คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : น้องแบคคนแมน 1 [100%]
น้องแบคคนแมน 1
ผมหันตามเสียงของผู้มาใหม่ ใครว่ะ? หล่อชิบหาย แต่เสือกขาวจนกูแสบตาไปหมดแล้วเนี้ย!
“อะไร? จะตะโกนหาพ่อมึงเหรอ”
ตอนนี้หงุดหงิดครับ แม่งหล่อกว่ากูอีก พาลครับพาล
“ไม่เข้าห้องกันรึไง?”
ไอ้เผือกนั่นอ้าปากถาม มึงคิดว่ากูว่างถึงขนาดต้องมายืนคุยกับไอ้หูกางนี่หน้าห้องเลยรึไง?
“อยากได้คำตอบแบบใหนล่ะ”
ไอ้หูกางแม่งอ้าปากตอบ อือหืออออ กวนตีนอย่างนี้แม่งไม่ถึงบ้านแน่ๆครับผมว่า
ไอ้เผือกนั่นนิ่งไปพักนึง ก่อนจะคลายยิ้มออกมา นี่พวกมึงบ้ากันทั้งคู่เลยเหรอว่ะ? กูอยู่ไม่ได้ๆๆๆ
“เราโดนไล่ออกมาเพราะคุยกันเสียงดังหนะ”
หือ? ใครเรา
“กูกับมึงพอมั้งสัส”
“เหรอ งั้นโดดกันมั้ย วันนี้วันแรก ครูเค้าคงไม่สอนอะไรมากหรอก”
ไอ้เผือกมันถามครับ งั้นก็….
“โดด!”
ไม่ใช่เสียงของไอ้หูกางครับ แต่เป็นเสียงผมเอง
ไอ้เผือกกับไอ้หูกางและผมเดินมาที่ห้องน้ำหลังโรงเรียน แหล่งหลบภัยชั้นยอดของผมเองล่ะครับ มีแค่ผมเท่านั้นที่รู้(เหรอว่ะ) ผมนั่งพิงกำแพง เอามือกอดอกจ้องหน้าพวกมันสองตัว เอ้ย! คน
“มึงชื่อไร?”
ผมถามไอ้เผือกครับ ขาวชิบหาย กูแสบตาจนจะควักลูกตามาทาสีดำแล้วค่อยเอาเข้าไปใหม่แล้วครับ
“ชานยอลไง”
ห่านี่ก็เสือกตอบแทนมันอีก
“กูไม่ได้ถามมึงป่ะ?”
“อ่าวเหรอ แหะๆ”
“เซฮุน เราชื่อ โอ เซฮุน”
“เซฮุน”
ผมลองเรียกชื่อมันครับ
“ทำไมนายไม่เห็นเรียกชื่อเราแบบนั้นเลยล่ะ?”
นี่ก็เรื่องมากจังเลย เดี๋ยวปัดเหนี่ยว!
“กูจะเรียกก็ต่อเมื่อมึงทำประโยชน์ให้กูเท่านั้น เข้าใจม่ะ?”
“ทำประโยชน์งั้นหรอ ไว้วันหลังแล้วกัน”
ผมนั่งทะเลาะกับมันอยู่พักใหญ่ จนลืมไปเลยว่ามีสิ่งมีชีวิตที่นามว่าโอเซฮุนนั่งหัวโด่อยู่ข้างๆผม
“พวกนายสองคนนี่เหมือนแฟนกันเลยนะ”
กึก! คำถามหยุดโลก ผมเลิกเถียงกับไอ้หูกางก่อนจะหันหน้ามาจ้องตาเซฮุน มองหน้ามันก่อนที่จะพ่นคำด่าเป็นชุด
“เหรอ?”
ชานยอล
“ไม่เหมือนเลย!@#$%^&*()_)(*&@#$%^&*()”
พวกเรานั่งเถียงกันจนกระทั่งมีบุคคลที่สี่ทักทายมา ทำไมตัวแม่งดำจังว่ะ? กูเห็นแต่ฟัน
“เห็นโล่ววววววววว กูชื่อคิมจงอินนน นี่พวกมึงโดดเรียนกันมาใช่มั้ย?”
ไอ้ดำนามว่าจงอินที่แนะนำตัวเองมาซะเสร็จสรรพ
ผมสามคนหันไปมองหน้ามันช้าๆ แล้วก็สะดุดกึกกับบุคคลข้างหลังมากกว่า
“เห้ย! วิ่ง!”
30%
ตอนนี้ผมวิ่งโดยมีไอ้หูกางวิ่งนำไป ทีนี้วิ่งเร็วกว่ากูอีกนะสัส ขากูก็มีอยู่แค่นี้เองนะหอกหัก มึงวิ่งเร็วเกินไปแล้วไอ้หูกาง!!!
“โอ้ยยยยย มึงวิ่งเร็วเกินไปแล้วไอ้โย่งงงง”
“ช้าลงหน่อยได้มั้ยว่ะไอ้ขาโก่งงงงง”
กึก! ไอ้หูกางหยุดวิ่งในทันที ส่งผลให้หน้าผมกระแทกหลังมันจังๆ สงสัยแม่งจะมีปมด้อยกับคำนี้จริงๆว่ะ
“หยุดทำไม?”
“ก็นายบอกให้หยุด”
นี่กวนตีนกูเหรอครับหอก
“กูบอกให้วิ่งช้าละ……อุ๊บ!”
ไอ้หูกางแม่งเอามือปิดปากผม แต่กูยังเคืองไม่เท่าที่มึงเสือกเอามือใหญ่ๆของมึงปิดช่องหายใจกูนะเว้ย!
“อายใอไอ่ออก อายใอไอ่ออก อ๊อกกกก!”
“เงียบก่อน”
มันมองหน้าผมก่อนจะปล่อยมือออกจากปากและจมูกของผม นี่กูแค่ไม่เรียกชื่อมึง มึงถึงกับจะฆ่าแกงกันเลยรึ!
“นี่มึงจะฆ่ากูเลยรึ……อือออออ”
ผมเบิกตาโพร่ง เพราะตกใจ อยากจะบอกว่าตกใจชิบหาย !!!!! ไอ้หูกาง !!! นี่มึงจูบกูหาพ่อมึงหรอ
“ไอ้ เอี้ยยยยยยยย อืออออออออ อ่อยยยอูเอี๋ยวววอี้ๆๆๆๆ”
แค่แม่งจุ๊บกูก็จะอ้วกออกมาเป็นมื้อเช้าที่หม่อมแม่ทำให้แดกอยู่แล้ว ไอ้เหี้ยนี่เสือกเอาลิ้นเข้ามาอีก พ่อมึงHPหมดดดดดดดดดดดด
“เฮ้ย พวกมึงตรงนั้นอ่ะ ทำเหี้ยอะไรกันว่ะ พวกมึงไปค้นดิ๊!”
เสียงเท้าของคนกลุ่มใหญ่ๆกำลังเคลื่อนที่มาทางนี้ ไม่นะ กูยังไม่อยากตาย
“ออกไป!!!”
ไม่ใช่เสียงผมครับแต่เป็นเสียงหูกางมันต่างหาก เออดี เอาปากมึงออกไปจากปากกูได้แล้ว ขยะแขยงชิบหาย!!!
“เห้ย! พวกกูขอโทษ ไปเว้ย พวกเรา”
เสียงเท้าของคนกลุ่มใหญ่กำลังเดินออกไป
ผมมองคนกลุ่มใหญ่ที่กำลังเดินจากไป ก่อนจะหันหน้ามามองไอ้หูกางที่ยืนใกล้กันโคตร แบบรู้สึกถึงลมหายใจที่รดบนหน้าผากของผม เอ๊ะ !! หรือผมเตี้ย ??
“เมื่อกี้มึงทำอะไร”
ผมถามมันที่ยืนหัวเราะแห้งๆอยู่ข้างหน้าผม นี่มึงทำเกินไปแล้วนะ!
“เรา….เรา จะ จะ”
“ไอ้เชี้ย! ทีมึงทำเสือกทำได้ไม่อาย ทีกูถามเสือกจะกระดากปากที่จะตอบ มึงตายซะเถอะไอ้หูกางขาโก่งตัวโย่ง อ๊ากกกกกก”
ผมตั้งจะยกขาขึ้นถีบที่ยอดอก แต่ผลปรากฏออกมาว่าถีบโดนที่เป้าของมันซะงั้น
“อ๊อกกกก! นาย!”
เอาแล้วครับ หน้ามันเริ่มเขียวแล้ว จังหวะนี้แหละ! ไปเลยโปเกม่อนลูกพ่อ!!! คนล่ะเรื่องป่ะว่ะ?
“เห้ยยย เป็นไรว่ะ กูขอโทษ ไปห้องพยาบาลตอนนี้เลยมั้ย?”
“เป็นห่วงเราหรอ?”
“ห่วงพ่องงงงงงงงงงงงงงกูก็แค่จะไปม่อเด็กผู้หญิงที่ทำหน้าที่อยู่ อย่าคิดว่ากูจะเป็นห่วงมึงเชียว”
ผมประคองมันไปห้องพยาบาล ตอนนี้พักเที่ยงแล้วครับ มีแต่เด็กผู้หญิงที่มองผมกับไอ้หูกางแล้วก็กรี๊ดๆ กูเท่ห์ล่ะสิ หึๆ แต่เดี๋ยวนะ เหมือนผมจะได้ยินเสียงอะไรประมาณเมะๆเคะๆอะไรเถือกๆนี้นี่แหละ สงสัยจะเป็นคำชมใหม่ ช่างแม่งครับ ตอนนี้พยายามกอบโกยความเท่ห์เอาไว้ก่อน
สองชีวิตที่กำลังกินข้าวอยู่ที่โรงอาหารถึงกับงงกับที่มาของเสียงกรี๊ด แต่ก็ใช่ว่าจะใส่ใจ กลับตักข้าวคำเท่าควายงับกินอย่างอร่อย
“ชื่อคิมจงอินเหรอ?”
โอเซฮุนถามออกไป
“ใช่ๆ กูชื่อจงอิน เรียกว่าไคก็ได้ แล้วมึงอ่ะ ชื่อไร?”
คิมจงอินถามทั้งๆที่ยังเคี้ยวข้าวคำโตที่พึ่งยัดเข้าไป
“แล้วสรุปจงอินจะให้ผมเรียกใครอ่ะ?”
คิมจงอินถึงกับงง ที่มึงโง่หรือแกล้งโง่กันแน่ครับว่ะ?
“ขอนั่งด้วยได้มั้ยครับ”
60%
‘Sehun part’
โอเซฮุนเงยหน้าขึ้นไปมองผู้มาใหม่ ถึงกับสำลักข้าวเพราะความขาวหล่อสูงออร่าแปลงประกาย ใครว่ะ?
“เชิญครับ”
เซฮุนยังไม่ทันได้ตอบ จงอินก็ตอบแทนเขาเสียแล้ว
“ใครหรอครับ?”
โอเซฮุนกระซิบถามจงอิน
“ลูกพี่กูเอง ชื่อคริส”
จงอินกระซิบกลับมา แต่ปากนี่ใกล้หูไปป่ะครับ ผมใจไม่ดีเลย
“หล่ออ่ะ”
ผมพูดออกไปตามความจริง แต่ไม่ใช่ลูกพี่จงอินหรอก แต่เป็น
…….
“กูเหรอ?”
จงอินถามหน้างงๆ อย่าทำแบบนี้สิ ใจมันเต้นแรงนะจงอินอ่า
“ถ้าตอบว่าใช่ล่ะ…..”
เอาว่ะ ลองเสี่ยงดูหน่อยโอเซฮุน
“งั้นกูก็จะ…..จีบมึง ดีม่ะ? เป็นแฟนกันนะ”
จงอินตอบกลับมา
ผมนั่งนิ่ง เอาเล็บมือตัวเองขึ้นมากัด ใช้ความคิดของตัวเอง จนลืมมองจงอินที่หัวเราะก๊ากอยู่ข้างๆ
“ฮ่าๆๆๆๆ มึงนี่หลอกง่ายชิบหายเลยว่ะเผือก”
จงอินหัวเราะจนข้าวที่เคี้ยวอยู่กระเด็นออกมาเป็นฝอย ส่งผลให้คนที่นั่งฝั่งตรงข้าม นามว่าพี่คริสหัวเราะจนเงิงออก ความหล่อที่ผมเห็นเมื่อกี้ลดลงไป 20% เลยครับ
“จงอินหัวเราะทำไมครับ”
ผมถามออกไปตามความจริงครับ มันเสียมรรยาทมากเลยครับ หัวเราะจนข้าวออกจากปากเป็นฝอยเนี้ย จงอินนี่ไม่ไหวเลย
“กูหลอกมึงไง ทำไมโง่อย่างนี้ว่ะ นี่ควายเผือกป่ะเนี้ย แล้วสรุปมึงชื่ออะไรว่ะ จะได้เรียกถูก กูไม่อยากเรียกมึงว่าเผือกว่ะ แม่งแปลกๆไงก็ไม่รู้”
จงอินพ่นคำถามออกมาเป็นชุด นี่เคี้ยวให้หมดก่อนไม่ได้รึไง? ผมโมโหแล้วนะ!
“นี่จงอินจะเคี้ยวข้าวให้หมดก่อนพูดไม่ได้เลยรึไง! ผมชักจะโมโหแล้วนะ!!!!”
พอผมพูดจบ จงอินก็ยิ้มหงอเลยครับ สำนึกผิดแล้วสินะคราวหลังห้ามทำแบบนี้นะจงอิน เพราะมัน…..
“ทำไม เดี๋ยวกูหมดหล่อเหรอ5555”
นี่จงอินไปเรียนทายใจจากสำนักใหนรึเปล่าเนี้ย ทำไมทายแม่นจัง ผมเขินแล้วนะเว้ย!
“ผมชื่อเซฮุนนะ ชื่อโอเซฮุน”
ผมเลี่ยงที่จะตอบคำถามครับ เดี๋ยวจงอินจะรู้ตัว ผมไม่ได้เจอเขาอีกเลยจะทำไง
“เซฮุนเหรอ เออดีๆ แล้วสรุปมึงมีแฟนยัง?”
ถามอย่างนี้อีกแล้ว ผมหน้าร้อนๆขึ้นมาแล้วนะ!
“ยะ....ยังไม่มี แล้วจงอินอ่ะ”
ผมตอบอึกๆ อักๆ ก็คนมันอยากรู้อ่ะ ให้ทำไง
“ยังไม่มี กูพึ่งเลิกกับแฟนเก่าไป มันไปมีแฟนใหม่ นี่ยังไม่หายแค้น พูดแล้วขึ้น แล้วนี่มึงไม่เคยมีแฟนอ่อ กากว่ะ555”
ผมชักสีหน้าขึ้นมาทันที นี่ผมเคยมีแฟนนะ!!! แต่แค้นแทนจงอินจริงๆ กล้าทิ้งจงอินไปได้ยังไง ออกจะดีขนาดนี้(เหรอว่ะ)
“แล้วแฟนเก่าจงอินชื่ออะไรเหรอครับ”
ข้องใจมากครับตอนนี้ เดี๋ยวผมปั๊ดให้พ่อเอาบอดิการ์ดไปจังการซะเลย ปล.บ้านผมรวยมากครับ ไม่อยากจะอวด นาฬิกาที่ใส่อยู่นี่เรือนล่ะแสนห้า ยังไม่รวมไอโฟนหกที่พึ่งไปถอยมาอีกนะ นี่ไม่อยากจะอวดจริงๆ
“มึงจะอยากรู้ไปทำไม?”
จงอินขมวดคิ้มเป็นปม นี่ผมแค่อยากรู้ผมผิดเหรอว่ะ ไม่แฟร์อ่ะ
“ผมก็แค่อยากรู้ หรือจงอินไม่อยากบอก?”
ผมลองถามเพื่อลองใจจงอินดูครับ ว่าแต่เขาจะลำบากใจรึเปล่านะ
จงอินชะงักไปนิดนึง ก่อนจะยิ้มออกมา ผมเริ่มใจไม่ดีแล้วสิครับ
“นี่มึงอยากรู้จริงๆ?”
จงอินยิ้มเวอร์ชั่นนี้นี่ไม่น่าไว้ใจสุดๆไปเลยล่ะครับ
“ถ้าจงอินไม่สะดวกใจก็ไม่ต้อง.....”
“กูสะดวกใจ”
“งั้นก็บอกมาสิครับ”
มาถึงขนาดนี้ก็เป็นไงเป็นกันล่ะ....
“ชื่อ.......”
“ขอนั่งด้วยคนนะครับ”
100%
ค้างกันล่ะสิ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะอัพให้น้าาา
ให้ทายว่าคนที่ขอนั่งด้วยเป็นใคร
ปล.part หน้าระทึกมาก5555555
t
h
e
m
y
b
u
t
t
e
r
ความคิดเห็น