ลำดับตอนที่ #11
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : CHAPTER 11 +++Awful Truth+++
' เฮอร์ไมโอนี่...เธอเป็นอะไรน่ะ...เธอหึงเค้าหรอ บ้าน่า ความหึงหวงต้องมาคู่กับความรัก
แต่นี่ไม่ใช่ ไม่ใช่แน่ๆ แต่เด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร...หน้าตาน่ารัก เฮอะ...น่าเสียดาย
ไปคบกับมัลฟอย คนอย่านั้นไม่คู่ควรกับคนน่ารักอย่างเธอซักนิด '
เฮอร์ไมโอนี่พ่นลมหายใจแรงเหมือนกับจะเป่าทุกอย่างที่สะท้อนกลับไปมาในหัวให้ออกไปจากตัว
ก่อนจะนั่งลงมองเพื่อนรักทั้งสองลงสนามซ้อม
" นี่มัลฟอย...มัลฟอย.. นายเป็นอะไรน่ะตั้งแต่กลับมาจากเซนต์ไอฟว์ ชั้นเห็นนายเหม่อๆชอบกล
" เด็กสาวผมดำคนนั้นถามขณะที่ทั้งสองเดินมุ่งหน้าไปทะเลสาปหลังอาหารค่ำ
" อย่ายุ่งไปหน่อยเลยน่า ยัยตัวแสบ "
มัลฟอยหันกลับมาขยี้ผมเธอหลังจากดึงสติที่ลอยละล่องของเขากลับคืนมา
" เธอก็รู้ว่าชั้นเป็นห่วง... เรื่องข่าวนั่นรึเปล่า " เธอยังคงซักเขาต่อ
" ชั้นไม่สนไอ้ข่าวงี่เง่านั่นหรอก หรือเธอสน...เธอโกรธชั้นรึเปล่า "
มัลฟอยฉุดแขนเธอลงนั่งกับพื้นหญ้าริมทะเลสาป
" ไม่หรอก...ทำไมชั้นต้องโกรธเธอด้วย " เธอหันหน้ามายิ้มๆให้เขา
" เธอเป็นแฟนชั้นนะ!!! " มัลฟอยเลิกคิ้วอย่างสงสัยระคนแปลกใจ
" อย่าหลอกตัวเองหน่อยเลย มัลฟอย "
เธอจ้องมองเขาตรงๆลึกเข้าไปในดวงตาสีฟ้าซีดๆอย่างค้นหา
" เอไลช่า...เธอเป็นอะไร เธอหมายความว่ายังไง "
" ก็แค่.. มันถึงเวลาแล้วที่เราจะมาพูดความจริงกันซักที " เธอละสายตาไปจากเขา
หันมองออกไปยังภาพตรงหน้า ดวงอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า ทิ้งแสงสีทองทอดผ่านผิวน้ำของทะเลสาบแห่งฮอกวอตส์
ก่อให้เกิดประกายระยิบระยับสะท้อนผืนน้ำ มัลฟอยหันไปจ้องใบหน้าอ่อนละมุนของสาวผมดำ
" นานแค่ไหนแล้วนะ.......ที่เราเป็นแฟนกัน " เธอยังมองออกไปตรงหน้าอย่างเลื่อนลอย
มัลฟอยไม่แน่ใจว่าจะตอบคำถามของเธอดีหรือไม่ เพราะดูเหมือนว่าเธอต้องการจะระบายมากกว่า
" สามเดือนสินะ.... " ใช่แล้ว..สามเดือนที่พวกเขาคบกันอย่างเงียบๆ
โดยไม่ทำตัวเป็นที่สะดุดตาของคนอื่น ไม่มีการแสดงออกถึงความรักแบบคู่อื่นๆ ไม่มีแม้แต่ของขวัญ
มีแต่การพูดคุยกันเรื่อยเปื่อยอย่างคนรู้ใจ จนเหมือนกับว่าเป็นแค่พี่น้องกันเท่านั้น
" เธอโกรธชั้นเรื่องนั้นจริงๆด้วย ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่พูด จริงไม๊ "
เขายังทำหน้างงๆกับสิ่งที่เธอพูด
" นึกว่าเธอจะรู้ใจชั้นดีกว่านี้ซะอีก... หรือจะพูดอีกอย่าง....
ชั้นนึกว่าเธอจะรู้ใจตัวเองดีซะอีก " เอไลช่าหันกลับมาหรี่ตามองเขาอย่างมีความหมาย
" เธอพูดขำๆ อีกแล้ว....วันนี้เธอเป็นอะไรเนี่ย " เขาพูดพร้อมปั้นสีหน้าไม่เข้าใจ
ทั้งที่ตัวเขาเองคิดว่าเขาเริ่มรู้แล้วว่าเธอกำลังพูดเรื่องอะไร
" ตอนนี้เธอคงรู้แล้วซินะว่าชั้นพูดเรื่องอะไร....อย่ามาทำไก๋ " เอไลช่ายิ้มให้เขา
" เธอรู้... " เขาสบตาเธอแน่วแน่
" ก็ชั้นมีตา " เธอจ้องตาเขากลับแบบรู้ทัน
" เธอไม่โกรธชั้นใช่ไม๊...เอไลช่า "
เขาถามอย่างกัลวลและห่วงใยความรู้สึกของเธอเป็นอย่างยิ่ง
" ถ้าชั้นจะตอบว่า...ไม่..ล่ะ "
" เธอไม่ได้ชอบชั้นหรอ " มัลฟอยเลิกคิ้วอย่างสงสัย
" ชอบ...แต่เป็นความชอบที่ได้มีเพื่อนคุยดีๆอย่างเธอต่างหาก นอกจากลูน่า
กับเพื่อนเรเวนคลออีกสองสามคนแล้ว ชั้นแทบไม่มีเพื่อนสนิทเลย " เธอตอบอย่างเศร้าๆ
" งั้น..เธอจะนับชั้นเป็นสนิทเพื่อนเธออีกคนนึงจะได้ไม๊ "
เขาเหยียดริมฝีปากยิ้มให้กับเธออย่างจริงใจ
" เพราะชั้นก็คล้ายๆ เธอ ไม่มีใครคุยแบบจริงจังอย่างนี้มาก่อน
มีแต่คนคอยรับคำสั่งชั้นอย่างเดียว "
" ได้เสมอ..ตราบเท่าที่เธอต้องการ " เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่
เหมือนเพิ่งเป่าปัญหาที่หนักหน่วงออกไปจากตัวเธอได้เสียที
แล้วความสัมพันธ์แบบที่เขาเคยเรียกได้ว่าแฟนก็จบลงตรงนั้น
แต่ความสัมพันธ์แบบแปลกประหลาดที่เป็นทั้งพี่น้องผสมเพื่อนก็เริ่มขึ้น
มันไม่ก่อให้เกิดความตะขิดตะขวงใจแม้แต่น้อย
กลับตรงกันข้าม...มันเปิดโอกาสให้ทั้งสองพูดเรื่องต่างๆที่ไม่เคยเป็นหัวข้อในการสนทนาได้สบายใจขึ้น
ทั้งสองนั่งมองอาทิตย์ลับขอบฟ้ากันเงียบๆก่อนที่เอไลช่าจะถามคำถามที่ทำให้มัลฟอยต้องสำลักออกมา
" นายทำอะไรให้เธอ...เธอถึงไม่ยอมมองหน้านายเลย " เธอหันหน้ามาถามเขาอย่างจริงจัง
" แค่กๆ....เธอว่าไงนะ " เขาสำลัก
" นายได้ยินชั้นแล้วนี่...ตอบมา "
" ไม่เกี่ยวกับเธอซักหน่อย " มัลฟอยเริ่มทำท่าทางแบบหยิ่งยโสคนเดิมออกมาอีกครั้ง
" ไม่เอาน่า...หยุดทำท่าแบบนั้นซักที ชั้นไม่ใช่แครบกับกอยล์นะ บอกมา...ชั้นจะหาทางแก้ให้
" เธอทำเสียงดุใส่เขา
" เอ่อ...คือ...เอ่อ... " เขาอ้ำอึ้ง เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต
" เล่ามาเถอะน่า..นะ " เธอทำท่าทางเหมือนหลอกล่อเด็กตัวเล็กๆ ด้วยเสียงหวานๆ
" คือ....ชั้น....คือชั้น.....ชั้นจูบเค้าแล้วก็เกือบปล้ำเค้าน่ะสิ "
และในที่สุดมัลฟอยก็โพล่งออกมาอย่างรวดเร็ว ด้วยใบหน้าที่มีสีเรื่อๆ
" ว้า....ยากหน่อยเฮะ ยังไงก็แล้วแต่ นายต้องไปขอโทษเค้าซะ "
" คนอย่างนายมัลฟอยเนี่ยนะต้องไปขอโทษ ...ไม่มีวัน... มีอะไรที่ทำยากกว่านี้บ้างไม๊ "
เขามองหน้าเธออย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเองว่าเอไลช่าจะให้เขาทำอะไรอย่างนี้
...ให้เขาวิ่งเข้าป่าต้องห้ามยังจะง่ายซะกว่า
" นี่แหละ..สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับนาย ...ไปขอโทษซะ แล้วก็ขอเธอคืนดีด้วย "
เอไลช่าพยักหน้าอย่างจริงจัง ทำให้มัลฟอยคิดหนักว่าควรจะไปขอโทษเฮอร์ไมโอนี่ดีหรือเปล่า
" ก็ได้....ก็ได้... ชั้นจะไปขอโทษเธอคืนนี้ พอใจรึยังยัยตัวแสบ
เธอเป็นคนแรกเลยนะเนี่ยที่นายมัลฟอยรับคำสั่ง " เขายิ้มทะเล้น
แล้วเอาปลายนิ้วพันกับปอยผมลื่นๆของเธอเล่นอย่างเบามือ เอไลช่าหันหน้าออกไปทะเลสาปอีกครั้ง
" เฮ้อ......จนถึงวันนี้ชั้นยังไม่มีสิทธิ์ที่จะได้เรียกชื่อต้นของนายซักที "
เธออมยิ้มกับตัวเอง
" เธอมีสิทธิ์เรียกนับตั้งแต่วันแรกที่เรารู้จักกันแล้วล่ะ "
เขาโน้มตัวเอาท่อนแขนแข็งแรงมาโอบไหล่เธอไว้อย่างรักใคร่
" ลมเริ่มแรงแล้วชั้นไปดีกว่า ....อ้อ..แล้วถ้าชั้นเป็นนาย ชั้นจะกำจัดพากินสันก่อน
นายก็รู้ตัวนี่ว่าเธอให้ท่านายมาตั้งแต่ปีสาม จนป่านนี้ยังไม่สำเร็จ
น่ารำคาญ..ยัยพากินสันเหมือนยุงที่บินอยู่หลังหูแต่ตบไม่ได้ซักที
นี่เป็นสิ่งต่อไปที่นายจะต้องทำหลังจากภาระกิจสำคัญเสร็จ.....โชคดีนะ.....เดรโก "
เอไลช่ายืดตัวตัวเอาริมฝีปากอ่อนนุ่มพัดผ่านแก้มของมัลฟอยอย่างรวดเร็ว
ก่อนจะโบกมือลาและลุกขึ้นวิ่งหายกลับเข้าไปในปราสาท
ค่ำลง....ทีมกริฟฟินดอร์เพิ่งจะเลิกซ้อม ไม้กวาดทุกด้ามพร้อมเจ้านายของมันพุ่งลงมายังสนามหญ้า
" เป็นไงมั่ง เฮอร์ไมโอนี่ ท่าป้องกันประตูแบบใหม่ของชั้น " รอนวิ่งมาถามความเห็นกับเธอ
หลังจากที่เขาทำท่าตีลังกาหลังเอาปลายเท้ากันควัฟเฟิลที่พุ่งตรงมาหาเขาถึงสองลูกติดกัน
" เจ๋งไปเลยรอน ชั้นรอให้ถึงวันแข่งไม่ไหวแล้ว อยากเห็นหน้าพวกสลิธิรินจริงๆเวลาแพ้
เห็นทีไรนะ...อาหารยิ่งอร่อย " เธอตอบด้วยนัยตาเป็นประกาย
" ช่ายยยยย อยากเห็นหน้าไอ้ซีดมัลฟอยเวลาแพ้อีกจริงๆ "
แฮร์รี่ที่ตามมาสมทบพูดอย่างร่าเริง ทั้งสามหัวเราะและกอดคอกันเดินเข้าปราสาท
" เฮ้ย... " อยู่ดีๆรอนก็ตะโกนออกมา
" อะไรของนายอีก "
" ชั้นลืมรายชื่อส่วนผสมน้ำยาสกัดดวงชะตาไว้ที่คุกใต้ดิน ...ตายแหง๋แก๋แน่งานนี้
นายวีสลีย์เอ๋ย " พูดจบ รอนก็จ้ำพรวดไปยังคุกใต้ดินทันที
ปล่อยให้แฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่ยืนขำกับท่าวิ่งแบบไม่คิดชีวิตของรอนตามลำพัง
" รอนไปแล้ว เรามาพูดเรื่องของเรากันดีกว่า " แฮร์รี่กุมมือเฮอร์ไมโอนี่ไว้เบาๆ
เธอหันหน้าไปมองเขาอย่างไม่เข้าใจ
" เรื่องอะไรหรอแฮร์รี่... ชั้นทำอะไรให้เธอไม่สบายใจรึเปล่า "
เธอถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล
" เปล่าเลย... ชั้นแค่อยากถามว่า ...ชั้นดีพอที่จะเป็นมากกว่าเพื่อนของเธอรึยัง "
ดวงตาสีเขียวสดใสของเขาจ้องตรงไปยังดวงตาสีน้ำตาลอ่อนๆของเธอ เขายิ้มให้เธออย่างอบอุ่น
หากแต่สิ่งเหล่านี้ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดไม่น้อย เธอไม่เคยคิดแบบนี้กับเพื่อนทั้งสองของเธอ
แม้เธอจะพอรู้อยู่บ้างตามสัญชาตญาณของผู้หญิงว่ารอนแอบมีใจให้เธอ แต่ทุกสิ่งไม่เคยเดินหน้าต่อ
แต่คราวนี้เป็นแฮร์รี่ ผู้ชายที่แสนอบอุ่นและวิเศษอย่างน่าเหลือเชื่อ
ผู้ชายที่รับภาระอันยิ่งใหญ่อย่างที่พ่อมดโตๆคนอื่นไม่เคยต้องพบ เฮอร์ไมโอนี่จะตอบเขาว่าอย่างไรดี
" เอ่อ... " เธอหาคำตอบให้เขาไม่ได้
"? ชั้นยังไม่ต้องการคำตอบของเธอวันนี้ กลับไปนอนคิดดีๆก่อน แล้วชั้นจะมาทวงคำตอบ
แต่ก่อนหน้านั้นชั้นขอ.... " พูดยังไม่ทันจบ
แฮร์รี่ก็รั้งตัวเธอเข้ามาใกล้ทิ้งไฟโบลว์ลงอย่างไม่ใส่ใจ
เขาสอดมือเข้าไปในเรือนผมเพื่อพยุงต้นคอแล้วก้มลงทาบริมฝีปากกับเธออย่างแผ่วเบาและอ่อนโยน
เธอไม่ทันตั้งตัว ทุกอย่างผ่านไปอย่างรวดเร็วจนกระทั่งแฮร์รี่เดินแบกไฟโบลต์แล้วผิวปากเบาๆขึ้นหอไป
....หากแต่ภาพเหล่านั้นทั้งหมดตกอยู่ในสายตาที่เบิกกว้างอย่างตกใจของรอนที่เพิ่งเดินกลับมาจากคุกใต้ดิน
...และ...มัลฟอย
แต่นี่ไม่ใช่ ไม่ใช่แน่ๆ แต่เด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร...หน้าตาน่ารัก เฮอะ...น่าเสียดาย
ไปคบกับมัลฟอย คนอย่านั้นไม่คู่ควรกับคนน่ารักอย่างเธอซักนิด '
เฮอร์ไมโอนี่พ่นลมหายใจแรงเหมือนกับจะเป่าทุกอย่างที่สะท้อนกลับไปมาในหัวให้ออกไปจากตัว
ก่อนจะนั่งลงมองเพื่อนรักทั้งสองลงสนามซ้อม
" นี่มัลฟอย...มัลฟอย.. นายเป็นอะไรน่ะตั้งแต่กลับมาจากเซนต์ไอฟว์ ชั้นเห็นนายเหม่อๆชอบกล
" เด็กสาวผมดำคนนั้นถามขณะที่ทั้งสองเดินมุ่งหน้าไปทะเลสาปหลังอาหารค่ำ
" อย่ายุ่งไปหน่อยเลยน่า ยัยตัวแสบ "
มัลฟอยหันกลับมาขยี้ผมเธอหลังจากดึงสติที่ลอยละล่องของเขากลับคืนมา
" เธอก็รู้ว่าชั้นเป็นห่วง... เรื่องข่าวนั่นรึเปล่า " เธอยังคงซักเขาต่อ
" ชั้นไม่สนไอ้ข่าวงี่เง่านั่นหรอก หรือเธอสน...เธอโกรธชั้นรึเปล่า "
มัลฟอยฉุดแขนเธอลงนั่งกับพื้นหญ้าริมทะเลสาป
" ไม่หรอก...ทำไมชั้นต้องโกรธเธอด้วย " เธอหันหน้ามายิ้มๆให้เขา
" เธอเป็นแฟนชั้นนะ!!! " มัลฟอยเลิกคิ้วอย่างสงสัยระคนแปลกใจ
" อย่าหลอกตัวเองหน่อยเลย มัลฟอย "
เธอจ้องมองเขาตรงๆลึกเข้าไปในดวงตาสีฟ้าซีดๆอย่างค้นหา
" เอไลช่า...เธอเป็นอะไร เธอหมายความว่ายังไง "
" ก็แค่.. มันถึงเวลาแล้วที่เราจะมาพูดความจริงกันซักที " เธอละสายตาไปจากเขา
หันมองออกไปยังภาพตรงหน้า ดวงอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า ทิ้งแสงสีทองทอดผ่านผิวน้ำของทะเลสาบแห่งฮอกวอตส์
ก่อให้เกิดประกายระยิบระยับสะท้อนผืนน้ำ มัลฟอยหันไปจ้องใบหน้าอ่อนละมุนของสาวผมดำ
" นานแค่ไหนแล้วนะ.......ที่เราเป็นแฟนกัน " เธอยังมองออกไปตรงหน้าอย่างเลื่อนลอย
มัลฟอยไม่แน่ใจว่าจะตอบคำถามของเธอดีหรือไม่ เพราะดูเหมือนว่าเธอต้องการจะระบายมากกว่า
" สามเดือนสินะ.... " ใช่แล้ว..สามเดือนที่พวกเขาคบกันอย่างเงียบๆ
โดยไม่ทำตัวเป็นที่สะดุดตาของคนอื่น ไม่มีการแสดงออกถึงความรักแบบคู่อื่นๆ ไม่มีแม้แต่ของขวัญ
มีแต่การพูดคุยกันเรื่อยเปื่อยอย่างคนรู้ใจ จนเหมือนกับว่าเป็นแค่พี่น้องกันเท่านั้น
" เธอโกรธชั้นเรื่องนั้นจริงๆด้วย ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่พูด จริงไม๊ "
เขายังทำหน้างงๆกับสิ่งที่เธอพูด
" นึกว่าเธอจะรู้ใจชั้นดีกว่านี้ซะอีก... หรือจะพูดอีกอย่าง....
ชั้นนึกว่าเธอจะรู้ใจตัวเองดีซะอีก " เอไลช่าหันกลับมาหรี่ตามองเขาอย่างมีความหมาย
" เธอพูดขำๆ อีกแล้ว....วันนี้เธอเป็นอะไรเนี่ย " เขาพูดพร้อมปั้นสีหน้าไม่เข้าใจ
ทั้งที่ตัวเขาเองคิดว่าเขาเริ่มรู้แล้วว่าเธอกำลังพูดเรื่องอะไร
" ตอนนี้เธอคงรู้แล้วซินะว่าชั้นพูดเรื่องอะไร....อย่ามาทำไก๋ " เอไลช่ายิ้มให้เขา
" เธอรู้... " เขาสบตาเธอแน่วแน่
" ก็ชั้นมีตา " เธอจ้องตาเขากลับแบบรู้ทัน
" เธอไม่โกรธชั้นใช่ไม๊...เอไลช่า "
เขาถามอย่างกัลวลและห่วงใยความรู้สึกของเธอเป็นอย่างยิ่ง
" ถ้าชั้นจะตอบว่า...ไม่..ล่ะ "
" เธอไม่ได้ชอบชั้นหรอ " มัลฟอยเลิกคิ้วอย่างสงสัย
" ชอบ...แต่เป็นความชอบที่ได้มีเพื่อนคุยดีๆอย่างเธอต่างหาก นอกจากลูน่า
กับเพื่อนเรเวนคลออีกสองสามคนแล้ว ชั้นแทบไม่มีเพื่อนสนิทเลย " เธอตอบอย่างเศร้าๆ
" งั้น..เธอจะนับชั้นเป็นสนิทเพื่อนเธออีกคนนึงจะได้ไม๊ "
เขาเหยียดริมฝีปากยิ้มให้กับเธออย่างจริงใจ
" เพราะชั้นก็คล้ายๆ เธอ ไม่มีใครคุยแบบจริงจังอย่างนี้มาก่อน
มีแต่คนคอยรับคำสั่งชั้นอย่างเดียว "
" ได้เสมอ..ตราบเท่าที่เธอต้องการ " เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่
เหมือนเพิ่งเป่าปัญหาที่หนักหน่วงออกไปจากตัวเธอได้เสียที
แล้วความสัมพันธ์แบบที่เขาเคยเรียกได้ว่าแฟนก็จบลงตรงนั้น
แต่ความสัมพันธ์แบบแปลกประหลาดที่เป็นทั้งพี่น้องผสมเพื่อนก็เริ่มขึ้น
มันไม่ก่อให้เกิดความตะขิดตะขวงใจแม้แต่น้อย
กลับตรงกันข้าม...มันเปิดโอกาสให้ทั้งสองพูดเรื่องต่างๆที่ไม่เคยเป็นหัวข้อในการสนทนาได้สบายใจขึ้น
ทั้งสองนั่งมองอาทิตย์ลับขอบฟ้ากันเงียบๆก่อนที่เอไลช่าจะถามคำถามที่ทำให้มัลฟอยต้องสำลักออกมา
" นายทำอะไรให้เธอ...เธอถึงไม่ยอมมองหน้านายเลย " เธอหันหน้ามาถามเขาอย่างจริงจัง
" แค่กๆ....เธอว่าไงนะ " เขาสำลัก
" นายได้ยินชั้นแล้วนี่...ตอบมา "
" ไม่เกี่ยวกับเธอซักหน่อย " มัลฟอยเริ่มทำท่าทางแบบหยิ่งยโสคนเดิมออกมาอีกครั้ง
" ไม่เอาน่า...หยุดทำท่าแบบนั้นซักที ชั้นไม่ใช่แครบกับกอยล์นะ บอกมา...ชั้นจะหาทางแก้ให้
" เธอทำเสียงดุใส่เขา
" เอ่อ...คือ...เอ่อ... " เขาอ้ำอึ้ง เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต
" เล่ามาเถอะน่า..นะ " เธอทำท่าทางเหมือนหลอกล่อเด็กตัวเล็กๆ ด้วยเสียงหวานๆ
" คือ....ชั้น....คือชั้น.....ชั้นจูบเค้าแล้วก็เกือบปล้ำเค้าน่ะสิ "
และในที่สุดมัลฟอยก็โพล่งออกมาอย่างรวดเร็ว ด้วยใบหน้าที่มีสีเรื่อๆ
" ว้า....ยากหน่อยเฮะ ยังไงก็แล้วแต่ นายต้องไปขอโทษเค้าซะ "
" คนอย่างนายมัลฟอยเนี่ยนะต้องไปขอโทษ ...ไม่มีวัน... มีอะไรที่ทำยากกว่านี้บ้างไม๊ "
เขามองหน้าเธออย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเองว่าเอไลช่าจะให้เขาทำอะไรอย่างนี้
...ให้เขาวิ่งเข้าป่าต้องห้ามยังจะง่ายซะกว่า
" นี่แหละ..สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับนาย ...ไปขอโทษซะ แล้วก็ขอเธอคืนดีด้วย "
เอไลช่าพยักหน้าอย่างจริงจัง ทำให้มัลฟอยคิดหนักว่าควรจะไปขอโทษเฮอร์ไมโอนี่ดีหรือเปล่า
" ก็ได้....ก็ได้... ชั้นจะไปขอโทษเธอคืนนี้ พอใจรึยังยัยตัวแสบ
เธอเป็นคนแรกเลยนะเนี่ยที่นายมัลฟอยรับคำสั่ง " เขายิ้มทะเล้น
แล้วเอาปลายนิ้วพันกับปอยผมลื่นๆของเธอเล่นอย่างเบามือ เอไลช่าหันหน้าออกไปทะเลสาปอีกครั้ง
" เฮ้อ......จนถึงวันนี้ชั้นยังไม่มีสิทธิ์ที่จะได้เรียกชื่อต้นของนายซักที "
เธออมยิ้มกับตัวเอง
" เธอมีสิทธิ์เรียกนับตั้งแต่วันแรกที่เรารู้จักกันแล้วล่ะ "
เขาโน้มตัวเอาท่อนแขนแข็งแรงมาโอบไหล่เธอไว้อย่างรักใคร่
" ลมเริ่มแรงแล้วชั้นไปดีกว่า ....อ้อ..แล้วถ้าชั้นเป็นนาย ชั้นจะกำจัดพากินสันก่อน
นายก็รู้ตัวนี่ว่าเธอให้ท่านายมาตั้งแต่ปีสาม จนป่านนี้ยังไม่สำเร็จ
น่ารำคาญ..ยัยพากินสันเหมือนยุงที่บินอยู่หลังหูแต่ตบไม่ได้ซักที
นี่เป็นสิ่งต่อไปที่นายจะต้องทำหลังจากภาระกิจสำคัญเสร็จ.....โชคดีนะ.....เดรโก "
เอไลช่ายืดตัวตัวเอาริมฝีปากอ่อนนุ่มพัดผ่านแก้มของมัลฟอยอย่างรวดเร็ว
ก่อนจะโบกมือลาและลุกขึ้นวิ่งหายกลับเข้าไปในปราสาท
ค่ำลง....ทีมกริฟฟินดอร์เพิ่งจะเลิกซ้อม ไม้กวาดทุกด้ามพร้อมเจ้านายของมันพุ่งลงมายังสนามหญ้า
" เป็นไงมั่ง เฮอร์ไมโอนี่ ท่าป้องกันประตูแบบใหม่ของชั้น " รอนวิ่งมาถามความเห็นกับเธอ
หลังจากที่เขาทำท่าตีลังกาหลังเอาปลายเท้ากันควัฟเฟิลที่พุ่งตรงมาหาเขาถึงสองลูกติดกัน
" เจ๋งไปเลยรอน ชั้นรอให้ถึงวันแข่งไม่ไหวแล้ว อยากเห็นหน้าพวกสลิธิรินจริงๆเวลาแพ้
เห็นทีไรนะ...อาหารยิ่งอร่อย " เธอตอบด้วยนัยตาเป็นประกาย
" ช่ายยยยย อยากเห็นหน้าไอ้ซีดมัลฟอยเวลาแพ้อีกจริงๆ "
แฮร์รี่ที่ตามมาสมทบพูดอย่างร่าเริง ทั้งสามหัวเราะและกอดคอกันเดินเข้าปราสาท
" เฮ้ย... " อยู่ดีๆรอนก็ตะโกนออกมา
" อะไรของนายอีก "
" ชั้นลืมรายชื่อส่วนผสมน้ำยาสกัดดวงชะตาไว้ที่คุกใต้ดิน ...ตายแหง๋แก๋แน่งานนี้
นายวีสลีย์เอ๋ย " พูดจบ รอนก็จ้ำพรวดไปยังคุกใต้ดินทันที
ปล่อยให้แฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่ยืนขำกับท่าวิ่งแบบไม่คิดชีวิตของรอนตามลำพัง
" รอนไปแล้ว เรามาพูดเรื่องของเรากันดีกว่า " แฮร์รี่กุมมือเฮอร์ไมโอนี่ไว้เบาๆ
เธอหันหน้าไปมองเขาอย่างไม่เข้าใจ
" เรื่องอะไรหรอแฮร์รี่... ชั้นทำอะไรให้เธอไม่สบายใจรึเปล่า "
เธอถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล
" เปล่าเลย... ชั้นแค่อยากถามว่า ...ชั้นดีพอที่จะเป็นมากกว่าเพื่อนของเธอรึยัง "
ดวงตาสีเขียวสดใสของเขาจ้องตรงไปยังดวงตาสีน้ำตาลอ่อนๆของเธอ เขายิ้มให้เธออย่างอบอุ่น
หากแต่สิ่งเหล่านี้ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดไม่น้อย เธอไม่เคยคิดแบบนี้กับเพื่อนทั้งสองของเธอ
แม้เธอจะพอรู้อยู่บ้างตามสัญชาตญาณของผู้หญิงว่ารอนแอบมีใจให้เธอ แต่ทุกสิ่งไม่เคยเดินหน้าต่อ
แต่คราวนี้เป็นแฮร์รี่ ผู้ชายที่แสนอบอุ่นและวิเศษอย่างน่าเหลือเชื่อ
ผู้ชายที่รับภาระอันยิ่งใหญ่อย่างที่พ่อมดโตๆคนอื่นไม่เคยต้องพบ เฮอร์ไมโอนี่จะตอบเขาว่าอย่างไรดี
" เอ่อ... " เธอหาคำตอบให้เขาไม่ได้
"? ชั้นยังไม่ต้องการคำตอบของเธอวันนี้ กลับไปนอนคิดดีๆก่อน แล้วชั้นจะมาทวงคำตอบ
แต่ก่อนหน้านั้นชั้นขอ.... " พูดยังไม่ทันจบ
แฮร์รี่ก็รั้งตัวเธอเข้ามาใกล้ทิ้งไฟโบลว์ลงอย่างไม่ใส่ใจ
เขาสอดมือเข้าไปในเรือนผมเพื่อพยุงต้นคอแล้วก้มลงทาบริมฝีปากกับเธออย่างแผ่วเบาและอ่อนโยน
เธอไม่ทันตั้งตัว ทุกอย่างผ่านไปอย่างรวดเร็วจนกระทั่งแฮร์รี่เดินแบกไฟโบลต์แล้วผิวปากเบาๆขึ้นหอไป
....หากแต่ภาพเหล่านั้นทั้งหมดตกอยู่ในสายตาที่เบิกกว้างอย่างตกใจของรอนที่เพิ่งเดินกลับมาจากคุกใต้ดิน
...และ...มัลฟอย
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น