ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    JOQ Online คนจริงลวงโลก <มี E-Book>

    ลำดับตอนที่ #47 : บทที่46: จอมเขมือบ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 14.67K
      110
      30 ธ.ค. 54

    บทที่46 จอมเขมือบ

    เวลาผ่านไปสักพัก มาตาร์ฟื้นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกหอมหวานของปราณธาตุลมของใครบางคน

    “อืมม” ชายหนุ่มครางออกมาเมื่อเขาเริ่มรู้สึกตัว เขารู้สึกเหมือนนอนหนุนอะไรบางอย่างที่นุ่มนิ่ม

    มาตาร์ลืมตาขึ้นมา แล้วก็พบสายตาดุๆคมๆของสาวผมสั้นกำลังมองเขาอยู่ในระยะใกล้ เพราะเขากำลังนอนหนุนตักเธออยู่

    “ฟื้นแล้วก็ลุกสิ” ราตรีพูดเสียงแข็ง

    “ขอบคุณครับคุณราตรี” ชายหนุ่มรีบลุกขึ้นพร้อมกล่าวคำขอบคุณ

    แต่หญิงสาวไม่สนใจ เธอชวนเพื่อนสาวเดินทางเข้าไปในถ้ำต่อไป ส่วนชายหนุ่มก็งงๆกับพฤติกรรมของหญิงสาว ก็ถ้าโกรธขนาดนี้จะทิ้งเราไปเลยก็ได้นี่นา หรือกลัวว่าจะไม่มีคนช่วยสู้หว่า

    ลึกเข้าไปในถ้ำ ยังคงเป็นทางเดินเดี่ยวๆที่ไม่มีทางแยกที่ไหน ทุกคนเดินกันอย่างเงียบๆ ไม่มีการพูดคุยกัน บรรยากาศระหว่างสามคนก็ยังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่เลย

    จนในที่สุดทั้งสามก็พบกับโพรงถ้ำที่กว้างขวางอีกครั้งหนึ่ง

    ซูดด!!

    ทั้งสามรู้สึกตระหนกทันที เหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังดึงดูดพลังออกจากร่าง

    “เกิดอะไรขึ้นเนี่ย!?” ราตรีอุทานออกมา

    “ปราณกับพลังวิญญาณกำลังไหลออก” มาตาร์เปิดเมนูดูก็พบว่าค่าพลังทั้งสองลดลงเรื่อยๆทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรเลย

    “ศัตรูเหรอ” เมโลดี้พยายามมองหาว่ามีร่องรอยของตัวอะไรอยู่บริเวณนี้กันแน่

    ครืดด!!

    ทันใดนั้นเสียงเหมือนมีอะไรครูดกับดินก็ดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆในบริเวณที่ทั้งสามยืนอยู่

    มันเคลื่อนที่เร็วมาก มันเป็นรอยยาวขนานกันสามเส้นที่พื้นดิน เหมือนเป็นรอยเล็บของสัตว์ร้ายกำลังเคลื่อนเข้ามา แต่ไม่เห็นด้วยซ้ำว่าสัตว์อสูรตนใดที่ทำให้เกิดรอยเล็บนี้ขึ้น แต่มันกำลังมุ่งตรงมายังพวกเขาทั้งสาม

    “มันมีสัตว์อสูรที่ล่องหนได้ด้วยเหรอเนี่ย!?” มาตาร์สันนิษฐานขึ้นมา เมื่อเห็นแต่รอยเล็บเคลื่อนเข้ามาแต่ไม่เห็นตัว

    ครืดด!! ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!

    ทั้งสามกระโดดหลบแยกกันเป็นสามทาง แต่ทว่า เจ้ารอยเล็บนั้นกลับแตกออกเป็นสามทางแล้วไล่ตามแต่ละคนที่กระโดดหลบไปคนละทาง

    “ไม่ใช่สัตว์อสูรล่องหน!! มันอยู่ในดิน!!” ราตรีอุทานขึ้นมาเมื่อเห็นว่าเจ้ารอยเล็บนั่นจริงๆแล้วมันเกิดจากมีตัวอะไรสักอย่างเคลื่อนที่อยู่ในดินต่างหาก

    เคร้ง! ฉัวะ!

    “โอ๊ยย!

    ราตรีสะบัดดาบใส่ดินทันที หวังว่าจะหยุดเจ้าตัวที่อยู่ในดินได้ แต่ดาบของราตรีกลับไม่มีผลเลย เจ้ารอยเล็บนั่นเคลื่อนเข้ามาใกล้แล้วเฉือนเอาขาของหญิงสาวจนได้แผล

    “รัต! เป็นยังไงบ้าง?” เมโลดี้ถามเพื่อนสาวด้วยความเป็นห่วง แต่ว่า

    ฉัวะ!

    “อ๊ายย!

    เมโลดี้พยายามจะกางเวทเกราะขึ้นมา แต่มันกลับไม่ยอมออกมา ทำให้เจ้าเล็บล่องหนนั่นข่วนเธอจนได้แผลไปเหมือนกัน

    “อะไรเนี่ย! ปราณกับพลังวิญญาณใช้ไม่ได้” มาตาร์อุทานออกมาทันที เมื่อเขาพยายามใช้กงจักรลมเพื่อช่วยในการเคลื่อนที่ของเขา

    “หมายความว่าเราต้องปราบไอ้ตัวพวกนี้ให้ได้โดยพึ่งแต่ค่าสถานะเหรอ!?” ราตรีอุทานออกมาด้วยความตกใจ ถ้าปราณกับพลังวิญญาณที่เป็นต้นกำเนิดของท่าไม้ตายทั้งหลายถูกผนึก ก็เหลือแต่กำลังล้วนๆแล้ว

    ถ้าเป็นโลกจริงคงจะไม่น่ากลัวเท่าไหร่ เพราะการต่อสู้ในโลกจริงก็มีแต่ร่างกายแบบนี้เหมือนกัน แต่ศัตรูก็เป็นมนุษย์ธรรมดาไม่ใช่สัตว์อสูรดำดินแบบนี้

    และนี่ยิ่งเป็นวิกฤตของมาตาร์ เพราะค่าสถานะพลังกายและความคล่องตัวของเขาต่ำมาก ที่ผ่านมาใช้วิธีเสริมพลังปราณมาตลอดถึงได้เคลื่อนไหวเร็วขนาดนั้น เมื่อขาดพลังปราณเขาก็ไม่แตกต่างจากผู้เล่นหน้าใหม่มากนัก

    ฉัวะ!

    “อั้กก!

    มาตาร์โดนเจ้าตัวที่อยู่ในดินข่วนไปแผลหนึ่ง ยังดีที่ค่าสถานะความอึดของมาตาร์สูงมาก เพราะนอกจากจะลุยคนเดียวเป็นประจำแล้ว เขาต้องปกป้องสามสาวตลอดเวลา เท่ากับว่าเขาเคลื่อนไหวเป็นสี่เท่าเสมอมา เมื่อค่าความอึดสูง จึงส่งผลต่อพลังป้องกันด้วย แม้พลังกายจะต่ำแต่ก็มีความอึดมาทดแทนได้

     

    ทางด้านเคนริวและคลาร่า ซึ่งเจอสถานการณ์แบบเดียวกัน

    ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!

    เคนริวอุ้มคลาร่าเอาไว้แล้วพาเธอกระโดดหลบเจ้าตัวที่อยู่ในดินอย่างคล่องแคล่ว ถึงแม้จะใช้ปราณไม่ได้ แต่ค่าสถานะของเขาก็ยังสูงอยู่ดี

    “อืม อย่างนี้ต้องจัดการเจ้าตัวที่ดูดพลังก่อนล่ะนะ” เคนริวพูดขึ้นมา

    “เอ๋? ไม่ใช่เจ้าตัวที่อยู่ในดินนี่หรอกเหรอคะ ที่ดูดพลังน่ะ” คลาร่าสงสัยขึ้นมา ในเมื่อเธอเห็นแต่เจ้ารอยเล็บสามเส้นนี้เท่านั้นที่โจมตี

    เคนริวชี้ให้คลาร่ามองขึ้นไปด้านบน แล้วเธอก็เห็นเจ้าสิ่งกลมๆนั่น มันคล้ายๆปลามากกว่า ปลาตัวกลมๆที่ลอยอยู่กลางอากาศ

    “นั่นตัวอะไรน่ะคะ” คลาร่าสงสัย

    “มันก็คือตัวตะกละที่ดูดปราณกับพลังวิญญาณของเราไปกินอยู่ตอนนี้ไงล่ะ” เคนริวตอบ

    “แล้วจะกำจัดมันยังไงล่ะคะ มันอยู่สูงมากเลยนะ” คลาร่าเห็นแล้วก็ท้อใจเมื่อเจ้าปลาตัวกลมนั่นลอยอยู่สูงจากพื้นดินกว่ายี่สิบเมตร

    ถ้าเป็นเวลาปกติที่ใช้ปราณได้ เคนริวก็คงจะกระโดดถึง หรือมีวิธีเข้าถึงมันง่ายๆ แต่คนที่ไม่ใช้อาวุธอย่างนักสู้ชุดเหลืองนี้จะมีอะไรไปโจมตีมันได้ล่ะ

    “คลาร่า คืนร่างเป็นสัตว์ ชั้นจะเหวี่ยงเธอขึ้นไป” เคนริวบอกแม่หมาป่าสาว

    คลาร่าไม่คิดมาก เมื่อหนทางมีให้เลือกไม่มากนัก คลาร่าคืนร่างเป็นหมาป่าสีขาวทันที

    “อืม เธอในร่างนี้ดูสง่ามากนะ” เคนริวเอ่ยชม “ช่วยหน่อยล่ะ”

    แม่หมาป่าสาวใช้ขาหลังสองข้างเหยียบบนมือของนักสู้มังกร แล้วชายหนุ่มก็เหวี่ยงแขนขึ้นทันที คลาร่าถีบตัวเสริมกับแรงส่งนั้นอีกทอด ทำให้ร่างของเธอพุ่งขึ้นสูงอย่างรวดเร็วจนถึงระยะคว้าจับเจ้าปักเป้าลอยฟ้านั่น

    คลาร่าเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์แล้วก็คว้าเจ้าปลาตัวกลมนั้นเอาไว้ได้สำเร็จ

    วูบบ!!

    “อ๊ายย!

    ทันใดนั้นทั้งคลาร่าและเจ้าปักเป้านั้นก็ดิ่งลงสู่พื้นพร้อมๆกัน

    หมับ!

    นักสู้ชุดเหลืองคว้าร่างของแม่หมาป่าสาวเอาไว้ได้ก่อนที่ร่างของเธอจะกระแทกกับพื้น

     “เก่งมากคลาร่า” นักสู้มังกรเอ่ยชมแม่หมาป่าสาวก่อนจะคว้าเจ้าปลาตัวกลมนั้นมา

    ดูๆไปมันก็หน้าตาน่ารักดี อ้วนๆกลมๆ ตาใสแป๋ว แต่ความสามารถของมันกลับเป็นอันตรายอย่างยิ่งยวดจริงๆ

    ปึ้ก!

    เคนริวต่อยหมัดใส่เจ้าปลาตัวนั้นอย่างแรงหวังว่าจะทำลายมัน แต่มันกลับไม่เป็นผล ร่างกายของมันไม่เป็นอะไรเลย

    “เจ้านี่มันไร้เทียมทานจริงๆ สงสัยต้องใช้ปราณหรือเวทเท่านั้นถึงจะทำลายมันได้” เคนริวพูดขึ้นมาเมื่อเห็นว่าหมัดของเขาไม่ระคายผิวมันเลย

    “อ้าว แล้วจะทำยังไงล่ะคะ ปราณกับเวทก็ถูกผนึกเพราะตัวมัน แต่กลับต้องใช้ปราณหรือเวทเท่านั้นถึงจะทำลายมันได้” คลาร่าเองก็รู้สึกว่า ถ้ามันเป็นอย่างที่เธอพูด เจ้าปลาตัวกลมนี่ก็ถือว่าไร้เทียมทานจริงๆด้วย

    “ไม่ต้องห่วง เรามีผู้ช่วยที่ดีอยู่แล้ว” เคนริวพูดขึ้น

    “ใครคะ” คลาร่าถามขึ้นมา

    ทันใดนั้นเจ้าเล็บสามเส้นนั่นก็จู่โจมเข้ามา แต่เคนริวก็โยนเจ้าปลาตัวกลมนั้นเข้าขวาง

    ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ!

    ร่างของเจ้าปลานั่นโดนกรีด แล้วแข็งค้างกลายเป็นหินทันที

    “หา? ทำไมหมัดของคุณเคนริวทำอะไรมันไม่ได้ แต่เจ้าเล็บนั่นทำได้ล่ะคะ หรือว่าเจ้าเล็บนี่มันจะร้ายกาจมาก” คลาร่าตื่นตะลึงเมื่อเห็นว่าเจ้าเล็บนั่นสามารถทำในสิ่งที่เคนริวทำไม่ได้

    “ไม่ใช่หรอก” เคนริวพูดขึ้นในขณะที่เผชิญหน้ากับเจ้าเล็บทั้งสามนั่นอีกครั้ง

    ตู้มม!

    ทันทีที่เจ้ารอยเล็บทั้งสามเข้าประชิด เคนริวก็กระทืบพื้นดินอย่างแรงจนเจ้าตัวที่อยู่ในดินนั้นกระเด้งขึ้นมา มันมีรูปร่างเหมือนด้วง มีหกขาตัวสีดำ ดูเหมือนว่าตอนนี้เคนริวจะสามารถใช้ปราณได้แล้วถึงสามารถทำแบบนี้ได้

    “ฮ่าห์!!

    เปรี๊ยะ!!

    เคนริวร้องตะโกนขึ้นคำหนึ่งก่อนจะสะบัดหลังหมัดใส่เจ้าด้วงสามตัวนั่น จนมันกลายเป็นหินไปทั้งหมดด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว

    “เพราะเจ้าพวกนี้ไม่ใช่สัตว์อสูร แต่เป็นเวทอสูรต่างหากล่ะ” เคนริวเฉลยถึงสาเหตุที่เจ้าด้วงสามตัวนี่สามารถทำร้ายเจ้าปลาตัวกลมนั่นได้

    และการที่มันกลายเป็นหินสามารถบ่งบอกได้ว่าพวกมันไม่ใช่สัตว์อสูร เหมือนเจ้าอสรพิษตาเดียวของมาตาร์ก่อนทำพันธสัญญา ที่ร่างของมันกลายเป็นหินตอนที่เขาพบมัน

    คลาร่าเห็นดังนั้นก็พยักหน้าว่าเข้าใจ อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง

    แล้วทั้งคู่ก็เดินลึกเข้าไปในถ้ำชั้นในต่อไป

     

    ทางด้านดันเต้กับโมเรน่า

    “นายไม่มีวิธีอะไรที่หยุดเจ้าพวกนี้ได้เลยเหรอ!!” โมเรน่าบ่นขึ้นมา เมื่อเธอและจอมเวทชุดแดงต้องกระโดดหลบเจ้าเล็บสามเส้นบนพื้นเป็นพัลวัน

    “ถ้าใช้เวทได้ล่ะก็ มีวิธีเยอะแยะเลย” ดันเต้ตอบกลับมา ในขณะที่วิ่งไปหลบไป

    “นายมันกระจอกที่สุด พอไม่มีเวทแล้วก็ทำอะไรไม่เป็นเลย” โมเรน่ากระโดดหลบเล็บบนพื้นอีกอันได้อย่างฉิวเฉียด

    เนื่องจากดันเต้เป็นเผ่ามาร ถึงสถานะร่างกายจะสูง แต่ก็ไม่ได้เน้นความแข็งแกร่งเหมือนเคนริว แต่เน้นไปทางจิตใจซะส่วนใหญ่ และเมื่อเวทมนตร์ถูกผนึก เขาก็ไม่เหลือวิธีโจมตีอย่างอื่นแล้ว จะให้โยนโมเรน่าแบบเคนริวก็ทำไม่ได้ เพราะว่ากำลังของดันเต้มีไม่เท่าเคนริวนั่นเอง

    “โธ่เว่ย! ไม่อยากจะใช้วิธีนี้เลยแฮะ เดี๋ยวเจ้าไมเคิลจะหาว่าเลียนแบบ” ดันเต้พูดจบเขาก็ชักปืนสั้นออกมาสองกระบอก

    ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!

    กระสุนพุ่งเข้าใส่เจ้าปลาที่ลอยอยู่กลางอากาศ แต่ทิศของกระสุนปืนกลับทำให้มันลอยสูงขึ้นไปอีกโดยที่ไม่ได้รับบาดเจ็บใดใดเลย

    “นายทำอะไรน่ะ! มันยิ่งสูงขึ้นไปอีกไม่ใช่เหรอ” โมเรน่าแหวขึ้นมาเมื่อเห็นสิ่งที่ดันเต้ทำลงไป

    “ชิ ยิงไม่เข้าเหรอเนี่ย” ดันเต้ก็คาดไม่ถึงเหมือนกัน ไม่คิดว่าเจ้าปลาปักเป้านั่นจะแข็งขนาดนี้

    ปัง! พิ้ง! พิ้ง! ..ปัง! พิ้ง! พิ้ง! ..ปัง! พิ้ง! พิ้ง!

    ดันเต้ใช้วิธียิงกระสุนสะท้อนผนังถ้ำ กดให้เจ้าปลาตัวกลมนั่น ลอยต่ำลงมาเรื่อยๆ โมเรน่าเห็นแล้วก็รู้สึกทึ่งขึ้นมาทันที

    “เป็นไงยัยแมวหลง ชั้นเจ๋งอีกแล้วล่ะสิ” ดันเต้ทำหน้ายียวนเมื่อเห็นสายตาอันตื่นตะลึงของแม่เสือสาว

    “เชอะ! ก็ไม่เท่าไหร่หรอก” โมเรน่าไม่ยอมรับง่ายๆ ถึงจะเห็นว่ามันก็เจ๋งจริงๆแหละ

    ฉัวะ!

    แล้วเจ้าปลาตัวกลมก็ถูกเจ้าเล็บสามสายนั่นทำให้กลายเป็นหิน ก่อนที่ดันเต้จะส่งเวทระเบิดลงดิน ทำให้เจ้าด้วงสามตัวนั่นกลายเป็นหินตามไปอีกอย่างรวดเร็ว

     

    ส่วนทางด้านไมเคิลกับบราวนี่ ทุกอย่างเป็นไปอย่างง่ายดาย เมื่อบราวนี่แค่คืนร่างเป็นเหยี่ยวแล้วจับเจ้าปลานั่นลงมาบนพื้น ทำให้มันกลายเป็นหินด้วยวิธีเดียวกัน ก่อนที่ไมเคิลจะฝังระเบิดแสงลงดินอีกลูก ทำให้เจ้าด้วงสามตัวนั่นกลายเป็นหิน เล่นเอาโพรงถ้ำปรากฏหลุมลึกขึ้นมาหลุมหนึ่งเลยทีเดียว

     

    และทีมที่มีปัญหามากที่สุด ก็ยังคงเป็นกลุ่มเดิม คือพวกมาตาร์และสองสาว

    “ไม่มีวิธีจัดการเจ้าพวกนี้เลยเหรอ!” หญิงสาวตาคมถามความเห็นชายหนุ่มอย่างร้อนรน เมื่อต้องเอาแต่หลบเจ้าเล็บพวกนี้โดยไม่สามารถตอบโต้อะไรได้เลย ถ้ายังเป็นอย่างนี้ค่าความอึดต้องหมดลงแล้วทุกคนจะกลายเป็นเป้านิ่งแน่นอน

    ฉัวะ!

    “อึ้ก!

    ชายหนุ่มโดนเล็บกรีดเข้าไปอีกแผลจนได้ ตอนนี้ร่างกายช่วงล่างของเขามีแต่เลือดเต็มไปหมด เสื้อผ้าของเขาก็เปื้อนเลือดเทพอารักษ์อยู่แล้วด้วย กลายเป็นว่าทั้งเนื้อทั้งตัวชายหนุ่มมีแต่รอยเลือด แดงไปทั้งตัว

    “พี่มาตาร์เป็นอะไรรึเปล่าคะ” หญิงสาวนัยน์ตาสีมรกตถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นชายหนุ่มมีแต่แผลเต็มตัว

    “ไม่เป็นไรมากเมล ยังพอขยับได้อยู่” ชายหนุ่มตอบ

    พวกเขาทั้งสามไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าสาเหตุที่ใช้ปราณและเวทไม่ได้คืออะไร เพียงแต่แค่มองขึ้นมาข้างบนก็อาจจะสังเกตเห็นว่ามีตัวอะไรลอยอยู่ แต่ทุกคนต้องพุ่งสมาธิมาข้างล่างแทนเพราะเจ้าเล็บสามสายนั่น

    ฉัวะ! พลั่ก!

    แล้วมาตาร์ก็โดนเล็บกรีดเข้าไปอีกครั้งจนล้มลง

    “พี่มาตาร์!/นายมาตาร์!” ทั้งสองสาวตะโกนขึ้นมาพร้อมกันอย่างตกใจเมื่อเห็นชายหนุ่มเจ็บจนล้มลงไป

    ราตรีนั้นแทบจะลืมไปเลยว่าเธอกำลังโกรธชายหนุ่มอยู่ ส่วนเมโลดี้นั้นก็เป็นห่วงตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

    “อูยย” มาตาร์ครางออกมาเมื่อขาของเขามีแต่เลือด และรู้สึกอ่อนเพลียมากเนื่องจากเสียเลือดที่มีอยู่น้อยนิดไปเยอะแล้วนั่นเอง

    ครืดด!!

    เล็บอีกเส้นหนึ่งพุ่งตรงมายังร่างของมาตาร์ที่ล้มอยู่ แต่แล้วสาวตาคมก็กระโดดเข้ามาขวางมันเอาไว้ทันที

    “ระวัง!!” ชายหนุ่มร้องเตือน เขาไม่ได้ห่วงตัวเอง เขาแค่เห็นว่าหญิงสาวกำลังจะถูกทำร้ายเท่านั้นเอง

    พลั่ก! ฉัวะ!

    “อึ้ก!

    ช่วงเวลาอันกระชั้นนั้น ชายหนุ่มใช้แรงที่มีผลักหญิงสาวออกไปให้พ้นทางจนเธอล้มลง ก่อนที่เล็บนั่นจะเฉือนเขาไปอีกแผล

    “มันจะมากไปแล้วนะ!!!” ราตรีร้องตะโกนขึ้นมาอย่างโมโหเมื่อเห็นสิ่งที่เขาทำกับเธอ

    “ผมขอโทษ ที่ทำให้คุณล้ม” มาตาร์กล่าวขอโทษทั้งๆที่เขาเป็นคนช่วยหญิงสาวเอาไว้

    “ชั้นโกรธเรื่องนั้นซะที่ไหนเล่า! นายนี่มันโง่จริงๆ!” ราตรีโกรธยิ่งขึ้นเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มขอโทษเธอ หญิงสาวโกรธจนน้ำตาของเธอคลอหน่วยขึ้นมาเลยทีเดียว

    มาตาร์ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าหญิงสาวคนนี้โกรธเขาเรื่องอะไร แม้ว่าเขาจะพยายามทำดีกับเธอแต่มันก็ไม่เป็นผลเลย กลับยิ่งทำให้เธอโกรธมากขึ้นเรื่อยๆ

    แต่ทันใดนั้นสายตาของชายหนุ่มก็เหลือบไปเห็นเจ้าสิ่งกลมๆที่ลอยอยู่สูงขึ้นไปทางด้านหลังของหญิงสาวที่กำลังโกรธเขาอยู่

    “นั่นอะไรน่ะ?” ชายหนุ่มสงสัยขึ้นมา

    จอมเขมือบ

    -

     

    สัตว์อสูรไม่มีระดับ? มาตาร์ต้องแปลกใจเมื่อเขาสำรวจเจ้าสิ่งนั้นแล้วพบว่ามันไม่มีระดับ ทั้งๆที่มีชื่ออยู่ชัดเจน เหมือนเคยเจอที่ไหนหว่า?

    “สัตว์อสูรอีกตัวเหรอคะ” เมโลดี้มองตามสายตาของชายหมุ่นแล้วก็เห็นว่ามันมีตัวอะไรอ้วนๆกลมๆลอยอยู่สูงทีเดียว

    แค่สามตัวบนพื้นนี่ยังเอาไม่อยู่เลย ดันมีเพิ่มขึ้นมาอีกตัว ชายหนุ่มคิดขึ้นมา

    “เมล สอยมันให้ร่วงลงมาก่อนเถอะ เอาตัวที่เรากำจัดได้ก่อน” ราตรีลุกขึ้นยืนแล้วพูดกับเพื่อนสาว โดยไม่หันมาสนใจชายหนุ่มอีกเลย

    ครืดด! ครืดด!

    เล็บอีกสองสายวกกลับเข้ามาโจมตีชายหนุ่มที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนพื้น

    “พี่มาตาร์ระวังค่ะ!” เมโลดี้ร้องเตือนชายหนุ่มทันที

    มาตาร์ได้ยินเสียงว่ามันเคลื่อนที่เข้ามาใกล้แต่แรกแล้ว เขารวบรวมกำลัง กลิ้งตัวหลบเจ้าเล็บอีกสองสายได้อย่างฉิวเฉียด

    “เมลอย่างเพิ่งสนใจอย่างอื่นสิ เล็งเจ้านั่นก่อน” ราตรีไม่ห่วงความปลอดภัยของชายหนุ่มอีกแล้ว เธอสนแต่เพียงว่าจะกำจัดศัตรูเท่านั้นเป็นพอ

    ฟิ้ว! แกร็ก!

    ลูกธนูของเมโลดี้พุ่งเข้าใส่เจ้าปักเป้าลอยฟ้านั่นตรงเผง แต่มันกลับยิงไม่เข้า แถมทำให้มันเคลื่อนหนีห่างออกไปอีกเพราะแรงกระแทกด้วย

    ชายหนุ่มสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่าง ทำไมมันเอาแต่ลอยอยู่เฉยๆ แล้วมันอยู่ตรงนั้นมานานขนาดไหนแล้ว ทำไมมันไม่เข้ามาโจมตีพวกเราล่ะ ...หรือว่า!’

    “เมล! เจ้านั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเราใช้ปราณกับเวทไม่ได้ก็ได้นะ” ชายหนุ่มสันนิษฐาน ไม่ใช่ว่ามันไม่เข้ามาโจมตี แต่ว่ามันกำลังโจมตีพวกเราอยู่แล้วหรือเปล่า นี่คือสิ่งที่ชายหนุ่มคิด

    แต่จะทำยังไงถึงจะกำจัดมันได้ล่ะเนี่ย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×