ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    + + + The Last Year + + +[Draco&Hermione] by Sandy Weasel

    ลำดับตอนที่ #7 : CHAPTER 7 +++A Warm Prize++

    • อัปเดตล่าสุด 12 ส.ค. 54


     เมื่อทั้งสองตกลงทำสัญญาสงบศึกอย่างไม่ค่อยเต็มใจได้สำเร็จ 

    มัลฟอยจึงชวนเฮอร์ไมโอนี่ลงไปแข่งกระดานโต้คลื่นที่ชายหาดด้านล่างด้วยท่าทีที่เป็นมิตรมากกว่าเดิมเล็กน้อย
    " มาแข่งกันดีกว่าเกรนเจอร์...ดีกว่าเล่นเฉยๆ มันน่าเบื่อ ...หรือว่าเล่นไม่เป็น "
    ถึงจะพูดชวนแบบปกติยังไง เขาก็ยังไม่ละทิ้งนิสัยแบบเดิมไปซะทีเดียว
    รวมทั้งรอยยิ้มหยิ่งยะโสอันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของเขา
    " ถ้าคิดจะสงบศึกให้นานกว่า 5 นาทีนะมัลฟอย นายต้องหุบยิ้มแบบนี้ซะ 
    และชั้นก็เล่นเก่งกว่านายมากขอบอกไว้ก่อน " เธอยิ้มตอบอย่างท้าทาย
    ซึ่งมัลฟอยแปลความหมายได้ว่าคำท้าของเขาได้รับการตอบรับแล้ว
    " ดี...แล้วเราจะได้เห็นกันว่าใครเก่งกว่ากัน " แล้วมัลฟอยก็หันไปด้านหลัง
    " เอลฟ์...เอลฟ์..."สิ้นเสียงเรียกของเขา เฮอร์ไมโอนี่ก็ได้ยินเสียงป๊อบเบาๆ
    และเอลฟ์ตัวเดิมก็ปรากฏตัวขึ้นด้านหน้าของโต๊ะไม้วางอาหารเช้า
    " ครับ...นายน้อยเดรโก "
    " เอากระดานโต้คลื่นลงไปให้เราข้างล่างสองอันที่เดิม เที่ยงนี้ชั้นไม่กิน
    ส่วนอาหารค่ำขอเป็นอาหารทะเล ตั้งโต๊ะในห้องอาหาร ไปได้ " สิ้นเสียงสั่งงานเอลฟ์ก็หายไปทันที
    " นายไม่คิดว่าถ้านายเรียกชื่อหรือพูดกับเอลฟ์ของนายดีกว่านี้ซักนิด
    มันอาจจะจงรักภักดีกับนายมากขึ้นก็ได้ " เธอพูดพร้อมส่งสายตาตำหนิไปให้เขา
    " เอลฟ์ต้องจงรักภักดีกับนายของมันอยู่แล้ว
    และเป็นส่วนน้อยหรืออาจจะเป็นตัวเดียวที่เป็นแบบด๊อบบี้ " เขาตอบอย่างไม่ใส่ใจ และออกเดินนำเธอไป
    ทำให้เธอต้องหยุดรณรงค์เรียกร้องสิทธิเอลฟ์เพียงเท่านั้น

    มัลฟอยเดินนำเฮอร์ไมโอนี่ไปยังบันใดหินแคบๆที่ทอดตัวระเกะระกะลงไปยังชายหาดด้านล่าง
    เธอต้องระวังอย่างมากเพื่อที่จะไม่ก้าวพลาด
    เนื่องจากมันค่อนข้างจะเป็นบันใดหินตามธรรมชาติซึ่งแต่ละขั้นจะสูงและกว้างไม่เท่ากัน 
    และบางช่วงก็ไม่มีช่องหินมาช่วยกั้นกลางระหว่างตัวเธอกับหน้าผาสูงเลย
    " ว้าย..." และ?ในที่สุดเธอก็ก้าวพลาด หน้าเธอทิ่มไปข้างหน้า และก่อนที่เธอจะล้มลง
    เธอก็โชคดีที่คว้าไหล่แข็งแรงเหมือนเหล็กกล้าของมัลฟอยที่บัดนี้ชื้นไปด้วยไอทะเลได้ทัน
    " ยัยซุ่มซ่าม...แค่นี้ยังทรงตัวไม่อยู่ แล้วยังหวังที่จะชนะเล่นโต้คลื่นกับชั้นอีกหรอ
    " เฮอร์ไมโอนี่รีบชักมือกลับโดยทันทีหลังจากทรงตัวได้แล้ว
    " นายไม่มีีวันจะชนะชั้นหรอก " เธอยังยืนยันคำเดิมและเชิดหน้าสู้เขาอย่างมั่นใจ
    เมื่อทั้งคู่ใต่บันใดลงมาถึงพื้นทรายขาวๆที่ทอดยาวเป็นวงโค้งรูปจันทร์เสี้ยว
    เฮอร์ไมโอนี่ก็เห็นหมู่บ้านเล็กๆและ ร่มชายหาดหลากหลายสีถูกกางอยู่เป็นจุดเล็กๆอยู่ตรงปลายสุดของชายหาด
    เธอไม่คิดว่าเธอจะเดินมาไกลถึงขนาดนี้ เพราะเธอมัววุ่นอยู่กับความคิดตัวเองจนไม่ได้สนใจระยะทาง 
    และเมื่อเธอหันกลับหลัง
    เธอก็พบกระดานโ้ต้คลื่นสองอันถูกปักอยู่บนพื้นทรายข้างๆเก้าอี้ชายหาดใต้ร่มคันใหญ่สีขาว 
    มัลฟอยเดินไปหยิบมาอันนึง
    " เธอแพ้ชั้นแล้วล่ะ " เขารีบวิ่งตรงไปยังคลื่น และหันมายิ้มอย่างเป็นต่อ
    " ขี้โกงนี่มัลฟอย "
    เฮอร์ไมโอนี่รีบวิ่งไปหยิบกระดานของเธอบ้างและซอยเท้าตามเขาไปอย่างไม่ลดละโดยไม่ลืมที่จะถอดเสื้อเชิ้ตแส
    นแพงของเขาโยนแปะไว้บนเก้าอี้

    ทั้งสองเล่นได้คู่คี่สูสีกันมาก ผลัดกันนำผลัดกันตามอย่างสนุกสนาน จนถึงรอบที่สิบของการแข่งขัน
    เฮอร์ไมโอนี่ตามหลังมัลฟอยอยู่เกมส์เดียว จนมาถึงช่วงสุดท้ายเมื่อคลื่นซัดใกล้จะถึงฝั่ง
    เฮอร์ไมโอนี่ก็แซงหน้าขึ้นมานำในโค้งสุดท้ายได้สำเร็จ
    "ตานี้ชั้นชนะล่ะ " เธอหันมายักคิ้วให้มัลฟอยด้วยท่าทีของผู้ชนะในเกมส์สุดท้าย
    " ไม่มีทาง " เขาย่อตัวลง โน้มตัวไปด้านหน้าเพื่อเร่งความเร็วหวังที่จะแซงเธอ
    แล้วเขาก็ขึ้นมาเบียดเธออยู่ด้านข้าง ด้านเฮอร์ไมโอนี่รีบเร่งตัวเองให้ขึ้นนำอีกครั้ง
    มัลฟอยจึงรีบคว้าเอวเธอเพื่อดันตัวเองให้นำหน้าเธออย่างหน้าด้านๆ
    " นี่..นาย เล่นอย่างงี้เลยหรอ " เธอจึงหันไปเอาเท้าไปเตะบอร์ดของเขาบ้าง 
    และเห็นผลทันตา คือมัลฟอยเสียหลักและล้มคว่ำลง แต่ก่อนที่เกลียวคลื่นจะม้วนเอาตัวเขาไป
    เขาก็ลากเธอลงทะเลไปด้วย
    คลื่นซัดร่างทั้งสองและกระดานโ้ต้คลื่นของเขามาเกยหาดในจุดเริ่มต้น
    ทั้งสองตะเกียกตะกายขึ้นมาบนฝั่งแล้วหมดแรงทิ้งตัวลงนอนแผ่หงายหลังอยู่ข้างกัน
    แล้วเริ่มประสานเสียงหัวเราะ
    " นาย นี่ มัน ขี้โกง สุดๆ เลย... " เธอหันหน้าไปยังมัลฟอยที่นอนแผ่อยู่ข้างๆ
    เริ่มพูดสลับกับหัวเราะและหอบเหนื่อยไปพร้อมกัน
    " ของ หยั่ง งี้ ใคร ดี ใคร ชนะ เกรน เจอร์ "
    เขาหันมาหาเธอและพูดด้วยอาการเดียวกัน
    ทั้งสองเล่นจนลืมว่าเวลาผ่านไปจนเย็นแล้ว
    และลืมที่จะมองไปรอบตัวว่าเมฆสีเทาขนาดเท่าแครบสามร้อยคนลอยต่ำลงมา
    และในที่สุดฝนเม็ดแรกก็หยดลงบนหน้าของมัลฟอย
    "ว้า...ฝนตกแล้วหรอ กลับขึ้นข้างบนกันดีกว่า"
    เขาเริ่มปีนขึ้นตามบันไดหินกลับขึ้นไปด้านบน โดยให้เธอนำหน้า
    " อุ๊ย...มัลฟอย ชั้นลืมเสื้อเธอ " เธอเพิ่งนึกขึ้นได้และพยายามจะถอยหลังกลับ
    แต่เขาก็ใช้ตัวกันเธอเอาไว้
    "ช่างมันเถอะน่า ฝนเริ่มลงหนักแล้วนะ "
    " ช่างไม่ได้ นั่นเสื้อเธอ แล้วเดี๋ยวชั้นไม่มีอะไรจะใส่ด้วย "
    เธอยังพยายามถอยหลังลงไปเบียดตัวเขาเพื่อจะกลับลงไป ทำให้ทั้งคู่สะดุดหงายหลังลงไปกองบนพื้นทรายด้านล่าง
    โดยมัลฟอยเอาตัวเขาเข้ากันระหว่างแง่งหินคมๆด้านข้าง เฮอร์ไมโอนี่ล้มทับตัวเขาเต็มๆ
    " ยัยงี่เง่า...ทำไมต้องทำให้เป็นเรื่องทุกทีด้วยนะ "
    เขายันตัวลุกขึ้นและผลักเธอออกจากตัว
    " ก็ทำไมนายไม่ถอยลงไปดีๆล่ะ " แล้วจู่ๆเธอก็ร้องขึ้น " มัลฟอย...เธอ 
    เธอเลือดออก " เฮอร์ไมโอนี่จ้องเป๋งไปที่ต้นแขนด้านที่เขาใช้บังเธอกับแง่งหิน มันเป็นรอยครูดยาว
    ตรงกลางมีเศษหินแหลมๆสองสามชิ้นขนาดประมาณปลายนิ้วก้อยปักอยู่
    เธออ้าปากค้างแล้วดึงแขนของมัลฟอยเข้ามาดู
    " ชั้น..ชั้น ขอโทษ มัลฟอย " เธอตกใจและกล่าวขอโทษเสียงอ่อย
    แล้วลากเขาไปนั่งพักตรงร่องหน้าผาที่ยื่นออกมาจนสามารถกำบังฝนได้เล็กน้อย มัลฟอยยอมให้เธอลากแต่โดยดี
    เนื่องจากเขางงกับการกระทำแปลกๆของเธอ
    เฮอร์ไมโอนี่กดเขาลงนั่งและเริ่มหยิบเศษหินออกทีละชิ้นอย่างเบามือ มัลฟอยเลิกคิ้วมองเธอด้วยความแปลกใจ
    เธอยังคงตั้งหน้าตั้งตาหยิบเศษหินชิ้นเล็กชิ้นน้อยออกจนหมด โดยที่เขาไม่ร้องซักแอะ
    แม้ว่าเธอจะเอาเศษหินชิ้นที่มีขนาดใหญ่ออกจนทำให้เลือดสีแดงสดใหลลงมาตามแขนก็ตาม เมื่อหมดเกลี้ยงดีแล้ว
    เฮอร์ไมโอนี่ก็จัดแจงยกแขนหนักๆของเขาออกไปนอกที่กำบังฝน ให้น้ำฝนชะล้างเอาเลือดและสิ่งสกปรกออก
    " แสบมากรึเปล่า " เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นมาถามเป็นครั้งแรกตั้งแต่เริ่มทำแผล
    " ไม่ " เขาตอบเฉยๆ ตายังคงจ้องมองเธออยู่
    เธอก้มลงอีกครั้งไปฉีกปลายแขนเสื้อเชิ้ตของเขาเป็นแถบยาวๆเพื่อมามัดห้ามเลือด
    " นี่คงห้ามเลือดได้ชั่วคราว ส่วนเสื้อของเธอเดี๋ยวชั้นซื้อใช้ให้นะ "
    เธอพูดอย่างสำนึกผิดที่ทำให้เขาเจ็บตัวและยังต้องเสียเสื้อเชิ้ตแพงๆไปหนึ่งตัว
    " ไม่ต้องหรอก ชั้นไม่ได้ใส่ตัวนี้อยู่แล้ว ช่างมันเถอะ ว่าแต่ว่าเราจะปีนกลับขึ้นไปยังไงเนี่ย
    " เขามองออกไปข้างนอกเห็นฝนร่วงพรูลงมาเป็นสาย
    " เราคงต้องรอฝนซากว่านี้อีกนิดกว่าจะปีนกลับไปได้ " มัลฟอยหันมาพูดกับเธอ
    เธอพยักหน้าพร้อมกับสอดแขนเข้าไปในเสื้อเชิ้ตที่ยังเปียกไม่มาก

    เวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงโดยที่ฝนไม่มีทีท่าว่าจะซาลงเลย
    เฮอร์ไมโอนี่นั่งกอดเข่าด้วยความหนาวเย็นจากทั้งลมฝนและลมทะเล
    ส่วนมัลฟอยก็นั่งห่างออกไปเล็กน้อยจ้องมองออกไปด้านนอกอย่างใจลอยก่อนที่จะหันกลับมามองร่างบางในเสื้อ

    เชิ้ตชื้นๆของเขา
    " หนาวหรอเกรนเจอร์ " เธอหันมาพยักหน้าตอบอย่างสั่นๆ
    แล้วหันกลับไปมองเม็ดฝนที่หยดลงใกล้ตัว และโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว 
    เธอก็รู้สึกถึงความอบอุ่นที่มาโอบล้อมรอบตัวเธอ มัลฟอยเข้ามานั่งซ้อนหลัง
    ท่อนแขนและท่อนขาที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามโอบกระชับรอบตัวและเข่าของเธอ คางของเขาพาดเกยอยู่บนไหล่บางๆ
    ทำให้เสื้อเชิ้ตเปียกๆ อุ่นขึ้นทันควัน เฮอร์ไมโอนี่เบิกตากว้างอย่างตกใจ และก่อนที่เธอจะสะบัดตัวหนี
    มัลฟอยก็เอียงหน้าเข้ามากระซิบริมใบหู
    " ชั้นจ่ายค่าทำแผลแล้วนะเกรนเจอร์ "
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×