คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #36 : บทที่35: การประลองรอบที่หนึ่งของราตรี-เมโลดี้
บทที่35 การประลองรอบที่หนึ่งของราตรี-เมโลดี้
“และผู้ชนะคือทีมบาซาร่าเอมิเลียครับผม” เสียงประกาศของพิธีกรดังขึ้นมา
มาตาร์รู้สึกตัวตื่นขึ้นในห้องพักหลังเวทีการประลอง
“และต่อไปการประลองของทีมกัซกรีฟีซและราตรีเมโลดี้ครับ” เสียงพิธีกรดังลอดเข้ามาอีก
‘เผลอหลับไปแฮะ หลับไปนานขนาดไหนเนี่ย’ มาตาร์สำรวจตัวเองแล้วก็พบว่าเขาผล็อยหลับไป โดยที่ยังไม่ได้รักษาอาการบาดเจ็บเลย
‘ฮึ้บ!’ มาตาร์โคจรพลังปราณช้าๆ แล้วเปลี่ยนให้มันเป็นธาตุลมรักษา
ร่างกายของมาตาร์ค่อยๆฟื้นฟูขึ้นมา บาดแผลเริ่มหายไป แขนที่หักก็เริ่มเข้าที่เข้าทาง
หลังจากที่มาตาร์ฟื้นฟูได้เล็กน้อย เขาก็ไปดูอาการบาดเจ็บของบรันโด้ที่นอนหลับอยู่อีกด้านของห้อง ร่างกายของบรันโด้มีแต่แผลเล็กๆที่ไม่สาหัส แต่คงเพราะเสียเลือดมากจึงหลับไปอย่างอ่อนเพลีย
มาตาร์แตะตัวบรันโด้ไว้แล้วถ่ายพลังลมรักษาให้ บาดแผลเล็กๆเหล่านั้นก็ค่อยๆหายไปจนในที่สุด ร่างกายของบรันโด้ก็ไม่มีร่องรอยบาดเจ็บใดใด
หลังจากนั้นมาตาร์ก็มาโคจรพลังรักษาตัวเองต่อโดยค่อยๆทำไปแบบช้าๆ
การใช้ปราณแบบช้าๆนี้ นอกจากจะช่วยฟื้นฟูร่างกายแล้ว ยังช่วยเพิ่มพูนพลังปราณได้อีกด้วย ที่ไม่ทำอย่างรวดเร็วเพราะจะทำให้ปราณหมดจนฟื้นฟูไม่ทัน แต่ถ้าทำช้าๆ อัตราการฟื้นฟูปราณที่สูงกว่าอัตราการใช้ก็จะทำให้โคจรได้เรื่อยๆโดยไม่ต้องกลัวว่าปราณจะหมด ทำให้สามารถรับมือเหตุฉุกเฉินได้ทันที
‘หวังว่าพวกเมลจะปลอดภัยนะ พวกเธอเก่งกันอยู่แล้วนี่นะ’ มาตาร์คิดขึ้นในขณะที่นั่งสมาธิโคจรลมปราณ
เป๊ง! เป๊ง! เป๊ง! เป๊ง! เป๊ง!
เสียงดาบกระทบกันด้วยความรวดเร็วของราตรีกับคู่ต่อสู้ของเธอดังขึ้นท่ามกลางการประลองอันดุเดือด
‘ดาบของไอ้หมอนี่เร็วพอๆกับเราเลยเหรอเนี่ย’ ราตรีคิดขึ้นในขณะที่ปะดาบกับกรีฟีซ
ชายหนุ่มผมทองหยักศกยาวถึงกลางหลัง ใช้ดาบเรเพียร์เหมือนกับที่ราตรีใช้ เขาคือกรีฟีซ คู่ต่อสู้ของราตรี ดาบของเขารวดเร็วไม่ต่างจากราตรี ทำให้ทั้งสองยังทำอะไรกันไม่ได้ในขณะนี้
ฟิ้ว! แก๊ง!
ลูกธนูของเมโลดี้พุ่งเข้ากระทบกับดาบของคู่ต่อสู้
ชายหนุ่มผมสั้นสีดำ ถือดาบที่ใหญ่และหนา ดาบเล่มนั้นมันใหญ่กว่าตัวผู้ใช้เสียอีก เขาคือกัซ คู่ต่อสู้ของเมโลดี้ ดาบของเขาใช้ต่างโล่ได้ ธนูของเมโลดี้จึงถูกหยุดเอาไว้อย่างง่ายดาย แค่เพียงเขายกดาบขึ้นมาบังตัวเองเอาไว้เท่านั้น
‘อะไรเนี่ย ไอ้ดาบยักษ์เล่มนั้นน่ะ เกะกะจริง’ เมโลดึ้คิดขึ้นมาหลังจากลูกธนูของเธอถูกกันเอาไว้ได้อีกครั้ง
แก๊ง!! แก๊ง!! แก๊ง!!
กัซพุ่งเข้ามาใกล้เมโลดี้อย่างรวดเร็วพร้อมๆกับเอาดาบบังร่างกายเอาไว้ ความเร็วของฝีเท้าไม่เหมือนคนที่แบกของหนักอย่างดาบเล่มยักษ์นั้นเอาไว้เลย
เมื่อเข้าระยะโจมตี ดาบของกัซก็ถูกเหวี่ยงออกมา เข้ากลางลำตัวของเมโลดี้พอดิบพอดี
ฟวับบ!!
เมโลดี้กระโดดถอยหลังหลบไป มีไม่กี่ครั้งที่เธอจะหลบการโจมตีระยะใกล้แบบนี้ ปกติเธอจะสวนกลับไปแล้ว แต่จากพลังกายเคลื่อนไหวและพลังเหวี่ยงดาบของชายผู้นี้ เธอไม่เห็นจุดที่จะโจมตีสวนได้เลย
แต่แล้วเมื่อเมโลดี้กระโดดตัวลอยขึ้น ดาบยักษ์นั้นกลับเหวี่ยงมาฟาดเธอซึ่งกำลังลอยอยู่กลางอากาศอีกด้วยความเร็วดาบที่น่าเหลือเชื่อ
ฟวับบ!! เพล้งง!!
เมโลดี้กางเวทเกราะรับการโจมตีได้ทัน แต่ความรุนแรงของดาบกลับทำให้เวทของเธอแตกสลายไปทันที พร้อมๆกับตัวของเธอที่กระเด็นไปตามแรงเหวี่ยงของดาบ
“เมล!!” ราตรีตกใจที่เห็นเพื่อนสาวของเธอกระเด็นออกไป
“เสียสมาธิระหว่างต่อสู้มันไม่ดีนะครับคุณผู้หญิง” ชายหนุ่มผมทองพูดขึ้น
ฉัวะ!!
การเสียสมาธิเพียงแวบเดียวทำให้ดาบของกรีฟีซกรีดถูกแขนของราตรีจนได้ เธอเจ็บแปลบขึ้นมาจนต้องถอยออกมา แต่กรีฟีซก็ไม่เปิดโอกาสให้หญิงสาวหนีรอดง่ายๆ
ชายหนุ่มผมทองก้าวเท้าตามหญิงสาวผมสั้นที่ก้าวถอยออกไป แล้วตวัดดาบเข้าจู่โจมซ้ำ
เคร้งง!!
‘เทพสายฟ้า’ของราตรีทำงานทันที ที่ผ่านมาเธอยังไม่ได้ใช้มันเลย แต่เมื่อเธอใช้มันออกมา ดาบของกรีฟีซก็ถูกปัดออกไปอย่างง่ายดาย ทำให้ชายหนุ่มแปลกใจมากว่าหญิงสาวรอดพ้นจากดาบนี้ของเขาได้อย่างไร
“โอ้! มีของดีทำไมไม่รีบใช้แต่แรกล่ะครับ ที่ผ่านมาออมมือให้ผมเอาไว้หรือนี่” กรีฟีซพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงไร้กังวล ขณะที่มือก็ไม่หยุดจ้วงแทงราตรีเลย
เคร้ง!! เคร้ง!! เคร้ง!! เคร้ง!! เคร้ง!!
“หืม ...นี่มัน” กรีฟีซพูดขึ้นหลังจากสังเกตอะไรบางอย่างได้จากการปะทะดาบกับราตรีอย่างถี่ยิบ
“ดาบของคุณผู้หญิงถึงจะเร็วก็จริง แต่เอาแต่ปัดป้องนี่ครับ อย่างนี้ก็ไม่มีอะไรน่ากลัวเลย” กรีฟีซจับจุดอ่อนของเทพสายฟ้าได้ในเวลาอันรวดเร็ว
เทพสายฟ้าของราตรีนั้นเป็นท่าที่เร่งปฏิกิริยาโต้ตอบขึ้นมาอย่างสูงสุด ซึ่งจะโจมตีเฉพาะเป้าหมายที่ล่วงล้ำเข้ามาในเขตการโจมตีเท่านั้น อย่างเช่นพวกนกในป่าฝูงนกที่บินเข้ามาหาระยะของดาบเอง แต่ดาบของราตรีจะไม่มีปฏิกิริยากับศัตรูที่อยู่นอกระยะ หรือนั่นก็คือ เธอจะไม่เป็นฝ่ายโจมตีก่อนนั่นเอง
ฟิ้ว!! ฉัวะ!!
“โอ๊ย!” ราตรีอุทานขึ้นมาเมื่อถูกดาบของกรีฟีซกรีดเข้าอีกที
จู่ๆปลายดาบของกรีฟีซก็เหมือนยืดออกมาได้ แล้วเข้าจู่โจมราตรีจากระยะที่ไกลกว่าเดิม ความเร็วของมัน แม้แต่เทพสายฟ้าก็โต้ตอบไม่ทัน
ฉัวะ!! ฉัวะ!! ฉัวะ!!
ดาบของกรีฟีซกรีดโดนร่างกายของราตรีตลอด แต่เนื่องจากการยืนหันข้างรับดาบของหญิงสาว ทำให้ไม่โดนจุดสำคัญ
ราตรียังใช้ปราณธาตุไม่เก่ง ถึงเธอจะมีพลังธาตุลมคอยเยียวยาอยู่ แต่ก็ไม่ทันกับอาการบาดเจ็บที่ได้รับ
“รัต!!” เมโลดี้ที่เห็นราตรีกำลังเพลี่ยงพล้ำก็ร้อนใจขึ้นมา
เมโลดี้ที่กระเด็นไปเพราะดาบของกัซไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก เพราะเธอไม่ได้โดนดาบตรงๆ แต่แรงปะทะของเวทเกราะกับดาบต่างหากที่ส่งผลให้เธอกระเด็นออกไป
ฟวับบ!!
กัซยังพุ่งตามมาเหวี่ยงดาบใส่เมโลดี้อีก แต่ครั้งนี้เธอไม่ถอยหลบ เพราะรู้ดีว่าดาบยักษ์นี้ไม่ได้เชื่องช้าถึงขนาดจะหลบได้ แต่เธอกลับพุ่งเข้าใส่ใบดาบแทน
เพียะ!!
เมโลดี้ซึ่งพุ่งตัวเองเข้าหาใบดาบ ใช้มือจับใบดาบอันใหญ่โตที่ฟาดฟันมา แล้วใช้มันเป็นฐานม้วนตัวบนใบดาบ ก่อนจะอาศัยแรงเหวี่ยงจากการม้วนตัวตวัดเท้าเข้าโจมตีกัซไปหนึ่งครั้งที่ใบหน้า จนหน้าของกัซหันไปเลยทีเดียว
แต่เมโลดี้กลับไม่สนใจจะฉวยโอกาสโจมตีต่อ กลับพุ่งเข้าไปหาเพื่อนสาวทันที
“รัต!!” เมโลดี้ร้องเรียกเพื่อนสาวขณะเข้าไปประชิดตัวเธอ
เวทเกราะถูกกางออกเพื่อป้องกันดาบของกรีฟีซที่เข้าโจมตีราตรีทันที
พิ้ง! พิ้ง! พิ้ง!
แล้วทั้งคู่ก็ได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของดาบที่ยืดได้ของกรีฟีซ
เมื่อสิ่งที่เห็นเหมือนว่าเป็นปลายดาบกระทบกับเวทเกราะ มันกลับหักเหออกไปตามมุมตกกระทบ เหมือนกับลำแสงที่สะท้อนใส่กระจก
มันไม่ใช่ดาบ
“นี่มัน ...ลำแสง!!” เมโลดี้พูดขึ้นมา
ที่กรีฟีซใช้คือการแปลงปราณเป็นธาตุแสงใส่ที่ดาบ เมื่อแทงออกครั้งหนึ่ง ลำแสงก็พุ่งออกมาจากดาบด้วย ทำให้เห็นเหมือนดาบยืดได้ แต่แท้จริงแล้วมันคือการยิงลำแสงโดยใช้ดาบต่างหาก ดังนั้นเทพสายฟ้าของราตรีจึงไม่สามารถรับได้นั่นเอง เพราะมันไม่ใช่วัตถุ
พิ้ง! พิ้ง! พิ้ง!
“ถึงรู้แล้วก็ไม่มีประโยชน์หรอกครับ” กรีฟีซพูดขึ้นในขณะที่ยิงลำแสงใส่เวทเกราะไม่หยุด
ดาบของกัซก็ฟาดฟันเข้ามาจากอีกด้าน ถ้าโดนเข้าไปอีกครั้ง เวทเกราะแตกอีกแน่นอน แล้วคราวนี้ทั้งสองคนคงจะโดนลำแสงของกรีฟีซโจมตีเต็มๆ
เมโลดี้กับราตรีมองหน้ากันแวบหนึ่ง แล้วสลับคู่ต่อสู้กันทันที
พิ้ง! พิ้ง! พิ้ง!
เมโลดี้หันไปสู้กับกรีฟีซแทนโดยลดขนาดของเวทเกราะแล้วใช้ต่างโล่ใสที่เคลื่อนไหวตามมือ สะท้อนลำแสงของกรีฟีซให้หักเหไปอย่างง่ายดาย
ส่วนราตรีหันไปฟันดาบใส่กัซแทน ถึงแม้ดาบของกัซจะเร็วแค่ไหน แต่ก็เร็วสู้ดาบเล่มเล็กๆของราตรีไม่ได้อยู่ดี เพราะขนาดดาบมันผิดกันเยอะ
พิ้ง! พิ้ง! เชียะ! ฉัวะ!
“เก็บดาบไว้ฟันกับปีศาจเถอะพ่อคุณ ดาบใหญ่ขนาดนี้สู้กับคนด้วยกันไม่ได้หรอก” ราตรีเหน็บแนมก่อนที่จะไล่ต้อนกัซด้วยดาบอันเรียวบางของเธอ
“อะไรกันเนี่ย แค่สลับคู่ต่อสู้กันเท่านั้น ทำไมมันถึงต่างกันเยอะขนาดนี้” กรีฟีซบ่นขึ้นมา
จริงๆแล้วมันเกิดจากการต่อสู้แบบทีมเวิร์คของราตรีและเมโลดี้
กัซและกรีฟีซนั้นถ้าสู้กันตัวต่อตัวอาจจะเก่งด้วยกันทั้งคู่ แต่ถ้านำมาสู้พร้อมๆกันจะกลายเป็นขัดกันเอง แต่ราตรีกับเมโลดี้นั้นถ้าสู้ด้วยกันกลับจะเสริมกัน ดังนั้นผลลัพธ์จึงค่อยๆปรากฏออกมาให้เห็นเมื่อทั้งคู่ต่อสู้ไปด้วยกัน
ฟวับบ!!
กัซฝืนเหวี่ยงดาบออกเข้าที่กลางลำตัวของราตรีทันที ซึ่งหมายจะฟันให้โดนเมโลดี้ซึ่งยืนอยู่ใกล้ๆกันด้วย
“เมล!” ราตรีร้องเรียกเพื่อนสาวขึ้นมาคำหนึ่ง ก่อนจะกระโดดถอยห่างจากกัซทันทีแล้วเข้าจู่โจมกรีฟีซอย่างฉับพลัน
เคร้ง! ฟิ้วว! ฉึก!
ราตรีเข้าปะทะดาบกับกรีฟีซทันที ในขณะที่เมโลดี้หันหน้าจากกรีฟีซกลับไปทางกัซแล้วก็กระโดดถอยหลังตามร่างของราตรีไป ก่อนที่จะปล่อยธนูสวนดาบของกัซกลางอากาศ จนลูกธนูเสียบร่างของกัซเข้าไปหนึ่งดอกจนได้
การประสานงานของคู่หูสาวสวยนั้นมีประสิทธิภาพมาก เพียงแค่ราตรีตะโกนคำเดียวเมโลดี้ก็รู้ตัวว่าควรทำอะไร เธอหันหน้าไปโจมตีกัซแทนแล้วปล่อยให้ราตรีคุ้มกันเธอจากดาบของกรีฟีซ
เคร้ง!! เคร้ง!! เคร้ง!!
ราตรีกับกรีฟีซปะดาบกันทันทีไม่แตกต่างจากครั้งแรกเท่าไหร่ แต่ราตรีได้รับบาดเจ็บอยู่ทำให้เสียเปรียบบ้าง ส่วนกัซบาดเจ็บแต่ก็ยังฝืนเหวี่ยงดาบเข้าใส่ทั้งสองสาวอยู่
ฟวับ!!
เมโลดี้กระโดดหลบดาบไปอีกทางหนึ่ง ดาบของกัซตอนนี้ลดความเฉียบคมลงมากทีเดียว
ฟิ้ว!! ฉึก!! ฉึก!! ฉึก!!
เมโลดี้ยิงธนูใส่กรีฟีซพร้อมกันถึงสามดอกขณะที่กระโดดหลบดาบของกัซ แต่กรีฟีซก็หลบได้อย่างง่ายดาย ลูกธนูที่ยิงตอนฉุกละหุกแบบนี้ แถมยิงทีละสามดอก ย่อมไม่มีความแม่นยำ ลูกธนูทั้งสามดอกจึงไปปักลงตรงพื้นด้านหลังของกรีฟีซ
ทันใดนั้นเวทเกราะที่แฝงไปกับลูกธนูทั้งสามก็กางออก ดันร่างของกรีฟีซเข้าไปหาราตรีทันที
“เฮ่ยย!! อะไรเนี่ย” กรีฟีซร้องอย่างตกใจเมื่อเขาโดนพลังอะไรบางอย่างดันไปข้างหน้าอย่างไม่คาดคิด
ฉึก! ฉัวะ!
ราตรีไม่ยอมเสียโอกาสเมื่อเห็นกรีฟีซเสียหลัก เธอแทงใส่กรีฟีซเข้าที่หัวใจทันที แล้วยังฟันคอแถมไปอีกทีหนึ่งด้วย จนในที่สุดร่างของกรีฟีซก็สลายกลายเป็นแสงไป
ตอนนี้เหลือแต่กัซที่บาดเจ็บ ยืนเผชิญหน้ากับราตรีและเมโลดี้เท่านั้น
“ว่าไง จะสู้ต่ออีกเหรอ” ราตรีถามขึ้น เมื่อเห็นว่าฝ่ายกัซที่เหลือตัวคนเดียวไม่มีโอกาสชนะอีกแล้ว
“หึหึหึ” กัซหัวเราะขึ้นมาเบาๆ ตั้งแต่เริ่มประลองมา เขาก็เพิ่งส่งเสียงออกมานี่เอง
“ขำอะไร จะยอมแพ้มั้ย” ราตรีส่งเสียงขึ้นมาอีกครั้ง
ทันใดนั้นร่างของกัซก็เหมือนมีออร่าแผ่ออกมาจนเห็นได้ชัดด้วยตาเปล่า
ฟู้วว!! ฟวับ!! ตึ้ง!! ตูม!! โครมม!!
ความบ้าคลั่งเริ่มขึ้นทันที เมื่อกัซพุ่งเข้าใส่ทั้งสองสาวพร้อมทั้งเหวี่ยงดาบยักษ์อย่างกับเหวี่ยงดาบโฟม
แรงอัดอากาศที่เกิดจากการฟันดาบอย่างรุนแรงสามารถทำให้ทั้งคู่เสียหลักได้ เพียงแค่มันผ่านไปเท่านั้นเอง พื้นดินที่โดนดาบยักษ์ฟาดใส่แตกกระจุยกระจาย
“นี่มันอะไรเนี่ย!” เมโลดี้สงสัยขึ้นมา ทำไมจู่ๆชายคนนี้ถึงแข็งแกร่งขึ้นมาได้อย่างผิดหูผิดตา
“หรือว่า...” ราตรีเกิดนึกเอะใจอะไรขึ้นมาได้ เธอจึงลองไขข้อข้องใจนั้นทันที
ทันใดนั้นร่างของราตรีก็เกิดออร่าแผ่ออกมาจนเห็นได้ด้วยตาเปล่าเหมือนกัน ลักษณะไม่ต่างกับของกัซเลย
“รัต เธอทำอะไรลงไปน่ะ” เมโลดี้ตื่นตะลึงที่ราตรีก็ทำแบบกัซได้
“มังกรแปลงไงล่ะ ทักษะของเผ่ามังกรที่เพิ่มพลังกายขึ้นอีกเท่าตัว” ราตรีเฉลย ในเมื่อเธอก็เป็นเผ่ามังกรเหมือนกัน ก็ย่อมที่จะทำได้
และแล้วสงครามแลกดาบอันดุเดือดก็เริ่มต้นขึ้น เผ่ามังกรสองคนสู้กันด้วยทักษะประจำเผ่า
ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว! เคร้ง! ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ!
ร่างของราตรีกับกัซแทบจะเหมือนภูติพราย การเคลื่อนไหวที่เร็วจนไม่รู้ว่ากำลังทำท่าอะไรอยู่ ดาบยักษ์และดาบเพรียวบางที่แหวกอากาศ ส่งเสียงระงมไปหมด
เมโลดี้ต้องกางเวทเกราะคุ้มกันตัวเองไว้ เพราะไม่รู้ว่าลูกหลงจะมาตอนไหน เธอมองไม่ออกจริงๆว่าทั้งคู่สู้กันอย่างไรเพราะมันเร็วมาก
ในความเร็วที่มองไม่เห็นนั้น ทั้งราตรีและกัซต่างแลกดาบกันอย่างดุเดือด แต่ผลลัพธ์ก็น่าจะเห็นได้ตั้งแต่ก่อนปะดาบกันแล้ว ดาบยักษ์ของกัซไม่เหมาะจะเอาไว้สู้กับคนจริงๆ ดาบของราตรีค่อยๆบั่นทอนกำลังของกัซลงทีละนิดด้วยความเร็วดาบที่เหนือกว่า ส่วนดาบของกัซทำได้แค่เพียงเฉียดร่างราตรีไปมาเท่านั้นเอง
ฉัวะ! พรืด~ด!
ในที่สุดกัซก็โดนราตรีฟันเข้าเต็มๆจนดาบหลุดมือแล้วไถลไปกับพื้น
“แฮก แฮก”
“แฮก แฮก”
ทั้งราตรีและกัซต่างเหนื่อยหอบ ทั้งคู่ใช้พลังจนแทบจะหมดตัวอยู่แล้ว
“ไง ยอมแพ้ได้รึยัง หรือจะยอมตาย” ราตรีเอ่ยขึ้นอีก
“...ยอมแพ้” ในที่สุดกัซก็ยอมรับความพ่ายแพ้จนได้
“ผลการประลองออกมาแล้วครับ หลังการดวลดาบอันดุเดือด ผู้ชนะคือทีมราตรีเมโลดี้ครับ!!” พิธีกรประกาศออกด้วยน้ำเสียงอันตื่นเต้นจนเกินระงับ
ในห้องพักหลังเวที
มาตาร์ยังคงนั่งเดินลมปราณธาตุลมอย่างสงบพร้อมทั้งยิ้มออกมาน้อยๆเมื่อได้ยินเสียงพิธีกรประกาศผลลัพธ์ของการประลอง
รอบชิงชนะเลิศ | |||||||
รอบรองชนะเลิศ | รอบรองชนะเลิศ | ||||||
ไซโค&ชูจิน | มาตาร์&บรันโด้ | บาซาร่า&เอมิเลีย | ราตรี&เมโลดี้ | ||||
เอ็ดเวิด& อัลฟอนซ์ | กัลลี่ | โจทาโร่ | กัซ& กรีฟีซ | ||||
และแล้วตารางการแข่งขันรอบต่อไปก็เป็นเช่นนี้เอง
Rewrite tag: แก้คำผิด
ความคิดเห็น