คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : บทที่9: มังกรแปลง
บทที่9 มังกรแปลง
“ว่าไงไอ้หนุ่ม จะมาฝึกเรอะ” เสียงเข้มของชายชราดังขึ้นมา
“เอ่อ ...ครับ” มาตาร์ตอบ
“น้ำหน้าอย่างนี้น่ะนะ!” เสียงชายชราดุขึ้นมาอีก
“ครับ” มาตาร์ขานรับอย่างหวาดๆ
“จ่ายมาหมื่นนึง แล้วก็เงื่อนไขขั้นต่ำทักษะอาวุธขั้นสอง เท่าที่ดูเจ้าไม่มีซักอย่างเลยนี่นา ไปฝึกมาใหม่แล้วค่อยกลับมาไป๊!” ชายชราตวาด
มาตาร์และสัตว์เลี้ยงทั้งสามต้องรีบแจ้นออกจากโรงฝึกอย่างเร็ว แล้วเข้ามาสู่ถนนทางเลือกอีกครั้ง
“อืม ต้องจ่ายเงินด้วยเหรอเนี่ย ...สงสัยมันอยู่ในขั้นตอนของภารกิจแหงเลย” มาตาร์หันไปบ่นกับสัตว์เลี้ยงทั้งสาม
“เขาบอกว่าจะเอาทักษะอาวุธขั้นสองด้วยอ้ะ เลือกระหว่างมีดกับมือเปล่าที่มีอยู่แล้ว ...ฝึกอะไรดีน้า” มาตาร์เดินไปบ่นไป หลังออกมาจากโรงฝึกลมปราณ
มาตาร์ที่ยังเลือกเผ่าไม่ได้ แต่ก็มีความคิดว่าจะเสริมอะไรเอาไว้ก่อน ซึ่งปราณเป็นอย่างเดียวที่ทั้งสามเผ่าสามารถใช้ได้ ถ้าเขาฝึกเวทไปก็จะเปลี่ยนเป็นมังกรไม่ได้ หรือถ้าฝึกพลังจิตก็จะเหลือเผ่าเทพเป็นตัวเลือกอย่างเดียว ถึงแม้ว่าตอนหลังถ้าเลือกมังกรไอ้ที่ฝึกนี่จะหายไปก็ตาม
“มันน่าจะมีตัวอย่างให้ดูซะหน่อยนะ ไอ้คนที่เลือกเผ่าแล้วน่ะ” ว่าแล้วหนึ่งคนกับสามตัวก็เดินกันให้ทั่วถนนทางเลือกนี้
“เร่เข้ามาครับ เร่เข้ามา การสาธิตรอบบ่ายกำลังจะเริ่มแล้ว” เสียงเด็กชายคนหนึ่งดังเข้าหูมาตาร์
“เอ้อน้อง สาธิตอะไรเหรอ พี่เข้าดูได้มะ” มาตาร์ตรงเข้าไปถามเด็กชาย
เด็กชายเหลียวมองมาตาร์ตั้งแต่หัวจรดเท้าที่ทั้งเนื้อทั้งตัวห่มผ้าคลุมยาจกอยู่สองชิ้น มีหมาสีขาวกระดิกหางอยู่ใกล้ มีแมวสีดำทำท่าเชิดๆ แล้วก็นกกระจอกสีน้ำตาลซุกอยู่บนหัว
“พี่ชายคงเป็นมือใหม่สินะ ทุกๆวัน เราจะมีการสาธิตประสิทธิภาพของเผ่าทั้งสามน่ะ อีกไม่กี่นาทีก็จะเริ่มการสาธิตรอบบ่ายแล้ว สนใจก็เข้ามาดูสิพี่” เด็กชายพูด
มาตาร์มีสีหน้ายินดีทันที สิ่งที่เขาหาอยู่คือสิ่งนี้แหละ ‘มันยอดมากเลย ซาร่า!!’ มาตาร์ตะโกนก้องในใจ แม้จะไม่รู้ว่าซาร่าคือใครก็ตาม
มาตาร์เดินเข้าไปทันที ข้างในรั้วที่เข้าเดินผ่านมาเป็นพื้นดินเรียบๆ ถัดเข้าไปเป็นขั้นบันไดทรงโค้งลดหลั่นลงไป จนข้างล่างเป็นลานกว้าง มีรั้วล้อมเอาไว้ ลักษณะเหมือนอัฒจันทร์ มีคนนั่งอยู่ตามขั้นบันไดแล้วไม่ต่ำกว่าพันคน แต่ก็ยังคงมีที่เหลือให้นั่งได้อีกเยอะ
มาตาร์เดินลงบันไดไป หาที่นั่งบริเวณหนึ่ง แล้วรอเวลาเริ่มสาธิต
“สวัสดีครับทุกท่าน กระผมจ๊อด”
“และดิชั้นซาร่า จะทำหน้าที่เป็นผู้บรรยายการสาธิตความสามารถของเผ่าพันธุ์รอบบ่ายนี้ค่ะ” ชายหญิงคู่หนึ่งถือไมโครโฟน ออกมายืนกลางลานประกาศให้ผู้ชมรับทราบอย่างชำนาญ
มาตาร์คิดถึงชื่อซาร่าแล้วก็ขำ เมื่อสักครู่เขายังตะโกนชื่อซาร่าอยู่ในใจเลย
“ทุกท่านที่ยังไม่แน่ใจว่าตนเองจะเลือกเผ่าพันธุ์อะไรดี วันนี้มีคำตอบแน่ๆครับ” พิธีกรชายพูด
“เราไปหลบกันที่ที่ประจำของเราดีกว่าค่ะจ๊อด เพราะการสาธิตนี้มันอันตราย” พิธีกรสาวพูดโฆษณาทันที
“ดีครับซาร่า ผู้ชมทั้งหลายคงจะรอกันอย่างใจจดใจจ่อแล้ว” พูดแล้วทั้งคู่ก็เดินหายไปด้านหลังลานกว้าง
“เผ่าพันธุ์แรกนะครับ มังกร” เสียงพิธีกรชายพูดจบ ชายหนุ่มคนหนึ่งร่างกายกำยำใส่ชุดนักสู้สีเหลืองก็เดินออกมาจากด้านหนึ่งของลานกว้าง
“นี่คือคุณเคนริวนะคะ เป็นผู้เล่นที่จะมาสาธิตให้เราดูกัน คุณเคนริวเป็นหัวหน้ากิลด์มังกรอหังการ เป็นผู้เล่นที่มีฝีมือสูง หวังว่าทุกท่านคงจะไม่ผิดหวังนะคะ” พิธีกรสาวแนะนำผู้สาธิต
มนุษย์หมาป่าถูกปล่อยออกมาสิบตัว มาตาร์ลองตรวจสอบดูแล้วก็ตกใจ เพราะแต่ละตัวมันมีระดับหนึ่งร้อยทั้งนั้น
“มนุษย์หมาป่าเป็นสัตว์อสูรที่มีร่างกายแข็งแรงครับ การโจมตีหลักๆก็จะเป็นการโจมตีทางกายภาพ เรามาเริ่มต้นเบาๆที่สิบตัวก่อนนะครับ จะได้ช่วยอุ่นเครื่องให้คุณเคนริว” พิธีกรชายพูดเสียงใส
‘อุ่นเครื่องเรอะ เป็นตูนี่เครื่องในหายไปแล้ว’ มาตาร์คิดถึงระดับของตัวเองที่ยังห่างชั้นเหลือเกิน
กรร!! ฮู้ม~~!!
เจ้ามนุษย์หมาป่าคำราม เล่นเอาเจ้าคลาร่ามาซุกชายหนุ่มด้วยความหวาดกลัวครางหงิงๆ มาตาร์เอามือลูบหัวเจ้าหมาน้อยเบาๆแต่สายตายังคงจ้องมองลงไปที่ลานกว้าง
มนุษย์หมาป่าเห็นเป้าหมายของมันแล้ว สองตัวพุ่งเข้าไป แล้วกระโดดแยกโจมตีเป็นสองทางทั้งซ้ายขวา
‘มนุษย์หมาป่าทำได้ขนาดนี้เลยเหรอ มีการเล่นเป็นทีม แถมไม่โจมตีตรงๆอีก’ ชายหนุ่มเห็นสัตว์อสูรชั้นสูงครั้งแรกแล้วก็ทึ่ง เพราะที่ผ่านมาเจอแต่พวกโจมตีตรงๆไม่มีลีลา
มนุษย์หมาป่าทั้งสองเงื้อกรงเล็บอันแหลมคมโจมตีมาที่นักสู้ชุดเหลืองในเวลาเดียวกัน ในขณะที่นักสู้ผู้นั้นยังไม่ขยับตัวเลยแม้แต่น้อย แต่ในจังหวะปะทะนั้นเองนักสู้หนุ่มก็พริ้วตัวหลบกรงเล็บอย่างฉิวเฉียด และส่งกำปั้นไปวางที่มนุษย์หมาป่าตัวหนึ่งและฝ่าเท้าที่มนุษย์หมาป่าอีกตัวหนึ่งอย่างแผ่วเบาเหมือนขนนกในจังหวะเดียวกันกับที่หลบนั่น
ตูมม!!
จังหวะเดียวเท่านั้น ทั้งกำปั้นและฝ่าเท้าที่สัมผัสตัวเจ้าหมาป่าเปล่งพลัง ทำเอาทั้งสองตัวปลิวหายไปคนละทิศ จนกระแทกกำแพงลานกว้างก่อนจะเป็นแสงหายไป
มาตาร์มองด้วยความตกตะลึง ‘สุดยอดเลยพี่เคนริว!’
“นี่คือความสามารถในการสู้ประชิดตัวของเผ่ามังกรค่ะ เมื่อสักครู่การโจมตีของคุณเคนริวแฝงด้วยปราณมังกรอันลือชื่อ ส่งมนุษย์หมาป่าไปเกิดใหม่พร้อมกันทีเดียวสองตัวเลยนะคะ” พิธีกรสาวรายงาน
มนุษย์หมาป่าเห็นความสามารถของนักสู้หนุ่ม คราวนี้พุ่งเข้าไปพร้อมกันทีเดียวสี่ตัวกระจายออกตามสี่ทิศแล้วล้อมนักสู้มังกรเอาไว้ห่างๆ
ตัวที่หนึ่งพุ่งเข้าไปหาจากด้านหลัง พุ่งกรงเล็บมาอย่างเร็ว แต่นักสู้หนุ่มก็เอี้ยวตัวหลับ โน้มตัวไปข้างหน้า แต่ขากลับไปเตะหน้าเจ้ามนุษย์หมาป่าอย่างจังด้วยท่าเตะแมงป่อง ขณะนั้นอีกสามตัวก็เข้ามารุมพร้อมกัน นักสู้หนุ่มที่กำลังค้างอยู่ในท่าเตะรวบเท้ากลับมาทันที แล้วย่อตัวเหมือนจะถีบดินด้วยขาทั้งคู่จนผิวดินกระเพื่อม แต่แทนที่ร่างของเขาจะพุ่งขึ้นไปข้างบน มนุษย์หมาป่าทั้งสี่ที่ล้อมเขาเอาไว้กลับโดนพื้นดินดีดขึ้นไปแทน
นักสู้มังกรย่อเข่าบิดตัวทำท่าเหมือนจะหมุนตัว เขามองขึ้นไปข้างบนเล็กน้อยก่อนจะส่งตัวเองเข้าไปอยู่ท่ามกลางร่างมนุษย์หมาป่าทั้งสี่ที่ลอยอย่างไร้การควบคุม
ฉัวะ!!
เสียงที่มาตาร์ได้ยินเหมือนมีแค่จังหวะเดียว แต่เขากลับเห็นร่างของมนุษย์หมาป่าทุกตัวที่ลอยอยู่ ขาดออกจากกันเหมือนโดนเครื่องปั่นพลังสูง
แล้วร่างของนักสู้ชุดเหลืองก็กลับมายืนอยู่ในจุดที่เขาเคยยืนอยู่ตอนแรก ในขณะที่เจ้ามนุษย์หมาป่าทั้งสี่กลายเป็นแสงหายไปกลางอากาศ
มาตาร์นิ่งอึ้งตะลึงค้าง แต่ก็ไม่ต่างจากผู้ชมคนอื่นสักเท่าไหร่ มีเสียงฮือฮาต่อลีลาการสู้ของนักสู้มังกรไม่หาย
“เมื่อสักครู่นี้คุณเคนริวแสดงการใช้พลังธาตุของมังกรให้ดูนะครับ ส่งมนุษย์หมาป่าสี่ตัวขึ้นฟ้าโดยใช้พลังธาตุดิน แล้วก็ปิดด้วยท่าเตะกังหันอันเป็นวิชาของคุณเคนริวฉีกร่างของมนุษย์หมาป่าเป็นชิ้นๆกลางอากาศพร้อมกันทีเดียว ดูแล้วรู้สึกยังไงครับซาร่า” พิธีกรหนุ่มรายงานพร้อมถามพิธีกรสาว
“น่าตื่นเต้นมากเลยค่ะจ๊อด เห็นแล้วก็หลงรักในลีลาการต่อสู้ของคุณเคนริวจริงๆ นี่ตั้งแต่สู้มาคุณเคนริวยังไม่ได้ขยับออกจากที่เดิมเลยนะคะ” พิธีกรสาวให้ข้อสังเกต
และคงมีอีกหลายคนที่ดูอยู่ในที่สาธิตนี้หลงรักลีลาการต่อสู้ของเคนริวถึงขนาดอยากจะออกไปรับภารกิจเผ่ามังกรซะเดี๋ยวนั้น แม้แต่มาตาร์เอง
‘เท่สุดตรีนเลยพี่เคนริว ขอผมสมัครเป็นแฟนคลับพี่หน่อยเถอะคร้าบ’ มาตาร์คิดด้วยดวงตาใสแป๋ว
ในขณะนั้นเอง เคนริวที่เคยยืนอยู่ที่เดิมก็พุ่งเข้าไปหามนุษย์หมาป่าที่เหลือ ระยะห่างกว่าสิบห้าเมตรถูกย่นเหลือเพียงแค่สองก้าว และดูเหมือนก้าวที่สองนั้นจะเร็วมากจนแทบจับตาดูไม่ทัน
เปรี๊ยะ!
หมัดที่เร็วจนมองไม่ทันต่อยเข้าร่างมนุษย์หมาป่าตัวหนึ่ง แต่กลับทำได้แค่ทำให้มนุษย์หมาป่าตัวนั้นยืนนิ่งไปเท่านั้น แต่ยังไม่ทันกระพริบตา นักสู้หนุ่มก็ลากร่างเจ้ามนุษย์หมาป่าตัวนั้นไปปะทะกับอีกตัว ทำง่ายๆเหมือนกับมันไม่มีน้ำหนัก ทั้งๆที่มันตัวใหญ่กว่าเขาเกือบเท่าตัว
มนุษย์หมาป่าสองตัวซ้อนติดกันแบบไม่ดิ้นรนขัดขืน นักสู้มังกรจับมนุษย์หมาป่าออกมาตัวหนึ่งในขณะที่อีกตัวหนึ่งก็ไม่ได้ขยับหนีไปไหน มันเพียงแต่ยืนนิ่งค้างไปเท่านั้น ส่วนมนุษย์หมาป่าอีกสองตัวไม่กล้าเข้าไปใกล้เขา
ตูม! ตูม!
นักสู้มังกรต่อยมนุษย์หมาป่าทั้งสองตัวออกไปกระแทกกับอีกสองตัวที่เหลือเหมือนกับเล่นบิลเลียด เจ้าตัวที่โดนต่อยทั้งคู่ตัวระเบิดออก ส่งผลให้ตัวที่โดนกระแทกต้องตายตามอย่างช่วยไม่ได้
แล้วมนุษย์หมาป่าทั้งสิบตัวก็หายไปจากลานต่อสู้
“หลายท่านคงจะสงสัยนะครับ ว่าเมื่อซักครู่เกิดอะไรขึ้นบ้าง” พิธีกรหนุ่มพูดขึ้นทำลายความสงบที่ผู้คนกำลังตื่นตะลึงกับความสามารถของนักสู้มังกรผู้นี้
“ผมจะเล่าตั้งแต่แรกเลยนะครับ” พิธีกรหนุ่มพูด
“เชิญค่ะ” พิธีกรสาวรับ
“คุณเคนริวพุ่งประชิดด้วยการสะท้อนพลังธาตุดินแบบเดียวกับที่ส่งพวกหมาป่ากลุ่มก่อนหน้านี้ขึ้นไปบนอากาศแหละครับ แต่คราวนี้ใช้ส่งตัวเองพุ่งเข้าไปประชิดเจ้ามนุษย์หมาป่า ซึ่งเราก็เห็นแล้วว่ามันเร็วมากๆ หลังจากนั้นคุณเคนริวก็ช็อตเจ้ามนุษย์หมาป่าด้วยพลังสายฟ้าจนมันนิ่งไป แล้วก็เอามันมาช็อตกับอีกตัวด้วย ที่ทุกท่านเห็นว่ามันไม่ขยับเพราะว่ามันโดนช็อตอยู่นั่นเองครับ แล้วหมัดปิดท้ายนั่น เป็นท่าเฉพาะของคุณเคนริว ‘หมัดมังกรสลายร่าง’ ที่ส่งผลให้เจ้าหมาป่าที่โดนต่อยสองตัว ร่างระเบิดออกมาน่ะครับ แรงระเบิดนั้นก็ทำให้อีกสองตัวตายตาม เหมือนกับคุณเคนริวโยนระเบิดไปให้เจ้าสองตัวหลังนั่นแหละครับ” พิธีกรหนุ่มบรรยายอย่างละเอียด
เหตุการณ์เมื่อสักครู่ บางคนก็มองตามไม่ทัน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่พอพิธีกรรายงาน ก็กลับส่งเสียงฮือฮากันใหญ่
“วอร์มอัพเสร็จแล้ว ต่อไปเป็นของจริงล่ะนะคะ” พืธีกรสาวพูด ทำเอาผู้คนฮือฮาเข้าไปอีก เพราะการกำจัดมนุษย์หมาป่าสิบตัวนั่น บางคนถึงขั้นเครื่องร้อนหรือไหม้ไปแล้วด้วยซ้ำ
ตึง! ตึง!
ยักษ์ตาเดียวเดินออกมาตัวหนึ่ง ขนาดมันสูงกว่าสิบเมตร ไม่ต่างจากตึกเดินได้เลยทีเดียว
พึบ! พึบ!
แถมยังมีสัตว์อสูรรูปร่างเหมือนคน แต่ตัวสีดำมีปีก และมีขนยุบยับขึ้นทั่วตัว กำลังบินอยู่
“ยักษ์ตาเดียวเป็นสัตว์อสูรที่มีร่างกายแข็งแกร่งมากนะคะ ส่วนมนุษย์ค้างคาวปีศาจเป็นสัตว์อสูรมีมีเวทมนตร์ด้วย ที่เค้าว่ากันว่าเผ่ามังกรแพ้ทางเวทมนตร์ เดี๋ยวเราจะได้เห็นกันค่ะว่าจริงรึเปล่า” พิธีกรสาวพูดเสียงใส
ยักษ์ตาเดียว | ระดับ184 |
มนุษย์ค้างคาวปีศาจ | ระดับ202 |
‘รถถังติดปืนกลแบบนี้จะสู้กันยังไงล่ะครับเนี่ย’ มาตาร์ต้องเดินเข้าไปใกล้ลานต่อสู้เพื่อเชคระดับของสัตว์อสูรสองตัวนั่น แล้วก็ลอบตื่นตกใจ
“แค่นี้ไม่พอมือเจ้าเคนริวหรอกนายว่ามั้ย” เสียงชายหนุ่มที่นั่งอยู่ใกล้รั้วพูดขึ้นมา ทำให้มาตาร์หันไปสนใจ
“อืม ก็นี่มันแค่การสาธิตนี่” ชายอีกคนที่นั่งข้างๆตอบ
มาตาร์สังเกตเห็นทั้งคู่ ซึ่งดูไม่เหมือนผู้เล่นมือใหม่เลย คนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดสีแดง ส่วนอีกคนชุดสีน้ำเงิน
‘ไอ้สองคนนี้กับคุณเคนริว ถ้าเดินด้วยกันก็เป็นแก๊งแม่สีเลยแฮะ’ มาตาร์คิดแล้วก็ขำ ก่อนจะกลับมานั่งข้างหลังสองคนนั่น
??? | ??? |
??? | ??? |
‘เอ๋? สำรวจไม่ได้ ทั้งคู่เลย’ มันเป็นความเคยชินของมาตาร์ตั้งแต่ได้เมนูสำรวจผู้คนมาเขาก็ชอบส่องคนไปทั่ว
“น้องชายสำรวจพวกเราไม่ได้หรอก พวกพี่มันเก๋าเกินไป ฮ่าๆๆ” ชายเสื้อแดงหันมาพูดกับมาตาร์ ในขณะที่เสื้อน้ำเงินอีกคนยังนั่งเฉยไม่สนใจ
“เอ๋? พวกพี่รู้ตัวด้วยเหรอครับ” มาตาร์ตกใจที่โดนจับได้ว่าเขาทำการสำรวจ
“ถ้าน้องมีวาสนาก็คงจะได้รู้ตัวบ้างหรอก ฮึๆๆ” ชายชุดแดงพูดเสร็จก็หันกลับไป
‘มันมีความสามารถที่ทำให้สำรวจไม่ได้ แล้วก็ความสามารถที่ทำให้รู้ตัวว่าถูกสำรวจด้วยเหรอเนี่ย’ มาตาร์คิดอย่างแตกตื่น
ตู้ม!!
มาตาร์ได้ยินเสียงก็หันไปมองที่ลานประลองทันที
ชายหนุ่มต้องตกใจเมื่อเห็นร่างของยักษ์ตาเดียวลอยขึ้นจากพื้นแล้วกลิ้งไปอีกสองสามตลบ
“เอาเข้าแล้วครับทักษะมังกรแปลง” พิธีกรชายพูดขึ้นมา
“ทักษะมังกรแปลงเป็นทักษะประจำเผ่ามังกรนะคะ เป็นทักษะที่เพิ่มสมรรถนะทางร่างกายนอกเหนือไปจากร่างกายที่แข็งแกร่งกว่าปกติอยู่แล้ว” พิธีกรสาวให้ข้อมูลเพิ่ม
ร่างของนักสู้มังกรตอนนี้เหมือนมีพลังอันแข็งแกร่งห่อหุ้มอยู่จนสามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า
มาตาร์ลอบคิดในใจ ‘เพิ่มแล้วเพิ่มอีกเหรอเนี่ย ขนาดไอ้ยักษ์นั่นถึงขั้นลอยได้เนี่ยนะ’
ฟู่! ฟู่!
ลูกไฟลอยมาจากอากาศเข้าโจมตีนักสู้มังกร
เป็นมนุษย์ค้างคาวปีศาจที่ปล่อยออกมา เคนริวกระโดดหลบไปมา ไฟสีเหลืองเขียวร้อนแรงจนคนที่นั่งอยู่รอบอัฒจันทร์รู้สึกได้
“ดูท่าว่าคุณเคนริวจะไม่มีท่าที่ใช้ต่อสู้ในระยะไกลนะคะ” พิธีกรสาวให้ข้อสังเกต
“เราต้องมาดูกันต่อไปครับ ว่าคุณเคนริวจะทำอย่างไร” พิธีกรชายก็ลุ้นตาม
พริบตานั้นนักสู้มังกรชุดเหลืองก็กระโดดพุ่งขึ้นจากลานประลองที่เต็มไปด้วยไฟ แต่ตำแหน่งที่เขากระโดดขึ้นมามันไม่ได้ใกล้กับจุดที่มนุษย์ค้างคาวปีศาจบินอยู่เลย
ทันใดนั้นนักสู้มังกรกลับเปลี่ยนทิศทางกลางอากาศ ร่างสีเหลืองพุ่งตรงเข้าไปหามนุษย์ค้างคาวปีศาจทันที
‘เหยียบอากาศ! ธาตุดินอีกแล้ว ...หรือว่าธาตุลมด้วยหว่า’ มาตาร์คิดเมื่อเห็นสิ่งที่เคนริวทำ
เปรี๊ยะ! ตุ้บๆๆๆๆๆ
จากหมัดแรกที่เข้าเป้ากลางลำตัวของเจ้ามนุษย์ค้างคาวปีศาจ ตามด้วยการขึ้นคร่อมกลางอากาศแล้วต่อยรัวเข้าไปจนทั้งคู่ร่วงลงมาสู่พื้นด้วยกัน
ตูมม!!!
จนถึงหมัดจบที่กระแทกใส่พื้น ทั้งหมดใช้เวลาเพียงพริบตาเท่านั้น ร่างอันทรุดโทรมของมนุษย์ค้างคาวปีศาจก็นอนอยู่ก้นหลุมที่ยุบตัวลงไป ไฟเริ่มมอดดับลง แล้วร่างของเจ้ามนุษย์ค้างคาวปีศาจก็สลายเป็นแสงไป
เจ้ายักษ์ที่ล้มกลิ้งลงไปตอนแรก เพิ่งจะรู้สึกตัวยืนขึ้นมาช้าๆ แต่ดูท่าทางยังคงมึนอยู่ เพราะมันยืนขึ้นมาอย่างยากเย็น
ฟู่ว! เปรี้ยง!
“โอ้วว! ออกมาแล้วครับหมัดมังกรทะยาน” พิธีกรชายรายงานอย่างตื่นเต้น
สิ่งที่มาตาร์เห็นก็คือ มีเงามังกรที่ตัวยาวเหมือนงูเลี้อยพันไปรอบๆหมัดของนักสู้หนุ่มก่อนจะเสยไปที่ร่างของยักษ์ตาเดียวนั่น เงามังกรและหมัดที่จมหายเข้าไปในร่างกาย ทำให้ร่างของยักษ์ตาเดียวค่อยๆมอดไหม้และลอยขึ้นมาจากพื้น ก่อนจะสลายไปกลางอากาศ เป็นภาพที่สวยงามเกินบรรยาย
“และนี่ก็คือเผ่ามังกรค่ะ” พิธีกรสาวกล่าวแสดงความชื่นชม
เฮ~ฮ!!
ผู้คนบนอัฒจันทร์โห่ร้องกันลั่นกับภาพความมันและการต่อสู้ของนักสู้มังกรหนุ่มผู้นี้
“และต่อไปเชิญชมการต่อสู้ของเผ่ามารค่ะ” พิธีกรสาวเชิญนักสู้คนต่อไปทันทีไม่มีเสียเวลา
เคนริวกระโดดออกมาจากลานต่อสู้ทันที ผู้คนทั้งหลายบนอัฒจันทร์ต่างมารายล้อมนักสู้มังกรราวกับเขาเป็นดาราขวัญใจ
ชายหนุ่มชุดเหลืองเดินช้าๆและผงกหัวรับผู้คนทั้งหลายมาตามทาง เข้าใกล้กับจุดที่มาตาร์นั่งอยู่เรื่อยๆ ก่อนจะเอามือไปปะกับชายคนที่ใส่ชุดแดงที่นั่งอยู่ข้างหน้ามาตาร์
“เปลี่ยนกันได้แล้ว” เคนริวพูดขึ้น
มาตาร์เห็นชายชุดแดงลุกขึ้น ถึงเขาจะไม่เห็นสีหน้า แต่ก็พอจะเดาได้ว่าใบหน้านั้นต้องยิ้มอยู่อย่างแน่นอน
ชายชุดแดงกระโดดผ่านรั้วเข้าไปที่ลานประลองอย่างแผ่วพริ้ว
“และนี่คือคุณดันเต้ครับ” พิธีกรชายแนะนำ
แล้วมาตาร์ก็เข้าใจทันทีว่าชายชุดแดงคนนั้นคือนักสู้เผ่ามาร ผู้สาธิตคนต่อไปนั่นเอง
Rewrite tag : แก้คำผิด
ความคิดเห็น