ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    JOQ Online คนจริงลวงโลก <มี E-Book>

    ลำดับตอนที่ #143 : บทที่139: ไรเดอร์คนที่สาม

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 11.95K
      129
      24 ม.ค. 55

    บทที่139 ไรเดอร์คนที่สาม

    ชายคนหนึ่งที่มีผมทรงเดรดล็อคสีแดงกำลังขับโมโนไบค์ของเขาออกจากเกาะไรเดอร์อย่างไร้จุดหมาย

    หึๆๆ ถึงคราวเจ้าหนุ่มนี่จะต้องสูญเสียสิ่งที่มันมีบ้างล่ะเสียงทุ้มต่ำพูดขึ้นขณะจ้องมองจอภาพในสถานที่ไม่แน่ชัด

    ท่านจะไปยึดเอาสิ่งใดจากมัน ท่านไม่มีสิทธิ์ยึดพาหนะของมันหรือสิ่งที่เชื่อมต่ออยู่กับพาหนะนั่นหรอกนะ มันเป็นกฎเสียงแหบแห้งพูดขัดขึ้นมา

    ยังมีสิ่งที่ข้ายึดจากมันได้ก็แล้วกันเสียงทุ้มต่ำพูดขึ้นก่อนที่ร่างของเจ้าของเสียงนั้นจะอันตรธานไป

    ทะเลกลางโลกเป็นอาณาเขตของเนปจูนที่จะคอยปกป้องเกาะไรเดอร์จากผู้เล่นเอาไว้ เพราะเข็มขัดไรเดอร์เป็นอุปกรณ์ที่ไม่ควรจะออกไปสู่ภายนอก วิธีการได้มาก็แสนจะยากเย็น แถมยังสูญเสียไปได้ง่ายดายอีกด้วย แต่เนปจูนก็มีกฎว่าห้ามยึดยานพาหนะจากผู้เล่นที่ฝ่าเข้ามาถึงเกาะไรเดอร์ได้ เพราะถ้ายึดพาหนะผู้เล่นไป จะกลายเป็นว่าผู้เล่นถูกจับขังไว้บนเกาะ ดังนั้นผู้ที่ทำภารกิจเข็มขัดไรเดอร์สำเร็จก็จะไม่สูญเสียเข็มขัดไปหรือแม้แต่แมลงประจำเข็มขัด แต่นอกเหนือจากนั้น เนปจูนมีสิทธิ์ยึดได้

     

    ครืนน!

    ท้องฟ้ามืดครึ้ม ทะเลเกิดคลื่นลมขึ้นอย่างกะทันหันเมื่อชายหนุ่มผมแดงออกมาจากเกาะได้สักพักแล้ว

    “อะไรหว่า อยู่ๆก็มีพายุเหรอเนี่ย” ชายหนุ่มผมแดงเอ่ยออกมาเมื่อเห็นว่ามีทั้งคลื่นทั้งลมขวางทางเขาอยู่

    ซ่า! ซ่า! ซ่า!

    เหล่าอสูรน้ำกระโดดขึ้นจู่โจมชายหนุ่มทันที

    “แปลงร่าง!” ชายหนุ่มผมแดงเอ่ยขึ้นพร้อมกับเก็บโมโนไบค์ของเขาไปทันที

    ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ!

    ชายหนุ่มผมแดงใช้ดาบไร้คมของเขาฟันอสูรน้ำขาดกลางทั้งหมด พร้อมกับพุ่งตัวไปทิศทางหนึ่งทันที

    แฉะ! แฉะ! แฉะ!

    ชายหนุ่มผมแดงใช้ปราณดินเปลี่ยนความหนาแน่นของพื้นน้ำแล้ววิ่งไปอย่างรวดเร็ว ทางทิศทางที่มีบุรุษคนหนึ่งใส่ผ้าคลุมปิดบังทั้งศีรษะยืนอยู่

    “ฮ่าๆๆๆ แมงเม่าบินเข้ากองไฟแท้ๆ” เสียงทุ้มต่ำของชายสวมผ้าคลุมที่ยืนอยู่บนพื้นน้ำพูด

    “คืนร่าง!!” ชายหนุ่มผมแดงตะโกนขึ้นมา แล้วทรงผมของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีดำทันที

    ฉัวะ!!

    “อ๊าคค!!

    การต่อสู้จบลงอย่างรวดเร็ว เมื่อดาบสลับคมของชายหนุ่มผมดำฟันเข้าใส่ร่างของชายสวมผ้าคลุมแบบฝ่าทะลุทุกการป้องกันอย่างง่ายดาย

    “ก ...แก!” ชายสวมผ้าคลุมแค่นเสียงออกมา

    ปลอกดาบจากชายหนุ่มผมดำตามซ้ำเข้าไปที่คอของชายสวมผ้าคลุม ก่อนที่ดาบด้านที่ไม่มีคมจะตอกใส่กระโหลกจนได้ยินเสียงของมันแตกออกมา

    ปึ้ก! โพละ!

    แล้วตามด้วยเท้าที่ยันเข้าไปที่หน้าเต็มๆ พร้อมกับไฟที่ลุกขึ้นมา

    ผัวะ!! พรึบ!

    “อุ้กก!

    แล้วร่างของชายสวมผ้าคลุมนั้นก็ทรุดลงแล้วจมลงไปในทะเลทันที

    ต๋อม!

    แล้วชายหนุ่มผมดำกระโดดตัวลอยขึ้นจากผิวน้ำ ก่อนที่จะตะโกนขึ้นครั้งหนึ่ง “เพกาซัส!

    แวบ!

    โมโนไบค์สะเทินน้ำสีขาวปรากฏขึ้นพร้อมกับทรงผมของชายหนุ่มที่กลับกลายเป็นเดรดล็อคสีแดงอีกครั้ง

    ตุบ!

    “นักล่าคราวนี้แปลกดีแฮะ เวลาตายไม่กลายเป็นแสงด้วย” ชายหนุ่มผมแดงพูดออกมาเรียบๆพร้อมกับทิ้งตัวลงบนโมโนไบค์ของเขาทันที

    แว้นน!!

    แล้วชายหนุ่มผมแดงก็ขับโมโนไบค์ของเขาออกจากทะเลกลางโลกต่อไปแบบสบายๆ โดยไม่ได้รู้ตัวเลยว่าเขาได้ปราบเจ้าทะเลลงไปแล้วอย่างง่ายดาย

     

    “เนปจูน ในที่สุดท่านก็มีวันนี้จนได้” เสียงแหบแห้งพูดขึ้นมาเมื่อเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดแล้ว

    “ถ้าอย่างนั้นสมบัติของเนปจูนก็ตกเป็นของพวกเราสินะ” เป็นเสียงผู้หญิงพูดขึ้น

    “เพียงแค่สัปดาห์เดียวเนปจูนก็จะฟื้นขึ้นมาแล้ว พวกท่านจะยึดสมบัติของเนปจูนไปอย่างนั้นรึ” เสียงแหบแห้งพูดขัดขึ้นมา

    “ทำเป็นพูดดีไป ท่านน่ะรอเวลานี้มาตลอดนั่นแหละ ท่านพลูโต” เสียงผู้หญิงพูดตอกกลับไป

    “ฮึๆๆ ท่านอิซะนะมินี่ ข้าอุตส่าห์ไม่แสดงออกแล้วเชียวนะ” เสียงแหบแห้งพูดขึ้น

    “ท่านมาอยู่ใกล้ๆเนปจูนเป็นประจำเพื่ออะไร ท่านออกจะทำตัวชัดเจน ถึงแม้จะไม่พูดออกมาก็เถอะ แต่ใครๆก็รู้ ฮึๆๆ” เสียงผู้หญิงพูดขึ้นมาอีก

    “ถ้าอย่างนั้นข้าขอสิทธิ์เลือกก่อนก็แล้วกัน เพราะข้ารอมานานแล้ว” เสียงแหบแห้งพูดจบ ลูกแก้วสามลูกก็ลอยออกมาจากกล่องสมบัติที่วางอยู่บนพื้นทันที

    “อ๊ะๆๆ นั่นท่านจะเอาไปคนเดียวไม่ได้หรอกนะ ใครๆก็เล็งทั้งสามนางนี้ไว้ทั้งนั้น แถมท่านยังไม่มีเขตแดนให้พวกนางอีกสองคนด้วย” เสียงผู้หญิงพูดขึ้นพร้อมลูกแก้วอีกสองลูกที่ลอยแยกออกมา

    “เจ้าก็ไม่มีเขตแดนสำหรับอีกนางที่เหลือเหมือนกัน” เสียงชายฉกรรจ์ดังขึ้นมาจากอีกด้านพร้อมกับลูกแก้วอีกลูกหนึ่งลอยแยกออกไป

    “รา!” เสียงผู้หญิงแสดงความตกใจ

    “แม้แต่ท่านก็มาหรือนี่” เสียงแหบแห้งพูดขึ้นเมื่อได้ยินเสียงคนที่มาใหม่

    “เมื่อรู้ว่าเนปจูนเสียท่า ใครๆก็ต้องรีบมาเพื่อพวกนางทั้งนั้นแหละ เพราะว่าพวกนางเป็นหลักประกันให้พวกเราได้ ว่าจะไม่โดนความสามารถของผู้ทำลายคนนั้น” เสียงชายฉกรรจ์พูดขึ้น

    “ยังไม่แน่ว่าเจ้าหนุ่มนั่นจะกลายเป็นผู้ทำลาย หนทางยังอีกยาวไกลนัก” เสียงแหบแห้งคัดค้านขึ้นมา

    “อย่ามาโกหกพลูโต ถ้าท่านคิดว่าไอ้หนุ่มนั่นไม่มีทางกลายเป็นผู้ทำลายได้ ไฉนท่านถึงได้มาอยู่ที่นี่ตั้งแต่แรก” เสียงชายฉกรรจ์พูดขึ้นมาอีก

    “ฮึๆๆ อย่างน้อยพวกเราก็สร้างบุญคุณให้พ่อหนุ่มนั่น พวกท่านทั้งสองก็รอวันที่เขาจะมารับสมบัติของเขากลับไปก็แล้วกันนะ โฮ่ๆๆ” เสียงหญิงสาวพูดขึ้น ก่อนที่ลูกแก้วลูกหนึ่งจะอันตรธานไปพร้อมกับเสียงหัวเราะที่ค่อยๆเบาลง

    “อืม ถ้าอย่างนั้นข้าก็ขอตัว ท่านรา” เสียงแหบแห้งพูดขึ้นพร้อมกับลูกแก้วลูกหนึ่งที่ค่อยๆจางหายไปเหมือนกัน

    “ฮึๆๆๆ ช่างน่าสมเพชนักเนปจูน สมบัติทั้งหลายของเจ้าล้วนไร้ค่าถ้าเทียบกับสามนางนี่ แต่เจ้าก็มาดันเสียท่าเอาง่ายๆ จนต้องเสียสมบัติล้ำค่านี้ไป ฮ่าๆๆๆ” แล้วเสียงหัวเราะของชายฉกรรจ์ค่อยๆเบาลงพร้อมกับลูกแก้วลูกสุดท้ายที่ค่อยๆจางหายไป ปล่อยกล่องสมบัติที่มีของอยู่ข้างในมากมายเอาไว้อย่างนั้นบ่งบอกถึงความไร้ค่าของมัน

     

    “ทำอะไรน่ะนายมาตาร์?” หญิงสาวพูดขึ้นเมื่อเธอเห็นว่าชายหนุ่มกำลังทำอาหารปริมาณมหาศาลเกินกว่าที่จะกินหมดได้ภายในวันเดียว โดยมีเด็กหญิงผมแดงคอยเป็นลูกมืออยู่ใกล้ๆ

    “ทำอาหารไง นี่ถึงขั้นดูไม่ออกเลยเหรอเนี่ย ถึงจะทำไม่เป็นก็น่าจะรู้นะว่ามันคือการทำอาหาร” ชายหนุ่มผมฟูพูดจาแดกดัน

    “ชั้นรู้ย่ะ แต่ทำอาหารทำไมมากมายแบบนี้” หญิงสาวผมขาวถามเสียงดุ

    “เอ๋า ก็จะได้ไม่ต้องไปตกปลาบ่อยๆระหว่างทางน่ะสิ” ชายหนุ่มผมฟูตอบเรียบๆ

    “หมายความว่าไง แกจะออกจากเกาะนี้ไปเหรอ ไม่ได้นะ!!” หญิงสาวตรงเข้ามายื้อแย่งอาหารในมือของชายหนุ่มทันที

    “เฮ้ย! ทำอะไรเนี่ยยัยงูพิษ เดี๋ยวชั้นก็ซัดเธอหลับซะเลยนี่” ชายหนุ่มพยายามฝืนตัวแต่ก็สู้แรงไม่ได้ เพราะสถานะของเขามันต่ำเตี้ยเรี่ยดินแทบไม่ต่างกับผู้เล่นหน้าใหม่

    “ทำอะไรแอฟโรน่ะ หยุดนะ!” เด็กหญิงผมแดงเห็นการยื้อแย่งกันก็เข้าไปช่วยชายหนุ่มทันที

    “หลีกไปนะเจ้ามดปลวกเบอร์สี่” หญิงสาวพยายามสะบัดเจ้าคู่พี่น้องหน้าเหมือนนี่ออกไปจากเนื้อชิ้นยักษ์ในมือเธอให้ได้

    “เลดี้ไม่ได้เป็นมดปลวกนะ เลดี้เป็นเต่าทองตะหากเล่า” เด็กหญิงผมแดงเถียงกลับพร้อมกับจับมือของหญิงสาวเอาไว้แล้วพยายามดึงมันออกมาจากชิ้นเนื้อ

    “จะมาพยศอะไรตอนนี้เล่ายัยงูพิษ! ชั้นไม่ได้จะทิ้งเธอเอาไว้ที่นี่ซักหน่อย” ชายหนุ่มหัวฟูพูดขึ้นมาอีก ทำเอาหญิงสาวผมขาวหยุดใช้กำลังทันที

    “...” หญิงสาวเงียบแล้วปล่อยชิ้นเนื้อทันที

    แล้วชายหนุ่มก็นั่งลงแล้วทำอาหารต่อไป ปล่อยให้หญิงสาวยืนทำหน้าตาบอกไม่ถูกอยู่คนเดียว

    หน้าตาของหญิงสาวเหมือนจะเครียด เหมือนจะกลุ้มใจ แต่บางทีก็ยิ้มออกมา แต่อีกเดี๋ยวก็ทำคิ้วขมวดลงไปอีก เด็กหญิงผมแดงจ้องใบหน้าของหญิงสาวแล้วก็ทำหน้างงๆ ว่าตกลงยัยผู้หญิงคนนี้จะทำหน้าอย่างไรกันแน่ กำลังฝึกบริหารกล้ามเนื้อใบหน้าอยู่หรือเปล่า ถึงได้ต้องเปลี่ยนหน้าไปมาถี่ๆแบบนี้

    “นายคิดจะทำอะไรน่ะมาตาร์” หญิงสาวผมขาวถามขึ้นมาอีกหลังจากเงียบไปสักพัก

    “เอ๋? ...ทำอาหารไง” ชายหนุ่มผมฟูตอบกลับพร้อมทำสีหน้างงๆ ก็เห็นอยู่ว่าทำอาหาร ยังจะถามอีก

    “นายบอกว่าจะไม่ทิ้งชั้นเอาไว้บนเกาะนี้ นายจะเอาชั้นไปทิ้งกลางทะเลใช่มั้ย!” หญิงสาวผมขาววิเคราะห์คำพูดของชายหนุ่มที่พูดกับเธอ

    “ก็นี่มันทะเลกลางโลก เธอก็เข้ามาที่นี่พร้อมกับชั้น ถ้าเธอไม่ออกไปพร้อมกับชั้น เธอจะคอยดักปล้นพวกมาทำภารกิจแล้วขับรถออกไปเองเหรอ ...มันจะมีซักกี่คนที่แต่งรถให้วิ่งบนทะเลได้เนี่ย” ชายหนุ่มหัวฟูพูดพร้อมกับทำอาหารไม่หยุดมือ

    “ฉันสงสัยว่าทำไมนายไม่ทิ้งชั้นเอาไว้แล้วหนีไปแบบคราวที่แล้วล่ะ” หญิงสาวถามออกมาตรงๆในที่สุด

    “ก็เธอมันน่าสงสารนี่นา” ชายหนุ่มตอบตรงๆไม่อ้อมค้อม

    “แก!! อย่ามาสงสารชั้นนะ!!” หญิงสาวโกรธขึ้นมาทันที แบบนี้มันหยามกันชัดๆ

    “โอเค งั้นเราเป็นเพื่อนกัน” ชายหนุ่มผมฟูพูดพร้อมกับส่งข้อความขอเป็นเพื่อนให้หญิงสาวผมขาวทันที

    “อะไรกัน?” หญิงสาวไม่เข้าใจ ก็ในเมื่อทั้งเธอและเขาต่างจ้องจะทำร้ายกันมาตลอด ทำไมจู่ๆถึงจะขอเป็นเพื่อน แม้ว่าหลังๆนี้ความสัมพันธ์จะดูแปลกๆก็เถอะ

    “ชั้นจะได้มีเหตุผลในการพาเธอออกจากเกาะนี้ไปไงล่ะ” ชายหนุ่มหัวฟูพูดขึ้นเรียบๆ

    “แล้วนายก็จะทิ้งชั้นไป เหมือนที่นายทิ้งผู้หญิงพวกนั้นสินะ!!” เรย์น่ายังไม่ลืมว่ามาตาร์หนีออกมาจากเกาะเริ่มต้นโดยทิ้งสาวๆรอบตัวเขาทั้งหมดแล้วออกเดินทางเพียงลำพัง เธอปฏิเสธคำขอเป็นเพื่อนนั้นไปทันที

    “ก็แล้วมันจะมีปัญหาอะไรล่ะ! เธอกับชั้นไม่ได้เป็นเพื่อนกันจริงๆซักหน่อย ทำไมจะทิ้งไม่ได้!” มาตาร์ตอกกลับเรย์น่าแบบหงุดหงิด เขาไม่อยากจะนึกถึงสิ่งที่เขาได้ทำลงไป

    “ไม่ได้! นายต้องอยู่กับชั้น ถึงแม้เราจะไม่ได้เป็นเพื่อนกัน ไม่ได้เป็นคนรักกัน แต่นายสามารถเป็นศัตรูกับชั้นตลอดไป ห้ามทิ้งชั้นไปไหนทั้งนั้น!!” เรย์น่าพูดออกมาด้วยสีหน้าที่เหมือนจะร้องไห้

    “เรย์น่า! ชั้นไม่มีทางอยู่กับเธอตลอดไปหรอก ไม่เธอหรือชั้นซักวันก็ต้องตาย ถึงวันนั้นเราก็ต้องจากกัน อาจจะเป็นวันนี้หรือพรุ่งนี้ก็ได้ อย่ามาทำตัวขาดความอบอุ่นใส่ชั้นนะ นึกว่าชั้นจะปลอบเธอหรือไง!!” มาตาร์เหลืออดเต็มที เขาไม่อยากจะฟังคำพูดเพ้อเจ้อประเภทจะอยู่ด้วยกันตลอดไปอีกแล้ว มันช่างน้ำเน่าและไม่มีทางเป็นจริง

    “นายมันงี่เง่า!! ความเป็นจริงแบบนั้นใครๆก็รู้ ถ้านายคิดอย่างนั้นก็ตายๆไปซะเลยสิ จะทนมีชีวิตอยู่ทำไม จะมีชีวิตอยู่เพื่อเจอคนอื่นทำไม ในเมื่อเจอแล้วต้องจาก เมื่อจากแล้วต้องเป็นทุกข์ ถ้าไม่อยากเป็นทุกข์ทำไมไม่ตัดขาดจากโลกไปเลยมานั่งเล่นเกมอยู่ทำไม ไอ้บ้า!!” เรย์น่าตะโกนใส่มาตาร์แล้วก็วิ่งเข้าป่าไปทันที

    “...” ชายหนุ่มเงียบไปพร้อมกับทำอาหารไปเรื่อยๆด้วยสีหน้าที่ดูไม่ออกว่ารู้สึกอย่างไร กึ่งๆบึ้งตึงกึ่งๆนิ่งเฉย

    “หรือจะทิ้งคุณเรย์น่าเอาไว้บนเกาะนี้ดีครับ ท่าทางจะชวนออกไปด้วยกันยากซะแล้ว” พ่อบ้านเสียงนุ่มเสนอความเห็นขณะที่อยู่ในร่างหัวเข็มขัดไรเดอร์

    “สงสัยต้องตีหัวแล้วฉุดซะแล้วล่ะ พูดดีๆไม่ได้ก็ต้องใช้กำลัง” มาตาร์พูดขึ้นมาพร้อมกับดวงตาที่ฉายแววชั่วร้าย

    “แอฟโรพิลึก ไม่เห็นต้องพายัยผมขาวนี่ไปด้วยเลย” เลดี้ไม่เข้าใจความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของทั้งคู่จริงๆ ทั้งๆที่ทะเลาะกันแต่ก็ต้องพาออกไปด้วยกัน มันยังไงกันแน่

     

    หลังจากเตรียมอาหารเรียบร้อยแล้ว มาตาร์เดินเข้าถ้ำไปแล้วเข้าไปที่หลังกระท่อม สู่ป่าแมลง

    “อู้หู กลับคืนสู่สภาพเดิมแล้วแฮะ ในเกมนี่ทุกอย่างมันง่ายจริงๆเนอะ” มาตาร์รู้สึกทึ่งที่ป่าแมลงที่โดนเขาทำลายวอดวายไปเมื่อวานนี้กลับสู่สภาพเดิมเรียบร้อยแล้ว

    “มาทำอะไรทีนี่เหรอแอฟโร” เด็กหญิงผมแดงถามออกมาด้วยความสงสัย

    “ก็มาเก็บระดับคืนไงล่ะเลดี้ เข้ามาอยู่ในเข็มขัดนี่ก่อนมา” มาตาร์สั่งเต่าทองของเขา

    “อื้อ” เลดี้ขานรับพร้อมกับคืนร่างเป็นเต่าทองก่อนที่จะบินเข้าไปอยู่ตรงผนึกที่ข้างๆหัวเข็มขัด

    “อย่าลืมฝึกค่าพลังชีวิตด้วยนะครับ” พ่อบ้านเตือนชายหนุ่มถึงค่าพลังที่สมควรฝึกไปด้วยนอกจากระดับตัวละคร

    “แต่ผมใช้ปราณลมฟื้นพลังไม่ได้นะสไลป น้ำยาก็ไม่มีซักขวด” มาตาร์กล่าว เพราะถ้าไม่มีอะไรมาฟื้นพลังก็ฝึกค่าพลังชีวิตไม่ได้เดี๋ยวจะตายซะเปล่าๆ

    “ผมมีวิธีใช้เข็มขัดไรเดอร์เพิ่มพลังชีวิตครับไม่ต้องเป็นห่วง” พ่อบ้านจอมวางแผนหลีกเลี่ยงที่จะพูดเรื่องความสามารถของเลดี้

    “อ๋อ เหรอ เออ ดีแฮะ พอมีสไลปอยู่ในเข็มขัดแล้วดูเหมือนจะมีความสามารถเพิ่มขึ้นมาด้วยนะ” มาตาร์ไม่คิดมาก เพราะเมื่อพ่อบ้านของเขาพูดอะไรออกมา มันก็ย่อมเป็นอย่างนั้นเสมอ

    แล้วชายหนุ่มแอฟโรก็ลุยสู้กับแมลงในป่าแมลงเพื่อเก็บระดับ โดยอาศัยเฉพาะความสามารถของปราณพื้นฐาน พลังเวทพื้นฐาน และพลังจิตพื้นฐานเท่านั้น โดยค่าพลังทั้งหลายก็ใช้ได้อย่างไม่มีวันหมด เพราะค่าสูงสุดมันแค่ 150 เท่านั้นเอง ซึ่งเลดี้สามารถเติ่มพลังให้ชายหนุ่มได้ทุกอย่างโดยที่เธอไม่ได้เหนื่อยยากอะไรเลย เพราะยิ่งเติม ค่าพลังเหล่านั้นของเธอก็ยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งๆที่ไม่เคยสู้กับใครมาก่อนเลย

     

    นางพญามด

    ระดับ 100

     

    “โอ๊ะโอ! เจอโจทก์เก่าแฮะ คืนร่างสู้ดีมั้ยสไลป?” มาตาร์ถามความเห็นพ่อบ้านของเขา

    “อย่าเลยครับ จะได้ฝึกฝีมือด้วย จริงๆแล้วเทคนิคที่คุณแอฟโรมีถึงจะไม่ใช้ปราณธาตุหรือไม้ตายพลังจิตก็พอจะสู้กับเจ้าตัวนี้ได้นะครับ” พ่อบ้านเสียงนุ่มแนะนำ

    ตูมม!!

    หมัดเสริมปราณเต็มกำลังถูกต่อยออกใส่ร่างของเจ้ามดยักษ์ท้องขาวตัวนั้นทันที แต่ว่าด้วยค่าสถานะที่ต่ำต้อย หมัดของชายหนุ่มหัวฟูกลับไม่ระคายเคืองเจ้านางพญามดเลย

    ฟิ้วว! กี๊!

    นางมดตวัดขาแล้วใช้ปากอันแหลมคมพุ่งเข้ามา แต่ชายหนุ่มก็หลบพ้นได้อย่างทันท่วงที

    “ไม่ได้ผลอ้ะสไลป ค่าสถานะผมต่ำเกินไปทำอะไรมันไม่ได้เลย” มาตาร์บ่นขึ้นมา ขณะที่ค่าพลังทั้งหลายของเขาก็ฟื้นฟูจนเต็มอีกครั้ง

    “คุณแอฟโรมีวิธีใช้ปราณแบบใหม่ไม่ใช่เหรอครับ ลองอัดปราณแยกตามอวัยวะเหมือนที่ใช้ปล่อยกระสุนพรากสังขารสิครับ” พ่อบ้านผู้รอบรู้แนะนำ

    มาตาร์เกือบลืมไปเลยว่าเขามีวิธีสะสมปราณตามอวัยวะต่างๆเพื่อใช้ระเบิดพลัง ที่ผ่านมาตอนสู้กับพวกตัวก็อปปี้ก็มัวแต่สนใจไม้ตายที่เห็นผลชัดเจนมากกว่าวิธีการควบคุมปราณ

    “โอเค แบบกระสุนพรากสังขารนะ” มาตาร์เข้าใจคำแนะนำของพ่อบ้านของเขาทันที

    ชายหนุ่มอัดปราณใส่นิ้วทีละนิ้วแล้วก็พักเอาไว้ แล้วก็อัดปราณใส่ฝ่ามืออีก เท่ากับมือข้างหนึ่งรวบรวมปราณเอาไว้หกส่วนแล้ว

    กี๊! กี๊!

    เจ้ามดยักษ์เข้ามาโจมตรชายหนุ่มไม่หยุด มันพยายามใช้ขาและปากสะกิดให้โดนชายหนุ่มให้ได้ เพราะตามตัวมันมีพิษที่เป็นกรดอยู่

    “อืม ดูเหมือนตามตัวมันจะเป็นพิษนะครับ” พ่อบ้านเสียงนุ่มเตือนชายหนุ่ม

    “ไม่มีปัญหาสไลป ผมจะปล่อยหมัดด้วยพลังจิตในระยะใกล้แบบไม่ให้สัมผัสตัว” ชายหนุ่มคิดวิธีแก้ปัญหาเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

    ฟิ้ว!

    ทันใดนั้น ชายหนุ่มหัวฟูเข้าประชิดร่างเจ้านางพญามดด้วยเคล็ดเท้าไร้เงาจากการแฝงปราณทำให้ค่าปราณตามปกติไม่ลดลง แล้วเขาก็ถ่ายปราณทั้งหมดใส่หมัดขวาที่มีปราณอัดอยู่แล้วหกส่วนเสริมเข้าไปอีก

    ในห้วงของสมาธิ มาตาร์เหวี่ยงหมัดที่มีปราณถึงเจ็ดเท่าจากปราณสูงสุดที่เขามีเข้าใส่ร่างของนางพญามด ปราณที่รวมตัวกันเปล่งแสงสีขาวออกมาจนเห็นได้อย่างชัดเจน หมัดอันสว่างวาบค่อยๆพุ่งเข้าใส่ร่างของนางมดยักษ์อย่างช้าๆเห็นเป็นแนวแสงสีขาวตรงดุจลูกธนู

    ฟิ้ว!

    และก่อนที่หมัดจะกระทบร่างของนางมดยักษ์เพียงหนึ่งเซนติเมตรหมัดก็หยุดลง แล้วพลังจิตก็นำพาก้อนปราณที่อัดกันแน่นนั้นเข้าสู่ร่างของนางพญามดทันที

    ฟุบ!

    แล้วร่างของนางพญามดก็กระจุยออกมาจากภายในทันที

    ตูมม!!!

    “เฮ่ย! นี่มัน” มาตาร์ตกกับผลลัพธ์ของมัน วิธีการระเบิดแบบนี้มันคล้ายเหลือเกิน

    “เหมือนหมัดมังกรสลายร่างของคุณเคนริวเลยนะครับ” พ่อบ้านผู้รู้งานกล่าว

    “นั่นน่ะสิ แถมไม่ต้องสัมผัสตัวเลยด้วยแฮะ ส่งปราณเข้าไประเบิดในร่างของศัตรูเลยก็ได้ จะว่าคล้ายหมัดทะลวงของคลาร่าก็ได้นะ มันกึ่งๆอ้ะ” มาตาร์ลองเปรียบเทียบท่าไม้ตายที่เขาสร้างขึ้นนี้กับท่าอื่นๆที่เขาเคยเห็น

    “ผู้เล่นมาตาร์ปฏิบัติตามเงื่อนไข ได้รับท่าปราณค่ะ กรุณาตั้งชื่อท่าไม้ตายด้วยค่ะ” เสียงจากระบบดังขึ้นในที่สุด

    “อ๋า? กลายเป็นท่าไม้ตายใหม่เลยแฮะ” มาตาร์อุทานออกมาเมื่อพบว่าวิธีแก้ปัญหาของเขาถึงขั้นทำให้เกิดท่าไม้ตายใหม่

    “ก็ดีแล้วล่ะครับที่ไม่ได้ใช้ท่านี้เป็นตอนฝ่าถ้ำไรเดอร์ ไม่อย่างนั้นคงจะยากกว่านี้อีกเยอะ” พ่อบ้านเสียงนุ่มกล่าว

    “โอเค ท่านี้มันเป็นการอัดปราณใส่เป้าหมายแบบทวีคูณตามการอัดปราณ ตั้งชื่อว่า หมัดยกกำลัง ละกัน” ชายหนุ่มตั้งชื่อท่าไม้ตายใหม่ของเขา

    หลังจากนั้นมาตาร์ก็ตะลุยป่าแมลงอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใดอีกเมื่อเขามีไม้ตายใหม่ที่เป็นปราณบริสุทธิ์ล้วนๆที่ใช้ร่วมกับพลังจิต ซึ่งเขาสามารถส่งปราณให้พุ่งไปได้กว่าห้าเมตรแล้วสั่งให้มันระเบิดเป็นวงกว้างได้ด้วย ทำให้การกำจัดแมลงทำได้ง่ายขึ้นเยอะ

    จนในที่สุดระดับของทั้งมาตาร์ เลดี้ และสไลปนีร์ก็ขึ้นไปจนถึงหนึ่งร้อยกันหมด

     

    “เอาล่ะ ออกไปอัดยัยงูพิษได้” ชายหนุ่มพูดขึ้นพร้อมกับเดินออกจากป่าแมลงทันที

    แต่แล้วเมื่อเขาเดินมาถึงหน้าถ้ำ

    ผึง!

    “เหวอ!” มาตาร์อุทานออกมาเมื่อมีกำแพงที่มองไม่เห็นดีดเขาให้กลับเข้าไปในถ้ำอีกครั้ง

    “อ้าว? ไอ้หนุ่ม ลืมแล้วเหรอว่าเข็มขัดไรเดอร์ออกทางนั้นไม่ได้น่ะ” ชายชรากล่าวสิ่งที่เกิดขึ้นกับชายหนุ่ม

    “เอ๋? ไม่ใช่ว่าเฉพาะตอนที่ยังไม่สำเร็จภารกิจหรอกเหรอ” มาตาร์ถามออกมาอย่างตกใจ อย่าบอกนะว่าเขาจะต้องไปลุยกับเจ้าพวกตัวก็อปปี้นั่นอีกครั้ง

    “มันไม่เกี่ยวกันไอ้หนุ่ม ไม่ว่าเมื่อไหร่ถ้ำแห่งนี้ก็ไม่ยอมให้เข็มขัดไรเดอร์ออกทางนั้น” ชายชรากล่าว

    มาตาร์หน้าเสียขึ้นมาทันที เพราะดูเหมือนเขาจะต้องยอมตายสักครั้งเพื่อเอาเข็มขัดออกจากถ้ำ

    “คุณแอฟโรลืมเรื่องทักษะปู่โสมเฝ้าทรัพย์แล้วเหรอครับ” พ่อบ้านเสียงนุ่มเตือน

    “เอ๋? ก็ผมใช้ทักษะปู่โสมกับเข็มขัดนี่ไปแล้วไง ถึงจะต้องยอมตายอีกครั้งนึงน่ะ จะได้ออกไปข้างนอก” มาตาร์ยังไม่เข้าใจสิ่งที่พ่อบ้านต้องการจะบอก

    “แต่คุณสมบัติอีกอย่างของทักษะคุณมาตาร์ยังไม่ได้ใช้เลยนะครับ” พ่อบ้านผู้รู้งานแนะอีกครั้ง

    “เอ๋? ...อ๋อ!!” มาตาร์นึกออกในที่สุด

    “เลดี้ออกมา” ชายหนุ่มเรียกเต่าทองของเขาออกมาจากผนึกที่เข็มขัดทันที

    แวบ!

    เต่าทองตัวใหญ่บินออกมาจากเข็มขัดแล้วก็กลายเป็นเด็กหญิงตัวเล็กผมแดงทันที

    “มีอะไรเหรอคะแอฟโร” เด็กหญิงถามอย่างสงสัยว่าเรียกเธอออกมาทำไม

    “อ๋อ พี่จะเก็บเข็มขัดน่ะ กลัวว่าเลดี้จะติดไปด้วยก็เลยเรียกออกมาก่อน” มาตาร์กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

    มาตาร์ลูบมือไปตามเข็มขัด แล้วทันใดนั้นเข็มขัดไรเดอร์ก็หายไปทันที

    วูบ!

    “เฮ่ย!” ชายชราอุทานออกมาอย่างแปลกใจ เพราะจู่ๆเข็มขัดมันก็หายไปเลย หายไปอย่างไร้ร่องรอย

    แล้วชายหนุ่มหัวฟูก็เดินตัวปลิวออกจากถ้ำไป

    หลังจากนั้นชายหนุ่มก็ทำมือลากไปรอบๆเอว เกิดรอยแตกที่อากาศรอบๆเอวของเขาทันที

    เพล้ง!

    แล้วเข็มขัดก็กลับมาเหมือนทะลุออกมาจากต่างมิติ แล้วกลับมาคาดที่เอวของเขาเหมือนเดิม

    “เฮ้ยย!!” ชายชราอุทานออกมาอย่างตกใจอีกครั้ง ทำไมถึงได้เอาเข็มขัดไรเดอร์ออกจากถ้ำได้ง่ายขนาดนั้น ถึงจะบอกว่ามีทักษะก็เถอะ แต่แบบนี้มันก็สมควรเรียกว่าโกงแล้ว

    “จริงๆแล้วผมไม่ต้องตายก็ได้นี่สไลป ไอ้รอบสุดท้ายหลังจากที่ผมใช้ทักษะปู่โสมเฝ้าทรัพย์กับเข็มขัดน่ะ” มาตาร์ทักขึ้นมาถึงการตายที่เสียเปล่าของเขาหลังจากได้ทักษะปู่โสมเฝ้าทรัพย์แล้ว เพราะเขาสามารถใช้วิธีเก็บเข็มขัดเข้าช่องต่างมิติแล้วเดินออกมาจากถ้ำได้ง่ายๆ

    “ฮะๆๆ ถ้าเป็นแบบนั้นผมก็ไม่มีร่างแล้วออกมาแนะนำคุณแอฟโรแบบนี้น่ะสิครับ” พ่อบ้านตัวดีเฉลยสิ่งที่เขาวางแผนเอาไว้ให้ชายหนุ่มฟัง

     

    อยากจะบอกว่า รูปอวตารของเลดี้ที่มีเต่าทองสองตัวน่ะ ...เพราะมันไม่มีรูปเต่าทองตัวเดียวตะหากเล่า (มีคนคิดได้คนนึงแล้ว ก็เลยเฉลยให้ฟัง)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×