My GNC's Diary__สดใสจริงๆชีวิตอาสาสมัครIYF__(เอลฟ์ไทยไปเกาหลี)

ลำดับตอนที่ #18 : GNC>17 ผ่านมา 5 ปี พี่เขาเป็นยังไง??

GNC  > 17   ผ่านมา 5 ปี พี่เขาเป็นยังไง??

 เผลอแปปเดียวผ่านไป 5 ปีแล้วสำหรับการไปเป็นอาสาสมัครที่ประเทศเกาหลีใต้มา  เพิ่งรับปริญญาไปเมื่อเดือนมีนาคม  2015 เพราะต้องจบ 5 ปี (ดรอปไปเกาหลี 1 ปี)  ช่วงนี้หลังจากที่เรียนจบแล้ว บอกตรงๆว่าไม่ตอนแรกที่เข้ามหาลัยไม่ได้คิดจะตั้งใจเรียนอะไรเพราะว่าคิดว่าเรียนยังไงก็ต้องกลับไปทำงานกับที่บ้านอยู่ดี ก็เลยเรียนๆเล่นๆไปก็ได้ไม่คิดอะไร แต่พอมาเจอกับ IYF ช่วงปี 2 แล้วดรอปไปที่เกาหลี ใช้ชีวิตอาสาสมัครไปเรื่อยๆ ก็เริ่มมี      ความฝันของตัวเองเป็นครั้งแรก เมื่อทางโครงการให้เราได้ลองหยิบลองจับลองทำกิจกรรมหลายๆอย่าง

ตื่นเช้ามาก็ต้องทำเวร มีเวรทำความสะอาดต้องขัดส้วม เก็บขยะในห้องน้ำ และทีเด็ดคือ เราเป็นคนที่ทำงานประจำห้องขยะของมูลนิธิฯ ทุก! เช้า! ตลอด 11 เดือน

จากที่ทำกับข้าวไม่เป็น ก็ให้มาช่วยทำอาหารเช้า อาหารเย็น ,ถ้าล่ายไปนี่คงไม่จบ

จะบอกคร่าวๆนะคะ ว่าไปทำอะไรมาบ้าง ขัดส้วม ทำกับข้าว เก็บผักกาดมาทำกิมจิ ปลูกต้นหอม เก็บลูกพีชในสวน เลี้ยงเด็กทารก เลี้ยงเด็กประถม เลี้ยงเด็กม.ต้น เป็นพี่เลี้ยงเด็ก ม.ปลาย เป็นครูสอนภาษาไทยในมหาลัย เป็นครูภาษาอังกฤษให้เด็กประถม  กวาดถนน กวาดหิมะ  ยื่นเอกสารให้อธิการบดี เข้าพบศาสตราจารย์ในมหาลัย เป็นล่าม ทำอาหารให้ประธานสหประชาชาติประจำประเทศเกาหลีกิน เต้นให้เด็กดูงานวันเด็ก ก่อสร้าง ถางหญ้า เข้าประชุมฟอรั่มกับปลัดกระทรวงต่างๆ  ออกชนบทบำเพ็ญประโยชน์  บลาๆๆ

            ที่ได้ทำมาทั้งหมดจากที่เป็นคนใช้ชีวิตไม่คิดอะไรก็เริ่มรู้ตัวว่าชอบ “ทำอาหาร”

จากที่ทำไม่เป็นแม้กระทั่งปลอกมะม่วงกินเอง พอตอนนี้เรียนจบแล้ว ก็เลยมีความฝันว่า

จะ “เปิดร้านอาหารเกาหลี”

            ตอนนี้ปี 2015 ใช่ไหมคะ? แผนนี้จริงๆมาก แม่ยังตกใจ ,เราได้ไปคุยกับแม่อย่างจริงจังว่า จะไม่ทำงานกับที่บ้าน เราอยากมีประสบการณ์เอง อยากจะใช้แรงบันดาลใจที่ได้มาจากการเป็นอาสาสมัครที่เกาหลีมาทำให้เป็นจริง โดยแม่เองก็เข้าใจ และรับปากว่าจะสนับสนุน (คือจะลงทุนเปิดร้านให้)

            ตอนนี้เราฝึกงานอยู่ร้านอาหารเกาหลีแห่งหนึ่ง มาได้เดือนที่ 6 แล้ว (ครบ 6เดือนในเดือนธันวาคมปี2015)   คือ เราเองก็ใจร้อนอยากเปิดร้านไวไว แต่สิ่งที่เป็นอาสาสมัครมาก็สอนให้เรารู้จักรอ และที่เราได้เปรียบคือ เรารู้ตัวว่าเราไม่มีประสบการณ์ และความรู้ทางด้านอาหารเกาหลีและ ด้านบริหารธุรกิจ ตอนนี้ก็เลยได้แต่ตั้งใจ ก็ปัจจุบันทำงานอยู่ในครัวนะคะ แล้วก็คอยเรียน คอยสังเกตุว่า เจ้าของร้าน ผู้จัดการร้าน เขามีวิธีจัดการ บริหารยังไง ก็เรียนรู้ไว้

            เหมือนตอนที่เราไปเป็นอาสาสมัครเริ่มจากพูดภาษาเกาหลีไม่ได้เลย แต่ค่อยเรียนรู้ไปเรื่อยๆนั่นเอง  ... ก็จริงๆรู้สึกขอบคุณกับการไปเป็นอาสาสมัครกับIYFมาก ที่ไม่ได้ให้แค่ไปต่างประเทศ แต่ให้แรงบันดาล ให้ความฝัน และเหมือนให้ชีวิตใหม่กับเรา 

            เราเองก็วางแผนว่า สักกลางปี 2016 จะเปิดร้านนะคะ แต่จะเป็นร้านแนวไหนต้องติดตาม  ส่วนใครที่ติดตามอ่านบทความที่หนิงเขียนอยู่ พอหนิงเปิดร้านก็มากินได้นะคะ มี(ส่วนลดให้นะคะ) 

               ใครจะไปรู้ว่าโครงการที่ให้เก็บเพียงแค่ แคมป์ให้ครบ 3 ครั้งจะเปลี่ยน อนาคตและ

ทัศคติของคนคนนึงได้ขนาดนี้ ยังไงอยากให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ที่กำลังตามหาความฝัน มาลองมีประสบการณ์

ครั้งหนึ่งกับ IYF ดู แล้วจะรู้ว่ามันไม่ได้เสียหลาย จริงๆ 

P.S. ตอนเรียนอยู่ปี 2 (2011) ตอนนั้นไล่เก็บ Workshop ให้ครบ 3 ครั้ง
เพื่อให้ได้ถูกคัดเลือกไปเป็นอาสาสมัครต่างประเทศตามเงื่อนไขที่
โครงการ IYF Good News Corps ตั้งไว้ 
ตอนนั้น ค่ายครั้งที่ 2 ราคา 4500 บาท ก็ค่อนข้างราคาสูงมาก
แต่ว่าพอไปปุ๊บก็เจอเพื่อนชาวต่างชาติที่มาเข้าร่วมค่ายนี้เยอะเหมือนกัน
ตอนนั้นประทับใจมาก แล้วในที่สุดก็เก็บค่ายครบ 3 ครั้งแล้วก็ไป
เป็นอาสาสมัครที่ประเทศเกาหลีใต้ 
แต่ว่าปีนี้โชคดีมากที่ IYF ฉลองครบ 10 ปี เงื่อนไขคือ
เข้าแคมป์ครั้งเดียวก็สามารถถูกคัดเลือกให้ไปเป็นอาสาสมัครได้
ใครที่สนใจอยู่อย่าพลาดนะคะ!!!

เข้าไปดูรายละเอียดการมาค่ายได้นะคะ

http://iyfthailand.com/2016-iyf-world-culture-camp/