คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : GNC5>อิ่มจังตังค์อยู่ครบ (+ตะลุยชิมอาหารเกาหลี)
GNC>5 อิ่มจังตังค์อยู่ครบ
5번제 …한국음식먹자!(ชิมอาหารเกาหลีกันหน่อย!)
ชีวิตอาสาสมัครแบบนี้จะพกเงินก็เป็น “เรื่องแปลก” ตอนที่ตัดสินใจจะไปเป็นอาสาสมัครที่ประเทศเกาหลีจำได้ว่าตอนนั้นพี่ที่มูลนิธิบอกว่า หนิงจ่ายแค่ค่าวีซ่ากับค่าตั๋วเครื่องบินเป็นพอ นอกนั้นค่ากิน ค่าเป็นอยู่ ค่ารถ และทุกสิ่งอย่างที่ต้องใช้เงินนั้นหนิงไม่ต้องรับผิดชอบและรวมไปถึงเรื่องเสื้อผ้าก็ไม่ต้องเป็นกังวล
ตอนแรกได้ยินก็รู้สึกโหยยย!แล้วอ้วนๆอย่างฉันจะกินอิ่มนอนหลับไหมเนี่ย ถ้าเกิดหิวขึ้นมาล่ะจะว่ายังไง?? มันก็กังวลเรื่องนี้เรื่อยๆจนในที่สุดไปเกาหลีก็พกเงินติดตัวไป1พันบาทเท่านั้น
ขึ้นชื่อว่าอาสาสมัครนั้นก็ต้องใช้ชีวิตแบบอาสาสมัครจริงๆ แล้วพอมาถึงเกาหลีนะไอ้เรื่องที่กังวลน่ะ หายแว๊บไปกับตา เพราะมีแต่คนนั้น คนนี้ซื้อของให้กิน ไม่ว่าจะเป็นไอติม ขนม น้ำอัดลม ข้าว โอ๊ยย สารพัด ขอแอบกระซิบว่าเพื่อนเราที่ไปเป็นอาสาสมัครที่อเมริกาน้ำหนักขึ้นมาเกือบ14กิโลกรัม(เห็นไหมล่ะจะอดตายได้ไง?)
ตอนเราใช้ชีวิตอยู่ที่ไทยใช้ไหมจะกินจะอยู่ยังไงก็ได้แต่พอมาอยู่ที่นี่ เข้าร่วมโครงการ ก็ต้องทิ้งความเป็นตัวเองอ่ะนะ
เข้าเรื่องดีกว่าตอนอยู่ที่เกาหลีเราก็จะมีงานอาสาสมัครเข้ามาใช่ไหม …ก็จะมีได้ไปตามมหาวิทยาลัยต่างๆด้วย เพราะฉะนั้นรุ่นพี่ที่เขาดูแลเราก็จะรับผิดชอบค่าอาหารกลางวันให้เราอย่างเต็มใจ
อาหารเกาหลีที่หนิงชอบที่สุดก็คือ “จาจังมยอน”หรือว่า บะหมี่ดำนั่นเองซึ่งดูตอนแรกก็ไม่ค่อยน่ากินใช่ไหม? แต่พอกินเข้าไปแล้วล่ะก็หึหึ!ทั้งอร่อย ทั้งสนุก ทั้งเหนื่อย เพราะว่าอาหารเกาหลีจะเป็นพวกแป้ง พวกผักเพราะฉะนั้นคนไทยอย่างเราๆก็ไม่ค่อยชินเท่าไร
จาจังมยอนเส้นยาวมากถึงขนาดก่อนกินต้องใช้กรรไกรตัดอาหารตัดเลยล่ะ ไม่งั้นนะ ยืดเท่าไรก็กินเข้าไปไม่หมดเสียที ขอบปากก็จะดำสุดยอดไปเลยเพราะซอสที่ราดจนล้น ซึ่งตัวซอสนั่นจะทำมาจาก ถั่วดำ นะจ๊ะ ซึ่งจาจังมยอนเนี่ยเป็นอาหารจีนนะ แต่คนเกาหลีเอามาทำกินจนเป็นอาหารที่คนเกาหลีโปรดปรานและกลายเป็นเอกลักษณ์ของเขาไปแล้ว
อาหารเกาหลีหนิงชิมมาหมดแล้วแทบจะทุกอย่าง โดยมันจะเริ่มต้นที่1,000วอน หรือเทียบง่ายๆคือ30บาท ซึ่ง1,000วอนนั้น จะซื้อ รามยอนถ้วย นม คิมบับ(ข้าวห่อสาหร่าย) น้ำอัดลมเช่น โค้ก ไซด้า(สไปซ์เกาหลี)ได้ ส่วนอาหารที่เป็นชามนั้นราคาก็จะแตกต่างกันไป เช่น จาจังมยอนที่ขายในมหาวิทยาลัยก็จะราคาประมาณ2,500วอน จาจังมยอนก็เป็นอาหารยอดฮิตนะเพราะราคาถูกแล้วก็อิ่มหนักด้วย
แต่ที่กล่าวมานี้ ทั้งหมดทั้งมวลหนิงไม่เคยจ่ายเลยจ้า เพราะว่าคนที่เขาอยู่รอบข้างเราเขาจะรู้ว่าเรามาเป็นอาสาสมัครซึ่งพวกเพื่อนที่หนิงอยู่ด้วยเขาก็จะไปโครงการนี้มาแล้วทั้งนั้นจึงเข้าใจหัวอกอาสาสมัครดี พวกเขาก็จะแสดงน้ำใจโดยการเลี้ยงอาหารเรา ซึ่งเลี้ยงดีประดุจลูกหลานญาติมิตรเลยทีเดียว
เวลาไปที่โฮม สเตย์ใช่ไหม เขาก็จะดูแลเราดีมาก ลูกเขากินอะไร เขาก็ซื้อให้เรากินด้วย ลูกเขาเล่นหรือร่วมกิจกรรมอะไรก็จะให้เราได้มีส่วนร่วมด้วย ตอนนั้นหนิงและเพื่อนๆอาสาสมัครไปพักที่บ้านของป้าและลุงซึ่งมีลูกสาว2ลูกชาย1 พอตอนกลางคืนพวกเราขับรถกลับบ้าน ก็จะแวะร้านสะดวกซื้อแล้วก็ไปขนซื้อไอศครีมถุงใหญ่มาแจกคนละแท่ง แถมกลับบ้านยังต้มรามยอนกินกันอีก ช่วงนั้นแม้จะออกกำลังกายทุกวันแต่ทุกคนกลับน้ำหนักขึ้นจนต้องส่ายหัว
การตะลุยกินอิ่มจังตังค์อยู่ครบนั้น พวกเรากินด้วยความขอบคุณ อาหารทุกมื้อเราจะกินด้วยความยินดี เพราะว่าพวกคนเกาหลีที่อยู่รอบข้างเรานั้นเขามักจะบอกว่าทุกอย่างที่ทำนั้นทำด้วยใจทั้งหมด เพราะฉะนั้นเวลาเรารับอะไรมาก็จะรู้สึกว่าขอบคุณกับน้ำใจของเขามากๆ ซึ่งมันต่างจากอาหารที่เราซื้อเองเป็นไหนๆ เพราะว่าเป็นเงินของเราใช่ไหม ก็กินแบบไม่เคยรู้สึกขอบคุณอะไร
แต่ว่าอาหารที่มาจากใจของพวกเขานั้น ทุกคำๆมีความหมายและมันสอนให้
หนิงรู้จักถึงจิตใจของคนอื่นมากขึ้น การกินอาหารฟรีมันสอนอะไรหนิงหลายๆอย่างนะ อาหารที่รับมาด้วยความรักนั้นอร่อยกว่าอาหารที่เราใช้เงินตัวเองซื้อเป็นไหนๆ
หนิงไม่ได้หมายความว่าหนิงไม่อยากจ่ายนะ แต่ว่าเวลาที่เราอยู่ในฐานะผู้รับนั้นเราย่อมมีใจที่ถ่อมตน แล้วก็รู้สึกขอบคุณได้กับทุกๆสิ่งที่พวกเขาให้มาได้เสมอ
ไม่เพียงแต่อิ่มท้องแต่อิ่มใจด้วยจ้า!!
เราจะมาปิดท้ายด้วยภาพ…..อิอิ
คำเตือน:ระวังหิว!
ใครไปเป็นอาสาที่ประเทศไหนอาหารก็จะแตกต่างกันไปแต่ที่เหมือนกันก็คืออิ่มจนพุงจะแตก แถมน้ำหนักขึ้นกันพรวดพราด ขนาดหนิงกับเพื่อนนอนแล้วยังเคาะประตูมาให้กินพิซซ่ากับไก่ทอดบ่อยมาก เรียกได้ว่า ไอศกรีม รามยอน นม ขนม น้ำอัดนั้นพวกเรากินมาหมดแล้วเกือบจะทุกยี่ห้อทุกรสอ่ะ คิดดู!
อยากให้ทุกคนมีประสบการณ์อิ่มจังตังค์อยู่ครบแบบนี้บ้างจัง คริคริ
ความคิดเห็น