หมวด ห
หอกมันแทงมัน : หมายความว่า เอาผลที่ได้มาจากการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งนั้น เป็นเครื่องดำเนินต่อไปโดยไม่ต้องลงทุนใหม่ เช่น เอาเงินที่ได้จากการพนันเสี่ยงโชคนั้นลงไปเสี่ยงในการพนันต่อไป
หมากัดอย่ากัดหมา : หมายความว่า คนชั่ว คนชั้นต่ำ หรือพวกอันธพาลคิดร้ายหรือประทุษร้ายเราอย่างใดอย่าทำตอบ แต่ควรหลีกเลี่ยงไปเสีย
หมาเห่าใบตองแห้ง : หมายถึง คนที่ชอบเอะอะโวยวายเป็นที่อวดตัวว่า ตนเก่งกล้า แต่แท้จริงแล้วกลับเป็นคนขี้ขลาด ไม่กล้าเผชิญกับศัตรู เปรียบได้กับใบตองแห้งที่ติดกับต้นกล้วย เวลาลมพัดมามีเสียงดังแกรกกรากหมาได้ยินเข้าหน่อยก็มักจะเห่าส่งเดช
หมาเห่าไม่กัด : ความหมายอย่างเดียวกับ “ หมาเห่าใบตองแห้ง “ ตามที่สังเกตเอาว่า หมาที่เห่าเก่ง ๆ นั้นมักจะไม่กัด และหมาที่ชอบกัดนั้นมักไม่เห่าง่าย
หมาเห็นข้าวเปลือก : หมายถึง การได้เห็นแล้วอยากได้แต่ไม่มีทางที่จะได้ หรือเป็นประโยชน์แก่ตนเองจะโดยฐานะต่ำต้อยหรืออะไรก็ตาม สำนวนที่เอา ” หมา “ มาเปรียบนี้มีมาก แต่มักหมายไปในทางไม่ดี เช่น หมาหัวเน่า , หมาสองราง ฯลฯ
หมูจะหาม เอาคานเข้ามาสอด : หมายถึง การที่เข้าไปขัดขวางผลประโยชน์ หรือกิจการของคนอื่นที่เขากำลังจะสำเร็จอยู่แล้ว สำนวนนี้มีต่อท้ายด้วยว่า ” ผัวเมียเขาจะกอดเข้าไปข้างกลาง “ มีความหมายอย่างเดียวกัน
หวานนอกขมใน : หมายถึง การใช้คำพูดหรือแสดงกิริยาให้อีกฝ่ายเห็นว่า ดีต่อ แต่แท้จริงภายในจิตใจกลับตรงกันข้ามกับกิริยาและวาจา
หักด้ามพร้าด้วยเข่า : หมายความว่า ใช้วิธีบังคับหรือเตี่ยวเข็นเอาอย่างหักโหม ตามความต้องการของตนเอง โดยไม่คำนึงว่า จะเกิดผลเสียอย่างไรบ้าง ” พร้า “ หมายถึงมีดใหญ่ที่ใช้สับและฟัน คนสมัยก่อน ๆ มักจะใช้คำพูดควบกันไปว่า ” มีดพร้า “ และเป็นของประจำทุกครัวเรือน จึงมักจะนิยมเอามาผูกสำนวน
หัวมงกุฎท้ายมังกร : หมายถึง การทำอะไรที่ไม่เข้ากันหรือขัดกัน เช่น ประกอบอะไรขึ้นสักอย่างมีหัวกับท้ายหรือหางไม่เหมือนกัน หรือไม่กลมกลืนกัน สำนวนนี้มักมักพูดกันว่า ” หัวมงกุฎท้ายมังกร “ ไปเสียแท้จริงแล้วต้องเป็น ” มังกุ “ ไม่ใช่ ” มงกุฎ “ เพราะ ” มังกุ “ เป็นชื่อเรือต่อชนิดหนึ่ง และ ” มังกร “ ก็เป็นชื่อเรืออีกชนิดหนึ่งเหมือนกัน สำนวนนี้เอาเรือที่ประดิษฐ์หัวเรือและท้ายเรือ เป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ เช่น เรือหงษ์ เรือมังกร มาเปรียบ
หัวล้านนอกครู : สำนวนนี้ต่างกับคำว่า ” หัวล้านได้หวี “ เพราะหมายถึง คนที่ทำอะไรนอกแบบแผน หรือไม่ทำอย่างที่คนธรรมดาเขาปฏิบัติกันอยู่ทั่วไป โบราณมักจะเอาคนหัวล้านมาผูกเป็นประโยคสำนวน หรือคำพังเพยส่วนมาก เข้าใจว่า คนหัวล้านในสมัยนั้นคงมีพฤติการณ์อะไรแปลก ๆ หรือเป็นจุดเด่นให้สังเกตได้ง่ายก็อาจเป็นได้
หาเลือดกับปู : ความหมายอย่างเดียวกับสำนวนที่ว่า ” รีดเลือดกับปู ”
หาเหาใส่หัว : หมายความว่า หาความลำบากมาใส่ตัวเองหรือเอาเรื่องของคนอื่นมาเป็นเรื่องที่ทำให้เกิดความเดือดร้อนแก่ตัวเอง
หุงข้าวประชดหมา ปิ้งปลาประชดแมว : หมายความว่า การทำประชดหรือทำแดกดันที่กลับเป็นผลร้ายแก่ตนเอง เพราะธรรมดาแมวชอบกินปลา ถ้ายิ่งปิ้งปลาให้แมวกินแบบประชดมาก ๆ แมวก็ยิ่งชอบ แต่ตัวคนทำประชดจะต้องเสียผลมากขึ้น
เห็นกงจักรเป็นดอกบัว : หมายความว่า เห็นสิ่งที่ไม่ดีเป็นดี หรือเห็นผิดเป็นชอบ คำว่า ” กงจักร “ ซึ่ง หมายถึง ” ไม่ดี “ และ ” ดอกบัว ” ซึ่งหมายถึง ” สิ่งดี “ นั้น ได้เค้ามาจากนิทานชาดกเรื่อง ” มิตตวินทุชาดก “ เมื่อพระโพธิ์เสวยชาติเป็นเทวดาและลงไปเที่ยวในเมืองนรก ไปเห็นมิตตวินทุตกนรกมีกงจักรครอบอยู่บนหัวทรมานเจ็บปวด แต่พระโพธิสัตว์ กลับมองเห็นกงจักรเป็นดอกบัว มีสีสันสวยงาม ก็ออหกปากขอกงจักรนั้นมาสวมบ้างเป็นการทำให้มิตตวินทุสิ้นกรรม แต่ตัวพระโพธิสัตว์เองกลับต้องรับกรรมแทน
เห็นขี้ดีกว่าไส้ : หมายความว่า เห็นคนอื่นดีกว่าญาติพี่น้องของตน
เห็นเขาขึ้นคานนั่ง เอามือประสานรัดก้น : ความในสำนวนนี้ แปลว่า เห็นคนอื่นเขานั่งคานหาม มีคนหามไป ตัวเองก็เอามือประสานกันเข้า ช้อนใต้กัน เป็นทำนองว่า ตนก็นั่งคานหามเหมือนกันเป็นความหมายถึงการแสดงความทะเยอทะยาน ใฝ่สูงเกินศักดิ์ อยากจะทำตัวตามอย่างผู้สูงศักดิ์กับเขาบ้าง
เห็นช้างขี้ขี้ตามช้าง : สำนวนนี้ ความหมายอย่างเดียวกับ ” เห็นเขาขึ้นคานนั่ง เอามือประสานรัดก้น ”
เหยียบเต่าเต็มตีน : หมายความว่า ทำอะไรให้มั่นคงอย่าให้เกิดมีข้อผิดพลาดถึงเสียงานเสียการได้ สำนวนนี้ บางทีก็พูดว่า ” เหยียบเต่าสองตีน “ เป็นการทำให้เต่าดิ้นหลุดไม่ได้
เหยียบเรือสองแคม : หมายความถึง คนที่ทำอะไรไม่ซื่อตรง และเป็นคนเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว แม้จะยืนอยู่ข้างฝ่ายไหน ก็ยังละโมบไปเข้าด้วยอีกฝ่ายหนึ่ง อย่างมีเลห์เหลี่ยม โดยมุ่งแต่ประโยชน์ฝ่ายเดียว และการเอาตัวรอดเข้าไว้ก่อนอยู่เสมอ
หินดีเหล็กดี ตีทีเดียวก็ติด : สำนวนนี้ มุ่งหมายโดยเฉพาะถึงชายกับหญิง ซึ่งรักใคร่ได้เสียกัน ในทำนองที่ว่า แม้จะได้เสียกันเพียงครั้งเดียว ถ้าทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง มีความสมบูรณ์ทัดเทียมกันก็อาจทำให้หญิงเกิดตั้งครรภ์ได้ โดยไม่จำเป็นต้องสมสู่กันหลายครั้ง สำนวนนี้ เปรียบเอาหินไฟกับเหล็กมาตี เพื่อทำให้เกิดประกายไฟติดชุด คือนุ่นของคนในสมัยก่อน ๆ ซึ่งยังไม่มีไม้ขีดไฟใช้กันคือถ้าหินดีเหล็กดี ตีครั้งเดียวก็เกิดประกายไฟติดทำให้เป็นไฟขึ้นมาใช้ได้
หนามแหลมบ่มีคนเสี้ยม : สำนวนนี้ อธิบายไว้แล้วใน ” มะนาวกลมเกลี้ยง บ่มีคนกลึง ”
หน้าไหว้หลังหลอก : สำนวนนี้มีความหมายอย่างเดียวกับ ” ต่อหน้ามะพลับ ลับหลังตะโกน “ คือต่อหน้าทำดีแต่ลับหลังตรงกันข้าม
หว่านพืชหวังผล หมายถึง การลงทุนทำอะไรสักอย่างหนึ่ง ก็ย่อมจะต้องหวังผลประโยชน์ตอบแทน
หงายเก๋ง : แพ้ราบคาบ
หญ้าปากคอก : คุ้นจนมองข้าม
หนอนบ่อนไส : คนในบ้านหรือพวกเดียวกัน คิดทรยศ
หนอนหนังสือ : คนที่หมกหมุ่นอยู่กับตำรับตำรา
หนักแผ่นดิน : ไม่มีประโยชน์แก่ชาติบ้านเมือง
หนักเอาเบาสู้ : ขยันทำกิจการงานทุกชนิด ไม่เลือกงาน
หนังหน้าไฟ : รับความเดือดร้อนก่อนผู้อื่น
หน้าฉาก : ลักษณะท่าทีที่ปรากฎแก่คนทั่วไป
หน้าต่างมีหู ประตูมีช่อง : ความลับรักษาได้ยาก
หน้าเป็นม้าหมากรุก : หน้างอแสดงความโกรธ
หน้าเลือด : ชอบขูดรีดเอาแต่ได้
หน้าสิ่วหน้าขวาน : อยู่ในภาวะอันตราย เพราะอีกฝ่ายหนึ่งกำลังโกรธจัด
หน้าใหญ่ใจโต : ใจกว้างจนเกินเหตุ
หนามยอกอก : รู้สึกเหมือนมีอะไรมาทิ่มแทงใจอยู่ตลอดเวลา
หนีร้อมมาพึ่งเย็น : หนีทุกข์จากที่อื่น มาพึ่งที่ใหม่
หนูตกถังข้าวสาร : ชายที่ฐานะไม่ค่อยดี แต่งงานกับหญิงที่ร่ำรวย
หนูติดจั่น : จนปัญญา
หมดกระเป๋า : หมดเงิน ไม่มีเหลือ
หมดตูด : หมดเงิน ไม่มีเหลือ
หมดไส้หมดพุง : เปิดเผยเรื่องราวโดยละเอียด
หมองูตายเพราะงู : ทำหน้าที่อะไรมักจะได้รับภัยจากหน้าที่นั้น
หมอนกระแต : ไม่มีทางสู้
หมอบราบคาบแก้ว : ไม่มีทางสู้ ไม่ขัดขืน
หมาจนตรอก : ต่อสู้ทุกวิถีทาง
หมาในรางหญ้า : หวงในสิ่งที่ตนเองไม่ได้ใช้ประโยชน์
หมาหยอกไก : ทำพลางเล่นพลางจริง จริงหรือไม่จริงก็ได้
หมาหัวเน่า : เป็นที่รังเกียจของคนอื่น ไม่สามารถเข้ากับใครได้
หมาหางด้วน : คนที่ทำอะไรผิดพลาดจนได้รับความอับอาย แล้วชวนคนอื่นให้ทำตาม โดยยกย่องว่าสิ่งที่ทำนั้นดีควรทำตาม
หมาเห่าใบตองแห้ง : การกระทำเชิงข่มขู่ให้กล้ว
หมูในเล้า : สิ่งที่อยู่ในเงื้อมมือ
หมูไปไก่มา : ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ตอบแทนกันและกัน
หยิกแกมหยอก : เหน็บแนมทีเล่นทีจริง
หวานคอแร้ง : ง่าย สะดวก
หวังน้ำบ่อหน้า : หวังอย่างเลื่อนลอย
หอกข้างแคร่ : คนใกล้ชิดอาจจะคิดทำร้าย ขึ้มมาเมื่อใดก็ได้
หักลำ : ทำให้เสียท่า
หัวกระทิ : ดีเด่นเป็นพิเศษ
หัวกะไดไม่แห้ง : มีแขกมาเยือนอยู่เสมอ
หัวแก้วหัวแหวน : เป็นที่รักใคร่เอ็นดู
หัวชนกำแพง : สู้ไม่ถอย
หัวเดียวกระเทียมลีบ : คนเดียวไม่มีพวก
หัวนอนปลายตีน : หลักแหล่งที่อาศัย
หัวไม่วาง หางไม่เว้น : ถูกใช้งานหนัก อยู่ตลอดเวลา
หัวราน้ำ : ไม่ได้สติ
หัวเรือใหญ่ : คนที่ชอบออกรับแทนผู้อื่น
หัวหกก้นขวิด : เอาทุกอย่างเอาทุกทาง โดยไม่มีความหมาย
หัวหมอ : คนที่ชอบอ้างกฎหมายเพื่อประโยชน์ของตน
หัวหลักหัวตอ : สิ่งสำคัญที่เห็นเป็นสิ่งไม่สำคัญไป
หางเครื่อง : ผู้ที่มีความสำคัญน้อยที่สุดในหมู่คณะนั้น
หางแถว : ผู้น้อย ไม่มีความสำคัญ
หาเช้ากินค่ำ : หาได้พอประทังชีวิตไปวันๆ
หาตัวจับยาก : หาคนเทียบได้ยาก
หามรุ่งหามค่ำ : ตลอดวัน ตลอดคืน
หายเข้ากลีบเมฆ : หายลับไม่พบกันอีก
หายใจไม่ทั่วท้อง : เป็นหว่งกังวลด้วยความไม่สบายใจ
หาเศษหาเลย : หาประโยชน์เล็กๆ น้อยๆใส่ตัว
เห็นดำเห็นแดง : ถึงขั้นแตกหัก
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก
siamtower.com
baanjomyut.com
ความคิดเห็น