ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    JOQ Online คนจริงลวงโลก <มี E-Book>

    ลำดับตอนที่ #21 : บทที่20: เมโลดี้กับราตรี

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 16.47K
      117
      20 ธ.ค. 54

    บทที่20 เมโลดี้กับราตรี

    การที่จะทำให้สัตว์เลี้ยงมีร่างมนุษย์ได้นั้น ค่าความภักดีสูงสุดต้องถึง1,000 ซึ่งค่าเฉลี่ยในการเพิ่มความภักดีของคนที่เลี้ยงดูอย่างดีที่สุดก็คือ 10ต่อสัปดาห์ ถ้าอยากให้ค่าความภักดีของสัตว์เลี้ยงขึ้นจาก100 ถึง1,000 ต้องใช้เวลาประมาณ 90สัปดาห์ หรือ1ปีกับอีกประมาณ9เดือน

    แต่มาตาร์เลี้ยงสัตว์เลี้ยงสามตัวให้กลายร่างเป็นมนุษย์ได้ ในเวลาเพียง5วันเท่านั้น

    ถ้านำสัตว์เลี้ยงออกมาต่อสู้กับสัตว์อสูรแล้วถูกฆ่าตาย ค่าความภักดีจะลด ...แต่ถ้าเจ้าของยอมตายตามมาด้วยล่ะ?

    เรื่องนี้เป็นความลับที่ไม่มีใครรู้ และถึงรู้ก็ไม่อยากบอกใคร แม้มาตาร์จะไม่รู้ แต่พฤติกรรมการปกป้องสัตว์เลี้ยงของเขาหลายครั้งทำให้ค่าความภักดีขึ้นกระฉูด ทุกครั้งที่สัตว์เลี้ยงตาย อีกสักครู่เขาก็จะตายตามมาเสมอ หรือไม่ก็ตายพร้อมๆกัน ...ด้วยพฤติกรรมเหล่านี้ ยอมตายตามสัตว์เลี้ยง จะไม่ให้ค่าความภักดีขึ้นได้อย่างไร ถึงแม้เขาจะไม่ได้จงใจตายตามมาทุกทีก็เถอะ แต่เมื่อเงื่อนไขนี้สมบูรณ์ ค่าความภักดีเมื่อเขาตายตามสัตว์เลี้ยงมาจะขึ้นถึง 100ต่อครั้ง

    และเมื่อครบ9ครั้ง ค่าความภักดีของสัตว์เลี้ยงก็ขึ้นถึง 1,000

    พวกเธอจึงเกิดใหม่ในร่างมนุษย์

    “คลาร่า? โมเรน่า? บราวนี่?” มาตาร์อุทานออกมาด้วยความแปลกใจกึ่งๆดีใจ และกึ่งๆเสียใจนิดๆ

    ที่แปลกใจก็เพราะ “พวกเธอมีร่างมนุษย์กันแล้วเหรอเนี่ย?”

    ที่ดีใจก็เพราะ “เป็นสาวน่ารักกันจริงๆด้วย”

    และที่เสียใจก็เพราะ “แต่ทำไมเป็นเด็กฟะ ...ชั้นไม่ใช่พวกโลลินะ!!

    เด็กหญิงสามคนสูงกว่าเอวของมาตาร์เล็กน้อย ดูอายุแต่ละคนไม่น่าเกินเด็ก10ขวบ

    “ไม่ต้องเป็นห่วงครับคุณมาตาร์ พวกคุณหนูทั้งสามสามารถเติบโตขึ้นได้” พ่อบ้านผู้รอบรู้บอกให้ชายหนุ่มผู้กำลังกังวลฟัง

    “กว่าจะโตก็สิบปีล่ะมั้ง” มาตาร์พูดเสียงเซ็งๆ แต่พ่อบ้านแสนสะดวกก็ยังยิ้มรับ

    “แล้วนี่ต้องหาเสื้อผ้าให้ใส่กันหมดเลยสิเนี่ย ...แต่ตายบ่อยๆไม่ต้องก็ได้มั้ง” มาตาร์พูดหลังจากมองร่างของเด็กหญิงทั้งสามในชุดว่ายน้ำวันพีซ

    “เจ้านายไม่ต้องลำบากก็ได้ค่ะ คลาร่าขอแค่ได้อยู่ใกล้ๆเจ้านายเท่านั้นก็พอ” เด็กหญิงผมขาวพูดขึ้น

    “เชอะ! ไม่ใส่ก็ไม่ใส่สิ” เด็กหญิงผมดำพูดขึ้นมาอย่างหงุดหงิด

    “งก” เด็กหญิงผมน้ำตาลกล่าวออกมาสั้นๆแค่คำเดียว

    โอ้ มีคาแรกเตอร์ชัดเจนดีแฮะ คลาร่าจะสดใส โมเรน่าจะขี้งอน และบราวนี่จะเฉื่อยๆ มาตาร์คิดหลังจากที่เห็นพฤติกรรมของเด็กหญิงทั้งสามที่แสดงแตกต่างกันออกไปในสถานการณ์เดียวกัน

    “ทั้งสามคนจ๋า ต่อไปเรียกผมด้วยชื่อนะ ไม่ต้องเรียกเจ้านาย เห็นเด็กอายุสิบขวบเรียกตัวเองว่าเจ้านายแล้วรู้สึกเหมือนเป็นพวกใช้แรงงานเด็กมากกว่าอ้ะ” มาตาร์ประกาศกฎข้อแรกออกมา

    “ค่ะมาตาร์” แม่หมาน้อยรับคำเสียงสดใส

    “อืม” แม่แมวน้อยไม่รับคำตรงๆ

    “มาตาร์” แม่นกน้อยช่างเฉื่อยชาเหลือเกิน

    “อ้อ คุณมาตาร์ ผมจะเตือนเอาไว้อย่างหนึ่งนะครับ ต่อไปนี้ผนึกธรรมดาจะผนึกพวกคุณหนูทั้งสามไม่ได้แล้ว ต้องเป็นผนึกพิเศษเท่านั้น ซึ่งที่เมืองเริ่มต้นยังไม่มีขาย” พ่อบ้านแสนสะดวกให้ข้อมูล

    “อืม งั้นช่วงนี้ก็ต้องเดินกันสี่คนตลอดเลยสินะ” มาตาร์ครุ่นคิด

    “แต่ทั้งสามคนมีร่างมนุษย์แล้ว ถ้างั้นก็ฝึกฝนการต่อสู้กันได้ด้วยสินะ โฆเซ่มาช่วยผมหน่อย” มาตาร์เรียกโฆเซ่มาช่วยเทรนสาวน้อยในร่างมนุษย์ทั้งสาม และวางแผนการรบและแผนการขึ้นทักษะทั้งหลายทั้งปวง

    ส่วนอีกด้านหนึ่ง

    “ชั้นจะเป็นมังกร เพราะฉะนั้นเวทมนตร์หรือพลังจิตชั้นไม่สนหรอกย่ะ แล้วแก ยัยเมล แกก็เหมาะกับมังกรมากกว่าตั้งเยอะ แต่ดันไปเลือกเทพ ติดใจนายมาตาร์นั่นมากเหรอไงยะ แถมมีเวทมนตร์แล้วต่างหาก จะเปลี่ยนก็ไม่ทันแล้ว” ราตรีสาวผิวเข้มตาคมพูดกับเพื่อนสาวของเธอหลังจากออกมาจากกอาคารรับรอง

    “ช่างชั้นเถอะน่า ว่าแต่รัต แกจะเปลี่ยนเสื้อผ้ากับอาวุธมั้ย ชั้นมีเงินอยู่ตั้งเยอะแน่ะ” เมโลดี้สาวนัยน์ตาสีมรกตตอบกลับเพื่อนสาวพร้อมยื่นข้อเสนอ

    “ชิ จะใช้เงินปิดปากชั้นเหรอยะ แต่ก็ได้ ชั้นยอม” ราตรีรับข้อเสนอด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง

    หลังจากนั้นทั้งคู่ก็แต่งองค์ทรงเครื่องกันใหม่ ระหว่างนั้นเป็นช่วงที่มาตาร์กำลังถูกรุมฆ่าที่ลานกลางเมืองพอดี

    ทั้งสองได้ชุดและอาวุธคู่ใจ โดยราตรีนั้นเป็นดาบเล็กเรียวยาวที่เรียกว่าเรเพียร์ เน้นการแทงด้วยความรวดเร็วมากกว่าฟาดฟัน ส่วนเมโลดี้นั้นใช้ธนู

    “แกเคยใช้ธนูมาก่อนเหรอ” ราตรีถามเพื่อนสาวหลังจากเห็นอาวุธที่เพื่อนเลือกใช้

    “หึ ไม่เคยหรอก” เมโลดี้ส่ายหน่าปฏิเสธ

    “อ้าว แล้วทำไมเลือกธนูล่ะ” ราตรียังสงสัยถึงพฤติกรรมการเลือกของเพื่อนสาว

    “ก็พอพูดถึงเทพแล้วชั้นนึกถึงธนูนี่นา ดูสูงศักดิ์ดีออก แถมเผ่าเทพก็เน้นอาวุธยิงอยู่แล้วด้วย” เมโลดี้ตอบ

    “แล้วเวทของแกด้วย ชั้นไม่เข้าใจ ว่าทำไมเลือกเวทสายธรรมดาๆแบบนั้น เฮ้~อ แม่คนเพ้อรักเอ๊ย!” ถึงราตรีจะพูดว่าไม่เข้าใจ แต่จริงๆแล้วเธอรู้ว่าทำไมเพื่อนสาวถึงเลือกสายเวทธรรมดาๆอย่างนั้น

     

    ย้อนกลับไปตอนที่มาตาร์ตายเพราะอสรพิษตาเดียว

    เมโลดี้ซึ่งเสียใจกับการตายของมาตาร์อีกครั้ง โดยที่เธอช่วยเหลืออะไรไม่ได้เลย เธอคุยกับเจ้าของร้านเวทมนตร์แล้วก็เลือกสายเวทมาหนึ่งสายจนได้

    “อืม จะเล่นสายนี้เหรอครับ ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ดีนะครับ แต่มันไม่ใช่เวทโจมตี” เจ้าของร้านเตือนหญิงสาว

    “ไม่มีปัญหาค่ะ เพราะดิชั้นเลือกเผ่าเทพอยู่แล้ว ไม่เน้นการโจมตีด้วยเวทค่ะ” เมโลดี้ตอบอย่างมั่นใจ

    และสายเวทที่เมโลดี้เลือกนั้นก็คือเวทสายเกราะป้องกัน

    “ป่านนี้พี่มาตาร์ฟื้นแล้วมั้ง” เมโลดี้พูดขึ้นพร้อมเปิดเมนูของเธอเพื่อติดต่อไปหาชายหนุ่มหลังจากเลือกเสื้อผ้าเสร็จแล้ว แต่ทว่า

    “อ้าว ยังไม่ฟื้นเลยเหรอเนี่ย หรือว่าพี่เค้าออฟไลน์ไปแล้วล่ะเนี่ย” เมโลดี้พูดด้วความผิดหวังหลังจากที่เห็นว่ามาตาร์ยังไม่ออนไลน์แม้จะผ่านไปชั่วโมงกว่าๆแล้ว

    ซึ่งความจริงแล้ว ชายหนุ่มผมแดงตายไปอีกครั้งหลังจากถูกไล่ฆ่าที่ลานกลางเมือง

    “งั้นเราไปกันเองก็ได้ เธอกับชั้นมันไร้เทียมทานอยู่แล้วนี่” ราตรีพูดชวนเพื่อนสาวแล้วออกจากเมืองกันไป

    โดยเป้าหมายของราตรีคือป่าแมวเปลี่ยวที่มีเลือดงูเห่า ของที่ใช้ทำภารกิจของเผ่ามังกร ส่วนเมโลดี้ก็ต้องการเก็บระดับอาวุธให้ถึงสามเพื่อรับภารกิจเสริมพลังจิต

    เวลาเที่ยงคืนที่ลานกลางเมือง ร่างสี่ร่างปรากฏขึ้น

    ตัวสูงหนึ่งและตัวเล็กๆอีกสาม เดินไปหยิบเอาผ้าคลุมยาจกมาแต่งตัว แล้วก็เดินออกจากเมืองไปทางทิศตะวันออกสู่ทุ่งหมาเมิน

    “โอเค เรามาเก็บเงินกันก่อนนะ ทั้งสามคนลงมือด้วยกันเสมอนะ เดี๋ยวพี่จะตามไปห่างๆ คอยเก็บตัวอื่นๆ” มาตาร์สั่งทั้งสามสาวน้อย หลังจากมาตาร์คุยกับสามสาวน้อยแล้ว ก็เลือกคำที่ใช้แทนตัวเองว่าพี่ เพราะมันดูเป็นกันเองที่สุดแล้ว

    ตอนนี้ค่าความภักดีของทั้งสามสูงถึง1,000แล้ว ระยะทำการของการต่อสู้ด้วยกันกว้างใหญ่ถึงห้าร้อยเมตรรอบตัวมาตาร์ นั่นคือ ในรัศมีห้าร้อยเมตรรอบตัวมาตาร์ ไม่ว่าทั้งสามจะสู้ตรงไหน ค่าประสบการณ์ก็จะหารกันเสมอเหมือนมาตาร์เป็นคนฆ่าเองแล้วจับแบ่งเป็นสี่ส่วน

    วิธีสู้ของสามสาวน้อยคือให้บราวนี่คืนร่างเป็นนก พอระบุเป้าหมายได้แล้วคลาร่ากับโมเรน่าจะเข้าโจมตี ส่วนบราวนี่จะพุ่งลงมาจากฟ้าแล้วมาร่วมโจมตีด้วยในร่างมนุษย์ ซึ่งเมื่อก่อนเธอทำไม่ได้

    ที่มาตาร์ให้ทั้งสามสู้ด้วยกันเสมอ เพราะต้องการจะฝึกทักษะรุมสกรัมให้บราวนี่นั่นเอง เพราะถ้าบราวนี่มีทักษะรุมสกรัมเมื่อไหร่ ทีมของเขาจะสามารถสู้ได้แบบทีมของโซล่าร์ซิสฯเรนเจอร์เลยทีเดียว

    ส่วนมาตาร์ใช้เท้าไร้เงา วิ่งไปทั่วทุ่งแล้วตามเก็บกระต่ายด้วยตัวคนเดียว

    ที่มาตาร์ไม่ร่วมโจมตีกับคนอื่นเพราะ การโจมตีของเขาแรงเกินไปถ้าเทียบกับสามสาวน้อย จะกลายเป็นว่าเขาลงมือเองคนเดียวอยู่ดี เดี๋ยวคนอื่นจะไม่ได้ฝึกอะไร

    เมื่อทีมสู้แยกกันเป็นสองทีมเช่นนี้ การเก็บเงินก็เร็วขึ้นสองเท่า

    พอมีเงินพอซื้อเสื้อผ้าได้ เขาก็พาทั้งสามไปซื้อเสื้อผ้าราคาถูกๆใส่ไปก่อนเพื่อกันโป๊เฉยๆ

     

    เวลาตีสาม ทั้งสี่อยู่ในเมืองด้วยกัน มาตาร์ลองคิดถึงความน่าจะเป็นขึ้นมาอย่างหนึ่ง จึงพากันเดินมาที่ถนนทางเลือก

    “ลุง น้องๆผมสามคนนี่ฝึกปราณได้มั้ย” มาตาร์ซึ่งไม่กล้าแวะมาที่นี่หลังจากฝึกปราณ แบกหน้าเข้าไปถามชายชราผู้เป็นเจ้าของภารกิจเสริมปราณ

    “ไม่ได้หรอก ปราณมีไว้ให้มนุษย์ฝึกเท่านั้น ไม่ได้มีไว้ให้พวกสมองเทียมฝึก ถึงร่างกายจะเป็นมนุษย์ก็เถอะ แต่จิตใจต้องเป็นมนุษย์ถึงจะให้ฝึกได้เฟ่ย หรือไม่ก็เป็นNPCแบบข้า ถึงจะเป็นสมองเทียมเขาก็ให้ฝึกได้” ชายชราตอบ

    เป็นที่รู้กันว่านอกจากผู้เล่นในเกมแล้ว ทุกอย่างที่มีชีวิตในเกมนี้เป็นสมองเทียมหมด ไม่ว่าจะเป็นสัตว์อสูรทั้งหลาย หรือสัตว์เลี้ยง และNPCทุกคนก็เป็นสมองเทียมเหมือนกัน

    “อะไรกันเนี่ย นึกว่าจะได้มีองครักษ์สุดเก่งสามคนรอบตัวแล้วเชียว” มาตาร์บ่นอย่างเสียดาย เพราะถ้าสามารถให้สาวน้อยทั้งสามฝึกฝนทักษะอื่นๆได้บ้าง เขาจะได้มีทีมส่วนตัวของตัวเองที่เก่งสุดๆแท้ๆ

    แต่ว่ามาตาร์ก็ยังไม่เลิกล้มความพยายาม

    “ผมจะให้น้องสาวผมเป็นเผ่าเทพได้มั้ยครับ” มาตาร์ถามชายหนุ่มในชุดขาว ที่ประจำอยู่อาคารของเผ่าเทพ

    “ไม่ได้ครับ ถึงร่างจะเป็นมนุษย์แต่จิตใจไม่ใช่ แต่ถ้าทั้งสามมีจิตใจเป็นมนุษย์ก็จะสามารถทำได้นะครับ” ชายชุดขาวตอบ

    “งั้นเหรอครับ ขอบคุณมากครับ” มาตาร์งงกับคำตอบของชายชุดขาวมาก จู่ๆจะให้สมองเทียมมีจิตใจเป็นมนุษย์ได้อย่างไร คำตอบแบบนี้เหมือนบอกว่า ยังไงก็เปลี่ยนเผ่าไม่ได้หรอก เท่านั้นเอง

    “เฮ้~อ เซ็งเลยเนอะคลาร่า” มาตาร์พูดขึ้นมาหลังจากสิ่งที่เขาคิดมันไม่สามารถสำเร็จได้

    “ไม่เป็นไรค่ะมาตาร์ คลาร่าจะฝึกให้เก่งเองก็ได้” เด็กหญิงช่างพูดเข้ามาเกาะแขนมาตาร์ ทำให้อีกสองคนเข้ามาแย่งกันเกาะแขนมาตาร์ที่เหลืออีกข้างหนึ่ง

    โอ้ มีมาแย่งกันเกาะด้วยแฮะ ถ้าเป็นสาวจะดีกว่านี้ แบบนี้เหมือนมีลูกมากกว่าแฮะ มาตาร์นึกขำหลังจากที่เห็นพฤติกรรมของสาวน้อยทั้งสาม

    ช่วงเวลาในแมนชั่นแห่งความตายที่ผ่านมา มาตาร์และโฆเซ่ช่วยกันฝึกสอนการต่อสู้ให้ทั้งสามซึ่งอยู่ในร่างมนุษย์ วิธีการเคลื่อนไหว การโจมตี และยังพยายามสอนท่าไม้ตายให้อีก แต่ว่ากลับเรียนรู้ไม่ได้ เพราะท่าเหล่านั้นจะเกิดขึ้นมาได้ก็ต่อเมื่อมีพลังปราณอยู่เสียก่อน ระบบถึงจะอนุญาตให้มีไม้ตายได้

    ทำให้ทั้งสามต้องฝึกใช้ค่าสถานะธรรมดากับทักษะอาวุธในการต่อสู้เท่านั้น อาจจะเพิ่มเข้ามาด้วยทักษะพิเศษนิดหน่อยเช่นรุมสกรัม กับลอบสังหาร ซึ่งเขารู้ว่ามันเกิดทักษะนี้ขึ้นมาได้อย่างไร แต่ยังมีทักษะอีกมากมายนักซึ่งเขาไม่รู้จัก และไม่รู้ด้วยว่าทำอย่างไรมันถึงจะเกิดขึ้นมาได้ คงต้องรอให้มันบังเอิญเกิดขึ้นมาตามลักษณะนิสัยในการเล่นเกมเท่านั้นเอง

    สมกับที่เป็นสัตว์เลี้ยงธรรมดาๆจริงๆ เพราะถ้าเป็นสัตว์เลี้ยงที่จับได้ตามธรรมชาติ จะมีความสามารถในการต่อสู้มากกว่านี้ บางทีก็มีไม้ตายอยู่แล้ว อย่างเช่นถ้าจับมังกรมาเลี้ยงได้ ก็อาจจะมีพ่นไฟพ่นหรือพ่นพิษเป็นไม้ตายก็ได้

    เพราะฉะนั้นสำหรับมาตาร์แล้ว เท่ากับว่ามีตัวถ่วงเพิ่มขึ้นมาถึงสาม นอกจากจะทำให้ค่าประสบการณ์ขึ้นช้าลงแล้ว ยังมีสัตว์เลี้ยงทั้งสามที่ต่อสู้ไม่เก่งเป็นภาระตลอดเวลาอีกด้วย แต่เขาก็จะไม่ทิ้งทั้งสามไปแน่นอน เพราะร่วมเป็นร่วมตายกันมาจนรู้สึกสนิทสนมกันมากแล้ว ก็ถึงว่าสมควรแล้วที่พวกเธอจะกลายร่างเป็นมนุษย์ได้เร็วขนาดนี้

    “งั้นต่อไปก็ไปป่าหมาหมู่เลยละกัน ไหวมั้ย?” มาตาร์เร่งการฝึกอย่างก้าวกระโดด

    เพราะที่ป่าหมาหมู่ พวกหมาจะออกมาถี่กว่าแมวเยอะมาก แถมออกมาทีละหลายๆตัว เขามั่นในว่าเขาสามารถเก็บตัวอื่นๆก่อนจะโดนล้อมได้ ทำให้ทุ่นเวลาในการฝึกได้เยอะเลย

    ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ!

    มาตาร์ซัดหมาไนสามตัวให้กระเด็นออกไป แต่ปล่อยอีกหนึ่งตัวให้ทั้งสามรุมมันเอาไว้

    “รุมมันเลย!” คลาร่าร้องเสียงดัง

    “ตายซะ” โมเรน่าออกแนวโหด

    “นี่แน่ะ” ส่วนบราวนี่ขนาดโจมตียังพูดเรียบๆอีก ช่างรักษาคาแรกเตอร์ได้ยิ่งชีพจริงๆ

    แล้วหมาไนผู้น่าสงสารก็โดนมือโดนเท้าสามคู่รุมซัดจนตาย

    “พักหน่อยมั้ยสาวๆ” มาตาร์ชวนเหล่าเด็กหญิงนั่งพักหลังจากที่สู้ติดๆกันมาสักพักหนึ่ง

    ตอนนี้ระดับแต่ละคนขึ้นมาจนถึง10แล้ว จากตอนที่ฟื้นขึ้นมาล่าสุดนี่มีกันคนละ4เท่านั้นเอง

    ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมถึงน้อยขนาดนั้น เพราะตั้งแต่ครั้งที่มาตาร์ตายเพราะสู้กับเคนริวที่ป่าแมวเปลี่ยวแล้ว เขาตายติดๆกันอีกสามครั้ง จากระเบิดที่เขาเอาตัวเข้าปกป้องเมโลดี้ จากเจ้าอสรพิษตาเดียวเวทอสูรของเขาเอง และจากการโดนรุมฆ่าที่ลานกลางเมือง โดยโดนลดระดับลง50%ถึงสองครั้งด้วยกัน

    แต่การขึ้นระดับก็เร็วมากเหมือนกัน เพราะเขาซึ่งมีระดับ4 มาลุยในป่าหมาหมู่ซึ่งมีศัตรูระดับ15ขึ้นไป แค่ฆ่าหมาตายไปสามหรือสี่ตัวระดับก็ขึ้นแล้ว จากระดับ4มาถึง10 จึงใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้นเอง

    ในขณะที่นั่งพักอยู่นั้นเอง

    “เอ้อ! ลืมไปเลยแฮะ ว่าต้องหาวัตถุดิบให้ภัตตาคารด้วย” มาตาร์เกือบจะลืมไปแล้วว่ามีภารกิจอีกหนึ่งอย่างสามารถทำไปด้วยกันได้ เพราะวัตถุดิบมันกระจายอยู่รอบๆเมืองเริ่มต้นอยู่แล้ว “งั้นเดี๋ยวไปหาหมาป่ากัน เขาจะเอาเขี้ยวหมาป่าห้าคู่”

    หลังจากกำหนดเป้าหมายเสริม นอกเหนือจากการฝึกฝนแล้ว ก็มีการรวบรวมวัตถุดิบตามที่ต่างๆ หาสมุนไพรที่อยู่ในป่าหมาหมู่ด้วย พวกมาตาร์ทั้งสี่คนจึงเดินหาของไป สู้ไป พักไป

    “อืม ได้ของกับเงินมาเยอะแล้วนะ กลับเมืองไปซื้อของเพิ่มกันเถอะ” มาตาร์บอกกับสาวๆ

    “มาตาร์จะซื้อของอะไรเพิ่มเหรอคะ” คลาร่าถาม

    ดูท่าในกลุ่มนี้จะมีเธอที่พูดเยอะที่สุด ส่วนอีกสองคนเป็นพวกปากแข็งซะหนึ่งคน ตอนเป็นแมวรู้สึกจะขี้อ้อนกว่านี้นะ ส่วนอีกคนดูเอ๋อๆตอนเป็นนกออกจะจุ๊กจิ๊กด้วยซ้ำ แต่รวมๆกันแล้วก็น่ารักดี

    “ก็พวกอุปกรณ์ฝึกพลังกายน่ะ นี่แต่ละคนค่าพลังกายไม่ขึ้นกันเลยใช่มั้ยล่ะ แล้วก็ซื้อน้ำยาฟื้นพลัง กับเข็มขัดให้คนละเส้น อืม พอมีกันสี่คนแล้วเรื่องอะไรก็ดูสนุกไปหมดเลยแฮะ” มาตาร์รู้สึกสนุกจริงๆ ที่ได้ดูแลและฝึกฝนสาวๆของเขา อย่างนี้ที่เขาเรียกว่าเลี้ยงต้อยสินะ ฮึฮึ

     

    ฉึก!

    “ผู้เล่นเมโลดี้สังหารแมวยักษ์ระดับ25 ได้รับค่าประสบการณ์ 500ค่ะ” เสียงจากระบบดังขึ้น

    “โอ้โห เก่งขึ้นเรื่อยๆเลยนะยะ ขนาดไม่เคยใช้ธนูมาก่อน” ราตรีพูดขึ้นหลังจากเห็นเมโลดี้ยิงธนูเข้าไปปักเข้าที่ขมับของเจ้าแมวตัวใหญ่ แล้วทำให้มันตายไปด้วยลูกธนูดอกเดียว

    “ก็ใช้ค่าสมาธิช่วยเล็งไง นี่ก็เพิ่มขึ้นมาได้พอสมควรแล้วล่ะ” เมโลดี้ตอบในขณะที่เดินไปที่ร่างของเจ้าแมวเพื่อเก็บลูกธนูกลับมาใช้ใหม่

    เกมจ็อคออนไลน์พยายามทำทุกอย่างให้สมจริง แม้กระทั่งอาวุธ ลูกธนูที่มีอยู่อย่างจำกัด ถ้ายังไม่พังก็ต้องเก็บกลับมาใช้ใหม่ ไม่อย่างนั้นคงมีแต่คันธนูเปล่าให้ใช้แน่ เพราะเมโลดี้ไม่ได้ซื้อลูกธนูมาเยอะพอที่จะใช้ทิ้งขว้างได้

    “แล้วไอ้เลือดงูเห่ามันอยู่ไหนล่ะเนี่ย ต้องหางูเห่าให้เจอก่อนรึเปล่า” เมโลดี้เหนื่อยใจหลังจากที่สู้มาหลายชั่วโมงแล้ว ก็ยังไม่มีที่ท่าว่าจะเจอเลย ได้แต่ฆ่าพวกแมวไปเรื่อยๆเท่านั้นเอง

    ฉึก!! ตุ้บ!                                                       

    “เมโลดี้!!” ราตรีที่เดินนำหน้าอยู่หันกลับมาเพราะได้ยินเสียงอะไรเบาๆ แล้วเธอก็ต้องตกใจเมื่อเห็นเพื่อนรักของเธอถูกงูตัวใหญ่เท่าแขนกัดเข้าจมเขี้ยว ก่อนที่จะล้มพับไป

    ฉัวะ!

    “แก...เจ้างูบ้า!!” ราตรีตวัดดาบข้างเอวฟันเจ้างูนั่นขาดกลางด้วยความรวดเร็ว ก่อนจะเข้ามาประคองเพื่อนรักของเธอทันที

    “เป็นยังไงบ้าง ..เมล!” ราตรีสังเกตเห็นเมโลดี้ที่ไร้เรียวแรง หน้าขาวซีด

    “อื~อ” เมโลดี้ครางออกมา เธอไม่มีกำลัง เธอไม่รู้ว่าเธอตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้อย่างไร เหตุการณ์มันรวดเร็วมาก

    งูเห่าแห่งป่าแมวเปลี่ยวเป็นสัตว์ที่เคลื่อนตัวได้เงียบเชียบและมีพิษร้าย แถมเขี้ยวพิษของมันยังแผ่วเบามากอีกด้วย เหยื่อส่วนใหญ่จะไม่รู้ตัวขณะถูกกัดเลย รู้ตัวอีกทีก็นอนพับหมดแรง และตายในเวลาต่อมา เลือดของมันยังเป็นสิ่งที่ใช้ทำภารกิจของเผ่ามังกรอีกด้วย ...แต่ราตรีไม่มีเวลาสนใจมันตอนนี้แล้ว

    ที่ราตรีสนใจตอนนี้มีอยู่เรื่องเดียวคือ ทำอย่างไรเพื่อนรักของเธอถึงจะหาย ทำอย่างไรเพื่อนของเธอถึงจะไม่ต้องตาย

    ราตรีแบกเมโลดี้ขึ้นหลัง แล้วรีบเดินกลับไปที่เมืองเริ่มต้นทันที

    บริเวณใกล้ลานกลางเมืองยังมีโรงพยาบาลอยู่ ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามีไว้ทำอะไรในเกมแบบนี้ เพราะส่วนใหญ่ถ้าใครบาดเจ็บ ก็ใช้น้ำยาฟื้นพลังก็หายแล้ว ส่วนยาแก้พิษหรือยาฟื้นพลงเวทนั้น ไม่มีขาย ผู้เล่นต้องศึกษาและปรุงออกมาเอง

    ยิ่งถ้าเป็นยาแก้พิษ ก็มีความละเอียดมาก ไม่ใช่ว่าพิษทุกชนิดจะใช้ยาแก้พิษอย่างเดียวก็รักษาได้ แต่ต้องใช้ยาแก้ให้ถูกขนานด้วย

    ราตรีที่ไร้สิ้นหนทางและความรู้ เคยเห็นโรงพยาบาลอยู่ที่แถวลานกลางเมือง เธอแบกเพื่อนรักของเธอมาเพื่อให้โรงพยาบาลรักษา

    “หมายความว่าไงรักษาไม่ได้!” สาวผิวเข้มตะโกนใส่ชายวัยกลางคนที่ใส่ชุดกาวน์สีขาว ในขณะที่ร่างของเมโลดี้นอนหลับอยู่บนเตียงในห้องผู้ป่วย

    “โรงพยาบาลในเกมนี้ไม่ได้มีหน้าที่รักษาคนป่วยครับ เราแค่ตรวจให้ว่าป่วยจากสาเหตุอะไร ส่วนการรักษาต้องเป็นผู้เล่นด้วยกันเอง” ชายในชุดกาวน์ตอบ

    “อะไรเนี่ย!!?” ราตรีไม่เข้าใจระบบของเกมเลย โรงพยาบาลนี่ก็ช่างไร้ประโยชน์ หรือเธอจะทำได้เพียงรอความตายของเพื่อนเท่านั้น

    “รัต..” เสียงเมโลดี้ดังขึ้นอย่างแผ่วเบา

    “เมล เป็นยังไงบ้าง” ราตรีหันไปกุมมือเพื่อนรักที่นอนซม

    “ไม่ต้องห่วงนะ..แค่ตายเอง...เดี๋ยวก็ฟื้นแล้ว” ใบหน้าอันซีดเซียวของเมโลดี้ น้ำเสียงที่แสดงความห่วงใยกลับมาอย่างแหบแห้ง กระตุ้นต่อมน้ำตาของราตรีออกมาทันที

    “หมอ!! อย่าให้เพื่อนชั้นตายง่ายๆนะ ชั้นจะเป็นคนรักษาเอง” ราตรีขึ้นเสียงใส่ชายในชุดกาวน์ แล้วเดินออกจากห้องผู้ป่วยทันที ตาของเธอมีน้ำตาปริ่มจะไหลออกมาแล้ว แต่ด้วยภาพลักษณ์สาวแกร่ง ทำให้เธอยังไม่หลุดร้องไห้ออกมา

    ราตรีออกมาจากโรงพยาบาล แต่เธอก็ยังไร้หนทาง เธอเพิ่งมาเล่นเกมนี้ หลังเมโลดี้ไม่กี่นาทีเท่านั้นในโลกจริง ดังนั้น การรักษาพิษต้องเริ่มต้นที่ตรงไหน จะถามใครได้ เธอไม่รู้จักใครอื่นเลย แม้แต่โรงพยาบาลก็ไม่มีหน้าที่ตอบ แถมยังต้องแข่งกับเวลา

    “อ้าว คุณราตรีนี่นา ไม่ได้อยู่กับเมลเหรอครับ” เสียงชายหนุ่มทำลายความสับสนในใจของราตรี เขาอาจจะเป็นความหวังเดียวที่เหลืออยู่ของเธอตอนนี้ก็ได้

    “คุณมาตาร์!! เมลแย่แล้ว ...ยัยเมลกำลังจะตาย” ราตรีเขื่อนน้ำตาแตกทันที บางทีที่เธอยังไม่ร้องไห้ในตอนแรกอาจเพราะไม่รู้จะร้องกับใครก็ได้

    “เกิดอะไรขึ้นครับ? เมลเป็นอะไร?” มาตาร์ซึ่งเพิ่งซื้อของเสร็จและกำลังจะกลับออกไปล่าอีกรอบ แต่พอดีเห็นราตรีจึงทักทาย เขาต้องแปลกใจที่จู่ๆอารมณ์ของเธอก็เปลี่ยนไปแบบนี้

     

    Rewrite tag: เกลาบทสนทนา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×