คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #125 : บทที่121: ความลับของเข็มขัดไรเดอร์
บทที่121 ความลับของเข็มขัดไรเดอร์
ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ! ครืน~น!
มาตาร์สะบัดทอนฟาด้วยมือขวาข้างเดียว ปล่อยคมมีดสายลมใส่ต้นไม้ใกล้ ๆ ให้มันโค่นลง แล้วใช้เท้าเตะออก ซัดหยดน้ำเล็ก ๆ จากการรวบรวมด้วยปราณดินใส่แมลงที่บินออกมาไม่หยุด
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ” ชายหนุ่มผมแดงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งพร้อมกับทำลายป่าฆ่าแมลงไปเรื่อย ๆ
“นายท่านคะ แวมพ์ว่าคุณมาตาร์ดูน่ากลัวนะคะเนี่ย” แวมไพร์สาวหันมากระซิบกับเจ้านายของเธอ
“...” บรันโด้ไม่แสดงความเห็น แต่ในใจก็รู้สึกเห็นด้วยนิด ๆ เหมือนกัน เขาเองรู้จักมาตาร์แค่ช่วงประลองในสนามต่อสู้เท่านั้นเอง ไม่ได้รู้จักนิสัยจริง ๆ ของมาตาร์ ว่าเขาเป็นคนอย่างไร
ส่วนสามสาวก็มองด้วยสีหน้านิ่งเฉย เหมือนจะชินแล้วกับสภาพแบบนี้ของเจ้านาย เพราะมันก็มีบ้างบางเวลาเหมือนกันที่เขาจะระบายอารมณ์ออกมาแบบนี้ ยิ่งเมื่อวานนี้อารมณ์เศร้าของมาตาร์ปะทุขึ้นมาแบบภูเขาไฟระเบิด คงจะส่งผลทำให้เขาเครียดมากเป็นแน่แท้ การทำลายป่าฆ่าแมลงนี่ก็คงจะเป็นวิธีระบายอารมณ์แบบหนึ่ง
“พี่มาตาร์ครับ!” บรันโด้ตะโกนขึ้นมาในที่สุด
“หืม?” มาตาร์หยุดมือแล้วหันกลับมาหาชายหนุ่มผมดำ
“เรามาทำภารกิจจับแมลงกันนะครับ ถ้าพี่ฆ่าแมลงซะหมดแล้วจะจับได้ยังไงล่ะครับ” บรันโด้กล่าว
“อ้า ...โทษที พี่เพลินไปหน่อย เพราะเห็นมีแต่แมลงกระจอก ๆ น่ะ” มาตาร์กล่าวพร้อมกับท่าทีที่สงบลง อาจจะเพราะได้ระบายอารมณ์จนพอใจแล้วก็ได้
“มาตาร์เหนื่อยมั้ยคะ” แม่หมาป่าสาวถามขึ้นมาหลังจากเห็นเจ้านายของเธอใช้พลังไม่หยุดตลอดครึ่งชั่วโมงมานี่
“อ้า ไม่เหนื่อยเท่าไหร่หรอกคลาร่า พี่ยั้งพลังเอาไว้นะ” มาตาร์ตอบหมาป่าของเขา
บรันโด้ได้ยินที่สองคนคุยกันแล้วก็ลอบคิดขึ้นมาว่ามาตาร์นี่เก่งขึ้นเยอะเลยหลังจากครั้งสุดท้ายที่เจอกัน เก่งขึ้นจนประมาณไม่ถูกเลยทีเดียว
“บรันโด้อยากได้แมลงแบบไหนล่ะ” มาตาร์หันมาถามบรันโด้ที่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย
“เอ้อ ...ผมไม่ได้คิดมาก่อนเลยครับ ขอแค่จับได้ซักตัวก็พอแล้ว จะได้ผ่านภารกิจซักที” บรันโด้กล่าว
“โหย จะจับทั้งทีเอาให้มันสุดยอดไปเลยสิ แบบด้วงเขาใหญ่ ๆ สู้เก่ง ๆ น่ะดีมั้ย” มาตาร์แนะนำ
“แบบนั้นก็ดีครับ ถ้ามันออกมาให้จับอะนะ” บรันโด้นั้นยังไงก็ได้ เขาไม่เรื่องมากอยู่แล้ว
และเนื่องจากมาตาร์ฆ่าแมลงไปเยอะมาก แถมยังทำลายป่าอีกด้วย เหล่าแมลงทั้งหลายจึงรู้สึกโกรธแค้นมาตาร์สุด ๆ พวกมันเริ่มรวมกลุ่มกันทีละนิดและเตรียมตัวจะโจมตีใส่เจ้ามนุษย์ผมแดงนี้เต็มที่
“อยู่ ๆ แมลงก็หายไปหมดนะครับเนี่ย” บรันโด้สังเกตเห็นความผิดปกติหลังจากผ่านมาถึงสิบนาทีในป่าแมลงแห่งนี้
ปึ้กก!!
ทันใดนั้นร่างของบรันโด้ก็กระเด็นไปอีกทางทันที
“นายท่าน!!” แวมไพร์สาวร้องออกมาอย่างตระหนกเมื่อเห็นเจ้านายของเธอลอยละลิ่วออกจากกลุ่มไป
ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ!
แล้วแมลงนับพันก็พุ่งออกมาจากสองข้างทางทันที ทั้งแบบมีเขา มีเหล็กใน และมีพิษ พุ่งเข้าทำร้ายมาตาร์และสี่สาวที่เหลืออยู่
“อ๊าย!”
“โอ๊ยย!”
ทุกคนต่างโดนคมเขา เหล็กใน และยังมีพิษที่ทำให้เกิดอาการปวดแสบปวดร้อนอีกด้วย
“สาว ๆ แวมพ์ มานี่” มาตาร์เรียกสามสาวและแวมไพร์สาวเข้ามารวมกลุ่มที่เขาทันที โดยใช้พลังจิตช่วยดึงร่างพวกเธอเข้ามาหาตัวด้วย
ฟู่วว!!
แล้วทันทีที่ทุกคนรวมกลุ่มกันได้แล้ว พายุหมุนวนลูกใหญ่ก็บังเกิดขึ้นทันที มาตาร์ใช้ปราณลมของเขาสร้างพายุขึ้นมาโดยให้ตัวเขาและสาว ๆ ทุกคนอยู่ตรงใจกลางพายุ
พวกแมลงทั้งหลายที่เข้ามาโจมตีถูกพัดปลิวไปตามแรงลมทันที มีบางตัวที่พยายามจะฝ่าพายุมาเหมือนกัน แต่ก็ไม่เป็นผล
“คลาร่า! ปล่อยไฟไหวมั้ย” มาตาร์สั่งงานหมาป่าสาวของเขาทันที
“จะลองดูค่ะ!” คลาร่าตอบกลับมา
ฟูวว!
แล้วแม่หมาป่าสาวก็ใช้ปราณมังกรแปลงเป็นธาตุไฟทันที แต่ว่าคลาร่ายังควบคุมปราณไฟไม่เก่ง พลังไฟจึงไม่รุนแรงนัก
ฟูวว!!
แต่แล้วโมเรน่ากลับใช้ผลึกไฟที่เธอได้มาจากมาตาร์ปล่อยไฟออกไปทันที เวทของแม่เสือสาวดูจะรุนแรงมากเพราะสองวันที่ผ่านมา เธอเอาแต่ฮัมเพลงแล้วเขียนกำแพงเล่น ซึ่งเป็นการฝึกค่าจิตใจดี ๆ นี่เอง
ซูวว!
แล้วแมลงที่อยู่ในพายุทุกตัวโดนพลังไฟเผาจนไหม้เกรียมไปหมด
ส่วนอีกด้านหนึ่ง บรันโด้ที่โดนแมลงพุ่งเข้าใส่แต่แรกก็กระเด็นมาอยู่หน้าโพรงต้นไม้ต้นหนึ่งซึ่งไม่ไกลนัก
ตุบบ!!
“อูยย” ชายหนุ่มผมดำครางออกมาเมื่อร่างกายของเขากระแทกเข้ากับพื้น
หวี่! หวี่!
เสียงกระพือปีกถี่ ๆ ของแมลงมีเขาสีดำตัวหนึ่งบินอยู่ตรงหน้าบรันโด้
“หืม?” ชายหนุ่มรู้สึกแปลกใจขึ้นมาว่ามันเกิดอะไรขึ้น เขาเข้าป่ามาทีไรไม่เคยมีแมลงมาบินตรงหน้าเฉย ๆ แบบนี้มาก่อนเลย ส่วนใหญ่ก็เห็นพุ่งเข้ามาโจมตีทั้งนั้น ซึ่งเขาก็ลองสำรวจตัวเองดูก็ไม่พบบาดแผลที่ใดจากการกระแทกเมื่อสักครู่เลยด้วย
หวี่! หวี่!
เจ้าแมลงเขาดำตัวนั้นบินไปที่โพรงต้นไม้ที่อยู่ใกล้กับบรันโด้ แล้วบินวนไปวนมาเป็นเลขแปดเหมือนกับบอกว่าให้ชายหนุ่มลองเข้าไปดู
“อะไรเหรอ?” บรันโด้ชะโงกหน้าเข้าไปดูในโพรงต้นไม้นั้น เห็นว่ามีด้วงสีดำอีกตัวหนึ่ง มีเขาสั้น ๆ กำลังนั่งอยู่บนไข่ฟองหนึ่ง ทำท่าเหมือนกับจะปกป้องมัน
บรันโด้พอจะเข้าใจได้ว่า ตัวที่บินอยู่นั่นเป็นตัวพ่อ แล้วที่อยู่ในโพรงต้นไม้นั่นเป็นตัวแม่ ทั้งสองตัวกำลังปกป้องไข่ของพวกมันอยู่จาก ‘เจ้ามนุษย์ผมแดง’ คนนั้น
มันก็เป็นเพราะโชคแบบแปลก ๆ ของบรันโด้อีกแล้วนั่นแหละ เพราะร้อยวันพันปีไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเลย บรันโด้เข้าป่ามาทุกวัน ก็ตายกลับไปทุกวัน พวกแมลงต่างรู้สึกว่าเจ้ามนุษย์ผมดำคนนี้ไม่เป็นอันตรายเท่าไหร่ แต่วันนี้ แค่มีเจ้ามนุษย์ผมแดงโผล่ออกมาเท่านั้น พวกแมลงตายไปเป็นแสนตัว เหล่าแมลงทั้งหลายแม้รวมกลุ่มกันก็ยังไม่อาจต้านทานเจ้ามนุษย์ผมแดงคนนี้ได้เลย ทางเดียวที่เหลือก็คือ พึ่งพาเจ้ามนุษย์ผมดำที่ดูใจดีกว่านั่น
“เอ่อ ...อยากให้ผมปกป้องไข่ของพวกเจ้าเหรอ?” บรันโด้ไม่แน่ใจว่าพวกแมลงจะฟังเขาพูดรู้เรื่องมั้ย แต่ก็ถามออกไป
หวี่! หวี่!
เจ้าแมลงมีเขาบินขึ้นบินลงเหมือนกับตอบรับว่า ‘ใช่แล้ว’
ฟู่วว!!!
แล้วทันใดนั้นพายุไฟก็ขยายวงออกมา พัดเอาแมลงและป่ารอบ ๆ ให้ไหม้เกรียมมากขึ้นเรื่อย ๆ
“พี่มาตาร์!!” บรันโด้พยายามตะโกนให้ชายหนุ่มผมแดงได้ยิน
ฟู่วว! ครืน~น!
“พี่มาตาร์!! พอได้แล้ว!!” บรันโด้ตะโกนอีก แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล เมื่อสายลมพัดพาเอาเสียงของเขาให้ลอยหายไปหมด
‘แบบนี้ตายกันหมดแน่...’ บรันโด้คิดขึ้นแล้วซุกตัวเข้าไปในโพรงถ้ำทันทีแล้วเอาตัวบังแมลงพวกนั้นเอาไว้
ฟูวว!!
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ ตายให้หมด!!” มาตาร์เกิดอารมณ์อยากเผาป่าให้วอดวายเต็มที่ เขาขยายขอบเขตของลมพายุทันที แต่ว่าเมื่อขอบเขตของพายุกว้างขึ้น พลังไฟก็ถูกเจือจางลง
ฟูวว!!
และเมื่อเวลาผ่านไปสิบนาที ลมพายุยักษ์ก็หยุดลงพร้อมกับอาการเหนื่อยหอบของชายหนุ่มผมแดง
“แฮก แฮก แฮก ...โอย ตายกันหมดรึยังเนี่ย” มาตาร์หอบพร้อมกับมองไปรอบ ๆ
ที่ใจกลางของพายุมีไฟที่เข้มข้น ทุกอย่างถูกเผาหมดต้นไม้น้อยใหญ่ยืนต้นตายกันเป็นแถบ ๆ ห่างออกไปหน่อยก็แค่เกรียม ๆ เผาได้แค่ครึ่งต้นก็มี แต่มีอยู่ต้นหนึ่งที่ดูแปลก ๆ เพราะที่โคนต้นไม้นั้นเหมือนกับมีจุดที่ไม่ไหม้อยู่ ทั้ง ๆ ที่ต้นด้านบนไหม้เกรียมจนหมด
ตุบบ!
ทันใดนั้นร่างของชายหนุ่มผมดำก็หงายหลังล้มออกมาจากโคนต้นไม้ต้นนั้น
“เฮ่ยย! บรันโด้!” มาตาร์อุทานออกมาอย่างตกใจที่เห็นว่าบรันโด้อยู่ในรัศมีของพายุไฟของเขาด้วย
“นายท่าน!!” แม่แวมไพร์สาวรีบวิ่งเข้าไปหาร่างเจ้านายของเธอทันที
“อูย~ย ปลอดภัยแล้วนะ” บรันโด้พูดออกมาเมื่อเห็นว่าเจ้าแมลงมีเขาพ่อแม่ลูกนั้นปลอดภัยดี
“คลาร่า มีปราณเหลือมั้ย ไปช่วยบรันโด้เร็ว” มาตาร์รีบบอกหมาป่าสาวของเขาทันที เพราะปราณของเขาแทบจะหมดจากการสร้างพายุยักษ์ลูกเมื่อสักครู่แล้ว
ตุบ! ตุบ!
คลาร่ารีบวิ่งไปที่ร่างของบรันโด้แล้วถ่ายปราณลมเพื่อรักษาเขาทันที แต่ดูเหมือนจะสายไปแล้ว เมื่อร่างของชายหนุ่มผมดำค่อย ๆ สลายออกมาช้า ๆ
“นายท่าน!!” แวมไพร์สาวเอ่ยออกมาอย่างร้อนรน
“ไม่เป็นไรแวมพ์ ก็แค่ต..ายเหมือ..นทุกวันนั่นแหละ ไม่เห็น..ต้องตื่นเต้นเลย” บรันโด้พูดออกมาอย่างยากเย็น
“บรันโด้ ...พี่ขอโทษ ไม่นึกว่าน้องจะอยู่ตรงนี้” มาตาร์เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสลด ถึงเขาจะเคยฆ่าผู้เล่นคนอื่นมานับไม่ถ้วนก็เถอะ แต่การฆ่าคนรู้จักแบบนี้มันก็ให้ความรู้สึกที่ไม่ดีเหมือนกัน
“ไม่เป็นไรครั..บพี่มาตาร์ ผมเอง..ก็เคยฆ่าพี่ไปค..รั้งนึง ผลัดกันฆ่า..บ้างก็ดีเห..มือนกัน” บรันโด้พูดออกมาพร้อมกับตาที่ค่อย ๆ ปิดลงไป
แวบบ!!
ทันใดนั้นเกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้น เมื่อเจ้าแมลงสองผัวเมีย กลายเป็นแสงทั้งคู่แล้วหายเข้าไปในไข่ฟองเดียวกันนั้น
ปริ!
แล้วทันใดนั้นไข่แมลงก็เกิดรอยร้าว
เปรี๊ยะ!
แมลงสีดำที่มีเขาเหมือนดาบสองตัวบินออกมาทันที แล้วตรงเข้าไปเกาะที่เข็มขัดไรเดอร์ของบรันโด้
“ผู้เล่นบรันโด้ปฏิบัติตามเงื่อนไข ได้รับด้วงเขาดาบแฝดเป็นสัตว์เลี้ยง กรุณาตั้งชื่อด้วยค่ะ” เสียงจากระบบดังขึ้นมาในหัวของบรันโด้
“เอ๋?” บรันโด้อุทานออกมาอย่างแปลกใจ แล้วหันมามองหน้าแวมไพร์สาวด้วยสายตาที่ตื่นตกใจเพราะคาดไม่ถึง
“อะไรคะนายท่าน!?” แวมไพร์สาวไม่เข้าใจเพราะเธอไม่ได้ยินเสียงของระบบเหมือนบรันโด้ เธอถามเจ้านายอย่างร้อนรน
“สำเ..ร็จแล้..ว”
แวบบ!
สิ้นเสียงของบรันโด้ ร่างเขากับแม่แวมไพร์สาวก็หายไป ทิ้งแต่เสื้อผ้าและเข็มขัดไรเดอร์เอาไว้บนพื้น
“เอ๋?” มาตาร์อุทานออกมาอย่างแปลกใจ
“อะไรเหรอคะมาตาร์” คลาร่าถามขึ้นมาอย่างสงสัย เพราะไม่รู้ว่ามาตาร์อุทานออกมาทำไม
“เข็มขัดไรเดอร์มันก็ตกเหมือนอุปกรณ์อื่น ๆ เหรอเนี่ย” มาตาร์พูดแล้วก็หยิบเจ้าเข็มขัดไรเดอร์นั้นขึ้นมา
แวบบ!!
แล้วทันใดนั้นเข็มขัดไรเดอร์ก็หายไปจากมือของชายหนุ่มทันที
“อ้าว? หายไปแล้ว” มาตาร์ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่ามันเกิดอะไรขึ้น
เมื่อเห็นว่าผู้ทำภารกิจไม่อยู่แล้ว ชายหนุ่มผมแดงจึงเดินออกจากป่าแมลงที่มีความวอดวายให้เห็นเป็นหย่อม ๆ กลับเข้าถ้ำไรเดอร์ทันที
“โฮ่ ๆ ๆ กลับมาแล้วเรอะ เจ้าหนุ่มนั่นสำเร็จภารกิจแล้วล่ะสิ แต่ก็ต้องแลกด้วยชีวิต” ชายชราเอ่ยขึ้นมาเมื่อเห็นมาตาร์เดินออกมาจากหลังกระท่อม
“ลุงรู้ได้ไงน่ะ” มาตาร์สงสัย
“ก็เข็มขัดมันกลับมาที่นี่น่ะสิ” ชายชราพูดพร้อมกับชูเข็มขัดของบรันโด้ขึ้นมา
“อ้าว? มันกลับมาอยู่กับลุงเหรือเนี่ย” มาตาร์นึกว่าเข็มขัดมันจะตามบรันโด้ไปเสียอีก
“ถ้าไรเดอร์ตายพร้อมเข็มขัด เข็มขัดมันก็จะตกเหมือนของอย่างอื่นนั่นแหละ แต่เฉพาะป่าแมลงนี้เท่านั้น ที่มันจะกลับมาที่นี่ ...เพื่อความสะดวกน่ะ” ชายชรากล่าว
“อ้าว!? ถ้าอย่างนั้นถึงจะสำเร็จภารกิจเข็มขัดไรเดอร์นี้ไป แต่ถ้าตายก็สูญเหมือนกันน่ะสิ” มาตาร์คิดถึงเวลาที่เขาตาย ของทุกอย่างที่เก็บไว้กับตัวไม่ว่าชิ้นไหนก็ไม่เคยได้คืนเลย นอกจากมีคนรู้จักเก็บเอาไว้ให้
“ก็ใช่น่ะสิ ถ้าอุตส่าห์เป็นไรเดอร์ได้แล้วยังไปแพ้คนอื่นอีกก็เลิกเป็นไปเถอะ” ชายชรากล่าว
“ภารกิจบ้าอะไรเนี่ย! ถ้ารับไปแล้วทำไม่สำเร็จ เสียทั้งโมโนไบค์ เสียทั้งระดับ เสียทั้งค่าสถานะ แต่ถ้าทำสำเร็จ เกิดตายขึ้นมาทุกอย่างก็สูญ ...มันคุ้มมั้ยเนี่ย?” มาตาร์รู้สึกเหมือนกับว่าคนที่ได้มาทำภารกิจนี้โดนหลอกอย่างไรก็ไม่รู้
“ถ้าอย่างนั้นระหว่างเป็นไรเดอร์ก็พยายามเพิ่มทักษะให้เยอะที่สุดสิ แล้วค่อยตาย ฮ่า ๆ ๆ ๆ” ชายชราพูดออกมาอย่างอารมณ์ดี
“...” มาตาร์เงียบไปเพราะเขาไม่ได้รู้สึกดีไปด้วยเลยสักนิด
“เจ้ายังไม่รู้อะไรเจ้าหนุ่ม ความสามารถของไรเดอร์ไม่ได้มีแค่เพิ่มค่าทักษะได้รวดเร็วอย่างเดียวหรอกนะ” ชายชรากล่าวอีก
“ฮึ ถึงจะมีอะไรดีผมก็ไม่ทำหรอก ภารกิจนรกแบบนี้น่ะ” มาตาร์กล่าวออกมาอย่างโกรธ ๆ
หลังจากนั้นเกือบชั่วโมง บรันโด้ก็กลับเข้ามาในถ้ำ พร้อมกับแวมไพร์สาว และด้วงเขาดาบสีดำอีกสองตัว
“ยินดีด้วยนะพ่อหนุ่ม ในที่สุดก็สำเร็จภารกิจแล้ว” ชายชราพูดออกมาอย่างอารมณ์ดี
“ถ้าอย่างนั้นผมก็เอาเข็มขัดนี้ออกจากถ้ำไปได้แล้วใช่มั้ยครับ” บรันโด้ถามชายชรา
“จะไม่ให้ข้าสอนวิธีเป็นไรเดอร์ก่อนเรอะ?” ชายชราถามออกมาด้วยสีหน้าฉงน
“เอ๋? นอกจากคาดเข็มขัดเอาไว้เฉย ๆ แล้วยังมีอย่างอื่นด้วยเหรอครับ” บรันโด้ถามกลับ
“ลองคาดเข็มขัดดูสิ ข้าจะสอนให้” ชายชราบอก
“เอ๋? ยังไงก็ต้องคาดเหรอเนี่ย” บรันโด้บ่นออกมา จริง ๆ แล้วเขาไม่อยากจะคาดเข็มขัดไรเดอร์นี่เท่าไหร่หรอก เพราะมันลดค่าสถานะของเขาลงไปถึงครึ่งหนึ่งแถมถอดออกมาก็ไม่เป็นเหมือนเดิมด้วย เขาแค่อยากจะเอาโมโนไบค์ของเขากลับคืนมาเท่านั้นแหละ
แกร็ก!
แต่สุดท้ายก็จำใจยอมสวมมันอีกครั้งจนได้
“ก่อนอื่นเลยนะ การแปลงร่าง” ชายชรากล่าว
“ยังมีการแปลงร่างอีกเหรอครับ” บรันโด้สงสัย เพราะแค่คาดเข็มขัดเอาไว้มันก็คือการเปลี่ยนตัวละครไปทั้งตัวแล้วนะ แต่บังเอิญเขาตั้งหน้าตาตัวละครเอาไว้เหมือนเดิม เลยดูเหมือนมันไม่ค่อยเปลี่ยนเท่านั้นเอง
“ไม่ใช่เลย นั่นแค่ร่างพื้นฐานของไรเดอร์เท่านั้น” ชายชราให้ข้อมูล ซึ่งมาตาร์และสามสาวก็นั่งฟังไปด้วย
“ครับ” บรันโด้ขานว่ารับทราบ
“แมลงของเจ้าชื่อว่าอะไรล่ะ” ชายชราถามขึ้นมา
“ผมตั้งชื่อมันว่าโซล่าร์กับลูน่าร์ครับ” ชายหนุ่มผมดำตอบพร้อมกับยื่นเจ้าด้วงสองตัวออกมาให้ดู
“โฮ่ ๆ ๆ ได้แมลงแฝดเสียด้วย เจ้านี่โชคดีเหลือเกินนะ” ชายชรากล่าวอย่างอารมณ์ดี
“เหรอครับ?” บรันโด้เริ่มรู้สึกว่าเขาอาจจะซวยอีกแล้ว เพราะโชคดีของเขามักจะแฝงโชคร้ายเอาไว้เสมอ
“ลองเอ่ยชื่อแมลงของเจ้าแล้วต่อด้วยคำว่าแปลงร่างดูสิ” ชายชราแนะนำ
“โซร่าร์ลูน่าร์แปลงร่าง” บรันโด้เอ่ยออกมาเบา ๆ
“...”
“...”
แต่แล้วกลับไม่เกิดอะไรขึ้นมา
“เจ้าบ้า!! ใส่อารมณ์เข้าไปด้วยสิโว้ย! ไรเดอร์ที่ไหนเค้าแปลงร่างกันแบบเหนียม ๆ บ้าง!!” ชายชราขึ้นเสียงทันทีที่เห็นว่าบรันโด้ไม่ได้มีอารมณ์ร่วมขณะเอ่ยออกมาเลย
“เอ่อ ...โซล่าร์!ลูน่าร์! แปล~งร่า~ง!” คราวนี้บรันโด้ใส่อารมณ์เต็มที่
หวี่ ๆ ฟุบ!!
แล้วทันใดนั้นแมลงทั้งสองก็บินมาเกาะที่หัวเข็มขัดของชายหนุ่มผมดำแล้วฝังตัวเข้าไปทันที
“...”
“...”
“เอ่อ ...แค่นี้เหรอครับ?” บรันโด้สงสัยขึ้นมาเมื่อเห็นว่ามันก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปนอกจากแมลงสองตัวบินมาเกาะเข็มขัดเท่านั้นเอง
“เจ้าบ้า! เมื่อแปลงร่างเป็นไรเดอร์แล้วเจ้าจะสามารถใช้ความสามารถของแมลงที่เจ้าจับมาได้เชียวนะ ปกติคนทั่วไปเค้ามีกันได้แค่คนละหนึ่งตัวเท่านั้นแหละ แต่เจ้ามีถึงสอง ถือว่าเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ไรเดอร์เลยนะเฟ้ย ตื่นเต้นหน่อยสิ!” ชายชราตวาดขึ้นมาอีก
“เอ่อ ...ความสามารถของแมลงเหรอครับ?” บรันโด้สงสัย
“ปกติเจ้ามีปราณธาตุอะไรรึเปล่าล่ะ?” ชายชราถามกลับ
“ไม่มีครับ”
“แมลงของเจ้าทั้งสองสามารถใช้ปราณความมืดได้ ตัวหนึ่งแปลงธาตุข้างเคียงไฟกับสายฟ้า อีกตัวหนึ่งแปลงธาตุข้างเคียงน้ำแข็งกับดิน” ชายชราให้รายละเอียดแมลงที่บรันโด้จับมาได้
“เอ๋? ปราณความมืดกับธาตุข้างเคียงเหรอ?” บรันโด้ไม่ค่อยได้สนใจเรื่องระบบเกมเท่าไหร่ เขาเป็นคนประเภทลุยมั่วไม่สนข้อมูล อาศัยดวงล้วน ๆ ถึงได้มาถึงที่นี่ได้
“เอ่อ ...พี่จะอธิบายให้ฟังละกันนะ” มาตาร์แทรกขึ้นมาเพราะคิดว่าเดี๋ยวตาแก่นั่นต้องตะคอกขึ้นมาอีกแน่ ๆ เลย เขาขี้เกียจฟัง
หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง มาตาร์ก็เลคเชอร์เรื่องปราณและเผ่าให้บรันโด้ฟังอย่างละเอียด
“อ๋อ! เข้าใจล่ะ” บรันโด้ถึงบางอ้อเมื่อได้ฟังข้อมูลทั้งหมด
“ลองดูซิบรันโด้ ว่าจะใช้ปราณความมืดออกมาได้จริงรึเปล่า” มาตาร์กล่าว
“ครับ จะลองดูนะครับ” บรันโด้พูดแล้วก็ลองเปล่งปราณออกมาทันที
วูมม!
ปราณของบรันโด้ออกมาเป็นสีขาวตามปกติ แล้วฉับพลันก็เปลี่ยนเป็นสีดำทันที
“โอ้! ทำได้จริง ๆ ด้วย” บรันโด้อุทานออกมาอย่างตื่นเต้น
“จริง ๆ เหรอเนี่ย!” มาตาร์ก็รู้สึกทึ่งขึ้นมาแล้ว เท่ากับว่าเข็มขัดไรเดอร์นี้สามารถทำลายขอบเขตความสามารถเผ่าพันธุ์ได้เลย
ฟู่วว! เปรี๊ยะ!
หลังจากนั้นบรันโด้ก็แสดงสภาพปราณของธาตุข้างเคียงออกมาทันที เล่นเอามาตาร์ตกตะลึงเข้าไปอีก
‘เฮ่ย!! ขนาดเรายังฝึกแทบตายกว่าจะแสดงสภาพปราณธาตุข้างเคียงได้ แล้วนี่ทำไมมันทำได้ง่าย ๆ เลยวะ!’ มาตาร์เริ่มรู้สึกว่าโลกไม่ยุติธรรมขึ้นมาบ้างแล้ว
“และสิ่งที่สำคัญที่สุด เจ้าก็รู้อยู่แล้วว่าเมื่อคาดเข็มขัดไรเดอร์เอาไว้ยังสามารถเพิ่มทักษะทั้งหลายได้รวดเร็วกว่าปกติถึงสองเท่าอีกด้วย ซึ่งการสูญเสียสถานะไปครึ่งหนึ่งนั้นถือว่าเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่สมเหตุสมผลแล้ว ...แต่ที่ข้าจะบอกนี้ ถือเป็นความสามารถที่สำคัญที่สุดของเข็มขัดไรเดอร์” ชายชราพูดแล้วก็นิ่งไปพักหนึ่ง
“มันคืออะไรเหรอคะ” คลาร่าที่ฟังอยู่อดที่จะถามออกมาไม่ได้ ซึ่งชายชราก็รอให้มีคนถามมาก่อนนั่นแหละ
“ฮึ ๆ ๆ อยากรู้ล่ะสิ” ชายชรายิ้มแล้วหันมาทางแม่หมาป่าสาว
คลาร่าพยักหน้าหงึก ๆ เป็นสัญญาณว่าบอกมาสักทีสิ
“ถ้าเจ้าคาดเข็มขัดไรเดอร์นี้แล้วฝึกทักษะอาวุธมือเปล่าให้ขึ้นไปถึงระดับห้า สถานะทั้งหลายก็จะกลับมาเท่าเดิมแล้ว เพราะทักษะมือเปล่าระดับห้าจะเพิ่มค่าสถานะพื้นฐานให้หนึ่งเท่า ถ้าเจ้ามีพลังกาย 100 ถูกทำให้เหลือ 50 เพราะเข็มขัดไรเดอร์ เมื่อทักษะมือเปล่าระดับห้าเพิ่มสถานะให้เท่านึง จาก 50 แล้วเพิ่มขึ้นอีก 50 ก็เท่ากับ 100 เหมือนเดิมถูกมั้ย” ชายชราเริ่มให้ข้อมูล
“อืม” ทั้งมาตาร์และบรันโด้พยักหน้ารับ
“แล้วถ้าชั่วขณะหนึ่ง ค่าสถานะของเจ้ากลับไปเป็นเหมือนเดิมล่ะ?” ชายชราพูดออกมายิ้ม ๆ เหมือนบอกว่ากำลังจะปล่อยไม้ตายล่ะนะ
“ถ้าสถานะกลับไปเป็น 100 เหมือนเดิมน่ะเหรอครับ” บรันโด้ทวนสิ่งที่ชายชราต้องการจะบอก
“ใช่แล้ว” ชายชรารับ
“สถานะที่เพิ่มด้วยทักษะก็จะกลายเป็น 200 ไงล่ะ” มาตาร์ตอบออกมา
“อืม ครับ ...แล้วมันทำไมเหรอครับ” บรันโด้ยังไม่เข้าใจอยู่ดี จะมาสอนคำนวณค่าสถานะทำไม
“เข็มขัดไรเดอร์นั้นมีกลไกที่สามารถทำให้ผู้สวมใส่มันกลับตืนร่างเดิมได้ด้วยน่ะสิ โดยค่าทักษะทั้งหลายที่ขึ้นมาแล้วก็ยังอยู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง” ชายชราเฉลย
“ฮ้า!! อย่างนั้นก็เจ๋งไปเลยสิครับ นอกจากจะช่วยเพิ่มทักษะได้รวดเร็วแล้ว เวลาที่เราอยากจะสู้จริง ๆ ก็คืนร่างซะ” บรันโด้เริ่มนึกถึงวิธีการใช้งานเข็มขัดไรเดอร์
“ใช่แล้ว เพียงแต่เจ้าเอ่ยคำว่าคืนร่างออกมาเท่านั้น” ชายชรากล่าว
“คืนร่าง!!” บรันโด้ไม่ต้องรอให้ชายชราสั่ง เขาลองใช้คำสั่งคืนร่างทันที
วูบบ!!
ทันใดนั้นหัวเข็มขัดของบรันโด้ก็เปล่งแสงออกมาทันที พร้อมกับเจ้าด้วงสองตัวที่บินออกมา
“อ้าว มันบินออกมาจากเข็มขัดแล้วแฮะ” บรันโด้พูดพร้อมกับมองที่เจ้าด้วงสองตัวนั้น
“ก็เพราะตอนนี้เจ้าไม่ใช่ไรเดอร์แล้วไงล่ะ” ชายชราตอบ
“แล้วแสงที่หัวเข็มขัดนั่นอะไรน่ะ” มาตาร์สงสัยขึ้นมาก่อน
“มันก็คือแสงเตือนพลังงานของโมโนไบค์ไงล่ะ เวลาคืนร่างขึ้นอยู่กับพลังงานที่เหลืออยู่ของโมโนไบค์ ถ้าเจ้าเอาไปวิ่งมาแล้วพลังงานหมด เจ้าก็คืนร่างไม่ได้ ต้องรอชาร์จพลังงานมันซะก่อน” ชายชรากล่าว
“เอ๋? มีจำกัดระยะเวลาด้วยเหรอครับเนี่ย” บรันโด้เอ่ยออกมาอย่างผิดหวัง เขานึกว่าการคืนร่างทำได้โดยอิสระเสียอีก
แล้วหลังจากนั้นประมาณสามนาที หัวเข็มขัดก็กะพริบเป็นสีแดง แล้วแสงก็ดับลงทันที บรันโด้ก็กลับกลายเป็นไรเดอร์เหมือนเดิม
“คอนเซปต์มันออกจะพิลึกนะเนี่ย พอคาดเข็มขัดปุ๊บก็กลายเป็นไรเดอร์ปั๊บ แถมยังอ่อนแอลงอีกด้วย แต่พอคืนร่างแล้วก็แข็งแรงขึ้น แต่ดันมีพลังอยู่ได้แค่สามนาที” มาตาร์เอ่ยออกมาถึงความแปลกของเข็มขัดไรเดอร์นี้
“จะว่าไงดีล่ะครับ มันก็มีข้อดีข้อเสียอยู่ในตัวของมันล่ะนะครับ” บรันโด้เอ่ยออกมาอย่างเสียไม่ได้ เพราะสุดท้ายแล้วเขาก็มีเข็มขัดไรเดอร์อยู่กับตัวแล้วนี่นา
นั่นอะไรน่ะ ...ไฮเปอร์แมน? ไม่ใช่ ...ซุปเปอร์แมน? ก็ไม่ใช่ ...อ๋อ ...อุลตร้าแมนสินะ
Rewrite tag: ปรับบทสนทนา
ความคิดเห็น