ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    JOQ Online คนจริงลวงโลก <มี E-Book>

    ลำดับตอนที่ #144 : บทที่140: เส้นทางของแต่ละคน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 11.47K
      107
      27 ม.ค. 55

    บทที่140 เส้นทางของแต่ละคน

    เลดี้

    ระดับ 100

    ประสบการณ์ 1000/1000

    พลังชีวิต 259/259

    พลังวิญญาณ 459/459

    โจมตี 100

    ป้องกัน 239

    สะท้อน 239

    ความภักดี 1000/1000

    ความอิ่ม 100/100

    พลังกาย

    100/100

    สมาธิ

    177/177

    ความคล่องตัว

    100/100

    จิตใจ

    100/100

    ความอึด

    379/379

    โชค

    100/100

    ปราณ

    417/417

    พลังจิต

    345/345

     

    “แปลกแฮะ ค่าสถานะของเลดี้มีปราณกับพลังจิตอยู่แล้ว แถมค่าสถานะหลายอย่างยังขึ้นมาแล้วด้วย ทั้งๆที่ไม่ได้ออกมาสู้หรือฝึกอะไรเลย” มาตาร์เปิดดูค่าสถานะของแม่เต่าทองน้อยแล้วก็ต้องแปลกใจ

    “คุณหนูเลดี้เป็นแมลงระดับสูงครับ เธอเกิดมาพร้อมกับความสามารถทางปราณ เวท และพลังจิตอยู่แล้ว เพียงแต่ยังไม่ได้ฝึกฝนเท่านั้นเอง ส่วนค่าสถานะก็คงเป็นผลมาจากผนึกของเข็มขัดไรเดอร์กระมังครับ” พ่อบ้านผู้รอบรู้กล่าว ซึ่งเขาก็ไม่ได้โกหกมาตาร์ใดใดทั้งสิ้น แค่บอกไม่หมดเท่านั้นเอง โดยเฉพาะวิธีเพิ่มค่าสถานะของเลดี้

    “เหรอ อืม ...แล้วของสไลปล่ะเป็นไง” ชายหนุ่มว่าแล้วก็ลองเปิดค่าสถานะของพ่อบ้านของเขาบ้าง

    สไลปนีร์

    ระดับ 100

    ประสบการณ์ 1000/1000

    พลังชีวิต 25000/25000

    พลังวิญญาณ -/-

    โจมตี 40000

    ป้องกัน 20000

    สะท้อน 5000

    พลังกาย

    30000/30000

    สมาธิ

    -/-

    ความคล่องตัว

    50000/50000

    จิตใจ

    -/-

    ความอึด

    10000/10000

    โชค

    -/-

     

    “เอ๋? อะไรเนี่ย ค่าสถานะแปลกจัง มีแต่พลังด้านกายภาพ แถมพลังวิญญาณก็ไม่มีด้วย ...ความภักดีหรือความหิวก็ไม่มี ไม่เหมือนผู้ติดตามทั่วไปเลยนะเนี่ย แถมชื่อยังเป็นสไลปนีร์ไม่ใช้โฆเซ่ด้วยแฮะ” มาตาร์แปลกใจกับค่าสถานะแปลกๆอันนี้จริงๆ

    “เพราะมันคือค่าสถานะของโมโนไบค์ที่ชื่อสไลปนีร์ไงครับ ผมแค่ใช้โมโนไบค์คันนี้เป็นร่างเท่านั้นเอง ถ้าจะให้เปรียบเทียบล่ะก็ เหมือนกับคุณแอฟโรมีผู้ติดตามเผ่าจักรกลหรือไซบอร์คนั่นแหละครับ และผมก็เป็นวิญญาณติดตามซึ่งขึ้นกับคุณมาตาร์จากทักษะแมนชั่นแห่งความตาย ดังนั้นผมจึงไม่จำเป็นต้องมีค่าความภักดีครับ เพราะคนอื่นๆไม่สามารถใช้งานผมได้อยู่แล้ว” พ่อบ้านผู้รอบรู้เฉลย

    “แล้วค่าสถานะนี่ทำไมมันเยอะจังเนี่ย มันเพิ่มลดกันยังไงล่ะเนี่ย” มาตาร์เห็นเลขที่หลุดออกจากทั้งเขาและเลดี้ไปไกลก็สงสัยขึ้นมา

    “มันเป็นค่าสถานะของโมโนไบค์คันนี้ไงครับ ไม่ว่าผมจะเคลื่อนไหวอย่างไรค่านี้ก็ไม่เปลี่ยนครับ คือไม่มีการพัฒนานั่นเอง การเพิ่มหรือลดอยู่ที่การแต่งโมโนไบค์เท่านั้น” พ่อบ้านกล่าว

    ค่าความอึดของโมโนไบค์คือหนึ่งหมื่น ซึ่งถือว่าไม่น้อย แต่เมื่อใช้ร่วมกับพลังกายและความคล่องตัวที่สูงกว่ากันมาก ทำให้ค่าความอึดของโมโนไบค์นั้นหมดเร็วมาก เนื่องจากสเป๊คเครื่องที่สูงเกินกว่าความอึดตามปกตินั่นเอง และการใช้พลังงานเพื่อคืนร่างของมาตาร์นั้นก็ใช้ค่าความอึดเดียวกันนี้ และเนื่องจากความต่างสิบเท่าของร่างไรเดอร์กับร่างจริง ทำให้พลังงานที่ใช้ในการคืนร่างสูงกว่าไรเดอร์ในระดับอื่นๆเยอะมาก การคืนร่างของมาตาร์จึงทำได้แค่หนึ่งนาที ทั้งๆที่ความอึดของโมโนไบค์ก็มีไม่น้อย

    “ดูเหมือนว่าเราจะมีธุระกับอวกาศเยอะเหมือนกันแฮะ ทั้งหาแขนใหม่ของผม ทั้งอัพเกรดโมโนไบค์” มาตาร์พูดพร้อมกับทำท่าครุ่นคิด

    “งั้นก็ไปตีหัวยัยผมขาวแล้วก็รีบออกไปผจญภัยกันเถอะค่ะ” เลดี้ใช้คำพูดเลียนแบบมาตาร์ที่ว่าจะไปตีหัวเรย์น่า

    “อื้ม งั้นเรามาวางแผนกันก่อนนะ เพราะการเล่นยัยนั่นตรงๆคงไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่นัก ถึงจะเคยชนะมาแล้วก็เถอะ แต่ตอนนี้ดันโดนเข็มขัดนี่ถ่วงความสามารถเอาไว้” มาตาร์เริ่มปรึกษากับทีมทันที

    “แต่เรามีจำนวนคนที่เพิ่มขึ้นมาทดแทนนะครับ” พ่อบ้านกล่าว

    “ใช่แล้ว เราถึงต้องมาวางแผนกันไง ฮึๆๆ” มาตาร์พูดพร้อมหัวเราะออกมาอย่างชั่วร้าย ก่อนจะเริ่มต้นวางแผนการดักตีหัวเรย์น่าแล้วลากออกจากเกาะด้วยกัน

     

    แวบบ!!

    ร่างของเด็กสาวผิวสีน้ำผึ้งกับผมสีดำกระเซอะกระเซิงและดวงตาสีเหลืองทองที่ฉายแววดุปรากฏตัวขึ้นกลางป่าโปร่งแห่งหนึ่ง โดยมีหญิงสาวที่ใส่ชุดสีขาวทั้งตัวดูพริ้วไหวลอยอยู่ไม่ห่างมากนัก

    ฟิ้ว!

    เด็กสาวผมกระเซิงที่เท้าสัมผัสพื้นกระโดดเข้าโจมตีหญิงสาวที่ใส่ชุดพริ้วๆสีขาวที่ลอยอยู่เหนือพื้นทันทีแบบไม่ถามไถ่ แต่ร่างของหญิงสาวชุดขาวกลับลอยพ้นระยะจู่โจมออกไปอีก

    วืดด!

    แต่ทันใดนั้นร่างของเด็กสาวผมดำก็เคลื่อนที่เหมือนถูกเหวี่ยงเข้าไปใส่ร่างหญิงสาวที่ลอยอยู่นั่นจนเข้าระยะจู่โจมอีกครั้งทั้งๆที่ไม่ได้สัมผัสกับพื้นผิวใดใด

    เพียะ!!

    เท้าของเด็กสาวกระทบเข้ากับกำแพงที่มองไม่เห็น ทำให้เท้าของเธอสัมผัสไม่ถูกร่างที่ลอยอยู่นั้น ทั้งๆที่ตั้งใจจะโจมตีใส่ร่างนั้นแท้ๆ

    “อืม เจ้าจะไม่ถามก่อนโจมตีเสียหน่อยหรือ ว่าข้าคือใครน่ะ” หญิงสาวชุดขาวถามขึ้นมา หลังจากที่ร่างของเด็กสาวตกลงสู่พื้นเรียบร้อย

    ฟิ้ว! เพียะ! เพียะ!

    เด็กสาวไม่พูดจา เธอส่งสายตาดุๆแล้วก็กระโดดเข้าโจมตีร่างที่ลอยอยู่นั่นอีกครั้ง

    “พาโมเรน่ากลับไปหามาตาร์นะ!!” เด็กสาวตะโกนขึ้นพร้อมกับเตะใส่กำแพงที่มองไม่เห็นนั่นไม่ยั้งจนขาของเธอเริ่มมีบาดแผลแล้ว

    “ไม่ได้หรอก ตอนนี้เจ้าเป็นสมบัติของเราแล้ว จงใช้ชีวิตอยู่ในอาณาเขตของเราจนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสมเถอะ” หญิงสาวชุดขาวพูดแล้วร่างของเธอก็ค่อยๆอันตรธานไป

    ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!

    “พาโมเรน่ากลับไปหามาตาร์!!! ฮือ~!!” เด็กสาวแผดเสียงขึ้นมาอีกพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างช่วยไม่ได้ พร้อมกับเตะอากาศอันว่างเปล่าอย่างบ้าคลั่ง เพราะเธอไร้สิ้นหนทางใดใด ไม่รู้ว่าตนเองอยู่ที่ไหน และไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรถึงจะกลับไปหาเจ้านายของเธอได้

    ช่วงเวลาสุดท้ายก่อนที่เธอจะถูกผนึก โมเรน่าจำได้ว่าตนเองนั้นอยู่บนโมโนไบค์อย่างไร้ประโยชน์ใดใด สู้ใครก็ไม่ได้ ได้แต่ยืนเฉยๆเท่านั้นเอง แล้วก็เหมือนมีแสงแวบเข้ามา หลังจากนั้นก็เหมือนถูกขังอยู่ในห้องแคบๆ จนมาโผล่อยู่ที่ป่าโปร่งแห่งนี้

    แม่เสือสาวย่อมเสียใจที่โดนจับพรากออกมาจากเจ้านายของเธอ และเจ็บใจในความไร้ประโยชน์ของตัวเองด้วย

    ตุบ!

    “โฮ~~!!

    สุดท้ายแล้วโมเรน่าก็ทรุดกายลงแล้วปล่อยโฮออกมาเต็มเสียง นี่เป็นประสบการณ์ที่เธอไม่เคยเจอมาก่อน ...การพลัดพรากจากคนที่รัก

    “โฮ่ๆๆๆ ร้องไห้จนกว่าจะพอใจเถอะ แล้วเจ้าจะรู้ว่าสิ่งที่เจ้าต้องเผชิญหลังจากนี้มันยุ่งยากเพียงใด หากเจ้ายังอ่อนแออยู่แบบนี้ก็ได้แต่เป็นภาระเท่านั้นแหละ” หญิงสาวชุดขาวพูดขณะที่ลอยอยู่เหนือป่าแห่งนั้นในสภาวะที่ไม่อาจมองเห็นตัวได้ ก่อนที่จะหายตัวไปจริงๆ

     

    “ตอนนี้เจ้าอยู่ในอาณาเขตของข้า เจ้ามีสิทธิ์จะไปที่ใดก็ได้ในอาณาเขตนี้ แต่ไม่มีสิทธิ์ที่จะออกจากอาณาเขตนี้เด็ดขาด” เสียงชายหนุ่มที่ดุดันพูดกับเด็กสาวที่ท่าทางนิ่งๆ

    “...” เด็กสาวผมสีน้ำตาลมองไปรอบๆด้วยดวงตาสีแดงก่ำของเธอ สถานที่ที่เธอยืนอยู่นี้ มันเป็นเมืองที่มีอาคารขนาดใหญ่แบบสมัยโบราณ ทุกอย่างทำด้วยหินก้อนใหญ่ๆ ต้นไม้มีขึ้นอยู่บ้างประปราย แต่ดูรวมๆแล้วมีสีเหลืองกับน้ำตาลมากกว่าสีเขียว แดดก็แรงจนแสบตาไปหมด

    “เจ้ามีคำถามจะถามข้าหรือไม่” ชายหนุ่มรูปร่างใหญ่พูดขึ้นอีก เขาใส่กางเกงผ้าสีขาวยาวถึงข้อเท้ากับรองเท้าปลายโค้ง ท่อนบนใส่เสื้อกั๊กเปิดอกเผยให้เห็นกล้ามที่ฟิตเปรี๊ยะ

    “มาตาร์อยู่ไหน” เด็กสาวผมน้ำตาลถามขึ้นมาเรียบๆ

    “นั่นไม่ใช่คำถามที่เจ้าควรถาม” ชายหนุ่มล่ำบึ้กตอบกลับห้วนๆ

    “มาตาร์อยู่ไหน!” เด็กสาวถามขึ้นมาอีก คราวนี้เธอขึ้นเสียงดังจนเหมือนกับตะโกน

    “ถ้าไม่มีคำถามอื่น ข้าก็จะไปล่ะ” ชายหนุ่มพูดเสร็จก็ลอยตัวขึ้นไปบนอากาศทันที

    วืด!

    เด็กหญิงผมสีน้ำตาลกระโดดพร้อมกับใช้พลังจิตของเธอลอยตามชายหนุ่มขึ้นไปพร้อมกับใช้ส้นเท้าเตะใส่ทันที

    ผัวะ!

    ชายหนุ่มเอามือของเขารับลูกเตะนั้นเอาไว้ได้ง่ายๆราวกับรับของที่ไม่มีน้ำหนัก

    หมับ!

    “ช่างอ่อนแอนัก ถ้าเจ้าอยากจะถามคำถามนั้น จงแข็งแกร่งขึ้น” ชายหนุ่มพูดขึ้นมาอีกพร้อมกับจับขาของเด็กสาวที่เตะใส่เขาเอาไว้

    วืด! ตูมม!!

    ร่างของเด็กสาวถูกเหวี่ยงลงพื้นทันที พร้อมกับรอยยุบที่เป็นหลุมรูปวงกลมรอบๆ พื้นที่เป็นดินนุ่มๆดูจะช่วยลดแรงกระเทกได้บ้าง แต่ก็ยังทำให้เด็กสาวบาดเจ็บอยู่ดี

    แค่ก! แค่ก!

    เด็กสาวผมน้ำตาลกระอักออกมาเป็นเลือด แล้วหลังจากนั้นน้ำตาของเธอก็ค่อยๆไหลออกมา

    “ฮึก ...ฮือ~! ~าต~าร์” แล้วเด็กสาวผมสีน้ำตาลก็ร้องไห้ออกมาในที่สุด เธอไม่ได้ร้องไห้เพราะเจ็บกาย แต่เธอร้องไห้เพราะเจ็บใจ และร้องไห้เพราะเธอถูกพรากจากบุคคลอันเป็นที่รัก

     

    “ที่นี่ที่ไหนคะ” เด็กสาวผมขาวถามขึ้นมาทันทีที่เธอถูกปล่อยออกมาจากผนึก

    รอบๆบริเวณที่เธอยืนอยู่เป็นพื้นดินราบเรียบ ต้นไม้ที่ขึ้นข้างทางดูแห้งแล้งทั้งๆที่พื้นดินก็ดูชุ่มชื้น ท้องฟ้าสีทึมๆไม่มีแสงแดดเลย

    “ที่นี่คือดินแดนแห่งความตาย” เสียงแหบแห้งตอบกลับ

    “แล้วมาตาร์อยู่ไหนคะ” เด็กสาวผมขาวถามอีก

    “อยู่ในดินแดนแห่งคนเป็น” เสียงแหบแห้งตอบกลับ

    “คลาร่าอยากกลับไปหามาตาร์” เด็กสาวผมขาวพูดขึ้นอีก

    “เจ้ากลับไปหาเขาไม่ได้ เขาต่างหากที่ต้องมาหาเจ้า และอย่าคิดว่าการตายจะช่วยเจ้าได้ แม้เจ้าจะตายไป เจ้าก็จะกลับมาเกิดในดินแดนแห่งความตายนี้อยู่ดี” เสียงแหบแห้งกล่าว

    “ให้คลาร่ากลับไปหามาตาร์เถอะค่ะ” เด็กสาวผมขาวอ้อนวอนอีก

    “เวลาของเจ้ามีอีกมากมาย ก่อนที่เจ้านายของเจ้าจะมารับ ทำไมไม่ลองค้นหาตัวตนของเจ้าที่นี่ล่ะ” ชายเจ้าของเสียงแหบแห้งนั้นดูเหมือนจะไม่สนใจในสิ่งที่เด็กสาวพูดเลย เขาพูดแต่เรื่องที่เขาอยากจะพูดเท่านั้น

    “ทำยังไงถึงจะยอมให้คลาร่ากลับไปหามาตาร์ได้คะ?” เด็กหญิงผมขาวก็ดูเหมือนจะไม่สนใจในสิ่งที่ชายผู้มีเสียงแหบแห้งคนนั้นพูดเลย เธอถามในสิ่งที่เธออยากจะรู้เท่านั้น

    “จงก้าวหน้าขึ้น และวันที่เจ้านายของเจ้ามาหา วันนั้นแหละ เจ้าจะนึกขอบใจข้า” เสียงแหบแห้งพูดขึ้นอีก แล้วก็หายวับไปทันที

    “...” เด็กสาวผมขาวเงียบไปทันทีเมื่อไม่มีคู่สนทนา

    แตะ! แตะ!

    เด็กสาวผมขาวเดินย่ำไปในพื้นที่รกร้างนี้อยากไร้จุดหมายทันที เธอไม่ร้องไห้ฟูมฟาย และไม่รีรอความช่วยเหลือ เธอพยายามจะหาทางออกจากสถานที่แห่งนี้ด้วยตัวเอง เพื่อที่จะได้กลับไปหาเจ้านายของเธอ

    “หึๆๆ ท่าทางจะแข็งแกร่งกว่าที่เห็นภายนอกนะเนี่ย” เสียงแหบแห้งพูดขึ้นเมื่อเขาจ้องมองภาพที่ปรากฏขึ้นในสถานที่อันสงบเงียบแห่งหนึ่ง

     

    ฟิ้ว!

    ชายหนุ่มผมแอฟโรพุ่งเข้าใส่หญิงสาวผมขาวจากทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว แล้วต่อยหมัดของเขาใส่ทันที

    วืด!

    “จะทำอะไรน่ะนายมาตาร์” หญิงสาวผมขาวกลับรู้ตัวก่อนแล้วหลบได้อย่างทันท่วงที

    “ได้เวลาปิดบัญชีแล้วยัยงูพิษ” ชายหนุ่มแอฟโรตอบกลับ พร้อมทั้งเคลื่อนตัวโจมตีต่อไปทันที

    ผัวะ!

    “โอ๊ยย!

    เท้าของหญิงสาวยันกลับเข้าที่ใบหน้าของชายหนุ่มจนตัวเขากระเด็นออกไปทันที

    “กระจอกน่า ด้วยสภาพร่างกายแบบนั้นคิดว่าจะสู้ชั้นได้เหรอ” หญิงสาวพูดพร้อมกับหยิบแส้ของเธอออกมาทันที

    “ถึงจะถูกจำกัดค่าสถานะ แต่ชั้นก็มีสิ่งอื่นทดแทนน่า” มาตาร์ซึ่งฟื้นตัวอย่างรวดเร็วตอบกลับ พร้อมกับพุ่งเข้าไปโจมตีอีกครั้งทันที

    มาตาร์มีค่าถานะต่ำก็จริง แต่สิ่งที่เขามีทดแทนกันนั่นก็คือความเร็วในการฟื้นค่าสถานะ ไม่ว่าจะเป็นพลังวิญญาณ ปราณ พลังจิต ความอึด หรือสมาธิ ทำให้เขาสามารถใช้พลังเล็กๆนี้ได้ตลอดเวลา สิ่งที่เขาต้องเปลี่ยนก็คือการใช้พลังเล็กๆนี้ให้ได้ประสิทธิภาพสูงที่สุด เพราะศัตรูที่เขาต้องเจอหลังจากนี้เป็นคนที่มีค่าสถานะมากกว่าเขาเป็นสิบเท่าทั้งนั้น

    ฟิ้ว! ฟิ้ว!

    เท้าไร้เงาที่แฝงปราณเป็นจังหวะทำให้ชายหนุ่มเคลื่อนเข้าประชิดหญิงสาวได้อีกครั้ง

    เปรี๊ยะ!!

    “อึ๊!

    สายฟ้าจากผลึกเวทของหญิงสาวช็อตเข้าใส่ร่างของชายหนุ่มทันที แต่ชายหนุ่มกลับใช้พลังเวทบริสุทธิ์รับพลังสายฟ้านั้น พร้อมกับสวนหมัดกลับไปแบบไม่เกรงโดนช็อต

    ปึ้กก!!

    “อะไรน่ะ!? แกทำได้ยังไง” หญิงสาวผมขาวแปลกใจมากที่ชายหนุ่มแอฟโรซึ่งไม่มีพลังธาตุใดใดเลยสามารถต้านทานพลังสายฟ้าได้

    “ถามอะไรน่ะ เรื่องแบบนี้ใครเค้าบอกกันยัยงูพิษ” ชายหนุ่มอฟโรพูดถ่วงเวลา จริงๆแล้วเขาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการโดนสายฟ้าช็อตใส่ แต่ทำเนียนว่าไม่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งต้องถือว่าเขาได้รับบาดเจ็บน้อยผิดปกติจริงๆ

     

    “อาวุธที่น่ากลัวของยัยงูพิษไม่ใช่แส้ความมืด เพราะผมป้องกันมันได้แล้ว แต่คือผลึกสายฟ้านั่นต่างหาก” มาตาร์ปรึกษากับพ่อบ้านของเขาเรื่องการต้อสู้กับเรย์น่า

    เนื่องจากชายหนุ่มสามารถแบ่งพลังออกเป็นส่วนๆตามอวัยวะได้แล้ว ทำให้แส้ที่ดูดพลังได้ไม่น่ากลัวอีกต่อไป แต่พลังจากสายฟ้าที่ต้องรับด้วยสายฟ้าเท่านั้นที่เป็นปัญหาในตอนนี้ ถ้าคืนร่างอาจจะสู้ได้ง่ายกว่านี้ แต่ถ้าสู้กันยืดเยื้อพลังงานจากโมโนไบค์ที่ใช้ในการคืนร่างก็จะหมดก่อนแล้วก็ต้องสู้กันในร่างไรเดอร์อยู่ดี การคืนร่างจึงเป็นตัวเลือกสุดท้ายเท่านั้น

    “จริงๆแล้วพลังเวทบริสุทธิ์ ถึงจะใช้โจมตีไม่ได้ แต่ใช้ป้องกันก็พอไหวอยู่นะครับ” พ่อบ้านกล่าว

    “เอ๋? พลังเวทนี่ใช้ป้องกันได้ด้วยเหรอเนี่ย” มาตาร์ถามขึ้นมาอย่างตื่นเต้น ถือว่าเป็นความรู้ใหม่เลยทีเดียว

    “ขึ้นอยู่กับความชำนาญในการใช้เวทน่ะครับ ถ้าพลังเวทแปลงเป็นพลังธาตุโดยผ่านผลึกเวทได้ ทำไมพลังธาตุทั้งหลายจะถูกแปลงกลับเป็นพลังเวทไม่ได้ล่ะครับ” พ่อบ้านผู้รอบรู้อธิบายหลักการ

    และด้วยหลักการเดียวกันนี้ ผู้ใช้เวทย่อมป้องกันผลจากเวทมนตร์ได้ทุกชนิดโดยใช้การแปลงเวทที่โจมตีมา กลับเป็นเวทบริสุทธิ์ที่ไม่มีพลังโจมตีในตัวเองได้ ซึ่งการทำเช่นนี้ย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายแน่นอน เพราะสายเวทที่แตกต่างจะยิ่งทำให้การแปลงพลังเวทย้อนกลับทำได้ยาก

    “โห ผมไม่ค่อยได้ใช้เวทซะด้วยสิ แบบนี้สงสัยจะโดนเต็มๆแหงเลย” มาตาร์กล่าว

    “คงจะพอป้องกันได้นิดหน่อยนั่นแหละครับ ที่เหลือปล่อยให้เข็มขัดช่วยฟื้นพลัง อย่าโดนบ่อยเกินไปนะครับ ไม่อย่างนั้นเข็มขัดก็ช่วยไม่ได้เหมือนกัน” พ่อบ้านพูดออกมาเหมือนจะส่งสัญญาณไปให้แม่แมลงประจำเข็มขัด

     

    “เลิกขัดขืนแล้วออกทะเลกับชั้นดีๆเถอะน่ายัยงูพิษ” มาตาร์ชวนหญิงสาวอีกครั้ง

    “นายต่างหากที่ต้องอยู่กับชั้นที่นี่ ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น” หญิงสาวตอบกลับเสียงดุๆ

    ช่างเป็นเนื้อหาการพูดคุยที่แปลกประหลาด เมื่อทั้งคู่ไม่ได้อยากจะแยกจากกัน แต่กลับต้องมาสู้กันเพื่อที่จะให้อีกฝ่ายอยู่ในสถานที่ที่ตนเองต้องการ

    วูม!

    ชายหนุ่มเกร็งปราณใส่มือตามเคล็ดหมัดยกกำลังทันที ปราณค่อยๆสะสมแล้วฟื้นฟูอย่างรวดเร็วใส่นิ้วและฝ่ามือ

    ฟิ้วว!!

    “งั้นก็หลับไปซะเถอะยัยงูพิษ!!” มาตาร์พุ่งเข้าใส่หญิงสาวพร้อมกับจรดหมัดเตรียมต่อยใส่เธอทันที

    “นายต่างหากที่ต้องหลับ!!” หญิงสาวตอบกลับพร้อมกับสะบัดแส้ความมืดใส่ชายหนุ่มทันที

    เฟี้ยว!

    แส้สีดำตวัดเข้าใส่ร่างของชายหนุ่มทันที

    ฟวับ!!

    “แส้ของเธอมันไร้ประโยชน์แล้ว!” ทันใดนั้นชายหนุ่มก็เตะเท้าของเขาเข้ารับแส้ทันที แล้วเคลื่อนไหวต่อไปด้วยพลังปราณจากร่างกายส่วนอื่น

    “ฮึ” หญิงสาวแสยะยิ้มออกมาทันที

    ฟวับบ!!

    หญิงสาวสะบัดแส้เส้นเดิมนั้นขึ้นอีก พลันปรากฏปลายแส้แยกออกมาหกถึงเจ็ดเส้น เลื้อยเข้ามาพันร่างของชายหนุ่มทั้งตัว ตั้งแต่หัว คอ แขน ขา พันจนไม่มีจุดที่จะใช้ถ่ายพลังได้เลย

    “อะไรเนี่ย ยัยงูพิษ เธอมีไม้ตายแบบนี้ด้วยเหรอ” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับทรุดกายลงทันที แม้แต่ปราณที่เตรียมเอาไว้โจมตีก็สูญสลายไปหมดเพราะโดนปราณความมืดจากแส้นี้เข้าไป

    แส้อสรพิษไงล่ะ ไหนๆนายก็ชอบเรียกชั้นว่ายัยงูพิษอยู่แล้ว ชั้นก็เลยคิดไม้ตายออกมาใหม่ เอาไว้สู้กับนายโดยเฉพาะซะเลย คราวนี้นายก็หนีไปไหนไม่รอดแล้วล่ะนะ” หญิงสาวอธิบายพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ชายหนุ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

    เพียะ!!

    หน้าของมาตาร์หันไปด้านหนึ่งทันทีเพราะแรงฝ่ามือของหญิงสาว

    “อย่าคิดจะออกไปจากที่นี่อีกเชียว ไม่อย่างนั้นชั้นจะทรมานนายทุกวันเลย” หญิงสาวพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงดุๆ

    “ชั้นบอกแล้วไง ว่าชั้นไม่มีวันอยู่กับเธอตลอดไปหรอก ซักวันเราต้องแยกจากกัน” มาตาร์ซึ่งไร้ทางสู้ตอบกลับ

    หมับ!

    “แต่ตอนนี้เรายังอยู่ด้วยกันนี่” หญิงสาวพูดพร้อมกับกอดชายหนุ่มเอาไว้ทันที

    “เฮ่! ยัยงูพิษ ทำอะไรน่ะ!” มาตาร์รู้สึกผิดคาด เขานึกว่าจะโดนทรมานเหมือนปกติเสียอีก แต่กลับโดนกอด

    กร๊อบบ!!

    “อ๊ากก!!

    หญิงสาวออกแรงกอดแน่นมากจนกระดูกของชายหนุ่มลั่นเปรี๊ยะไปทั้งตัว

    กร๊อบบ! โอ๊ยย!!

    “มีแผนอะไรอีกรึเปล่านายมาตาร์ นายมันเจ้าเล่ห์นัก” หญิงสาวพูดออกมาพร้อมกับทรมานเขาไปเรื่อยๆด้วยการกอดอันหนักหน่วงของเธอ

    “ยัยโรคจิต! ยัยซาดิสม์!” มาตาร์หาหนทางตอบโต้หญิงสาวไม่ได้ เขาจึงได้แต่ต่อปากต่อคำเท่านั้น

    “เงียบนะ!! ไอ้บ้า!” หญิงสาวก็ไม่ยอมแพ้ เธอก็ด่าชายหนุ่มกลับเหมือนกันพร้อมกับกอดเขาแน่นขึ้นอีก

    ขณะนั้นแม่เต่าทองน้อยซึ่งอยู่ในผนึกก็จ่ายพลังชีวิตให้ชายหนุ่มเรื่อยๆจนเธอเกือบจะตายอยู่แล้ว

    วูมม! พลักก!!

    ทันใดนั้น หญิงสาวถูกวัตถุชิ้นหนึ่งกระแทกตัวปลิวไป ทั้งที่ยังไม่ทันส่งเสียงร้องออกมาสักแอะ

    ตุบ! ตุบ! ตุบ!

    แล้วเธอก็กลิ้งไปอีกสี่ถึงห้าตลบก่อนจะนอนแน่นิ่งไป

    “เป็นยังไงบ้างครับคุณแอฟโร” เสียงนุ่มๆดังออกมาจากเจ้าวัตถุชิ้นนั้น

    แล้วแส้ปราณความมืดที่พันร่างของชายหนุ่มแอฟโรไว้ก็ค่อยๆสลายไป

    “แส้ของแม่นี่ร้ายกาจกว่าที่คิดแฮะ อย่างนี้เจอกันคราวหน้าหนีไม่รอดแน่นอน แต่ไม่นึกว่าแผนง่ายๆนี้จะสำเร็จแฮะ” ชายหนุ่มตอบกลับเจ้าของเสียงนุ่มๆนั้น

    “เพราะคุณเรย์น่าไม่รู้ว่าโมโนไบค์เคลื่อนไหวได้ด้วยตัวเองนั่นแหละครับ ที่เป็นตัวตัดสินผลในครั้งนี้” เสียงนุ่มๆของพ่อบ้านที่เป็นคนบังคับโมโนไบค์พูดขึ้นอีก

    “แล้วยัยนั่นตายมั้ยเนี่ย กระแทกซะแรงเลยนะสไลป” ชายหนุ่มเป็นห่วงหญิงสาวเพราะเห็นเธอกระเด็นไปแบบน่ากลัวมาก

    ด้วยค่าสถานะทางร่างกายที่สูงลิบของโมโนไบค์ระดับสิบคันนี้ ทำให้พลังโจมตีของมันรุนแรงมาก ผู้เล่นระดับสูงที่ไม่ค่อยระวังตัวอาจจะตายได้ถ้าโดนเจ้าโมโนไบค์นี้กระแทกเต็มแรง

    “ผมพยายามเลี่ยงจุดตายครับ แต่ตอนที่คุณเรย์น่ากลิ้งไปตามพื้นไม่รู้ว่าโดนอะไรบ้างเหมือนกัน” พ่อบ้านตอบกลับเรียบๆ

    “อืม เข้ามาอยู่ในเข็มขัดก่อนสไลป ผมจะคืนร่าง” ชายหนุ่มพูดเรียบๆพร้อมกับเดินไปที่ร่างของหญิงสาวผมขาวที่นอนแน่นิ่งอยู่กับพื้นทันที

    แวบ! แวบ!

    แล้วโมโนไบค์สีเทาคันใหญ่นั้นก็หายไป แต่พลันปรากฏร่างของเด็กหญิงผมแดงขึ้นมาแทน

    “แอฟโรบาดเจ็บตรงไหนบ้างรึเปล่าคะ” เด็กหญิงถามชายหนุ่ม

    “ไม่มีตรงไหนบาดเจ็บเลยเลดี้ เข็มขัดช่วยฟื้นพลังจนหมดแล้วล่ะ” ชายหนุ่มตอบกลับเด็กหญิง

    “เหรอคะ ฮิฮิ” เด็กหญิงยิ้มรับอย่างยินดี เพราะคนที่ฟื้นพลังให้เขามันก็คือเธอเองนี่นา ส่วนเธอก็ใช้พลังจากเข็มขัดฟื้นพลังตัวเองจนเต็มเหมือนเดิมแล้ว

    “คืนร่าง!” ชายหนุ่มแอฟโรพูดขึ้น แล้วทรงผมและสีตาของเขาก็เปลี่ยนไปทันที กลายเป็นผมเดรดล็อคสีแดงกับตาสีเงิน

    วูม!

    มาตาร์ถ่ายปราณธาตุลมเยียวยาให้หญิงสาวที่นอนนิ่งไปทันที พร้อมกับใส่ปราณธาตุน้ำแข็งที่ทำให้เธอหลับเพิ่มเข้าไปด้วย ก่อนที่จะกลับเข้าสู่ร่างไรเดอร์ทันทีที่เห็นว่าหญิงสาวไม่มีอาการบาดเจ็บเหลือแล้ว

    หมับ!

    “โอเค ไปกันเถอะ” ชายหนุ่มแบกร่างของหญิงสาวผมขาวขึ้นบ่า ก่อนที่จะเดินไปสู่ชายทะเลทันที

     

    สองคนนี้ดูท่าจะไม่ยอมเลิกเล่น SM กันจริงๆแฮะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×