คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : GNC9> กะกะกะ ก่อสร้าง
อาสาสมัคร “ก่อสร้าง”
อ่านไม่ผิดหรอกจ้า ....ก่อสร้าง
นอกจากอาสาสมัครชาวไทยจะชอบก่อปัญหา สร้างเรื่อง แล้วยังต้องมาก่อสร้างเป็นจริงๆจังๆด้วยพะย่ะค่ะ
เฮ้ย! แต่งานมันไม่หนักนะเว้ย แค่แบกปูน แบกเสาโลหะ ตอกตะปู ผสมปูน ฉาบผนัง ก่ออิฐ ปีนนั่งร้าน เอง หึๆ
ต้องเกริ่นก่อนว่า งานอาสาสมัครนั้นมีหลายอย่างและในแต่ละปีก็จะไม่เหมือนกัน
ปีที่เราไปตอนนั้นมีการก่อสร้างศูนย์ของมูลนิธิ เพิ่ม ซึ่งงานก่อสร้างถือเป็นหนึ่งโปรแกรมที่อาสาสมัครต่างประเทศบางรุ่นต้องเจอการสร้างโรงเรียนให้ผู้ด้อยโอกาสในแอฟริกา การปรับปรุงอาคารบ้านพักคนชรา เป็นต้น
ซึ่งปี2011เป็นปีที่อาสาสมัครจากประเทศไทยรุ่นที่5 อย่างเราๆได้พบเข้าร่วมโปรแกรมทองนี้ด้วย แซ่บป๊ะ?
ย้อนไปเมื่อปี 2011 ... ที่ประเทศเกาหลีใต้ เมืองพูซาน เขต ยองโด ..
ที่นี่คือที่ทำงานของเรา หึๆ
ตอนที่เราที่ดินตรงนี้ครั้งแรกตรงนี้เป็นเนินเขาธรรมดาๆและเป็นที่ดินเปล่าที่พวกเราต้องมาช่วยกันถมที่ดินตรงให้เป็นพื้นที่สำหรับสร้างอาคารพวกเรามาเพื่อแบกเสาโลหะที่ใช้ค้ำยันดินให้อัดกันแน่น หลังจากนั้น 1 เดือนพวกเราก็ถูกเรียกตัวมาที่นี่อีกครั้งมันก็อยู่ในสภาพนี้แล้ว
งานที่เราต้องสะสางก็คือ อาคาร 5 ชั้นนี้ยังไม่มีผนังที่แบ่งสัดส่วนของห้องเลย พวกเราต้องร่วมมือกับหัวหน้างานซึ่งเป็นสถาปนิกชื่อจำยากเลยตั้งให้ว่า ลุงหมีเล็ก และ ลุงอีกคนที่ทำงานเกี่ยวกับการเชื่อมเหล็กทั้งหมดของอาคารชื่ออะไรจำยากเลยตั้งชื่อว่า ลุงหมีเตี้ยเพราะลุงค่อนข้างเตี้ย และคนต่อไปคือลุงหมีใหญ่ที่ดูแลเรื่องปูน ผนัง อิฐ ทั้งหมดของอาคาร
พวกเรา 9 คน ต้องทำงานร่วมกับลุง3คนและสมาชิกมูลนิธิ เป็นเวลา1อาทิตย์
ไปถึงก็เริ่มงานเลย แบกอิฐพันกว่าก้อนเข้ามาในอาคารเพื่อสร้างผนังห้อง หึๆ
นึกหรอว่าจะไม่บ่น? บ่นกันยับ .... “ทำไมต้องมาก่อสร้างด้วยวะ?”
“เออนั่นดิทำไมต้องมาผสมปูนด้วยวะ?” ....
ทำไปบ่นไป อากาศก็หนาว ... เรารุ้สึกว่าคนไทยนี่ทำงานเงียบๆไม่ได้เลยจริงๆ
ช่วงที่ทำงานก็บ่นก็เสียงดังใช่ไหม?
แต่ช่วงพักกินข้าวนี่สิ เงียบมาก .... กินอย่าได้อั้นอ่ะ ถึงจะเหนื่อยหน่อยแต่เราก็ขอบคุณที่ได้เจอ
“ป้าปอบ”
ป้าปอบคือคนที่ทำอาหารให้พวกเรากิน ทุกมื้อเช้ากลางวันเย็น และอาหารว่างก็ด้วย
ไปแรกๆป้าปอบก็จะแสดงทีท่าว่าไม่ชอบพวกเรา9คนอย่างชัดเจนและออกตัวแรงมาก
ไม่เติมซุปให้ ค้อนใส่ กระชากจานข้าวไปกับมือบ้างอะไรทำนองนี้ นี่เลยเป็นที่มาของป้าปอบ
1อาทิตย์แรกงานก็ซ้ำเดิม ผสมปูน แบกทราย ก่ออิฐแต่ด้านในอาคารก็ชักเป็นรูปร่างมากขึ้นทีเดียว เราแบ่งชั้น1ออกเป็น5ห้อง ภายใน3วัน และเริ่มทำชั้น2 ที่เป็นโถงใหญ่แทน งานชั้น2น่ากลัวมากเพราะเราต้องปีนนั่งร้านขึ้นไป และที่น่ากลัวที่สุดคือ “ลุงหมีเล็ก” แกจะหน้านิ่ง
มากในช่วงแรก แต่พอเริ่มสนิทลุงจะเริ่มฝอยทันที่ “ฉันน่ะเคยไปสร้างมูลนิธิที่ไทยด้วยนะ สนุกมากก๋วยเตี๋ยวอร่อยมาก” สนิทกันเลยทีนี้ เวลาจะอู้งานก็ง่ายๆปีนขึ้นไปบนนั่งร้านแล้วอยู่บนนั้นก็จะไม่มีใครเห็นเรา หิหิ ทำบ่อย หลังๆถูกจับได้ 1อาทิตย์ผ่านไปชั้น1-2ก็สวยงามมาก
และตอนนั้นเองข่าวดีก็มาถึง อาจารย์บอกว่าพวกเธอเป็นเด็กดื้อมากๆแต่พวกเราก็อยากอยู่กับเธอไปนานๆเลย คิดว่าจะให้ก่อสร้างที่ต่ออีก1อาทิตย์
ตอนนั้นจำได้ว่าแทบบ้า !!!ทุกคนแบบ......อยากตายย ย ย ย
แต่ใครจะไปรู้ว่าไอ้ช่วง2อาทิตย์นี่แหละที่มันส์ที่สุด!!!!
พวกเราเริ่มหัวเราะกับการทำงานได้ ทุกคนคือมีความสุขมาก หัวเราะกันทั้งวัน
และตอนนั้นเองลุงหมีใหญ่ก็เริ่มสั่งว่า “เอาทรายมา” เป็นภาษาไทย “เอาค้อนมา”
พวกเราก็จะแบบ อย่าสอนๆๆ ไม่อยากฟังรู้เรื่อง อิอิ
ตอนที่เรามีความสุขที่สุดคือจำได้ว่าวันนั้นเป็นคืนวันอาทิตย์ ป้าปอบเริ่มเปิดใจคุยกับพวกเราและพูดต่อหน้าสมาชิกทุกๆคนว่า “ตอนแรกฉันไม่ชอบเด็กพวกนี้ เพราะเมื่อก่อนฉันเคยทำอาหารในร้านเวียดนามและรุ้สึกตัดสินเด็กพวกนี้ว่าพวกเขาต้องเป็นเหมือนคนเวียดนามพวกนั้นแน่นอน ภาษาฟังก็ไม่ค่อยสบายหูเท่าไร แต่พอได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันฉันก็เริ่มชอบพวกเขาและรู้ว่าพวกเขาไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ฉัยเคยตัดสินพวกเขา ขอบคุณมากๆที่เด็กไทยพวกนี้มาอยู่กับเรา” ตอนนั้นป้าปอบแกยิ้มหน้าแดงอ่ะ เขินๆ เราก็เขิน ตลอด1อาทิตย์พวกเราผลัดกันพูดที่ละคนเกี่ยวความรู้สึกที่ทำงานก่อสร้าง พูดกันตรงๆให้อาจารย์รับรู้เลย ว่าชอบหรือไม่ชอบยังไง ฉันไม่สบายใจยังไง นี่คือจุดที่เราชอบที่สุดในการทำงานของIYFที่จะเปิดโอกาสให้เราพูดทั้งหมดที่มีอยู่ในใจออกมา แล้วเมื่อเราทุกคนรู้จักใจของกันและกันตอนนั้นทำงานสนุกและง่ายมาก หลังจากก่อสร้างเสร็จทุกวัน ผู้ใหญ่ก็จะมีโปรแกรมพิเศษให้เรา เช่น พาไปโรงอาบน้ำ พาไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยว ตอนนั้นพวกเราไปเที่ยวแทจงแดไปล่องเรือแล้วก็ให้อาหารนกนางนวลกัน ทำเนื้อย่างกินด้วยกัน ตอนนั้นสนุกมากกกกกกกกกกกก และมีความสุขมากจริงๆ
เราก็ไม่รู้ว่าตัวเองมันเปลี่ยนแปลงแค่ไหนแต่มีวันหนึ่งที่เรา3คนต้องแยกไปทำกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยชินลา ตอนนั้นเพื่อนๆก็อยู่ที่ก่อสร้างเหมือนเดิม เรารู้สึกว่าทำไมต้องไปมหาลัยด้วย?ไม่อยากไป เราอยากก่อสร้าง แต่เราก็ไม่ได้พูดอะไรพอไปถึที่มหาลัยตอนนั้นเพื่อนเกาหลีก็ซื้อข้าวให้กินแต่พวกเราสามคนรู้สึกว่ากินไม่ลง พวกเรากินไปคนละครึ่งจานแล้วก็ไม่อยากกินแล้ว เพื่อนเลยถามว่า อาหาร มอ เรา ไม่อร่อยหรอ? พวกเรารู้สึกว่ามันอร่อยมากนะ แต่ว่ารู้สึกว่าอยากกินพร้อมๆกันกับเพื่อนที่ก่อสร้างด้วยกันมากกว่า ในสมองมันคิดแต่ว่าเพื่อนๆทำอะไรอยู่ กินอะไรอยู่ คือในหัวเราสามคนมีแต่เรื่องก่อสร้างอ่ะ ตอนที่อยู่รวมกันใครไม่รู้พูดขึ้นมาว่ากลับไทยไปถ้าเรียนไม่จบก็คงจะมีอาชีพแล้ว แหะๆ พวกเราแตกฉานด้านงานปูน งานฉาบ และงานก่อ มาก ทักษะภาษาเกาหลีก็พุ่งขึ้นเรื่อยๆด้วย เพราะมันมีศัพท์เกี่ยวกับอุปกรณ์ก่อสร้างด้วย ............ ช่วงจะหมดสองอาทิตย์ พวกเราและสมาชิกช่วยกัน ก่ออิฐสีส้มทีละก้อนละก้อนเพื่อตกแต่งนอกตัวอาคารต้อง เรียงอิฐสีส้มแต่ละก้อนตั้งแต่ชึ้น1 จนถึงชั้น5 และในที่สุด จากที่ดินว่างเปล่าก็กลายเป็นอาคารที่สวยมาก น่าเสียดายที่พวกเราต้องกลับมาก่อนเพราะยังต้องซ้อมการแสดงเพื่อแสดงความขอบคุณกับมูลนิธิที่รักแล้วก็ใส่ใจพวกเรามาตลอด1ปี ผ่านการก่อสร้างเราสังเกตุว่าพวกเราแข็งแรงมากขึ้นทั้งกายและใจ
ตอนนี้พวกเราตั้งใจว่าจะกลับไปที่ยองโดอีกครั้งเพื่อดูว่า อาคารนั้นมันสวยงามมากขนาดไหน จริงๆเรื่องมันยาวมากขอเล่าแค่นี้ก่อนแล้วกัน
ช่วงก่อสร้างเป็นช่วงที่เรา9คนสนิทกันมากที่สุด และ ขอบคุณที่สุด ที่ช่วยดึงความเป็นตัวเองของพวกเราออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ธาตุแท้ที่เราเคยซ่อนไว้ก็ปรากฏออกมาทางงานก่อสร้างด้วย ว่าเมื่อก่อนเรามันดูถูกคนงานก่อสร่างแค่ไหน หรือว่าไม่มีความอดทนยังไง ก็ขอบคุณมากที่ทำให้เราเปลี่ยนใจ แล้วก็มีความอดทนมากขึ้นด้วย
ตอนนี้เรากลับมาเรียนที่นี่แม้ว่าจะต้องเรียนร่วมกับรุ่นน้องมันอาจจะดูลำบากใจแต่เรากับเข้ากับพวกได้และ ผลการเรียนเราก็ดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างเราจะได้เกรดนี้ด้วยหรอ?
เราไม่เสียใจจริงๆที่ไปเป็นอาสาสมัครมา
เขต ยองโด เมืองพูซาน
ทีแรกก็ว่างเปล่าแบบนี้เลยจ้า ยังไม่เป็นอาคาร
กิจกรรมก่อสร้างอาคารเรียนที่ประเทศเคนย่า
นี่ก็เคนย่าจ้า
นี่จ้าก่อสร้างกันกลางหิมะ เก๋ๆที่รัสเซีย จ้า
มาผสมปูนถึงเเทนซาเนียเลยจ้าาา
ความคิดเห็น