ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    JOQ Online คนจริงลวงโลก <มี E-Book>

    ลำดับตอนที่ #36 : บทที่35: การประลองรอบที่หนึ่งของราตรี-เมโลดี้

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 14.62K
      103
      20 ธ.ค. 54

    บทที่35 การประลองรอบที่หนึ่งของราตรี-เมโลดี้

    “และผู้ชนะคือทีมบาซาร่าเอมิเลียครับผม” เสียงประกาศของพิธีกรดังขึ้นมา

    มาตาร์รู้สึกตัวตื่นขึ้นในห้องพักหลังเวทีการประลอง

    “และต่อไปการประลองของทีมกัซกรีฟีซและราตรีเมโลดี้ครับ” เสียงพิธีกรดังลอดเข้ามาอีก

    เผลอหลับไปแฮะ หลับไปนานขนาดไหนเนี่ย มาตาร์สำรวจตัวเองแล้วก็พบว่าเขาผล็อยหลับไป โดยที่ยังไม่ได้รักษาอาการบาดเจ็บเลย

    ฮึ้บ!’ มาตาร์โคจรพลังปราณช้าๆ แล้วเปลี่ยนให้มันเป็นธาตุลมรักษา

    ร่างกายของมาตาร์ค่อยๆฟื้นฟูขึ้นมา บาดแผลเริ่มหายไป แขนที่หักก็เริ่มเข้าที่เข้าทาง

    หลังจากที่มาตาร์ฟื้นฟูได้เล็กน้อย เขาก็ไปดูอาการบาดเจ็บของบรันโด้ที่นอนหลับอยู่อีกด้านของห้อง ร่างกายของบรันโด้มีแต่แผลเล็กๆที่ไม่สาหัส แต่คงเพราะเสียเลือดมากจึงหลับไปอย่างอ่อนเพลีย

    มาตาร์แตะตัวบรันโด้ไว้แล้วถ่ายพลังลมรักษาให้ บาดแผลเล็กๆเหล่านั้นก็ค่อยๆหายไปจนในที่สุด ร่างกายของบรันโด้ก็ไม่มีร่องรอยบาดเจ็บใดใด

    หลังจากนั้นมาตาร์ก็มาโคจรพลังรักษาตัวเองต่อโดยค่อยๆทำไปแบบช้าๆ

    การใช้ปราณแบบช้าๆนี้ นอกจากจะช่วยฟื้นฟูร่างกายแล้ว ยังช่วยเพิ่มพูนพลังปราณได้อีกด้วย ที่ไม่ทำอย่างรวดเร็วเพราะจะทำให้ปราณหมดจนฟื้นฟูไม่ทัน แต่ถ้าทำช้าๆ อัตราการฟื้นฟูปราณที่สูงกว่าอัตราการใช้ก็จะทำให้โคจรได้เรื่อยๆโดยไม่ต้องกลัวว่าปราณจะหมด ทำให้สามารถรับมือเหตุฉุกเฉินได้ทันที

    หวังว่าพวกเมลจะปลอดภัยนะ พวกเธอเก่งกันอยู่แล้วนี่นะ มาตาร์คิดขึ้นในขณะที่นั่งสมาธิโคจรลมปราณ

    เป๊ง! เป๊ง! เป๊ง! เป๊ง! เป๊ง!

    เสียงดาบกระทบกันด้วยความรวดเร็วของราตรีกับคู่ต่อสู้ของเธอดังขึ้นท่ามกลางการประลองอันดุเดือด

    ดาบของไอ้หมอนี่เร็วพอๆกับเราเลยเหรอเนี่ย ราตรีคิดขึ้นในขณะที่ปะดาบกับกรีฟีซ

    ชายหนุ่มผมทองหยักศกยาวถึงกลางหลัง ใช้ดาบเรเพียร์เหมือนกับที่ราตรีใช้ เขาคือกรีฟีซ คู่ต่อสู้ของราตรี ดาบของเขารวดเร็วไม่ต่างจากราตรี ทำให้ทั้งสองยังทำอะไรกันไม่ได้ในขณะนี้

    ฟิ้ว! แก๊ง!

    ลูกธนูของเมโลดี้พุ่งเข้ากระทบกับดาบของคู่ต่อสู้

    ชายหนุ่มผมสั้นสีดำ ถือดาบที่ใหญ่และหนา ดาบเล่มนั้นมันใหญ่กว่าตัวผู้ใช้เสียอีก เขาคือกัซ คู่ต่อสู้ของเมโลดี้ ดาบของเขาใช้ต่างโล่ได้ ธนูของเมโลดี้จึงถูกหยุดเอาไว้อย่างง่ายดาย แค่เพียงเขายกดาบขึ้นมาบังตัวเองเอาไว้เท่านั้น

    อะไรเนี่ย ไอ้ดาบยักษ์เล่มนั้นน่ะ เกะกะจริง เมโลดึ้คิดขึ้นมาหลังจากลูกธนูของเธอถูกกันเอาไว้ได้อีกครั้ง

    แก๊ง!! แก๊ง!! แก๊ง!!

    กัซพุ่งเข้ามาใกล้เมโลดี้อย่างรวดเร็วพร้อมๆกับเอาดาบบังร่างกายเอาไว้ ความเร็วของฝีเท้าไม่เหมือนคนที่แบกของหนักอย่างดาบเล่มยักษ์นั้นเอาไว้เลย

    เมื่อเข้าระยะโจมตี ดาบของกัซก็ถูกเหวี่ยงออกมา เข้ากลางลำตัวของเมโลดี้พอดิบพอดี

    ฟวับบ!!

    เมโลดี้กระโดดถอยหลังหลบไป มีไม่กี่ครั้งที่เธอจะหลบการโจมตีระยะใกล้แบบนี้ ปกติเธอจะสวนกลับไปแล้ว แต่จากพลังกายเคลื่อนไหวและพลังเหวี่ยงดาบของชายผู้นี้ เธอไม่เห็นจุดที่จะโจมตีสวนได้เลย

    แต่แล้วเมื่อเมโลดี้กระโดดตัวลอยขึ้น ดาบยักษ์นั้นกลับเหวี่ยงมาฟาดเธอซึ่งกำลังลอยอยู่กลางอากาศอีกด้วยความเร็วดาบที่น่าเหลือเชื่อ

    ฟวับบ!! เพล้งง!!

    เมโลดี้กางเวทเกราะรับการโจมตีได้ทัน แต่ความรุนแรงของดาบกลับทำให้เวทของเธอแตกสลายไปทันที พร้อมๆกับตัวของเธอที่กระเด็นไปตามแรงเหวี่ยงของดาบ

    “เมล!!” ราตรีตกใจที่เห็นเพื่อนสาวของเธอกระเด็นออกไป

    “เสียสมาธิระหว่างต่อสู้มันไม่ดีนะครับคุณผู้หญิง” ชายหนุ่มผมทองพูดขึ้น

    ฉัวะ!!

    การเสียสมาธิเพียงแวบเดียวทำให้ดาบของกรีฟีซกรีดถูกแขนของราตรีจนได้ เธอเจ็บแปลบขึ้นมาจนต้องถอยออกมา แต่กรีฟีซก็ไม่เปิดโอกาสให้หญิงสาวหนีรอดง่ายๆ

    ชายหนุ่มผมทองก้าวเท้าตามหญิงสาวผมสั้นที่ก้าวถอยออกไป แล้วตวัดดาบเข้าจู่โจมซ้ำ

    เคร้งง!!

    เทพสายฟ้าของราตรีทำงานทันที ที่ผ่านมาเธอยังไม่ได้ใช้มันเลย แต่เมื่อเธอใช้มันออกมา ดาบของกรีฟีซก็ถูกปัดออกไปอย่างง่ายดาย ทำให้ชายหนุ่มแปลกใจมากว่าหญิงสาวรอดพ้นจากดาบนี้ของเขาได้อย่างไร

    “โอ้! มีของดีทำไมไม่รีบใช้แต่แรกล่ะครับ ที่ผ่านมาออมมือให้ผมเอาไว้หรือนี่” กรีฟีซพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงไร้กังวล ขณะที่มือก็ไม่หยุดจ้วงแทงราตรีเลย

    เคร้ง!! เคร้ง!! เคร้ง!! เคร้ง!! เคร้ง!!

    “หืม ...นี่มัน” กรีฟีซพูดขึ้นหลังจากสังเกตอะไรบางอย่างได้จากการปะทะดาบกับราตรีอย่างถี่ยิบ

    “ดาบของคุณผู้หญิงถึงจะเร็วก็จริง แต่เอาแต่ปัดป้องนี่ครับ อย่างนี้ก็ไม่มีอะไรน่ากลัวเลย” กรีฟีซจับจุดอ่อนของเทพสายฟ้าได้ในเวลาอันรวดเร็ว

    เทพสายฟ้าของราตรีนั้นเป็นท่าที่เร่งปฏิกิริยาโต้ตอบขึ้นมาอย่างสูงสุด ซึ่งจะโจมตีเฉพาะเป้าหมายที่ล่วงล้ำเข้ามาในเขตการโจมตีเท่านั้น อย่างเช่นพวกนกในป่าฝูงนกที่บินเข้ามาหาระยะของดาบเอง แต่ดาบของราตรีจะไม่มีปฏิกิริยากับศัตรูที่อยู่นอกระยะ หรือนั่นก็คือ เธอจะไม่เป็นฝ่ายโจมตีก่อนนั่นเอง

    ฟิ้ว!! ฉัวะ!!

    “โอ๊ย!” ราตรีอุทานขึ้นมาเมื่อถูกดาบของกรีฟีซกรีดเข้าอีกที

    จู่ๆปลายดาบของกรีฟีซก็เหมือนยืดออกมาได้ แล้วเข้าจู่โจมราตรีจากระยะที่ไกลกว่าเดิม ความเร็วของมัน แม้แต่เทพสายฟ้าก็โต้ตอบไม่ทัน

    ฉัวะ!! ฉัวะ!! ฉัวะ!!

    ดาบของกรีฟีซกรีดโดนร่างกายของราตรีตลอด แต่เนื่องจากการยืนหันข้างรับดาบของหญิงสาว ทำให้ไม่โดนจุดสำคัญ

    ราตรียังใช้ปราณธาตุไม่เก่ง ถึงเธอจะมีพลังธาตุลมคอยเยียวยาอยู่ แต่ก็ไม่ทันกับอาการบาดเจ็บที่ได้รับ

    “รัต!!” เมโลดี้ที่เห็นราตรีกำลังเพลี่ยงพล้ำก็ร้อนใจขึ้นมา

    เมโลดี้ที่กระเด็นไปเพราะดาบของกัซไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก เพราะเธอไม่ได้โดนดาบตรงๆ แต่แรงปะทะของเวทเกราะกับดาบต่างหากที่ส่งผลให้เธอกระเด็นออกไป

    ฟวับบ!!

    กัซยังพุ่งตามมาเหวี่ยงดาบใส่เมโลดี้อีก แต่ครั้งนี้เธอไม่ถอยหลบ เพราะรู้ดีว่าดาบยักษ์นี้ไม่ได้เชื่องช้าถึงขนาดจะหลบได้ แต่เธอกลับพุ่งเข้าใส่ใบดาบแทน

    เพียะ!!

    เมโลดี้ซึ่งพุ่งตัวเองเข้าหาใบดาบ ใช้มือจับใบดาบอันใหญ่โตที่ฟาดฟันมา แล้วใช้มันเป็นฐานม้วนตัวบนใบดาบ ก่อนจะอาศัยแรงเหวี่ยงจากการม้วนตัวตวัดเท้าเข้าโจมตีกัซไปหนึ่งครั้งที่ใบหน้า จนหน้าของกัซหันไปเลยทีเดียว

     แต่เมโลดี้กลับไม่สนใจจะฉวยโอกาสโจมตีต่อ กลับพุ่งเข้าไปหาเพื่อนสาวทันที

    “รัต!!” เมโลดี้ร้องเรียกเพื่อนสาวขณะเข้าไปประชิดตัวเธอ

    เวทเกราะถูกกางออกเพื่อป้องกันดาบของกรีฟีซที่เข้าโจมตีราตรีทันที

    พิ้ง! พิ้ง! พิ้ง!

    แล้วทั้งคู่ก็ได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของดาบที่ยืดได้ของกรีฟีซ

    เมื่อสิ่งที่เห็นเหมือนว่าเป็นปลายดาบกระทบกับเวทเกราะ มันกลับหักเหออกไปตามมุมตกกระทบ เหมือนกับลำแสงที่สะท้อนใส่กระจก

    มันไม่ใช่ดาบ

    “นี่มัน ...ลำแสง!!” เมโลดี้พูดขึ้นมา

    ที่กรีฟีซใช้คือการแปลงปราณเป็นธาตุแสงใส่ที่ดาบ เมื่อแทงออกครั้งหนึ่ง ลำแสงก็พุ่งออกมาจากดาบด้วย ทำให้เห็นเหมือนดาบยืดได้ แต่แท้จริงแล้วมันคือการยิงลำแสงโดยใช้ดาบต่างหาก ดังนั้นเทพสายฟ้าของราตรีจึงไม่สามารถรับได้นั่นเอง เพราะมันไม่ใช่วัตถุ

    พิ้ง! พิ้ง! พิ้ง!

    “ถึงรู้แล้วก็ไม่มีประโยชน์หรอกครับ” กรีฟีซพูดขึ้นในขณะที่ยิงลำแสงใส่เวทเกราะไม่หยุด

    ดาบของกัซก็ฟาดฟันเข้ามาจากอีกด้าน ถ้าโดนเข้าไปอีกครั้ง เวทเกราะแตกอีกแน่นอน แล้วคราวนี้ทั้งสองคนคงจะโดนลำแสงของกรีฟีซโจมตีเต็มๆ

    เมโลดี้กับราตรีมองหน้ากันแวบหนึ่ง แล้วสลับคู่ต่อสู้กันทันที

    พิ้ง! พิ้ง! พิ้ง!

    เมโลดี้หันไปสู้กับกรีฟีซแทนโดยลดขนาดของเวทเกราะแล้วใช้ต่างโล่ใสที่เคลื่อนไหวตามมือ สะท้อนลำแสงของกรีฟีซให้หักเหไปอย่างง่ายดาย

    ส่วนราตรีหันไปฟันดาบใส่กัซแทน ถึงแม้ดาบของกัซจะเร็วแค่ไหน แต่ก็เร็วสู้ดาบเล่มเล็กๆของราตรีไม่ได้อยู่ดี เพราะขนาดดาบมันผิดกันเยอะ

    พิ้ง! พิ้ง! เชียะ! ฉัวะ!

    “เก็บดาบไว้ฟันกับปีศาจเถอะพ่อคุณ ดาบใหญ่ขนาดนี้สู้กับคนด้วยกันไม่ได้หรอก” ราตรีเหน็บแนมก่อนที่จะไล่ต้อนกัซด้วยดาบอันเรียวบางของเธอ

    “อะไรกันเนี่ย แค่สลับคู่ต่อสู้กันเท่านั้น ทำไมมันถึงต่างกันเยอะขนาดนี้” กรีฟีซบ่นขึ้นมา

    จริงๆแล้วมันเกิดจากการต่อสู้แบบทีมเวิร์คของราตรีและเมโลดี้

    กัซและกรีฟีซนั้นถ้าสู้กันตัวต่อตัวอาจจะเก่งด้วยกันทั้งคู่ แต่ถ้านำมาสู้พร้อมๆกันจะกลายเป็นขัดกันเอง แต่ราตรีกับเมโลดี้นั้นถ้าสู้ด้วยกันกลับจะเสริมกัน ดังนั้นผลลัพธ์จึงค่อยๆปรากฏออกมาให้เห็นเมื่อทั้งคู่ต่อสู้ไปด้วยกัน

    ฟวับบ!!

    กัซฝืนเหวี่ยงดาบออกเข้าที่กลางลำตัวของราตรีทันที ซึ่งหมายจะฟันให้โดนเมโลดี้ซึ่งยืนอยู่ใกล้ๆกันด้วย

    “เมล!” ราตรีร้องเรียกเพื่อนสาวขึ้นมาคำหนึ่ง ก่อนจะกระโดดถอยห่างจากกัซทันทีแล้วเข้าจู่โจมกรีฟีซอย่างฉับพลัน

    เคร้ง! ฟิ้วว! ฉึก!

    ราตรีเข้าปะทะดาบกับกรีฟีซทันที ในขณะที่เมโลดี้หันหน้าจากกรีฟีซกลับไปทางกัซแล้วก็กระโดดถอยหลังตามร่างของราตรีไป ก่อนที่จะปล่อยธนูสวนดาบของกัซกลางอากาศ จนลูกธนูเสียบร่างของกัซเข้าไปหนึ่งดอกจนได้

    การประสานงานของคู่หูสาวสวยนั้นมีประสิทธิภาพมาก เพียงแค่ราตรีตะโกนคำเดียวเมโลดี้ก็รู้ตัวว่าควรทำอะไร เธอหันหน้าไปโจมตีกัซแทนแล้วปล่อยให้ราตรีคุ้มกันเธอจากดาบของกรีฟีซ

    เคร้ง!! เคร้ง!! เคร้ง!!

    ราตรีกับกรีฟีซปะดาบกันทันทีไม่แตกต่างจากครั้งแรกเท่าไหร่ แต่ราตรีได้รับบาดเจ็บอยู่ทำให้เสียเปรียบบ้าง ส่วนกัซบาดเจ็บแต่ก็ยังฝืนเหวี่ยงดาบเข้าใส่ทั้งสองสาวอยู่

    ฟวับ!!

    เมโลดี้กระโดดหลบดาบไปอีกทางหนึ่ง ดาบของกัซตอนนี้ลดความเฉียบคมลงมากทีเดียว

    ฟิ้ว!! ฉึก!! ฉึก!! ฉึก!!

    เมโลดี้ยิงธนูใส่กรีฟีซพร้อมกันถึงสามดอกขณะที่กระโดดหลบดาบของกัซ แต่กรีฟีซก็หลบได้อย่างง่ายดาย ลูกธนูที่ยิงตอนฉุกละหุกแบบนี้ แถมยิงทีละสามดอก ย่อมไม่มีความแม่นยำ ลูกธนูทั้งสามดอกจึงไปปักลงตรงพื้นด้านหลังของกรีฟีซ

    ทันใดนั้นเวทเกราะที่แฝงไปกับลูกธนูทั้งสามก็กางออก ดันร่างของกรีฟีซเข้าไปหาราตรีทันที

    “เฮ่ยย!! อะไรเนี่ย” กรีฟีซร้องอย่างตกใจเมื่อเขาโดนพลังอะไรบางอย่างดันไปข้างหน้าอย่างไม่คาดคิด

    ฉึก! ฉัวะ!

    ราตรีไม่ยอมเสียโอกาสเมื่อเห็นกรีฟีซเสียหลัก เธอแทงใส่กรีฟีซเข้าที่หัวใจทันที แล้วยังฟันคอแถมไปอีกทีหนึ่งด้วย จนในที่สุดร่างของกรีฟีซก็สลายกลายเป็นแสงไป

    ตอนนี้เหลือแต่กัซที่บาดเจ็บ ยืนเผชิญหน้ากับราตรีและเมโลดี้เท่านั้น

    “ว่าไง จะสู้ต่ออีกเหรอ” ราตรีถามขึ้น เมื่อเห็นว่าฝ่ายกัซที่เหลือตัวคนเดียวไม่มีโอกาสชนะอีกแล้ว

    “หึหึหึ” กัซหัวเราะขึ้นมาเบาๆ ตั้งแต่เริ่มประลองมา เขาก็เพิ่งส่งเสียงออกมานี่เอง

    “ขำอะไร จะยอมแพ้มั้ย” ราตรีส่งเสียงขึ้นมาอีกครั้ง

    ทันใดนั้นร่างของกัซก็เหมือนมีออร่าแผ่ออกมาจนเห็นได้ชัดด้วยตาเปล่า

    ฟู้วว!! ฟวับ!! ตึ้ง!! ตูม!! โครมม!!

    ความบ้าคลั่งเริ่มขึ้นทันที เมื่อกัซพุ่งเข้าใส่ทั้งสองสาวพร้อมทั้งเหวี่ยงดาบยักษ์อย่างกับเหวี่ยงดาบโฟม

    แรงอัดอากาศที่เกิดจากการฟันดาบอย่างรุนแรงสามารถทำให้ทั้งคู่เสียหลักได้ เพียงแค่มันผ่านไปเท่านั้นเอง พื้นดินที่โดนดาบยักษ์ฟาดใส่แตกกระจุยกระจาย

    “นี่มันอะไรเนี่ย!” เมโลดี้สงสัยขึ้นมา ทำไมจู่ๆชายคนนี้ถึงแข็งแกร่งขึ้นมาได้อย่างผิดหูผิดตา

    “หรือว่า...” ราตรีเกิดนึกเอะใจอะไรขึ้นมาได้ เธอจึงลองไขข้อข้องใจนั้นทันที

    ทันใดนั้นร่างของราตรีก็เกิดออร่าแผ่ออกมาจนเห็นได้ด้วยตาเปล่าเหมือนกัน ลักษณะไม่ต่างกับของกัซเลย

    “รัต เธอทำอะไรลงไปน่ะ” เมโลดี้ตื่นตะลึงที่ราตรีก็ทำแบบกัซได้

    “มังกรแปลงไงล่ะ ทักษะของเผ่ามังกรที่เพิ่มพลังกายขึ้นอีกเท่าตัว” ราตรีเฉลย ในเมื่อเธอก็เป็นเผ่ามังกรเหมือนกัน ก็ย่อมที่จะทำได้

    และแล้วสงครามแลกดาบอันดุเดือดก็เริ่มต้นขึ้น เผ่ามังกรสองคนสู้กันด้วยทักษะประจำเผ่า

    ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว! เคร้ง! ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ!

    ร่างของราตรีกับกัซแทบจะเหมือนภูติพราย การเคลื่อนไหวที่เร็วจนไม่รู้ว่ากำลังทำท่าอะไรอยู่ ดาบยักษ์และดาบเพรียวบางที่แหวกอากาศ ส่งเสียงระงมไปหมด

    เมโลดี้ต้องกางเวทเกราะคุ้มกันตัวเองไว้ เพราะไม่รู้ว่าลูกหลงจะมาตอนไหน เธอมองไม่ออกจริงๆว่าทั้งคู่สู้กันอย่างไรเพราะมันเร็วมาก

    ในความเร็วที่มองไม่เห็นนั้น ทั้งราตรีและกัซต่างแลกดาบกันอย่างดุเดือด แต่ผลลัพธ์ก็น่าจะเห็นได้ตั้งแต่ก่อนปะดาบกันแล้ว ดาบยักษ์ของกัซไม่เหมาะจะเอาไว้สู้กับคนจริงๆ ดาบของราตรีค่อยๆบั่นทอนกำลังของกัซลงทีละนิดด้วยความเร็วดาบที่เหนือกว่า ส่วนดาบของกัซทำได้แค่เพียงเฉียดร่างราตรีไปมาเท่านั้นเอง

    ฉัวะ! พรืด~!

    ในที่สุดกัซก็โดนราตรีฟันเข้าเต็มๆจนดาบหลุดมือแล้วไถลไปกับพื้น

    “แฮก แฮก”

    “แฮก แฮก”

    ทั้งราตรีและกัซต่างเหนื่อยหอบ ทั้งคู่ใช้พลังจนแทบจะหมดตัวอยู่แล้ว

    “ไง ยอมแพ้ได้รึยัง หรือจะยอมตาย” ราตรีเอ่ยขึ้นอีก

    “...ยอมแพ้” ในที่สุดกัซก็ยอมรับความพ่ายแพ้จนได้

    “ผลการประลองออกมาแล้วครับ หลังการดวลดาบอันดุเดือด ผู้ชนะคือทีมราตรีเมโลดี้ครับ!!” พิธีกรประกาศออกด้วยน้ำเสียงอันตื่นเต้นจนเกินระงับ

     

    ในห้องพักหลังเวที

    มาตาร์ยังคงนั่งเดินลมปราณธาตุลมอย่างสงบพร้อมทั้งยิ้มออกมาน้อยๆเมื่อได้ยินเสียงพิธีกรประกาศผลลัพธ์ของการประลอง

    รอบชิงชนะเลิศ

    รอบรองชนะเลิศ

    รอบรองชนะเลิศ

    ไซโค&ชูจิน

    มาตาร์&บรันโด้

    บาซาร่า&เอมิเลีย

    ราตรี&เมโลดี้

    เอ็ดเวิด&

    อัลฟอนซ์

     

     

    กัลลี่

     

     

    โจทาโร่

     

    กัซ&

    กรีฟีซ

     

     

    และแล้วตารางการแข่งขันรอบต่อไปก็เป็นเช่นนี้เอง

     

    Rewrite tag: แก้คำผิด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×