ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    + + + The Last Year + + +[Draco&Hermione] by Sandy Weasel

    ลำดับตอนที่ #11 : CHAPTER 11 +++Awful Truth+++

    • อัปเดตล่าสุด 12 ส.ค. 54


    ' เฮอร์ไมโอนี่...เธอเป็นอะไรน่ะ...เธอหึงเค้าหรอ บ้าน่า ความหึงหวงต้องมาคู่กับความรัก 
    แต่นี่ไม่ใช่ ไม่ใช่แน่ๆ แต่เด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร...หน้าตาน่ารัก เฮอะ...น่าเสียดาย 
    ไปคบกับมัลฟอย คนอย่านั้นไม่คู่ควรกับคนน่ารักอย่างเธอซักนิด '
    เฮอร์ไมโอนี่พ่นลมหายใจแรงเหมือนกับจะเป่าทุกอย่างที่สะท้อนกลับไปมาในหัวให้ออกไปจากตัว 
    ก่อนจะนั่งลงมองเพื่อนรักทั้งสองลงสนามซ้อม

    " นี่มัลฟอย...มัลฟอย.. นายเป็นอะไรน่ะตั้งแต่กลับมาจากเซนต์ไอฟว์ ชั้นเห็นนายเหม่อๆชอบกล
    " เด็กสาวผมดำคนนั้นถามขณะที่ทั้งสองเดินมุ่งหน้าไปทะเลสาปหลังอาหารค่ำ
    " อย่ายุ่งไปหน่อยเลยน่า ยัยตัวแสบ "
    มัลฟอยหันกลับมาขยี้ผมเธอหลังจากดึงสติที่ลอยละล่องของเขากลับคืนมา
    " เธอก็รู้ว่าชั้นเป็นห่วง... เรื่องข่าวนั่นรึเปล่า " เธอยังคงซักเขาต่อ
    " ชั้นไม่สนไอ้ข่าวงี่เง่านั่นหรอก หรือเธอสน...เธอโกรธชั้นรึเปล่า "
    มัลฟอยฉุดแขนเธอลงนั่งกับพื้นหญ้าริมทะเลสาป
    " ไม่หรอก...ทำไมชั้นต้องโกรธเธอด้วย " เธอหันหน้ามายิ้มๆให้เขา
    " เธอเป็นแฟนชั้นนะ!!! " มัลฟอยเลิกคิ้วอย่างสงสัยระคนแปลกใจ
    " อย่าหลอกตัวเองหน่อยเลย มัลฟอย "
    เธอจ้องมองเขาตรงๆลึกเข้าไปในดวงตาสีฟ้าซีดๆอย่างค้นหา
    " เอไลช่า...เธอเป็นอะไร เธอหมายความว่ายังไง "
    " ก็แค่.. มันถึงเวลาแล้วที่เราจะมาพูดความจริงกันซักที " เธอละสายตาไปจากเขา 
    หันมองออกไปยังภาพตรงหน้า ดวงอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า ทิ้งแสงสีทองทอดผ่านผิวน้ำของทะเลสาบแห่งฮอกวอตส์ 
    ก่อให้เกิดประกายระยิบระยับสะท้อนผืนน้ำ มัลฟอยหันไปจ้องใบหน้าอ่อนละมุนของสาวผมดำ
    " นานแค่ไหนแล้วนะ.......ที่เราเป็นแฟนกัน " เธอยังมองออกไปตรงหน้าอย่างเลื่อนลอย 
    มัลฟอยไม่แน่ใจว่าจะตอบคำถามของเธอดีหรือไม่ เพราะดูเหมือนว่าเธอต้องการจะระบายมากกว่า
    " สามเดือนสินะ.... " ใช่แล้ว..สามเดือนที่พวกเขาคบกันอย่างเงียบๆ 
    โดยไม่ทำตัวเป็นที่สะดุดตาของคนอื่น ไม่มีการแสดงออกถึงความรักแบบคู่อื่นๆ ไม่มีแม้แต่ของขวัญ 
    มีแต่การพูดคุยกันเรื่อยเปื่อยอย่างคนรู้ใจ จนเหมือนกับว่าเป็นแค่พี่น้องกันเท่านั้น
    " เธอโกรธชั้นเรื่องนั้นจริงๆด้วย ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่พูด จริงไม๊ "
    เขายังทำหน้างงๆกับสิ่งที่เธอพูด
    " นึกว่าเธอจะรู้ใจชั้นดีกว่านี้ซะอีก... หรือจะพูดอีกอย่าง.... 
    ชั้นนึกว่าเธอจะรู้ใจตัวเองดีซะอีก " เอไลช่าหันกลับมาหรี่ตามองเขาอย่างมีความหมาย
    " เธอพูดขำๆ อีกแล้ว....วันนี้เธอเป็นอะไรเนี่ย " เขาพูดพร้อมปั้นสีหน้าไม่เข้าใจ 
    ทั้งที่ตัวเขาเองคิดว่าเขาเริ่มรู้แล้วว่าเธอกำลังพูดเรื่องอะไร
    " ตอนนี้เธอคงรู้แล้วซินะว่าชั้นพูดเรื่องอะไร....อย่ามาทำไก๋ " เอไลช่ายิ้มให้เขา
    " เธอรู้... " เขาสบตาเธอแน่วแน่
    " ก็ชั้นมีตา " เธอจ้องตาเขากลับแบบรู้ทัน
    " เธอไม่โกรธชั้นใช่ไม๊...เอไลช่า "
    เขาถามอย่างกัลวลและห่วงใยความรู้สึกของเธอเป็นอย่างยิ่ง
    " ถ้าชั้นจะตอบว่า...ไม่..ล่ะ "
    " เธอไม่ได้ชอบชั้นหรอ " มัลฟอยเลิกคิ้วอย่างสงสัย
    " ชอบ...แต่เป็นความชอบที่ได้มีเพื่อนคุยดีๆอย่างเธอต่างหาก นอกจากลูน่า 
    กับเพื่อนเรเวนคลออีกสองสามคนแล้ว ชั้นแทบไม่มีเพื่อนสนิทเลย " เธอตอบอย่างเศร้าๆ
    " งั้น..เธอจะนับชั้นเป็นสนิทเพื่อนเธออีกคนนึงจะได้ไม๊ "
    เขาเหยียดริมฝีปากยิ้มให้กับเธออย่างจริงใจ
    " เพราะชั้นก็คล้ายๆ เธอ ไม่มีใครคุยแบบจริงจังอย่างนี้มาก่อน 
    มีแต่คนคอยรับคำสั่งชั้นอย่างเดียว " 
    " ได้เสมอ..ตราบเท่าที่เธอต้องการ " เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ 
    เหมือนเพิ่งเป่าปัญหาที่หนักหน่วงออกไปจากตัวเธอได้เสียที
    แล้วความสัมพันธ์แบบที่เขาเคยเรียกได้ว่าแฟนก็จบลงตรงนั้น 
    แต่ความสัมพันธ์แบบแปลกประหลาดที่เป็นทั้งพี่น้องผสมเพื่อนก็เริ่มขึ้น 
    มันไม่ก่อให้เกิดความตะขิดตะขวงใจแม้แต่น้อย 
    กลับตรงกันข้าม...มันเปิดโอกาสให้ทั้งสองพูดเรื่องต่างๆที่ไม่เคยเป็นหัวข้อในการสนทนาได้สบายใจขึ้น

    ทั้งสองนั่งมองอาทิตย์ลับขอบฟ้ากันเงียบๆก่อนที่เอไลช่าจะถามคำถามที่ทำให้มัลฟอยต้องสำลักออกมา
    " นายทำอะไรให้เธอ...เธอถึงไม่ยอมมองหน้านายเลย " เธอหันหน้ามาถามเขาอย่างจริงจัง
    " แค่กๆ....เธอว่าไงนะ " เขาสำลัก
    " นายได้ยินชั้นแล้วนี่...ตอบมา "
    " ไม่เกี่ยวกับเธอซักหน่อย " มัลฟอยเริ่มทำท่าทางแบบหยิ่งยโสคนเดิมออกมาอีกครั้ง
    " ไม่เอาน่า...หยุดทำท่าแบบนั้นซักที ชั้นไม่ใช่แครบกับกอยล์นะ บอกมา...ชั้นจะหาทางแก้ให้
    " เธอทำเสียงดุใส่เขา
    " เอ่อ...คือ...เอ่อ... " เขาอ้ำอึ้ง เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต
    " เล่ามาเถอะน่า..นะ " เธอทำท่าทางเหมือนหลอกล่อเด็กตัวเล็กๆ ด้วยเสียงหวานๆ
    " คือ....ชั้น....คือชั้น.....ชั้นจูบเค้าแล้วก็เกือบปล้ำเค้าน่ะสิ "
    และในที่สุดมัลฟอยก็โพล่งออกมาอย่างรวดเร็ว ด้วยใบหน้าที่มีสีเรื่อๆ
    " ว้า....ยากหน่อยเฮะ ยังไงก็แล้วแต่ นายต้องไปขอโทษเค้าซะ "
    " คนอย่างนายมัลฟอยเนี่ยนะต้องไปขอโทษ ...ไม่มีวัน... มีอะไรที่ทำยากกว่านี้บ้างไม๊ "
    เขามองหน้าเธออย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเองว่าเอไลช่าจะให้เขาทำอะไรอย่างนี้ 
    ...ให้เขาวิ่งเข้าป่าต้องห้ามยังจะง่ายซะกว่า
    " นี่แหละ..สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับนาย ...ไปขอโทษซะ แล้วก็ขอเธอคืนดีด้วย "
    เอไลช่าพยักหน้าอย่างจริงจัง ทำให้มัลฟอยคิดหนักว่าควรจะไปขอโทษเฮอร์ไมโอนี่ดีหรือเปล่า
    " ก็ได้....ก็ได้... ชั้นจะไปขอโทษเธอคืนนี้ พอใจรึยังยัยตัวแสบ 
    เธอเป็นคนแรกเลยนะเนี่ยที่นายมัลฟอยรับคำสั่ง " เขายิ้มทะเล้น 
    แล้วเอาปลายนิ้วพันกับปอยผมลื่นๆของเธอเล่นอย่างเบามือ เอไลช่าหันหน้าออกไปทะเลสาปอีกครั้ง
    " เฮ้อ......จนถึงวันนี้ชั้นยังไม่มีสิทธิ์ที่จะได้เรียกชื่อต้นของนายซักที "
    เธออมยิ้มกับตัวเอง
    " เธอมีสิทธิ์เรียกนับตั้งแต่วันแรกที่เรารู้จักกันแล้วล่ะ "
    เขาโน้มตัวเอาท่อนแขนแข็งแรงมาโอบไหล่เธอไว้อย่างรักใคร่
    " ลมเริ่มแรงแล้วชั้นไปดีกว่า ....อ้อ..แล้วถ้าชั้นเป็นนาย ชั้นจะกำจัดพากินสันก่อน 
    นายก็รู้ตัวนี่ว่าเธอให้ท่านายมาตั้งแต่ปีสาม จนป่านนี้ยังไม่สำเร็จ 
    น่ารำคาญ..ยัยพากินสันเหมือนยุงที่บินอยู่หลังหูแต่ตบไม่ได้ซักที 
    นี่เป็นสิ่งต่อไปที่นายจะต้องทำหลังจากภาระกิจสำคัญเสร็จ.....โชคดีนะ.....เดรโก "
    เอไลช่ายืดตัวตัวเอาริมฝีปากอ่อนนุ่มพัดผ่านแก้มของมัลฟอยอย่างรวดเร็ว 
    ก่อนจะโบกมือลาและลุกขึ้นวิ่งหายกลับเข้าไปในปราสาท

    ค่ำลง....ทีมกริฟฟินดอร์เพิ่งจะเลิกซ้อม ไม้กวาดทุกด้ามพร้อมเจ้านายของมันพุ่งลงมายังสนามหญ้า
    " เป็นไงมั่ง เฮอร์ไมโอนี่ ท่าป้องกันประตูแบบใหม่ของชั้น " รอนวิ่งมาถามความเห็นกับเธอ
    หลังจากที่เขาทำท่าตีลังกาหลังเอาปลายเท้ากันควัฟเฟิลที่พุ่งตรงมาหาเขาถึงสองลูกติดกัน
    " เจ๋งไปเลยรอน ชั้นรอให้ถึงวันแข่งไม่ไหวแล้ว อยากเห็นหน้าพวกสลิธิรินจริงๆเวลาแพ้ 
    เห็นทีไรนะ...อาหารยิ่งอร่อย " เธอตอบด้วยนัยตาเป็นประกาย
    " ช่ายยยยย อยากเห็นหน้าไอ้ซีดมัลฟอยเวลาแพ้อีกจริงๆ " 
    แฮร์รี่ที่ตามมาสมทบพูดอย่างร่าเริง ทั้งสามหัวเราะและกอดคอกันเดินเข้าปราสาท
    " เฮ้ย... " อยู่ดีๆรอนก็ตะโกนออกมา
    " อะไรของนายอีก "
    " ชั้นลืมรายชื่อส่วนผสมน้ำยาสกัดดวงชะตาไว้ที่คุกใต้ดิน ...ตายแหง๋แก๋แน่งานนี้ 
    นายวีสลีย์เอ๋ย " พูดจบ รอนก็จ้ำพรวดไปยังคุกใต้ดินทันที 
    ปล่อยให้แฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่ยืนขำกับท่าวิ่งแบบไม่คิดชีวิตของรอนตามลำพัง
    " รอนไปแล้ว เรามาพูดเรื่องของเรากันดีกว่า " แฮร์รี่กุมมือเฮอร์ไมโอนี่ไว้เบาๆ 
    เธอหันหน้าไปมองเขาอย่างไม่เข้าใจ
    " เรื่องอะไรหรอแฮร์รี่... ชั้นทำอะไรให้เธอไม่สบายใจรึเปล่า "
    เธอถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล
    " เปล่าเลย... ชั้นแค่อยากถามว่า ...ชั้นดีพอที่จะเป็นมากกว่าเพื่อนของเธอรึยัง "
    ดวงตาสีเขียวสดใสของเขาจ้องตรงไปยังดวงตาสีน้ำตาลอ่อนๆของเธอ เขายิ้มให้เธออย่างอบอุ่น 
    หากแต่สิ่งเหล่านี้ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดไม่น้อย เธอไม่เคยคิดแบบนี้กับเพื่อนทั้งสองของเธอ 
    แม้เธอจะพอรู้อยู่บ้างตามสัญชาตญาณของผู้หญิงว่ารอนแอบมีใจให้เธอ แต่ทุกสิ่งไม่เคยเดินหน้าต่อ 
    แต่คราวนี้เป็นแฮร์รี่ ผู้ชายที่แสนอบอุ่นและวิเศษอย่างน่าเหลือเชื่อ 
    ผู้ชายที่รับภาระอันยิ่งใหญ่อย่างที่พ่อมดโตๆคนอื่นไม่เคยต้องพบ เฮอร์ไมโอนี่จะตอบเขาว่าอย่างไรดี
    " เอ่อ... " เธอหาคำตอบให้เขาไม่ได้
    "? ชั้นยังไม่ต้องการคำตอบของเธอวันนี้ กลับไปนอนคิดดีๆก่อน แล้วชั้นจะมาทวงคำตอบ 
    แต่ก่อนหน้านั้นชั้นขอ.... " พูดยังไม่ทันจบ 
    แฮร์รี่ก็รั้งตัวเธอเข้ามาใกล้ทิ้งไฟโบลว์ลงอย่างไม่ใส่ใจ 
    เขาสอดมือเข้าไปในเรือนผมเพื่อพยุงต้นคอแล้วก้มลงทาบริมฝีปากกับเธออย่างแผ่วเบาและอ่อนโยน 
    เธอไม่ทันตั้งตัว ทุกอย่างผ่านไปอย่างรวดเร็วจนกระทั่งแฮร์รี่เดินแบกไฟโบลต์แล้วผิวปากเบาๆขึ้นหอไป 
    ....หากแต่ภาพเหล่านั้นทั้งหมดตกอยู่ในสายตาที่เบิกกว้างอย่างตกใจของรอนที่เพิ่งเดินกลับมาจากคุกใต้ดิน 
    ...และ...มัลฟอย

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×