คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : GNC13>มารู้จักกับ Workshop วิธีง่ายๆได้เป็นอาสา!
“ มารู้จักกับ Workshop วิธีง่ายๆได้เป็นอาสา! “
เข้าWorkshop 3 ครั้งพื่ออะไร??
ช่วงเก็บตัวเค้าทำอะไรกันบ้างนะ??
คำถามยอดฮิต ที่เราเองก็เคยสงสัยเหมือนกัน
I.W O R K S H O P
รับรองว่า W O R K!!
อย่างที่รู้ๆกันว่าการเป็นอาสาสมัครกับ IYF นั่นไม่มีการวัดระดับภาษา ไม่มีค่าเรียนพิเศษภาษาเพิ่ม
แต่เงื่อนไขง่ายๆก็คือ ผู้เขาร่วมโครงการจะต้องมีอายุระหว่าง 18-30ปี เเละต้องเข้าร่วม Workshop ให้ครบ 3 ครั้ง !!
เวิร์คช้อปส่วนใหญ่จะจัด 3 วัน 2 คืน
และจะจัดในช่วงวันเสาร์อาทิตย์หรือไม่ก็ช่วงวัดหยุด ปิดเทอมเดือนตุลา(สำหรับเวิร์คช้อป1)
ส่วนเวิร์คช้อป2ส่วนใหญ่จะจัดในเดือนมกราคม และ เวิร์คช้อป3จะจัดช่วงเดือนมีนาคม(ก่อนปิดเทอมฤดูร้อน)
จุดประสงค์ของเวิร์คช้อปจัดขึ้นเพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการทำความรู้จักกับโครงการมากขึ้น และได้ทราบรายละเอียดของโครงการมากขึ้น เพื่อให้รู้ว่าโครงการนี้มีตัวตนอยู่จริงๆ ส่วนทางโรงการเองก็อยากอยากจะรู้จักกับเราเหมือนกัน การเข้าเวิร์คช้อปจะทำให้เรารู้จักเพื่อนต่างมหาวิทยาลัยและทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนใหม่ๆ ผ่านการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น กิจกรรมทางด้านร่างกาย ก็จะมี Academy (สอนทำอาหารต่างประเทศ สอนแต่งหน้า สอนเต้นวัฒนธรรม สอนภาษา)เราเข้าAcademyไปเรียนภาษาตลอดเลย สนุกมาก
,การออกกำลังกายตอนเช้า,การตื่น6โมงเช้า และ Mind Training ฝึกหัดด้านจิตใจก็เป็นการนั่งฟังบรรยายเรื่องโลกของจิตใจ ใครฟังไม่ไหวก็หลับก็ได้ไม่ว่ากัน (อิอิ)
II. W O R K S H O P ทำอะไรบ้าง?
สิ่งแรกเลยคือทุกคนต้องตื่น 6 โมงเช้า (ถ้าบังคับให้ตัวเองตื่นไม่ได้ก็อย่าคิดจะเป็นอาสาเลยจ้ะ บ่องตง)
ตอนเป็นอาสาสมัครเวลาตื่นก็จะ ตื่น 6โมงเช้านี่เป็นเวลาจริงที่เราต้องตื่นเมื่อไปอยู่ที่ต่างประเทศ แรกๆตื่นลำบากหน่อยแต่หลังๆจะรู้ว่าการตื่นเช้ามันเยี่ยมมาก! ออกกำลังกายตอนเช้า เป็นการยืดเส้นยืดสายเบาๆไม่ถึงขึ้นวิดพื้น ซิทอัพ วิ่งจอกกิ้ง ไม่ตรากตรำถึงขนาดนั้นจ้ะ ก็เป็นการเต้นเพลงอย่างๆร่วมกัน จะมีพี่สต๊าฟนำเราเต้น ไม่ก็ยืดเส้นยืดสายง่ายๆ ไม่ได้เสียเหงื่ออะไรมากนัก (พอทนได้ๆ) กิจกรรมฟังMind Training เรียกภาษาไทยว่า การบรรยายเรื่องโลกของจิตใจ ผ่านทางพระคัมภีร์ จริงๆต้องมาฟังเองถึงจะรู้ บ่องตง เราเข้าworkshopแรกๆก็แอบหลับตอนฟังบรรยายนะ แต่ว่าพอหลังๆเราชอบช่วงนี้มากที่สุด เพราะจะให้ดูวิดีโอที่เราไม่เคยดูมาก่อน แปลกใหม่และได้ข้อคิดเยอะเลยทีเดียว การเข้าAcademy เป็นกิจกรรมสนุกๆให้ทำในค่าย ใครอยากเลือกเข้าอะคาเดมี่อะไรก็ได้แล้วแต่ความสนใจ ก็จะมีพวกศิลปะ(งานเพ้นท์ด้วนสีอะเคริค) สอนร้องเพลง(ภาษาต่างๆ) สอนเต้นวัฒนธรรม และอีกมากมาย และจะมีช่วงที่พี่ที่เคยไปเป็นอาสาสมัครมาก่อนจะมาเล่าประสบการณ์ให้ฟัง ใครมีคำถามอะไรถามได้เลย พี่เค้าตอบแบบทะลุทะลวงแจ่มแจ้งคลายความสงสัยได้เยอะ
เสน่ห์ของการเข้าWorkshopที่ IYF คือ เราจะสนิทกับเพื่อนใหม่ต่างสถาบันได้ง่ายมาก
(ถึงตอนนี้ก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่เลย) การพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องประเทศก็สามารถทำได้ที่เวิร์คช้อปแหละจ้า
III. W O R K S H O P เข้าไม่ครบ3ครั้ง จะได้ไปต่างประเทศไหม?
ก่อนอื่นเลยการเข้าเวิร์คช้อปก็เป็นการแสดงความสนใจและความกระตือรือร้นของเราอีกอย่างหนึ่ง
เราจะไปเป็นอาสาสมัครทั้งทีก็ควรจะเข้าเวิร์คช้อปให้ครบ3ครั้งเพื่อเป็นการแสดงว่าเราสนใจในโครงการนี้จริงๆ
เข้าไม่ครบ3ครั้งก็ไปต่างประเทศได้ แต่เราจะเสียผลผระโยชน์ในการทำความรู้จักกับโครงการและอาจจะพลาดกิจกรรมสนุกๆ หรือบางครั้งจะทำให้เราไม่สนิทกับเพื่อนที่เข้าโครงการกับเรา เข้าWORKSHOPไม่ครบ3ครั้งอย่างสุตวิสัยจริงๆ ติดธุระจริงๆ ทางโครงการก็ไม่ได้ใจร้ายจ้า ทางที่ดีควรเข้าWORKSHOPให้ครบนะจ๊ะถ้าไม่ติดอะไรจริงๆ
และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ” การเก็บตัว” ช่วงเก็บตัวสำคัญที่สุด มาWorkshopครบแต่ไม่เคยมาเก็บตัวเลย ขอบอกเลยว่า โอกาสไปต่างประเทศก็ “ยาก”
VI.เก็บตัว
ช่วงเก็บตัวเป็นช่วงที่สนุกที่สุดเลยก็ว่าได้ เราจะรู้ได้ตอนนี้ล่ะว่าใครจะไปใครจะไม่ไป เพราะการเก็บตัวจะรวบรวมคนที่ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการจริงๆมาไว้ด้วยกัน การเก็บตัวคือการมากิน นอน เต้น เรียนภาษา ทำเอกสารวีซ่า ที่มูลิธิฯ ซอยลาดพร้าว140 ช่วงเก็บตัวสำคัญมากเพราะจะเป็นช่วงที่มูลนิธิฯจะทำเอกสารวีซ่าให้เรา คนที่ยังไม่ได้ทำหนังสือเดินทางก็จะไปทำช่วงนี้ ไม่ต้องห่วงเรื่องที่กิน ที่อยู่ ที่นอน เพราะทางมูลนิธิจัดเตรียมไว้ให้เราครบทุกอย่าง อาหาร 3มื้อ ผ้าห่ม หมอน บลาๆๆ มีให้หมดจ้า ช่วงที่เก็บตัวพวกเราจะได้เรียนภาษา คนที่จะไปประเทศที่ใช้ภาษาอะไรก็ไปเข้าเรียนภาษานั้น พี่ๆสต๊าฟจะสอนให้ตั้งแต่พื้นฐานเลย ไม่เข้าใจอะไรก็ถามได้ทันที แถมยังมีอาสาสมัครชาวต่างชาติมาเป็นคนสอนภาษาให้เราอีกด้วย ไม่ต้องเสียเงินไปเรียนให้วุ่นวาย ,และกิจกรรมต่อมาก็จะเป็นการฝึกเต้น แน่นอนว่าอาสาสมัครทุกคนต้องเต้นได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องเต้นเก่งนะจ๊ะ เป็นการออกกำลังไปในตัว และฝึกการอดทนไปด้วย ช่วงเก็บตัวก็จะทยอยยื่นขอวีซ่าจากสถานฑูตต่างๆ สถานฑูตประเทศไหนตอบรับมาก่อนก็ได้สัมภาษณ์
วีซ่าก่อนและแน่นอนว่าเราไม่ต้องเสียเวลาไปยื่นเอกสารเอกเพราะทางมูลนิธิฯจะเป็นคนรับผิดชอบเรื่องเอกสารให้เราเอง ถามว่าช่วงเก็บตัวกลับบ้านได้ไหม? ก็กลับได้นะ แต่ต้องกลับให้ถูกช่วง มีประวัติศาสตร์สยองมาแล้ว มีคนโชคร้ายกลับบ้านตอนที่ทางสถานฑูตเชิญให้ไปสัมภาษณ์วีซ่าพอดี บอกได้คำเดียวว่าโชคร้ายสุดๆต้องมานับหนึ่งทำเอกสารกันใหม่ เพราะงั้นถ้ามาเก็บตัวจะต้องติดตามสิ่งที่มูลนิธิฯแนะนำ อย่างน้อยเขาก็มีประสบการณ์มากกว่าเราจริงไหม?
จะว่าไปช่วงเก็บตัวเป็นช่วงที่สนุกที่สุดนะ เพราะเราจะได้ทำกิจกรรมเยอะ แล้วบางทีก็พาไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วย ส่วนตอนที่เรา(รุ่น5)เก็บตัวนั้น เราได้ไปเที่ยวกัมพูชากับไอวายเอฟด้วย ตอนนั้นมีWorld Campที่ประเทศกัมพูชาพอดี เราก็เลยโชคดีได้ไปด้วย จำได้ว่ายกขโยงไปกันทั้งมูลนิธิ เพื่อนๆที่มาเก็บตัวก็ได้ไปกันทั้งหมด ขอบอกว่าสนุกมาก อยากกลับไปเที่ยวอีก หุๆ
ไม่ต้องสอบวัดระดับหรือสอบคัดเลือกแต่เข้าWORKSHOP ก็ทำให้เพื่อนๆได้เป็นอาสาแล้วจ้า
ถ้าเพื่อนคนไหนสงสัยอะไรสามารถแอดไลน์มาหาเราได้นะ ไม่ต้องเกรงใจ
คนเราต้องประสบด้วยตัวเองเท่านั้นถึงจะรู้
ถ้าคุณไม่เคยทานพิซซ่า คุณจะรู้รสชาติของมันได้ยังไง?
ถ้าไม่เคยทำความรู้จักกับIYF
แล้วคุณจะเข้าใจ IYF ได้ยังไง ???
Line:summerlyng
ถ่ายที่หน้าโรงเเรมตอนไป IYF World Campที่กัมพูชาช่วงเก็บตัวรุ่น5
กับ อุ้ม (อเมริกา) อิ๊ว(ญี่ปุ่น) เดียร์(เกาหลี) และหนิง(เกาหลี)
เก็บตัวด้วยกันไม่ถึงเดือนก็มาโหนตุ๊กๆเสี่ยงตายด้วยกันเเล้ว
(ความจริงพวกเราสนิทกันตั้งเเต่Workshop)
เเม้จะต่างมหาลัยเเต่ก็สนิทกันมาก
ผ่านทางการเข้าworkshopและเข้าร่วมเก็บตัว
ความคิดเห็น