ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    + + + The Last Year + + +[Draco&Hermione] by Sandy Weasel

    ลำดับตอนที่ #9 : CHAPTER 9 +++Uninvited News+++

    • อัปเดตล่าสุด 12 ส.ค. 54


     ทางด้านของมัลฟอย เขาให้ความโกรธเข้าครอบงำอย่างไม่ลืมหูลืมตา เขาไม่รู้สึกแม้แต่น้อยถึงแรงขัดขืน 

    แรงผลัก แรงข่วน ที่ระดมเข้าใส่ตัวเขา จนกระทั่งทุกอย่างหยุดลง 
    เหลือเพียงเสียงสะอื้นเบาๆจากร่างที่บอบช้ำทั้งกายและใจ สติสัมปะชัญญะของเขาคืนกลับในทันที 
    ความรู้สึกถึงหน้าที่ เกียรติยศ และศักดิ์ศรีของตระกูลทำให้เขาไม่สามารถเดินหน้าไปได้มากกว่านี้ 
    เขาหยุดและเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าเรียวที่บัดนี้เปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา 
    ดวงตาสีน้ำตาลที่เคยมีประกายสดใส กลับเลื่อนลอยไร้จุดหมาย 
    เขามองเธอด้วยความรู้สึกผิดกับการกระทำที่เพิ่งผ่านพ้นไป แต่ก่อนที่เขาจะเอ่ยคำขอโทษออกมา 
    เขากลับลุกขึ้นและหันหลังให้เธอ หยิบแก้วไวน์จากโต๊ะใกล้โซฟามาถือไว้ในอุ้งมือ
    " ไปนอนซะ เกรนเจอร์ ไปซะ...อย่ามาให้ชั้นเห็นหน้า เธอไม่มีค่าพอที่ชั้นจะลงไปยุ่งด้วย
    " เสียงที่เขาบังคับตัวเองให้พูดออกมา มันแปร่งเหมือนไม่ได้มาจากปากของเขา 
    แต่ร่างบางที่ถูกทิ้งไว้กลางพื้นหินอ่อนยังไม่ขยับ เขารับรู้ได้โดยไม่ต้องหันกลับมามอง
    " ไม่ได้ยินรึไง.....ไปซะ " เขาตะคอกใส่ทั้งที่ยังหันหลังให้กับเธออยู่ 
    ร่างนั้นขยับลุกขึ้นและออกวิ่ง พร้อมกันนั้นก็มีเสียงแก้วแตกดังมาจากห้องที่เธอเพิ่งจะวิ่งออกมา
    เฮอร์ไมโอนี่วิ่งออกมาโดยที่ไม่รู้จุดหมาย เธอขอแค่ให้ออกมาห่างจากห้องที่มีเขาอยู่ด้วยเป็นพอ 
    มือของเธอกำปกเสื้อเชิ้ตที่หลุดลุ่ยตลอดความยาวของมันไว้แน่น น้ำตายังคงไหลเปรอะสองข้างแก้ม
    เธอวิ่งออกมาหยุดอยู่กลางห้องโถงที่ประดับประดาด้วยแชนเดอร์เลียคริสตอลขนาดใหญ่ 
    เธอหันมองไปมารอบตัวเพื่อหาใครซักคนที่จะมาคอยช่วยนำทางเธอ 
    และราวกับว่ามีใครสามารถอ่านความคิดของเธอออก เอลฟ์หญิงตัวหนึ่งก็ปรากฏกายออกมาตรงหน้าเธอ
    " เชิญทางนี้ดีกว่าค่ะคุณผู้หญิง "
    เอลฟ์ตัวนั้นเดินนำโดยไม่ได้ทำท่าสนใจสภาพของเธอในขณะนี้ ทำให้เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกขอบคุณมันอยู่ในใจ 
    ที่มันไม่เอ่ยปากถามถึงเรื่องที่เพิ่งผ่านมาหรือยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเธอ 
    เพราะตอนนี้เธอไม่ต้องการที่จะคิดหรือพูดถึงมันเลยแม้แต่น้อย

    เมื่อเอลฟ์พาเดินขึ้นไปยังห้องนอนขั้นบน เฮอร์ไมโอนี่ก็วิ่งเข้าไปทันทีโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น 
    เธอวิ่งผ่านเตียงสี่เสา โต๊ะไม้พร้อมเก้าอี้เขียนหนังสือ และเตาผิงที่มีไฟติดท่อนซุงอยู่เพียงริบหรี่ 
    เข้าไปยังประตูไม้หนาหนักที่อยู่ริมห้องด้านใน เธอรีบถอดเสื้อเชิ้ตและบิกินนี่ออกอย่างรวดเร็ว
    แล้วก้าวเข้าไปใต้ฝักบัวที่เพิ่งเปิดไว้แรงสุด 
    เธอเอาฟองน้ำที่วางอยู่ใกล้ตัวมาขัดทุกซอกทุกมุมอย่างรุนแรงจนผิวของเธอแดงเป็นปื้น 
    เธอขัดไปมาอยู่อย่างนั้นราวกับว่ามันจะลบร่องรอยของสัมผัสทุกอย่างจากผู้ชายคนนั้นออกจากความนึกคิดของเธอ
    ได้ จนกระทั่งเธอหมดแรง 
    เฮอร์ไมโอนี่ทรุดตัวลงนั่งกอดเข่าอยู่บนพื้นห้องน้ำปล่อยให้สายน้ำไหลผ่านตัวของเธอไปเรื่อยๆพร้อมกับน้ำตา

    รุ่งขึ้น เฮอร์ไมโอนี่ลืมตาตื่นขึ้นเมื่อรู้สึกว่ามีใครบางคนเข้ามาอยู่ในห้องของเธอ 
    เธอรีบรวบผ้าห่มมาไว้แนบตัวตามสัญชาตญาณ 
    ในใจของเธอกลัวว่าคนที่จะเข้ามาอยู่ในห้องของเธอจะเป็นเจ้าชายแห่งสลิธิรินคนนั้น ผ้าม่านถูกรูดเปิดออก 
    แสงอาทิตย์ยามเช้าส่องผ่านเข้ามา ทำให้เธอเห็นบุคคลที่ปรากฏตัวในห้องของเธอ
    " ตื่นแล้วหรือคะ อรุณสวัสค่ะคุณผู้หญิง " เอลฟ์หญิงตัวเดิมหันมาทัก
    " อรุณสวัสจ๊ะ " เฮอร์ไมโอนี่ทักตอบด้วยความโล่งอก
    " นายน้อยให้คุณลงไปรับประทานอาหารเช้าข้างล่าง 
    และตอนเจ็ดโมงครึ่งให้ไปพบกันข้างหน้าบ้านเจ้าค่ะ "
    เอลฟ์บอกเธอขณะที่กำลังสาละวนกับการกวาดขี้เถ้าในเตาผิง
    " ขอบใจจ๊ะ " เธอตอบ ' ก็ดีแล้วที่ไม่ต้องเจอกันตอนทานข้าวเช้า ' เธอพูดกับตัวเอง
    เพราะถ้าเธออยู่กับเขาตามลำพังเธอคงจะทำหน้าไม่ถูกและคงไม่พ้นที่จะทะเลาะกันอีก

    หลังจากที่เธอรับประทานอาหารเช้าเสร็จ
    เธอก็มีเวลาส่วนตัวเล็กน้อยเพื่อเดินเล่นรอบๆวิลล่าของมัลฟอยโดยที่เธอไม่เห็นตัวเจ้าของบ้านเลยแม้แต่เงา
    จนใกล้เวลาเต็มที...เฮอร์ไมโอนี่จึงจำใจเดินไปพบมัลฟอยหน้าบ้าน เขายืนหันหลังให้เธอ 
    สองมือไพล่อยู่ด้านหลัง มือข้างหนึ่งและต้นแขนอีกข้างหนึ่งถูกพันไว้ด้วยผ้าพันแผลสีขาว 
    เขาอยู่ในกางเกงสามส่วนสีเขียวเข้มตัวเดิม ผมสีบลอนต์พริ้วสะบัดส่องประกายตามแรงลม
    เฮอร์ไมโอนี่พยายามอย่างยิ่งที่จะก้าวเท้าให้เบาที่สุด แต่เขาก็ยังได้ยินอยู่ดี 
    มัลฟอยหันกลับมามองหญิงสาวในเสื้อเชิ้ตตัวโคร่ง 
    ต้นขายาวเรียวผ่านพ้นชายเสื้อออกมาจนเหมือนกับว่าเธอใส่แค่เสื้อเชิ้ตเท่านั้น 
    เธอดูสมบูรณ์แบบไปหมดนอกเสียจากว่า ดวงตาของเธอบวมแดงเล็กน้อย 
    และเนื้อนวลเนียนที่เห็นได้จากรอยแหวกของปกเสื้อเชิ้ตนั้น 
    บัดนี้มีแต่รอยแดงเป็นจ้ำๆด้วยฝีมือของเขาเมื่อคืน
    เฮอร์ไมโอนี่มองตามสายตาของมัลฟอยที่มาหยุดอยู่ตรงปกเสื้อเชิ้ตที่ไม่ได้ติดกระดุมคอของเธอ 
    เธอรู้ว่าเนื้อตัวเธอนั้นช้ำเป็นจ้ำ เธอจึงรีบกำคอเสื้อให้ปิดมิดขึ้นไปถึงคอ 
    ให้พ้นจากดวงตาสีฟ้าซีดที่ซอกซอนเข้าไปในเสื้อผ้า 
    ซึ่งเธอรู้สึกเหมือนกับว่าดวงตาคู่นั้นสามารถมองทะลุผ่านเสื้อผ้าเข้าไปได้ 
    เธอส่งผ่านความเกรี้ยวโกรธตามสายตาไปให้เขา แต่สิ่งที่เธอได้ตอบกลับมานั้นก็คือ 
    ดวงตาสีฟ้าซีดที่ไม่แสดงความเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย 
    พร้อมกันนั้นเขายังเลิกคิ้วใส่เธอเป็นคำถามที่แปลออกมาได้ว่า " แล้วยังไงล่ะ เกรนเจอร์ 
    หรืออยากจะลองอีก "
    และก่อนที่ทั้งสองจะเริ่มทะเลาะกันด้วยการส่งคำสาปแช่งต่างๆนานาจากดวงตาที่ลุกไฟของเฮอร์ไมโอนี่และจาก

    ดวงตาที่เย็นชาโดยทำท่าท้าทายของมัลฟอย เสียงเปรี้ยงก็ดังขึ้นพร้อมร่างอ้วนป้อมของมิสเตอร์ปุชชี่
    "? Boungiorno Mr. Mulfoy " ( อรุณสวัสครับคุณมัลฟอย ) เขายื่นมือมาจับทักทายกับมัลฟอย
    " Boungiorno Mr. Pucci " ( อรุณสวัสครับคุณปุชชี่ )
    " อารุ้นซาวัดครับ มิสเกรนเจอร์ "
    เขาทักทายเธอด้วยภาษาอังกฤษสำเนียงแปร่งและรัวเร็วแบบคนอิตาลี่ เขาหันมายิ้มให้เฮอร์ไมโอนี่
    พร้อมกับยื่นมือมาจับทักทายกับเธอเช่นเดียวกัน
    " อรุณสวัสค่ะ มิสเตอร์ปุชชี่ " เธอยิ้มให้เขา
    " Pronto ? " ( พร้อมรึยังครับ )
    " Si " (? พร้อมแล้วครับ )
    มัลฟอยพยักหน้าตอบพร้อมกับยื่นมือมาจับกิ่งไม้ก้านเล็กๆที่คุณปุชชี่เพิ่งล้วงออกมาจากกระเป๋าเสื่อยื่นส่
    งมาให้ มัลฟอยส่งปลายกิ่งไม้ข้างนึงมาให้เฮอร์ไมโอนี่จับ
    " Tre...Due...Una... " ( สาม สอง หนึ่ง ) คุณปุชชี่นับ ตาจ้องมองที่นาฬิกาข้อมือ 
    แล้วทั้งเฮอร์ไมโอนี่และมัลฟอยก็รู้สึกถึงแรงกระตุกเหมือนมีตะขอมาเกี่ยวช่องท้องให้ไปด้านหน้าอย่างแรง

    ตุ๊บ.....ทั้งสองล้มลงมากองทับกัน 
    และแทบจะในวินาทีเดียวกันก็ลุกขึ้นแยกออกจากกันทันทีเหมือนเอามือไปแตะของร้อน 
    ทั้งสองกลับมาถึงฮอกวอตส์แล้ว และอยู่กลางห้องโถงใหญ่ที่มีนักเรียนรับประทานอาหารเช้าเต็มไปหมด 
    สายตาทุกคู่จึงจับจ้องมาที่พวกเขา 
    พร้อมกันนั้นเสียงวี้ดดังลั่นกับสายตาหวานเชื่อมจากกลุ่มเด็กสาวๆที่หลงไหลได้ปลื้มก็ถูกส่งมาให้ร่างกำยำ
    ที่สวมแต่กางเกงว่ายน้ำขาสามส่วน ทำให้มัลฟอยเร่งก้าวเท้าออกจากห้องอาหารไปในทันที 
    โดยมีแครบกอยล์และนักเรียนหญิงอีกสองสามคนซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือแพนซี่วิ่งตามเขาไป 
    ส่วนเฮอร์ไมโอนี่ที่ยืนงงอยู่นั้น จู่ๆก็มีคนเอาเสื้อคลุมนักเรียนมาคลุมไหล่ให้
    " เป็นไงมั่ง พวกเราเป็นห่วงเธอมากเลยนะเฮอร์ไมโอนี่ "
    แฮร์รี่ที่เดินเข้ามาพร้อมกับรอนถามอย่างเป็นห่วง
    " ไอ้ซีดมัลฟอยมันแกล้งเธอรึปล่าว " รอนหรี่ตาถามเธอ
    " ปล่าว " เธอพยายามปั้นหน้าให้น่าเชื่อที่สุด
    " อีกครึ่งชั่วโมงต้องเรียนกับเสนป รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อเถอะ 
    ก่อนที่ไอ้พวกเด็กผู้ชายแถวนี้จะเลือดกำเดาทะลัก " แฮร์รี่เอามือขยี้ผมเธอเบาๆ
    เขาหัวเราะและมองพวกผู้ชายที่กำลังจ้องเธออย่างไม่วางตา
    " มองอะไรน่ะพวกนาย หันกลับไปกินข้าวสิ "
    รอนหันไปคะคอกพร้อมส่งสายตาดุๆเหมือนเจ้าฟลัฟฟี่สามหัวใส่พวกนั้น

    สามสหายมาถึงหน้าคุกใต้ดิน
    " ถึงตอนนี้นะ ช้ันก็ยังไม่รู้ว่าเราสองคนผ่านเข้ามาเรียนกับสเนปตั้งแต่ปีหกได้ไง "
    แฮร์รี่บ่นอย่างเซ็งๆ
    " โถ่เอ้ย พวกนาย ถ้ายัยแพนซี่เรียนได้นะ พวกนายก็เรียนได้ 
    แต่ที่ชั้นแปลกใจที่สุดเห็นจะเป็นเนวิลล์ล่ะ "
    เฮอร์ไมโอนี่หันหน้าไปทางเนวิลล์ที่พยายามเดินเร่งขึ้นมาให้ทันพวกแฮร์รี่ 
    ยังไม่ทันที่พวกเขาจะทักเนวิลล์ ก็มีเสียงแหลมๆคุ้นหูลอยมาจากทางประตูคุกใต้ดิน
    " แต่ชั้นไม่แปลกใจกับเธอหรอกนะ ยัยเลือดสีโคลน พวกลูกรักดัมเบิลดอร์น่ะ
    ได้รับสิทธิพิเศษแบบนี้ประจำไม่ใช่หรอ " แพนซี่ยื่นหน้ายาวๆของเธอออกมาจากประตูคุกใต้ดิน 
    ทั้งสามและเนวิลล์ที่เพิ่งวิ่งมาถึงหันมามองเธอด้วยสายตาขุ่นมัว
    " ไม่มีใครขอความเห็นจากเธอเลยนะ ยัยหมาจู " เฮอร์ไมโอนี่เชิดหน้าตอบอย่างไม่ใส่ใจ
    " โอ๊ะ...โอ๊ะ...เกรนเจอร์ พอเริ่มดังอีกรอบก็หยิ่งทันทีเลยนะ "
    แพนซี่ทำหน้ารังเกียจใส่เธอ
    " เธอหมายความว่ายังไง " และยังไม่ทันที่เฮอร์ไมโอนี่จะได้รับคำตอบ 
    เสียงฝีเท้าดังสนั่นคุ้นหูก็ดังใกล้เข้ามา เด็กกริฟฟินดอร์ทั้งสี่หันมามองหน้ากันด้วยท่าทางตกใจสุดขีด
    " !!!!! สเนป !!!!! " ทั้งสี่อุทานออกมาพร้อมกัน 
    แล้วจ้ำอ้าวเข้าชั้นเรียนอย่างไม่คิดชีวิต
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×