ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โจชัว X เซียร์

    ลำดับตอนที่ #4 : ลาจาก....ชัวนิรันดร์

    • อัปเดตล่าสุด 20 ม.ค. 56



                 ราตรีกาลคืบคลานเข้ามา ถึงแม้จะเป็นเวลาเพียงหนึ่งทุ่มแต่ท้องฟ้าก็มีดวงดาวพร่างพราย และดวงจันทร์ก็ส่องสว่างทั่วท้องนภา ผู้คนต่างทยอยเดินกลับบ้าน ยกเว้นพวกเขา....

    “เซียร์...” ออลก้าเอ่ยเรียกคนที่ยืนนิ่งมานานกว่าสิบนาทีเอาไว้ อันเซียร์ยืนนิ่งราวกับรูปสลักไร้การเคลื่อนไหว นิ่งจนน่ากลัว...

    “....”

    “เซียร์....” โพไซดี้เรียกอีกคน คราวนี้คนถูกเรียกสะดุ้งนิดๆแล้วหันมาอย่างรีบร้อน แต่เส้นผมสีเงินถูกจัดให้ปิดหน้าอย่างจงใจ และยังก้มหน้ามองพื้นไม่ยอมสบตา

    “เอ๊ะ โพไซดี้ ขอโทษนะลืมไปเลย เจ็บมากไหม?” อันเซียร์รีบเดินเข้ามาใกล้และสำรวจบาดแผลที่ตัว      โพไซดี้ “แย่งจังเลยนะ แผลเต็มตัวเลย...เดี๋ยวฉันรักษาให้ ไม่ต้องกลัวนะ!

    “เซียร์...”

    “จริงสิ ออลก้า โลเรน ขอโทษนะที่เมื่อกี้ตวาดใส่ ฉันโมโหไปหน่อย”

    “เซียร์...”

    “เอายังไงดีล่ะ? ฉันอุ้มเธอกลับน่ะได้ แต่จะกระทบแผลเธอรึเปล่าเนี่ยสิ เอ๊ะ หรือว่าจะไปโรงพยาบาลแถวๆนี้ก่อนล่ะ?”

    “อันเซียร์ อัน!” โพไซดี้หมดความอดทน ตะโกนใส่คนตรงหน้า อีกฝ่ายสะดุ้งเล็กน้อยแล้วหันหน้าหนี เส้นผมสีเงินยังคงปิดบังใบหน้าไว้ครึ่งหนึ่งทำให้ไม่เห็นสีหน้าที่แท้จริง เห็นเพียงรอยยิ้มที่ดูฝืน...

    “ตะโกนทำไมน่ะโพไซดี้ ฉันตกใจนะ” อันเซียร์พูดแล้วหันหน้ามาหาอีกครั้ง “เอาล่ะกลับกันดีกว่าเนอะ?”

    “คุณกำลังเข้าใจผิดอยู่นะ!

    “เอ๊ะ?”

    “นี่คุณคิดจริงๆเหรอว่าคนอย่าง โจชัว เอนด์เลส จะทำ เรื่องพรรค์นั้น กับฉันได้?”

    “....”

    “เพราะเห็น สองจึงสั่งให้เชื่อในสิ่งที่เห็น” โพไซดี้ยิ้มนิดๆแล้วค่อยๆปัดเอาเส้นผมสีเงินที่ปิดใบหน้าของเขาออก “ปกติคุณใจเย็นมากแท้ๆ คุณเป็นอะไรไป?”

    “ไม่รู้...พอเห็นโจชัวกับโพไซดี้แล้ว...ฉันก็โกธรจนห้ามตัวเองไม่อยู่”

    “โกธรที่เห็นฉันเป็นแบบนี้ หรือโกธรที่เห็นโจชัวอยู่ในสถาณการ์ณแบบนี้กัน?”

    “ฉะ ฉัน...” อันเซียร์พูดไม่ออก เขาสับสนและมึนงงจนสมองไม่ทำงาน

    “อันเซียร์ คุณอย่าหลอกตัวเอง” เงือกสาวเอ่ยอย่างใจเย็น มือบางที่กำลังจะช้อนตัวเธอพลันหยุดชะงักและแข็งค้าง เธอค่อยๆเอื้อมมือไปหาเขาช้าๆ “อย่าหลอกตัวเอง” โพไซดี้ย้ำและค่อยๆเกลี่ยเส้นผมสีเงินที่ปิดใบหน้าของเขาออก

    น้ำตามากมายไหลอาบแก้ม ดวงตาสีเงินสะท้อนออกมาเพียงความเจ็บปวด ขอบตาแดงก่ำและใบหน้าหวานที่เต็มไปด้วยความเศร้า ทำให้คนที่เห็นแทบหยุดหายใจ  ไม่เคยเห็นเซียร์ร้องไห้มากขนาดนี้มาก่อนเลย...

    “ฉะ ฉันหลอกอะไร เปล่าซะหน่อย” อันเซียร์หันหน้าหนีและพยายามเช็ดน้ำตาออก แต่มันกลับไหลไม่หยุด ไร้เสียงสะอื้น ทำเป็นเข้มแข็ง ทำให้พวกเขาเจ็บใจมากกว่าเดิม

    “เซียร์ คุณรักโจชัวสินะ” เงือกสาวพูดตรงๆ คนตรงหน้าสะดุ้งและส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว ทั้งโลเรนและออลก้าก็พอจะเดาๆได้อยู่แล้วจึงได้ตัดใจจากเซียร์เมื่อสองสามเดือนก่อน เพราะพวกเขาไม่มีทางแทนที่พี่โจชัวได้ ไม่ว่าจะทางไหนก็ตาม

    “มะ ไม่ใช่! ฉันรักเธอ ฉันรักโพไซดี้ จริงๆนะ!” เซียร์ละล่ำละลักบอก เขามองเธอทั้งๆที่น้ำตายังไหลไม่หยุดทำให้ถาพที่เห็นเบลอจัด

    “เซียร์ คุณอย่าหลอกตัวเอง คุณหลอกคนอื่นได้ แต่ห้ามหลอกตัวเอง”

    “ฉันไม่ได้โกหกนะ ! ฉันรักเธอจริงๆ!

    ....คำบอกรักที่อยากได้ยินมาตลอด บัดนี้เขาพูดมันออกมาโดยไม่คิดถึงความหมายที่แท้จริงของมัน รอยยิ้มฝืดๆปรากฏขึ้นบนใบหน้างาม เงือกสาวค่อยๆปาดน้ำตาของอีกฝ่ายออก

    “เซียร์ ฉันรู้” มือบางค่อยๆประคองใบหน้าของอันเซียร์และเช็ดน้ำตาให้อย่างเบามือ “ฉันรู้ว่าคุณรักฉัน คุณรักจิ๋งจี๋ คุณรักทุกคน แต่โจชัวน่ะ... โจชัวเป็นคนพิเศษ ใช่ไหม?”

    “ฮึก...” เสียงสะอื้นลอดออกมาจากลำคอ อันเซียร์จับมือของโพไซดี้ที่อยู่ตรงแก้มของตัวเองไว้

    “หลับตาลง อันเซียร์ แล้วบอกฉัน....”

    เปลือกตาค่อยๆปิดลง ซ่อนดวงตาสีเงินไว้ข้างใต้

    “ใคร คือคนที่อยู่ในใจคุณ...”

     

    เส้นผมสีดำ ดวงตาสีเขียวมรกต ผิวขาวสะอาด รอยยิ้มที่อบอุ่น น้ำเสียงที่ห่วงใย และคอยอยู่ข้างกายเขาตลอดมา

    คุณหนู เช้านี้รับอะไรดีครับ?

    รอยยิ้มของนาย....

    คุณหนู จะรับนมไหม?ครับ ส่วนวันนี้ของหวานเป็นทาร์ตผลไม้....

    เสียงของนาย….

    ผมเป็นแวมไพร์ ผมไม่มีทางเจอนายจ้างที่จะอยู่กับผมได้ชั่วนิรันดร์

    คุณหนู ผมขอโทษที่หลอกลวงคุณ แต่กรุณาเชื่อผมอีกสักครั้ง โปรดเซ็นต์สัญญาเอนด์เลสกับผมได้มั๊ยครับ?

    คำขอร้องของนาย มันทำให้ฉันดีใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

    การมีตัวตนอยู่ของนาย มันทำให้ฉันรู้สึกว่าที่นี่คือบ้าน

    เพราะมีนาย ฉันถึงยิ้มได้....โจชัว เอนด์เลส

     

    “ฮึก...โจชัว โจชัว...” เสียงหวานเรียกชื่อคนที่อยู่ข้างกายเขามาตลอด “โจชัว ฉันขอโทษ....”

    ทั้งโลเรน ออลก้าและโฑไซดี้ต่างยิ้มออกมา ถึงแม้จะอกหักแต่ถ้าอันเซียร์มีความสุข พวกเขาก็มีความสุข โพไซดี้ลูบหัวอันเซียร์แล้วพูดออกมา

    “ไปสิ ไปตามหาเขา”

    “ตะ แต่ว่า...” อันเซียร์เงยหน้าขึ้นมาสบตากับทั้งสามคน ซึ่งแต่ละคนก็ยิ้มให้

    “ไปเถอะ” โลเรนพูดแล้วชูนิ้วโป้งให้ “ อยากพูดอะไรก็ไปพูดต่อหน้าเจ้าตัวเลย”

    “นายออกคำสั่งให้เขาหายไปด้วยไม่ใช่เหรอ? ไม่รีบเดี๋ยวจะแย่นะ” ออลก้ายักไหล่

    “เดี๋ยวฉันให้โลเรนกับออลก้าไปส่งก็ได้ ไม่ต้องห่วงหรอก” โพไซดี้ยิ้มแล้วเอามือดันไหล่คนตรงหน้า “ไปเร็ว คุณต้องรักษาสัญญากับจิ๋งจี๋นะ คุณต้องอยู่อย่างมีความสุข ใช่ไหม?”

    “...” อันเซียร์มองทั้งสามคนที่ยิ้มให้เขา แล้วตัดสินใจปาดน้ำตาทิ้งพร้อมกับลุกขึ้นยืน “ฉันไปก่อนนะ!

    “ไปดีมาดี”

    “รักษาตัวด้วยล่ะ”

    “โชคดีนะ”

    อวยพรยังไม่ทันจบ เส้นผมสีเงินก็อยู่ห่างไปเกือบๆหนึ่งกิโลเมตรได้แล้ว ความเร็วช่างน่าทึ่งจริงๆ  โลเรนและออลก้าถอนหายใจก่อนจะเข้ามาช่วยพยุงเงือกสาวที่บาดเจ็บไปทั้งตัว

    “ไปบาร์ฉันไหม? คืนนี้เลี้ยงเอง ในฐานะคนอกหักเหมือนๆกันเป็นไง?” เจ้าของ มามูนนอร์ เอ่ยปากชวน คนสถานะเดียวกัน ทั้งสองยิ้มให้แล้วก็ตอบ

    “แค่คืนเดียวพี่โลชูคงไม่ว่ามั้ง ไปเถอะ”

     

    [ติ๊ด ติ้ง ติง ติ๊ง ติ๊ง]

    เสียงโทรศัพท์ส่วนตัวของอันเซียร์ดังขึ้น ตอนนี้เขากำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดในเมืองพลางวิ่งไปด้วย ถึงแม่จะเหนื่อยแต่เขาก็หยุดพักไม่ได้! พอเห็นชื่อของคนที่โทรมาเขาจึงรับสายแบบไม่ใส่ใจนัก

    “ เมโลดี้ ฉันไม่ว่า....”

    [คุณหนู เจ้าพ่อบ้านมันจะฆ่าตัวตายค่ะ!!!]

    น้ำเสียงตื่นตระหนกและคำพูดกระแทกเข้าหูอันเซียร์และสะท้อนอยู่ในหัว สองขาหยุดวิ่งอย่างกะทันหัน มือที่จับมือถือไว้สั่นเทา สมองประมวลคำพูดนั่นซ้ำไปซ้ำมาอย่างไม่เชื่อ

    “อะ อะไรนะ...”

    [เจ้าพ่อบ้านมันจะกระโดดจากชั้นที่ 500 จากเซ็ตติ้งทาวเวอร์ค่ะ!! ใครห้ามก็ไม่ฟัง ขนาดเอาคุณหนูมาขู่ก็แล้ว ยังไม่หยุดเลยค่ะ คุณหนู! คุณรีบมาด่วนเลยนะคะ!]

    [พอเถอะ เมโลดี้...] เสียงทุ้มที่แทรกเข้ามาทำให้หัวใจของอันเซียร์กระตุก ช่วงที่เงียบไปนั่นเองเขาก็ได้ยินเสียงหวีวหวิวของลม แสดงว่าทั้งคู่อยู่บนดาดฟ้าจริงๆ!!! [ก็คุณหนู...เป็นคนออกคำสั่งเองนี่ครับ...]

    [นายพูดบ้าอะไรของนาย! คุณหนูเนี่ยนะจะสั่งให้นายมาฆ่าตัวตาย!]

    “โจชัว!! อย่านะ!! ฉันขอยกเลิกคำสั่ง!!!” อันเซียร์ตะโกนอย่างตื่นตระหนก มันเป็นความผิดของเขาเอง! เขาไม่ควรจะให้อารมณ์โกธรมาบังตาแบบนั้น สองมือแทบประคองโทรศัพท์ไม่อยู่ เข่าอ่อนแรงแทบทรุด หัวใจราวกับว่าเต้นช้าลง ร่างกายสั่นเทาด้วยความกลัว เพียงแค่คิดถึงในตอนนั้น ตอนที่โจชัวถูกท่านเอลวิเซร่าจับไปและถูกทรมานจนต้องพักฟื้นถึงสองปี

    บ้านที่ไม่มีโจชัวนั้น....ช่างกว้างขวางเหลือเกิน

    เลือดสีแดงฉานที่อาบไล้ร่างกายของโจชัว กลิ่นเหม็นคาวคลุ้งที่เขาเกลียด ใบหน้านิ่งสนิทราวกับรูปสลัก

    มันทำให้หัวใจเขาแทบหยุดเต้น

    [คุณอันเซียร์ คุณไล่ผมออกแล้ว....] น้ำเสียงที่เย็นชากระแทกเข้าโสต น้ำตาพลันร่วงลงมาจากดวงตากลมโต ลำคอแห้งผากไม่อาจส่งเสียงได้

    [ลาก่อนครับ....คุณอันเซียร์]

                ปลายสายกดตัดการสนทนา เหมือนมีคนใช้กรรไกรตัดสายสัมพันธ์ของเขากับโจชัว หัวใจกระตุกวูบเหมือนถูกดึงลงเหวลึก ไร้ซึ่งเสียงกรีดร้อง มีเพียงน้ำตาที่แสดงถึงความหวาดกลัว

                ไม่ ห้ามยอมแพ้ ตราบใดที่เขายังมีชีวิตอยู่ เขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้โจชัวมีชีวิตรอด

    สองขาออกวิ่งอีกครั้งโดยมีเป้าหมายอยู่ที่ เซ็ตติ้งทาวเวอร์ชั้นที่ 500....

    “ปีก! ทำงาน!!

     

    วันนี้ท้องฟ้าช่างงดงาม.... ดวงดาวยังคงส่องแสงประกายไม่แพ้แสงไฟนีออนจากตัวเมือง พระจันทร์ยังคงส่องสว่าง แต่...พอเทียบกับคุณแล้วมันไม่สวยเลยสักนิด ดวงตาสีเงินของคุณมันเหมือนกับดวงจันทร์ น้ำตาของคุณส่องประกายสวยงามยิ่งกว่าดาว

    ทุกๆอย่างที่เป็นคุณ มันทำให้ผมรักคุณหมดหัวใจของผม

    ต่อให้คุณสั่งให้ผมไปตาย ผมก็ไม่โกธรคุณเลย ดังนั้น....อย่าร้องไห้ อย่าเศร้า

    อย่าโทษตัวเองเลยครับ

    “เจ้าพ่อบ้าน!! ถอยออกมาจากตรงนั้นเดี๋ยวนี้นะ!!” เสียงแหลมเล็กแทรกเข้ามาในโสตการฟังของผม เมื่อหันไปมองก็พบว่าเมโลดี้ทำท่าเหมือนจะกระโจนเข้ามาได้ทุกเมื่อแต่ก็แข็งค้างอยู่แบบนั้น นับว่าเป็นการกระทำที่ดีมาก เพราะแวมไพร์ก็ตายได้หากตกลงไปจากชั้นที่ 500 โดยไม่มีการผ่อนแรงกระแทก

    ผมหันไปยิ้มให้ แม้ใบหน้าจะยิ้มแต่ก็ไม่รู้หรอกนะว่ามันเป็นยิ้มแบบไหน เพราะใจของผมมันไม่เหลือชิ้นดีแล้ว...

    “ไม่เป็นไรหรอกครับเมโลดี้ ผมสบายดี”

    “สบายกับผีน่ะเซ่!! นายไปยืนตรงขอบตึกแล้วนะ! ลมพัดอีกทีนายก็ร่วงแล้ว กลับเข้ามา!!!

    “ไม่ครับ” ผมส่ายหน้า “คำสั่งสุดท้ายของคุณหนู ผมต้องปฏิบัติมัน” ใช่...คำสั่งของนายจ้าง พ่อบ้านต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ไม้ว่าจะเป็นคำสั่งอย่างไรก็ตาม

    ปัง!!

    “โจชัว!!!

    คุณหนู??

    พรืด... สายลมที่พัดแรงยามค่ำคืนปะทะเข้ากับร่างของผม เพราะไมทันตั้งตัว พื้นที่ผมเหยียบจึงไม่มีอีกต่อไป และร่างของผม...ก็ร่วงลงมาตามแรงดึงดูดของโลก

    “ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!

     

    สิ่งที่ผมเห็นคือดวงดาวสีเงินมากมายกำลังพลั่งพลูออกมาจากดวงตาของคุณ ร่างกายบอบบางของคุณพยายามหนีการเกาะกุมของเมโลดี้เพื่อตามมาช่วยผม ริมฝีปากอวบอิ่มกรีดร้องแหวกความสงบของค่ำคืนนี้ มือบางเอื้อมมาหาผมพยายามไขว่คว้าตัวผมที่ห่างออกไป...

    ผมรักคุณ

    ผมขยับริมฝีปากเบาๆ หวังว่าคำๆนี้คงส่งไปถึงคุณนะครับ....คุณหนูของผม

     

    อย่าร้องไห้เมื่อไม่มีผม

    อย่าเศร้าเมื่อไม่มีผม

    อย่า...รักคนอื่นมากกว่าผมเลย

    คุณอันเซียร์ อัน



    -------------------------------------------------------------------------

     

    ตอนนี้สั้นนิดหนอยนะคะ =_=;;;
    เอ ตัดจบแบบี้จะโดนท่านผู้อ่านประนามหรือเปล่านี่ =A=;;
    แฮ่ๆ ขอโทษที่มาอัพช้านะคะ ติดสอบ ติดงาน ติดนู่นนี่ไปหมด มาอัพแล้วค่ะ ในที่สุด =W=;;;
    หวังว่าจะชอบนะคะ น่าสงสารโจชัวมากมาย T^T คุณหนูก็น่าสงสาร โฮกกกก ดราม่าเกินไปแล้ววววว
    ตอนหน้าอาจจะไม่ดราม่าแล้ว อาจจะ....นะคะ =W+ เพราะผู้แต่งก็ไม่มีกำหนดการที่แน่นอน ฮ่าๆ
    แล้วจะรีบมาอัพค่ะ ขอโปรดติดตาม (_ _)


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×