตาทหารนั้นมันละเอียดลออมาก ดูไม่ต่างกับคนปกติที่รูปร่างกำยำเลย เพียงแต่ว่า ขนาดของมัน ...สูงแค่หัวเข่า

    “ที่แองจี้บอกว่าตุ๊กตาน่ะ คือ ...มันมีขนาดใหญ่กว่านี้ได้มั้ยจ๊ะ” เมโลดี้บอกถึงความต้องการของพวกเธอ

    “แองจี้ เธอจะเอาตุ๊กตาพวกนี้ไปสู้กับไอ้นกยักษ์พวกนั้นได้ยังไงเหรอ” มาตาร์ถามขึ้นมาเพราะเห็นท่าทางของแม่นางฟ้าดูมั่นใจมากในตอนแรก

    “อย่ามาดูถูกนะ ระยะเวลาที่เราถูกขังอยู่ที่นี่ เราเบื่อมาก ก็เลยใช้พลังสร้างตุ๊กตาพวกนี้มาเป็นเพื่อนเล่น มันช่วยคลายเหงาให้เราได้ ฮิฮิฮิ เล่นพ่อแม่ลูก เล่นทำกับข้าว วิ่งไล่จับ ฯลฯ...” แม่นางฟ้าเหมือนตกอยู่ในภวังค์เมื่อคิดถึงวิถีชีวิตที่ผ่านมาของเธอ เธอพูดไปสายตาก็เหม่อลอยอย่างไร้ชีวิตชีวา

    โธ่เอ๊ย! ยัยนางฟ้าติงต๊อง จะเอาตุ๊กตาออกมาเล่นแก้เหงาให้พวกเราหรอกเหรอเนี่ย มาตาร์ติดขึ้นมาพร้อมทำสีหน้ายิ้มแบบเครียดๆ

    “แองจี้จ๊ะ สร้างตุ๊กตาตัวใหญ่ที่เอาไว้ใช้ต่อสู้ได้มั้ยจ๊ะ” เมโลดี้พูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มใส่แม่นางฟ้าจอมเพ้อพร้อมกับปล่อยรังสีอำมหิตกดดันให้เธอได้สติขึ้นมา เพราะเธอก็รู้สึกขายหน้าชายหนุ่มเหมือนกันที่ผู้ติดตามของเธอดันติงต๊องขนาดนี้

    แองเจล่าได้สติขึ้นมาทันทีเพราะแรงกดดันจากเจ้านายของเธอ “เอ้อ ท่านเมโลดี้ขา ถ้าอยากได้ตัวใหญ่ เราสร้างได้แค่ตัวเดียวนะ”

    “สร้างขึ้นมาเลยจ้ะ ตัวนี้ไม่เอาแล้ว” เมโลดี้พูดอย่างยิ้มๆแต่ก็ยังไม่คลายรังสีอำมหิตลง

    “ขอแบบบินได้นะ” มาตาร์เรียกร้อง

    พรึบ!

    ทันใดนั้นเจ้าตุ๊กตาตัวเล็กก็หายไป แล้วมีตุ๊กตาตัวใหญ่สูงเท่าไหล่ของมาตาร์ปรากฏขึ้นมา ลักษณะของมันดูแล้วเหมือนนักรบผู้ชายร่างเพรียวบางแต่มีปีกที่กลางหลัง ถือหอกเป็นอาวุธ ดูแล้วคล้ายเทวดามากกว่ามนุษย์

    “เราใช้เทวดาเป็นต้นแบบน่ะ ตัวเล็กกว่าของจริงหน่อยนึง แต่พลังจิตของเราตอนนี้ก็สร้างได้ใหญ่สุดเท่านี้แหละ” แองเจล่าพูดออกมาด้วยสีหน้าเศร้าหมอง

    “เยี่ยมไปเลยจ้ะแองจี้” เมโลดี้พูดขึ้นมาอย่างดีใจแล้วเข้าไปกอดนางฟ้าของเธอ ทำให้แองเจล่ายิ้มออกมาได้

    “ถ้าเกิดใช้เวทให้ชีวิตกับตุ๊กตาตัวนี้ก็จะอยู่ได้ประมาณหนึ่งชั่วโมงนะ เพราะมีแค่ตัวเดียว” แม่นางฟ้าผมทองรายงานด้วยน้ำเสียงเบิกบานขึ้นมา

    “อืม แล้วมันตายง่ายรึเปล่าแองจี้” มาตาร์ถามถึงข้อจำกัดของเวทมนตร์ของนางฟ้า

    “ถึงจะเรียกว่าให้ชีวิต แต่มันก็ไม่ใช่ชีวิตจริงๆ มันไม่รู้สึกเจ็บปวดถ้าร่างของมันยังไม่แหลกสลายก็สามารถขยับได้เรื่อยๆ และจะเชื่อฟังคำสั่งของเราอย่างเคร่งครัด” แม่นางฟ้ารายงาน

    “โอ้โห!” มาตาร์อุทานออกมาด้วยสายตาเบิกกว้าง นี่มันทหารอมตะชัดๆ แค่ทำลายร่างกายบางส่วนหรือบาดแผลเล็กน้อยคงทำอะไรเจ้าตัวนี้ไม่ได้เลย สมแล้วที่เป็นสัตว์อสูรลับ ความสามารถดีเยี่ยมจริงๆ

    ส่วนแม่นางฟ้าผมทองที่เห็นท่าทีตื่นเต้นของชายหนุ่มก็กระหยิ่มยิ้มย่องออกมาได้อีกครั้ง

    “แองจี้ ลองส่งมันออกไปสู้ดูรอบนึงซิ” มาตาร์ร้องขอ ส่วนเมโลดี้ก็พยักหน้าให้นางฟ้าของเธอทำตามที่ชายหนุ่มเรียกร้อง

    “โรมิโอ!! จงมีชีวิตขึ้นมาเดี๋ยวนี้” นางฟ้ากล่าวพร้อมใช้มือของเธอแตะเข้าไปที่ตุ๊กตาเทวดา

    ทันใดนั้นตุ๊กตาเทวดาก็มีชีวิตขึ้นมาทันที “มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ”

    “พูดได้ด้วย!” มาตาร์อุทานออกมา เขาไม่คิดว่ามันจะพูดได้ “แล้วไอ้โรมิโอนี่อะไร”

    “แน่นอน เราใส่บุคลิกที่เราชอบลงไปในสิ่งที่เราให้ชีวิตได้ ส่วนโรมิโอเป็นชื่อที่เราชอบตั้งให้ตุ๊กตาเทวดาไงล่ะ” แองเจล่าเพิ่มข้อมูลให้มาตาร์ แล้วหันไปสั่งเจ้าตุ๊กตาเทวดา “ออกไปสู้กับนกพวกนั้น จนกว่าจะตาย ฆ่าพวกมันให้เยอะที่สุดนะ จุ๊บ!” พร้อมกับขยิบตาให้ในตอนจบ

    ทันใดนั้นสีหน้าของตุ๊กตาเทวดาก็ฮึกเหิมขึ้นมาทันที แล้วก็พุ่งออกไปจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์อย่างรวดเร็ว

    “ย้ากก!! เพื่อนางฟ้าของข้า” เจ้าตุ๊กตาโรมิโอตะโกนออกมา

    มาตาร์เห็นท่าทางของนางฟ้าแองเจล่าแล้วก็ลอบคิดออกมา โห ยัยนี่เป็นสายควบคุมเหมือนกันนี่นา เล่นเอาซะตุ๊กตายอมตายถวายชีวิตเลยทีเดียว

    ย้ากก! ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ!

    เสียงต่อสู้จากปากบ่อดังลงมาถึงข้างล่าง ดูท่าทางเจ้าโรมิโอคงทำหน้าที่ได้อย่างดี

    “เดี๋ยวพี่ขอไปดูหน่อยนะ มีโอกาสก็จะได้ช่วยลดจำนวนพวกมันด้วย” มาตาร์หันมาพูดกับเมโลดี้แล้วก็ทะยานขึ้นไปที่ปากบ่อด้วยกงจักรลมของเขาทันที

    ส่วนเมโลดี้ได้แต่มองส่งชายหนุ่มด้วยความเป็นห่วง

    “เวลาแบบนี้ ทำไมชั้นถึงช่วยพี่เค้าไม่ได้เลยนะ” เมโลดี้บ่นออกมาอย่างสลดใจ

    “ท่านเมโลดี้ก็ขึ้นไปช่วย คุณมาตาร์ได้นี่คะ?” แองเจล่าถามกลับงงๆ ก็ในเมื่อไม่ได้มีใครห้ามสักหน่อย ทำไมถึงไม่ยอมไป

    “ชั้นออกไปจากก้นบ่อด้วยตัวเองไม่ได้จ้ะ แถมธนูของชั้นก็ยังไม่มีกำลังพอที่จะสู้กับนกพวกนั้น” เมโลดี้เอ่ยออกมาอย่างเศร้าๆ

    “เราสามารถช่วยท่านเมโลดี้ได้นะ เพราะเรายังมีความสามารถอีกอย่างหนึ่ง” แองเจล่ากล่าวกับเจ้านายของเธอ

    “จริงเหรอจ๊ะ! ทำยังไงล่ะ” เมโลดี้เอ่ยออกมาด้วยความตื่นเต้น

    กรึก! กร๊อบ! ผัวะ! เป๊าะ!

    มาตาร์พุ่งเข้าใส่นกที่บินอยู่แล้วใช้เคล็ดเพลงมวยของเขาเข้าโจมตี เนื่องจากที่ผ่านมาชายหนุ่มสู้แต่กับศัตรูที่มีระดับสูงกว่ามาตลอด จนเกือบลืมไปแล้วว่า เขามีวิชาที่เขาคิดขึ้นมาก็เพื่อเอาไว้ใช้สู้กับนกแร้งโดยเฉพาะ วิชาที่สู้ได้โดยไม่สนสภาวะแวดล้อม วิชาหักข้อต่อทำลายกระดูก

    มือของชายหนุ่มคว้าจับปีกของนกแร้งที่ใหญ่กว่าสี่เมตรเอาไว้ แล้วใส่ท่ากางเขน ล็อคปีกมันกลางอากาศด้วยตัวทั้งตัว ก่อนที่จะยันเท้าใส่ไปที่หัวของมันจนกระดูกทั้งปีกทั้งคอเจ้านกหักออกในเวลาเดียวกัน

    เมื่อเจ้านกแร้งตายไปกลางอากาศ ร่างของมันก็ดิ่งลงสู่พื้น ชายหนุ่มก็โผตัวออกแล้วใช้กงจักรลม ดีดไปหาเหยื่อรายต่อไปทันที ถ้าเป็นจังหวะที่จะโดนจิก เขาก็จะปล่อยกงจักรลมเปลี่ยนทิศทางของตัวเองกลางอากาศทำให้รอดพ้นจากการโดนโจมตีได้ การเคลื่อนที่กลางอากาศของมาตาร์ ยังพลิกแพลงยิ่งกว่าพวกนกแร้งหลายเท่า เพราะพวกนกเลี้ยวแบบหักศอกหรือกลับทิศกะทันหันแบบมาตาร์ไม่ได้

    ฉัวะ! แกว้กก! ฉึก!

    ส่วนอีกด้านหนึ่ง เจ้าตุ๊กตาโรมิโอ สู้แบบแลกชีวิต มันแทงหอกใส่พวกนกแร้งโดยไม่สนใจเลยว่าจะถูกโจมตีกลับหรือไม่ แต่ทุกครั้งที่เจ้าโรมิโอไปพัวพันกับนกตัวไหน ในเวลาไม่นานนัก เจ้านกตัวนั้นก็จะจบชีวิตลงไป ในขณะที่ตุ๊กตาโรมิโอก็จะมีบาดแผลเล็กๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่กลับไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนไหวใดใดของมันเลย

    มาตาร์เห็นผลลัพธ์แล้วก็รู้สึกทึ่งขึ้นมา เหมือนที่คิดเลย ถ้าเราไปสู้กับเจ้าโรมิโอนี่ ยังไม่แน่ว่าจะเอาอะไรไปชนะมันได้เลยนะเนี่ย นอกจากต้องทำลายมันให้เป็นชิ้นๆแบบที่ว่าต่อไม่ติดอีกเลย

    ฉึก! ฉึก! ฉึก!

    ทันใดนั้น วัตถุสีขาวที่ดูเหมือนหอกก็พุ่งมาจากข้างล่าง เสียบทะลวงนกไปสามตัว จนตัวมันติดกันเหมือนลูกชิ้นที่โดนไม้เสียบ ทำให้ร่างของเจ้านกแร้งทั้งสามร่วงลงไปในคราวเดียว

    “เมล!?” มาตาร์อุทานออกมาอย่างแปลกใจ เมื่อมองลงไปตรงจุดที่หอกสีขาวพุ่งออกมา

    เมโลดี้ยิ้มให้ชายหนุ่ม ก่อนจะพุ่งตัวขึ้นไปกลางอากาศ ด้วยปีกที่กลางหลังของเธอ มาตาร์ยังคงจ้องมองอย่างตกตะลึง เขาไม่รู้ว่าเมโลดี้ทำได้อย่างไรในระยะเวลาสั้นๆนี้ บินได้!?’

    หญิงสาวนัยน์ตาสีมรกตง้างลูกธนูออกมา เล็งไปที่นกแร้งตัวหนึ่ง แต่แล้วก็มีนกแร้งอีกตัวพุ่งเข้ามาทางด้านหลังของเธอ

    “เมลระวัง!” ชายหนุ่มร้องเตือนออกมา

    ฟิ้วว! ฉึก! ฉึก!

    ทันใดนั้น ร่างของหญิงสาวก็โฉบขึ้นแล้วตีลังกากลับหลัง หลบการโจมตีนั้นไปได้ พร้อมกับลูกธนูที่เปลี่ยนเป็นแสงสีขาว พุ่งออกมาแล้วทะลวงร่างเจ้านกแร้งที่เข้ามาโจมตีนั้น แล้วฉุดร่างของมันให้ไปกระแทกกับนกอีกตัวที่บินอยู่ด้วย ...ยิงธนูดอกเดียวสอยนกแร้งสองตัว

    มาตาร์มองด้วยความตกตะลึงอีกครั้ง ทำไมจู่ๆธนูของเมโลดี้ก็มีอานุภาพขนาดนี้ ถึงขั้นยิงทะลวงร่างของสัตว์อสูรระดับร้อยได้อย่างง่ายดาย ราวกับสู้อยู่กับสัตว์อสูรระดับต่ำกว่า

    “พี่มาตาร์หลบลงมาอยู่ข้างๆหนูนี่ค่ะ หนูจะปล่อยธนูแบบกระจาย” เมโลดี้เรียกชายหนุ่มทันทีที่เธอร่อนลงพื้น แล้วก็ขึ้นลูกธนูสิบดอกพร้อมกัน

    มาตาร์เห็นดังนั้นก็ไม่คิดอะไรมาก เขาใช้กงจักรลม พุ่งร่างลงมาอยู่ข้างๆหญิงสาวทันที

    เมื่อพวกฝูงนกเห็นเป้าหมายสองร่างอยู่ในที่เดียวกัน พวกมันจึงรวมกลุ่มกันแล้วพุ่งเข้าใส่เป็นจุดเดียวกันที ในขณะที่ลูกธนูของเมโลดี้ก็ค่อยๆเปล่งแสงสีขาวออกมา

    มาตาร์สังเกตเห็นแล้วว่าไอ้แสงสีขาวนั่นคืออะไร ปราณแสง ...พลังของเผ่าเทพนี่?

    ฟิ้วว ฉึกก! ฉึกก! ฉึกก! ฉึกก! ฉึกก! ฉึกก! ฉึกก! ฉึกก!

    เมื่อเหล่านกแร้งบินเข้ามาใกล้ ลูกธนูแสงทั้งสิบของเมโลดี้ก็พุ่งทะลวงพวกมันออกไปทันที ธนูหนึ่งดอก ทะลวงร่างนกแร้งได้ไม่ต่ำกว่าสองตัว ธนูสิบดอกพุ่งออกไปเป็นกลุ่ม นกบางตัวก็โดนธนูทะลวงร่างสองถึงสามรู

    นกแร้งกว่าสามสิบตัวร่วงลงมาตายด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว

    มาตาร์ซึ่งคาดเอาไว้แล้วว่ามันอาจจะเป็นแบบนี้ แต่เมื่อเห็นด้วยตาของตนเองก็ยังต้องรู้สึกตกใจอยู่ดี สัตว์อสูรระดับร้อยเป็นสิบตัวตายด้วยการโจมตีครั้งเดียวนี่มันดูเหลือเชื่อจริงๆ

    “ปราณหนูหมดแล้วค่ะ ลงไปพักกันก่อนมั้ยคะ” เมโลดี้พูดพร้อมเชิญชวนชายหนุ่มให้ลงไปพักที่ก้นบ่อ ในขณะที่ชายหนุ่มก็ยังมองตาค้างอยู่

    “เอาสิ” มาตาร์ตอบกลับแบบทึ่งๆ ทำเอาเมโลดี้ยิ้มออกมาที่เห็นปฏิกิริยาแบบนี้ของชายหนุ่ม

    เมื่อทั้งคู่ลงมาถึงก้นบ่อ โดยเมโลดี้สามารถบินลงมาเองได้ ชายหนุ่มชิงถามสิ่งที่คาใจออกมาก่อนทันที

    “เมลทำได้ยังไงน่ะ!?” มาตาร์ถามเมโลดี้ด้วยความตื่นเต้น

    “นี่ไงคะ” เมโลดี้ยิ้มแล้วชี้ให้ชายหนุ่มดูที่ผ้าคาดหน้าผากของเธอที่ดูเหมือนจะมีอัญมณีสีทองเพิ่มขึ้นมาชิ้นหนึ่ง

    “มันคืออะไรน่ะ?” มาตาร์ถาม

    “แองจี้ค่ะ” หญิงสาวตอบอย่างยิ้มแย้ม

     

    Rewrite tag: แก้คำผิด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×