ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    JOQ Online คนจริงลวงโลก <มี E-Book>

    ลำดับตอนที่ #103 : บทที่100: เป้าหมายทำลายมิตรภาพ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 11.77K
      105
      24 ธ.ค. 54

    บทที่100 เป้าหมายทำลายมิตรภาพ

    กลุ่มเด็กๆสี่ห้าคน กำลังวิ่งเล่นไปรอบๆเด็กชายคนหนึ่ง แล้วส่งเสียงล้อเลียนอย่างสนุกปาก

    “ว้ายๆ อีตุ๊ด!

    “ฮ่าๆๆ เป็นตุ๊ดเหรอแก!

     “ไปให้พ้น ไอ้คนเป็นตุ๊ด ฮ่าๆๆๆ”

    เด็กชายที่อยู่ตรงกลางเมื่อเจอเด็กในวัยเดียวกันล้อเลียน และแสดงท่าทางรังเกียจ เขาก็ร้องไห้ออกมา แล้ววิ่งหนีไป

    “อ้าว! จะหนีไปไหนล่ะอีตุ๊ด!

    เสียงเด็กชายคนหนึ่งยังตะโกนตามไล่หลังมา

     

    “เป็นอะไรไปเหรอลูก” หญิงคนหนึ่งกล่าวขึ้นมาเมื่อเห็นว่าเด็กชายร้องไห้ขณะเดินเข้ามาในห้องพัก

    “เพื่อนๆล้อหนูว่าเป็นตุ๊ด ฮือ~อ” เด็กชายคนนั้นร้องไห้สะอึกสะอื้นขึ้นอีกเมื่อมีคนรับฟังปัญหา

    “แล้วหนูร้องไห้ทำไมล่ะคะ หนูเป็นตุ๊ดจริงๆเหรอ” ผู้เป็นแม่ถามเด็กชาย

    “หนูไม่ได้เป็นตุ๊ดนะ!!” เด็กชายตอบกลับ

    “ถ้าอย่างนั้นคราวหน้าก็บอกเพื่อนๆไปสิ ว่าไม่ได้เป็นตุ๊ด แล้วก็ไม่ต้องร้องไห้ด้วย” ผู้เป็นแม่ตอบพร้อมกับเข้ามากอดเด็กชาย

     

    “นี่พ่อ ดูเหมือนลูกของเราจะเป็นตุ๊ดล่ะ” หญิงคนเดิมกล่าวกับชายผู้เป็นสามี

    “หา? แน่ใจเหรอแม่ ลูกเราอายุแค่สิบขวบเองนะ จะผิดเพศตั้งแต่เด็กเลยเหรอ” ชายผู้เป็นพ่อกล่าว

    “ก็ไม่อยากจะเชื่อหรอกนะ แต่เท่าที่แม่สังเกตก็เป็นจริงๆนะ” หญิงผู้เป็นแม่กลุ้มใจ

    “แล้วเราจะทำยังไงดีล่ะ” ชายผู้เป็นพ่อเริ่มปรึกษา

    ส่วนเด็กชายที่แอบฟังพ่อแม่คุยกันก็มีสีหน้าสลดลงไปทันที

    “และขอเชิญพบกับ ยอดนักร้องแห่งทางช้างเผือก เฮ็ดวิกครับ!!” เสียงจากทีวีดังมาเข้าหูของเด็กชาย

    แล้วเด็กชายก็ถูกทีวีดึงความสนใจไป ภาพผู้หญิงคนหนึ่งที่มีผมสีทอง ร้องเพลงอยู่ในทีวี มีผู้ชมมาคอยเชียร์และให้กำลังใจในห้องส่ง

    “อะไรที่ทำให้คุณเฮ็ดวิกรู้สึกภูมิใจที่สุดครับ” พิธีกรประจำรายการถามหญิงสาวผมทองในทีวี

    “คือการได้เป็นตัวของตัวเองไงล่ะฮ้า การที่เดี๊ยนเป็นกะเทยนี่ก็ด้วย มันไม่มีเรื่องอะไรจะน่าภูมิใจไปกว่านี้แล้วล่ะฮ่ะ” เสียงหญิงสาวผมทองตอบอย่างฉะฉาน

    กะเทย!?’ เด็กชายที่ดูอยู่หน้าทีวีคิดกับตัวเอง เขาไม่คาดคิดว่าหญิงสาวในทีวีคนนั้นเป็นกะเทย แถมยังภาคภูมิใจในตัวเองด้วย เป็นกะเทยไม่ผิด? กะเทยไม่ใช่ความผิด!’

     

    “โอ้!! ซิลเวอร์ทรุดลงไปแล้วครับ!” พิธีกรบรรยายการต่อสู้อย่างตื่นเต้น

    ชายหนุ่มผมเงินโดนผลจากเวทดนตรีเข้าไป ความรู้สึกที่อยากจะต่อสู้ของเขาหดหายไปทันที พร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงอาบแก้มเพราะความซึ้งใจในบทเพลง ถ้าเฮ็ดวิกฆ่าเขาตอนนี้ เขาก็คงจะยินดีที่ได้ตายเป็นแน่แท้

    ซิลเวอร์! ไม่นะ!!’ มาเจนต้าคิดขึ้นมาในความเลือนลางของสติสัมปชัญญะ

    “ทีมของพ่อหนุ่มเก่งที่สุดเท่าที่เดี๊ยนเคยสู้มาเลยนะฮ้า” เฮ็ดวิกพูดขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ร่างของชายหนุ่มผมเงินมากขึ้นเรื่อยๆ

    ถ้าเราได้สู้กันในรอบชิงคงสนุกนะฮ้า เสียงของเฮ็ดวิกดังขึ้นในความคิดของมาเจนต้า

    เดี๊ยนยังไม่ได้ประลองกับคุณเฮ็ดวิกเลย! จะมามัวนอนสบายอยู่ได้ยังไง!’ กะเทยสีบานเย็นค่อยๆพยุงตัวขึ้นช้าๆ เธอคิดถึงเป้าหมายสูงสุดที่เธออยากจะได้จากการประลองนี้

     

    ตอนแรกฉันกลัว ฉันนิ่งไปเลย

    ได้แต่คิดว่าคงจะไม่มีชีวิตถ้าขาดเธอเคียงข้าง

    แต่เมื่อผ่านไปหลายคืน ได้คิดถึงสิ่งที่เธอทำกับฉันไว้

    ฉันก็แข็งแกร่งขึ้นและเรียนรู้ที่จะอยู่ต่อไป

     

     

    แต่แล้วเธอก็กลับมา จากไหนก็ไม่รู้

    ฉันกลับมาก็พบเธออยู่ที่นี่ พร้อมกับใบหน้าที่ดูเศร้าๆ

    ฉันน่าจะเปลี่ยนไอ้ตัวล็อคนั่นนะเนี่ย น่าจะทวงกุญแจคืนมาก่อน

    ถ้าฉันคิดสักนิดว่าเธออาจจะกลับมาทำให้ฉันรำคาญ

     

    “โอ้!! อะไรกันครับเนี่ย มาเจนต้าครับ เธอยังมีกำลังเหลืออยู่ และเธอกำลังร้องเพลงอยู่ครับ!!” พิธีกรเห็นมาเจนต้าลุกขึ้นมาและเริ่มร้องเพลงบ้าง

    ถ้าเวทในเกมจ็อคออนไลน์สามารถบัญญัติเองได้ การเลือกสายเวทโดยความสมัครใจหรือใช้เวทสายใดสายหนึ่งขึ้นมาทันทีก็ย่อมเป็นไปได้แน่นอน มาเจนต้าที่ไม่ได้เลือกสายเวทมาก่อน ตอนนี้เธอกำลังใช้เวทดนตรี ดนตรีที่เปล่งออกมาจากจิตวิญญาณของกะเทยบานเย็น

    “อึ๊!!” เฮ็ดวิกชะงักไปทันทีที่ได้ยินเสียงเพลงของมาเจนต้า ผลของเวทดนตรีทำให้เธอเกิดความลังเล

    ส่วนอีกด้านหนึ่งเวทของมาเจนต้าได้ค่อยๆปลุกใจของซิลเวอร์ที่สิ้นกำลังใจ ให้ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

     

    ไปให้พ้นๆเลย เดินออกจากประตูไปเลยนะ

    มาทางไหนไปทางนั้นเลย ฉันไม่ต้อนรับเธอแล้ว

    ก็เธอไม่ใช่หรือที่พยายามจะทำร้ายฉันด้วยการจากลา

    เธอนึกว่าฉันจะฟูมฟาย เธอนึกว่าฉันจะเป็นจะตายเพราะเธอเหรอ

     

    โอ้ ไม่มีทางหรอก ฉันจะอยู่

    โอ้ ตราบเท่าที่ฉันรู้จักการรัก ฉันก็จะอยู่ต่อไป

    ชีวิตฉันมีไว้ใช้และหัวใจฉันมีไว้แจก

    และฉันจะอยู่ ฉันจะอยู่ต่อไป เฮ้ เฮ้

    “โอ้วว!! อะไรกันครับนี่! กลายเป็นว่าเฮ็ดวิกและมาเจนต้าร้องเพลงประชันกันแล้วครับ!” พิธีกรแตกตื่นเมื่อเห็นว่ากะเทยสองคนประชันกันร้องเพลงเพลงเดียวกัน

    เพราะบทเพลงที่มาเจนต้านำมาร้องนี้ เป็นเพลงที่มีผลในการปลุกใจเพื่อนร่วมทีมและกดดันฝ่ายตรงข้ามให้ถอยไป ถือเป็นเพลงที่มีกำลังสูง ถ้าไม่ร้องเพลงแบบเดียวกันก็จะถูกดันให้ถอยไปได้ และยังมีเหตุผลแอบแฝงอีกด้วยที่เฮ็ดวิกเลือกร้องเพลงเดียวกันนี้

    ฮึๆๆ มาวัดกันไปเลยนะฮ้าหนูบานเย็น ว่าใครจะแน่กว่ากัน เฮ็ดวิกคิดขึ้นมาในขณะที่แผดเสียงร้องเพลง

    อุ๊! สมกับเป็นคุณเฮ็ดวิก แต่เดี๊ยนไม่ยอมแพ้หรอกฮ่า มาเจนต้ารู้สึกท้าทายที่ได้ร้องเพลงประชันกันกับกะเทยรุ่นพี่

     

    ฉันใช้กำลังที่มีอยู่ทั้งหมด เพื่อไม่ให้ล้มลงไป

    พยายามอย่างสาหัสเพื่อซ่อมแซมหัวใจที่แหลกสลาย

    และใช้เวลา โอ้ หลายค่ำคืนเพื่อคร่ำครวญ

    ฉันเคยร้องไห้ แต่ตอนนี้ฉันเชิดได้แล้ว

    และเธอเห็นฉัน ฉันที่เป็นคนใหม่

    ฉันไม่ใช่ทาสที่ถูกล่าม คนที่เคยรักเธอหรอกนะ

    เธอนึกจะแวะมาและหวังว่าฉันจะต้อนรับ

    เมินซะเถอะ ความรักของฉันก็มีไว้ให้คนที่รักฉันเท่านั้น

     

    คลื่นเสียงของกะเทยสองคนปะทะกันโดยมีซิลเวอร์อยู่ตรงกลาง ความรู้สึกทั้งกดดันและปลุกใจทำให้ชายหนุ่มผมเงินปั่นป่วนขึ้นจนกระอักเลือดออกมา ส่วนกะเทยทั้งคู่มีเหงื่อออกโทรมกาย แต่ดูแล้วมาเจนต้าจะดูย่ำแย่มากกว่าเมื่อเธอเพิ่งจะผ่านการดวลความอึดกับอีวานคอฟมา

    ตุบ!

    และเมื่อเพลงของทั้งคู่จบลง มาเจนต้าก็ทรุดตัวลงอีกครั้งจนได้ ในที่สุดกำลังของมาเจนต้าก็ถูกใช้ออกไปจนหมด ร่างของกะเทยบานเย็นค่อยๆสลายไปอย่างช้าๆ

    หมับ!

    แต่แล้วเฮ็ดวิกกลับเดินเข้ามากอดเธอแล้วยิ้มให้

    “แม่บานเย็น เดี๊ยนสนุกมาก สมกับที่เดี๊ยนตั้งใจเอาไว้จริงๆ” เฮ็ดวิกเอ่ยชมมาเจนต้าออกมาพร้อมด้วยรอยยิ้มที่มีให้กะเทยรุ่นน้อง

    “อ้า คุณเฮ็ดวิก เดี๊ยนก็รู้สึกเป็นสุขมาก ที่เดี๊ยนฝ่าฟันจนมีวันนี้ได้ก็เพราะเดี๊ยนมีคุณเฮ็ดวิกเป็นเป้าหมายนี่แหละฮ่ะ” มาเจนต้าพูดออกมาทั้งน้ำตา แม้เธอจะตายก็ไม่เสียใจแล้ว

    “โอ้!! มิตรภาพหลังการต่อสู้ ช่างน่าประทับใจจริงๆครับ” พิธีกรบรรยายการต่อสู้ด้วยความซาบซึ้ง ผู้ชมทุกคนต่างมีน้ำตาคลอเบ้าด้วยความประทับใจทั้งจากเสียงเพลงและมิตรภาพของทั้งคู่

    แต่แล้ว...

    ฉึกก!!!

    “อ๊ายย!!

    ซิลเวอร์อาศัยช่วงที่ทั้งคู่คุยกันแทงดาบน้ำแข็งยักษ์ทะลุร่างของเฮ็ดวิกทันที

    “ซิลเวอร์!!” มาเจนต้าร้องออกมาอย่างตกใจ

    ครืดด!!

    “เยี่ยมมากมาเจนต้า ชัยชนะเป็นของพวกเราเพราะโอกาสที่เธอสร้างขึ้นมาแท้ๆ” ซิลเวอร์พูดพร้อมกับบิดคมดาบแหวะร่างของเฮ็ดวิกไปด้วย

    “อ๊อค! เดี๊ยน..ไม่คิ..ดเ.ลย ว่า..จะต้อ.งแพ้..ในสภ..าพนี้” เฮ็ดวิกพูดอย่างอ่อนแรงพร้อมกับส่งสายตาตัดพ้อมายังมาเจนต้า

    “ไม่ใช่นะฮ้า! เดี๊ยนไม่ได้ตั้งใจจะให้เป็นแบบนี้!” มาเจนต้าแก้ตัวอย่างร้อนรน เธอคาดไม่ถึงจริงๆว่าซิลเวอร์จะฉวยโอกาสลงมือในเวลาที่กำลังซึ้งอยู่แบบนี้

    ฟุบบ!! ตูมมม!!

    แล้วไอ้โหดซิลเวอร์ก็ใช้ระเบิดวายุอัดใส่ร่างเฮ็ดวิกอีกลูก จนร่างของกะเทยผมทองระเบิดออกมาแล้วสลายไปในที่สุด

    “นี่เป็นการต่อสู้กันถึงชีวิต ใครประมาทคนนั้นก็ตาย” ซิลเวอร์พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยพร้อมกับมองไปที่มาเจนต้าด้วยสายตาจริงจัง

    “ฮือ~อ เดี๊ยนก็เข้าใจอยู่ฮ่า ...แต่ว่า” มาเจนต้าร้องไห้ออกมา เธอต้องการจะเถียงอะไรซิลเวอร์ออกมา แต่ก็พูดไม่ออก แล้วในที่สุด ร่างของกะเทยบานเย็นก็สลายไปทั้งอย่างนั้น

    “...”

    “...”

    ผู้ชมที่อยู่บนอัฒจันทร์และพิธีกรต่างนิ่งอึ้ง คิดไม่ถึงว่าชายผมเงินผู้นี้ช่างไร้ซึ่งเลือดเนื้อและน้ำตา คนเขากำลังซึ้งกันอยู่ดีๆ กลับไปฆ่าเขาซะอย่างนั้น

    “เอ้อ ...ตกลงทีมโซล่าร์ซิสฯเรนเจอร์เป็นผู้ชนะครับ” พิธีกรพูดออกมาแบบงงๆ เมื่อเห็นว่าผู้ที่เหลืออยู่เป็นคนสุดท้ายคือทีมโซล่าร์ซิสฯ

    และแล้วรอบชิงชนะเลิศประเภททีมห้าคนก็จบลงกร่อยๆแบบนี้นี่เอง

     

    เวลาห้าโมงเย็น ซิลเวอร์อุ้มร่างอันไร้สติของหญิงสาวสีชมพูเข้าไปที่ห้องพยาบาลของสนามต่อสู้

    “มีบาดแผลทั่วตัว แต่ไม่ถึงชีวิตนะครับ แค่สลบไป พักผ่อนซักครู่ ให้น้ำยาฟื้นพลัง เดี๋ยวก็กลับเป็นปกติครับ” พนักงานของสนามต่อสู้รายงานให้ชายหนุ่มผมเงินฟัง

    “อืม งั้นผมฝากโรสเอาไว้ที่นี่นะครับ ผมมีธุระต้องไปจัดการต่ออีก” ซิลเวอร์พูดกับพนักงานแล้วเดินออกจากห้องพยาบาลไปทันที

     

    ชายหนุ่มผมเงินเดินลิ่วกลับไปยังห้องพักพร้อมกับถอดหน้ากากออก จากผมสีเงินยาวสลวย เปลี่ยนกลับเป็นผมสีแดงทรงเดรดล็อคทันที

    “มาตาร์เป็นยังไงบ้างคะ” แม่หมาป่าสาวทักขึ้นทันทีเมื่อเห็นชายหนุ่มผมแดงเดินเข้ามาในห้องพัก

    “มาตาร์ ...แขนไปโดนอะไรมาน่ะ” แม่เสือสาวสังเกตเห็นว่าแขนท่อนล่างซ้ายของชายหนุ่มขาดไปครึ่งหนึ่ง

    “อ๋อ แขนขาดน่ะ เดี๋ยวไปโรงพยาบาลก็หาย” มาตาร์ตอบกลับโมเรน่าเรียบๆเหมือนว่าไม่มีอะไรมากมาย

    “มาตาร์เจ็บมั้ย” แม่เหยี่ยวสาวถามขึ้นมา

    “ไม่เจ็บแล้วล่ะ ใช้ปราณรักษาแล้วเรียบร้อย” มาตาร์ตอบกลับบราวนี่ เสร็จแล้วก็หันมาทางเรย์น่าที่ถูกมัดอยู่ “ต่อไปเป็นตาเธอล่ะนะ”

    หญิงสาวผมขาวมองเจ้าผู้ชายผมแดงที่เป็นศัตรูของเธออย่างโกรธแค้น

     “อื้อ~!!” เรย์น่าพยายามดิ้นรนขัดขืนสุดชีวิตอีกครั้ง แต่เธอก็ไร้ทางต่อต้านชายหนุ่มคนนี้โดยสิ้นเชิงเพราะเชือกที่มัดแน่นจนขยับไม่ได้นั่นเอง

    “ลาก่อนยัยงูพิษ ต่อไปเราคงไม่ได้พบกันอีกแล้วล่ะ” มาตาร์พูดเรียบๆพร้อมกับเอื้อมมือมาที่เรย์น่า

    และนั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่หญิงสาวผมขาวได้ยิน ก่อนเธอจะสิ้นสติไปอีกครั้งหนึ่งด้วยฝึมือของชายหนุ่ม

     

    ปึ้ง!

    เสียงปิดประตูห้องพักดังขึ้น หลังจากที่มาตาร์และสามสาวก้าวออกจากห้องพักแล้ว

    “ไงนายมาตาร์” เสียงหญิงสาวคนหนึ่งทักขึ้นมาเมื่อชายหนุ่มเดินออกจากห้องพักมาแล้ว

    “ว่าไงรัต” มาตาร์ตอบกลับหญิงสาวที่ทักทายเขา

    “สู้ได้ทุเรศดี แต่นายก็ไม่ได้ทำอะไรผิดไปหรอก” ราตรีกล่าว ซึ่งก็ฟังไม่ออกว่ากำลังชมหรือกำลังต่อว่าเขากันแน่

    “หนูว่าพี่มาตาร์น่าจะรอให้มาเจนต้าตายไปก่อนก็ดีนะคะ จังหวะนั้น” หญิงสาวที่อยู่ข้างๆราตรีพูดขึ้นมา

    “ถ้าเป็นอย่างนั้นพี่อาจจะแพ้ก็ได้นะเมล ไม่มีอะไรบอกว่าเฮ็ดวิกจะไม่ลงมือในจังหวะนั้นหรือรอให้มาเจนต้าตายไปก่อนแล้วค่อยมาโจมตี” มาตาร์ตอบกลับหญิงสาวนัยน์ตาสีมรกต

    “อืม ...ค่ะ” เมโลดี้ยอมรับโดยดี เพราะที่มาตาร์พูดมันก็ถูกต้องทุกอย่าง ในเวลานั้นมาตาร์ซึ่งใช้ปราณไปเยอะแล้ว ถ้าจะให้มาสู้แบบดวลเดี่ยวกับเฮ็ดวิกอาจจะแพ้จริงๆ ถึงมันจะดูน่าทุเรศแบบที่เพื่อนสาวของเธอบอกแต่มันก็ไม่มีอะไรผิดไปเลยจริงๆ

    “คุณมาตาร์ อาจจะไม่ได้รางวัล แต่อาจจะได้ใจประชาชนก็ได้นะ” นางฟ้าผมทองที่ยืนอยู่กับเมโลดี้พูดขึ้นมาบ้าง

    “ชั้นมาประลองเพื่อของรางวัลไม่ใช่เพื่อชนะใจประชาชนนะแองจี้” มาตาร์ตอบกลับนางฟ้าผมทอง

    “แล้วนี่จะมีฉลองกันหรือไม่เล่าคุณมาตาร์ เราว่ากินเลี้ยงกันคืนนี้ แล้วเดินทางพรุ่งนี้ก็ดีนะ” แองเจล่าเสนอ

    “ก็ดีเหมือนกันนะแองจี้ แต่ก็ต้องรอให้พวกโซล่าร์ซิสฯฟื้นกันก่อนนะ” มาตาร์เห็นด้วยกับนางฟ้าผมทอง

    “แล้วแขนนั่นจะไปรักษาที่โรงพยาบาลเลยมั้ย” ราตรีถามขึ้นมาเมื่อมองเห็นแขนที่ด้วนไปของชายหนุ่ม

    “เธอรักษาไม่ได้เหรอรัต” มาตาร์ถามหญิงสาวตาคม

    “ไม่ได้ย่ะ แขนนายหายไปทั้งยวงแบบนี้ โรงพยาบาลเท่านั้นแหละที่เป็นคำตอบ” ราตรีตอบ

    “ถ้างั้นชั้นไปรอให้โรสฟื้นก่อนแล้วค่อยไปโรงพยาบาลละกัน” มาตาร์กล่าว

    “พี่มาตาร์ไปโรงพยาบาลก่อนก็ได้ค่ะ เดี๋ยวหนูไปคอยเฝ้าน้องโรสให้เอง แล้วจะพาไปงานฉลองด้วยกันเลย” เมโลดี้กล่าว

    “โอเค งั้นฝากด้วยนะ” มาตาร์ยินยอมแต่โดยดี เพราะเมโลดี้ช่วยทุ่นเวลาให้เขาได้

     

    และแล้วมาตาร์และสามสาวก็เดินออกมาที่โต๊ะลงทะเบียนหน้าสนามต่อสู้เพื่อขอรับรางวัล

    “ทีมโซล่าร์ซิสฯเรนเจอร์ ขอรับของรางวัลครับ” มาตาร์พูดกับพนักงานสาวที่ประจำอยู่ที่โต๊ะ

    “นี่ค่ะ รางวัลคือโมโนไบค์รุ่นคัสต้อมนะคะ” พนักงานสาวยื่นแผ่นโลหะรูปวงกลมให้มาตาร์มาหนึ่งแผ่น

    มาตาร์รับแผ่นเหล็กมาอย่างรู้งาน เพราะเขารู้ว่ายานพาหนะจะอยู่ในรูปลักษณ์ที่เป็นแผ่นโลหะเพื่อให้พกพาได้ง่าย

    “แล้วที่ว่าแต่งเองได้นี่ทำยังไงครับ” มาตาร์ถามพนักงานสาว

    “โมโนไบค์คันนี้ลงรหัสรางวัลจากสนามแข่งเอาไว้แล้ว คุณมาตาร์สามารถนำแผ่นเหล็กนี้ไปที่ร้านไหนก็ได้ที่รับแต่งโมโนไบค์ โดยเราจะมีงบประมาณให้อยู่แล้วไม่เกินหนึ่งแสนโกลด์ค่ะ สามารถแต่งได้เรื่อยๆจนกว่าจะหมดงบ แต่หลังจากนั้นคุณต้องจ่ายค่าแต่งรถด้วยตัวเองนะคะ” พนักงานสาวอธิบายวิธีแต่งรถให้ชายหนุ่มฟัง

    “แล้วร้านอะไรรับแต่งรถมั่งล่ะครับเนี่ย” มาตาร์ยังสงสัย

    “ปกติร้านขายยานพาหนะทั่วไปก็รับแต่งนะคะแต่ว่าร้านขายยานพาหนะไม่มีบนเกาะเริ่มต้นนี้ค่ะ หรือจะเป็นร้านอาวุธหรือร้านชุดเกราะก็มีอุปกรณ์ที่แต่งได้นะคะ จะติดอาวุธหรือเกราะให้โมโนไบค์ก็ได้” พนักงานสาวให้ข้อมูลเพิ่มเติม

    “โอ้โห ติดอาวุธกับเกราะได้ด้วยเหรอเนี่ย” มาตาร์ตื่นเต้นขึ้นมาทันที เพราะมันแตกต่างกับในโลกจริง โมโนไบค์มันก็เป็นแค่ยานพาหนะ เขานึกว่าอาจจะแต่งแฮนด์หรือล้อให้ดูเท่ได้เท่านั้นเสียอีก แต่นี่เล่นติดอาวุธให้ได้ด้วย

    “แน่นอนค่ะ โมโนไบค์ในเกมจ็อคออนไลน์นี้เป็นมากกว่ายานพาหนะ” พนักงานสาวตอบอย่างยิ้มแย้ม

    แล้วมาตาร์ก็เก็บแผ่นโลหะนั้นเข้าเข็มขัดไป แล้วตั้งใจว่าจะเอาไปแต่งหลังจากออกจากเกาะเริ่มต้นแล้ว

     

    “ไงคะคุณมาตาร์ จะไปฉลองกันรึยังคะ” สำเนียงอันคุ้นเคยดังขึ้นเมื่อมาตาร์เดินมาที่พื้นที่พิเศษหน้าสนามต่อสู้

    “รอพวกโซล่าร์ซิสฯฟื้นขึ้นมาให้หมดก่อนสิยัยแม่มด” มาตาร์จะไม่แปลกใจอีกแล้วถ้าหญิงสาวผมหยักศกคนนี้จะรู้อะไรที่เขาไม่เคยบอกเธอ เพราะดูเหมือนว่าเธอจะอ่านเขาออกแทบจะทุกการเคลื่อนไหว

    “งั้นตอนนี้จะไปรักษาแขนใช่มั้ยคะ” ซารีน่าก็ยังรู้อีกอยู่ดีว่ามาตาร์มีเป้าหมายจะทำอะไรต่อไป

    “ใช่” มาตาร์ตอบกลับแบบแกนๆ ไม่มีประโยชน์อะไรที่เขาจะโกหกเพื่อหลีกเลี่ยงผู้หญิงคนนี้ เพราะไม่ว่าอย่างไรถ้าเธออยากจะตามเขาไป เธอก็จะหาวิธีไปให้ได้อยู่ดี

    “งั้นดิชั้นจะไปจ่ายเงินค่ารักษาให้คุณมาตาร์นะคะ” ซารีน่าพูดอย่างยิ้มแย้มพร้อมกับเดินเคียงข้างชายหนุ่มทันที

     

    “แขนขาดประมาณนี้ ใช้เวลาสามชั่วโมงในการรักษานะครับ” ชายในชุดกาวน์กล่าว

    มาตาร์ดูเวลาแล้ว ขณะนี้เป็นเวลาหกโมงเย็น ถ้ารักษาตอนนี้เลยก็จะเสร็จเวลาสามทุ่ม คงไม่เหมาะกับการฉลองเท่าไหร่เพราะมันจะช้าเกินไป เขาอยากให้เริ่มฉลองกันตั้งแต่หนึ่งทุ่ม แล้วเลี้ยงกันนานๆมากกว่า เพราะถือเป็นงานเลี้ยงอำลาเกาะเริ่มต้นของเขาด้วย เขาอยากจะใช้เวลาอยู่กับการฉลองนี้ให้นานที่สุด

    “งั้นผมยังไม่รักษาดีกว่าครับ” มาตาร์ตอบกลับชายในชุดกาวน์พร้อมทั้งเดินออกจากโรงพยาบาล

    “ทำไมเหรอคะคุณมาตาร์? การรักษาใช้เวลามากกว่าที่คิดเหรอคะ” ซารีน่าถามชายหนุ่มเมื่อเดินตามหลังเขาออกมาจากโรงพยาบาล

    “อืม ไปฉลองกันก่อนดีกว่า แล้วค่อยรักษาทีหลังก็ได้ แค่แขนขาดคงไม่เป็นปัญหากับการฉลองเท่าไหร่” มาตาร์ตอบพร้อมกับเดินไปที่ลานกลางเมืองซึ่งเป็นจุดนัดพบของเขากับพวกเมโลดี้

     

    “พี่มาตาร์คะ!” โรสทักขึ้นทันทีที่เห็นชายหนุ่มผมแดงเดินเข้ามา

    “โรสเป็นยังไงบ้าง” มาตาร์ทักทายหญิงสาวสีชมพูเมื่อเห็นเธอฟื้นขึ้นมาจากอาการบาดเจ็บแล้ว

    “สบายดีค่ะ แต่หนูรู้เรื่องพี่มาตาร์กับมาเจนต้าแล้ว” โรสเข้าเรื่องที่เธอกังวลทันที

    “เรื่องอะไรเหรอ?” มาตาร์ถามขึ้นเหมือนไม่รู้ว่ามันมีเรื่องอะไร

    “ก็ที่พี่มาตาร์ไปฆ่าคุณเฮ็ดวิกในขณะที่มาเจนต้ากำลังจะตายไงคะ” โรสพูดเนื้อหาออกมา ซึ่งฟังอย่างไรมันก็ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะเฮ็ดวิกเป็นศัตรู ทำไมจะฆ่าไม่ได้

    “อืม แล้วปัญหามันคืออะไรเหรอ” มาตาร์ถามเพื่อความแน่ใจ

    “ปัญหาก็คือมาเจนต้าอาจจะโกรธพี่มาตาร์ที่ไปขัดขวางช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของเธอน่ะสิครับ” อาเชอร์ที่ฟื้นขึ้นมาแล้วพูดขึ้น

    “อืม ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ช่วยไม่ได้นะ เพราะเป้าหมายของพี่คือโมโนไบค์เท่านั้น ไม่ใช่เรื่องอื่น” มาตาร์พูดออกมาอย่างชัดเจน เขาไม่เคยลังเลที่จะทำร้ายใครหรืออะไรก็ตามที่มาขัดขวางเป้าหมายของเขา แม้ว่า อะไรก็ตาม นั่นจะเป็นเพื่อนร่วมทีมของตนเอง

    มันไม่ใช่เรื่องที่ใครจะทำอะไรได้ เพราะข้อตกลงระหว่างโซล่าร์ซิสฯกับมาตาร์นั้นชัดเจนอยู่แล้วตั้งแต่แรก มาตาร์ขอให้พวกโซล่าร์ซิสฯมาประลองเพื่อรางวัลชนะเลิศ ไม่ใช่มิตรภาพจากการต่อสู้ และสิ่งที่มาตาร์ทำลงไปก็เพื่อชัยชนะ จะไปโทษเขาไม่ได้ ดังนั้นปัญหานี้จึงอยู่ที่มาเจนต้าคนเดียวเท่านั้น ว่าจะยอมรับการกระทำของมาตาร์ได้หรือไม่

    พวกโซล่าร์ซิสฯทั้งสามที่ตายลงไป มีเพียงอาเชอร์คนเดียวเท่านั้นที่ออนไลน์กลับมาตามเวลาปกติ คริมซั่นกับมาเจนต้ายังคงไม่ออนไลน์

    “แล้วคริมซั่นล่ะ ทำไมยังไม่ออนไลน์อีก” มาตาร์ถามขึ้นมาเมื่อไม่เห็นชายหนุ่มสีแดงของกลุ่ม

    “ก็คงจะเป็นเพราะสาเหตุการตายล่ะมั้งครับ” อาเชอร์สันนิษฐาน

    “สาเหตุการตาย? ...อ้อ” มาตาร์ทวนความทรงจำแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าคริมซั่นตายอย่างไร

    ชายหนุ่มสีแดงตายโดยที่ทำอะไรศัตรูไม่ได้เลย แถมยังโดนเสียบก้นตายอีกด้วย ถ้าคิดถึงสภาพจิตใจหลังจากที่ตายไปแล้ว อาจจะไม่กล้าออนไลน์มาอีกนานเลยก็ได้

    “ถ้างั้นเดี๋ยวหนูไปตามเอง จะพยายามไม่ให้เกินหนึ่งชั่วโมงนะคะ” โรสพูดแล้วก็หายเข้าไปในพื้นที่พิเศษทันที

    ผู้คนแต่ละคนคิดว่าโรสคงจะออกไปโทรศัพท์หาคริมซั่นกระมัง เพราะพวกโซล่าร์ซิสฯนี้ดูท่าจะรู้จักกันในโลกจริงอยู่แล้วด้วย

    “โรสกับคริมซั่นเป็นพี่น้องกันครับ อยู่บ้านเดียวกัน โรสคงจะไปลากคริมซั่นที่ออฟไลน์อยู่มาออนไลน์ได้น่ะแหละ” อาเชอร์เฉลยความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ มีบางคนถึงกับถึงบางอ้อเพราะว่าสองคนนี้ดูคล้ายกันจนเหมือนเป็นพี่น้องกัน ที่แท้ก็เป็นพี่น้องกันจริงๆด้วย

    “งั้นเดี๋ยวผมจะลองโทรไปตามมาเจนต้าละกัน เผื่อว่าจะคุยกันได้” อาเชอร์พูดจบแล้วก็หายไปอีกคน

    “อืม พวกกลุ่มเจ้าของงานเลี้ยงไม่อยู่กันแล้วแฮะ” ราตรีพูดขึ้นมาเมื่อพวกโซล่าร์ซิสฯที่เป็นผู้ชนะการประลองไม่อยู่เลยสักคนเดียวนอกจากมาตาร์

    “ก็ยังเหลือพี่มาตาร์นี่ไงรัต เราไปเลือกร้านที่จะฉลองกันก่อนก็ได้นี่ แล้วเดี๋ยวพวกนั้นออนไลน์ก็ให้ตามเราไปที่ร้าน” เมโลดี้เสนอขึ้นมา

    “อืม ก็ดีเหมือนกัน รีบเริ่มงานฉลอง จะได้มีเวลาฉลองได้นานๆ” มาตาร์เห็นด้วย

    แวบบ!!

    แต่แล้วมาเจนต้าก็ปรากฏตัวขึ้นมาพร้อมกับชุดชั้นใน บ่งบอกว่าเธอเพิ่งฟื้นขึ้นมานั่นเอง

    “อ้าว! คุณมาเจนต้า มาพอดีเลย เรากำลังจะไปเลือกร้านฉลองกันค่ะ” ซารีน่าทักขึ้นมาทันทีที่เห็นกะเทยบานเย็น

    แต่ดูท่าทางเธอจะไม่สนใจคำทักทายเลย หน้าตาเธอเคร่งเครียดและจ้องมองไปที่ชายหนุ่มผมแดง บรรยากาศระหว่างทั้งคู่ทำให้คนรอบข้างอึดอัด

    “พี่มาตาร์ฮ้า! เดี๊ยนมาคิดๆดูแล้ว ไม่ว่ายังไง มันก็ไม่มีเหตุสมควรอะไรเลยที่เดี๊ยนจะโกรธพี่มาตาร์” มาเจนต้าไม่ได้ออฟไลน์แต่เธอนั่งคิดตลอดช่วงที่อยู่ในห้องสีขาวจนถึงบัดนี้ “ถึงแม้ว่าเดี๊ยนอยากจะสนิทสนมกับคุณเฮ็ดวิกแค่ไหน แต่ทีมก็ย่อมสำคัญกว่าอยู่แล้ว แล้วเดี๊ยนก็ได้ประลองกับคุณเฮ็ดวิกสมใจแล้วด้วย”

    คำพูดของมาเจนต้าช่วยแก้ปัญหาทั้งหมดได้จริงๆ ถ้าเพียงแต่มาตาร์ไม่คิดว่าเขาเองนั้นก็เป็นสาเหตุด้วยเหมือนกัน

    คุณมาตาร์คะ เวลาแบบนี้ควรจะพูดอะไรซักอย่างออกไปเพื่อบรรยากาศที่ดีนะคะ ข้อความจากซารีน่าเตือนชายหนุ่มผมแดง

    มาตาร์เลิกคิ้วแล้วเหลียวมามองหน้าซารีน่า ขณะที่หญิงสาวผมหยักศกยิ้มหน้าตายไม่เปลี่ยนแปลง

    “พี่ก็ขอบคุณมาเจนต้านะที่เข้าใจการกระทำของพี่ แล้วก็ขอโทษด้วยที่อาจจะทำให้รู้สึกไม่ดี” มาตาร์พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดูอ่อนลง ...ตามสคริปท์

    และด้วยคำพูดนี้ของมาตาร์ ในที่สุดแล้วบรรยากาศแห่งการเลี้ยงฉลองก็ดูดีขึ้นมาทันที

     

    จำได้มั้ยในบทที่21 มาตาร์เคยพูดประโยคที่มีความหมายแบบนี้กับราตรีไปแล้ว “เพื่อเป้าหมายแล้วทำได้ทุกอย่าง” แต่ตอนนั้นมาตาร์ยอมตายเพื่อเป้าหมาย (เอาสมุนไพรกลับไปให้เมโลดี้) คราวนี้ก็แค่กลับกันเท่านั้นเอง
    ใกล้แระ ใกล้จะจบภาคแระ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×