คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : GNC8>ทำงานอาสาสมัครแล้วได้อะไร?
ทำงานอาสาแล้วได้อะไร?
ทำงานอาสาสมัครแล้วไม่ได้เงิน ...กรรม แล้วจะไปทำไม?
ไปแล้วก็ไม่ได้เข้าไปนั่งเรียนในห้องเรียนนะ …กรรม แล้วจะไปทำไม?
นั่นสิ....
Wiki Pedia ได้ให้ความหมายของอาสาสมัครไว้ว่า จุดจุดจุด
อาสาสมัคร (volunteer) หมายถึง ผู้ที่สมัครใจทำงานเพื่อประโยชน์แห่งประชาชนและสังคม โดยไม่หวังผลตอบแทนเป็นเงิน หรือสิ่งอื่นใด บุคคลที่อาสาเข้ามาช่วยเหลือสังคมด้วยความสมัครใจ เสียสละ เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น ป้องกัน แก้ไขปัญหาและ พัฒนาสังคม โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
คุณสมบัติที่สำคัญของอาสาสมัครมี 3 ประการ คือ ทำงานด้วยความสมัครใจไม่ใช่ด้วยการถูกบังคับหรือเป็นเพราะหน้าที่ เป็นงานเพื่อประโยชน์แก่ประชาชนและสังคมหรือสาธารณประโยชน์ และทำโดยไม่หวังผลตอบแทนเป็นเงิน หรือสิ่งของมีมูลค่าแทนเงิน
อาทิเช่น ปัจจุบัน มีมูลนิธิในกรุงเทพมหานครมากมาย และมีมูลนิธิหลัก ๆ ที่เป็นที่รู้จักกันดีในเขตกรุงเทพมหานคร ดังนี้ 1.มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง 2.มูลนิธิร่วมกตัญญู เย้ยย ย ยย!!!
CC: http://th.wikipedia.org
+จุดประสงค์ของ โครงการ Good News Corps+
Good News Corps (GNC) คือ โครงการหนึ่งของมูลนิธิเยาวชนสัมพันธ์นานาชาติ (Internation Youth Fellowship) ที่จะส่งอาสาสมัครไปใช้ชีวิตต่างประเทศ 11 เดือน อาสาสมัครจะได้เรียนรู้การใช้ชีวิต ความคิด และวัฒนธรรมต่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นโอกาสที่อาสาสมัครจะได้เรียนรู้การช่วยเหลือคนอื่นและปลูกความฝันในจิตใจของผู้ที่ไม่มีความฝันหรือยังหาความฝันของตนไม่พบ ไม่มีอะไรที่น่าสนใจมากไปกว่าการใช้ชีวิตวัยหนุ่มสาวเพื่อคนอื่น และจะได้รับการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงจากการใช้ชีวิตเพื่อคนอื่นโดยยึดหลักของคริสเตียน ครั้งแรกอาสาสมัครอาจคิดว่า “ฉันจะทำอะไรบางอย่างให้กับคนในประเทศที่ฉันไปเป็นอาสาสมัคร” แต่พวกเขากลับพบว่า “ฉันต่างหากที่ได้รับสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิต” และสิ่งนั้นก็คือจิตใจของผู้อื่น อาสาสมัครจะได้พบกับความสุขที่แท้จริงซึ่งไม่ได้มาจากการใช้ชีวิตอยู่เพื่อตัวเองแต่มาจากการใช้ชีวิตเพื่อคนอื่น อาสาสมัคร Good News Corps จึงมีคติพจน์ว่า
“ขายวัยใส ซื้อใจพวกเขา”
---------------------------------------------------
ตอนที่อยู่ที่เกาหลีใต้เวลาไปทำงานอาสาสมัครก็จะไม่ได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินนะ
แต่ว่าจะได้รับของบริจาคแทน เช่น เสื้อผ้า ขนม อาหารมื้อใหญ่ รองเท้า ซึ่งมันอาจจะดูไม่หวือหวานัก แต่เรามองกลับไปที่จิตใจของคนที่จะให้ ฮืออ ซึ้งง ง .. .
อยู่ที่นั่นถึงแม้ว่าจะไม่ได้รายได้อะไร แต่ว่าก็มีบ้างช่วงวันปีใหม่ที่เค้าจะแจกเงินเด็กๆกัน สมาชิกมูลนิธิก็ให้เงินนะ แต่พอตอนที่เราได้รับเงินมาอ่ะ เราก็ไม่อยากจะตามโปรแกรมของโครงการนะเราก็อยากจะใช้เงิน อยากจะเอาเงินไปซื้ออาหารที่อยากจะกิน ช่วงเวลาที่เราได้รับเงินมานะ เราแทบจะไม่อยากแตะอาหารที่มูลนิธิทำให้ง่ะ มันรู้สึกว่าฉันมีเงิน ฉันไม่ง้อ ฉันจะออกไปหาอะไรกินที่มันแปลกใหม่ สุดท้ายมันก็เหลือแค่ความว่างเปล่าน่ะ เอาจริงๆ ตอนเราอยู่นั่นเราก็ไม่ใช่คนที่เชื่อฟังใครเท่าไรหรอก แต่เราเรียนรู้ผลของมันจากการกระทำของเราง่ะ แล้วมาเปรียบกับตอนที่ในตัวมันไม่มีเงินพกอยู่เลยนะ ถึงเวลานั้นมีเด็กอนุบาลเข้ามาเล่นด้วยที่ห้องแล้วหยิบขนมในถุงมาแบ่งเราชิ้นเดียวเราก็รู้สึกว่ามันขอบคุณแล้ว ได้ feeling ผู้ประสบภัยตอนได้รับถุงยังชีพดี หึหึ (เกี่ยว??)
ไปที่นั่นไม่ได้ไปนั่งเรียนในห้องเรียนนะ แต่ว่าการเรียนภาษาจะได้ผ่านทางการใช้ชีวิตประจำวัน การทำงานอาสาสมัครที่หลากหลายกิจกรรม ก็จะเจอคำศัพท์ที่หลากหลาย สำเนียงก็ย่อมได้มากกว่าคนที่เขาไม่เคยได้ใช้ชีวิตร่วมกับเจ้าของภาษาแน่ๆ
เหตุการณ์ที่เราประทับใจมากมายก็คือ ตอนนั้นเราต้องไปงานอบรมที่ศูนย์ประชุมที่กลางหุบเขา ตอนนั้นที่นั่นปกคลุมไปด้วยหิมะและอากาศก็หนาวมาก ตอนนั้นก็มืดแล้วและทุกคนก็แยกย้ายกันเข้าที่พัก แต่เราไปเจอ ป้าคงเยชิน ที่อยู่มูลนิธิเดียวกับเรา เดินมาหาพร้อมกับยื่นเงินให้ 1 หมื่นวอน ป้าบอกว่า “ทั้งตัวฉันเหลือแค่นี้ ฉันขอโทษด้วยนะที่ต้องซื้อให้พวกเธอแค่3คน ฝากขอโทษอีก6คนด้วยนะเพราฉันมีเงินไม่พอแต่ว่าฉันอยากจะให้เงินนี้กับพวกเธอเพื่อไปซื้อนม เพราะที่นี่อากาศหนาวมากถ้าพวกเธอกินอะไรอุ่นๆก็น่าจะดี” คือตอนนั้นไม่กล้ารับเงินนั้นไว้ เพราะมันรู้สึกว่าซึ้งเว่อร์
อาจารย์ คิมซองจินเคยพูดว่า คนอยู่ด้วยกันเป็นปีถ้าอยู่ด้วยกันเพราะเงินก็จะจากกันด้วยเงิน แต่ถ้าคนเราอยู่กันด้วยความรักก็จะจากกันด้วยความรักนะ คำๆนี้มันทำให้เรารู้สึกว่ามันก็เป็นความจริงอ่ะ ตอนอยู่นั้นถามว่าอยากได้เงินไหม อยากได้แต่พอมีเงินแล้วมันไม่รู้สึกขอบคุณกับ อาหาร ไม่รู้สึกว่าฉันต้องพึ่งพาคนอื่น เคยเป็นไหมแบบพอมีเงินแล้วฉันไปคนเดียวได้ ฉันไม่แคร์ฉันก็แค่จ่ายเงิน เมื่อก่อนเราเป็นคนแบบนั้นนะแต่ชีวิตก็ว่างเปล่ามาก
เอาเป็นสรุปว่าไม่ได้เงิน ... ฮือๆๆ แต่ได้รับสิ่งที่มันมากกว่าเงิน
จ่ายเงินไป 57,000กับการอยู่ที่เกาหลี1 ปีก็น่าจะขอบคุณได้แล้วนะ
เพราะประสบการณ์ที่ได้รับมามันไม่มีทางลบออกได้จริงๆ
ทุกๆอย่างที่ได้รับมาจากที่นั่นมันตีค่าเป็นเงินไม่ได้เลยจริงๆ
ถ้าถามว่าไปเป็นอาสาสมัครแล้วได้อะไร มันก็ไม่ได้ความสุขซะทีเดียวนะ
แต่มันได้รับความรักกลับมาต่างหาก สิ่งที่IYF จะสอนเด็กๆผ่านทาง
โครงการอาสาสมัครต่างประเทศคือ เราสามารถมีความสุขได้โดยปราศจากเงิน
จริงๆนะเรารู้สึกแบบนั้น
โครงการอาสาสมัครต่างประเทศไม่ได้ไปทำงาน ไม่ได้ไปเรียนในห้องเรียน แต่เราออกไปทำงานอาสามีทั้งสิ่งที่อยากจะทำและไม่อยากจะทำ แต่ทั้งหมดนี้แล้วมันสามารถช่วยฝึกและช่วยเปลี่ยนจิตใจ เปลี่ยนความคิด เปลี่ยนให้เราใช้ชีวิตอย่างมีความหมายมากขึ้น
เราคงจะขอบคุณโครงการนี้ไม่ได้ถ้าเราต้องทำงานเพื่อแลกเงินมา แถมยังต้องจ่ายค่าข้าวเองทุกมื้อ รับผิดชอบค่าน้ำค่าไฟ ด้วยตัวเอง ...........
บางทีเราคิดว่าถ้าอยากรู้ว่าไปแล้วได้อะไร พวกเทอๆต้องลองไปเองอ่ะ แล้วจะรู้ว่ามันได้อะไรอะไรที่มันมากกว่า เงิน คำชม หรือว่าสิ่งของอ่ะ
ป้าอันซุกกับพี่ซูฮยอนพามาซื้อขนมวันปีใหม่
ความคิดเห็น