ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    JOQ Online คนจริงลวงโลก <มี E-Book>

    ลำดับตอนที่ #125 : บทที่121: ความลับของเข็มขัดไรเดอร์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 11.53K
      94
      1 มิ.ย. 55

    บทที่121 ความลับของเข็มขัดไรเดอร์

     

    ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ! ครืน~!

    มาตาร์สะบัดทอนฟาด้วยมือขวาข้างเดียว ปล่อยคมมีดสายลมใส่ต้นไม้ใกล้ ๆ ให้มันโค่นลง แล้วใช้เท้าเตะออก ซัดหยดน้ำเล็ก ๆ จากการรวบรวมด้วยปราณดินใส่แมลงที่บินออกมาไม่หยุด

    “ฮ่า ๆ ๆ ๆ ชายหนุ่มผมแดงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งพร้อมกับทำลายป่าฆ่าแมลงไปเรื่อย ๆ

    “นายท่านคะ แวมพ์ว่าคุณมาตาร์ดูน่ากลัวนะคะเนี่ย” แวมไพร์สาวหันมากระซิบกับเจ้านายของเธอ

    “...” บรันโด้ไม่แสดงความเห็น แต่ในใจก็รู้สึกเห็นด้วยนิด ๆ เหมือนกัน เขาเองรู้จักมาตาร์แค่ช่วงประลองในสนามต่อสู้เท่านั้นเอง ไม่ได้รู้จักนิสัยจริง ๆ ของมาตาร์ ว่าเขาเป็นคนอย่างไร

    ส่วนสามสาวก็มองด้วยสีหน้านิ่งเฉย เหมือนจะชินแล้วกับสภาพแบบนี้ของเจ้านาย เพราะมันก็มีบ้างบางเวลาเหมือนกันที่เขาจะระบายอารมณ์ออกมาแบบนี้ ยิ่งเมื่อวานนี้อารมณ์เศร้าของมาตาร์ปะทุขึ้นมาแบบภูเขาไฟระเบิด คงจะส่งผลทำให้เขาเครียดมากเป็นแน่แท้ การทำลายป่าฆ่าแมลงนี่ก็คงจะเป็นวิธีระบายอารมณ์แบบหนึ่ง

    “พี่มาตาร์ครับ!” บรันโด้ตะโกนขึ้นมาในที่สุด

    “หืม?” มาตาร์หยุดมือแล้วหันกลับมาหาชายหนุ่มผมดำ

    “เรามาทำภารกิจจับแมลงกันนะครับ ถ้าพี่ฆ่าแมลงซะหมดแล้วจะจับได้ยังไงล่ะครับ” บรันโด้กล่าว

    “อ้า ...โทษที พี่เพลินไปหน่อย เพราะเห็นมีแต่แมลงกระจอก ๆ น่ะ” มาตาร์กล่าวพร้อมกับท่าทีที่สงบลง อาจจะเพราะได้ระบายอารมณ์จนพอใจแล้วก็ได้

    “มาตาร์เหนื่อยมั้ยคะ” แม่หมาป่าสาวถามขึ้นมาหลังจากเห็นเจ้านายของเธอใช้พลังไม่หยุดตลอดครึ่งชั่วโมงมานี่

    “อ้า ไม่เหนื่อยเท่าไหร่หรอกคลาร่า พี่ยั้งพลังเอาไว้นะ” มาตาร์ตอบหมาป่าของเขา

    บรันโด้ได้ยินที่สองคนคุยกันแล้วก็ลอบคิดขึ้นมาว่ามาตาร์นี่เก่งขึ้นเยอะเลยหลังจากครั้งสุดท้ายที่เจอกัน เก่งขึ้นจนประมาณไม่ถูกเลยทีเดียว

    “บรันโด้อยากได้แมลงแบบไหนล่ะ” มาตาร์หันมาถามบรันโด้ที่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย

    “เอ้อ ...ผมไม่ได้คิดมาก่อนเลยครับ ขอแค่จับได้ซักตัวก็พอแล้ว จะได้ผ่านภารกิจซักที” บรันโด้กล่าว

    “โหย จะจับทั้งทีเอาให้มันสุดยอดไปเลยสิ แบบด้วงเขาใหญ่ ๆ สู้เก่ง ๆ น่ะดีมั้ย” มาตาร์แนะนำ

    “แบบนั้นก็ดีครับ ถ้ามันออกมาให้จับอะนะ” บรันโด้นั้นยังไงก็ได้ เขาไม่เรื่องมากอยู่แล้ว

    และเนื่องจากมาตาร์ฆ่าแมลงไปเยอะมาก แถมยังทำลายป่าอีกด้วย เหล่าแมลงทั้งหลายจึงรู้สึกโกรธแค้นมาตาร์สุด ๆ พวกมันเริ่มรวมกลุ่มกันทีละนิดและเตรียมตัวจะโจมตีใส่เจ้ามนุษย์ผมแดงนี้เต็มที่

     

    “อยู่ ๆ แมลงก็หายไปหมดนะครับเนี่ย” บรันโด้สังเกตเห็นความผิดปกติหลังจากผ่านมาถึงสิบนาทีในป่าแมลงแห่งนี้

    ปึ้กก!!

    ทันใดนั้นร่างของบรันโด้ก็กระเด็นไปอีกทางทันที

    “นายท่าน!!” แวมไพร์สาวร้องออกมาอย่างตระหนกเมื่อเห็นเจ้านายของเธอลอยละลิ่วออกจากกลุ่มไป

    ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ!

    แล้วแมลงนับพันก็พุ่งออกมาจากสองข้างทางทันที ทั้งแบบมีเขา มีเหล็กใน และมีพิษ พุ่งเข้าทำร้ายมาตาร์และสี่สาวที่เหลืออยู่

    “อ๊าย!

    “โอ๊ยย!

    ทุกคนต่างโดนคมเขา เหล็กใน และยังมีพิษที่ทำให้เกิดอาการปวดแสบปวดร้อนอีกด้วย

    “สาว ๆ แวมพ์ มานี่” มาตาร์เรียกสามสาวและแวมไพร์สาวเข้ามารวมกลุ่มที่เขาทันที โดยใช้พลังจิตช่วยดึงร่างพวกเธอเข้ามาหาตัวด้วย

    ฟู่วว!!

    แล้วทันทีที่ทุกคนรวมกลุ่มกันได้แล้ว พายุหมุนวนลูกใหญ่ก็บังเกิดขึ้นทันที มาตาร์ใช้ปราณลมของเขาสร้างพายุขึ้นมาโดยให้ตัวเขาและสาว ๆ ทุกคนอยู่ตรงใจกลางพายุ

    พวกแมลงทั้งหลายที่เข้ามาโจมตีถูกพัดปลิวไปตามแรงลมทันที มีบางตัวที่พยายามจะฝ่าพายุมาเหมือนกัน แต่ก็ไม่เป็นผล

    “คลาร่า! ปล่อยไฟไหวมั้ย” มาตาร์สั่งงานหมาป่าสาวของเขาทันที

    “จะลองดูค่ะ!” คลาร่าตอบกลับมา

    ฟูวว!

    แล้วแม่หมาป่าสาวก็ใช้ปราณมังกรแปลงเป็นธาตุไฟทันที แต่ว่าคลาร่ายังควบคุมปราณไฟไม่เก่ง พลังไฟจึงไม่รุนแรงนัก

    ฟูวว!!

    แต่แล้วโมเรน่ากลับใช้ผลึกไฟที่เธอได้มาจากมาตาร์ปล่อยไฟออกไปทันที เวทของแม่เสือสาวดูจะรุนแรงมากเพราะสองวันที่ผ่านมา เธอเอาแต่ฮัมเพลงแล้วเขียนกำแพงเล่น ซึ่งเป็นการฝึกค่าจิตใจดี ๆ นี่เอง

    ซูวว!

    แล้วแมลงที่อยู่ในพายุทุกตัวโดนพลังไฟเผาจนไหม้เกรียมไปหมด

     

    ส่วนอีกด้านหนึ่ง บรันโด้ที่โดนแมลงพุ่งเข้าใส่แต่แรกก็กระเด็นมาอยู่หน้าโพรงต้นไม้ต้นหนึ่งซึ่งไม่ไกลนัก

    ตุบบ!!

    “อูยย” ชายหนุ่มผมดำครางออกมาเมื่อร่างกายของเขากระแทกเข้ากับพื้น

    หวี่! หวี่!

    เสียงกระพือปีกถี่ ๆ ของแมลงมีเขาสีดำตัวหนึ่งบินอยู่ตรงหน้าบรันโด้

    “หืม?” ชายหนุ่มรู้สึกแปลกใจขึ้นมาว่ามันเกิดอะไรขึ้น เขาเข้าป่ามาทีไรไม่เคยมีแมลงมาบินตรงหน้าเฉย ๆ แบบนี้มาก่อนเลย ส่วนใหญ่ก็เห็นพุ่งเข้ามาโจมตีทั้งนั้น ซึ่งเขาก็ลองสำรวจตัวเองดูก็ไม่พบบาดแผลที่ใดจากการกระแทกเมื่อสักครู่เลยด้วย

    หวี่! หวี่!

    เจ้าแมลงเขาดำตัวนั้นบินไปที่โพรงต้นไม้ที่อยู่ใกล้กับบรันโด้ แล้วบินวนไปวนมาเป็นเลขแปดเหมือนกับบอกว่าให้ชายหนุ่มลองเข้าไปดู

    “อะไรเหรอ?” บรันโด้ชะโงกหน้าเข้าไปดูในโพรงต้นไม้นั้น เห็นว่ามีด้วงสีดำอีกตัวหนึ่ง มีเขาสั้น ๆ กำลังนั่งอยู่บนไข่ฟองหนึ่ง ทำท่าเหมือนกับจะปกป้องมัน

    บรันโด้พอจะเข้าใจได้ว่า ตัวที่บินอยู่นั่นเป็นตัวพ่อ แล้วที่อยู่ในโพรงต้นไม้นั่นเป็นตัวแม่ ทั้งสองตัวกำลังปกป้องไข่ของพวกมันอยู่จาก เจ้ามนุษย์ผมแดง คนนั้น

    มันก็เป็นเพราะโชคแบบแปลก ๆ ของบรันโด้อีกแล้วนั่นแหละ เพราะร้อยวันพันปีไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเลย บรันโด้เข้าป่ามาทุกวัน ก็ตายกลับไปทุกวัน พวกแมลงต่างรู้สึกว่าเจ้ามนุษย์ผมดำคนนี้ไม่เป็นอันตรายเท่าไหร่ แต่วันนี้ แค่มีเจ้ามนุษย์ผมแดงโผล่ออกมาเท่านั้น พวกแมลงตายไปเป็นแสนตัว เหล่าแมลงทั้งหลายแม้รวมกลุ่มกันก็ยังไม่อาจต้านทานเจ้ามนุษย์ผมแดงคนนี้ได้เลย ทางเดียวที่เหลือก็คือ พึ่งพาเจ้ามนุษย์ผมดำที่ดูใจดีกว่านั่น

    “เอ่อ ...อยากให้ผมปกป้องไข่ของพวกเจ้าเหรอ?” บรันโด้ไม่แน่ใจว่าพวกแมลงจะฟังเขาพูดรู้เรื่องมั้ย แต่ก็ถามออกไป

    หวี่! หวี่!

    เจ้าแมลงมีเขาบินขึ้นบินลงเหมือนกับตอบรับว่า ใช่แล้ว

    ฟู่วว!!!

    แล้วทันใดนั้นพายุไฟก็ขยายวงออกมา พัดเอาแมลงและป่ารอบ ๆ ให้ไหม้เกรียมมากขึ้นเรื่อย ๆ

    “พี่มาตาร์!!” บรันโด้พยายามตะโกนให้ชายหนุ่มผมแดงได้ยิน

    ฟู่วว! ครืน~!

    “พี่มาตาร์!! พอได้แล้ว!!” บรันโด้ตะโกนอีก แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล เมื่อสายลมพัดพาเอาเสียงของเขาให้ลอยหายไปหมด

    แบบนี้ตายกันหมดแน่... บรันโด้คิดขึ้นแล้วซุกตัวเข้าไปในโพรงถ้ำทันทีแล้วเอาตัวบังแมลงพวกนั้นเอาไว้

    ฟูวว!!

    “ฮ่า ๆ ๆ ๆ ตายให้หมด!!” มาตาร์เกิดอารมณ์อยากเผาป่าให้วอดวายเต็มที่ เขาขยายขอบเขตของลมพายุทันที แต่ว่าเมื่อขอบเขตของพายุกว้างขึ้น พลังไฟก็ถูกเจือจางลง

    ฟูวว!!

    และเมื่อเวลาผ่านไปสิบนาที ลมพายุยักษ์ก็หยุดลงพร้อมกับอาการเหนื่อยหอบของชายหนุ่มผมแดง

    “แฮก แฮก แฮก ...โอย ตายกันหมดรึยังเนี่ย” มาตาร์หอบพร้อมกับมองไปรอบ ๆ

    ที่ใจกลางของพายุมีไฟที่เข้มข้น ทุกอย่างถูกเผาหมดต้นไม้น้อยใหญ่ยืนต้นตายกันเป็นแถบ ๆ ห่างออกไปหน่อยก็แค่เกรียม ๆ เผาได้แค่ครึ่งต้นก็มี แต่มีอยู่ต้นหนึ่งที่ดูแปลก ๆ เพราะที่โคนต้นไม้นั้นเหมือนกับมีจุดที่ไม่ไหม้อยู่ ทั้ง ๆ ที่ต้นด้านบนไหม้เกรียมจนหมด

    ตุบบ!

    ทันใดนั้นร่างของชายหนุ่มผมดำก็หงายหลังล้มออกมาจากโคนต้นไม้ต้นนั้น

    “เฮ่ยย! บรันโด้!” มาตาร์อุทานออกมาอย่างตกใจที่เห็นว่าบรันโด้อยู่ในรัศมีของพายุไฟของเขาด้วย

    “นายท่าน!!” แม่แวมไพร์สาวรีบวิ่งเข้าไปหาร่างเจ้านายของเธอทันที

    “อูย~ย ปลอดภัยแล้วนะ” บรันโด้พูดออกมาเมื่อเห็นว่าเจ้าแมลงมีเขาพ่อแม่ลูกนั้นปลอดภัยดี

    “คลาร่า มีปราณเหลือมั้ย ไปช่วยบรันโด้เร็ว” มาตาร์รีบบอกหมาป่าสาวของเขาทันที เพราะปราณของเขาแทบจะหมดจากการสร้างพายุยักษ์ลูกเมื่อสักครู่แล้ว

    ตุบ! ตุบ!

    คลาร่ารีบวิ่งไปที่ร่างของบรันโด้แล้วถ่ายปราณลมเพื่อรักษาเขาทันที แต่ดูเหมือนจะสายไปแล้ว เมื่อร่างของชายหนุ่มผมดำค่อย ๆ สลายออกมาช้า ๆ

    “นายท่าน!!” แวมไพร์สาวเอ่ยออกมาอย่างร้อนรน

    “ไม่เป็นไรแวมพ์ ก็แค่ต..ายเหมือ..นทุกวันนั่นแหละ ไม่เห็น..ต้องตื่นเต้นเลย” บรันโด้พูดออกมาอย่างยากเย็น

    “บรันโด้ ...พี่ขอโทษ ไม่นึกว่าน้องจะอยู่ตรงนี้” มาตาร์เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสลด ถึงเขาจะเคยฆ่าผู้เล่นคนอื่นมานับไม่ถ้วนก็เถอะ แต่การฆ่าคนรู้จักแบบนี้มันก็ให้ความรู้สึกที่ไม่ดีเหมือนกัน

    “ไม่เป็นไรครั..บพี่มาตาร์ ผมเอง..ก็เคยฆ่าพี่ไปค..รั้งนึง ผลัดกันฆ่า..บ้างก็ดีเห..มือนกัน” บรันโด้พูดออกมาพร้อมกับตาที่ค่อย ๆ ปิดลงไป

    แวบบ!!

    ทันใดนั้นเกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้น เมื่อเจ้าแมลงสองผัวเมีย กลายเป็นแสงทั้งคู่แล้วหายเข้าไปในไข่ฟองเดียวกันนั้น

    ปริ!

    แล้วทันใดนั้นไข่แมลงก็เกิดรอยร้าว

    เปรี๊ยะ!

    แมลงสีดำที่มีเขาเหมือนดาบสองตัวบินออกมาทันที แล้วตรงเข้าไปเกาะที่เข็มขัดไรเดอร์ของบรันโด้

    “ผู้เล่นบรันโด้ปฏิบัติตามเงื่อนไข ได้รับด้วงเขาดาบแฝดเป็นสัตว์เลี้ยง กรุณาตั้งชื่อด้วยค่ะ” เสียงจากระบบดังขึ้นมาในหัวของบรันโด้

    “เอ๋?” บรันโด้อุทานออกมาอย่างแปลกใจ แล้วหันมามองหน้าแวมไพร์สาวด้วยสายตาที่ตื่นตกใจเพราะคาดไม่ถึง

    “อะไรคะนายท่าน!?” แวมไพร์สาวไม่เข้าใจเพราะเธอไม่ได้ยินเสียงของระบบเหมือนบรันโด้ เธอถามเจ้านายอย่างร้อนรน

    “สำเ..ร็จแล้..ว”

    แวบบ!

    สิ้นเสียงของบรันโด้ ร่างเขากับแม่แวมไพร์สาวก็หายไป ทิ้งแต่เสื้อผ้าและเข็มขัดไรเดอร์เอาไว้บนพื้น

    “เอ๋?” มาตาร์อุทานออกมาอย่างแปลกใจ

    “อะไรเหรอคะมาตาร์” คลาร่าถามขึ้นมาอย่างสงสัย เพราะไม่รู้ว่ามาตาร์อุทานออกมาทำไม

    “เข็มขัดไรเดอร์มันก็ตกเหมือนอุปกรณ์อื่น ๆ เหรอเนี่ย” มาตาร์พูดแล้วก็หยิบเจ้าเข็มขัดไรเดอร์นั้นขึ้นมา

    แวบบ!!

    แล้วทันใดนั้นเข็มขัดไรเดอร์ก็หายไปจากมือของชายหนุ่มทันที

    “อ้าว? หายไปแล้ว” มาตาร์ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่ามันเกิดอะไรขึ้น

     

    เมื่อเห็นว่าผู้ทำภารกิจไม่อยู่แล้ว ชายหนุ่มผมแดงจึงเดินออกจากป่าแมลงที่มีความวอดวายให้เห็นเป็นหย่อม ๆ กลับเข้าถ้ำไรเดอร์ทันที

    “โฮ่ ๆ ๆ กลับมาแล้วเรอะ เจ้าหนุ่มนั่นสำเร็จภารกิจแล้วล่ะสิ แต่ก็ต้องแลกด้วยชีวิต” ชายชราเอ่ยขึ้นมาเมื่อเห็นมาตาร์เดินออกมาจากหลังกระท่อม

    “ลุงรู้ได้ไงน่ะ” มาตาร์สงสัย

    “ก็เข็มขัดมันกลับมาที่นี่น่ะสิ” ชายชราพูดพร้อมกับชูเข็มขัดของบรันโด้ขึ้นมา

    “อ้าว? มันกลับมาอยู่กับลุงเหรือเนี่ย” มาตาร์นึกว่าเข็มขัดมันจะตามบรันโด้ไปเสียอีก

    “ถ้าไรเดอร์ตายพร้อมเข็มขัด เข็มขัดมันก็จะตกเหมือนของอย่างอื่นนั่นแหละ แต่เฉพาะป่าแมลงนี้เท่านั้น ที่มันจะกลับมาที่นี่ ...เพื่อความสะดวกน่ะ” ชายชรากล่าว

    “อ้าว!? ถ้าอย่างนั้นถึงจะสำเร็จภารกิจเข็มขัดไรเดอร์นี้ไป แต่ถ้าตายก็สูญเหมือนกันน่ะสิ” มาตาร์คิดถึงเวลาที่เขาตาย ของทุกอย่างที่เก็บไว้กับตัวไม่ว่าชิ้นไหนก็ไม่เคยได้คืนเลย นอกจากมีคนรู้จักเก็บเอาไว้ให้

    “ก็ใช่น่ะสิ ถ้าอุตส่าห์เป็นไรเดอร์ได้แล้วยังไปแพ้คนอื่นอีกก็เลิกเป็นไปเถอะ” ชายชรากล่าว

    “ภารกิจบ้าอะไรเนี่ย! ถ้ารับไปแล้วทำไม่สำเร็จ เสียทั้งโมโนไบค์ เสียทั้งระดับ เสียทั้งค่าสถานะ แต่ถ้าทำสำเร็จ เกิดตายขึ้นมาทุกอย่างก็สูญ ...มันคุ้มมั้ยเนี่ย?” มาตาร์รู้สึกเหมือนกับว่าคนที่ได้มาทำภารกิจนี้โดนหลอกอย่างไรก็ไม่รู้

    “ถ้าอย่างนั้นระหว่างเป็นไรเดอร์ก็พยายามเพิ่มทักษะให้เยอะที่สุดสิ แล้วค่อยตาย ฮ่า ๆ ๆ ๆ ชายชราพูดออกมาอย่างอารมณ์ดี

    “...” มาตาร์เงียบไปเพราะเขาไม่ได้รู้สึกดีไปด้วยเลยสักนิด

    “เจ้ายังไม่รู้อะไรเจ้าหนุ่ม ความสามารถของไรเดอร์ไม่ได้มีแค่เพิ่มค่าทักษะได้รวดเร็วอย่างเดียวหรอกนะ” ชายชรากล่าวอีก

    “ฮึ ถึงจะมีอะไรดีผมก็ไม่ทำหรอก ภารกิจนรกแบบนี้น่ะ” มาตาร์กล่าวออกมาอย่างโกรธ ๆ

     

    หลังจากนั้นเกือบชั่วโมง บรันโด้ก็กลับเข้ามาในถ้ำ พร้อมกับแวมไพร์สาว และด้วงเขาดาบสีดำอีกสองตัว

    “ยินดีด้วยนะพ่อหนุ่ม ในที่สุดก็สำเร็จภารกิจแล้ว” ชายชราพูดออกมาอย่างอารมณ์ดี

    “ถ้าอย่างนั้นผมก็เอาเข็มขัดนี้ออกจากถ้ำไปได้แล้วใช่มั้ยครับ” บรันโด้ถามชายชรา

    “จะไม่ให้ข้าสอนวิธีเป็นไรเดอร์ก่อนเรอะ?” ชายชราถามออกมาด้วยสีหน้าฉงน

    “เอ๋? นอกจากคาดเข็มขัดเอาไว้เฉย ๆ แล้วยังมีอย่างอื่นด้วยเหรอครับ” บรันโด้ถามกลับ

    “ลองคาดเข็มขัดดูสิ ข้าจะสอนให้” ชายชราบอก

    “เอ๋? ยังไงก็ต้องคาดเหรอเนี่ย” บรันโด้บ่นออกมา จริง ๆ แล้วเขาไม่อยากจะคาดเข็มขัดไรเดอร์นี่เท่าไหร่หรอก เพราะมันลดค่าสถานะของเขาลงไปถึงครึ่งหนึ่งแถมถอดออกมาก็ไม่เป็นเหมือนเดิมด้วย เขาแค่อยากจะเอาโมโนไบค์ของเขากลับคืนมาเท่านั้นแหละ

    แกร็ก!

    แต่สุดท้ายก็จำใจยอมสวมมันอีกครั้งจนได้

    “ก่อนอื่นเลยนะ การแปลงร่าง” ชายชรากล่าว

    “ยังมีการแปลงร่างอีกเหรอครับ” บรันโด้สงสัย เพราะแค่คาดเข็มขัดเอาไว้มันก็คือการเปลี่ยนตัวละครไปทั้งตัวแล้วนะ แต่บังเอิญเขาตั้งหน้าตาตัวละครเอาไว้เหมือนเดิม เลยดูเหมือนมันไม่ค่อยเปลี่ยนเท่านั้นเอง

    “ไม่ใช่เลย นั่นแค่ร่างพื้นฐานของไรเดอร์เท่านั้น” ชายชราให้ข้อมูล ซึ่งมาตาร์และสามสาวก็นั่งฟังไปด้วย

    “ครับ” บรันโด้ขานว่ารับทราบ

    “แมลงของเจ้าชื่อว่าอะไรล่ะ” ชายชราถามขึ้นมา

    “ผมตั้งชื่อมันว่าโซล่าร์กับลูน่าร์ครับ” ชายหนุ่มผมดำตอบพร้อมกับยื่นเจ้าด้วงสองตัวออกมาให้ดู

    “โฮ่ ๆ ๆ ได้แมลงแฝดเสียด้วย เจ้านี่โชคดีเหลือเกินนะ” ชายชรากล่าวอย่างอารมณ์ดี

    “เหรอครับ?” บรันโด้เริ่มรู้สึกว่าเขาอาจจะซวยอีกแล้ว เพราะโชคดีของเขามักจะแฝงโชคร้ายเอาไว้เสมอ

    “ลองเอ่ยชื่อแมลงของเจ้าแล้วต่อด้วยคำว่าแปลงร่างดูสิ” ชายชราแนะนำ

    “โซร่าร์ลูน่าร์แปลงร่าง” บรันโด้เอ่ยออกมาเบา ๆ

    “...”

    “...”

    แต่แล้วกลับไม่เกิดอะไรขึ้นมา

    “เจ้าบ้า!! ใส่อารมณ์เข้าไปด้วยสิโว้ย! ไรเดอร์ที่ไหนเค้าแปลงร่างกันแบบเหนียม ๆ บ้าง!!” ชายชราขึ้นเสียงทันทีที่เห็นว่าบรันโด้ไม่ได้มีอารมณ์ร่วมขณะเอ่ยออกมาเลย

    “เอ่อ ...โซล่าร์!ลูน่าร์! แปล~งร่า~!” คราวนี้บรันโด้ใส่อารมณ์เต็มที่

    หวี่ ๆ ฟุบ!!

    แล้วทันใดนั้นแมลงทั้งสองก็บินมาเกาะที่หัวเข็มขัดของชายหนุ่มผมดำแล้วฝังตัวเข้าไปทันที

    “...”

    “...”

    “เอ่อ ...แค่นี้เหรอครับ?” บรันโด้สงสัยขึ้นมาเมื่อเห็นว่ามันก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปนอกจากแมลงสองตัวบินมาเกาะเข็มขัดเท่านั้นเอง

    “เจ้าบ้า! เมื่อแปลงร่างเป็นไรเดอร์แล้วเจ้าจะสามารถใช้ความสามารถของแมลงที่เจ้าจับมาได้เชียวนะ ปกติคนทั่วไปเค้ามีกันได้แค่คนละหนึ่งตัวเท่านั้นแหละ แต่เจ้ามีถึงสอง ถือว่าเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ไรเดอร์เลยนะเฟ้ย ตื่นเต้นหน่อยสิ!” ชายชราตวาดขึ้นมาอีก

    “เอ่อ ...ความสามารถของแมลงเหรอครับ?” บรันโด้สงสัย

    “ปกติเจ้ามีปราณธาตุอะไรรึเปล่าล่ะ?” ชายชราถามกลับ

    “ไม่มีครับ”

    “แมลงของเจ้าทั้งสองสามารถใช้ปราณความมืดได้ ตัวหนึ่งแปลงธาตุข้างเคียงไฟกับสายฟ้า อีกตัวหนึ่งแปลงธาตุข้างเคียงน้ำแข็งกับดิน” ชายชราให้รายละเอียดแมลงที่บรันโด้จับมาได้

    “เอ๋? ปราณความมืดกับธาตุข้างเคียงเหรอ?” บรันโด้ไม่ค่อยได้สนใจเรื่องระบบเกมเท่าไหร่ เขาเป็นคนประเภทลุยมั่วไม่สนข้อมูล อาศัยดวงล้วน ๆ ถึงได้มาถึงที่นี่ได้

    “เอ่อ ...พี่จะอธิบายให้ฟังละกันนะ” มาตาร์แทรกขึ้นมาเพราะคิดว่าเดี๋ยวตาแก่นั่นต้องตะคอกขึ้นมาอีกแน่ ๆ เลย เขาขี้เกียจฟัง

    หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง มาตาร์ก็เลคเชอร์เรื่องปราณและเผ่าให้บรันโด้ฟังอย่างละเอียด

     

    “อ๋อ! เข้าใจล่ะ” บรันโด้ถึงบางอ้อเมื่อได้ฟังข้อมูลทั้งหมด

    “ลองดูซิบรันโด้ ว่าจะใช้ปราณความมืดออกมาได้จริงรึเปล่า” มาตาร์กล่าว

    “ครับ จะลองดูนะครับ” บรันโด้พูดแล้วก็ลองเปล่งปราณออกมาทันที

    วูมม!

    ปราณของบรันโด้ออกมาเป็นสีขาวตามปกติ แล้วฉับพลันก็เปลี่ยนเป็นสีดำทันที

    “โอ้! ทำได้จริง ๆ ด้วย” บรันโด้อุทานออกมาอย่างตื่นเต้น

    “จริง ๆ เหรอเนี่ย!” มาตาร์ก็รู้สึกทึ่งขึ้นมาแล้ว เท่ากับว่าเข็มขัดไรเดอร์นี้สามารถทำลายขอบเขตความสามารถเผ่าพันธุ์ได้เลย

    ฟู่วว! เปรี๊ยะ!

    หลังจากนั้นบรันโด้ก็แสดงสภาพปราณของธาตุข้างเคียงออกมาทันที เล่นเอามาตาร์ตกตะลึงเข้าไปอีก

    เฮ่ย!! ขนาดเรายังฝึกแทบตายกว่าจะแสดงสภาพปราณธาตุข้างเคียงได้ แล้วนี่ทำไมมันทำได้ง่าย ๆ เลยวะ!’ มาตาร์เริ่มรู้สึกว่าโลกไม่ยุติธรรมขึ้นมาบ้างแล้ว

    “และสิ่งที่สำคัญที่สุด เจ้าก็รู้อยู่แล้วว่าเมื่อคาดเข็มขัดไรเดอร์เอาไว้ยังสามารถเพิ่มทักษะทั้งหลายได้รวดเร็วกว่าปกติถึงสองเท่าอีกด้วย ซึ่งการสูญเสียสถานะไปครึ่งหนึ่งนั้นถือว่าเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่สมเหตุสมผลแล้ว ...แต่ที่ข้าจะบอกนี้ ถือเป็นความสามารถที่สำคัญที่สุดของเข็มขัดไรเดอร์” ชายชราพูดแล้วก็นิ่งไปพักหนึ่ง

    “มันคืออะไรเหรอคะ” คลาร่าที่ฟังอยู่อดที่จะถามออกมาไม่ได้ ซึ่งชายชราก็รอให้มีคนถามมาก่อนนั่นแหละ

    “ฮึ ๆ ๆ อยากรู้ล่ะสิ” ชายชรายิ้มแล้วหันมาทางแม่หมาป่าสาว

    คลาร่าพยักหน้าหงึก ๆ เป็นสัญญาณว่าบอกมาสักทีสิ

    “ถ้าเจ้าคาดเข็มขัดไรเดอร์นี้แล้วฝึกทักษะอาวุธมือเปล่าให้ขึ้นไปถึงระดับห้า สถานะทั้งหลายก็จะกลับมาเท่าเดิมแล้ว เพราะทักษะมือเปล่าระดับห้าจะเพิ่มค่าสถานะพื้นฐานให้หนึ่งเท่า ถ้าเจ้ามีพลังกาย 100 ถูกทำให้เหลือ 50 เพราะเข็มขัดไรเดอร์ เมื่อทักษะมือเปล่าระดับห้าเพิ่มสถานะให้เท่านึง จาก 50 แล้วเพิ่มขึ้นอีก 50 ก็เท่ากับ 100 เหมือนเดิมถูกมั้ย” ชายชราเริ่มให้ข้อมูล

    “อืม” ทั้งมาตาร์และบรันโด้พยักหน้ารับ

    “แล้วถ้าชั่วขณะหนึ่ง ค่าสถานะของเจ้ากลับไปเป็นเหมือนเดิมล่ะ?” ชายชราพูดออกมายิ้ม ๆ เหมือนบอกว่ากำลังจะปล่อยไม้ตายล่ะนะ

    “ถ้าสถานะกลับไปเป็น 100 เหมือนเดิมน่ะเหรอครับ” บรันโด้ทวนสิ่งที่ชายชราต้องการจะบอก

    “ใช่แล้ว” ชายชรารับ

    “สถานะที่เพิ่มด้วยทักษะก็จะกลายเป็น 200 ไงล่ะ” มาตาร์ตอบออกมา

    “อืม ครับ ...แล้วมันทำไมเหรอครับ” บรันโด้ยังไม่เข้าใจอยู่ดี จะมาสอนคำนวณค่าสถานะทำไม

    “เข็มขัดไรเดอร์นั้นมีกลไกที่สามารถทำให้ผู้สวมใส่มันกลับตืนร่างเดิมได้ด้วยน่ะสิ โดยค่าทักษะทั้งหลายที่ขึ้นมาแล้วก็ยังอยู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง” ชายชราเฉลย

    “ฮ้า!! อย่างนั้นก็เจ๋งไปเลยสิครับ นอกจากจะช่วยเพิ่มทักษะได้รวดเร็วแล้ว เวลาที่เราอยากจะสู้จริง ๆ ก็คืนร่างซะ” บรันโด้เริ่มนึกถึงวิธีการใช้งานเข็มขัดไรเดอร์

    “ใช่แล้ว เพียงแต่เจ้าเอ่ยคำว่าคืนร่างออกมาเท่านั้น” ชายชรากล่าว

    “คืนร่าง!!” บรันโด้ไม่ต้องรอให้ชายชราสั่ง เขาลองใช้คำสั่งคืนร่างทันที

    วูบบ!!

    ทันใดนั้นหัวเข็มขัดของบรันโด้ก็เปล่งแสงออกมาทันที พร้อมกับเจ้าด้วงสองตัวที่บินออกมา

    “อ้าว มันบินออกมาจากเข็มขัดแล้วแฮะ” บรันโด้พูดพร้อมกับมองที่เจ้าด้วงสองตัวนั้น

    “ก็เพราะตอนนี้เจ้าไม่ใช่ไรเดอร์แล้วไงล่ะ” ชายชราตอบ

    “แล้วแสงที่หัวเข็มขัดนั่นอะไรน่ะ” มาตาร์สงสัยขึ้นมาก่อน

    “มันก็คือแสงเตือนพลังงานของโมโนไบค์ไงล่ะ เวลาคืนร่างขึ้นอยู่กับพลังงานที่เหลืออยู่ของโมโนไบค์ ถ้าเจ้าเอาไปวิ่งมาแล้วพลังงานหมด เจ้าก็คืนร่างไม่ได้ ต้องรอชาร์จพลังงานมันซะก่อน” ชายชรากล่าว

    “เอ๋? มีจำกัดระยะเวลาด้วยเหรอครับเนี่ย” บรันโด้เอ่ยออกมาอย่างผิดหวัง เขานึกว่าการคืนร่างทำได้โดยอิสระเสียอีก

    แล้วหลังจากนั้นประมาณสามนาที หัวเข็มขัดก็กะพริบเป็นสีแดง แล้วแสงก็ดับลงทันที บรันโด้ก็กลับกลายเป็นไรเดอร์เหมือนเดิม

    “คอนเซปต์มันออกจะพิลึกนะเนี่ย พอคาดเข็มขัดปุ๊บก็กลายเป็นไรเดอร์ปั๊บ แถมยังอ่อนแอลงอีกด้วย แต่พอคืนร่างแล้วก็แข็งแรงขึ้น แต่ดันมีพลังอยู่ได้แค่สามนาที” มาตาร์เอ่ยออกมาถึงความแปลกของเข็มขัดไรเดอร์นี้

    “จะว่าไงดีล่ะครับ มันก็มีข้อดีข้อเสียอยู่ในตัวของมันล่ะนะครับ” บรันโด้เอ่ยออกมาอย่างเสียไม่ได้ เพราะสุดท้ายแล้วเขาก็มีเข็มขัดไรเดอร์อยู่กับตัวแล้วนี่นา

     

    นั่นอะไรน่ะ ...ไฮเปอร์แมน? ไม่ใช่ ...ซุปเปอร์แมน? ก็ไม่ใช่ ...อ๋อ ...อุลตร้าแมนสินะ
    Rewrite tag: ปรับบทสนทนา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×