ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    JOQ Online คนจริงลวงโลก <มี E-Book>

    ลำดับตอนที่ #131 : บทที่127: ชีวิตบนเกาะไรเดอร์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 11.39K
      99
      24 มิ.ย. 55

    บทที่127 ชีวิตบนเกาะไรเดอร์

     

    “แล้วเจ้าล่ะไอ้หนุ่ม มาเป็นไรเดอร์อีกคนมั้ยล่ะ” ชายชราถามขึ้นหลังจากที่บรันโด้ออกไปจากเกาะแล้ว

    “บ้าเหรอลุง ผมเห็นแล้วว่าการออกจากถ้ำมันโหดขนาดไหน อย่างบรันโด้ยังโชคดีที่มีทักษะพิเศษแบบนั้น แต่ผมไม่มีอะไรแบบนั้นหรอกนะ แค่เอาชนะตัวก็อปปี้ตัวเดียวผมยังไม่มีปัญญาเลย เรื่องอะไรจะยอมเสียโมโนไบค์ไป” มาตาร์ตอบกลับชายชรา

    “เฮ้อ ข้าเสียดายจริง ๆ อย่างเจ้านี่คงต้องเป็นไรเดอร์ที่สุดยอดแน่ ๆ เลย” ชายชราเอ่ยออกมาอย่างเสียดาย

    “อะไรทำให้ลุงคิดแบบนั้นเนี่ย” มาตาร์ถามชายชรา

    “ก็เห็นเจ้ามีความคิดแปลกดี ขนาดถูกลากออกไปทรมานทุกคืนยังไม่ปริปากบ่นอะไรเลย” ชายชรากล่าว

    “เอ๋? นี่ลุงรู้ด้วยเหรอเนี่ย” มาตาร์นึกว่าทุกคนจะโดนวางยาจนหลับหมดตอนที่เรย์น่ามาลากเขาไปทรมานเสียอีก

    “เรื่องของผู้เล่นด้วยกันเอง จะฆ่ากันหรือจะเล่นอะไรกันก็ตามสบายเถอะ ข้าไม่ยุ่งเกี่ยวด้วยหรอกนะ” ชายชราออกตัวเอาไว้ก่อน เผื่อว่ามาตาร์จะขอให้ช่วยอะไร ...แต่ผิดคาด

    “ถ้างั้นลุงอย่าทำให้ยัยงูพิษรู้ตัวหรือพวกน้องสาวของผมรู้นะว่าผมโดนทรมานน่ะ เดี๋ยวมันจะวุ่นวาย” มาตาร์กระซิบบอกชายชรา

    “โฮ่! เจ้าคงจะมีความคิดที่จะทำอะไรสินะ นี่แหละที่ข้าเสียดาย เจ้ามันแปลกจริง ๆ ชายชราพูดอีกที

    “ฮ่า ๆ ๆ เกาะนี้ออกจะสงบ แถมยังมีคนช่วยฝึกวิชา ยังไงก็ขออยู่จนกว่าจะสำเร็จวิชานั่นแหละลุง” มาตาร์ตอบกลับอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับเดินเข้าไปในถ้ำ

     

    “สาว ๆ เรามาฝึกไม้ตายคนละท่าสองท่าก่อนออกจากเกาะนี้ละกันนะ” มาตาร์ประกาศเป้าหมายให้สามสาวฟังเมื่อเขาเข้ามาในถ้ำแล้ว

    “เอาสิคะ คลาร่าจะได้ช่วยมาตาร์สู้ได้ด้วย” แม่หมาป่าสาวตอบกลับอย่างอารมณ์ดีในขณะที่เธอกำลังทำความสะอาดถ้ำอยู่ ดูเหมือนคลาร่าจะทำจนเป็นนิสัยแล้ว แถมยังได้ฝึกปราณดินไปด้วย เพราะเธอต้องใช้ปราณรวบรวมน้ำมาทำความสะอาด

    “โมเรน่าวิ่งช้าลงด้วยล่ะมาตาร์ ฝึกให้โมเรน่าด้วย” แม่เสือสาวบอกถึงสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะเธอเปลี่ยนเผ่าเป็นมาร ซึ่งค่าสถานะด้านร่างกายลดลงไปยี่สิบเปอร์เซนต์ ดังนั้นความแข็งแกร่ง ความคล่องตัว และความอึดที่หายไปจึงทำให้เธอวิ่งช้าลง

    “บราวนี่อยากยิงปืนพลังจิต” แม่เหยี่ยวสาวเรียกร้องสิ่งที่เธออยากจะฝึกบ้าง

    มาตาร์วางแผนเอาไว้ว่าจะฝึกสามสาวให้ต่อสู้ได้ไม่แตกต่างจากผู้เล่นทั่วไปก่อนจะออกจากเกาะ คลาร่าควรจะใช้ปราณมังกรได้คล่องและมีท่าไม้ตายของตัวเอง โมเรน่าควรจะใช้ปราณได้ มีท่าไม้ตาย ส่วนสายเวทยังต้องรอปรึกษากันอีกว่าจะเลือกสายอะไร เพราะต้องไปที่ทวีปใหญ่ให้ได้ก่อน แต่ดูเหมือนโมเรน่าจะสามารถพลิกแพลงอักขระเวทได้ดีทีเดียว ส่วนบราวนี่ควรจะใช้ปราณได้ มีท่าไม้ตาย สายเวทก็รอไปก่อนเหมือนกัน (ซึ่งตอนนี้ทั้งโมเรน่าและบราวนี่มีสายเวทดนตรีซึ่งก็สามารถเปลี่ยนได้เรื่อย ๆ อยู่แล้วถ้าอยากจะเปลี่ยน ซึ่งทุกครั้งที่เปลี่ยนสายเวทก็ต้องเริ่มฝึกใหม่ เพราะเวทที่ฝึกฝนมานานจะมีระดับที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ) และยังต้องสร้างไม้ตายพลังจิตขึ้นมาสักท่าหนึ่งด้วย ที่คิด ๆ เอาไว้ก็น่าจะเป็นกระสุนพลังจิตนี่แหละ เพราะมันน่าจะเป็นท่าที่เหมาะกับผู้ที่ใช้ปืนเป็นอาวุธมากที่สุด

    มาตาร์ใช้ทักษะประสานวิญญาณกับสามสาวสลับกันไปมา ทุกครั้งที่พลังวิญญาณหมดก็จะพักผ่อน

     

    โมเรน่าชอบที่จะทำอาหาร ทุกมื้อโมเรน่าจะเป็นคนจัดการ ส่วนเรื่องวัตถุดิบนั้นผลัดกันออกไปล่า เนื่องจากสัตว์อสูรบนเกาะมีระดับไม่เกินสามสิบ จึงไม่เป็นปัญหา บางครั้งเรย์น่าก็จะหาวัตถุดิบมาให้บ้างซึ่งแน่นอนว่ามียานอนหลับอยู่ แต่มาตาร์ก็ยอมกินแต่โดยดี ไม่รู้ว่าตอนกลางวันเธอไปทำอะไรอยู่ที่ไหนบ้าง แต่เวลาที่อยู่ด้วยกันบนเกาะก็ไม่มีท่าทางดุร้ายเลย อาจจะเพราะได้ระบายตอนกลางคืนที่ลากมาตาร์ออกไปทรมานก็ได้

    “มาตาร์อยากกินอะไร” แม่เสือสาวถามเจ้านายของเธอ

    “อะไรก็ได้โมเรน่า” มาตาร์ตอบกลับ เขาไม่ใช่คนเรื่องมากเรื่องกิน

    “คลาร่าอยากกินของทอดอ้ะ” แม่หมาป่าสาวเสนอขึ้น

    “กินผัก” แม่เหยี่ยวสาวเสนอบ้าง

    ตุบ!

    “วันนี้ชั้นมีกระต่ายกับหมูมาฝาก เก็บเห็ดมาให้ด้วยนะ” เรย์น่าเดินเข้ามาในถ้ำพร้อมกับวางวัตถุดิบที่เธอหามาได้

    “อืม งั้นกินกระต่ายทอดราดซอสเห็ดละกัน ...ใช้หมูเป็นเครื่องปรุง ...งึมงำ ๆ โมเรน่าเห็นวัตถุดิบแล้วเหมือนจะเข้าสู่ภวังค์ เพราะกำลังคิดในใจว่าจะประกอบอาหารอย่างไรดี

    “ฮิฮิ ชั้นไปก่อนนะ เดี๋ยวตอนเย็นจะมากินข้าวด้วย” เรย์น่าพูดจบก็เดินออกจากถ้ำไป

     

    เพี้ยะ! เพี้ยะ!

    “อ๊ากก!!

    มาตาร์ฟื้นขึ้นมากลางดึกเพราะถูกแส้ฟาด ดูเหมือนหลัง ๆ นี่เรย์น่าจะไม่ค่อยระวังเรื่องการกลบร่องรอยแล้ว

    เปรี๊ยะ! อ๊ากกก!!!

    “แก มาตาร์ ทรมานมั้ยล่ะ” เรย์น่าพูดขึ้นมาพร้อมกับช็อตไฟฟ้าใส่มาตาร์ไปด้วย

    มาตาร์ก็ต้องยอมตลอดเพราะเขาถูกแส้ความมืดพันเอาไว้ที่คอเสมอทำให้ขัดขืนไม่ได้

    ยัยงูพิษ ซักวันเธอจะเสียใจที่ทำกับชั้นแบบนี้ มาตาร์คิดขึ้นมาขณะที่โดนทรมาน ดูเหมือนเขาจะพยายามเกร็งปราณออกมาด้วยถึงจะรู้ว่ามันไม่ได้ผลก็ตาม

    เพียะ! เปรี๊ย~ยะ! อึก!

    “ฮ่า ๆ ๆ ๆ เรย์น่าหัวเราะขึ้นมาหลังจากที่มาตาร์สลบไปอีกครั้ง

    หลังจากนั้นเรย์น่าก็ลากร่างของมาตาร์กลับเข้าไปในถ้ำ แล้วจับเขานอนลงตามปกติ

    จุ๊บ!

    “แล้วเจอกันคืนพรุ่งนี้นะคะ” หญิงสาวบอกลาชายหนุ่มอย่างอ่อนหวานพร้อมกับจูบเขาด้วย ก่อนที่เธอจะเดินออกจากถ้ำไป

     

    คลาร่าจะใช้เวลาว่างฝึกปราณแล้วก็ทำความสะอาดถ้ำ ซึ่งโมเรน่าก็ยังไม่เลิกฮัมเพลงเขียนถ้ำสักที ทำให้แม่หมาป่าสาวต้องมาคอยตามล้างตามเช็ดเป็นประจำ แต่ก็เท่ากับโมเรน่าได้ฝึกเวทส่วนคลาร่าได้ฝึกปราณไปด้วย จากการเขียน ๆ ลบ ๆ ของพวกเธอนี่แหละ

    ฟืด ฟืด~

    “ดื่อ ดื้อ ดือ ดื่อ ดื๊อ~อ” แม่เสือสาวฮัมเพลงพร้อมกับเขียนผนังถ้ำไปด้วย

    “นี่โมเรน่า เขียนถ้ำเล่นอีกแล้วเหรอ” แม่หมาป่าสาวทักขึ้นมาเพราะเป็นเธอที่ต้องมาคอยลบเจ้ารอยหมึกนั่นทุกที

    ฟึด ฟืด

    “ดุ่ม ดุ๊ม ดุ่ม ดูม~ม” โมเรน่าเหมือนไม่ได้ยิน เธอยังฮัมเพลงพร้อมกับเขียนถ้ำเล่นต่อไป

    “โมเรน่ามีปากกากี่ด้ามเนี่ย คลาร่าเห็นโมเรน่าเขียนทุกวันเลย หมึกมันไม่หมดเหรอ” คลาร่าสงสัยพร้อมกับเริ่มเรียกไอน้ำขึ้นมา หลัง ๆ นี่คลาร่าถึงขั้นสามารถใช้ไอน้ำแทรกระหว่างหมึกเวทมนตร์กับหินได้เลย ไม่จำเป็นต้องเรียกน้ำออกมาเยอะ ๆ เพื่อลบหมึกแล้ว

    “มาตาร์ทำให้น่ะ เห็นว่าใช้เลือดสัตว์อสูร ก็เลยมีเรื่อย ๆ ไม่หมด” โมเรน่าตอบกลับ แต่ก็ยังไม่หยุดเขียน

    “อะไรกันเนี่ย? อย่างนี้คลาร่าก็ต้องคอยลบทุกวันเลยน่ะสิ” คลาร่าพูดพร้อมกับลบรอยหมึกไปเรื่อย ๆ เพียงแค่ปาดมือไปมาเบา ๆ บริเวณที่มีหมึกเขียนอยู่ก็เลือนหายไป

    “ก็ลบไม่ยากนี่นาคลาร่า ไม่เห็นต้องบ่นเลย” โมเรน่าเห็นสิ่งที่แม่หมาป่าสาวทำแล้วก็พูดขึ้นมา

    “ก็คลาร่าอยากทำอย่างอื่นบ้างนี่นา” แม่หมาป่าสาวตอบ

    “งั้นก็รอให้โมเรน่าเขียนเสร็จแล้วค่อยลบทีเดียวสิ จะได้ทำได้หลายอย่าง” โมเรน่าแนะนำแม่หมาป่าสาว ดูเหมือนเธอคงไม่คิดที่จะหยุดเขียนกำแพงแน่

    “งื้อ~อ” ส่วนคลาร่าก็ส่งเสียงออกมาคำหนึ่ง

    พวกสามสาวจะไม่เคยทะเลาะกันเลย ถึงแม้จะทำอะไรที่ตรงข้ามกันก็ตาม สุดท้ายแล้วคลาร่าก็ยังยอมตามใจโมเรน่าอยู่ดี

     

    บราวนี่หางานอดิเรกทำได้ในที่สุด เธอชอบเอาโมโนไบค์ที่เจ้าของจำใจทิ้งเอาไว้ในถ้ำมาแงะเล่น โดยขอยืมอุปกรณ์จากชายชราเจ้าของถ้ำ คู่นี้ดูจะเข้ากันได้เป็นอย่างดี เมื่อทั้งคู่ผลัดกันลองแต่งโมโนไบค์ด้วยมือโดยใช้อะไหล่ที่มีมากมายจากโมโนไบค์ที่แขวนอยู่ในถ้ำนั่นแหละ

    “ดูให้ดีนังหนู โมโนไบค์มีส่วนประกอบหลัก ๆ ก็คือเครื่องยนต์ มันจะเป็นตัวตัดสินประสิทธิภาพของโมโนไบค์ ซึ่งมันก็ทำการอัพเกรดได้นั่นแหละนะ ตอนที่ทำภารกิจเข็มขัดไรเดอร์ก็จะตัดสินระดับเข็มขัดจากเครื่องยนต์เป็นหลักนั่นแหละ แต่ถ้าสำเร็จภารกิจเข็มขัดไรเดอร์แล้วเอาโมโนไบค์ไปอัพเกรดเครื่องยนต์โดยหวังว่าจะทำให้เข็มขัดอัพเกรดไปด้วยเนี่ยคงจะไม่ได้หรอกนะนังหนู ถ้าอยากอัพเกรดเข็มขัด ทำได้อย่างเดียวก็คือเอาเข็มขัดไรเดอร์ที่โมโนไบค์อัพเกรดแล้วมารับภารกิจใหม่แล้วเข็มขัดไรเดอร์ก็จะเปลี่ยนระดับตามระดับโมโนไบค์เอง” ชายชราอธิบายให้แม่เหยี่ยวสาวฟัง

    “...” บราวนี่นั่งทำหน้านิ่ง

    “ดีมาก! เข้าใจแล้วสินะ ส่วนต่อไปก็คือโครงของรถ ความแข็งแรงของวัสดุและรูปแบบที่สวยงาม บางรุ่นก็สามารถแปลงร่างได้ด้วยนะ จะเสริมโครงเพื่อเพิ่มประโยชน์การใช้งานก็ได้ อย่างเครื่องที่พวกเจ้านั่งมาก็ปรับโครงให้เป็นแบบสะเทินน้ำใช่มั้ยล่ะ” ชายชราอธิบายต่อไป

    “...” บราวนี่ก็ยังนั่งทำหน้าตายเหมือนเดิม

    “เยี่ยมมาก! เจ้านี่ฉลาดจริง ๆ ส่วนต่อไปก็คือตัวจ่ายพลังงาน เห็นนี่มั้ย” ชายชราพูดแล้วก็หยิบชิ้นส่วนที่มีลักษณะเป็นก้อนเรียบ ๆ ขนาดกำปั้น และมีส่วนที่เป็นร่องเล็ก ๆ ซึ่งน่าจะใช้เลื่อนประกบกับอะไรสักอย่างได้

    แกร็ก!

    ชายชราจับเจ้าชิ้นส่วนนั้นเลื่อนเข้าไปติดกับตัวรถ แล้วก็เลื่อนออกมา

    “ตัวจ่ายพลังงานนี้ถอดออกได้และเปลี่ยนได้ ถ้าไม่อยากเสียเวลารอชาร์จพลังโมโนไบค์ก็หาตัวจ่ายพลังงานมาเยอะ ๆ เอาไว้สับเปลี่ยนได้ ยิ่งพลังงานสูงก็จะยิ่งใช้งานได้นาน แต่เวลารีชาร์จก็จะนานตามไปด้วย ถ้ามีตัวจ่ายพลังงานแรง ๆ ตอนใช้เข็มขัดไรเดอร์ก็คืนร่างได้นานขึ้นด้วยนา” ชายชราอธิบายอีก

    “แบ็ตเตอรี่” บราวนี่เอ่ยออกมาเรียบ ๆ ดูเหมือนเธอจะเข้าใจ ว่าเจ้าก้อนนั่นคืออะไร

    “โฮ่ ๆ ๆ ถูกต้อง ๆ ต่อไปมาดูล้อ...”

    แล้วชายชรากับบราวนี่ก็คุยกันไม่หยุด ... จะว่าไปมีแต่ชายชราต่างหากที่คุยไม่หยุดอยู่คนเดียว

    ช่วงเวลาแบบนี้ผ่านไปหลายต่อหลายวัน บางวันก็จะมีผู้เล่นวาร์ปมาที่เกาะเพื่อทำภารกิจบ้าง ซึ่งผลลัพธ์ก็เป็นไปตามคาด บางคนจับแมลงไม่ได้ บางคนจับแมลงได้แต่ฝ่าโพรงถ้ำออกไปไม่ได้ สุดท้ายแล้วไม่ว่าผู้เล่นจะมากี่คน ก็ไม่มีใครเอาเข็มขัดไรเดอร์ออกไปได้เลย

     

    ตูมม!!

    หมัดของคลาร่าต่อยเข้าไปที่หินก้อนหนึ่ง บริเวณที่เธอต่อยไม่ปรากฏรอยอะไรเลย แต่ด้านหลังของก้อนหินกลับระเบิดออกมา

    “คลาร่าปฏิบัติตามเงื่อนไขได้รับท่าปราณค่ะ” เสียงจากระบบดังขึ้น ซึ่งมาตาร์ก็ได้ยินด้วย

    “โห! คลาร่าสำเร็จท่าไม้ตายแล้วเหรอเนี่ย” มาตาร์อุทานออกมาอย่างตื่นเต้น

    ท่าไม้ตายนี้มาตาร์ไม่ได้ช่วยอะไรแม่หมาป่าสาวเลย เธอฝึกเองจนได้ท่าไม้ตายเฉพาะตัวออกมาด้วยตัวเอง จากประสบการณ์ของเธอเอง ที่มักจะทุ่มเททำอะไรแบบตรงไปตรงมา

    ท่าไม้ตายของคลาร่านั้นใช้ปราณมังกรเป็นหลัก พุ่งใส่เป้าหมายแบบตรง ๆ ดูเหมือนไม่มีลีลา แต่กลับมีอำนาจทะลุทะลวงอย่างร้ายกาจ จากที่สังเกตผลลัพธ์แล้ว ถึงแม้คู่ต่อสู้จะป้องกันหรือใส่เกราะเอาไว้ก็คงไม่มีผลกับท่าไม้ตายนี้ของคลาร่าเลย เพราะพลังหมัดของคลาร่าจะพุ่งทะลุเกราะหรือทะลุการป้องกันของคู่ต่อสู้ไปเลย

    “ตั้งชื่อท่าอะไรดีคะมาตาร์” คลาร่าถามเจ้านายของเธอ

    ซึ่งหน้าต่างตั้งชื่อไม้ตายก็กระเด้งขึ้นมาในเมนูของมาตาร์ด้วย เพราะเขาเป็นเจ้านายของแม่หมาป่าสาวนั่นเอง

    “อืม ...หมัดทะลวง เป็นไง” มาตาร์เสนอ

    “เอาสิคะ” คลาร่าตอบรับทันที ไม่ว่ามาตาร์จะตั้งชื่ออะไรมาเธอก็คงจะรับทั้งนั้นแหละ

    ซึ่งท่าไม้ตายหมัดทะลวงนี้ เป็นท่าไม้ตายที่สองของคลาร่า เพราะมาตาร์สอนเคล็ดความเร่งให้แม่หมาป่าสาวไปแล้ว และเธอก็เอาไปประยุกต์เป็นท่าเท้า กลายเป็นลูกเตะความเร่งไป

     

    ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!

    อีกด้านหนึ่ง เงาฉวัดเฉวียนเคลื่อนตัวอยู่ระหว่างต้นไม้ในป่า แทบจะไม่เห็นท่าร่างเลยนั้นคือโมเรน่า มาตาร์สอนเท้าไร้เงาให้โมเรน่าเพราะเห็นว่าเหมาะกับแม่เสือสาว ซึ่งโมเรน่าก็เอาไปใช้ร่วมกับปราณความมืด เพิ่มการเคลื่อนไหวที่พิศดารซึ่งเกิดจากแรงดึงดูดจากปราณความมืดเข้าไปอีก ทำให้เท้าไร้เงาที่มองแทบไม่ทันอยู่แล้ว กลายเป็นท่าเท้าที่เดาทางไม่ถูกด้วย

    โมเรน่าถึงขั้นใช้ปราณดูดร่างติดกับพื้นผิวได้ แม่เสือสาวใช้เท้าเดินขึ้นต้นไม้เหมือนเดินอยู่บนพื้น ห้อยหัวลงมาจากต้นไม้ทั้ง ๆ ที่มีแต่ฝ่าเท้าที่สัมผัสกับกิ่งไม้ และเปลี่ยนทิศทางและเร่งความเร็วกลางอากาศโดยใช้แรงเหวี่ยงจากการเปลี่ยนน้ำหนักแรงดึงดูด

    “โมเรน่าปฏิบัติตามเงื่อนไขได้รับท่าปราณค่ะ” เสียงประกาศดังขึ้น

    “มาตาร์!!” โมเรน่าได้ยินดังนั้นก็วิ่งเข้าไปหาเจ้านายของเธอทันที

    “อืม ๆ พี่รู้แล้ว โมเรน่าได้ท่าไม้ตายใหม่ใช่มั้ยล่ะ” มาตาร์พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

    “มาตาร์ตั้งชื่อท่าให้โมเรน่าด้วย!” แม่เสือสาวพูดขึ้นมาอย่างตื่นเต้น

    ท่าเท้าที่พิศดารขนาดนี้ ...อืม มาตาร์คิดถึงรูปแบบการเคลื่อนไหวของโมเรน่าก่อนจะตั้งชื่อมันว่า “เท้ามายา ...ดีมั้ย”

    “เอา ๆ เอาชื่อนี้แหละ” แม่เสือสาวยิ้มขึ้นมาอย่างมีความสุขเมื่อได้ชื่อท่าไม้ตายถูกใจ

    เท้ามายาเป็นเคล็ดการเคลื่อนที่มากกว่า แต่ท่าไม้ตายที่ใช้โจมตีโมเรน่าก็มีแล้ว คือหมัดความเร่งของมาตาร์นั่นแหละ แต่ว่าเธอไม่ชอบกำหมัดและใช้อาวุธในวงศ์มีดอย่างกรงเล็บ จึงเปลี่ยนเป็นเหวี่ยงกรงเล็บโจมตีแทน ซึ่งก็ส่งผลรุนแรงกว่าหมัดความเร่งตามปกติเสียอีกถ้าใช้แรงเท่ากัน เพราะมีการเพิ่มข้อต่อเข้าไปอีกชั้นหนึ่งนั่นเอง

     

    ตูม!! ปึ้ก! เปรี้ยงง!!

    บราวนี่กวาดส้นเท้าใส่ก้อนหินจนมันแตกไป แล้วใช้เท้างัดก้อนหินขนาดกลางขึ้นมา แล้วพุ่งส้นเท้าออกไปเตะก้อนหินที่ลอยอยู่นั่นจนมันแหลกสลายคาเท้าทันที

    แม่เหยี่ยวสาวจัดว่าเป็นคนที่มีเอกลักษณ์สูงที่สุดในวิชาต่อสู้ เธอไม่มีท่าไม้ตายที่ถ่ายทอดจากมาตาร์เลยสักท่าเดียว และการโจมตีแต่ละครั้งจะไม่ใช้ส่วนอื่นโจมตีเลยนอกจากส้นเท้า ท่าเตะแบบธรรมดาที่ใช้หลังเท้าเตะเธอก็ไม่ทำ ทำให้การเคลื่อนไหวดูแปลกมากเพราะต้องหมุนตัว สะบัดตัวเพื่อเปลี่ยนมุมเท้าอยู่ตลอดเวลา ซึ่งมาตาร์ก็ไม่คิดจะเปลี่ยนสไตล์การต่อสู้แบบนี้ของแม่เหยี่ยวสาว

    การใช้ส้นเท้าของบราวนี่เปรียบเสมือนการตอกเสาเข็มที่เน้นความหนักหน่วงและรุนแรง จุดที่แข็งที่สุดอย่างส้นเท้าทำให้การโจมตีมีความแน่นอน นอกจากนั้นแม่เหยี่ยวสาวยังแฝงปราณแสงลงไปในการโจมตีด้วย

    คุณสมบัติของปราณแสงแทบจะเหมือนปราณบริสุทธิ์ถ้าใช้ในระยะใกล้ จุดเด่นของปราณแสงจริง ๆ คือความรวดเร็วของการพุ่งระยะไกล แต่บราวนี่กลับไม่ใช้ปราณแสงแบบนั้น แต่เธอใช้ปราณแสงแทรกเข้าไปตอนที่เท้าของเธอกระทบเป้า ก้อนหินแตกกลางอากาศแทนที่จะกระเด็นไป ก็เพราะปราณแสงที่แทรกซึมเข้าไป ทำลายพันธะที่ยึดหินติดกันไว้จนมันกลายเป็นฝุ่น ส้นเท้าที่ไม่ว่ากระทบกับอะไร สิ่งนั้นก็จะสลายไปทันที

    “บราวนี่ปฏิบัติตามเงื่อนไข ได้รับท่าปราณค่ะ” เสียงจากระบบดังขึ้นให้บราวนี่กับมาตาร์ได้ยิน

    “...” แม่เหยี่ยวสาวเดินไปหาชายหนุ่มทันทีที่เสียงประกาศดังขึ้น

    “หืม ...ให้ตั้งชื่อท่าไม้ตายให้ใช่มั้ย” มาตาร์รู้จุดประสงค์ของบราวนี่ดี

    “อืม” เด็กสาวผมสีน้ำตาลขานรับ

    “เท้า ...ถล่มปฐพี เป็นไง” มาตาร์ลองพิจารณาถึงคุณสมบัติของท่าไม้ตายของบราวนี่แล้วก็ตั้งชื่อไป เท้าที่ทำลายพันธะได้ทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่แผ่นดิน

    ซึ่งบราวนี่ยังต้องฝึกพลังจิตในการยิงปืนด้วย แต่การสร้างวัตถุด้วยพลังจิตมันยากกว่าที่คิด แม้แต่มาตาร์ก็ยังทำไม่ได้ถึงแม้จะประสานวิญญาณกับบราวนี่แล้วก็ตาม

    แต่ท่าไม้ตายของทั้งสามสาวนั้นอาศัยปราณเฉพาะตัวที่มาตาร์ไม่มีทั้งนั้น ดังนั้นชายหนุ่มจึงไม่สามารถใช้ท่าไม้ตายแบบสามสาวได้เลย มีแต่ต้องประสานวิญญาณด้วยกัน แล้วก็ฝึกใช้ในร่างของพวกเธอเท่านั้น ซึ่งมาตาร์ก็ค่อย ๆ ฝึกฝนท่าไม้ตายเฉพาะตัวของแต่ละคนทีละน้อย เพื่อเวลาที่ประสานวิญญาณกันจะได้เคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติ

     

    วันหนึ่ง

    “โมเรน่ามานี่หน่อยสิ” ชายหนุ่มผมแดงเรียกเสือสาวของเขา ขณะที่กำลังฝึกอะไรสักอย่างอยู่ที่หน้าถ้ำ

    “อะไรเหรอมาตาร์” แม่เสือสาวขานรับพร้อมกับเดินมาหาเจ้านายของเธอ

    “โมเรน่าใช้ปราณความมืดดูดพลังได้มั้ย” มาตาร์ถาม

    “ไม่ได้นะ โมเรน่าใช้ได้แต่เพิ่มแรงดึงดูดนิดหน่อยเท่านั้นเอง” แม่เสือสาวตอบ

    “อืม ...ไหนลองจับแขนพี่แล้วใช้ปราณดูซิ” มาตาร์พูดแล้วก็ยื่นแขนขวาไปให้โมเรน่าทันที

    “...อืม...” โมเรน่าไม่เข้าใจว่ามาตาร์จะทำอะไรแต่ก็ปฏิบัติตามแต่โดยดี

    วูบบ!!

    ปราณความมืดจากโมเรน่าเหนี่ยวร่างของมาตาร์ให้หนักไปด้านหนึ่งจนเขาตัวเซไปทันที

    “โวะ! โอ๊ะ!” มาตาร์อุทานออกมาอย่างตกใจเพราะจู่ ๆ แขนเขาก็หนักขึ้น

    “เป็นอะไรรึเปล่ามาตาร์” โมเรน่าถามอย่างเป็นห่วงพร้อมกับคลายปราณทันที

    “ไม่เป็นไรโมเรน่า แค่ตกใจนิดหน่อย ไม่มีอะไรแล้วล่ะ ไปเล่นต่อเถอะ” มาตาร์กล่าว

    โมเรน่ามองชายหนุ่มอย่างแปลกใจแล้วก็เดินเข้าไปเขียนกำแพงถ้ำเล่นต่อไป

    ไม่เหมือนกับแส้ของยัยงูพิษเลยแฮะ ...สงสัยต้องหัดด้วยตัวเองซะล่ะมั้ง มาตาร์คิดขึ้นมาแล้วก็นั่งลงที่หน้าถ้ำเหมือนเดิม

     

    เวลาส่วนใหญ่มาตาร์ก็มักจะนั่งอยู่หน้าถ้ำเฉย ๆ ไม่รู้ว่าทำอะไรอยู่เหมือนกัน บางครั้งก็ออกไปล่าสัตว์อสูรมาทำอาหารหรือเอาเลือดมาทำหมึกเวทให้โมเรน่าบ้าง

    ตึม!

    มาตาร์ยื่นแขนซ้ายที่ด้วนออกมา แล้วก็ปรากฏเป็นหลุมที่ด้านหน้าของเขา ซึ่งมันก็เกิดจากพลังจิตนั่นเอง

    อืม พลังจิตยิงออกมาได้เหมือนกระสุนเหรอ แขนขาดนาน ๆ แบบนี้ก็อาจจะเป็นโอกาสก็ได้นะ

    ช่วงที่อยู่บนเกาะ มาตาร์คิดอะไรเพิ่มได้อีกหลายอย่างทั้งวิธีใช้ปราณแบบใหม่ที่จะใช้กำราบเรย์น่า และไม้ตายพลังจิตที่จะใช้ทดแทนแขนที่ขาดไปเกือบเดือน ซึ่งแต่ละอย่างก็ค่อย ๆ เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาอย่างช้า ๆ

     

    บทนี้สบาย ๆ ไม่เครียด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×