ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    + + + The Last Year + + +[Draco&Hermione] by Sandy Weasel

    ลำดับตอนที่ #12 : CHAPTER 12 +++No Longer Golden Trio+++

    • อัปเดตล่าสุด 12 ส.ค. 54


    " ถอย... ถอยไปเดี๋ยวนี้ "
    มัลฟอยซึ่งหันหลังเดินกลับไปในทิศทางตรงกันข้ามกับภาพที่เขาเพิ่งเห็น 
    เขาเดินกระแทกส้นเท้าอย่างเร็วราวกับเจ้าแห่งพายุ 
    ตามทางเดินกลับขึ้นบนปราสาทระเนระนาดไปด้วยเด็กนักเรียนที่เคยยืนคุย และเคยเดินผ่านไปมา 
    ทุกร่างนอนแบ็บอยู่กับพื้นหินเย็นๆติดกับผนังโดยคาถาเฮอริเคนฝีมือของประธานนักเรียนชายที่ไล่พวกเกะกะขวา
    งทางและหลบไม่เร็วพออย่างที่เขาต้องการ มัลฟอยพัดผ่านห้องโถงใหญ่ที่มีแครบและกอยล์กำลังเดินเข้ามาหาเขา
    ทั้งสองกำลังจะเปิดปากออกพูดกับเขา เสียงยังไม่ทันเล็ดรอดออกจากปาก 
    และโดยที่ไม่ทันตั้งตัวพวกเขาก็ปลิวกระแทกผนังแล้วตกลงกองทับกันเป็นก้อนขนาดมหึมาอยู่บนพื้น 
    ซึ่งหนีไม่พ้นชะตากรรมเดียวกับเด็กคนอื่นๆถึงแม้พวกเขาจะเป็นเพื่อนสนิท 
    และเจ้าแห่งพายุก็พัดผ่านไปทิ้งความเสียหายไว้เบื้องหลังตลอดทางจนกระทั่งสายตาของเขาพบกับตัวการที่ทำให้
    เขาต้องเห็นภาพเหล่านั้น เอไลช่ากำลังยืนคุยกับเพื่อนบ้านเรเวนคลอของเธออยู่ 
    เขาตรงเข้าไปกระชากข้อมือของเธอ ดวงตาเบิกกว้างอย่างตกใจในขณะที่ตัวของเธอปลิวไปตามแรงฉุดของเขา
    " เพราะเธอ!!!... เรามีเรื่องต้องคุยกัน "

    เช้าวันใหม่ที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น แฮร์รี่ รอน 
    และเฮอร์ไมโอนี่นั่งรับประทานอาหารเช้ากันตามปกติอย่างเงียบๆ 
    เฮอร์ไมโอนี่ไม่ยอมสบตาแฮร์รี่ที่พยายามจะคุยกับเธอ ส่วนรอนเอาแต่นั่งเขี่ยอาหารในจานเล่น 
    ซึ่งเป็นสิ่งผิดปกติมากสำหรับเขา 
    รวมไปถึงใต้ตาดำคล้ำและใบหน้าซีดขาวส่งผลให้ผมของเขาดูสีแดงจัดกว่าทุกวัน
    " เธอเป็นอะไรรึเปล่ารอน " เฮอร์ไมโอนี่ถามเขาอย่างเป็นห่วง
    " เปล่า " เขาตอบห้วนๆ
    " นายเป็นอะไรน่ะ หน้าซีดๆ ไปห้องพยาบาลไม๊ " แฮร์รี่หันมาถามอีกคน
    " ไม่จำเป็น " เขาตอบห้วนๆเหมือนเดิม และยังคงนั่งเขี่ยอาหารในจานไปเรื่อยๆ 
    และก่อนที่เพื่อนทั้งสองจะถามอะไรเขาอีก ไปรษณีย์นกฮูกก็บินมาส่ง 
    หนังสือพิมพ์เดย์ลี่พรอเพตถูกหย่อนลงมาบนตักของเฮอร์ไมโอนี่
    " พวกนายมาอ่านนี่เร็ว " เฮอร์ไมโอนี่ส่งเสียงเรียกอย่างตกใจ

    ' การโจมตีระรอกแรกเริ่มขึ้นแล้ว -- เมื่อคืนวานนี้ 
    ครอบครัวสองครอบครัวถูกโจมตีจากเหล่าผู้เสพความตาย สมุนของคนที่คุณก็รู้ว่าใคร 
    ครอบครัวแรกคือครอบครัวของดเวลสันซึ่งเสียชีวิตหมดทั้งครอบครัวและอีกครอบครัวก็คือครอบครัวสพินเน็ตที่

    ลูกสาวคนเดียวของบ้านสามารถรอดชีวิตมาได้ เนื่องจากต้องอยู่ฝึกควิดดิชกับทีมพัดเดิลเมียร์ยูไนเต็ด
    โดยที่ทางมือปราบมารไม่สามารถไประงับเหตุการณ์ได้ทัน ...รายละเอียดอ่านหน้า 6 ' 
    พร้อมกันนั้นบนหน้าหนึ่งยังมีรูปบ้านที่ทางด้านซ้ายเป็นของดเวลสันพังยับเยินกับตรามารที่ถูกยิงขึ้นฟ้า 
    เช่นเดียวกับอีกรูปโดยมีร่างเล็กๆกำลังก้มหน้าทรุดตัวร้องไห้อยู่บนสนามหญ้าหน้าบ้าน 
    แฮร์รี่จำได้ทันทีว่าเธอคือ อลิเซีย เพื่อนร่วมทีมควิดดิชของเขา เขารู้สึกสงสารอลิเซียจับใจ 
    เฮอร์ไมโอนี่หันมาสบตาเขาอย่างเป็นกังวลและก้มลงอ่านต่อ 
    ส่วนรอนนั้นลุกออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่เขาไม่ทันรู้สึกตัว
    ' เริ่มขึ้นจริงๆแล้วสินะ วันที่ได้ทำนายเอาไว้ใกล้เข้ามาถึงแล้ว ' แฮร์รี่คิด 
    เขารู้สึกว่าในตัวของเขามีนาฬิกาที่กำลังเดินถอยหลังอยู่ส่งเสียงติ๊กๆดังก้องหัว จนถึงตอนนี้ 
    เขาก็ยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเพื่อนรักทั้งสอง สงครามของเขาที่ไม่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะต้องจบชีวิตลง 
    เขาถอนหายใจหนักหน่วง...ดวงตาสีเขียวมรกตหรี่แสงลงอย่างอ่อนล้า ' ช่างมันเถอะ...อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
    ' อย่างที่แฮกริดเคยบอก 
    อีกอย่าง...ตอนนี้เขาอยู่ในโรงเรียนโดยมีดัมเบิลดอร์เป็นอาจารย์ใหญ่....คนคนเดียวที่โวลเดอร์มอกลัว 
    และเมื่อสองสามอาทิตย์ก่อนเขาได้เข้าไปคุยกับดัมเบิลดอร์เรื่องการเรียนสกัดใจ 
    ซึ่งเป็นที่ดีใจอย่างล้นพ้นเมื่อเขาทราบว่าเขาจะได้เปลี่ยนมาเรียนกับดัมเบิลดอร์แทนหลังจากเขาต้องทนเรีย
    นกับเสนปสองปีติดกัน แต่ที่แปลกใจในทุกๆครั้งที่เขาไปห้องทำงานของดัมเบิลดอร์ก็คือ 
    เขามักจะพบมัลฟอยเดินสวนกลับออกมาทุกครั้งโดยไม่มีเฮอร์ไมโอนี่ 
    ทำให้เขาไม่คิดว่านั่นเป็นเรื่องเกี่ยวกับหน้าที่ของประธานนักเรียน แต่เขาก็ไม่กล้าถามดัมเบิลดอร์ซักที
    เขาเรียนก้าวหน้าขึ้นมากจนเดี๋ยวนี้่เขาแทบไม่ได้ยินเสียงของโวลเดอร์มอเลย 
    แต่ถ้าหากเขายังฝันเหมือนเดิมอยู่ล่ะ ....เขาอาจจะรู้แผนการพวกนั้นและบอกให้ใครไปหยุดมันได้ทัน......
    ' ช่าง....ช่างมัน...ลืมมันซะ '

    ทั้งวัน...มีแต่เสียงซุบซิบกันเซ็งแซ่เรื่องการโจมตีเมื่อคืน 
    ทุกคนดูช๊อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เว้นแม้แต่อาจารย์ 
    ...ในคาบวิชาแปลงร่าง...ศาสตราจารย์มักกอนนากัลดูครุ่นคิด และเหม่อลอยจนเธอไม่ได้สั่งการบ้าน 
    ส่วนศาสตราจารย์สเปราต์ก็ปล่อยให้ยางเหนียวๆของต้นมิมบูลัสเปื้อนท่วมแขนโดยไม่รู้ตัว 
    แต่อาจจะยกเว้นเพียงคนเดียว ก็คือ สเนป ที่แย่เสมอต้นเสมอปลายถึงใบหน้าออกจะดูซีดๆก็ตาม 
    เวลาตลอดวันผ่านทุกคนไปอย่างรวดเร็ว ทุกคนหากไม่จมอยู่กับความคิดของตัวเอง 
    ก็จะจมอยู่กับกลุ่มเพื่อนที่พูดแต่เรื่องนี้โดยไม่มีใครใส่ใจจะเรียนจนกระทั่งเข้านอน

    เวลาเที่ยงคืนในห้องนั่งเล่นรวมของกริฟฟินดอร์ เด็กทุกคนกลับขึ้นนอนหมด 
    เหลือแต่เฮอร์ไมโอนี่ที่นั่งทำการบ้านอยู่ข้างเตาผิงเพียงลำพัง 
    เนื่องจากเธอต้องเดินตรวจทุกคืนทำให้เธอต้องทำการบ้านดึกขึ้นกว่าเดิม
    ตึง...ตึง... เสียงประตูทางเข้าปิดและฝีเท้าหนักๆของคนที่เพิ่งผ่านเข้ามา 
    ทำให้เฮอร์ไมโอนี่ต้องเหลียวหลังไปมอง
    " รอน.... ไปไหนมา ทำไมเพิ่งกลับ มันดึกมากเลยรู้ไม๊ " 
    เธอรีบเดินตรงไปหาร่างสูงใหญ่ที่เอามือเท้าผนังหินตรงทางเข้าเอาไว้เพื่อรับน้ำหนักตัว 
    แต่เมื่อเธอเข้าใกล้ เธอกลับได้กลิ่นแอลกอฮอล์ฟุ้งไปหมด
    " รอน!!! นายดื่มเหล้ามาหรอ.... ไปเอามาจากไหน " เธอถามอย่างตกใจ
    " ไปเอาจากไหนไม่สำคัญ สำคัญแค่ทำไมชั้นต้องดื่มมันต่างหาก "
    รอนเงยหน้าขึ้นตะเบ็งเสียง ส่งสายตาแดงก่ำให้เธออย่างเกรี้ยวโกรธ
    " ทำไมล่ะ " เธอถามด้วยความกังวลพร้อมกับพยุงกึ่งลากรอนให้ไปนั่งที่โซฟา 
    แต่ยังไม่ทันถึง เขาก็ดึงร่างบางๆให้หันเข้าหาเขา
    " ทำไมเธอต้องทำกับชั้นอย่างนี้ ....ทำไม "
    เขาตะโกนใส่หน้าเธอด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด เฮอร์ไมโอนี่ยืนนิ่งอย่างตกตะลึง
    " ตัวเธอเองก็รู้ดี ....ว่าชั้นคิดยังไง " เขาหยุดหอบหายใจ
    " ชั้น...ชอบ..เธอมานานแค่ไหน แต่เธอก็ไม่สนใจ ...เธอสนใจแฮร์รี่ เขาได้ทุกอย่าง 
    ชั้นไม่เคยเอาชนะได้เลย ทำไมนะ ชั้นไม่เคยรู้มาก่อน ชั้นน่าจะรู้ตั้งนานแล้ว 
    ชั้นควรจะตัดใจเสียแต่แรก " เขาพูดเหมือนเพ้อ
    " เปล่านะรอน มันไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด "
    เธอรีบพูดและพยายามดันร่างของเขาให้ออกห่างแต่ไม่เป็นผล
    " แล้วเป็นอย่างหนายล่า " แล้วจู่ๆรอนก็กระชากเธอเข้ามากอด 
    เอามือข้างนึงกระตุกผมของเฮอร์ไมโอนี่ หน้าของเธอหงายขึ้นไปพบกับริมฝีปากรุมร้อนทันที 
    เธอช๊อคตัวแข็งทื่อ
    " รอน!!!!!!!! " แฮร์รี่อุทานอย่างตกใจทันทีที่เขาก้าวลงบันไดมาจากหอนอน
    " โอ้........แฮร์รี่เพื่อนร้าก มาพอดี เอาสุดที่ร้ากของนายไป เอาไปให้หมดทุกอย่างเลยนะ 
    อันที่จริงแล้วชั้นไม่มีอาไรจาให้นาย....เพื่อนยาก เพราะนายได้หมดทุกอย่างแล้ววว " 
    รอนผละเฮอร์ไมโอนี่ออก เธอเซไปปะทะกับร่างของแฮร์รี่ที่รีบก้าวเข้ามา น้ำตาเธอไหลพราก 
    หากแต่ไม่มีเสียงสะอื้นใดๆหลุดออกมา
    " นายคิดอย่างงี้ได้ไง เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งกี่ปี " แฮร์รี่ตะโกนใส่รอนด้วยความโมโห
    " โอ้........นายรู้ดีเชียว นายรู้มานานแล้ว ....ดูซิ " 
    รอนหรี่ตามองอย่างประชดประชันกับภาพที่อยู่ตรงหน้า " แฮร์รี่ พอตเตอร์ ผู้มีชื่อเสียง กับ 
    มิส เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ ผู้เป็นหนึ่งในทุกวิชา .....ไม่มีอะไรเหมาะสมกันไปมากกว่านี้อีกแล้ว
    " ขาดคำรอน แฮร์รี่ก็ตรงเข้าตะบันหน้าเขาทันที
    รอนซึ่งไม่ได้ตั้งตัวล้มลงหงายหลัง สติที่ออกจะเลือนๆของเขาถูกดึงกลับมาทันที 
    แฮร์รี่ที่โกรธจัดจนตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงเพลิง 
    เขาขึ้นคร่อมรอนและกำหมัดต่อยลงบนใบหน้าของเขาอีกครั้ง 
    แต่คราวนี้รอนเบี่ยงหน้าหลบทำให้ไม่โดนจังๆแบบครั้งแรก เขาพลิกตัวแฮร์รี่และกลับเป็นฝ่ายลงมือบ้าง 
    .....ทั้งสองต่อสู้กันโดยไม่มีทีท่าว่าจะจบง่ายๆ 
    ทั้งสองไม่สนใจเฮอร์ไมโอนี่ที่ทั้งตะโกนทั้งพยายามแยกทั้งคู่ด้วยน้ำตาที่นองเต็มใบหน้า

    เฮอร์ไมโอนี่ออกวิ่งโดยไม่รู้ตัวว่าออกมาเมื่อไหร่ และออกไปไหน เท่าที่เธอคิดได้ตอนนี้ก็คือ 
    ไปไหนก็ได้ไกลๆ เธอทนไม่ได้ที่เห็นเพื่อนรักของเธอเป็นอย่างนี้ คราวที่แล้ว..ตอนปีสี่ 
    เธอไม่มีความสุขเลยที่ต้องอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง แต่คราวนี้...คราวนี้..เป็นเพราะตัวเธอ 
    เพราะเธอคนเดียว ...หมดแล้ว หมดทุกอย่าง....ไม่มีแล้ว...มิตรภาพ 
    สิ่งที่หล่อเลี้ยงชีวิตเธอตลอดมาตั้งแต่เธอได้เข้ามาอยู่ที่นี่ 
    หมดแล้ว..สิ่งที่ทำให้ทุกวันในฮอกวอตส์มีความหมาย มันพังทลายลงต่อหน้าต่อตา ....เพราะเธอ 
    ...เพราะเธอคนเดียว
    และเธอก็พบตัวเองเข้ามาอยู่ในหอของหัวหน้านักเรียน 
    ที่ที่เหล่าพรีเฟคและประธานนักเรียนจะใช้เป็นที่ประชุมหารือกัน 
    หากแต่ส่วนมากมักจะไม่มีหัวหน้านักเรียนมาใช้ห้องนี้กัน เธอปาดน้ำตาทิ้งและกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด 
    น้ำตาที่ใกล้จะหยุดกลับทะลักออกมาอีกครั้ง
    ' เพราะชั้น เพราะชั้น มันถึงเป็นแบบนี้ ทำไม ทำไม ' เธอพร่ำคิดถึงแต่ความผิดของตัวเธอเอง 
    เธอมองออกไปยังหน้าต่างเปื้องหน้า ฟ้าด้านนอกมืดสนิท ไม่มีดาวทอแสงอย่างทุกๆคืน 
    แต่สิ่งที่เธอเห็น ไม่ใช่ท้องฟ้า 
    แต่เป็นเงาสะท้อนของเด็กผู้หญิงที่เพิ่งจะได้ทำลายมิตรภาพอันแสนยาวนานลง 
    เฮอร์ไมโอนี่เอามือฟาดลงบนหน้าของเธอเองบนหน้าต่าง กระจกแผ่นนั้นทะลุร่วงกราวออกนอกหน้าต่าง 
    ส่วนแผ่นที่ติดกันอีกสองสามแผ่นแตกกระจายอยู่บนพื้นห้อง มือของเธอเต็มไปด้วยเศษกระจก 
    แต่ดูเหมือนเธอจะไม่รู้สึกตัว เฮอร์ไมโอนี่ทรุดตัวลงนั่งกองอยู่กับพื้นที่เต็มไปด้วยกระจก 
    หลังพิงอยู่กับผนังหินเย็นๆ เธอนั้งมองดูเลือดของเธอหยดลงพื้นอย่างใจลอย
    " เกรนเจอร์ !!!!!!! "
    เดรโกที่ก้าวออกมาจากบันไดด้านข้างร้องออกมาอย่างตกใจกับสิ่งที่เขากำลังเห็นอยู่ 
    เฮอร์ไมโอนี่หันมามองช้าๆด้วยดวงตาแดงก่ำ
    " ไม่ล่ะมัลฟอย วันนี้ชั้นไม่มีอารมณ์จะทะเลาะด้วย "
    เธอพูดกับเขาด้วยเสียงเหนื่อยหน่ายเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
    " เธอเป็นอะไร ...ทำไม มือ มือเธอเป็นอย่างงี้ "
    เขาก้าวเข้ามาหาเธอและทรุดตัวลงนั่งใกล้ๆ โดยไม่ใส่ใจที่จะกวาดกระจกออกให้พ้นทาง ....เธอเงียบ
    " ใครทำอะไรเธอ บอกชั้นมา " เขาคาดคั้น และอย่างที่เขาไม่คาดคิด 
    เฮอร์ไมโอนี่ก็ตะโกนออกมาด้วยความอัดอั้น
    " ชั้นเอง!!!! ชั้นทำตัวชั้นเอง!!!! ชั้นมันสกปรก ชั้นมันเลว!!!!! " 
    เธอฟาดมือลงกับพื้นอย่างบ้าคลั่ง เดรกโกรีบเอามือของเขาไปรองไว้ระหว่างเศษกระจก 
    ทำให้เศษพวกนั้นฝังลงบนหลังมือของเขา เขารวบตัวเธอเข้ามากอดไว้แน่น 
    กดศีรษะเธอให้อยู่แนบกับหน้าอกของเขา
    " ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม มันจะมีทางแก้เกรนเจอร์ แต่ไม่ใช่ทำร้ายตัวเองอย่างนี้ "
    เขาพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาและอ่อนโยนอย่างยิ่ง เธอมีอาการเหมือนช็อค 
    แต่ก็ยอมอยู่ในวงแขนของเขาแต่โดยดี อกเสื้อของเขาเลอะเป็นวงใหญ่ด้วยน้ำตาผสมคราบเลือด
    " นิ่งนะเกรนเจอร์ อย่าร้องไห้ "เขาเอามือที่เต็มไปด้วยเลือดลูบหัวเธอเบาๆ 
    พร้อมกับโยกตัวไปมาเหมือนกำลังกล่อมเด็กให้นอน
    " เฮอร์ไมโอนี่ .....คนดีของชั้น นิ่งนะ "
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×