คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #211 : บทที่ 204 ถล่มฐานจักรกล
บทที่ 204 ถล่มฐานจักรกล
“จำได้ว่าพิกัด ...เอ้อ A..B..C.. อะไรซักอย่างประมาณนี้แหละ ระยะทางสามแสนกิโล” ชายหนุ่มหัวฟูเอ่ยขณะอยู่ที่ท่าอวกาศเพื่อทำการออกไปด้านนอกสถานีเอ็นวาย เขากำลงัจะกลับไปสู่สนามรบที่เป็นแหล่งกบดานของอสูรจักรกล
“422A335B784C ครับ เดี๋ยวผมเซ็ตจุดหมายให้เลย” พ่อบ้านเสียงนุ่มเอ่ยผ่านร่างที่เป็นโมโนไบค์คันใหญ่ พร้อมกับหน้าจอบริเวณหน้าปัดที่กำลังตั้งค่าจุดหมายด้วยตัวเอง
“จำได้ด้วยเหรอสไลปนีร์ ...สะดวกดีจัง” ชายหนุ่มกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ตอนนี้แอฟโรสามารถเดินทางในอวกาศได้ด้วยโมโนไบค์ของเขา ซึ่งกลายเป็นยานอเนกประสงค์สามารถเดินทางได้ทั้งทางบก บินบนฟ้า ดำน้ำ หรือกลายเป็นยานอวกาศ ซึ่งเกิดจากความช่วยเหลือของช่างตีเหล็กที่เก่งที่สุดในเกมจ็อคออนไลน์
โมโนไบค์เปลี่ยนร่างไปเพื่อให้เหมาะสมกับการเดินทางในอวกาศ ล้อพับเก็บเข้าไปแล้วก็มีกระจกใสคลุมเข้าไปที่ที่นั่งคนขับ
และเมื่อชายหนุ่มหัวฟูขึ้นไปนั่งบนยานอวกาศลำเล็ก ประตูของสถานีอวกาศที่เชื่อมกับอวกาศก็เปิดออกทันที
“ไปเลยสไลปนีร์!” ชายหนุ่มหัวฟูเอ่ยพร้อมกับบิดคันเร่งออกตัว แล้วยานอวกาศสีเท่าขนาดเล็กก็พุ่งออกจากสถานีอวกาศแล้วเปล่งแสงที่แสดงถึงการเดินทางผ่านทบอวกาศ ก่อนที่จะแวบหายไปพร้อมกับเส้นแสงที่ลากไปทางหมู่เกาะดาวินส์
แวบ!
ระยะเวลาเพียงอึดใจ ยานสไลปนีร์ก็มาปรากฏบริเวณหมู่โขดหินโสโครกที่ล่องลอยอยู่ในอวกาศ ซึ่งบริเวณนี้นอกจากหินแล้วยังมีเศษซากของจักรกลล่องลายอยู่เต็มไปหมด
“ดูเหมือนจะมาถูกที่นะ สุดยอดไปเลยแฮะ” ชายหนุ่มหัวฟูเอ่ยด้วยความรู้สึกทึ่งที่โมโนไบค์ของเขาสามารถเดินทางในอวกาศได้ไม่ต่างกับยานอวกาศธรรมดา ๆ เลยทั้งที่มีขนาดเล็กนิดเดียว
“แต่ว่าไปอยู่ที่ไหนกันล่ะเนี่ย” แอฟโรมองไปรอบ ๆ บริเวณผ่านกระจกใสที่คลุมที่นั่งคนขับอยู่ก็ไม่เห็นว่าพวกเพื่อน ๆ ของเขาจะอยู่ที่ไหนเลย
“เดี๋ยวผมตรวจสอบปฏิกิริยาของอนุภาคดิโอสให้ครับ” พ่อบ้านเสียงนุ่มคอยบริการ เขาใช้ฟังก์ชั่นตรวจอนุภาคที่มีอยู่ในยานโดยไม่ต้องให้คนขับแตะต้องอะไรเลย
“สุดยอด มีอะไรที่ไอ้เครื่องนี้ทำไม่ได้บ้างเนี่ย” แอฟโรยังคงเอ่ยด้วยความรู้สึกทึ่ง
“พบความอนุภาคดิโอสความเข้มข้นสูงทางด้านนั้นครับ ผมจะขับไปให้เลยนะครับ” พ่อบ้านพูดพร้อมกับยานที่บินไปเองตามทิศทางที่ตรวจเจอสิ่งผิดปกติทันที
ช่างเป็นยานที่สะดวกสบายดีแท้ การจับคู่กับยานอเนกประสงค์และพ่อบ้านแสนสะดวกทำให้ชีวิตของชายหนุ่มหัวฟูง่ายขึ้นเยอะ เขานั่งยิ้มอยู่ในยานพร้อมกับผิวปากอย่างสบายอารมณ์
“ดูเหมือนกำลังต่อสู้กันอยู่นะครับ ถ้าพุ่งเข้าไปทั้งอย่างนี้ก็จะเข้าสู่สนามรบเลย คุณแอฟโรจะลองโหมดหุ่นรบของเครื่องดูมั้ยครับ” พ่อบ้านให้คำแนะนำ
“เอาสิ” ชายหนุ่มหัวฟูตอบรับ
แล้วทันใดนั้นหัวของชายหนุ่มหัวฟูก็มีเครื่องครอบสีดำคลุมทั้งหัวปรากฏขึ้นมา ซึ่งมันเป็นฟังก์ชั่นที่ติดอยู่กับชุดสีดำที่วัลแคนให้มานั่นเองซึ่งทำให้ร่างของเขาดูราวกับจักรกลตัวสีดำขนาดเท่ามนุษย์ แล้วยานอวกาศก็เปลี่ยนร่างเป็นหุ่นยนต์ โดยมีแขนกับขาขนาดใหญ่หุ้มไปที่แขนขาของชายหนุ่มและมีส่วนหัวสวมทับอีกที
“ระบบเคลื่อนไหวโดยใช้ร่างกายคุณแอฟโรเป็นหลักครับ มันเหมือนชุดเกราะมากกว่าหุ่นยนต์ แต่ทุกการเคลื่อนไหวชุดเกราะนี้จะทำหน้าที่เสริมกำลังให้ และยังมีอาวุธเสริมเป็นปืนมินิกันและปืนลำแสง มีระบบรวบรวมอนุภาคดิโอสเพื่อเพิ่มพลังป้องกันด้วยครับ” พ่อบ้านเสียงนุ่มรายงาน
“แล้วระบบขับเคลื่อนล่ะ ผมจะพุ่งไปมาในอวกาศได้ยังไงอ้ะ” ชายหนุ่มหัวฟูถาม
“ระบบขับเคลื่อนที่แขนขาเชื่อมกับชุดรบสีดำของคุณแอฟโร ส่วนตัวขับเคลื่อนอื่น ๆ ใช้พลังจิตสั่งการครับ” พ่อบ้านรายงาน
“ระบบขับเคลื่อนอื่น ๆ เหรอ มีตรงไหนบ้าง” แอฟโรถาม
“ที่หลังเป็นตัวขับเคลื่อนหลักมีกำลังแรงสุดสามารถเปลี่ยนทิศทางได้อิสระ และมีตรงหน้าอกด้านหน้าด้วยครับ” พ่อบ้านรายงาน
“โอเค ถ้างั้นก็ไปกันเลย ทางไหนนะสไลปนีร์” ชายหนุ่มหัวฟูถามอีกครั้ง
“ผมจะแสดงผลการตรวจสอบอนุภาคดิโอสที่หน้าจอให้ครับ” พ่อบ้านกล่าวพร้อมกับแสดงเลขและเครื่องหมายลูกศรต่าง ๆ ขึ้นตรงหน้าของชายหนุ่มหัวฟู ภาพที่ปรากฏไม่ต่างจากการมองตามปกติ แต่มีลูกศรและตัวเลขต่าง ๆ บอกด้วยเท่านั้นเอง
และเมื่อระบบต่าง ๆ พร้อมแล้ว หุ่นรบขนาดสามเมตรตัวสีเทาก็พุ่งไปยังสนามรบทันที
วูม~~!
ร่างสีเทาสะท้อนแสงพุ่งหลบก้อนหินขนาดน้อยใหญ่ไปเรื่อย ๆ ซึ่งก้อนหินที่มีจำนวนมหาศาลทำให้การเคลื่อนที่ช้าลงไปพอสมควร
“ตรวจพบอนุภาคดิโอสเข้มข้นสูงเป็นพิเศษครับ” พ่อบ้านรายงาน ดูเหมือนจะมีความเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นที่สนามรบแล้ว
“เราไปเร็วกว่านี้ได้มั้ยสไลปนีร์” ชายหนุ่มหัวฟูเริ่มร้อนใจ
“เปิดโหมดรวบรวมอนุภาคดิโอสเพิ่มพลังป้องกัน คุณแอฟโรสามารถพุ่งทะลวงก้อนหินพวกนี้ไปได้เลยครับ” พ่อบ้านรายงานพร้อมกับร่างสีเทาที่เริ่มมีละอองสีขาวสะท้อนแสงฟุ้งอยู่รอบ ๆ
“เยี่ยม!” ชายหนุ่มหัวฟูเอ่ยชมครั้งหนึ่งแล้วก็พุ่งเป็นเส้นตรงทะลวงก้อนหินน้อยใหญ่ไปทันที
ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!
เหล่าก้อนหินแตกกระจายออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ เมื่อมันโดนดาวหางสีเทาพุ่งทะลวง
และแล้วชายในชุดรบสีเทาก็เข้ามาสู่ฐานทัพที่ซ่อนอยู่ในหินที่ใหญ่ขนาดดาวเคราะน้อย เขาพุ่งผ่านเศษซากของอสูรจักรกลเข้าไปจนถึงบริเวณที่หุ่นยนต์ยักษ์ขนาดเท่าตึกห้าชั้นสามตัวและหุ่นยนต์เล็ก ๆ ขนาดเท่าตัวคนอีกนับพันกำลังสู้กันอยู่
ขณะนั้นเองกำปั้นยักษ์กำลังพุ่งเข้าไปหาหญิงสาวผมทองที่หมดทางหนี
‘พอส!’ (Pause)
ในช่วงเวลาที่หยุดนิ่งในความคิด แอฟโรเริ่มพิจารณาสิ่งที่เขาต้องทำ
‘โอลีฟดูท่าทางยังปลอดภัยดี ทาเนียกำลังแย่ ส่วนอาร์แซน...หืม กำลังทำอะไรน่ะ’ ชายหนุ่มหัวฟูมองเห็นไพ่ที่พุ่งเข้าไประหว่างกำปั้นยักษ์ที่ลอยอยู่กับหญิงสาวผมทอง ‘โห แม่โจรพันหน้านี่คิดจะปกป้องคนอื่นด้วยเหรอเนี่ย’
ดังนั้นทิศทางที่แอฟโรควรจะพุ่งไปก่อนก็คือแม่โจรสาวที่กำลังจะรับการโจมตีให้ทาเนียนั่นเอง
ฟิ้ว!
ร่างสีเทาพุ่งเข้าไปหาอาร์แซนแล้วหยุดอยู่ตรงร่างของเธอก่อนจะกางบาเรียร์พร้อมกับเสริมอนุภาคดิโอสเพื่อป้องกันการโจมตีที่จะเข้ามาถึง
เปรี้ยง!!
เพียงพริบตาต่อมากำปั้นขนาดสามเมตรพุ่งเข้ามาชนร่างของแอฟโรในชุดเกราะจักรกลและอาร์แซนจนเกิดเสียงดังสนั่นพร้อมกับกดร่างของทั้งคู่ให้จมหายเข้าไปในพื้นเหล็ก แต่ทว่าพลังป้องกันของเกราะจักรกลนั้นยังสูงกว่าการโจมตีในครั้งนี้ ทำให้ทั้งคู่ปลอดภัย
“เธอนี่ก็เสียสละเป็นเหมือนกันนี่นา ชั้นต้องมองเธอใหม่แล้วยัยโจรพันหน้า” แอฟโรพูดขึ้นก่อนจะพุ่งออกจากหลุมไปทันที ซึ่งขณะนั้นอาร์แซนยังอยู่ในช่วงขณะที่กำลังแปลกใจเพราะว่าเธอยังไม่ตาย
“...นายหัวฟูเหรอ?” อาร์แซนเอ่ยออกมาอย่างไม่แน่ใจ เพราะเธอคาดไม่ถึงว่าคนที่รับการโจมตีให้เธอเมื่อสักครู่จะเป็นแอฟโรไปได้ เพราะก่อนเขาตายไปครั้งที่แล้วยังป้องกันแค่ลำแสงพลังงานธรรมดาไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่นี่กลับมารับการโจมตีที่แรงกว่านั้นไม่รู้กี่ร้อยเท่าได้อย่างสบาย
และเมื่อหญิงสาวผมดำแซมม่วงได้สติเธอก็แวบหายไปปรากฏตัวบริเวณเหนือสนามรบทางพื้นที่ด้านหนึ่งทันที
“ไม่ต้องให้นายมาช่วย ชั้นก็พอจะหลบพ้นเองได้หรอกย่ะ” แม่โจรสาวเอ่ยออกมาพร้อมกับปาไพ่ไปที่หญิงสาวผมทองที่ยังโดนล้อมอยู่พร้อมกับพลิกไพ่เรียกร่างของเธอออกมาอยู่ข้าง ๆ เธอทันที
ขณะนั้นเองที่ชายหนุ่มหัวฟูในชุกรบสีเทาเพิ่งจะทำลายจักรกลขนาดยักษ์ได้ตัวหนึ่งแบบสบาย ๆ
“อาร์แซน! เธอยังไม่ตาย” หญิงสาวผมทองเอ่ยอย่างดีใจ
“พอดีว่านายหัวฟูมาช่วยทันน่ะ” แม่โจรสาวตอบ
“หืม? คุณแอฟโรมาที่นี่เหรอ แล้วไปไหนแล้วล่ะ” ทาเนียถาม
“ก็ไอ้ตัวสีเทานั่นไง นายหัวฟูน่ะ” แม่โจรสาวตอบ
“หา!?” หญิงสาวผมทองอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ
“ก็ไม่แน่ใจหรอก” อาร์แซนเอ่ยเรียบ ๆ
“ไปทำอะไรมาถึงได้เก่งขึ้นขนาดนี้เนี่ย” ทาเนียเอ่ยออกมาด้วยความสงสัย
“เอาเถอะ เราไปช่วยยัยผมเขียวกันก่อน ปล่อยเจ้าพวกตัวใหญ่ให้หมอนั่นจัดการไปละกัน” อาร์แซนตัดบทพร้อมกับกระโดดลงไปกลางวงอสูรจักรกลตัวเท่ามนุษย์
แล้วหญิงสาวผมทองก็กระโดดลงมาร่วมด้วย ก่อนจะช่วยกันเปิดทางไปหาโอลีฟที่ยังคงสู้ติดพันกับอสูรจักรกลนับพันอยู่คนเดียว
ส่วนแอฟโรก็พุ่งไปหาเจ้ายักษ์เหล็กตัวต่อไป
ตูม! ตูม!
กำปั้นของอสูรจักรกลยักษ์สองตัวผลัดกันต่อยเข้าไปบริเวณพื้นที่นักรบจักรกลสีเทายืน แต่นักรบสีเทาก็หลบได้ทั้งหมด ส่งผลให้พื้นโลหะมีสภาพบิดเบี้ยวและแตกหักมากขึ้นเรื่อย ๆ
“ทำแบบเดิมมั้ยสไลป กระชากหัวมันแล้วยิงแสงอัด” ชายหนุ่มหัวฟูถามความเห็นชุดเกราะที่เขาสวมอยู่
“เกรงว่าจะไม่ได้เพราะตอนนี้เรากำลังถูกรุมอยู่ครับ เราคงจะถูกโจมตีขณะกำลังดึงหัวจักรกลตัวใดตัวหนึ่ง” พ่อบ้านหุ่นยนต์ตอบ
“อืม เรามีอะไรให้ใช้บ้างเนี่ย ปืนแสง ปืนกล ...น่าจะไม่ได้ผลกับเจ้าตัวใหญ่นี่ทั้งนั้นเลยแฮะ” ชายหนุ่มหัวฟูบ่นขณะเคลื่อนตัวหลบกำปั้นยักษ์ไปด้วย
“ให้เลดี้ออกไปช่วยสิ เดี๋ยวเลดี้ไปเป็นเหยื่อล่อให้เอง” เสียงแม่เต่าทองสาวดังแทรกขึ้นมา เธอพูดออกมาผ่านผนึกที่เข็มขัด
“อ๊ะ! จริงด้วยสิ ถ้าผมกับเลดี้ออกไปล่อตัวนึง แล้วสไลปไปจัดการตัวที่เหลือก็ได้นี่” ชายหนุ่มหัวฟูปิ๊งขึ้นมา
“ถ้าผมบังคับร่างชุดเกราะนี่คนเดียวกำลังจะไม่พอที่จะดึงหัวของจักรกลยักษ์ออกมาครับ เพราะหน้าที่ของชุดเกราะคือช่วยเสริมกำลังของผู้สวม ไม่ได้มีกำลังมากขนาดนั้นเมื่อไม่มีผู้สวมใส่” พ่อบ้านให้ข้อมูล
“ถ้างั้นให้เลดี้สวมชุดแล้วผมไปล่อมันเองล่ะ” แอฟโรยังพยายามที่ไม่ให้ผู้ติดตามเขาไปเสี่ยง
“ชุดเกราะนี่เชื่อมต่อได้กับเฉพาะชุดสีดำที่คุณแอฟโรสวมเท่านั้นครับ ไม่สามารถเชื่อมต่อกับบุคคลอื่นได้” พ่อบ้านให้ข้อมูลเรื่องข้อจำกัดของชุด
“อืม จะว่ารัดกุมหรือยุ่งยากดีล่ะ ในเมื่อผมมีพ่อบ้านคอยเฝ้าชุดเกราะป้องกันคนอื่นเอาไปใช้งานอยู่แล้ว แต่ดันมีระบบกรองคนใส่อีกชั้นนึงด้วยนี่สิ” แอฟโรบ่นออกมาถึงสิ่งที่ซ้ำซ้อนหน้าที่กันของชุดเกราะของเขา
“ให้เลดี้ออกไปสู้สิ” เด็กสาวยังเรียกร้อง
“เอางี้ละกัน เลดี้ไปสู้กับพวกพี่สาวตรงโน้นนะ เดี๋ยวพี่จัดการสองตัวนี่เอง พอจะคิดอะไรออกแล้ว” ชายหนุ่มหัวฟูพูดจบเขาก็ปลดเกราะสีเทาออกจากร่างทันที “สไลปช่วยล่อสองตัวนี้เอาไว้ก่อน”
พรวด!
ร่างของชายหนุ่มในชุดรบสีดำทั้งตัวแม้กระทั่งใบหน้าสวมแจ็คเก็ตสีขาวกระเด้งออกมาจากเกราะสีเทา
“คุณแอฟโรพกอาวุธไปด้วยครับ” พ่อบ้านหุ่นรบพูดพร้อมกับปลดทอนฟาขนาดใหญ่ที่แขนออกมาแล้วโยนไปให้ชายหนุ่มชุดดำทันที ก่อนที่ร่างเหล็กสีเทาจะพุ่งเข้าไปที่หัวของหุ่นยนต์นักษ์ตัวหนึ่ง
หมับ!
แอฟโรรับทอนฟาทั้งสองกลางอากาศก่อนจะพุ่งตรงไปยังทิศที่สาว ๆ อยู่ทันที
ปึ้ง! ปึ้ง! ปึ้ง!
นักสู้ชุดดำใช้ส่วนกำปั้นของทอนฟาซึ่งมีขนาดใหญ่ทุบโดยการออกท่าต่อยพร้อมกับเร่งความเร็วด้วยไอพ่นที่ออกมาจากปลายอีกด้านไปที่เหล่าอสูรจักรกลที่ขวางทางอยู่อย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลให้อสูรจักรกลกระเด็นไปพร้อมกับร่างที่แตกหักไปทันที
การฝึกฝนใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่เพิ่งจะได้นำมาใช้งานตอนนี้นี่เอง ประกอบกับฝีมือต่อสู้ระยะประชิดที่มีอยู่เดิมทำให้ชายหนุ่มหัวฟูร้ายกาจไม่ใช่เล่นเลย แต่ที่ร้ายสุด ๆ น่าจะเป็นอุปกรณ์ที่นำมาใช้งานอยู่นี่มากกว่า เพราะมันช่วยทดแทนค่าสถานะอันต่ำเตี้ยของเขาได้ดี
และเมื่อแอฟโรบุกเข้ามากลางวงของสาว ๆ ได้ เขาก็ปลดหน้ากากออกให้เห็นหน้าและหัวฟู ๆ นั่นชัด ๆ
“เลดี้ออกมาได้” ชายหนุ่มหัวฟูกล่าว
แวบ!
ร่างของเด็กสาวผมแดงในชุดพร้อมรบในอวกาศปรากฏขึ้นมาตรงหน้าเขา
“คุณแอฟโรจริง ๆ ด้วย” ทาเนียเอ่ยทักออกมาก่อนขณะที่ไม่ได้หยุดมือ
“ฝากเลดี้ไว้ที่นี่หน่อยนะ เดี๋ยวผมจะไปเก็บเจ้าสองตัวนั่นก่อน” แอฟโรกล่าว
“อย่าทำให้มันเสียหายมากนะ ชิ้นส่วนของมันน่าจะมีอะไรดี ๆ ให้ชั้นใช้” โอลีฟกล่าวโดยไม่ได้แสดงอาการตื่นตกใจใด ๆ เพราะเธอไม่ได้สนใจรายละเอียดอื่น ๆ นอกจาก “เอ้อ! แล้วเดี๋ยวเอาหุ่นยนต์ของนายมาให้ชั้นเก็บข้อมูลด้วยล่ะ”
“ยัยคลั่งหุ่นเอ๊ย!” แอฟโรกล่าวทิ้งท้ายพร้อมกับพุ่งตัวกลับไปที่พ่อบ้านหุ่นยนต์ของเขาที่กำลังพัวพันกับจักรกลยักษ์สองตัวทันที
พวกสาว ๆ ไม่ถามไถ่อะไรให้มากความเพราะรู้ดีว่านี่ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม ศัตรูตรงหน้านั้นเยอะเกินกว่าที่จะมาใส่ใจรายละเอียดอื่น ๆ ตอนนี้
และเมื่อแอฟโรพุ่งฝ่าอสูรจักรกลกลับมาหาพ่อบ้านของเขาได้แล้ว เขาก็ทำการรวมร่างทันที
“สไลป! สวมเกราะ” ชายหนุ่มหัวฟูตะโกนพร้อมกับกระโดดพุ่งตัวเข้าไประหว่างหุ่นยนต์ยักษ์ทั้งสองตัว
หน้ากากสีดำขึ้นมาคลุมหน้าอีกครั้งก่อนที่หุ่นยนต์ตัวสีเทาจะกระโดดมาอยู่ตรงหน้าของชายหนุ่มชุดดำแล้วกลับตัวเปิดด้านหลังให้ชายหนุ่มที่ถือทอนฟาขนาดใหญ่วิ่งเข้าไปทันที
แกร็ก! แกร็ก!
ชุดเกราะถูกสวมใส่อย่างรวดเร็วโดยไม่เสียจังหวะ พร้อมกับทอนฟาที่ย้ายไปอยู่ในมือของชุดเกราะสีเทาด้วยความรวดเร็ว
“เราจะให้มันโจมตีกันเอง จนกว่าจะมีโอกาสเราค่อยจัดการมันทีละตัว” แอฟโรบอกแผนที่เขาจะใช้
“ครับผม” พ่อบ้านหุ่นยนต์ขานรับ
แล้วร่างสีเทาขนาดสามเมตรก็กระโดดขึ้นไปที่หัวของเจ้ายักษ์เหล็กตัวหนึ่งทันที
ปึ้ง! ตูมม!!
กำปั้นเล็ก ๆ ของนักรบสีเทาต่อยเข้าไปที่หัว ก่อนที่กำปั้นขนาดสามเสมรของหุ่นตัวใหญ่จะต่อยเข้าไปที่ร่างสีเทานั้นอีกที
“ทนไหวมั้ยสไลปนีร์” ชายหนุ่มถาม
“เพิ่มอนุภาคดิโอสในการป้องกันทำให้ไม่ได้รับความเสียหายมากครับ แต่คงจะรับตรง ๆ แบบนี้ได้อีกครั้งเดียว” พ่อบ้านตอบ
สิ่งที่แอฟโรทำคือ การทำตัวเองให้เป็นตะปู โดยมีหุ่นยักษ์ตัวหนึ่งเป็นคนคอยตอกตะปูลงไปบนหัวของหุ่นยักษ์อีกตัวหนึ่ง
“แหม ถ้ามีอาวุธเป็นระเบิดก็ดีนะสิ จะได้พังหัวเจ้าพวกนี้ได้ง่าย ๆ” แอฟโรบ่นออกมาโดยไม่ได้คาดหวังกับคำตอบ
“มีมิซไซล์สองแผงที่ขานะครับ” พ่อบ้านให้ข้อมูล
“อ้าวเหรอ แบบนี้ก็ง่ายน่ะสิ” แอฟโรเอ่ยพร้อมกับกระโดดขึ้นสูงทันทีก่อนจะโดนอัดอีกครั้ง พร้อมกับขาด้านข้างที่เปิดออกมาเห็นจรวดมิซไซล์ขนาดเล็กเรียงกันเป็นตับ
แกร็ก! ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!
ชายหนุ่มล็อกเป้าด้วยสายตาไปที่หัวของเจ้าหุ่นทั้งสองก่อนจะปล่อยจรวดออกไปยกแผงทันที
ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!
จรวดทั้งหมดเข้าเป้า ทำให้หัวของหุ่นยนต์ยักษ์ทั้งสองขาดแหว่งไปทันที แต่ว่ามันก็ไม่ได้หยุดเคลื่อนไหวเมื่อจุดตายของมันอยู่ภายใต้หนาอกที่มีเกราะหนานั่น
ตึง!
หุ่นยนต์ยักษ์ตัวหนึ่งกระโดดตามขึ้นมาทั้ง ๆ ที่หัวของมันแหว่งไปแล้วพร้อมกับยื่นมือของมันออกมาข้างหน้า
ปุ้ง!
มือยักษ์ของหุ่นยนต์พุ่งออกมาแล้วคว้าร่างของนักรบชุดเทาเอาไว้ ร่างของเขาปลิวออกไปพร้อมกับมือยักษ์ทันที
ตูม!!
กำปั้นยักษ์ระเบิดออกทันทีแล้วแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ทิ้งร่างของนักรบสีเทาที่มีแขนข้างซ้ายกุดลงไป ในช่วงเวลาวิกฤตนั้น แอฟโรรวมพลังไปที่ชิ้นส่วนแขนข้างซ้ายแล้วระเบิดมันทิ้งไปทันทีพร้อมกับอาวุธในมือ ส่งผลให้เขารอดจากการถูกพันธนาการไปได้อย่างรวดเร็ว
แล้วชายหนุ่มในชุดรบก็พุ่งตัวสวนกลับไปยังร่างของเจ้าหุ่นยนต์ยักษ์ทันที ก่อนจะเอาแขนที่เหลืออีกข้างจ่อไปที่หัวที่กลวงโบ๋ของมัน
แซด~~!
ลำแสงพุ่งออกมาแทรกเข้าไปในลำตัวของหุ่นยนต์ยักษ์ ทำให้ร่างของมันแน่นิ่งไปกลางอากาศ แล้วก็ตกลงมาอย่างไร้การควบคุม
ตึง!!
แต่เจ้าหุ่นยักษ์อีกตัวหนึ่งก็ไม่รอช้า มันยิงแขนข้างหนึ่งของมันออกมาทันที พร้อมกับยิงกระสุนที่อยู่ข้างในออกมาด้วย
ปุ้ง! ปัง!!
แอฟโรพริ้วตัวหลบมือยักษ์ไปได้ แต่ว่าทันใดนั้นกระสุนขนาดหนึ่งเมตรก็พุ่งเข้ามาที่ร่างของเขาทันทีโดยไม่อาจหลบหนีได้เลย ช่วงพริบตาก่อนที่กระสุนจะโดนเข้าไปกลางลำตัว ชายหนุ่มหัวฟูก็ยกขาข้างขวาขึ้นมาเพื่อป้องกันกระสุนนัดนั้น
เปรี้ยง!!
กระสุนเปลี่ยนทิศไปเล็กน้อยพร้อมกับร่างของนักรับสีเทาสะบัดและหมุนคว้างอย่างควบคุมไม่ได้พร้อมกับขาข้างขวาที่ขาดวิ่นไป
“ฮึ้ย!” แอฟโรแค่นเสียงออกมาด้วยความเจ็บใจ เขาประมาทเกินไป พึ่งพาอุปกรณ์มากเกินไปทำให้เสียท่าแบบนี้ ชายหนุ่มเริ่มแผ่ขยายจิตรับรู้ของเขาออกมาครอบคลุมรัศมีโดยรอบตัวเขาทันที จริง ๆ เขาควรจะทำแบบนี้ตั้งแต่เข้าสู่สนามรบแล้ว
สิ่งที่ถูกทำลายไปมีเพียงชิ้นส่วนของชุดเกราะเท่านั้นเพราะร่างจริง ๆ ของผู้สวมใส่นั้นยังเล็กกว่าแขนขาของชุดรบมากนัก ดังนั้นชายหนุ่มหัวฟูจึงยังไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ เพียงแต่เคลื่อนไหวเหมือนเดิมไม่ได้แล้วเพราะมีชิ้นส่วนเสียหาย
ปุ้ง! ปัง!
มืออีกข้างหนึ่งของหุ่นยนต์ยักษ์พุ่งใส่นักรบสีเทาที่ร่างยังไม่หยุดหมุน พร้อมกับกระสุนขนาดหนึ่งเมตรที่ยิงไปยังทิศที่เป้าหมายน่าจะหลบไปทางนั้นด้วย แต่แอฟโรก็ไม่หลงกลอีกแล้ว ไอพ่นขับเคลื่อนจากลำตัวด้านหลังดันตัวของเขาให้พ้นจากวิถีโจมตีก่อนที่จะใช้แขนขาข้างที่เหลือปล่อยไอพ่นขับเคลื่อนแล้วพุ่งสวนเข้าประชิดตัวของหุ่นยนต์ยักษ์ทันที
และเมื่อร่างของเขาอยู่เหนือลำตัวของหุ่นยนต์ยักษ์ ลำแสงจากแขนข้างขวาก็เจาะเข้าไปที่ส่วนหัวที่ขาดวิ่นทะลวงร่างของเจ้าหุ่นยนต์ยักษ์อย่างรวดเร็ว
แซด~~!!
ลำแสงพุ่งทะลวงภายในเจ้าหุ่นยักษ์ แล้วร่างของมันก็หยุดนิ่งในที่สุด ก่อนที่ร่างสีเทาจะหมุนเพราะแรงเฉื่อยแล้วตกลงมาบนพื้นเหล็กอย่างไร้การควบคุม
“โอเคแอฟโร บุกเข้าไปด้านหลังกันเลย” โอลีฟเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มหัวฟูปราบผู้คุ้มกันที่ร้ายกาจไปหมดแล้ว เป้าหมายของเธอก็คือด้านหลังแนวป้องกันนี้ที่มีปริมาณอนุภาคดิโอสหนาแน่นเป็นพิเศษนี่แหละ
พวกสาว ๆ ต่างพุ่งมาทางชายหนุ่มในชุดรบสีเทาที่อยู่ด้านหน้าประตูหลังแนวรบ โดยหญิงสาวผมเขียวพุ่งร่างผ่านเขาไปแล้วเข้าสู่ประตูคนแรก ขณะที่ทาเนียกับเลดี้มาช่วยกันประคองร่างขนาดสามเมตรสีเทานั่น ส่วนหญิงสาวผมดำแซมม่วงก็อยู่รั้งท้ายและคอยกันพวกตัวเล็ก ๆ ที่พยายามจะบุกเข้ามา ซึ่งตอนนี้การโจมตีส่วนใหญ่กลายเป็นกระสุนแสงที่ปลิวว่อนไปทั่วบริเวณนี้แล้ว
แวบ!
แอฟโรสลายร่างชุดรบสีเทาให้กลับกลายเป็นแผ่นโลหะรูปวงกลม ก่อนจะเสียบมันเข้าไปที่หัวเข็มขัด พร้อมกับถือทอนฟาที่เหลือเพียงข้างเดียวเอาไว้ที่มือขวา
“เฮ้! เข้ามาข้างในได้แล้ว ชั้นติดตั้งบาเรียขวางประตูเอาไว้เรียบร้อย” หญิงสาวผมเขียวพูดขึ้น ที่แท้เธอไปติดตั้งอุปกรณ์ของเธอกับประตูเอาไว้ก่อนนี่เอง
และเมื่อทั้งหมดเข้ามาข้างหลังประตูได้แล้ว โอลีฟก็เปิดบาเรียป้องกันไม่ให้อสูรจักรกลตัวไหนเข้ามารบกวนได้อีก
“โอ้! นี่มันเครื่องกำเนิดอนุภาคดิโอส” หญิงสาวผมเขียวเอ่ยด้วยความตื่นเต้นเมื่อเห็นเครื่องจักรที่มีขนาดใหญ่เท่ารถถัง
“ตกลงเอาไอ้นี่ไปก็กลับได้แล้วใช่มั้ย” อาร์แซนถาม
“คงงั้น...มั้ง” โอลีฟอยากจะสำรวจดูให้ทั่ว ๆ ก่อนว่ามีอะไรให้เธอหยิบกลับไปได้อีกบ้าง แต่ดูเหมือนเพื่อนร่วมทางคนอื่น ๆ จะไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อแล้ว
“คุณแอฟโรไปทำอะไรมาเหรอ อยู่ ๆ ก็เก่งขึ้นมาขนาดนี้” ทาเนียหันไปถามชายหนุ่มหัวฟู
“มันเก่งเพราะของน่ะ พอดีตอนตายกลับเมืองไปเจอคนใจดีให้ของพวกนี้มา” แอฟโรตอบพร้อมกับถือทอนฟาขึ้นมาซึ่งดูเหมือนจะเป็นของชิ้นเดียวในตอนนี้ที่ถือโชว์ได้
“มันเป็นใคร โดยเฉพาะไอ้ชุดรบสีเทาของนายเนี่ย เคลื่อนไหวเองได้ด้วย มันไม่ใช่แค่อุปกรณ์ธรรมดา ๆ แล้วนะ” โอลีฟเอ่ยพร้อมกับเอาลวดสลิงออกมาแล้วเริ่มพันไปรอบ ๆ เครื่องกำเนิดอนุภาคดิโอส ดูท่าทางเธอกำลังวางแผนขนมันกลับไป
“อุปกรณ์มันก็ธรรมดาน่ะแหละ แต่บังเอิญมันเป็นผู้ติดตามเผ่าจักรกลของชั้นเองแหละ” แอฟโรพยายามเลี่ยงรายละเอียดที่ว่าเขามีผู้ติดตามแบบพิเศษที่สิงร่างเครื่องจักรได้ต่างหาก
และแล้วหลังจากที่โอลีฟมัดเครื่องกำเนิดอนุภาคดิโอสติดกับยานอวกาศของเธอเรียบร้อย ก็ถึงเวลาที่ทุกคนจะกลับสู่สถานีอวกาศเอ็นวายกันได้
แอฟโรให้เลดี้กลับไปอยู่ในผนึกแล้วก็ขึ้นยานโดยสารไปกับคนอื่น ๆ เหมือนขามาในตอนแรก
“เราจะออกทางประตูเดิมนะ เดี๋ยวชั้นจะปิดบาเรียแล้วก็ระเบิดประตูออก แล้วเราก็พุ่งกลับบ้านกันเลย” โอลีฟบอกแผนการบิน
และเมื่อหญิงสาวปิดบาเรียพลังงานที่ประตูเธอก็ใช้ปืนจากยานอวกาศของเธอระเบิดประตูออกทันที
วูม ตูม!!
แต่แล้วทันใดนั้นขณะที่ยานกำลังเริ่มออกตัว วัตถุขนาดใหญ่ก็พุ่งลงมาจากด้านบนทันที
ตึง! ตึง! ตึง! ตึง!
หุ่นยนต์ยักษ์ขนาดสามสิบเมตรสิบตัว และขนาดห้าสิบเมตรอีกหนึ่งตัวพุ่งลงมาพร้อมกับคว้าจับเครื่องกำเนิดอนุภาคดิโอสที่อยู่ท้ายยานเอาไว้ทันที
“พวกแกจะต้องตายอยู่ที่นี่ พวกแกจะต้องตายทั้งหมด” หุ่นยนต์ขนาดห้าสิบเมตรส่งเสียงออกมา
“ยัยคลั่งหุ่น ตัดสลิงซะ! ยานเราไม่ได้โดนจับ!” ชายหนุ่มหัวฟูร้องเตือนทันทีเพราะเขายังพอเห็นทางรอด
“ไม่ ชั้นมาเพื่อสิ่งนี้นะ ถ้าทิ้งมันไปก็มาเสียเที่ยวน่ะสิ” หญิงสาวผมเขียวเถียงกลับ
“ตายกันหมดแล้วมันจะเหลืออะไรให้เอากลับอีกเล่า!” แอฟโรกล่าวพร้อมกับพุ่งตัวออกไปนอกยานทันที
“คุณแอฟโร!!” ทาเนียตกใจที่จู่ ๆ ชายหนุ่มหัวฟูก็ออกไปอยู่นอกยาน ‘เทเลพอร์ต?’
“ทาเนีย! พาคนอื่นกลับไป เดี๋ยวจะตายกันหมด” แอฟโรพูดพร้อมกับสะบัดทอนฟาที่มีใบมีดพลังงานเคลือบตัดลวดสลิงที่มัดยานให้หลุดออกไปทันที
และเมื่อยานหลุดออกมันก็พุ่งออกไปอย่างรวดเร็วทันที
“อาร์แซน! ดึงคุณแอฟโรกลับมาเร็ว!” ทาเนียร้องเตือนให้แม่โจรสาวใช้พลังของเธอ
“ไพ่ชั้นหมดแล้วทาเนีย” แม่โจรสาวกล่าว
เมื่อยานพุ่งออกไปแล้วโอลีฟพยายามเลี้ยวยานกลับไป แต่แล้วเธอก็ต้องชะงักเพราะพื้นที่ของฐานลับกำลังเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลกแล้ว
“กลับไปช่วยคุณแอฟโรสิโอลีฟ!” ทาเนียเร่ง
“ไม่ได้ ยานลำนี้ไม่ได้ออกแบบมาให้ฝ่าชั้นบรรยากาศ เราจะตายกันหมดก่อนที่จะช่วยนายหัวฟูได้ซะอีก” หญิงสาวผมเขียวเอ่ยอย่างหมดหวัง
“คุณแอฟโร!!” ทาเนียตะโกนร้องเรียกชื่อชายหนุ่มเมื่อเธอไม่สามารถช่วยเหลือเขาได้แล้ว
แอฟโรลุยเดี่ยวฝ่าชั้นบรรยากาศ ในสภาพอุปกรณ์พัง
ความคิดเห็น