ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ๓ ๒ ๑... >> ที่มาของสุภาษิต สำนวน คำพังเพยไทย

    ลำดับตอนที่ #14 : หมวด ด

    • อัปเดตล่าสุด 9 ธ.ค. 52


    s03

    -ดูช้างให้ดูหาง  ดูนางให้ดูแม่ 
         สำนวนทำนองนี้  มีอยู่ด้วยกันหลายประโยค  และมีความหมายไปในทำนองเดียวกัน  เช่น  “  ดูวัวให้ดูหาง  ดูนางให้ดูแม่ “  ” ดูข้างให้ดูหน้าหนาว  ดูสาวให้ดูหน้าร้อน “  ดังที่ได้ยินได้ฟังมาบ้างแล้ว  แต่สำนวนที่ว่า  ” ดูช้างให้ดูหาง “  นี้  มุ่งให้ดูหางช้าง  ที่บอกลักษณะว่าเป็นช้างดีหรือช้างเผือก  เพราะที่ปลายหางของมันยังเหลือให้เห็นสีขาวอยู่ตามเรื่องที่เล่าว่า  เวลาช้างพังตกลูกเป็นช้างเผือกสีประหลาด  พวกช้างพลายและช้างพังจะช่วยกัน  ” ย้อม “  กลายลูกมันเสีย  ด้วยการใช้ใบไม้หรือขี้โคนดำ ๆ  พ่นทับ  เพื่อมิให้คนรู้ว่าเป็นช้างเผือกแล้วมาจับไป  หรืออย่างไรไม่แน่ชัด  แต่การย้อมลูกของมันด้วยสีเผือกให้เป็นสีนิลนั้น  ก็ยังเหลือร่องรอยอยู่อย่างหนึ่ง  คือที่ปลายหางเป็นสีขาว  เหตุนี้เขาจึงให้สังเกตลักษณะของช้างเผือกที่ตรงหางไว้เป็นหลักสำคัญ
    -ได้แกง  เทน้ำพริก
         เป็นสำนวนที่มีความหมายอธิบายง่าย ๆ เปรียบเทียบว่า  ได้ใหม่ลืมเก่านั่นเอง  มักจะใช้เป็นสำนวนเปรียบเปรยว่า  ผู้ชายเราที่ได้ภรรยาใหม่ก็ทิ้งเก่าไปเลย  คำว่า   ” น้ำพริก “  หรือ  ” น้ำพริกถ้วยเก่า “  เราจะหมายถึงภรรยาเก่าโดยเฉพาะ  เพราะ  ” น้ำพริก “  เป็นอาหารประจำวันของคนไทยเราที่ไม่มีการยักย้ายเปลี่ยนแปลงเหมือนแกงหรือผัด  และมักจะมีประจำเกือบทุกมื้อก็ว่าได้
    -ดอกกระดังงาไทย  ไม่ลนไฟไม่หอม
         ตามความหมายของสำนวนอย่างหนึ่งว่า  สิ่งใดก็ตามถ้าปล่อยทิ้งไว้เปล่า ๆ หรือไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็เป็นสิ่งธรรมดาไม่ดีหรือไม่เลว  แต่ถ้าไปทำให้มีเรื่องขึ้น  กลับดูเหมือนจะทำให้ดีกว่าเก่ายิ่งขึ้นกว่าเดิม  ตามความหมายดังกล่าวนี้  เราจึงมักจะเอามาใช้เป็นสำนวนเปรียบเปรยว่า  หญิงสาวบางคนที่บริสุทธิ์นั้นดูเป็นสิ่งธรรมดาไม่มีอะไรเป็นจุดเด่นหรือแปลก  แต่ถ้าได้แต่งงานหรือมีสามีเสียครั้งหนึ่งแล้ว  เลิกร้างกันกลับกลายเป็น  ” แม่หม้ายเนื้อหอม “  ไปได้ เปรียบกับดอกกระดังงาไทย  เมื่อเอามาลนไฟด้วยเทียนขี้ผึ้งจะมีกลิ่นหอมแรงขึ้น
    -เด็ดบัวไม่ไว้ใย 
         หมายความว่า  ตัดสัมพันธุไมตรี  หรือ  ความเป็นมิตรสนิท  หรือเคยเป็นคนรักใคร่ชอบพอกันมาก่อน  อย่างชนิดที่ไม่ยอมคืนดีกัน  การที่เอาดอกบัวมาเปรียบก็เพราะเหตุที่ว่า  ดอกบัวนั้นถ้าเราหักก้านดอกลง  ตรงรอยหักมักจะมีเยื่อหรือใยก้านติดอยู่  ไม่ค่อยขาดจากกันง่าย  สำนวนนี้บางทีก็พูดว่า  ” เด็ดบัวอย่าเหลือใย “  หรือ  อีกสำนวนหนึ่งว่า  ” เด็ดปลีไม่มีใย “  ปลี  หมายถึงดอกของกล้วยหรือหัวปลี
    -เดินตามหลังราชสีห์  ดีกว่าเดินตามก้นสุนัข 
         ไม่ทราบที่มาของสำนวนนี้แน่ชัดนัก  แต่เข้าใจว่า  เป็นสำนวนที่เพิ่งเกิดขึ้นในยุคปัจจุบันนี้  หรือไม่มีนานมานี้นัก  จำได้ว่าอดีตนักศิลปินผู้หนึ่งซึ่งล่วงลับไปแล้ว  คือคุณเสน่ห์  โกมรชุนนำมาใช้เป็นมติของเขาครั้งหนึ่ง  สมันที่ร่วมวงกับพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง  ซึ่งเรืองอำนาจในสมัยนั้น  โดยถือคติยอมเป็นสมัคพรรคพวกของผู้มีอำนาจราชศักดิ์ดีกว่ายอมร่วมวงกับผู้ที่ปราศจากอำนาจราชศักดิ์หรือทรัพย์สิน
    -ได้กำจะเอากอบ
          เป็นสำนวนพังเพยธรรมดาที่เมื่อพูดก็รู้ความหมาย ซึ่งจะเหมือนกับสำนวนที่ว่า ได้คืบจะเอาศอก หรือได้ศอกจะเอาวา ความหมายในสำนวนเหมือนกัน ต่างกันคือ กำและกอบ เป็นคำบอกปริมาณ ส่วนคืบ ศอก หรือวา นั้นเป็นระยะ แต่มีสำนวนที่ตรงข้ามกันคือ “เสียกำช้ำกอบ” ทั้งนี้หมายความได้ทั้งสิ่งที่เป็นรูปธรรม เช่น เงินทอง ของใช้ หรือนามธรรม เช่น ชื่อเสียงเกียรติยศ ลาภสักการะต่างๆ
    -ดินพอกหางหมู
         สำนวนนี้โบราณเอาอาชีวะอย่างหนึ่งของผู้คนมาร้อยเรียงเป็นสำนวนเรื่องราวเพื่อบอกเป็นนัยหนทางชีวิตไว้ อาชีพอย่างนี้คืออาชีพเลี้ยงหมูขาย หรือแม้แต่มิได้เป็นอาชีพ บ้านเรือนก็มีหมูเลี้ยงไว้กินเศษอาหารบ้านละตัวสองตัว หมูนั้นชอบเย็น ชอบนอนโคลน ชาวบ้านก็มีปลัก (หล่ม) โคลนเอาไว้ให้หมูนอนเล่น หมูชอบแกว่งหาง หางหมูแกว่งไปโดนโคลนๆ ก็จับติดครั้งละเล็กละน้อย จนกลายเป็นก้อนโต บางตัวจับเป็นก้อนใหญ่ขนาดแกว่งหางไม่ได้เลยก็มี โบราณจึงอุปมาโคลนที่ติดหางหมูนี้เปรียบเทียบกับการทำงานของคน ที่ชอบสะสมทอดทิ้งงานคั่งค้างเอาไว้ไม่ยอมทำ จนมากมาย และในที่สุดก็ทำไม่ทันเกิดโทษต่อตนเอง
    -เดินตามหลังผู้ใหญ่หมาไม่กัด
         สำนวนคำพังเพยนี้เป็นนามธรรม การเดินตามหลังผู้ใหญ่โบราณหมายถึง ผู้ที่มีความสามารถ มีประสบการณ์ เคยทำการอย่างนั้นประสบความสำเร็จมาแล้ว ถ้าเอาตัวอย่างมาปฏิบัติตามก็จะประสบความสำเร็จได้โดยง่าย หมาไม่กัด ซึ่งหมายถึง จะไม่มีความล้มเหลวและปลอดภัย (สำนวนนี้มีผู้แก้ความหมายเป็นเชิงหยอกเอินว่า เดินตามผู้ใหญ่ หมาไม่กัดผู้ใหญ่ แต่จะกัดคนที่เดินตาม
    -ได้ทีขี่แพะไล่
         คำพังเพยสำนวนนี้เป็นคำโบราณสร้างขึ้นเพื่อเอาไว้เตือนใจคนที่จิตใจเหี้ยมโหด ไม่มีความรู้สึกสงสารคนที่เพลี่ยงพล้ำคอยจ้องซ้ำเติม โดยไม่มีจิตเวทนา คำพังเพยสำนวนนี้เขียนขึ้นจากเรื่องนิทานสุภาษิต เมื่อลิงขี่หลังแพะแสดงตัวเป็นปิศาจไล่เสือที่มาซุ่มจะกินวัวชาวบ้าน เสือตกใจวิ่งหนี ลิงก็ขี่หลังแพะวิ่งไล่ตาม
    -ได้คืบจะเอาศอก
          โบราณนำมาตราวัดความยาวมาผูกเป็นพังเพยเตือนใจคน ที่ว่าได้มาแล้วก็ยังไม่พอหวังจะเอาอีก เพราะมีความโลภเป็นทุนหนุนจิตใจ เรียกว่าได้ไม่พอ สูตรความยาวโบราณกล่าวถึงวิธีวัดไว้ว่า 12 นิ้ว เป็น 1 คืบ 2 คืบเป็น 1ศอก และ 4 ศอกเป็น 1 วา 20 วาเป็น 1 เส้น 400 เส้นเป็น 1 โยชน์ ดังนี้
    -เด็กเมื่อวานซืน
         โบราณผูกคำพังเพยนี้สอนคนที่รู้น้อยแต่ชอบอวดรู้ ว่าเป็นเด็กเมื่อวานซืน ประสบการณ์มีน้อย แต่ชอบเบ่งคุยโตโม้ว่าเรียนรู้ชั้นสูงรอบรู้ทุกอย่าง แต่เวลาตอบคำถามก็อึกอักตอบไม่ได้สักอย่าง
    -ดูข้าเมื่อใช้งาน ดูวงศ์วานเมื่อตกยาก
        โบราณสร้างคำพังเพยนี้เพื่อใช้ประกอบในการสังเกตดูคน ผู้ที่ทำหน้าที่คนรับใช้ (ข้า หรือขี้ข้า)ต้องดูที่การทำงานตามที่สั่งว่ามีความขยันขันแข็ง และงานออกมาเรียบร้อยเพียงใด เช่นกัน เมื่อจะดูว่าวงศาคณาญาติพี่น้องจะช่วยเหลืออย่างไรหรือไม่ ก็ให้ดูตอนที่ตัวเรามีความเดือดร้อน หรือตกยากต้องไปขอความช่วยเหลือเมื่อใด ก็จะเห็นธาตุแท้ของพวกเขาเมื่อนั้น
    -ดีดลูกคิดรางแก้ว
         โบราณนำเครื่องมือในการคิดเลขของคนจีน คือลูกคิดมาเป็นเครื่องเปรียบเปรยถึงความคิดของคน ลูกคิดรางแก้วนั้นก็คือการคิดที่จะได้อย่างเดียว ซึ่งถือเป็นความคิดที่มุ่งจะได้ประโยชน์โดยไม่คำนึงถึงคุณธรรมใดๆ ทั้งสิ้น
    -ดักลอบต้องหมั่นกู้ เป็นเจ้าชู้ต้องหมั่นเกี้ยว
         เมื่อเห็นคำพังเพยสำนวนนี้ก็ทายได้ว่า โบราณต้องการจำแนกให้เห็นความมานะพยายามของคนที่เมื่อประสงค์จะทำสิ่งใดก็ตาม โดยยกเอาเครื่องมือจับปลาที่เรียกว่า “ลอบ” มาเปรียบเทียบว่า การดักลอบ ถ้าไม่หมั่นกู้ ก็อาจจะไม่ได้ปลา เพราะจะมีคนมายกลอบปลาเอาไปเสียก่อน เพราะเห็นว่าไม่มีเจ้าของลอบสนใจ เฉกเช่นนักเลงเจ้าชู้ เมื่อประสงค์จะเกี้ยวสาวคนใดก็ต้องใช้ความพยายามในการที่จะไป “เทียวไล้เทียวขื่อ” ประเภท “ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลกได้” เช้าเสนอหน้า เย็นเสนอหน้า รับรองว่าใจสาวเจ้าต้องมีวันอ่อน ส่วนเจ้าชู้คนนั้นจะรักจริงหวังแต่งหรือไม่นั้นเป็นไปแล้วแต่บุญกรรม
    -ดอกพิกุลร่วง
         เรียกอาการที่นิ่งไม่พูดว่า กลัวดอกพิกุลจะร่วง
    -ดาบสองคม
          มีทั้งคุณและโทษ, อาจดีอาจเสียก็ได้
    -ดาวล้อมเดือน
         มีบริวารแวดล้อมมาก
    -ดำดิน
         หลบหายไป, หายไปไหนไม่รู้ร่องรอย
    -ดีดลูกคิด
         คำนวณผลได้ผลเสียหรือกำไรขาดทุนอย่างละเอียด
    -ดูตาม้าตาเรือ
          พิจารณาให้รอบคอบ (มักใช้ในความปฏิเสธ) เช่น ไม่ดูตาม้าตาเรือ
    -เด็กอมมือ
         ผู้ไม่รู้ประสีประสา
    -เด็ดดอกไม่ไว้ขั้ว
         ตัดขาด, ตัดญาติขาดมิตรกันเด็ดขาด, มักใช้เข้าคู่กับเด็ดบัวไม่ไว้ใย ว่า เด็ดดอกไม่ไว้ขั้ว เด็ดบัวไม่ไว้ใย
    -เด็ดดอกไม้ร่วมต้น
         เคยทำบุญกุศลร่วมกันมาแต่ชาติก่อน จึงมาอยู่ร่วมกันในชาตินี้, เก็บดอกไม้ร่วมต้นก็ว่า
    - เด็ดปลีไม่มีใย
          ตัดขาด, ตัดญาติขาดมิตรกันเด็ดขาด, เด็ดบัวไม่ไว้ใย ก็ว่า
    -ได้หน้าได้ตา
          

    ได้เกียรติ, ได้ชื่อเสียง

    ขอบคุณที่มาข้อความ
    st.ac.th
    siamtower.com
    9bkk.com
    ขอบคุณที่มารูปภาพ
    siamtower.com

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×