ตอนที่ 4 : บทที่ 3 : หน้าที่ของผู้การและการตัดสินใจ
บทที่ 3 : หน้าที่ของผู้การและการตัดสินใจ
“อะโอ้ย….มึนหัวไปหมดเลยแหะ จะว่าไปเมื้อกี้เราโดนหนังสือปาใส่นี้นา….ว่าแต่ที่นี้ที่ไหน”
ลิเคะค่อยๆดันตัวลุกขึ้นนั่งจากโซฟาที่เขานอนอยู่ ภายในห้องที่เขานอนอยู่นั้น เป็นห้องที่ดูหรูหราพอสมควร มีโต๊ะตัวหนึ่งคล้ายๆโต๊ะทำงานของผู้บริหารพร้อมเก้าอี้นวม รอบๆห้องมีชั้นหนังสือที่เต็มไปด้วยหนังสือมากมายด้านหลังโต๊ะเป็นประตูกระจกที่พอเปิดออกไปก็จะเป็นระเบียงที่สามารถมองเห็นท่าเรือและทะเลได้
“อะอ้าว...ตื่นแล้วหรอคะผู้การ ที่นี้คือห้องทำงานของผู้การนะคะ”
เล็กชิงตันเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง เธอแต่งกายด้วยชุดที่คล้ายชุดนักเรียนผู้หญิงของญี่ปุ่น กระโปรงเป็นกระโปรงสั้นแค่ต้นขามีสีน้ำเงินเข้ม เสื้อเป็นเสื้อเอวลอยมีผ้าผูกคอสีแดงทับด้วยปกของเสื้อสีดำ ถุงเท้าของเธอมีสีขาวยาวถึงต้นขา ใส่ถุงมือสีขาวยาวเลยข้อศอก รองเท้าเป็นรองเท้าบู๊ธส้นสูงสีดำยาวถึงหน้าแข้ง พร้อมกับใส่หมวกคล้ายหมวกของผู้การ
ผมของเธอเป็นสีบลอน ปล่อยผมยาวไปตามธรรมชาติ ที่ปลายผมมีเหมือนที่มัดผมรูปทรงคล้ายกับสมอเรือติดไว้อยู่ ตาสีฟ้าอ่อนคล้ายกับน้ำทะเล เธอเดินเข้ามาด้วยสีหน้าไม่ค่อยพอใจสักเท่าไร
“ส่วนผู้หญิงคนนี้คือคนที่ปาหนังสือใส่ผู้การเองล่ะค่ะ เธอชื่อว่าเอนเทอร์ไพรซ์ หรือเรียกเธอง่ายๆว่า เอนจัง ก็ได้นะค่ะ”
เล็กชิงตันพูดขึ้นพร้อมกับยื่นมือไปทางเอนเตอร์ไพรซ์
“นี้เล็กชิงตัน!! ชั้นบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเรียกชั้นด้วยชื่อนั้น ถ้าจะเรียกหน่ะให้เรียกชื่อชั้นไปเลย หรือจะให้ชั้นเรียกเธอว่า หญิงเล็ก มั่งล่ะ”
เอนเตอร์ไพรซ์บ่นพลางแถมเหล่ตามองเล็กชิงตันที่ดูเหมือนจะโดนแทงใจดำติดสตั้นไปเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่เล็กชิงตั้นจะเปลี่ยนเรื่องพูด
“อะเอาล่ะ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่าค่ะ ชั้นขอแนะนำผู้หญิงคนนี้อีกรอบนะคะ ผู้หญิงคนนี้ชื่อว่า เอนจั...เอ้ย เอนเตอร์ไพรซ์ เป็นเรือธงแห่งกองเรือที่ 7 ที่ประจำการอยู่ที่เกาะแห่งนี้ค่ะ”
“หน้าที่หลักของชั้นคือชั้นก็เหมือนกับผู้การนั้นล่ะ ดูแลกองเรือ เซ็นเอกสารต่างๆ อนุมัติโน้นนี้นั้น อะไรก็ว่าไปแต่นั้นเป็นตอนผู้การไม่อยู่ แต่ตอนนี้นายก็มาแล้วชั้นก็ไม่ต้องทำอะไรพวกนั้นแล้วล่ะ ที่เหลือก็แค่คอยสั่งการกองเรือยามที่ออกไปรบแค่นั้นเอง”
“อะเออ..เอนจัง แล้วที่บอกว่าทำหน้าที่เหมือนกับผมแสดงว่าผมก็ไม่ต้องทำอะไรแล้วหน่ะสิ”
ลิเอะพูดขึ้นมาด้วยความดีใจ แต่เอนเตอร์ไพรซ์กลับเดินเข้ามาพร้อมเขกหัวลิเอะไปหนึ่งที พร้อมกับเอนตัวมาและเริ่มบ่น
“ใครว่าล่ะ นายนี้เป็นผู้การจริงๆรึเปล่านิ ชั้นบอกไว้ว่าตอนผู้การไม่อยู่ถึงจะทำแทนโว้ยย!!! มาถึงวันแรกก็คิดจะหาเรื่องอู้เลยงั้นเรอะ ใช้ไม่ได้ๆ งั้นชั้นจะบอกให้ฟังเลยนะว่าหน้าที่ของผู้การอย่างนายหน่ะคืออะไร ตามมานี้!!”
พอพูดจบ เอนเตอร์ไพรซ์ได้ลากลิเอะให้ลุกจากโซ ฟา และจูงมือเขาเดินไปออกจากห้องผู้การ เดินไปจนถึงบอร์ดที่ติดรูปพร้อมรายชื่อของคนที่ประจำการอยู่ในฐานแห่งนี้ ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นผู้หญิง ซึ่งเดาได้ว่าเป็นสาวเรือรบที่อยู่ที่ฐานแห่งนี้ เอนเตอร์ไพรซ์ได้ดันให้ลิเอะยืนอยู่หน้าบอร์ดนั้น และชี้ให้ดู
“นายเห็นนี้ไหม นี้คือรูปและรายชื่อของทุกคนที่อยู่ในฐานแห่งนี้ ทุกคนหน่ะเขาหวังว่าจะรอดจากสงครามครั้ง ไม่มีใครอยากจะตายโดยทิ้งคนข้างหลังไว้ให้ห่วงหรอก หน้าที่ของนายหน่ะ เป็นหน้าที่อันใหญ่หลวงและภาระอันหนักอึ้ง ที่นายไม่สามารถโยนภาระนั้นไปให้คนอื่นได้ นั้นก็คือการพาทุกคนที่นายเห็นนั้นกลับบ้านไปหาคนรักให้ปลอดภัยให้จนได้!!”
“แค่นั้นหรอ….”
ลิเอะพูดขึ้นมาอย่างไร้อารมณ์
“ไอ้ผู้การคนนี้นิ!!!”
พอพูดจบเอนเตอร์ไพรซ์ก็ได้เขกหัวลิเอะไปอีกทีนึงก่อนจะเริ่มด่าลิเอะไปอีกรอบนึง
“ไอ้ที่ชั้นพูดไปนี้ไม่เข้าหัวนายเลยรึไงห่ะ!! นายไม่เข้าใจใช่ไหมว่าที่ชั้นพูดไปหน่ะมันหมายถึงอะไร นายไม่เข้าถึงความรู้สึกของพวกเธอเลยรึไง ถ้านายไม่อยากทำก็ไม่เป็นไร ชั้นยินดีที่จะหาคนอื่นมาเป็นผู้การแทนนายก็ได้ ชั้นให้เวลานายคิดถึงพรุ่งนี้เท่านั้น คิดให้ดีล่ะ”
พอเอนเตอร์ไพรซ์พูดจบ เธอก็เดินหนีไปทางอู่ซ่อมบำรุงพร้อมกับทิ้งให้ลิเอะยืนงงอยู่ตรงนั้นคนเดียว
ครู่ต่อมาใหญ่ๆ ณ ห้องผู้การ
“อ่ะอ้าว...คุณผู้การค่ะ คุณเอนเตอร์ไพรซ์พาคุณไปทำอะไรหรอค่ะ”
ทันทีที่ลิเอะเดินมาถึงห้องผู้การก็เป็นเวลาเย็นแล้ว เล็กชิงตันเดินเข้ามาถามถึงสาเหตุที่ลิเอะหายไปด้วยความเป็นห่วง
“อะอ่อ...ไม่มีอะไรหรอก กะก็แค่เดินไปคุยไปเรื่องทั่วๆไปหน่ะ ไม่มีอะไรหรอก”
ลิเอะพยายามพูดกลบเกลื่อนพลางเอามือเกาหัวตัวเอง แต่เล็กชิงตันได้จ้องเขม่นเหมือนจะพยายามจะบอกอะไรบอกบางอย่างกับเขา
“คุณผู้การคะ...ถ้ามีอะไรก็บอกเล็กชิงตั้นได้นะคะ ไม่ต้องมาปิดบังกันเลยค่ะ ชั้นหน่ะ...แอบตามคุณผู้การกับเอนจังออกไป ก็เลย….ได้ยินทุกอย่างที่พวกคุยคุณกันหน่ะค่ะ”
เล็กชิงตั้นค่อยๆเอ่ยขึ้นมาเบาๆแต่แฝงไปด้วยความเป็นห่วงที่สามารถรับรู้ได้จากสีหน้าของเธอ ก่อนจะค่อยๆเดินเข้ามาหาลิเอะจนทั้งคู่ยืนห่างกันเพียงไม่กี่เซน เล็กชิงตั้นค่อยๆกุมมือของลิเอะขึ้นมาและพูดขึ้นมาอย่างเบาๆ
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าผู้การจะเป็นคนยังไง หรือไม่ว่าเล็กชิงตั้นคนนี้จะเป็นตายยังไง ชั้นจะเคียงคู่ผู้การเสมอนะคะ ขอเพียงแค่ผู้การไม่สบายใจอะไร ก็บอกเล็กชิงตั้นมาเลยนะคะ ไม่ต้องเก็บมันไว้คนเดียวนะคะ คุณผู้การไม่จำเป็นต้องแบกมันไว้คนเดียวนะคะ
ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใด เล็กชิงตั้นก็พร้อมที่จะช่วยผู้การเสมอค่ะ”
พอเธอพูดจบก็เหมือนกับมีสายลมอ่อนๆพัดเข้ามาทำให้เส้นผมของเล็กชิงตั้นค่อยๆพริ้วไหวไปตามสายลม หลังจากนั้นลิเอะก็ได้เล่าเรื่องราวทุกอย่างตอนที่เขาถูกเอนเตอร์ไพรซ์ลากออกไปจนถึงเขาเดินกลับมาที่ห้อง เล็กชิงตั้นก็นั่งฟังโดยไม่พูดหรือไม่ทำอะไรเลยแม้แต่นิดเดียวราวกับว่าเรื่องที่เธอกำลังฟังอยู่นั้นเป็นเรื่องสำคัญก็มิปาน
“ยังงั้นเองหรอคะ...ถ้ายังงั้นคุณผู้การได้ตัดสินใจแล้วหรือยังล่ะคะ”
ทันทีที่ลิเอะเล่าเรื่องทุกอย่างจบลง เล็กชิงตันก็ได้เอ่ยถามขึ้นมาเบาๆ
ลิเอะยิ้มก่อนจะกุมมือเล็กชิงตั้นและตอบคำถามของเธอ
“คิดไว้แล้วล่ะนะ...ถ้าไม่ได้เธอช่วยนั่งฟังและทำให้ชั้นคนนี้คิดได้ ต่อให้ตายยังไงชั้นก็คงตอบไม่ได้หรอก ยังไงก็ขอบคุณนะ”
เล็กชิงตั้นหน้าแดงขึ้นเล็กน้อยก่อนยิ้มและขานกลับมาสั้นๆแต่น้ำเสียงของเธอเหมือนเต็มไปด้วยความสุข
“....คะ….”
เช้าวันต่อมา ณ ห้องผู้การ
“นี้!!!คุณผู้การ….หวังว่าชั้นคงจะได้คำตอบ….อ่ะเออ...เล็กซ์ ผู้การหายไปไหนหน่ะ”
เอนเตอร์ไพรซ์เปิดประตูห้องการเข้ามาอย่างแรงและตะโกนขึ้นมาอย่างดังแต่พบเพียงแค่เล็กชิงตั้นที่กำลังจัดเอกสารภายในห้องนั้นเพียงคนเดียว
“อ่ะคุณเอนเตอรไพรซ์ ตอนนี้คุณผู้การกำลังนั่งจิบชาอยู่ในสวนด้านหลังอาคารหน่ะ แล้วก็...คุณผู้การอยากจะพบเอนจังเป็นการส่วนตัวด้วยคะ
“งั้นหรอ ขอบคุณที่บอกนะเล็กซ์ อีกอย่าง...เลิกเรียกชั้นว่าเอนจังได้แล้วโว้ย!!!!”
เอนเตอร์ไพรซ์พูดด้วยน้ำเสียงเข้มก่อนที่จะวีนแตกในตอนท้าย สุดท้ายเธอก็เดินออกจากห้องผู้การและมุ่งหน้าไปที่สวนหลังอาคารบัญชาการ
สวนด้านหลังอาคารบัญชาการ มีลักษณะเหมือนกับสวนย่อมขนาดใหญ่ทั่วไป ที่มีต้นไม้ทั้งต้นไม้ใหญ่ ดอกไม้ชนิดต่างๆ จัดเรียงกันเป็นกลุ่มๆอย่างมีระเบียบ มีการปูอิฐเป็นทางเดินสำหรับเดินเล่นรอบๆสวนแห่งนี้ด้วย ใต้ต้นไม้ใหญ่บางต้นมีโต็ะและเก้าอี้สำหรับจัดวางในสวนอยู่ด้วย
ทันทีที่เอนเตอร์ไพรซ์เดินมาถึงสวนแห่งนี้ก็เห็นลิเอะกำลังนั่งดื่มชาและทานขนมอย่างเอร็ดอร่อย จนกระทั่งเธอเดินเข้าไปขัดจังหวะและลิเอะกล่าวทักเธอขึ้นมาก่อน
“อ้าว...ว่าไงเอนเตอร์ไพรซ์ วันนี้อากาศดีเนอะเหมาะสำหรับจิบชายามเช้าเนอะ”
“นายนี้ใจเย็นจังเนอะ หวังว่าคำตอบที่นายเตรียมไว้คงไม่ทำให้ชั้นผิดหวังนะเนี้ย”
พอทั้งคู่ทักทายกันพอหอมปากหอมคอ ลิเอะก็รินชาลงใส่แก้วก่อนที่จะยื่นให้เอนเตอร์ไพรซ์
เธอรับชาจากลิเอะก่อนที่จะค่อยๆยกดื่มอย่างช้าๆ ก่อนที่ลิเอะจะกล่าวขึ้นมาอีกครั้ง
“สำหรับคำตอบของคำถามเมื่อวานนะ ชั้นหน่ะจะแบกภาระเอง และสาบานว่าจะพาทุกคนกลับบ้านให้ได้”
“เห….ตัดสินใจได้ดีนิ หวังว่านายจะทำตามที่พูดได้นะ ชั้นถือว่านายเป็นผู้บัญชาการของชั้นแล้วนะอยฟ่าทำให้ผิดหวังล่ะ”
“ได้เลย ชั้นจะไม่ทำให้เธอผิดหวังแน่”
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็จับมือกันก่อนจะร่วมกันดื่มชาจนถึงช่วงสาย
“เห้อ~~~ ไม่คิดเลยนะว่าการตอบคำถามให้ถูกใจเอนเตอร์ไพรซ์มันจะกดดันขนาดนี้”
หลังจากเสร็จจากการดื่มชากับเอนเตอร์ไพรซ์ ลิเอะก็ได้ขึ้นมาที่ห้องผู้การและหย่อนตัวลงบนทันทีเล็กชิงตั้นก็มองลิเอะพลางหัวเราะเบาๆก่อนจะเอ่ยขึ้นมา
“ยังไงเล็กชิงตั้นก็ยินดีกับผู้การด้วยนะคะ ที่เอนเตอร์ไพรซ์ยอมรับในตัวคุณผู้การแล้วนะคะ”
“ท่านพี่คะ!!! เอกสารด่วนค่ะ!!!”
ทันใดนั้นประตูห้องผู้การก็เปิดออกพร้อมกับซาร่าที่กำลังเหนื่อยหอบ ในมือของเธอมีกระดาษใบนึงอยู่ เล็กชิงตั้นรีบวิ่งไปพยุงให้เธอมานั่งบนโซฟาก่อนที่จะหยิบกระดาษใบนั้นขึ้นมาอ่าน เล็กชิงตั้นเปลี่ยนสีหน้ากังวลขึ้นมาทันตาเห็น
“มีอะไรหรอเล็กชิงตัน”
ลิเอะที่เห็นสีหน้าของเล็กชิงตั้นเปลี่ยนไปเกิดอาการสงสัยจึงได้เอ่ยถามขึ้น
“เอกสารขอกำลังสนับสนุนค่ะ เนื่องจากทางออสเตรเลียได้ตรวจพบกับกองเรือทะเลลึกจำนวนมากที่บริเวณทะเลคอรัล เลยส่งเอกสารขอกำลังเสริมมาถึงเราล่ะค่ะ ขอให้ท่านผู้การพิจารณาถึงเรือที่จะส่งไปด้วยนะคะ”
จบบท
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

5 ความคิดเห็น
-
#3 Zander Pipo Sophonchai (จากตอนที่ 4)วันที่ 10 ตุลาคม 2559 / 17:39รอคอย มานานแสนนาน //พูดเสร็จแล้วจัด 2CV 2BB 1CA 1CLT 555ขำๆนะครับ#31