ปางรัษฎา - นิยาย ปางรัษฎา : Dek-D.com - Writer
×

    ปางรัษฎา

    การประกาศยกเลิกสัมปทานป่าไม้ทั่วประเทศ ในวันที่ 14 มกราคม 2532 นั้นสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับหลายชีวิตในวงการทำไม้ เช่นเดียวกับครั้งที่เจ้าของสิทธิ์ได้รับมันมา แต่เป็นในทางตรงกันข้าม

    ผู้เข้าชมรวม

    177

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    177

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    1
    จำนวนตอน :  3 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  27 เม.ย. 67 / 10:33 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

     

    ปางรัษฎา บทนำ

    การประกาศยกเลิกสัมปทานป่าไม้ทั่วประเทศ ในวันที่ 14 มกราคม 2532 นั้นสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับหลายชีวิตในวงการทำไม้ เช่นเดียวกับครั้งที่เจ้าของสิทธิ์ได้รับมันมา แต่เป็นในทางตรงกันข้าม 

    ย้อนไปราวปี 2426 รัฐบาลไทยได้เริ่มเปิดสัมปทานไม้สักแก่ชาวยุโรป ไม้สักนี้ชาวบ้านถือว่าเป็นไม้เจ้า เพราะมีแต่เจ้าที่มีศักดินาในแคว้นของตน แม้ในระยะแรกจะต่อต้าน แต่เมื่อเห็นว่าพื้นที่รกชัฏเหล่านี้เป็นแหล่งรายได้อันงามราวกับได้เปล่า บรรดาเจ้าก็เริ่มเห็นดีในการค้าไม้กับฝรั่งมากขึ้นทุกที ความนิยมทำไม้นี้ลามไปถึงประเทศเพื่อนบ้าน รัฐมีรายได้จากค่าสัมปทานไม่น้อย แต่ผู้ที่ร่ำรวยที่สุดเห็นจะเป็นฝรั่งผู้ได้สิทธิ์นั้นแหละ 

    บริษัททำไม้เริ่มขยายตัวใหญ่โตขึ้นทุกวัน ชาวบ้านจำนวนมากสมัครเป็นคนงาน ทั้งแผนกเลื่อยไม้ เสมียน ไปจนถึงคนครัว นอกจากคนแล้ว ลูกจ้างของปางไม้ยังมีสัตว์ อาทิ ช้าง ม้า ค่าจ้างที่มันได้รับไม่ใช่เงินแต่เป็นอาหาร

    เหมือนจะเป็นสิ่งที่สมประโยชน์กันทุกฝ่าย แต่ผู้ที่มาเยือนเพื่อตักตวงผลประโยชน์นั้นหรือจะคำนึงถึงผลเสียที่จะเกิดตามมาภายหลัง เมื่อไม้งามๆจำนวนมากถูกตัดจนเหี้ยน ส่วนไม้เล็กที่เกะกะกีดขวางนั้นก็ถูกกำจัด ป่าอันอุดมก็สูญหายไปอย่างรวดเร็ว เร็วเกินกว่าจะพ้นจากช่วงชีวิตของคนๆ หนึ่งด้วยซ้ำ เปรียบได้กับต้นไม้ที่ถูกปลวกกัดแทะจนกลวง รอเพียงวันที่จะถล่มลงมาเท่านั้น 

    อย่างเช่นที่ปางรัษฎา ความรุ่งเรืองและความเสื่อมถอยของสถานที่แห่งนี้เป็นเรื่องเล่าขานของคนชราในหมู่บ้านที่ได้พบเห็นเรื่องเหล่านี้มากับตา

    อาจถือว่าเจ้าพิพิธรัษฎากรนั้นมีหัวการค้ามากกว่าเจ้าองค์อื่นๆ ที่ไม่ได้ยอมตนเป็นเพียงลูกจ้างบริษัททำไม้ของฝรั่ง แต่ตั้งตนเป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งของบริษัทนั้นทีเดียว นั่นก็เพราะท่านนั้นแหละที่ชักชวนมิสเตอร์จาคอบผู้นี้มาสู่แคว้น และร่วมทุนเปิดบริษัทจาคอบ แอนด์ เฟรนด์ ทำไม้โดยเปิดปางชื่อปางรัษฎา ทำการสัมปทานในส่วนของพระญาติเกือบทั้งหมด กินพื้นที่ถึงสามจังหวัด ทั้งลำปาง แพร่ และน่าน 

    ในช่วงขาขึ้นของบริษัทจาคอบ แอนด์ เฟรนด์ นั้น เรียกว่าอู้ฟู่ยังน้อยเกินไป คนงานในปางนั้นเกือบหนึ่งพันคน กว่าเสมียนจะขี่ม้าตระเวนไปจ่ายเงินได้ครบก็กินเวลาเกือบสองสัปดาห์ ความร่ำรวยที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ทำให้จาคอบอดีตกะลาสีเรือตั้งรับไม่ทัน ทั้งที่ผู้ที่เป็นเพื่อนและอดีตเจ้านายของเขาได้เอ่ยปากเตือนหลายครั้ง แต่ความหอมหวานของอำนาจและเงินตราก็ทำให้หลงระเริงไปได้ง่าย 

    มิสเตอร์จาคอบเริ่มติดสุรานารีอย่างหนัก และแน่นอนว่าในที่สุดก็หลงพัวพันกับการพนัน แต่จุดสิ้นสุดของบริษัทจาคอบ แอนด์ เฟรนด์ นั้นคือ การที่ชายฝรั่งนี้หลงในอำนาจตนจนใช้กำลังฉุดคร่านางตีริ ภรรยาน้อยคนโปรดของเจ้าพิพิธรัษฎากรมาบำเรอกาม หญิงสาวนั้นอัปยศเกินกว่าจะมีชีวิตอยู่จึงผูกคอตายในคืนนั้นเอง แต่ชายฝรั่งก็ไม่เคยสร่างเมาจนมีสติพอจะรับรู้เรื่องราวใดๆ กระทั่งผู้เป็นเพื่อนกลับมาถึงในสามวันต่อมา 

    เจ้ารัษฎาสั่งให้จัดการศพนางตีริที่เน่าเปื่อยเป็นที่น่าสังเวชแก่ผู้พบเห็นอย่างเงียบๆ และเริ่มแผนการอันนำไปสู่จุดจบของชายฝรั่งอย่างแยบยล ผู้ที่หลงมัวเมาในอบายมุขนั้น ไม่ยากเลยที่จะชักนำไปสู่ทางเสื่อมยิ่งขึ้น 

    ในเวลาไม่นาน บริษัทจาคอบ แอนด์ เฟรนด์ ก็ต้องปิดตัวลงโดยที่มิสเตอร์จาคอบนั้นแทบสิ้นเนื้อประดาตัว สัมปทานก็สิ้นสุดแล้ว ทรัพย์สินเงินเงินทองอันตรทานไปในอากาศราวกับไอน้ำยามต้องแสงอาทิตย์ มิตรที่เคยมีก็แปรเปลี่ยนไปจากยามร่ำรวย นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ดึงมิสเตอร์จาคอบให้กลับมามีสติอีกหน และตระหนักว่าสถานที่แห่งนี้ไม่อาจเป็นขุมทรัพย์ให้เขาได้อีกต่อไป บรรดาเจ้าหนี้มายึดทรัพย์สินที่พอขายได้ไปเกือบหมด ส่วนที่เหลือก็ถูกขายทอดคตลาดในราคาถูก เพราะมันถูกใช้มาหลายปีดีดักจนทรุดโทรม รวมทั้งไม่มีใครทำไม้อีกต่อไปแล้ว ช้างที่เคยถูกใช้งานอย่างหนักในการลากซุง ถูกบริจาคให้บ้านปางหละเพื่อไม่ให้เป็นภาระเลี้ยงดูอีกต่อไป

    หลังการจากไปอย่างแทบสิ้นเนื้อประดาตัวของหุ้นส่วนไม่นาน เจ้าพิพิธรัษฎากรก็สิ้นลม ทายาทของเจ้าจึงประกาศขายปาง คือพื้นที่ที่เป็นสิทธิ์ของเจ้าพ่อแต่ดั้งเดิมเช่นกัน ด้วยตัดสินใจย้ายไปตั้งรกรากยังประเทศที่ห่างไกลจากความทรงจำอันน่าอดสูที่ฝังลึกในใจจนไม่อาจทนอาศัยที่นี่ต่อไปได้อีก

    แต่ด้วยพื้นที่อันทรุดโทรมและไม่อาจก่อประโยชน์ใดๆ ได้อีก รวมทั้งมีปางไม้มากมายที่ประกาศขายในทำนองเดียวกันนี้ ทำให้ปางรัษฎาขายยากเหลือเกิน เจ้าชัยวัฒนาผู้เป็นพระญาติจึงช่วยออกหน้าติดต่อเจ้านายทางบางกอกที่มีกำลังทรัพย์พอที่จะเอื้อเฟื้อได้ หลังจากข่าวผ่านมาหลายทอด พระพรหมก็ได้นำพาผู้ที่มีชะตาต่อกันมาเป็นเจ้าของใหม่ของปางรัษฎา และท่านได้บุตรชายโทนหนุ่มใหญ่มาจัดการความเรียบร้อยของปางในอีกสองปีถัดมา อันเป็นจุดเริ่มต้นของชะตากรรมของหลายชีวิตที่จะเกิดขึ้นอีกหลายปีต่อจากนี้

     

    หวัดดีจ้า

    ก่อนอื่นต้องขอโทษที่หายไปนาน และยังเขียนเรื่องโกกิลา การเวก ไม่จบอย่างที่สัญญาไว้ ก็มาเปิดเรื่องใหม่ซะแล้ว 

    คือช่วงที่หายไป ไรท์งานยุ่งมาก เครียดมาก เครียดจนอาเจียนทุกเช้า 

    สิ่งที่ช่วยเยียวยาไรท์ก็คือคลิปน้องช้าง ก็เลยอินเรื่องช้างมาก จนไม่มีไอเดียเรื่องอื่นเลย 

    ก็เลยจำเป็นต้องเขียนปางรัษฎาก่อน และตั้งใจไว้ว่าจะเขียนให้จบ (อีกละ) จริงๆจ้า 

    รักนะ

    ไรท์เอง 

     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น