ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    JOQ Online คนจริงลวงโลก <มี E-Book>

    ลำดับตอนที่ #31 : บทที่30: ระเบิดวายุ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 15.51K
      114
      16 ธ.ค. 54

    บทที่30 ระเบิดวายุ

    พั่บ!! พั่บ!! พั่บ!!

    ยังไม่ทันจะหนี นกแร้งกว่าร้อยตัวก็ล้อมมาตาร์และสามสาวเอาไว้ทุกด้าน ทั้งที่บินอยู่และยืนอยู่บนพื้น

    ตัวของมันใหญ่เท่ากับคน ปีกของมันกว้างกว่าสี่เมตร แค่ลงมายืนกับพื้นแล้วแผ่ปีกออกมาก็แทบจะหมดทางหนีแล้ว

    ฟิ้ว!! ตู้ม!!

    นกแร้งตัวหนึ่งที่ยืนอยู่บนพื้นถูกอัดกระเด็นไป

    มาตาร์ไม่รอความตายเฉยๆ ถ้ามีโอกาสเขาจะสู้เสมอ แม้สุดท้ายอาจจะต้องตายจริงๆก็เถอะ แต่ไม่เคยมีแม้สักครั้ง ที่เขาจะยอมถูกฆ่าดีๆเลย ...ถ้าไม่โดนทีเผลอนะ

    “ไอ้นกบ้าเอ๊ย!! คิดว่าชั้นจะยอมตายดีๆเหรอไง อย่าคิดว่าแค่มีพวกมากกว่าเก่งกว่าแล้วจะมาข่มกันนะเฟ่ย!” มาตาร์แผดเสียงออกมา

    ผัวะ! ฟิ้ว!

    ชายหนุ่มใช้เคล็ดเท้าไร้เงาเข้าประชิดร่างนกแร้งอีกตัวหนึ่ง เตะมันเข้าให้หนึ่งป้าบ ก่อนจะใช้ร่างอันโงนเงนของนกตัวนั้นส่งตัวเองขึ้นมาอยู่บนอากาศ

    ฟู่วววว!!

    ร่างของมาตาร์หมุนติ้วกลางอากาศพร้อมกับปล่อยทะเลไฟออกมาในรัศมีสิบเมตรรอบด้าน ครอบคลุมทั้งบนพื้นและในอากาศ โดยสามสาวยังยืนอยู่ด้านล่างของเขาทำให้ไม่โดนไฟเผา

    ตุบ!

    ร่างของมาตาร์ร่อนลงสู่พื้นก่อนจะมองผลลัพธ์ของทะเลไฟของเขาเองว่าร้ายกาจขนาดไหน แต่ว่า..

    “เฮ้ย!! ไหงไม่ร่วงเลยซักตัวล่ะเนี่ย” มาตาร์ตื่นตระหนก ไฟของเขาที่เผานกมาแล้วทั้งป่ากลับทำอะไรเจ้าพวกนี้ไม่ได้เลย

    พลังชีวิตของนกแร้งระดับร้อยนั้น ย่อมสูงพอพอกันกับมนุษย์หมาป่า ขนาดมาตาร์ยังต้องทุ่มกันสุดตัวถึงจะฆ่าได้สักตัว ปล่อยไฟบางๆผิวๆแบบนี้แค่ทำให้มันอุ่นๆเท่านั้นเอง

    “ถ้างั้นก็ต้องเล่นทีละตัวแบบเน้นๆ” มาตาร์คิดได้แล้วก็พุ่งใส่ต้นไม้ต้นหนึ่งแล้วชิ่งขึ้นไปหาเจ้านกแร้งตัวหนึ่งทันที

    ฟุ่บ!! ตู้มม!!

    มาตาร์ใช้หมัดความเร่งประสานเคล็ดหมุนวนชกใส่ร่างเจ้านกแร้งได้จังๆ แต่ว่ามันกลับได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำเอามาตาร์แปลกใจ และนั่นก็ยิ่งเพิ่มความดุร้ายให้เจ้านกแร้ง

    แกว้กก!! กี๊ซซซ!!

    ทันทีที่ร่างของมาตาร์ร่วงลงสู่พื้น นกแร้งสี่ตัวก็เข้ามารุมทันที โดยใช้ทั้งปากทั้งกรงเล็บ

    ปั้ก! ปั้ก! ปั้ก!

    “นี่แน่ะ อย่าทำมาตาร์นะ”

    “ไปให้พ้นไอ้นกบ้า”

    “ชิ่วๆ!!

    คลาร่า โมเรน่า และบราวนี่วิ่งเข้ามาต่อยเจ้านกแร้งที่รุมทำร้ายมาตาร์ทันทีโดยไม่ดูสภาพของตัวเองเลย ว่าขนาดมันแตกต่างกันขนาดไหน ทั้งสามคนก็มักจะเป็นอย่างนี้เสมออยู่แล้วตั้งแต่ยังไม่มีร่างเป็นมนุษย์ พวกเธอไม่เคยทิ้งมาตาร์เลยแม้แต่ครั้งเดียว และทุกครั้งที่ทำแบบนี้ ก็มักจะตายล่วงหน้ามาตาร์ไปก่อนทุกครั้ง

    ...และครั้งนี้ก็เช่นกัน

    แกว้กกก!!! แกว้กกก!!! แกว้กกก!!!

    ฝูงนกจากวงนอกเข้ามารุมจิกรุมทึ้งสามสาวน้อยทันที แต่ทั้งสามก็ไม่ยอมแพ้ แม้จะเจ็บปวดแค่ไหน ก็ไม่ยอมหยุดที่จะต่อยเจ้านกที่รุมทำร้ายมาตาร์อยู่ จนสุดท้ายอาการบาดเจ็บก็สะสมจนทั้งสามร่างก็สลายกลายเป็นแสงไป

    “โธ่เว่ยยย!! อีกแล้วเหรอเนี่ย!!” มาตาร์ที่ทนอึดกว่าสบถออกมาเมื่อเห็นว่าเขาไม่สามารถปกป้องทั้งสามได้อีกครั้ง

    “ย้ากกก!!!

    ตู้มม!! ตู้มม!! ตู้มม!! ตู้มม!!

    มาตาร์ฝืนต่อยหมัดความเร่งแบบสุดตัวออกมาติดๆกันถึงสี่หมัดใส่นกตัวหนึ่ง ทำให้มันตายไปทันที แต่ทว่า กำลังทั้งหมดของเขาก็หมดไปด้วย สุดท้ายแล้วเขาก็ทำได้แค่ฆ่านกแร้งไปหนึ่งตัวเท่านั้น ก่อนจะตาย ...อีกครั้ง

     

    “ผู้เล่นมาตาร์เสียชีวิต ท่านสามารถเข้าสู่เกมได้ในอีกหนึ่งชั่วโมง พื้นที่พิเศษสามารถออฟไลน์ได้ค่ะ”

    “คลาร่า! โมเรน่า! บราวนี่! ทำไมไม่หนี!!” มาตาร์ตะคอกใส่สามสาวน้อยทันทีที่รู้สึกตัวขึ้นมาบนโซฟา เขาโกรธที่ทั้งสามเข้ามาช่วยเขาแทนที่จะวิ่งหนีไป

    “ยังไงก็ตายจะหนีทำไมล่ะคะ” คลาร่าตอบหงอยๆกลับมา

    “ก็แค่ตายเร็วหรือตายช้าเท่านั้นแหละ” เป็นโมเรน่าที่ตอบเหมือนไม่ใส่ใจ

    “แต่มันเจ็บนี่นา พี่ไม่อยากเห็นพวกเธอเจ็บ!!” มาตาร์เสียงดังใส่

    “มาตาร์เจ็บ บราวนี่ก็เจ็บ” คำพูดของบราวนี่ เล่นเอามาตาร์ชะงัก แล้วต้องหันหน้ากลับไปเพื่อซ่อนน้ำตาที่ซึมๆออกมา

    “คุณหนูทั้งสามเธอรักคุณมาตาร์นะครับ อย่าว่าเธอเลย” เสียงนุ่มๆของพ่อบ้านพูดขึ้นเพื่อลดความร้อนแรงให้มาตาร์

    ไม่ใช่ว่าชายหนุ่มจะไม่เข้าใจว่าสามสาวน้อยเป็นห่วงเขาขนาดไหน แต่อย่างไรเสียเขาก็ไม่อยากให้มันเป็นอย่างนี้อยู่ดี อุตส่าห์รับภารกิจธาตุลม เพื่อที่จะไม่ให้สถานการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น แต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้อยู่ดี เขาจึงรู้สึกเจ็บใจตัวเองที่ไม่สามารถปกป้องพวกเธอได้

    “ขอโทษนะ ที่พี่ขึ้นเสียงใส่พวกเธอ” มาตาร์หันกลับมาแล้วก้มลงกอดสาวๆเอาไว้ ทั้งสามสาวไม่แสดงปฏิกิริยาอะไรออกมามาก โมเรน่าถึงแม้หน้าจะดูบึ้งแต่ก็เห็นว่าใบหน้าดูมีสีขึ้นมาอีกนิดหนึ่งเมื่อถูกกอด

    “ดื่มอะไรเย็นๆกันก่อนดีกว่านะครับ” โฆเซ่ยกน้ำหวานสีสวยมาเสิร์ฟให้ทุกคน พ่อบ้านผู้รู้งานยังคงรักษาจังหวะเวลาได้ดีเสมอ

    “ขอบคุณมากโฆเซ่” มาตาร์รับน้ำหวานมาดื่มแล้วก็รู้สึกว่าอารมณ์เย็นลงอีกเยอะ

    “รอบนี้อยากจะฝึกอะไรเป็นพิเศษรึเปล่าครับ” โฆเซ่ถามขึ้นเมื่อเห็นอารมณ์ของมาตาร์กลับเป็นปกติ

    “อยากได้ท่าไม้ตายที่แรงกว่าเดิมน่ะโฆเซ่” มาตาร์ตอบ

    “ผมว่าท่าหมัดความเร่งถือว่าสมบูรณ์แบบในตัวของมันอยู่แล้วนะครับ อยากให้แรงขึ้นก็เพิ่มแรงใส่เข้าไปได้ แถมคุณมาตาร์ยังเสริมเคล็ดลมหมุนวนอีก” โฆเซ่อธิบายถึงท่าไม้ตายของมาตาร์ที่ดีอยู่แล้ว

    “แต่ผมต่อยเจ้านกนั่นจังๆแต่มันไม่เป็นอะไรเลย ทั้งๆที่หมัดนั้นก็สมบูรณ์แบบดีแล้วนะ” มาตาร์หมายถึงเจ้านกแร้งตัวแรกสุดที่เขากระโดดขึ้นไปต่อยได้จังๆ แต่มันแทบจะไม่บาดเจ็บเลย

    “หมายถึงเจ้าตัวที่บินอยู่ใช่มั้ยครับ” โฆเซ่ถามเพื่อความแน่ใจ

    มาตาร์พยักหน้ารับ

    “หมัดนั่นคุณมาตาร์แค่ต่อยเคล็ดลมหมุนวนใส่มันแบบเบาๆ ก็ย่อมไม่ได้ผลสิครับ” โฆเซ่บอกสาเหตุ

    “เอ๋? ผมว่าใส่เคล็ดความเร่งเข้าไปด้วยนะ” มาตาร์ทบทวน เขาว่าเขาไม่ได้จำผิดนะ ต่อยเองกับมือ

    “เคล็ดความเร่งที่ไหนต่อยโดยเท้าไม่แตะพื้นได้ล่ะครับ” โฆเซ่บอกสาเหตุที่มาตาร์พลาดไป

    “...” ทำเอามาตาร์นิ่งไป

    ปกติเคล็ดความเร่งอาศัยพื้นดินยึดเป็นฐานแล้วส่งกำลังไปที่หมัดผ่านร่างกายทุกส่วน ถ้าไม่ได้ยืนอยู่บนพื้นแล้วมันจะเร่งได้อย่างไร ดังนั้นการต่อยกลางอากาศก็ไม่ต่างกับกระโดดพุ่งเข้าไปต่อยธรรมดาแม้ว่าท่าทางจะคล้ายเพียงใด

    “แฮะๆๆ ต่อยไม่ออกจริงๆด้วย” มาตาร์หัวเราะแก้เขิน จริงๆตัวเองเป็นคนใช้เองน่าจะรู้ตัวด้วยด้วยซ้ำ

    “มาลองฝึกท่าที่ใช้กลางอากาศกันดูก็ได้ครับ” โฆเซ่เสนอหัวข้อการฝึกรอบนี้ แล้วก็เดินนำเข้าห้องฝึกไป

    “จริงๆแล้วมันก็มีวิธีง่ายๆนะครับ เพียงแต่สำหรับคุณมาตาร์แล้วออกจะยากซักหน่อย” โฆเซ่เริ่มบรรยาย

    “ตกลงง่ายหรือยากล่ะเนี่ย” มาตาร์สับสนกับประโยคของโฆเซ่

    “ก็แค่ฝึกเพลงมวยที่ใช้ได้ในทุกสภาวะออกมาไงครับ” โฆเซ่เฉลย

    “แล้วมันยากตรงไหนล่ะ ฝึกก็ฝึกสิ” มาตาร์ไม่กลัวการฝึกอยู่แล้ว

    “ความยากอยู่ตรงที่ คุณมาตาร์ไม่เคยฝึกศิลปะการต่อสู้มาก่อน เท่าที่ผ่านมาใช้แค่ความสามารถในเกมล้วนๆ แต่ที่ผมหมายถึงนี่ คือวิชาที่คนจริงๆใช้กัน ไม่ใช่แค่ความสามารถในเกมครับ แต่ผมก็มีหน้าที่เพียงแค่แนะนำ นั่นหมายความว่าคุณมาตาร์ต้องคิดเพลงมวยขึ้นมาใหม่ด้วยตัวเองนะครับ” โฆเซ่เฉลย

    มาตาร์รับรู้ได้ทันทีว่ามันหมายความว่าอย่างไร  การต่อสู้ที่ผ่านมาทั้งหมด มาตาร์ก็ใช้แต่ความบ้าพลังของตัวเองเอาตัวรอดมาเท่านั้นเอง ไม่ว่าท่าเท้าที่เอาความเร็วเข้าว่า ท่าหมัดที่เอาแรงเข้าว่า มีแต่การใช้แรงอย่างเดียว ไม่ใช่วิชามวยใดใดเลย และเขาก็ไม่ได้เป็นนักศิลปะการต่อสู้ จู่ๆจะให้ไปคิดค้นเพลงมวยเนี่ยนะ แถมไม่ใช่เพลงมวยธรรมดาแต่เป็นเพลงมวยที่ใช้ได้ทุกสภาวะ ยากจนถึงที่สุดจริงๆ

    “โอยย ยากจริงๆด้วยโฆเซ่ ไม่เห็นจะมีส่วนง่ายเลย” มาตาร์เริ่มเห็นทางตันในชีวิตของเขา

    “หรืออีกวิธีก็คิดท่าไม้ตายที่โจมตีได้ในทุกสภาวะขึ้นมาแทน” โฆเซ่เสนออีกทางเลือก

    “เออ อันนี้ง่ายกว่ากันเยอะเลยนะ ใช้ความสามารถในเกม” มาตาร์เริ่มใจชื้นเมื่อยังมีทางเลือกอีกทางที่น่าจะเหมาะกับเขามากกว่า

    “ถ้าอย่างนั้นก็มาดูกันเลยครับว่าคุณมาตาร์มีอะไรให้ใช้บ้างในเวลานี้” พ่อบ้านผู้รอบรู้เริ่มเสนอ

    “ปราณ ...กับเวท ...ไม่สิ มีแต่ปราณกับธาตุลม” มาตาร์คิดดูแล้วว่าถ้าเขาไม่มีอุปกรณ์ใดใดอยู่เวทของเขาก็ไร้ประโยชน์เพราะเวทอสูรที่มีเพียงบทเดียวก็ยังควบคุมไม่ได้ เหลือเพียงแค่ปราณธาตุลมเท่านั้น

    แล้วพ่อบ้านก็เรียกหุ่นไม้ขึ้นมาตัวหนึ่ง ลักษณะมันเหมือนหุ่นเชิดที่ไม่ได้แต่งอะไรเลย

    “หุ่นไม้นี้ผมปรับน้ำหนักให้มันเบามากนะครับ แค่กระทบถูกด้วยแรงเบาๆ มันก็จะปลิวออกไปแล้ว เพราะฉะนั้น การโจมตีที่คุณมาตาร์คิดขึ้นมาต้องสามารถทำร้ายตุ๊กตาไม้ตัวนี้ได้ โดยที่ไม่ใช่แค่ให้มันปลิวออกไปเฉยๆ” โฆเซ่บอกวิธีปฏิบัติ

    ฟุ่บ! ตู้มม!

    มาตาร์ลองของก่อนโดยใช้หมัดความเร่งเต็มกำลัง

    หุ่นไม้ปลิวออกไปตามแรงกระแทกจนกระทบกับกำแพงอีกฝั่ง แต่เมื่อโฆเซ่เรียกมันกลับมา มันกลับไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน

    “อืม แบบนี้นี่เอง เหมือนต่อยลูกโป่งเลยนะ เพียงแต่แข็งแรงกว่ากันเยอะเลย” มาตาร์รับสัมผัสได้ตั้งแต่เขาต่อยออกไปแล้ว มันเบามากจริงๆ แถมยังแข็งมากอีกด้วย

    นี่เป็นการจำลองสภาวะที่มาตาร์และคู่ต่อสู้ลอยอยู่ในอากาศ เขาไม่สามารถโจมตีด้วยแรงเพียงอย่างเดียวได้ ถ้าเป็นลูกโป่งจริงๆอาจจะใช้เข็มเจาะให้มันแตก แต่เป้าหมายจริงๆคือการทำลูกโป่งให้แตกโดยไม่ต้องใช้เข็ม

    “ถ้างั้นก็เพิ่มลมเข้าไปให้มันแตกจากข้างในไงล่ะ” มาตาร์เริ่มเห็นช่องทาง แล้วจะเอาลมเข้าไปยังไงดีล่ะเนี่ย

    “ฮึ้บ!!

    ฟู่วว!

    มาตาร์ปล่อยลมใส่เจ้าหุ่นไม้ตรงๆ แต่มันกลับปลิวถอยไป ไม่น่าโง่เลยตู มันก็น่าจะเป็นอย่างนี้อยู่แล้ว

    “ทำไมไม่ทำให้มันปลิวหนีไปไม่ได้ก่อนล่ะครับ” พ่อบ้านหน้ายิ้มแนะนำ เมื่อเห็นมาตาร์มาถูกทางแล้ว

    “ทำให้มันปลิวไปไม่ได้เหรอ ...ก็ต้องจับมันเอาไว้ก่อนสิ มันจะได้ไม่ปลิว...!!” มาตาร์พูดแบบไม่ได้คิดอะไรมากมาย แต่กลับเหมือนคิดอะไรออก

    ชายหนุ่มพุ่งเข้าไปใช้มือซ้ายคว้าแขนของเจ้าตุ๊กตาไม้นั้นไว้ทันที

    “ฮ่าๆๆๆ ที่นี้ก็หนีไปไหนไม่ได้ล่ะนะ” มาตาร์พูดเหมือนกับได้รับชัยชนะเรียบร้อยแล้ว

    ตุ้บ! ตั้บ! ตุ้บ! ตั้บ!

    มาตาร์อัดเจ้าหุ่นไม้ที่ถูกคว้าแขนเอาไว้ทันทีด้วยมือขวาข้างเดียว

    “นี่แน่ะ! นี่แน่ะ!” มาตาร์รู้สึกได้ระบายอารมณ์ที่ได้อัดใส่เจ้าตุ๊กตาไม้ เขาคงจะเก็บกดจากการถูกฝูงนกแร้งรุมทึ้ง

    แต่ว่าด้วยความเบาของตุ๊กตาไม้ ลำตัวของมันกลับปลิวไปตามแรงหมัดอยู่ดีถึงแม้จะถูกล็อคแขนเอาไว้แล้ว

    “ถ้าอย่างนั้นก็ต้องล็อคขาเอาไว้ด้วย” มาตาร์พูดจบก็ใช้ขาขวาของเขาคล้องขาของเจ้าตุ๊กตาไม้เอาไว้ไม่ให้ลำตัวมันปลิวหนีไป

    ป๊อก! ป๊อก! ป๊อก! ป๊อก!

    หมัดขวาของมาตาร์ซึ่งแทบจะไม่มีระยะจู่โจม ได้แต่อัดเจ้าตุ๊กตาไม้นั่นเบาๆ เหมือนกำลังเคาะเล่นมากกว่า

    “อืม เยี่ยมมากเลยนะครับคุณมาตาร์” พ่อบ้านแสนสะดวกกล่าวชม

    “หา? เคาะไม้เบาๆเนี่ยนะ เยี่ยมตรงไหนโฆเซ่” มาตาร์ไม่แน่ใจว่าพ่อบ้านของเขากำลังพูดประชดหรือเปล่า แต่จากนิสัยของโฆเซ่แล้ว ไม่น่าจะเป็นคนที่พูดจาประชดประชัน

    “คุณมาตาร์ก็คิดเพลงมวยออกมาได้ดีนี่ครับ ขนาดบอกว่าไม่ไหว” พ่อบ้านผู้รู้งานเฉลย

    “หา!?” มาตาร์งงสุดชีวิต กับไอ้แค่ล็อคแขนล็อคขาแล้วต่อยเนี่ยนะ เป็นเพลงมวยแล้ว

    “ถือว่าเป็นเคล็ดของเพลงมวยก็ได้นี่ครับ ล็อคคู่ต่อสู้เอาไว้ก่อน แล้วค่อยจู่โจม แบบนี้ไม่ว่าสภาวะไหนก็ใช้ได้ แม้แต่สภาวะไร้แรงโน้มถ่วง” พ่อบ้านผู้รอบรู้ให้ความกระจ่าง

    ทันใดนั้นมาตาร์เหมือนตรัสรู้ แสงที่ส่องเข้ามาในห้องอันมืดมิดเพียงพริบตา ทำให้เห็นสภาพทั้งหมดในห้องได้

    ภาพจินตนาการในการจับล็อคแขนล็อคขาในแบบต่างๆผุดขึ้นมามากมาย การโจมตีโดยหักกระดูกหรือเล่นงานข้อต่อ

    “แต่ขอบอกเอาไว้ก่อนนะครับ ว่าศัตรูคงไม่ได้ยืนนิ่งๆให้คุณมาตาร์มาจับล็อคกันง่ายๆแบบนี้ ผมว่าคุณควรจะใช้การโจมตีที่ได้ผลอย่างรวดเร็วสยบคู่ต่อสู้ในทันที แถมการจะทำได้ถึงขั้นนั้นคงต้องอ่านการเคลื่อนไหวของศัตรูให้ออกซะก่อน” พ่อบ้านผู้รอบรู้กล่าวขึ้นทำลายจินตนาการของมาตาร์ลงทันที

    จะว่าไป การจับล็อคก็ไม่ได้ง่ายจริงๆ แถมถ้าคู่ต่อสู้แข็งแรงกว่า เราไม่เป็นฝ่ายโดนล็อคซะเองเหรอ มาตาร์คิดขึ้นมา งั้นปัญหาก็กลับมาที่วิธีการโจมตีแบบได้ผลในทันทีที่จับคู่ต่อสู้ได้

    ปั้กก!!

    มาตาร์ลองต่อยหุ่นไม้ด้วยเคล็ดลมหมุนวนดู และพบว่ามันก็ได้ผลดีอยู่เหมือนกัน แต่มันยังไม่แรงพอเพราะเขาต้องใช้กำลังหมัดช่วยด้วย หมัดที่ต่อยจากท่านี้ไม่แรงพอแฮะ จะใช้หมัดความเร่งก็ไม่ได้ ระยะปล่อยหมัดไม่พอ

    ถ้างั้นก็ต้องรวบรวมลมให้เยอะๆ แล้วอัดมันลงไปพรวดเดียว เหมือนอัดอากาศใส่ลูกโป่งอย่างแรง น่าจะได้ผล เมื่อมาตาร์คิดได้ก็แปลงปราณมหาศาลของตัวเองให้เป็นลม แล้วอัดใส่หุ่นไม้ทันที

    ฟู่ววว!!

    ลำตัวของหุ่นไม้สะบัดไปตามแรงลม แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บใดใด

    นี่มันแค่เป่าลมใส่ ไม่ใช่อัดลมใส่ ...งั้นก็ต้องทำให้มันหนาแน่นกว่านี้ บีบมันให้เล็กแล้วอัดลงไปทีเดียว

    มาตาร์คิดแล้วก็ปล่อยลมจากมือขวาออกมาไม่หยุดยั้ง แล้วค่อยๆบังคับมันให้ม้วนมารวมกัน เกิดเป็นพายุหมุนอยู่ในมือ ยังไม่ได้...ไม่แตกต่างจากเคล็ดลมหมุนวนเท่าไหร่เลย ต้องแน่นกว่านี้

    มาตาร์บังคับลมหมุนให้แน่นขึ้นไปอีก จนมันมีสภาพคล้ายกงจักรบางๆ ยังไม่พอ มันใหญ่เกินไป ต้องแน่นกว่านี้อีก

    มาตาร์บีบกงจักรลมนั้นให้แคบเข้า จนมันสั่นหมุนควงไปมา แน่นอีก!’ กงจักรเล็กลมเรื่อยๆแต่ความเสถียรของมันกลับไม่มี มันสาดส่ายไปมาเหมือนจานหมุนบิ่นๆ

    “คุณมาตาร์ลองทำให้มันกลายเป็นทรงกลมไปเลยสิครับ แบบนั้นจะสวยกว่านะ” พ่อบ้านผู้รู้งานพูดออกมาเมื่อเห็นสภาพอันไม่เสถียรของกงจักรลม ซึ่งดูแล้วน่ารำคาญตาเป็นอย่างยิ่ง

    มาตาร์จึงเพิ่มแกนหมุนให้กงจักรลมของเขา และพบว่ามันง่ายกว่าเดิมมาก และสามารถอัดพลังลมเข้าไปได้มากกว่าเดิมด้วย งั้นเพิ่มเข้าไปอีกแกนเป็นสามแกนหมุน เวลาปล่อยออกมาคงกระจัดกระจายแหลกลาญแน่

    แกนหมุนแรกทำให้ลมกลายเป็นกงจักร แกนหมุนที่สองทำให้กงจักรกลายเป็นทรงกลม แกนหมุนที่สามทำให้พลังลมอัดแน่นและรุนแรงยิ่งขึ้น

    เมื่อก้อนลมหมุนในมือของมาตาร์พร้อมแล้ว เขาจึงจับมันอัดใส่ลำตัวของหุ่นไม้ทันที

    ก้อนลมหมุนซึมหายเข้าไปในตัวของหุ่นไม้

    เปรี๊ยยยะ!!

    ร่างของหุ่นไม้แตกกระจุยเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย พายุขนาดเล็กที่มาตาร์อัดใส่ร่างของเจ้าหุ่นปลดปล่อยพลังของมันออกมา เหมือนถูกระเบิดร่างจากภายใน จนแทบไม่เหลือสภาพเดิมเลย

    “ไชโย!! ทำได้แล้ว” มาตาร์เปล่งเสียงออกมาด้วยความดีใจที่เขาสามารถสร้างไม้ตายใหม่ออกมาได้อีกท่าหนึ่ง

    “ผู้เล่นมาตาร์ปฏิบัติตามเงื่อนไข ได้รับท่าปราณ กรุณาตั้งชื่อด้วยค่ะ”

    โอ้ ได้ไม้ตายใหม่จริงๆด้วย ...ชื่ออะไรดีนะ พายุ ...ก้อน ..กลมๆ มาตาร์กำลังคิดถึงลักษณะของไม้ตายของเขาเพื่อตั้งชื่อ

    “ระเบิดวายุ” ชายหนุ่มคิดชื่อได้ตามลักษณะของผลลัพธ์ของมัน ชื่อนี้ก็นับว่าเหมาะสมดี

    “ยินดีด้วยครับคุณมาตาร์ ทีนี้ก็เหลือแค่ฝึกใช้มันให้คล่องเท่านั้นเอง ทำให้เร็วและสูญเสียปราณให้น้อยที่สุด ไม่อย่างนั้นกลับเข้าไปในเกมปราณของคุณมาตาร์อาจจะไม่พอแม้จะปล่อยออกมาแค่หนึ่งลูกนะครับ” พ่อบ้านผู้รอบรู้ไม่รีรอที่จะให้ชายหนุ่มเสียเวลา เพราะยังอยู่ในแมนชั่นแห่งความตายมาตาร์ถึงมีปราณเหลือเฟือให้ใช้ทิ้งขว้างได้ แต่การแปลงปราณมหาศาลให้เป็นก้อนแบบนี้ย่อมสิ้นเปลืองปราณมหาศาล

    “อืม ...แนะนำได้เยี่ยมมากโฆเซ่ ที่บอกให้ทำให้มันเป็นทรงกลมน่ะ” มาตาร์กล่าวชมพ่อบ้านแสนสะดวกของเขา

    โฆเซ่ยิ้มรับ แล้วก็เรียกหุ่นไม้ออกมาอีกหลายตัว

    ชั่วโมงที่เหลือของมาตาร์ เขาฝึกการเข้าท่าล็อคแล้วปล่อยระเบิดวายุทั้งด้านซ้ายและด้านขวา จนกระทั่งเวลาหมด

    “ตอนอยู่ในเกมคุณมาตาร์อาจจะปล่อยได้แค่ลูกเดียวแล้วปราณหมดนะครับ ฝึกฝนบ่อยๆเพื่อเพิ่มปราณจะช่วยได้” พ่อบ้านผู้รอบรู้ย้ำก่อนที่มาตาร์จะกลับเข้าสู่เกม

    “งั้นคงอีกนานสินะ กว่าจะได้ไปแก้แค้นไอ้พวกนกนั่น” มาตาร์ยิ้มกลับมา แล้วก้าวออกจากประตูไปพร้อมกับสาวๆของเขา

    “ช่างเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้เลยนะครับเนี่ย ...ทั้งๆที่เก่งขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็กลับมาได้บ่อยๆ จะเรียกว่ามหาโชคก็คงจะได้ล่ะมั้ง” พ่อบ้านพูดกับตัวเองอย่างชื่นบานในแมนชั่นแห่งความตายนี้

    มาตาร์ผู้ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ไม่ว่าพื้นที่ไหน เขาต้องเอาคืนให้ได้เสมอสิน่า

     

    Rewrite tag: แก้คำผิด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×