ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    JOQ Online คนจริงลวงโลก <มี E-Book>

    ลำดับตอนที่ #139 : บทที่135: ฉันทำอาหารไม่เป็น

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 11.39K
      116
      21 ม.ค. 55

    บทที่135 ฉันทำอาหารไม่เป็น

    “คุณมาตาร์ลองเขียนวงเวทดูหลายๆแบบสิครับ” พ่อบ้านผู้รอบรู้แนะนำ

    “อืม โมเรน่าเคยสอนอักขระแบบใหม่ให้ด้วย เห็นว่าช่วยเสริมประสิทธิภาพของวงเวทให้มากขึ้น แต่ก็ซับซ้อนมากขึ้นด้วยแหละนะ” มาตาร์ตอบพร้อมกับลองใช้ปากกาที่มีให้ใช้ในห้องฝึกวาดวงเวทขึ้นมาทันที

    ฟืด ฟืด ฟืด~

    ผ่านไปครึ่งชั่วโมง วงเวทก็ออกมาเรื่อยๆสามวง สี่วง ห้าวง จนในที่สุด วงที่หกที่มาตาร์ลองวาดก็เกิดผลลัพธ์ที่น่าพอใจ

    วูมมม!!!

    พลังจากวงเวทบนพื้นทำให้พื้นดินในห้องฝึกเสียหายอย่างหนัก

    “อืม วงเวทแบบนี้มีข้อดีอยู่อย่างนึงนะครับ ตรงที่ไม่ต้องใส่อักขระที่ด้านในวงกลม แต่ใส่จากด้านนอกแทน” พ่อบ้านแสนสะดวกกล่าว

    “อืม แต่ข้อเสียคือมันต้องเขียนวงใหญ่ๆทดแทน และอักขระที่ใช้ก็เยอะซะด้วยสิ” มาตาร์เริ่มเห็นอนาคตของเขาจากการใช้วงเวทแบบนี้

    “คิดว่าน่าจะซักเจ็ดถึงแปดครั้งน่ะครับ วงเวทถึงจะสมบูรณ์” พ่อบ้านผู้รอบรู้คาดการณ์

    “เจ็ดถึงแปดเองเหรอโฆเซ่ ผมดูยังไงมันก็สิบกว่าครั้งนะ” มาตาร์พูดออกมาอย่างกลุ้มใจ

    “นั่นมันคนทั่วไปครับ ผมว่าคุณมาตาร์อึดกว่านั้น ...ก่อนที่จะล้มลงไป” พ่อบ้านผู้รอบรู้กล่าว

    “อืม ...งั้นถ้าไม่อยากตายเยอะก็ต้องอดทนให้ได้สินะ แผนนี้มันบ้าระห่ำเหมือนกันนะเนี่ย” มาตาร์กล่าว

     

    ฟืด~ด ฟืด~

    มาตาร์วิ่งวนรอบป่าแมลงหนึ่งรอบ แล้วก็วิ่งวนอีกหนึ่งรอบ ใช้กิ่งไม้ขีดเส้นที่มีความลึกพอสมควร ซึ่งไม่สามารถหายไปได้ง่ายๆ

    มีพวกแมลงเล็กๆออกมารังควานบ้าง ซึ่งมาตาร์ก็ไม่ได้ใส่ใจพวกมันมากนัก เพราะเป้าหมายของเขาไม่ใช่การทำลายลูกกระจ๊อกพวกนี้

    ฟืด~

    หลังจากนั้นมาตาร์ก็วาดวงกลมเจ็ดวงขึ้นที่บนเส้นของวงกลมใหญ่ทั้งสองเส้นนั้น แล้วเขียนอักขระธาตุทั้งเจ็ดลงไปในวงกลมเล็กแต่ละวง แล้วเขียนอักขระพิเศษขึ้นรอบอักขระธาตุทั้งเจ็ดอีกที

    ฟืด! ฟึด!

    ใช้เวลาไปห้าชั่วโมง ตั้งแต่เก้าโมงยันบ่ายสอง

    ฟึด!!

    และแล้ววงเวทของมาตาร์ก็เสร็จสมบูรณ์

     

    “เอาล่ะขั้นต่อไปคือการใส่หมึกสินะ” มาตาร์พูดขึ้นพร้อมกับถอดรองเท้าออก

    ฉึก! ฉึก!

    มาตาร์ใช้นิ้วจิ้มทะลวงขาด้านหลังของตัวเองทันที จนมันเกิดแผลและมีเลือดไหลโกรกออกมา แล้วเขาก็เริ่มเดินไปตามวงเวทที่เขาวาดนั้นทันที

     

    “อะไรเนี่ย!! ไอ้หนุ่มนี่ ไม่คิดว่ามันจะทุ่มเทขนาดนี้” ชายชราเห็นภาพตรงหน้าแล้วก็ต้องอุทานออกมาอย่างตกใจ

    มาตาร์กำลังใช้เลือดของตัวเองแทนหมึก ในการวาดวงเวทขนาดใหญ่ที่ล้อมป่าแมลงทั้งป่า

    “ไอ้หนุ่มนี่มันรู้ตัวมั้ยเนี่ยว่าตายแค่ครั้งเดียวมันวาดวงเวทได้ไม่สมบูรณ์หรอกนะ วงขนาดนี้ ...สงสัยคงจะตายซักสิบห้ารอบเลยล่ะมั้ง มันจะทนไหวเร้อ” ชายชราไม่แน่ใจว่าวิธีการนี้ของมาตาร์จะได้ผลจริงๆ

    เพราะในขณะที่เดินไปเลือดที่ไหลออกมาเรื่อยๆจะทำให้มาตาร์หน้ามืดตัวเย็น และความตายชนิดบั่นทอนจิตใจจะเข้าครอบงำ มันเป็นการตายอย่างช้าๆไม่ใช่ตายกะทันหัน ถ้าแค่ครั้งหรือสองครั้งอาจจะทำใจได้ แต่จะมีใครทนรับสภาพแบบนั้นเป็นสิบๆครั้งได้กัน คนที่ทำได้จะต้องมีจิตใจที่แข็งแกร่งผิดมนุษย์ไปแล้วแน่นอน

     

    ฟืด! แหมะ!

    มาตาร์ค่อยๆลากขาของเขาผ่านเส้นที่เกิดจากกิ่งไม้ที่เขาเขียนขึ้น ให้เลือดของเขาไหลไปตามเส้นนั่นช้าๆ จุดที่มาตาร์ทำให้เกิดแผลนั้นคือเส้นเลือดใหญ่ตรงข้อพับนั่นเอง เพียงไม่นานนัก เลือดของชายหนุ่มก็ไหลนองออกมาจนเฉอะแฉะไปหมด แต่เขาก็ยังเดินต่อไปอย่างเชื่องช้า เพื่อไม่ให้หมึกที่เกิดจากเลือดของเขาขาดตอนไป

    ฟืด~

    ผ่านไปสิบนาที มาตาร์ที่หน้าซีดก้าวเท้าได้เชื่องช้าลงเรื่อยๆ เขาสูญเสียเลือดไปหนึ่งในห้าแล้ว ตามปกติน่าจะเป็นลมล้มพับไปแล้วด้วยซ้ำ แต่ชายหนุ่มยังทนอึด ฝืนลากสังขารอันไร้เรี่ยวแรงของเขาต่อไป โดยใช้พลังจิตช่วยเสริม

    “อืม ใช่แล้วไอ้หนุ่ม พลังจิตจะแข็งแกร่งขึ้นมาเมื่อสภาพร่างกายอ่อนแอและมีความดันทุรังอย่างนี้แหละ” ชายชรามองหน้าจอด้วยใจลุ้นระทึก เขาเฝ้าดูว่ามาตาร์จะทนได้ถึงไหนกัน ก่อนที่จะล้มลงไป

    ฟืด~

    ผ่านไปอีกสิบนาที มาตาร์เริ่มหยุดเดินแล้ว สายตาของเขาเหม่อลอยไปแล้วตอนนี้ ร่างกายก็ขาวซีดราวกับกระดาษ ความคิดนับร้อยพันเกี่ยวกับความตายเข้าจู่โจมเขาตั้งแต่เมื่อสิบนาทีที่แล้ว ตลอดทางเขานึกจินตนาการถึงเรื่องดีๆไม่ออกเลย นอกจากร่างกายจะใกล้ตายแล้ว สภาพจิตใจก็ใกล้ตายตามไปด้วย ไม่ผิดไปจากที่ชายชราคาดการณ์เอาไว้ทีเดียว ถ้าแค่ครั้งสองครั้งอาจจะยังพอทน แต่ถ้าต้องเจอสภาพแบบนี้เป็นสิบครั้ง ...ใครจะทน และคนที่ทนได้ อาจจะไม่ใช่คนอีกต่อไปก็ได้ หรือไม่ก็อาจจะเป็นยอดคนที่มีจิตใจแข็งแกร่งผิดธรรมดา

    ตุบ!

    ชายหนุ่มผมฟูล้มลงในที่สุด เลือดของเขาวาดวงเวทไปเพียงแค่หนึ่งในสิบเท่านั้น แค่แนวโค้งเล็กๆของวงเวทขนาดใหญ่เท่านั้นเอง

    “อือ~อ” มาตาร์ครางออกมาอย่างหมดแรง เขาคิดอะไรไม่ออกแล้วในตอนนี้ รู้แต่ว่าการนอนอยู่เฉยๆนี่มันช่างสบายจริงๆ

    เลือดของมาตาร์ค่อยๆไหลนอง แผ่ขยายออกมาเรื่อยๆ ...เรื่อยๆ ...เรื่อยๆ ...จนในที่สุด ร่างของชายหนุ่มก็นอนนิ่งไม่ไหวติงอีกต่อไป

     

    ผู้เล่นมาตาร์เสียชีวิต ท่านสามารถเข้าสู่เกมได้ในอีกหนึ่งชั่วโมง พื้นที่พิเศษสามารถออฟไลน์ได้ค่ะ

    “อือ” ชายหนุ่มผมแดงนอนคว่ำหน้าอยู่บนโซฟาในห้องสีขาว สายตาของเขายังคงเหม่อลอย

    “เป็นอะไรไปเหรอครับคุณมาตาร์” พ่อบ้านผู้รอบรู้ถามขึ้นมา

    “ผมเพิ่งรู้สึกว่าความตายมันน่ากลัวก็ครั้งนี้นี่แหละ” มาตาร์เอ่ยขึ้นมาเรียบๆ

    “อืม ...ดื่มอะไรซักหน่อยมั้ยครับ” พ่อบ้านรู้จังหวะดีว่าช่วงนี้ไม่ควรจะกล่าวอะไรให้มากความ

    พ่อบ้านผมทองเดินเข้าไปในเคาน์เตอร์เครื่องดื่ม แล้วก็เริ่มผสมเครื่องดื่มแสนอร่อยของเขาทันที ในขณะที่ชายหนุ่มผมแดงก็ยังคงนอนนิ่งไม่ไหวติง

    กรุก! กรัก! แกร็ก! แกร็ก!

    เสียงผสมเครื่องดื่มและเสียงเขย่ากระบอกเขย่าของพ่อบ้านแสนสะดวกเป็นไปอย่างช้าๆ

    ป๊อก!

    “มันก็เป็นเรื่องปกติที่คนเราจะกลัวความตายนี่ครับ” พ่อบ้านพูดขึ้นในขณะที่เปิดฝากระบอกเขย่า

    “ผมไม่เข้าใจ ทั้งๆที่ผ่านมาไม่เคยกลัวเลยแท้ๆ เพราะรู้ว่ามันเป็นเกม” มาตาร์พูดขึ้นมาทั้งๆที่ยังไม่เงยหน้าขึ้นมา

    จ๊อก!

    ของเหลวสีแดงส้มไหลออกจากกระบอกเขย่าสู้แก้วทรงสูง

    “แต่ครั้งนี้มันรู้สึกโหวงเหวง มันดูว่างเปล่ามากเลย ทั้งๆที่มีเป้าหมายอยู่ข้างหน้าแล้วแท้ๆ แต่มันกลับถูกเบียดออกไปอย่างง่ายๆเลย” มาตาร์พูดขึ้นมาเรียบๆ

    นี่เป็นความตายอย่างโดดเดี่ยวครั้งแรกของมาตาร์ ที่ผ่านมาเขามักจะมีคนอยู่เคียงข้างเสมอขณะตาย และเหตุการณ์แบบนี้คงไม่เกิดขึ้นด้วยถ้าสามสาวยังอยู่กับเขา เขาไม่มีทางใช้วิธีฆ่าตัวตายแบบนี้เขียนวงเวทแน่นอน

    “เลิกเขียนวงเวทดีมั้ยครับ หาวิธีอื่น” พ่อบ้านผู้รอบรู้เสนอขึ้นมาทันทีหลังจากเห็นปฏิกิริยาของมาตาร์

    “...” มาตาร์นิ่งเงียบไปพักหนึ่ง

    “จริงๆ ระดับตัวละครของคุณมาตาร์ในตอนนี้ สามารถฟักไข่ได้อย่างสบายแล้วนะครับ เพราะค่าประสบการณ์ที่ได้รับจะมากขึ้น” พ่อบ้านกล่าวถึงทางเลือกอื่น

    “...ไม่ได้หรอกโฆเซ่ ผมควรจะทำสิ่งที่วางแผนเอาไว้ให้สำเร็จ แค่ขอเวลาผมทำใจสักหน่อยก็พอ” มาตาร์กล่าวออกมาเรียบๆ

    แล้วชั่วโมงนั้น ชายหนุ่มผมแดงก็นั่งนิ่งอยู่บนโซฟานั่นจนหมดเวลา

     

    “เดี๋ยวเจอกันใหม่นะโฆเซ่” มาตาร์กล่าวเรียบๆแล้วเดินออกจากแมนชั่นแห่งความตายไป

    โฆเซ่มีสีหน้าหมองลง พร้อมกับจ้องมองไปที่แก้วที่มีเครื่องดื่มสีแดงส้มนั่นอยู่เต็มแก้ว

     

    แวบ!

    ร่างของชายหนุ่มผมแดงปรากฏตัวขึ้นที่พื้นที่พิเศษบนเกาะไรเดอร์

    ชายหนุ่มค่อยๆเดินเข้าไปในถ้ำ ผิดกับครั้งแรกที่ตายเป็นอย่างมาก

    “ไงไอ้หนุ่ม กลับมาแล้วเรอะ หายคึกไปเยอะเลยนี่” ชายชราทักขึ้นเมื่อเห็นท่าทางของมาตาร์

    “ลุงขอเข็มขัดด้วย” มาตาร์พูดออกมาเรียบๆพร้อมกับขอเข้มขัดไรเดอร์จากชายชรา

    “เอ้า!” ชายชรายื่นให้ชายหนุ่มอย่างว่าง่าย

    แกร็ก!

    แล้วมาตาร์ก็เปลี่ยนร่างเป็นแอฟโรทันที

    “ไอ้หนุ่ม ทำไมเจ้าถึงเลือกวิธีนี้ล่ะ” ชายชราถามมาตาร์ก่อนที่เขาจะเดินเข้าป่าแมลง

    “เพราะผมวางแผนเอาไว้แบบนี้น่ะสิ” มาตาร์ตอบกลับเรียบๆ

    “เพราะวางแผนเอาไว้เหรอ ...เป็นคำตอบที่ใช้ได้นะ แต่ยังมีคำตอบที่ดีกว่านี้ ฮึๆ ข้าจะรอดูว่าเจ้าจะทำตามแผนที่วางเอาไว้ได้นานขนาดไหน” ชายชราพูดอย่างมีนัย ก่อนจะหันหน้าขึ้นไปดูจอภาพที่อยู่ที่ผนังถ้ำ

    “...” มาตาร์มองชายชราด้วยสายตาที่ไร้แวว ก่อนจะหันหลังกลับไปที่กระท่อม แล้วเดินเข้าป่าแมลงไปอีกครั้ง

     

    มาตาร์เดินกลับมาที่จุดสุดท้ายที่เขามีลมหายใจ พื้นบริเวณนั้นมีเลือดไหลนอง มีเข็มขัดใส่ของหนึ่งเส้นและไข่ที่เปื้อนเลือดหนึ่งฟองวางอยู่

    ชายหนุ่มคาดเข็มขัดแล้วหยิบไข่ขึ้นมา แล้วกรีดเลือดทันที

    ฟืด! ฉัวะ! แปะ!

    “ผมมาตาร์ ขอทำพันธสัญญากับไข่สัตว์อสูรใบนี้ จะรักและดูแลอย่างดี ได้โปรดมาอยู่เคียงข้างผมด้วย” มาตาร์เอ่ยพันธสัญญาด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจะร้องไห้ออกมา

    หลังจากนั้นชายหนุ่มก็เก็บไข่สัตว์อสูรนั้นเข้าเข็มขัดไป ก่อนที่จะเกร็งปราณใส่นิ้วแล้วจิ้มลงไปที่ขาเหมือนเดิม

    ฉัวะ! ฉัวะ!

    แล้วมาตาร์ก็เริ่มลากขาเปื้อนเลือดไปตามร่องอีกครั้ง รอยเลือดค่อยๆโค้งเป็นวงไปตามเส้นที่ชายหนุ่มได้เขียนเอาไว้ จะว่าคราวนี้มีประสบการณ์แล้วมากกว่าเดิมหรือไงก็ไม่ทราบ แต่มาตาร์ทนเดินได้ถึงครึ่งชั่วโมง ก่อนจะล้มลงไปกองกับพื้นด้วยสีหน้าซีดเผือดเหมือนเดิม

    “อึก!” มาตาร์พยายามฝืนตัวเอง ใช้แขนลากตัวเองไปข้างหน้าด้วย เพื่อเพิ่มระยะของวงเวท แม้แต่นิดเดียวก็ยังดี

    “อืม ดูเหมือนจะฝืนตัวเองขนาดหนักเลยแฮะ คราวหน้าคงจะจบแล้วมั้งแบบนี้” ชายชราจ้องมองที่จอภาพด้วยสีหน้าเรียบเฉย เหมือนกับรู้สึกผิดหวังขึ้นมา

     

    ผู้เล่นมาตาร์เสียชีวิต ท่านสามารถเข้าสู่เกมได้ในอีกหนึ่งชั่วโมง พื้นที่พิเศษสามารถออฟไลน์ได้ค่ะ

    มาตาร์ยังคงนอนก้มหน้ากับโซฟาไม่ไหวติง เขารู้สึกเหมือนจิตใจยิ่งบอบช้ำมากขึ้น แม้จะพยายามขนาดไหนแล้วก็ตาม คิดว่ามันเป็นเรื่องที่ต้องทำ คิดว่ามันเป็นเป้าหมายที่ต้องทำให้สำเร็จ เพื่อที่ตัวเขาจะได้ทำมันต่อไปได้ แต่สิ่งที่เขาขาดไปจริงๆแล้ว กลับเป็นกำลังใจมากกว่า เขาไม่สามารถเติมกำลังใจให้ตัวเองได้ ถ้ามีสามสาวอยู่เขาคงไม่เป็นแบบนี้

    ถึงแม้จะมีพ่อบ้านอยู่ด้วยกัน แต่หน้าที่ของโฆเซ่นั้นแตกต่างกับสามสาวอย่างชัดเจน โฆเซ่นั้นมาอยู่ที่นี่ด้วยหน้าที่ แต่สำหรับสามสาวแล้ว พวกเธออยู่กับเขาเพราะพวกเธอรักเขาไม่ใช่หน้าที่ นั่นคือความต่าง ซึ่งโฆเซ่ก็รู้ดีว่าเขาไม่สามารถเติมกำลังใจให้กับชายหนุ่มได้ พ่อบ้านคนขยันถึงได้เงียบไป

    “อีกไม่กี่ครั้งก็เสร็จแล้วล่ะโฆเซ่” มาตาร์พูดออกมาก่อนทั้งๆที่ยังก้มหน้าอยู่บนโซฟา

    “ครับ” พ่อบ้านแสนสุภาพตอบกลับเรียบๆ

    “ถึงตอนนั้นแมลงของผมก็จะเกิดขึ้นมา ผมคงดีขึ้นเองนั่นแหละโฆเซ่” มาตาร์พูดขึ้นมาอีก

    “หวังว่าคงเป็นเช่นนั้นครับ” พ่อบ้านคนขยันตอบกลับ

    แล้วชั่วโมงนั้น มาตาร์ก็ยังคงนอนคว่ำหน้าไม่ขยับไปไหนตลอดจนหมดเวลาเหมือนเดิม

     

    แวบ!

    เวลาห้าโมงเย็น ร่างของชายหนุ่มผมแดงปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งที่พื้นที่พิเศษบนเกาะไรเดอร์ และนี่เป็นครั้งที่สามของวันนี้แล้วที่เขามาปรากฏตัวแบบนี้ หมายความว่าเขาตายไปแล้วสามครั้งในวันนี้นั่นเอง

     

    “ลุงขอเข็มขัดด้วย” มาตาร์พูดกับชายชราพร้อมกับยื่นมือไปหาชายชราที่ยืนอยู่ในถ้ำไรเดอร์

    “เอ้า!” ชายชราก็ยื่นเข็มขัดไรเดอร์ให้ชายหนุ่มง่ายๆ

    ตึก! ตึก!

    ทั้งคู่ไม่ได้คุยอะไรกันอีก มาตาร์คาดเข็มขัดแล้วก็เดินเข้าไปที่ป่าแมลงยามเย็นทันที

    เขาเดินกลับมาตรงจุดเดิมที่เขาตายครั้งสุดท้าย หยิบเข็มขัดและไข่ขึ้นมา กล่าวพันธสัญญาแล้วเก็บไข่เข้าเข็มขัดเหมือนเดิม ก่อนที่จะเริ่มเชือดขาตัวเองแล้วเดินต่อไปอีกครั้ง

     

    ฟืด ฟืด~ด ตุบบ!!

    และหลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ชายหนุ่มก็ลงไปนอนจมกองเลือดด้วยสีหน้าซีดเผือดอีกครั้ง ตอนนี้ชายหนุ่มแทบจะคิดอะไรไม่ออกแล้ว เขาไม่แน่ใจแล้วว่ากำลังทำอะไรอยู่ แล้วทำไปเพื่ออะไร ทำไมถึงได้อ้างว้างโดดเดี่ยวขนาดนี้

    ตาของชายหนุ่มค่อยๆปิดลงช้าๆ

    “...” เสียงของใครสักคนดังขึ้นมา แต่ชายหนุ่มไม่ได้ยินอีกแล้ว

    “...” เสียงนั้นยังดังขึ้นมาอีก แต่ชายหนุ่มไม่ได้ยินจริงๆ

    จุ๊บ!

    สัมผัสแผ่วเบาที่ริมฝีปากนี้ เหมือนว่าเคยรู้สึกมาก่อน

    “...” เสียงนั้นยังคงดังขึ้นอีก คราวนี้ชายหนุ่มฝืนลืมตาขึ้นมาช้าๆ

    มาตาร์” เป็นหญิงสาวคนหนึ่งนั่นเอง

    มาตาร์” หญิงสาวคนที่เรียกอยู่ใกล้มาก ใบหน้าเธออยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมมือนี่เอง แต่เสียงเธอเบามากเลย

    “มาตาร์!!” หญิงสาวตะโกนขึ้นมาพร้อมกับเขย่าหัวของชายหนุ่มที่อยู่บนตักเธอไปด้วย

    “...ยัย..งูพิ..ษ?” มาตาร์ขานรับเสียงเรียกนั้นอย่างแผ่วเบา

    “ดี ถ้าฟื้นแล้วทำข้าวเย็นด้วยนะ ชั้นทำไม่เป็น” หญิงสาวผมขาวพูดขึ้นมาแบบไม่ดูบรรยากาศ

    “อุ๊บบ!” ชายหนุ่มแทบสำลัก เขาไม่คิดว่าจะได้ยินประโยคนี้ในเวลาแบบนี้

    “ขำอะไร” หญิงสาวพูดเสียงเย็นชา

    “ฮึๆๆ เดี๋ยวฟื้นแล้วจะทำให้กินนะ” ในที่สุดชายหนุ่มก็ยิ้มออกมา ก่อนจะหลับตาลง พร้อมกับร่างที่ค่อยๆสลายไป

     

    “ผู้เล่นมาตาร์เสียชีวิต ท่านสามารถเข้าสู่เกมได้ในอีกหนึ่งชั่วโมง พื้นที่พิเศษสามารถออฟไลน์ได้ค่ะ”

    “ฮ่าๆๆๆๆ” มาตาร์หัวเราะออกมาสุดเสียงเมื่อเขารู้สึกตัวขึ้นในแมนชั่นแห่งความตาย

    “อืม รู้สึกดีขึ้นรึยังครับคุณมาตาร์” เสียงนุ่มๆของพ่อบ้านถามขึ้นมา

    “โอ้ยย! โฆเซ่ ได้ยินที่แม่นั่นพูดรึเปล่า ฮ่าๆๆๆ” มาตาร์ยังไม่หยุดขำ

    “อืม คุณเรย์น่าออกมาได้จังหวะเหมาะเลยนะครับ” พ่อบ้านแสนสะดวกกล่าว

    “เฮ้อ~อ แต่ก็ต้องยอมรับล่ะนะ ว่าออกมาได้ก่อนผมกำลังจะตายไปจริงๆเลยล่ะ” มาตาร์ยอมรับว่าเรย์น่าเป็นคนช่วยเข้าเอาไว้จริงๆ

    “แล้วจะทำตามแผนเดิมรึเปล่าครับ” พ่อบ้านคนขยันถามเพื่อความแน่ใจ

    “แน่นอนโฆเซ่ ขอโทษด้วยนะที่ผมดูหดหู่ไปน่ะ คงกลุ้มใจน่าดูเลยล่ะสิ” มาตาร์พูดพร้อมกับยิ้มให้พ่อบ้านของเขา

    “เรื่องเล็กน้อยครับ” พ่อบ้านผู้แสนดีกล่าว

    “เอาไอ้นั่นมาดื่มได้แล้วล่ะ ยังอยู่มั้ยล่ะ” มาตาร์พูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน

    “เอ๋? หมายถึงอะไรเหรอครับ” พ่อบ้านสงสัย

    “ก็แก้วสีแดงๆส้มๆที่ผมไม่ได้ดื่มไง” มาตาร์หมายถึงเครื่องดื่มที่โฆเซ่ชงให้เขาเมื่อประมาณสามชั่วโมงที่แล้ว

    “อา ผมทำให้ใหม่ดีกว่านะครับ ดื่มตอนเสร็จใหม่ๆมันจะได้รสดีกว่า” พ่อบ้านผู้แสนดีกล่าวพร้อมกับเริ่มชงเครื่องดื่มสีแดงส้มขึ้นมาอีกครั้งทันที

     

    อึก! อึก!

    มาตาร์กระดกเจ้าเครื่องดื่มสีแดงส้มนั้นเข้าไปเต็มปากเต็มคำ

    “ฮ้า!! สุดยอดโฆเซ่ ยังอร่อยเหมือนเดิมนะ” มาตาร์เอ่ยปากชมพ่อบ้านของเขา

    ชั่วโมงนั้นมาตาร์ขอให้โฆเซ่ลองเรียกตัวก็อปปี้ระดับยากที่สุดออกมาลองซ้อมมือดู เพราะถ้าเขาฟักไข่แมลงเสร็จเมื่อไหร่ก็ต้องได้สู้กับเจ้าตัวนี้แน่ๆ ซึ่งผลลัพธ์ก็เห็นๆกันอยู่ ว่ามาตาร์ไม่สามารถทำร้ายตัวก็อปปี้ได้เลยในขณะที่ตัวก็อปปี้ซัดมาตาร์เอาข้างเดียว

     

    “อย่างนี้สงสัยต้องพึ่งกระสุนพรากสังขารลูกเดียวแล้วแฮะ กะให้พวกมันโดนลูกฟลุคนี่แหละวะ” มาตาร์พูดออกมาก่อนจะก้าวเท้าออกจากแมนชั่นแห่งความตาย

    “เรื่องนั้นเอาไว้คิดหลังจากฟักไข่เสร็จดีกว่าครับ ทำไปทีละขั้น” พ่อบ้านตอบกลับอย่างยิ้มแย้ม

    “อืม คงกลับมาอีกซักสามสี่ครั้งล่ะนะ แล้วเจอกันโฆเซ่” มาตาร์พูดจบก็เดินออกจากแมนชั่นแห่งความตายทันที

    พ่อบ้านโค้งให้มาตาร์หนึ่งทีแต่ไม่พูดอะไรออกมา

     

    เวลาหกโมงครึ่ง มาตาร์มาปรากฏตัวขึ้นที่พื้นที่พิเศษบนเกาะไรเดอร์อีกครั้ง

    ชายหนุ่มผมแดงเดินไปที่หน้าถ้ำแล้วเขาก็เห็นหญิงสาวผมขาวกำลังนั่งหน้าหงิกอยู่หน้าถ้ำ พร้อมกับวัตถุดิบทำอาหารมากมาย

    “เร็วๆสิ ชั้นหิว” หญิงสาวผมขาวพูดออกมาอย่างหงุดหงิด

    “ฮ่าๆๆๆ โมโหหิวล่ะสิยัยงูพิษ ลองตายดูซักทีมั้ย จะได้หายหิว” มาตาร์พูดพร้อมกับเริ่มลงมือทำอาหารจากวัตถุดิบพวกนั้น

     

    เนื่องจากก่อนที่มาตาร์จะตาย เรย์น่าอยู่ตรงนั้นพอดีและได้เก็บของกลับมาให้เขาทั้งหมด ชายหนุ่มจึงไม่ต้องเข้าไปเอาไข่และเข็มขัดที่ตกตอนกลางคืน ซึ่งหลังจากได้รับไข่มาอีกครั้งเขาก็ทำพันธสัญญาเรียบร้อย

    คืนนั้นหลังจากมื้ออาหารผ่านไป หญิงสาวหลับอยู่ในถ้ำด้านหนึ่ง ในขณะที่ชายหนุ่มก็หลับอยู่ที่ถ้ำด้านหนึ่ง

    ชายหนุ่มลุกขึ้นมาในตอนดึกสงัดแล้วก็เดินมาที่ร่างของหญิงสาว

    จุ๊บ!

    “ขอบคุณมากยัยงูพิษ ที่ทำให้ชั้นยังอยู่ตรงนี้” ชายหนุ่มพูดออกมาเบาๆหลังจากจูบเข้าไปที่แก้มของหญิงสาวแล้ว

    แล้วชายหนุ่มก็กลับไปนอนที่เดิม ส่วนหญิงสาวก็ยกมือขึ้นมาเช็ดแก้มตัวเองอย่างยิ้มๆทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่

     

    นี่มัน!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×