คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : CHAPTER 9 +++Uninvited News+++
แรงผลัก แรงข่วน ที่ระดมเข้าใส่ตัวเขา จนกระทั่งทุกอย่างหยุดลง
เหลือเพียงเสียงสะอื้นเบาๆจากร่างที่บอบช้ำทั้งกายและใจ สติสัมปะชัญญะของเขาคืนกลับในทันที
ความรู้สึกถึงหน้าที่ เกียรติยศ และศักดิ์ศรีของตระกูลทำให้เขาไม่สามารถเดินหน้าไปได้มากกว่านี้
เขาหยุดและเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าเรียวที่บัดนี้เปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา
ดวงตาสีน้ำตาลที่เคยมีประกายสดใส กลับเลื่อนลอยไร้จุดหมาย
เขามองเธอด้วยความรู้สึกผิดกับการกระทำที่เพิ่งผ่านพ้นไป แต่ก่อนที่เขาจะเอ่ยคำขอโทษออกมา
เขากลับลุกขึ้นและหันหลังให้เธอ หยิบแก้วไวน์จากโต๊ะใกล้โซฟามาถือไว้ในอุ้งมือ
" ไปนอนซะ เกรนเจอร์ ไปซะ...อย่ามาให้ชั้นเห็นหน้า เธอไม่มีค่าพอที่ชั้นจะลงไปยุ่งด้วย
" เสียงที่เขาบังคับตัวเองให้พูดออกมา มันแปร่งเหมือนไม่ได้มาจากปากของเขา
แต่ร่างบางที่ถูกทิ้งไว้กลางพื้นหินอ่อนยังไม่ขยับ เขารับรู้ได้โดยไม่ต้องหันกลับมามอง
" ไม่ได้ยินรึไง.....ไปซะ " เขาตะคอกใส่ทั้งที่ยังหันหลังให้กับเธออยู่
ร่างนั้นขยับลุกขึ้นและออกวิ่ง พร้อมกันนั้นก็มีเสียงแก้วแตกดังมาจากห้องที่เธอเพิ่งจะวิ่งออกมา
เฮอร์ไมโอนี่วิ่งออกมาโดยที่ไม่รู้จุดหมาย เธอขอแค่ให้ออกมาห่างจากห้องที่มีเขาอยู่ด้วยเป็นพอ
มือของเธอกำปกเสื้อเชิ้ตที่หลุดลุ่ยตลอดความยาวของมันไว้แน่น น้ำตายังคงไหลเปรอะสองข้างแก้ม
เธอวิ่งออกมาหยุดอยู่กลางห้องโถงที่ประดับประดาด้วยแชนเดอร์เลียคริสตอลขนาดใหญ่
เธอหันมองไปมารอบตัวเพื่อหาใครซักคนที่จะมาคอยช่วยนำทางเธอ
และราวกับว่ามีใครสามารถอ่านความคิดของเธอออก เอลฟ์หญิงตัวหนึ่งก็ปรากฏกายออกมาตรงหน้าเธอ
" เชิญทางนี้ดีกว่าค่ะคุณผู้หญิง "
เอลฟ์ตัวนั้นเดินนำโดยไม่ได้ทำท่าสนใจสภาพของเธอในขณะนี้ ทำให้เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกขอบคุณมันอยู่ในใจ
ที่มันไม่เอ่ยปากถามถึงเรื่องที่เพิ่งผ่านมาหรือยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเธอ
เพราะตอนนี้เธอไม่ต้องการที่จะคิดหรือพูดถึงมันเลยแม้แต่น้อย
เมื่อเอลฟ์พาเดินขึ้นไปยังห้องนอนขั้นบน เฮอร์ไมโอนี่ก็วิ่งเข้าไปทันทีโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
เธอวิ่งผ่านเตียงสี่เสา โต๊ะไม้พร้อมเก้าอี้เขียนหนังสือ และเตาผิงที่มีไฟติดท่อนซุงอยู่เพียงริบหรี่
เข้าไปยังประตูไม้หนาหนักที่อยู่ริมห้องด้านใน เธอรีบถอดเสื้อเชิ้ตและบิกินนี่ออกอย่างรวดเร็ว
แล้วก้าวเข้าไปใต้ฝักบัวที่เพิ่งเปิดไว้แรงสุด
เธอเอาฟองน้ำที่วางอยู่ใกล้ตัวมาขัดทุกซอกทุกมุมอย่างรุนแรงจนผิวของเธอแดงเป็นปื้น
เธอขัดไปมาอยู่อย่างนั้นราวกับว่ามันจะลบร่องรอยของสัมผัสทุกอย่างจากผู้ชายคนนั้นออกจากความนึกคิดของเธอ
ได้ จนกระทั่งเธอหมดแรง
เฮอร์ไมโอนี่ทรุดตัวลงนั่งกอดเข่าอยู่บนพื้นห้องน้ำปล่อยให้สายน้ำไหลผ่านตัวของเธอไปเรื่อยๆพร้อมกับน้ำตา
รุ่งขึ้น เฮอร์ไมโอนี่ลืมตาตื่นขึ้นเมื่อรู้สึกว่ามีใครบางคนเข้ามาอยู่ในห้องของเธอ
เธอรีบรวบผ้าห่มมาไว้แนบตัวตามสัญชาตญาณ
ในใจของเธอกลัวว่าคนที่จะเข้ามาอยู่ในห้องของเธอจะเป็นเจ้าชายแห่งสลิธิรินคนนั้น ผ้าม่านถูกรูดเปิดออก
แสงอาทิตย์ยามเช้าส่องผ่านเข้ามา ทำให้เธอเห็นบุคคลที่ปรากฏตัวในห้องของเธอ
" ตื่นแล้วหรือคะ อรุณสวัสค่ะคุณผู้หญิง " เอลฟ์หญิงตัวเดิมหันมาทัก
" อรุณสวัสจ๊ะ " เฮอร์ไมโอนี่ทักตอบด้วยความโล่งอก
" นายน้อยให้คุณลงไปรับประทานอาหารเช้าข้างล่าง
และตอนเจ็ดโมงครึ่งให้ไปพบกันข้างหน้าบ้านเจ้าค่ะ "
เอลฟ์บอกเธอขณะที่กำลังสาละวนกับการกวาดขี้เถ้าในเตาผิง
" ขอบใจจ๊ะ " เธอตอบ ' ก็ดีแล้วที่ไม่ต้องเจอกันตอนทานข้าวเช้า ' เธอพูดกับตัวเอง
เพราะถ้าเธออยู่กับเขาตามลำพังเธอคงจะทำหน้าไม่ถูกและคงไม่พ้นที่จะทะเลาะกันอีก
หลังจากที่เธอรับประทานอาหารเช้าเสร็จ
เธอก็มีเวลาส่วนตัวเล็กน้อยเพื่อเดินเล่นรอบๆวิลล่าของมัลฟอยโดยที่เธอไม่เห็นตัวเจ้าของบ้านเลยแม้แต่เงา
จนใกล้เวลาเต็มที...เฮอร์ไมโอนี่จึงจำใจเดินไปพบมัลฟอยหน้าบ้าน เขายืนหันหลังให้เธอ
สองมือไพล่อยู่ด้านหลัง มือข้างหนึ่งและต้นแขนอีกข้างหนึ่งถูกพันไว้ด้วยผ้าพันแผลสีขาว
เขาอยู่ในกางเกงสามส่วนสีเขียวเข้มตัวเดิม ผมสีบลอนต์พริ้วสะบัดส่องประกายตามแรงลม
เฮอร์ไมโอนี่พยายามอย่างยิ่งที่จะก้าวเท้าให้เบาที่สุด แต่เขาก็ยังได้ยินอยู่ดี
มัลฟอยหันกลับมามองหญิงสาวในเสื้อเชิ้ตตัวโคร่ง
ต้นขายาวเรียวผ่านพ้นชายเสื้อออกมาจนเหมือนกับว่าเธอใส่แค่เสื้อเชิ้ตเท่านั้น
เธอดูสมบูรณ์แบบไปหมดนอกเสียจากว่า ดวงตาของเธอบวมแดงเล็กน้อย
และเนื้อนวลเนียนที่เห็นได้จากรอยแหวกของปกเสื้อเชิ้ตนั้น
บัดนี้มีแต่รอยแดงเป็นจ้ำๆด้วยฝีมือของเขาเมื่อคืน
เฮอร์ไมโอนี่มองตามสายตาของมัลฟอยที่มาหยุดอยู่ตรงปกเสื้อเชิ้ตที่ไม่ได้ติดกระดุมคอของเธอ
เธอรู้ว่าเนื้อตัวเธอนั้นช้ำเป็นจ้ำ เธอจึงรีบกำคอเสื้อให้ปิดมิดขึ้นไปถึงคอ
ให้พ้นจากดวงตาสีฟ้าซีดที่ซอกซอนเข้าไปในเสื้อผ้า
ซึ่งเธอรู้สึกเหมือนกับว่าดวงตาคู่นั้นสามารถมองทะลุผ่านเสื้อผ้าเข้าไปได้
เธอส่งผ่านความเกรี้ยวโกรธตามสายตาไปให้เขา แต่สิ่งที่เธอได้ตอบกลับมานั้นก็คือ
ดวงตาสีฟ้าซีดที่ไม่แสดงความเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย
พร้อมกันนั้นเขายังเลิกคิ้วใส่เธอเป็นคำถามที่แปลออกมาได้ว่า " แล้วยังไงล่ะ เกรนเจอร์
หรืออยากจะลองอีก "
และก่อนที่ทั้งสองจะเริ่มทะเลาะกันด้วยการส่งคำสาปแช่งต่างๆนานาจากดวงตาที่ลุกไฟของเฮอร์ไมโอนี่และจาก
"? Boungiorno Mr. Mulfoy " ( อรุณสวัสครับคุณมัลฟอย ) เขายื่นมือมาจับทักทายกับมัลฟอย
" Boungiorno Mr. Pucci " ( อรุณสวัสครับคุณปุชชี่ )
" อารุ้นซาวัดครับ มิสเกรนเจอร์ "
เขาทักทายเธอด้วยภาษาอังกฤษสำเนียงแปร่งและรัวเร็วแบบคนอิตาลี่ เขาหันมายิ้มให้เฮอร์ไมโอนี่
พร้อมกับยื่นมือมาจับทักทายกับเธอเช่นเดียวกัน
" อรุณสวัสค่ะ มิสเตอร์ปุชชี่ " เธอยิ้มให้เขา
" Pronto ? " ( พร้อมรึยังครับ )
" Si " (? พร้อมแล้วครับ )
มัลฟอยพยักหน้าตอบพร้อมกับยื่นมือมาจับกิ่งไม้ก้านเล็กๆที่คุณปุชชี่เพิ่งล้วงออกมาจากกระเป๋าเสื่อยื่นส่
งมาให้ มัลฟอยส่งปลายกิ่งไม้ข้างนึงมาให้เฮอร์ไมโอนี่จับ
" Tre...Due...Una... " ( สาม สอง หนึ่ง ) คุณปุชชี่นับ ตาจ้องมองที่นาฬิกาข้อมือ
แล้วทั้งเฮอร์ไมโอนี่และมัลฟอยก็รู้สึกถึงแรงกระตุกเหมือนมีตะขอมาเกี่ยวช่องท้องให้ไปด้านหน้าอย่างแรง
ตุ๊บ.....ทั้งสองล้มลงมากองทับกัน
และแทบจะในวินาทีเดียวกันก็ลุกขึ้นแยกออกจากกันทันทีเหมือนเอามือไปแตะของร้อน
ทั้งสองกลับมาถึงฮอกวอตส์แล้ว และอยู่กลางห้องโถงใหญ่ที่มีนักเรียนรับประทานอาหารเช้าเต็มไปหมด
สายตาทุกคู่จึงจับจ้องมาที่พวกเขา
พร้อมกันนั้นเสียงวี้ดดังลั่นกับสายตาหวานเชื่อมจากกลุ่มเด็กสาวๆที่หลงไหลได้ปลื้มก็ถูกส่งมาให้ร่างกำยำ
ที่สวมแต่กางเกงว่ายน้ำขาสามส่วน ทำให้มัลฟอยเร่งก้าวเท้าออกจากห้องอาหารไปในทันที
โดยมีแครบกอยล์และนักเรียนหญิงอีกสองสามคนซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือแพนซี่วิ่งตามเขาไป
ส่วนเฮอร์ไมโอนี่ที่ยืนงงอยู่นั้น จู่ๆก็มีคนเอาเสื้อคลุมนักเรียนมาคลุมไหล่ให้
" เป็นไงมั่ง พวกเราเป็นห่วงเธอมากเลยนะเฮอร์ไมโอนี่ "
แฮร์รี่ที่เดินเข้ามาพร้อมกับรอนถามอย่างเป็นห่วง
" ไอ้ซีดมัลฟอยมันแกล้งเธอรึปล่าว " รอนหรี่ตาถามเธอ
" ปล่าว " เธอพยายามปั้นหน้าให้น่าเชื่อที่สุด
" อีกครึ่งชั่วโมงต้องเรียนกับเสนป รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อเถอะ
ก่อนที่ไอ้พวกเด็กผู้ชายแถวนี้จะเลือดกำเดาทะลัก " แฮร์รี่เอามือขยี้ผมเธอเบาๆ
เขาหัวเราะและมองพวกผู้ชายที่กำลังจ้องเธออย่างไม่วางตา
" มองอะไรน่ะพวกนาย หันกลับไปกินข้าวสิ "
รอนหันไปคะคอกพร้อมส่งสายตาดุๆเหมือนเจ้าฟลัฟฟี่สามหัวใส่พวกนั้น
สามสหายมาถึงหน้าคุกใต้ดิน
" ถึงตอนนี้นะ ช้ันก็ยังไม่รู้ว่าเราสองคนผ่านเข้ามาเรียนกับสเนปตั้งแต่ปีหกได้ไง "
แฮร์รี่บ่นอย่างเซ็งๆ
" โถ่เอ้ย พวกนาย ถ้ายัยแพนซี่เรียนได้นะ พวกนายก็เรียนได้
แต่ที่ชั้นแปลกใจที่สุดเห็นจะเป็นเนวิลล์ล่ะ "
เฮอร์ไมโอนี่หันหน้าไปทางเนวิลล์ที่พยายามเดินเร่งขึ้นมาให้ทันพวกแฮร์รี่
ยังไม่ทันที่พวกเขาจะทักเนวิลล์ ก็มีเสียงแหลมๆคุ้นหูลอยมาจากทางประตูคุกใต้ดิน
" แต่ชั้นไม่แปลกใจกับเธอหรอกนะ ยัยเลือดสีโคลน พวกลูกรักดัมเบิลดอร์น่ะ
ได้รับสิทธิพิเศษแบบนี้ประจำไม่ใช่หรอ " แพนซี่ยื่นหน้ายาวๆของเธอออกมาจากประตูคุกใต้ดิน
ทั้งสามและเนวิลล์ที่เพิ่งวิ่งมาถึงหันมามองเธอด้วยสายตาขุ่นมัว
" ไม่มีใครขอความเห็นจากเธอเลยนะ ยัยหมาจู " เฮอร์ไมโอนี่เชิดหน้าตอบอย่างไม่ใส่ใจ
" โอ๊ะ...โอ๊ะ...เกรนเจอร์ พอเริ่มดังอีกรอบก็หยิ่งทันทีเลยนะ "
แพนซี่ทำหน้ารังเกียจใส่เธอ
" เธอหมายความว่ายังไง " และยังไม่ทันที่เฮอร์ไมโอนี่จะได้รับคำตอบ
เสียงฝีเท้าดังสนั่นคุ้นหูก็ดังใกล้เข้ามา เด็กกริฟฟินดอร์ทั้งสี่หันมามองหน้ากันด้วยท่าทางตกใจสุดขีด
" !!!!! สเนป !!!!! " ทั้งสี่อุทานออกมาพร้อมกัน
แล้วจ้ำอ้าวเข้าชั้นเรียนอย่างไม่คิดชีวิต
ความคิดเห็น