คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #183 : บทที่177: การต่อสู้ของเด็กหญิงตัวน้อย หญิงสาวผู้หลงเหลือ และโจรธรรมดาๆ
บทที่177 การต่อสู้ของเด็กหญิงตัวน้อย หญิงสาวผู้หลงเหลือ และโจรธรรมดาๆ
ห้าวันที่ห้องท้องเรือ นอกจากการขัดพื้นที่ช่วยเพิ่มค่าสถานะแล้ว เลดี้ยังได้ฝึกทั้งเคล็ดการใช้ค่าสถานะทั้งพลังกายและความคล่องตัวในการโจมตีด้วย
ตามปกติแล้วการใช้ค่าสถานะทั้งหกโดยตรงไม่ใช่สิ่งที่ผู้เล่นทั่วไปรู้ ทั้งพลังกาย ความคล่องตัว สมาธิ จิตใจ หรือโชค นอกเหนือไปจากความอึดที่ใช้ออกมาแบบอัตโนมัติ ค่าสถานะที่เหลือผู้เล่นต้องมีจินตนาการประกอบการใช้ด้วยเสมอ ยกตัวอย่างเช่นค่าสมาธิที่มาตาร์สามารถใช้ได้เป็นอย่างแรก ถ้าไม่ได้รับการบอกเล่ามาก่อนว่าใช้อย่างไร มาตาร์ก็คงจะใช้ไม่เป็นเหมือนกัน
ซึ่งตอนนี้ทั้งมาตาร์และเลดี้สามารถใช้ค่าสถานะทั้งหกเสริมการต่อสู้ได้หมดแล้ว ยกเว้นเพียงค่าสถานะโชค ซึ่งการต่อสู้ในท้องเรือที่ผ่านมา ทั้งคู่ใช้เพียงค่าสถานะล้วนๆในการสู้กับผู้บุกรุกเท่านั้น ไม่ได้ใช้ร่วมกับพลังพิเศษใดใดเลย เพราะถูกจำกัดด้วยสภาพพื้นที่ แต่ตอนนี้อยู่ในเมืองที่สามารถใช้พลังพิเศษได้ตามปกติ ค่าสถานะที่ใช้ร่วมกับพลังพิเศษก็จะเปลี่ยนแปลงไปได้อีกอย่างหลายหลายตามจินตนาการของแต่ละคน สุดแต่ว่าผู้ใช้จะมีจินตนาการสูงส่งขนาดไหน
พอส!! (Pause!!)
ขณะที่ริงโกะและอิจิโกะกำลังพุ่งเข้าโจมตีทั้งเลดี้และมาตาร์ เวลากลับเหมือนหยุดลงโดยสิ้นเชิง แต่สัมผัสของเลดี้กลับแผ่ขยายออกไป แล้วรับทราบสภาพพื้นที่โดยรอบทันที ทั้งพื้นที่และผู้คนโดยรอบ
แมพปิ้ง!! (Mapping!!)
‘อืม นายคนที่ถือดาบกำลังจะพุ่งไปหาแอฟโร ส่วนนายคนที่ใช้หมัดกำลังจะโจมตีเข้ามา อย่างนี้ก็ต้องใช้แอนทิกเสริมปราณกระแทกใส่ก่อน แล้วก็ใช้เคลื่อนสัมพัทธ์เข้าโจมตีตาคนที่ใช้ดาบร่วมกับสถานะจิตใจ’ ความคิดของเด็กหญิงดำเนินไปในช่วงเวลาที่หยุดนิ่งนี้
แล้วเมื่อช่วงห้วงเวลาเดินตามปกติ
“ไฮยย!!”
วูบ! ตูมม!! “อ๊อค!”
“สะบั้น!!!”
ฟวิ้ง! ฉับ!! “เฮ่ยย!!”
เพียงพริบตาเดียวร่างของริงโกะกระเด็นถอยออกไปจากที่กำลังจะง้างหมัดเข้าใส่เด็กหญิง ในขณะที่อิจิโกะดาบหักไปเพราะยกดาบเข้าต้านทานมีดของเด็กหญิงที่จู่ๆก็เคลื่อนที่มาอยู่ตรงหน้า
เลดี้เคลื่อนที่ตามแผนที่เธอวางเอาไว้และทำได้สำเร็จ
“ก็บอกแล้วไงว่าคู่ต่อสู้ของพวกนายคือเลดี้ ไม่ต้องไปยุ่งกับแอฟโรเลย” เด็กหญิงพูดเสียงแข็งขึ้นมาอีกครั้ง
มันคือการใช้ค่าสถานะประกอบการต่อสู้ของเลดี้ ทั้งพอสและแมพปิ้ง
พอส คือการใช้ค่าสมาธิร่วมกับจิตใจ หากการใช้ค่าสมาธิทำให้เวลาไหลช้าลงได้ แล้วทำไมจะทำให้เวลาหยุดเลยไม่ได้ ซึ่งเลดี้ใช้ค่าสถานะจิตใจเสริมเข้ากับสมาธิ ซึ่งระหว่างที่ใช้พอสจะไม่มีสิ่งใดสามารถขยับได้ เพราะมันคือห้วงเวลาที่หยุดลงในจิตใจของเด็กหญิงเพียงคนเดียว มีเพียงความคิดและประสาทรับรู้เท่านั้นที่ทำงาน ประโยชน์ของมันคือเอาไว้ใช้คิดตัดสินใจในช่วงเวลาที่จำกัดนั้น ซึ่งระหว่างที่ใช้พอสนี้ ทั้งค่าสมาธิกับจิตใจจะถูกใช้งานไปเรื่อยๆด้วย
แมพปิ้ง คือการใช้จิตสัมผัสร่วมกับสถานะจิตใจ ถ้าสัมผัสสามารถรับรู้ถึงจิตโดยรอบได้ ก็แปรสภาพมันให้เหมือนกับคลื่นโซนาร์เสียเลยสิ เลดี้สามารถรับรู้สภาพโดยรอบได้โดยใช้แมพปิ้ง มีประโยชน์คล้ายๆกับการใช้ลมรับรู้ของปราณลมที่มาตาร์ใช้ได้ เพียงแต่การใช้แมพปิ้งสิ้นเปลืองทั้งพลังจิตและค่าจิตใจมากกว่าการใช้ปราณลมเท่านั้นเอง
ซึ่งทั้งสองท่านี้เป็นเพียงสิ่งที่ช่วยให้ตัดสินใจได้ดีขึ้นเท่านั้นเอง ไม่ได้เกี่ยวกับฝีมือหรือการเคลื่อนไหวของเลดี้
“อะไรกัน! ยัยเด็กนี่ดูท่าจะร้ายกว่าที่พวกเราคิดซะแล้วสิริงโกะ” อิจิโกะพูดพร้อมกับกระชับดาบหักๆในมือ เพราะรับรู้แล้วว่าเด็กหญิงตรงหน้านี้ไม่ใช่ธรรมดาเหมือนกัน
วูม~ม!
“เข้าใจแล้วอิจิโกะ” ริงโกะตอบรับเรียบๆ แล้วลุกขึ้นมาช้าๆพร้อมกับร่างที่เปล่งปราณสีทองออกมา
วูบ! กึ้งง!!
ไม่ต้องรอให้คู่ต่อสู้ตั้งตัว เลดี้พุ่งเข้าใส่ร่างของชายผู้ใช้หมัดพร้อมกับยื่นด้ามมีดเข้าใส่ทันที แต่ริงโกะก็ยังต้านรับได้ทัน
ฟิ้วว! แก๊งง!!
ฉับพลันนั้นเลดี้ก็ต้องสะบัดมืออีกข้างเพื่อต้านคมดาบของศัตรูอีกคนหนึ่งที่ปรากฏตัวขึ้นมาด้านหลังของเธออย่างกะทันหัน
“คิดผิดคิดใหม่ได้นะ จะไปเรียกเจ้าหัวฟุ...เฮ่ย!!”
ฟิ้วว!! วูบบ!!
อิจิโกะยังพูดไม่ทันจบประโยค เลดี้ก็ใช้เคล็ดไร้เงาเคลื่อนที่มาฟันเขาจากด้านหลังจนเขาต้องก้มตัวหลบ
“อสูรพิฆาต!!”
อีกทางหนึ่ง ริงโกะที่อยู่ห่างออกไปเล็กน้อยก็ตะโกนออกมาพร้อมปล่อยกระสุนปราณสีทองที่มีรูปลักษณ์เหมือนหน้าของปีศาจเข้าใส่เด็กหญิงทันที
ฟิ้ว!
เลดี้ใช้เท้าไร้เงาเคลื่อนตัวหลบกระสุนปราณสีทองนั่นทันที แต่ทว่ากระสุนปราณนั้นมันสามารถเลี้ยวตามร่างของเธอมาได้
“ฮ่าๆๆ หนีไปไหนไม่ได้หรอก อสูรพิฆาตจะตามเป้าหมายไปเรื่อยๆจนกว่ามันจะกระทบเป้าหมาย” ริงโกะหัวเราะลั่นเมื่อเห็นท่าทางของเด็กหญิง
เลดี้ได้ยินดังนั้นก็ปามีดของเธอเข้าหาเจ้ากระสุนปราณสีทองนั่นทันที
ฟิ้ว! ตูมม! เคล้ง!
มีดยักษ์กระทบกับกระสุนปราณแล้วก็เกิดการระเบิดขึ้นมา ทำให้มีดกระเด็นไปทางหนึ่งทันที แต่กระสุนปราณก็สลายไปด้วย
“กระทบเป้าหมายแล้วก็หายไปจริงๆด้วยแฮะ” เลดี้พูดขึ้นมาเรียบๆ
“หา!?” ริงโกะเห็นการกระทำของเลดี้แล้วก็ต้องมองตาค้าง เพราะวิธีแก้ปัญหาของเด็กหญิงมันง่ายดายมาก
ริงโกะไม่คิดว่าเลดี้จะปาอาวุธคู่มือออกมาเพื่อหยุดปราณของเขา โดยหารู้ไม่ว่าสำหรับเด็กหญิงแล้วเจ้ามีดคู่นั้นเป็นตัวที่คอยถ่วงเธอเอาไว้ด้วยซ้ำ เพราะทักษะอาวุธมีดของเธอก็แค่ระดับหนึ่ง ในขณะที่มือเปล่ามีถึงสามสิบ การต่อสู้ด้วยมีดจึงเหมือนกับเป็นการต่อให้คู่ต่อสู้อยู่แล้ว แถมมีดนี่ก็เป็นของที่ยึดมาจากผู้เล่นคนอื่นด้วยดังนั้นเลดี้จึงไม่รู้สึกทุกข์ร้อนอะไรถ้าจะต้องสูญเสียมีดทั้งสองเล่มไป
ฟิ้ว! เคร้ง!
“เสร็จล่ะยัยเด็กกะโปโล เสียอาวุธไปหนึ่งชิ้นแล้ว” อิจิโกะรีบพุ่งเข้าหาเลดี้ทันทีที่เห็นโอกาส
ดาบของอิจิโกะเล่มหนึ่งกระทบเข้ากับมีดอีกเล่มของเด็กหญิง ส่วนดาบอีกเล่มของอิจิโกะก็เตรียมจะพุ่งเข้ามาโจมตีเด็กหญิงอยู่แล้ว
แต่ทันใดนั้น เลดี้ก็ปล่อยมือออกจากมีดของเธอแล้วก้าวประชิดอิจิโกะเข้าไปอีกด้วยเคล็ดเคลื่อนสัมพัทธ์ พร้อมกับหงายมือทั้งสองข้างด้วยเคล็ดแอนทิก ประกอบเข้ากับปราณสีชมพูของเธอ
“ฮย่า~า!!” เด็กหญิงตะโกนออกมาพร้อมกับโจมตีออกมาสุดแรง
ฟุบ! ปักก!!
“อ๊อกก!!”
ฝ่ามือพิษกระแทกเข้าใส่ร่างของอิจิโกะอย่างแรง เสียงกระทบแน่นๆทำเอาร่างของชายผู้ใช้ดาบตัวงอเป็นกุ้ง พร้อมกับล้มลงตาเหลือกไปทันที
“อ ... อ ... า” อิจิโกะส่งเสียงไม่ออก สติเลือนราง นอนพังพาบปากก็พะงาบๆเตรียมตัวตายจากพิษที่เลดี้ปล่อยใส่เขา
“อะไรกัน!! อิจิโกะ!!” ริงโกะอุทานออกมาอย่างตระหนกที่เห็นเพื่อนของเขาเสร็จด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
เมื่อเลดี้ปล่อยมีด ความเร็วของเธอก็พุ่งขึ้นมากะทันหัน ประกอบเข้ากับเคล็ดเคลื่อนสัมพัทธ์ ถึงแม้ว่าอิจิโกะจะใช้เคลื่อนสัมพัทธ์ได้เหมือนกัน แต่เลดี้กลับยังรวดเร็วกว่านั้น ประกอบกับจังหวะที่เลดี้เข้าจู่โจมอิจิโกะนั้น คือจังหวะบวก อิจิโกะที่กำลังโถมตัวเข้ามาทำให้แม้ในขณะใช้เคลื่อนสัมพัทธ์จึงตั้งรับไม่ทัน ฝ่ามือของเลดี้จึงพุ่งสวนร่างของอิจิโกะเข้าไปเต็มๆ
“ไฮยย!!”
เสียงของเลดี้ตะโกนขึ้นมาปลุกสติของริงโกะที่กำลังตะลึงให้ป้องกันการโจมตีจากเด็กหญิงผมแดงที่เข้ามาประชิดอย่างรวดเร็วได้อย่างทันท่วงที
ฟุบ! ฟิ้วว! ปึ้กก!!
กำปั้นของริงโกะที่ห่อหุ้มด้วยปราณสีทองรับการจู่โจมจากเด็กหญิงได้อย่างง่ายดาย ซึ่งมันคงจะไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด ถ้าเพียงแต่กำปั้นของเด็กหญิงที่เป็นคู่ต่อสู้ไม่ได้หุ้มด้วยปราณสีชมพูที่เต็มไปด้วยพิษนั่น
กำปั้นชนกำปั้นเข้าไปเพียงครั้งเดียว ริงโกะก็ต้องถอนตัวออกมาพร้อมกับสีหน้าที่ตกใจ
“นี่มัน! ..พิ!!”
ฟุบ! ปึกก!
ยังไม่ทันที่ริงโกะจะพูดจบ เด็กหญิงก็โจมตีต่อเนื่องเข้ามาอีกครั้ง ส่งผลให้ริงโกะได้รับพิษเพิ่มมากขึ้นอีก ถึงแม้จะตั้งรับได้ก็ตาม และพิษนั้นส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของริงโกะ
ปึ้กก!!
แล้วกำปั้นของเด็กหญิงก็กระแทกเข้าไปเต็มร่างของชายผู้ใช้ปราณสีทองได้ในที่สุด
“ไฮย! ยะ! ยะ! ยะ! ยะ!” เลดี้ส่งเสียงพร้อมกับรัวมือของเธอเข้าใส่ร่างของคู่ต่อสู้ทันที เพราะริงโกะเคลื่อนที่ช้าลงจากพิษของเธอ
ปึ้ก! ปั้ก! ปึ้ก! ปั้ก! ปึ้ก! ปั้ก!
“อ๊อก! อั้ก! อุก! อึ้ก!”
ริงโกะก็ส่งเสียงออกมาตามจังหวะกระทบหมัดของเลดี้ โดยแต่ละหมัดของเลดี้นั้นก็แฝงปราณพิษเข้าไปทีละน้อยด้วย ส่งผลให้ริงโกะซึ่งนอกจากจะเจ็บปวดเพราะโดนต่อยแล้ว ยังเจ็บปวดเพราะพิษที่ได้รับอีกด้วย ซึ่งความเจ็บปวดที่เขาได้รับก็ค่อยๆแผ่ซ่านออกไปจนถึงขั้นกลายเป็นความด้านชา
ร่างกายของชายหนุ่มผู้ใช้หมัดไม่รู้สึกใดใดอีก สายตาที่เหม่อลอยเพราะความรู้สึกเคลิบเคลิ้มจากความด้านชา สติที่หลุดลอยไปเรียบร้อย ส่งผลให้เขายอมรับความตายโดยดุษฎี
เพียงแต่ไอ้เสียงตะโกนสุดท้ายนั่นปลุกสติของเขาขึ้นมาซะก่อนที่จะตายสบายๆนี่สิ
“ฮว้าชช่า!!!” เลดี้ตะโกนออกมาสุดเสียงพร้อมกับออกท่าจบของเธอเป็นลูกเตะสูงที่หวดเข้าให้ที่ใบหน้าของริงโกะเต็มๆ
พล็อกก! กร๊อบ!!
หน้าของริงโกะหันไปอีกทางทันทีพร้อมกระดูกคอที่หัก กับร่างที่กระเด็นไปตามแรงเตะ ก่อนจะแน่นิ่งไป
“ฮูว~ว ...เย่!!” เลดี้ตั้งท่าจบพร้อมกับหายใจออกมาแรงๆครั้งหนึ่งก่อนจะส่งเสียงออกมาอย่างยินดีพร้อมกับยิ้มอย่างแจ่มใส
ร่างของอิจิโกะและริงโกะค่อยๆสลายไปช้าๆ เพราะการตายของทั้งคู่นั้นเกิดจากพิษเป็นหลักไม่ใช่การตายโดยฉับพลันจากการโจมตีทางกายภาพของเลดี้ บ่งบอกว่าจริงๆแล้วถ้าเลดี้ไม่มีปราณพิษ การต่อสู้คงจะยุ่งยากมากกว่านี้เป็นแน่แท้ เพราะการโจมตีทางกายภาพของเธอไม่ได้ส่งผลต่อทั้งคู่มากนัก
“คราวหน้าต้องเอาชนะแบบยังถือมีดอยู่ให้ได้เลย” เลดี้พูดเสียงเข้มขณะที่เก็บมีดของเธอที่ตกไปขึ้นมา และยังเก็บเอาของที่ตกจากร่างของคู่ต่อสู้ทั้งสองมาด้วย ก่อนจะวิ่งตามเจ้านายของเธอไปยังร้านสัตว์เลี้ยงอย่างไม่เร่งรีบนัก
ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฉัวะ!! อ๊าก~ก!!!
ร่างของผู้เล่นกิลด์แก้วมังกรขาดเป็นท่อนๆ ก่อนจะสลายไป เมื่ออยู่ต่อหน้าหญิงสาวคนหนึ่ง
“แกเป็นใคร!!” ชายที่ชื่อยะไซตะโกนถามหญิงสาว
“นี่มายึดบ้านคนอื่นเค้าแล้วยังจะลืมหน้าเจ้าของอีกเหรอ” หญิงสาวเอ่ยออกมาเรียบๆด้วยสีหน้าเฉยชา
“แก!! ทาเนียเหรอ!?” ยะไซแค่นเสียงออกมาอย่างตระหนก
แซดดด!!!
ไม่พูดพร่ำทำเพลง ยะไซยิงลำแสงออกจากมือพุ่งเข้าใส่หญิงสาวผู้เป็นศัตรูทันที
ฟุบบ! ตูมม!!
ลำแสงพุ่งทะลวงร่างของหญิงสาวแล้วพุ่งเจาะลึกลงไปในพื้น ก่อนจะระเบิดขึ้นมาเป็นหลุมที่มีรัศมีกว่าห้าเมตร อาจจะดูว่าไม่ได้กว้างใหญ่มาก แต่จริงๆแล้วมันเป็นพลังแสงที่มีความเข้มข้นสูงมาก
วูบ!
แต่แล้วร่างของหญิงสาวที่เหมือนถูกแสงทะลวงก็เลือนหายไป
ฉึก!!
ที่ลำคอของยะไซพลันมีเข็มเล่มหนึ่งที่มีขนาดเท่าไม้เสียบลูกชิ้นปักเข้าไป
“อ๊อคค!!” ยะไซส่งเสียงออกมาอย่างทรมานพร้อมกับล้มลงกับพื้น
“ระหว่างที่พิษยังไม่พรากชีวิตแกไป จงสำเหนียกถึงความอ่อนแอของตัวเองซะเถอะ” หญิงสาวพูดออกมาเรียบๆ ขณะที่ปรากฏร่างออกมาจากอากาศที่สั่นไหวอย่างรางเลือน
จริงๆแล้วยะไซถือว่าเป็นผู้เล่นระดับสูงที่มีฝีมือ แต่ถ้ามาเทียบกับทาเนีย หนึ่งในผู้เล่นระดับตำนานแล้วยังถือว่าห่างชั้นกันเยอะทีเดียว
ทาเนียอาศัยเทคนิคการพรางด้วยแสงแล้วใช้เพียงแค่เข็มอาบยาพิษของแมงมุมเท่านั้น ก็เอาชนะยะไซที่มีพลังสูงได้แล้ว
“จะว่าไป นายก็คล้ายๆชั้นในสมัยก่อนเหมือนกันนะ บ้าพลังแบบนี้น่ะ” หญิงสาวเอ่ยออกมาพร้อมกับยิ้มน้อยๆเพราะนึกถึงวิธีการต่อสู้ของตนเองสมัยก่อน เพียงแต่หลังจากพ่ายแพ้แก่บุรุษผู้ใช้มีดบินครั้งนั้นในอดีต วิธีการต่อสู้ของเธอก็ค่อยๆเปลี่ยนแปลงไป
แล้วหญิงสาวผู้บุกรุก ก็เดินต่อเข้าไปภายในอาคารหลักของแอตแลนติสทันทีด้วยท่าทางไม่รีบร้อนดั่งกับเดินเล่นชมสวนก็ไม่ปาน
“ทาเนีย กลับมาทำอะไร” เสียงแหลมเล็กของชายคนหนึ่งถามขึ้นมาเมื่อเห็นหญิงสาวเดินเข้ามาในห้องชมวิวของแอตแลนติส จุดที่สามารถมองเห็นทั้งเมืองแอตแลนติสได้เพียงมองออกไปที่หน้าต่างรอบๆห้องเท่านั้น
“ชั้นกลับมาตายที่นี่น่ะ นายอยากจะไปไหนก็ไปเถอะ ชั้นไม่มีอารมณ์จะสู้กับใครตอนนี้” หญิงสาวเอ่ยออกมาเรียบๆ
“พูดอะไรของหล่อน กลับมาตายที่นี่ก็หมายความว่าเธอจะมาให้ชั้นฆ่าน่ะสิ” ชายเสียงแหลมเล็กพูดออกมาอีกครั้ง
“ไปซะรีฟริก ชั้นรำคาญเสียงนายจริงๆ” หญิงสาวกล่าวไล่ชายเสียงแหลมเล็กอีกครั้ง
“อุเหม่! ชั้นหงุดหงิดกับท่าทางจองหองของเธอจริงๆ อย่าคิดว่าเคยฆ่าชั้นได้ครั้งนึงแล้วจะฆ่าได้อีกง่ายๆนะ” ชายเสียงเล็กแค่นเสียงออกมาอย่างไม่พอใจพร้อมกับเรียกอาวุธของเขาออกมาทันที
ตึงง!!
หุ่นยนต์ตัวหนึ่งสูงประมาณสิบเมตรปรากฏร่างขึ้นมา หัวของมันแทบจะพอดีกับเพดานห้องชมวิวนี้เลยทีเดียว รีฟริกหายตัวเข้าไปในร่างของหุ่นยนต์แล้วก็บังคับมันจากภายในทันที
“ฮ่าๆๆๆ ตายซะเถอะหล่อน รีฟริก้าของชั้นจะฆ่าเธอเอง” เสียงแหลมเล็กดังออกมาจากร่างของหุ่นยนต์ยักษ์
“...เฮ่อ~อ” หญิงสาวจ้องมองที่หุ่นยนต์ตัวนั้นแล้วก็ถอนหายใจออกมาอย่างอ่อนแรง
“นี่ทาเนีย สั่งสอนเจ้าหมอนี่หน่อยเถอะ ชั้นเหลืออดกับท่าทางของมันจริงๆ” เสียงหญิงสาวผมดำอีกคนพูดขึ้นมาเรียบๆพร้อมกับปรากฏร่างของเธอออกมา
“งั้นก็ทำให้มันรวบรัดหน่อยละกันนะ” ทาเนียตอบกลับคู่หูของเธอ
“เอ๋? ไม่ทรมานมันซะหน่อยเหรอ ท่าทางโอหังแบบนี้ต้องโดนทรมานสิ” หญิงสาวผมดำกล่าว
“ไม่ล่ะ เสียเวลา ชั้นอยากจะอยู่กับช่วงเวลาสุดท้ายของแอตแลนติสให้นานที่สุดน่ะ” ทาเนียเอ่ยเรียบๆพร้อมกับใบหน้าที่ดูเศร้าขึ้นมาอีก
“ตามใจ ...แต่ชั้นก็อยู่ข้างเธอเสมอนะ” หญิงสาวผมดำพูดออกมาอย่างมีนัย
“ขอบคุณมากสปีน่า” ทาเนียเอ่ยออกมาพร้อมกับกอดแมงมุมสาวของเธอ
“ทาเนีย” หญิงสาวผมดำพูดพร้อมกับน้ำตาที่ซึมออกมา นานๆครั้งเจ้านายของเธอถึงจะแสดงอารม์แบบนี้ออกมา
“พวกแก ร่ำลากันเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย” เสียงแหลมๆดังขัดจังหวะขึ้นมาอีกครั้ง
“ฮึ้ย~ย!! น่าตายจริงๆด้วย ทาเนียฆ่ามันอีกรอบกันเถอะ” สปีน่าได้ยินคำพูดขัดอารมณ์แล้วก็โกรธขึ้นมาทันที
“เอาสิสปีน่า ...สวมเกราะ” หญิงสาวยิ้มนิ่งๆแล้วพูดออกมาเบาๆ
แวบ!
ทันใดนั้นร่างของทาเนียที่ปกติจะใส่ชุดสีขาวก็มีเกราะสีดำเพิ่มขึ้นมา ประกอบด้วยหน้ากากแหลมที่คลุมตั้งแต่หน้าผากถึงดวงตา เกราะลำตัวที่ด้านหลังมีขาแมงมุมแปดขายื่นออกมา เกราะแขนที่มีกรงเล็บสองอันยื่นออกมาที่แขนแต่ละข้าง และเกราะขาที่เหมือนกับมีคมมีดซ้อนๆกันหลายชั้นยาวครึ่งแข้ง
“อะไรกันน่ะ!! ร่างนั่น!?” เสียงแหลมเล็กอุทานออกมาอย่างตระหนก
“ไปเกิดใหม่ได้แล้วรีฟริก” ทาเนียไม่ตอบคำถาม แต่พุ่งเข้าหาร่างของหุ่นยนต์ยักษ์ทันทีที่พูดจบ
ฟิ้วว! ครืด~ด! ฟุบบ!
เจ้าหุ่นยนต์ง้างหมัดขึ้นมา แต่ร่างของหญิงสาวกลับเร็วกว่านั้น เธอพุ่งเข้าประชิดร่างของหุ่นยนต์พร้อมกับปล่อยใยแมงมุมออกมาจากแขนทั้งสองข้างแล้วห่อหุ่มร่างอันใหญ่โตนั้นเอาไว้ทันทีจนมันกลายเป็นลูกบอลขนาดใหญ่
“เปล่าประโยชน์ทาเนีย รีฟริก้าจะปกป้องชั้นจากการโจมตีทุกชนิด” เสียงแหลมเล็กพูดออกมาขณะนั่งอยู่ในร่างของหุ่นยนต์ยักษ์อย่างสบายอารมณ์
“รีเวิสออสโมซิส” ทาเนียพูดออกมาเรียบๆ
วูม~ม
แล้วทันใดนั้นใยแมงมุมสีขาวก็เปล่งออร่าสีดำออกมา
ฟิ้ว~ว!
เสียงเหมือนกับลมรั่วออกมาจากลูกบอลดังขึ้นมาจากทั่วบอลขนาดยักษ์นั่น
“อ๊ออค! ทา..เนีย ...เธอทำอะไรน่ะ” ชายเสียงแหลมเล็กร้องออกมาอย่างตระหนกเมื่อรู้สึกว่าเขาหายใจลำบากขึ้น
“ตายไปแบบโง่ๆนั่นแหละรีฟริก แล้วก็ไปหาเมืองอื่นยึดเถอะนะ นายคงไม่มีโอกาสได้ครอบครองแอตแลนติสแล้วล่ะ” ทาเนียเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ
สิ่งที่ทาเนียทำลงไปคือการใช้ใยแมงมุมปิดผนึกร่างเจ้าหุ่นยนต์ยักษ์เอาไว้ แล้วใช้ปราณความมืดดูดอากาศข้างในออกมา ใยแมงมุมยังแทรกเข้าไปตามข้อต่อและช่องเล็กๆของร่างหุ่นยนต์ ส่งผลให้ภายในร่างของหุ่นยนต์ได้รับผลกระทบไปด้วยแม้ว่ามันอาจจะเป็นระบบปิดที่สามารถป้องกันผู้ที่อยู่ภายในร่างของมันได้ก็ตาม
ฟีบ~บ
ผ่านไปสามนาที เสียงของอากาศที่รั่วออกมาก็เงียบไป
“คลัช!” ทาเนียเอ่ยออกมาเรียบๆอีกครั้ง
กร้วม~ม!!
ทันใดนั้นใยแมงมุมก็บีบตัวเข้าไปจนได้ยินเสียงแตกหักจากภายใน แล้วใยแมงมุมทั้งหลายก็ค่อยๆสลายไป ก่อนที่จะเห็นเศษซากของหุ่นยนต์ยักษ์ที่แหลกเละเป็นชิ้นๆ
แวบ!
แล้วเกราะแมงมุมสีดำที่หุ่มร่างของทาเนียก็หายไปแล้วปรากฏร่างของหญิงสาวผมดำใส่ชุดเกาะอกสีดำหน้าตาเซ็กซี่ก็ปรากฏตัวขึ้นมาแทน
“เท่านี้ก็คงได้อยู่เงียบๆแล้วสินะ” ทาเนียเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้าๆอีกครั้งพร้อมกับเหม่อมองออกไปภายนอกหน้าต่างของห้องชมวิว
การกลายร่างเป็นเกราะนี้เป็นหนึ่งในทักษะของผู้ติดตามที่มีค่าความภักดีสูงเหมือนกับทักษะประสานร่าง แต่ว่าการสวมเกราะนี้จะสามารถใช้ความสามารถพิเศษของผู้ติดตามได้มากกว่าเดิม
ปัง! เพล้ง!!
เสียงปืนดังขึ้นมาหนึ่งนัด แล้วผนังของร้านตีเหล็กก็เป็นรอยกระสุนลูกปรายเล็กๆ พร้อมกับข้าวของที่แตกกระจาย
“หมายความว่ายังไงคะพี่” เด็กสาวพนักงานกล่าวอย่างไม่เข้าใจ แต่เสียงยังคงสดใสอยู่
“ก็หมายความตามที่พูดนั่นแหละน้อง” ชายคนที่ยิงปืนใส่พนักงานสาวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง
“หนูบอกให้พี่ไปหาวัตถุดิบมาแลกไม่ใช่เหรอ” เด็กสาวพนักงานยังใจเย็น
“พอดีพี่ขี้เกียจน่ะน้อง ขอปล้นเลยละกันนะ” ชายหัวฟูที่ใส่หน้ากากแหลมๆกล่าวตอบพร้อมกับเล็งปืนไปทางเด็กสาวอีกครั้ง
“นิสัยไม่ดีนะคะแบบนี้” เด็กสาวพูดออกมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมกับเรียกปืนพกคู่หนึ่งใส่มือ
“แหม ท่าทางน้องจะชอบไม่เบาเลยนี่คนมาปล้นเนี่ย” ชายหนุ่มหัวฟูเห็นทางทางของเด็กสาวที่ไม่ยี่หระจึงกล่าวออกมา
“ก็จะได้ลองอาวุธกับคนจริงๆ ใครจะไม่ดีใจล่ะคะ ฮิๆๆ” เด็กสาวพนักงานกล่าวอย่างยิ้มแย้ม
ทาเนียเป็นเซนต์กลุ่มดาวแมงมุมนะ =_= ... ส่วนมาตาร์ ...เป็นโจรธรรมดาๆ
ความคิดเห็น