คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Intricate - 02
Chapter 2
In dreams and in love there are no impossibilities
จื่อเทาลืมตาตื่นขึ้นเพราะเสียงบางอย่างที่ตั้งใจทำให้เขาตื่น ไม่มีต้นตอว่ามาจากไหน เขาหรี่ตาลงเพราะรอบตัวมีแต่ความมืด แต่สักพักก็ปรับสายตาได้ เขาลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบาก แต่ก็ลุกขึ้นมานั่งจนได้ ปลายเตียงมีคนตัวเล็กนอนอยู่ คิ้วหนาขมวดชิดกันด้วยความสับสน คยองซูนอนอยู่แล้วเสียงที่เขาได้ยินมันมาได้ยังไงกัน?
“ว่าไง”
“...” จื่อเทาหันไปมองตามต้นทางที่มาของเสียงปริศนาแต่ก็ไม่พบใคร
“หาฉันหรอ ไม่ต้องหรอก” เสียงดังขึ้นจากอีกมุมหนึ่งของห้อง เป็นคนละฝั่งกับเสียงที่ดังขึ้นครั้งแรก
“...”
“นายจะไม่มีทางเห็นฉัน”
“ทำไม?” จื่อเทาพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเพราะความตกใจ
“บอกไปนายก็ไม่เข้าใจหรอก”
“...” เขากลืนน้ำลาย มือกำผ้าห่มแน่น พร้อมทั้งมองซ้ายทีขวาทีอย่างหวาดระแวง
“ไม่ต้องกลัวหรอกน่า ฉันไม่ทำอะไรนายหรอก”
“คุณต้องการอะไร?!”
“...” เสียงเงียบหายไปสักพัก.. ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบงัน ได้ยินเพียงเสียงลมหายใจถี่ของตัวเขาเอง
“ให้ตายเถอะ” จื่อเทาสบถออกมาพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ พลางคิดไปต่างๆนานาว่าเมื่อกี้คงหูแว่ว เพราะเขาจมน้ำแรงดันน้ำคงทำให้หูของเขามีปัญหาแน่ๆ .. มันเป็นไปได้ที่ไหนกันล่ะ แว่วเป็นประโยคเลยหรือไง
.
.
.
.
“นายไง” หลังสิ้นเสียงลมหายใจของเขา ก็มีเสียงกระซิบที่หูของจื่อเทาทำให้เขาตกใจจนดวงตาของเขาเบิกโพลง
เฮือกกก!
จื่อเทาสะดุ้งตื่นขึ้น โดยมีคยองซูที่กำลังหยิบกระเช้าผลไม้ที่วางอยู่โต๊ะข้างเตียงไปวางไว้ที่เคาน์เตอร์ที่อยู่ห่างออกไป คนตัวเล็กมองก่อนจะรีบเดินไปหา
“จื่อเทา ฝันร้ายหรอ”
“....” จื่อเทาหายใจหอบด้วยความยังไม่หายตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ มันเหมือนจริงเกินกว่าจะเป็นความฝัน เสียงนั้นยังก้องอยู่ในหัวของเขา
“ค่อยๆหายใจสิ เดี๋ยวก็หายใจไม่ทันหรอก ใจเย็นๆนะ” คยองซูเอื้อมมือไปจับแขนของเพื่อนแล้วบีบเบาๆ
“ฉันฝัน..”
“...” คยองซูเงียบเพื่อรอให้เพื่อนตนพูดต่อ แต่ก็ได้แต่มองเพื่อนอย่างแปลกใจเมื่ออีกฝ่ายนิ่งเงียบไปนาน
“เอาฉันลุกขึ้นหน่อย” จื่อเทาเปลี่ยนประเด็น อาจเป็นเพราะไม่อยากพูดถึง.. หรือแค่คิดว่าไม่ควรพูดถึงในตอนนี้? ส่วนคยองซูก็ไม่ได้ซักอะไรเพราะคิดว่าถ้าเพื่อนเขาจะเล่าคงเล่าเอง เขารู้นิสัยจื่อเทาดี
“นายเพิ่งตื่นนะ จะนั่งตอนนี้เลยหรอ?”
“อือ”
“มาๆ” คยองซูก้มลงไปปรับเตียงให้เอียงขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนใช้มือสอดใต้รักแร้เพื่อนตน
“ครั้งนี้ต้องนั่งให้ได้นะ”
“ถ้านั่งไม่ได้ก็ห้ามฝืนสิ”
“นั่งได้น่า”
“ดื้อจริง” ปากบ่นแต่มือก็ออกแรงดึงช่วยเพื่อนให้ลุกขึ้นนั่งจนได้ ครั้งนี้ง่ายกว่าครั้งที่แล้ว เพราะผ่านมาอีกวันแล้ว ความเจ็บก็น้อยลงแล้ว เพราะแค่ช้ำๆจากแรงกระแทกรั้วกับแผลเล็กๆจากกระจกรถที่แตก
“เห็นไหมบอกว่าได้”
“จ้า พ่อคนเก่ง” คยองซูแซวก่อนจะพูดต่อ “เอ้อ วันนี้คุณตำรวจจะมานะ นายโอเคไหม?”
“อือ ฉันไม่เป็นไร”
“ตอบตามที่ฉันบอกนะ โอเคไหม”
“รู้แล้วน่า”
“อือๆ เดี๋ยวเขาก็คงมาแล้วแหล่ะ เขาบอกไว้ว่าจะมาเช้าๆ”
ก็อกๆๆ
“...” จื่อเทามองไปทางประตูก่อนที่คยองซูจะหันตามไป แล้วหันกลับมาบอกเพื่อน
“ฉันว่าเขาน่าจะมาแล้วล่ะ”
สิ้นเสียงเคาะ ประตูก็เปิดออกพร้อมกับนายตำรวจร่างเล็กเดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า
“ฉันว่าเขาน่าจะไปเป็นนายแบบมากว่ามาเป็นตำรวจอีก ยิ้มตลอดเวลาเลย” คยองซูก้มไปกระซิบเพื่อนที่นั่งอยู่บนเตียงคนไข้
“ตัวสั้นเท่านั้นอ่ะนะ?” จื่อเทากระซิบตอบ พร้อมกับคยองซูที่หัวเราะคิกคักเพราะประโยคเมื่อครู่ของเพื่อน
“อะแฮ่ม” คุณตำรวจตัวเล็กกระแอมเบาๆ
“...”
“สวัสดีครับ” คยองซูทักทาย
“สวัสดีครับคุณโด” ตำรวจร่างเล็กที่โดนสองสหายนินทายิ้มให้คยองซู ก่อนที่จะหันไปยิ้มให้กับอีกคนที่นั่งอยู่บนเตียง “สวัสดีครับ คุณฮวาง”
“ครับ” จื่อเทาพยักหน้าให้เจ้าหน้าที่ตัวเล็กที่ยืนอยู่ตรงข้างเตียงถัดจากคยองซูไปไม่ไกลนัก พลางคิดในใจว่าหากเขาจับผู้ร้ายจะเป็นยังไงกันนะ ก่อนจะกลั้นหัวเราะในใจ แต่ก็หลุดยิ้มออกมาจนได้
“มีอะไรหรือเปล่าครับ?” คุณตำรวจร่างเล็กก้มหน้ามองคนที่นั่งยิ้มอยู่บนเตียงผู้ป่วย
“เปล่าครับ” เขาพยายามทำหน้าให้ปกติที่สุดแต่ก็ไม่ได้ หลุดยิ้มออกมาอยู่ดี จนผู้มาใหม่รู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองก้มมองสำรวจรอบตัว ‘เอ้ะ กางเกงลืมรูดซิบหรอ ก็ไม่นี่’ รู้สึกเหมือนว่าจะได้ยินประโยคนั้นออกมาจากสีหน้าของคุณตำรวจตัวเล็ก
“อ่า.. ครับ” ใช้มือปัดๆลูบๆกางเกงแก้เก้อ ก่อนหยิบซองใส่บัตรตำรวจที่มีตราสัญลักษณ์ตำรวจยื่นมาตรงหน้าจื่อเทา แล้วเริ่มพูดขึ้น “ผมเจ้าหน้าที่พยอนแบคฮยอน มาสอบสวนเรื่องอุบัติเหตุน่ะครับ เพื่อนคุณบอกแล้วใช่ไหม ผมมาเมื่อวานแล้วน่ะ แต่เขาอยากให้คุณพักผ่อนก่อน”
“ครับ บอกแล้ว” จื่อเทาหันไปมองเพื่อนก่อนหันกลับมามองแบคฮยอน “ว่ายังไงครับ”
“ขอสอบถามนิดหน่อยครับ สะดวกใช่ไหมครับ”
“ครับ” จื่อเทาพยักหน้า
“ทางเราอยากทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างนั้นน่ะครับ พอจะเล่าให้ฟังได้ไหม”
“ครับ ได้ครับ” จื่อเทากลืนก้อนใหญ่ๆ ที่อยู่ในลำคอ ก่อนจะเริ่มเล่า “ผมจำได้แค่... ตอนที่ทุบกระจกรถแล้วก็ว่ายน้ำขึ้นมา”
เขาโกหก..
ตามที่คยองซูบอก..
บอกให้เขาจำไม่ได้..
“จำได้แค่นั้นหรอครับ?” เจ้าหน้าที่พยอนมองคนที่นั่งก้มหน้าอยู่บนเตียง ก่อนจะถามซ้ำอีกครั้ง “แค่นั้นจริงๆหรอครับ??”
“ครับ”
“ทางเราตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่า..” จื่อเทานั่งตัวแข็งทื่อเพราะรู้ว่าตำรวจคนนี้จะพูดถึงเรื่องอะไร แต่เขาก็ต้องพยายามทำตัวให้ปกติที่สุด “ไม่มีรอยเบรกในที่เกิดเหตุ”
“...”
“นั่นแปลว่าต้องมีคนจงใจขับรถลงไปในแม่น้ำ”
“ครับ
“คุณเป็นคนขับรถคันนั้น คุณจำไม่ได้จริงๆหรอว่าก่อนหน้านั้นมันเกิดอะไร”
“ไม่ครับ”
“แน่ใจนะครับ ว่าไม่ได้ปกปิดอะไร?”
“...”
“เพราะนี่อาจเป็นข้อหาพยายามฆ่า ถ้าปกปิดความผิดยิ่งจะมีโทษหนักนะครับ”
“แน่ใจครับ ผมจำได้แค่นั้นจริงๆ”
“ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่...ขอถามอีกเรื่องนึงได้ไหมครับ”
“...”
“ไม่รู้จะเป็นการเสียมารยาทหรือเปล่านะครับ”
“เอ่อ.. ถามก็ได้ครับ”
“คุณกับคุณโอเซฮุน...” เขาเว้นวรรคประโยคทำให้จื่อเทายิ่งรู้สึกลำบากใจเข้าไปใหญ่ “มีความสัมพันธ์กันในรูปแบบไหนครับ”
“...”
“...”
“ผม...” จื่อเทากลั้นหายใจก่อนจะพูดประโยคนั้นออกมา “กับเซฮุน.. เราเป็นแฟนกันครับ”
“...” เจ้าหน้าทีพยอนทำตาเบิกโพลง คิดว่าสถานการณ์จะเป็นแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ใช่อย่างที่เขาคิดว่าสองคนนั้นอาจเป็นแค่เพื่อนกัน หรืออีกข้อสันนิฐานนึงที่ว่าเป็นศัตรูกันก็ตกไป เขาไม่อยากจะเชื่อว่าผู้ต้องสงสัยในคดีของเขาจะกล้าเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับคนเพศเดียวกัน ทั้งๆที่ในเกาหลีคนไม่ค่อยยอมรับเรื่องนี้สักเท่าไหร่ แต่ถึงแม้จะมีความสัมพันธ์แบบนี้ก็ใช่ว่าจะไม่มีแรงจูงใจในการกระทำลงไปแบบนั้น อาจจะเป็นเพราะรักหักเหลี่ยมโหด หรือทะเลาะกันอย่างหนัก ไม่ก็.. ผู้ใหญ่ไม่ยอมรับเลยจะฆ่าตัวตายไปพร้อมกันเลยก็ได้
เจ้าหน้าที่ตัวเล็กพยักหน้า ดูจะเอนเอียงไปตามข้อสันนิฐานล่าสุดของตัวเอง ว่าสองคนตกลงปลงใจที่จะจากโลกนี้ไปพร้อมกันเพราะผู้ใหญ่ไม่ยอมรับเป็นแน่แท้...
“ผมขอถามอีกได้ไหมครับ ทางฝ่ายผู้ใหญ่...” เขายังพูดไม่ทันจบ จื่อเทาก็ตอบขึ้นมาซะก่อน
“อ่า ฝ่ายผมท่านรู้ครับ แต่ฝ่ายเซฮุน.. ยังไม่รู้”
“งั้น.. ”
“คิดว่าพวกผมจะฆ่าตัวตายพร้อมกันเพราะผู้ใหญ่ไม่ยอมรับ? ใช่หรือเปล่าครับ”
“...” เจ้าหน้าที่พยอนกลืนน้ำลายกลับสิ่งที่ผู้ต้องสงสัยของตนพูดออกมา พร้อมกับพยักหน้าช้าๆ
“เรื่องนี้ผมไม่แน่ใจ.. เพราะผมจำเรื่องราวก่อนหน้าที่รถจะตกลงไปในแม่น้ำฮันไม่ได้เลย”
“เอ่อ.. โอเคครับ ผมขอบคุณคุณฮวางมากนะครับ ที่ให้ความร่วมมือกับทางเรา” เจ้าหน้าที่ตัวเล็กพูดก่อนที่จะก้มลงไปจดรายละเอียดเมื่อครู่ “ถ้ามีอะไรคืบหน้า จะแจ้งให้ทราบโดยเร็วที่สุดนะครับ”
“ครับ ขอบคุณเช่นกันครับ”
“เอ่อ เดี๋ยวผมไปส่ง” คยองซูเห็นเจ้าหน้าที่ลุกขึ้นโค้งให้กับจื่อเทาก่อนจะหันมาโค้งให้กับเขาที่นั่งเงียบมานานจึงพูดขึ้น
“ขอบคุณครับ ส่งถึงหน้าห้องก็พอ” เจ้าหน้าที่ตัวเล็กยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ก่อนเดินนำคยองซูออกไป
“มีปัญหาอะไรไหมครับคุณตำรวจ” คยองซูถามขึ้นทันทีที่ประตูห้องปิดลง
“ในตอนนี้ถ้าคุณฮวางยังยืนยันว่าจำเหตุการณ์ไม่ได้ก็คงจะยังตัดสินอะไรไม่ได้หรอกครับ”
“แล้วเพื่อนผม เอ่อ หมายถึงทั้งสองคนเลย จะเป็นยังไงบ้างครับ?”
“ก็คงต้องรอสอบสวนพยานผู้เห็นเหตุการณ์น่ะครับ”
“แล้วถ้า..”
“ถ้าคุณฮวางเป็นคนขับรถลงไปจริงๆ ก็คงต้องมีการดำเนินคดีนะครับ ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครเสียชีวิตแต่ก็ถือว่าผิดกฎหมาย”
“อ่า” คยองซูหน้าซีดจากประโยคที่เจ้าหน้าที่พยอนพูดออกมา เขากลัวเพื่อนเขาต้องติดคุก ไม่อยากให้จื่อเทาต้องมีประวัติที่ด่างพร้อย
“เอ่อ แล้วคุณโอได้สติหรือยังครับ ผมว่าจะไปสอบปากคำเขาสักหน่อย”
“ฟื้นแล้วครับ ถ้าคุณจะไปเดี๋ยวผมพาไปนะ” คยองซูยิ้มเจื่อนๆให้เจ้าหน้าที่พยอน
“รบกวนด้วยนะครับ” คนตรงหน้าพูดด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับโค้งให้
“ตามมาเลยครับ” คยองซูหน้าเสีย คิดในใจว่าไม่น่าเลย.. ถ้าเซฮุนพูดอะไรเกี่ยวกับเหตุการณ์ในวันนั้นที่ทำให้จื่อเทาโดนจับล่ะ เขาคงไม่ยอมแน่ๆ
“...”
“เชิญครับ” คยองซูหันไปพูดกับเจ้าหน้าที่พยอนหลังจากที่เงียบไปครู่หนึ่ง เจ้าหน้าที่พยอนทำหน้างงเล็กน้อย เพราะยังไม่ทันได้เดินไปไหนเลย แต่พอหันไปมองที่ประตูห้องข้างๆ ก็เข้าใจเมื่อป้ายชื่อผู้ป่วยที่ติดอยู่หน้าห้องคือโอเซฮุน
“อ่ะ.. อ่า.. ขอบคุณครับ”
“ครับ..”
“อ่า.. คุณกลับไปดูแลคุณฮวางก่อนก็ได้นะครับ”
“ไม่เป็นไรครับ เซฮุนก็เพื่อนผมเหมือนกัน” คยองซูยิ้ม เขาคงไม่ปล่อยให้เซฮุนคุยกับตำรวจสองคนหรอกนะ เขาต้องรู้ด้วยว่าเซฮุนจะพูดอะไรบ้าง
ภายในห้องผู้ป่วยมีกลิ่นดอกไม้หอมอ่อนๆคละคลุ้งไปทั่ว มองไปยังเตียงผู้ป่วยก็พบว่าเซฮุนยังคงหลับอยู่ ช่อดอกไม้จากใครก็ไม่รู้วางอยู่ข้างๆหัวเตียง เจ้าหน้าที่พยอนเดินเข้าไปช้าๆพร้อมกับคยองซูที่เดินตามหลังมาติดๆ เขาหยุดยืนอยู่ที่ข้างๆเตียงของเซฮุน แต่ก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยปากขึ้น
“เอ่อ.. ให้ผมปลุกให้ไหมครับ”
“...” สายตาจับจ้องไปที่ร่างที่นอนหลับสนิทอยู่ในห้วงนิทรา สวยงามเหลือเกิน
“.....” คยองซูมองเจ้าหน้าที่พยอนที่ยังคงยืนนิ่ง ก่อนจะเอ่ยปากทักขึ้นอีก “คุณตำรวจครับ?”
“ห้ะ เอ่อ ครับๆ? ว่ายังไงครับ?”
“จะให้ผมปลุกเซฮุนให้ไหม”
“อ.. อะ เอ่อ.. ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมมาวันหลังดีกว่า”
“อ๋อ.. โอเคครับ”
“งั้น.. ผมขอตัวนะ” เจ้าหน้าที่ตัวเล็กโค้งให้คยองซู ก่อนเดินออกไปจากห้อง
ทันที่ที่ประตูห้องปิดลงเซฮุนลืมตาขึ้นพร้อมกับเอื้อมมือไปจับมือคยองซูที่หันมองตามเจ้าหน้าที่ตัวเล็กที่ดูท่าทางจะรีบออกไป
“คยองซู”
“เซฮุน?” คยองซูหันมามองเซฮุนที่ดูเหมือนว่าไม่ได้เพิ่งตื่น “ฉันนึกว่านายหลับอยู่”
“ฉันแกล้งหลับน่ะ ไม่อยากคุยกับตำรวจ”
“อ่า..”
“ฉันได้ยินเสียงคุยกันหน้าห้อง เลยรีบหลับตา”
“ดีแล้ว ฉันก็มีเรื่องอยากคุยกับนายพอดีเลย”
“...” เซฮุนพยักหน้า ก่อนสายตาจะหันไปเจอกับช่อดอกไม้ช่อใหญ่ที่ว่างอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียง
“ฉันว่าจะถามพอดี ใครเอาดอกไม้ช่อใหญ่มาให้นายเนี่ย?”
“หือ.. ” เซฮุนหันไปมองหน้าคยองซู “ฉันนึกว่าคุณตำรวจเมื่อกี้เอามาให้ซะอีก”
“...”
“ก่อนฉันหลับตาเมื่อกี้ยังไม่มีเลยนะ?”
“ได้ไง.. ฉันก็เห็นมันวางอยู่แล้วตั้งแต่เข้ามา”
“หืม” เป็นไปไม่ได้น่า เซฮุนคิดในใจ ดอกไม้จะอยู่ดีๆโผล่มาได้ยังไงกัน? ไม่ใช่ว่ามีเวทย์มนต์เสกมันขึ้นมาสักหน่อย
“...”
“อ๋อ.. สงสัยมีคนเข้ามาก่อนหน้านั้นแล้วฉันไม่สังเกตเองมั้ง” เซฮุนตอบ ทั้งๆที่ในใจก็ยังคิด
“คงงั้นแหล่ะ” คยองซูก็ไม่ต่างกัน สงสัยว่าเซฮุนโกหก.. เขาต้องมีคนมาเยี่ยมแต่ไม่อยากบอกแน่ๆ
“แล้วจื่อเทาเป็นยังไงบ้าง”
“ดีขึ้นมากเลยล่ะ สองสามวันคงมาหานายได้แล้ว เขาอยากมาหานายมากเลยนะ”
“อยากมาหา ทั้งๆที่จำไม่ได้น่ะนะ”
“อืม เขาอยากมาเจอนาย เผื่อจะทำได้”
“งั้นให้ฉันไปหาเขาได้ไหม ฉันดีขึ้นเยอะเลยนะ”
“รออีกวันสองวันก่อนก็ได้น่า”
“เอางั้นหรอ...”
“...”
“...” ทั้งคู่ตอยู่ในความเงียบ ก่อนที่คยองซูจะเอ่ยปากขึ้นมาก่อน
“นี่เซฮุน ฉันอยากถามนาย เรื่อง...”
“เรื่องวันนั้น?”
“อืม”
“นายจะถามฉันว่าเกิดอะไรขึ้นใช่ไหม”
“...”
“ฉันจะตอบ แต่นายต้องรับปากก่อน”
“ได้สิ”
.
.
.
.
.
“นายต้องไม่บอกจื่อเทา”
Talk
หายไปนาน ยังจะมีคนมาอ่านไหมนะ... วันนี้คึกค่ะ เลยมาแต่ต่อให้จบตอน2
หวังว่าจะยังมีคนกลับมาอ่านนะคะ T___T
เนื้อเรื่องเป็นยังไงบ้าง? บรรยายโอเคไหมคะ? คอมเม้นต์ติดชมได้น๊า
แท็กฟิค #FicIntricate นะคะ เลิ้ป♥
ความคิดเห็น