คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : GNC3>งานอาสาครั้งแรกกับค่ายนักเรียนฤดูร้อน(+สอนคำศัพย์)
GNC3
3번제 …여름학생갬프 (ค่ายนักเรียนประจำฤดูร้อน)
งานอาสาสมัครงานแรกที่ได้ทำก็คือ เป็นอาสาสมัครในค่ายนักเรียน ซึ่งจะเป็นการรวบรวมนักเรียนจากทั่วประเทศมารวมตัวกันแล้วทำกิจกรรมร่วมกันจ้า ทีแรกก็ไม่เข้าใจว่ามากับ IYFดีไหม มากับIYFแล้วจะต้องทำอะไรบ้าง ตอนนี้รู้เลย อิอิ ผู้ดูแลพาเรามาที่โรงเรียนมัธยมปลาย “Lincoln House”ประจำเมืองพูซาน อารมณ์จะคล้ายๆพวกอัสสัมชัญ อะไรทำนองนั้นน่ะจ้า ค่ายนักเรียนจะจัดขึ้นทุกฤดูค่ะ ตอนนี้หนิงมาก็ฤดูร้อนพอดีเลย
มาถึงที่นี่เด็กๆจากทั่วประเทศที่เขารับสมัครเข้ามาก็ได้มารวมตัวกันแล้ว ครั้งนี้ได้ดูแลเด็กมัธยมต้น ซึ่งเป็นเด็กผู้หญิงทั้งหมด น่าตาก็จะคล้ายๆกันซะด้วย แหะๆ จำชื่อผิดจำชื่อถูก พูดผิดพูดถูกแต่เด็กๆก็พยายามจะสื่อสารกับเรา ไม่ว่าจะด้วยภาษามือ ภาษาอังกฤษ หรือจะเป็นวาดรูปให้ดู เขาทำทุกอย่างเพื่อจะให้หนิงเข้าใจ ถึงแม้จะมีอุปสรรคเรื่องภาษาแต่มันรู้สึกว่าอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
ค่ายนักเรียนฤดูร้อนพิเศษมากตรงที่สามวันสุดท้ายเขาจะให้เราไปHOME STAYอีกแล้ว กับครอบครัวที่เขาติดต่อไว้ โดยไม่ได้มาพักเปล่าๆนะเพราะว่า เขาจะให้ภารกิจกับพวกเรามาก็คือ ในช่วงโฮมสเตย์ เด็กๆจะต้องเตรียมการแสดง1ชุดเพื่อวันสุดท้ายที่จะกลับไปรวมตัวกันอีกครั้งหนึ่งนั้น พวกเขาจะทำการออดิชั่นเพื่อคัดเลือกว่าเด็กๆกลุ่มไหนจะได้ขึ้นไปแสดงบนเวที
พอมาถึงที่พักปุ๊บๆ เด็กๆก็จะจัดวางกระเป๋าเป็นอย่างดีแล้วก็รวมตัวกันคุยเรื่องงานซึ่งเด็กเกาหลีเขาจะต่างจากเด็กไทยตรงที่เขาค่อนข้างเอาจริงเอาจังนะ ถึงจะดูเป็นเด็กเกเรแต่เขาจะมีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รัยมอบหมายสูงมาก มาก มาก มาก มากกว่าหนิงอ่ะ!
ดึกแล้วแต่พวกเด็กๆก็ยังเตรียมการแสดงด้วยกัน แล้วก็เขียนจดหมายRolling เพื่อพูดถึงความรู้สึกที่มีต่อเพื่อนๆหลังที่ได้ร่วมค่ายกัน ทุกๆคนก็จะตั้งใจกันมาก เวลาผ่านไปสุดท้ายก็ได้ข้อตกลงว่าพวกเขาจะเต้นกัน เด็กแยกกันเข้านอนส่วนพวกอาสาสมัครก็จะได้ไปอยู่อีกบ้านนึง ซึ่งพวกเรา9คนถูกแยกกันไปตามแต่ละบ้าน
หนิงได้มาอยู่ที่บ้านของพี่จียอนซึ่งเคยไปเป็นอาสาสมัครที่ประเทศจีนมาแล้ว พ่อแม่คนใหม่ อิอิ ของเราพาเราสาม พี่ส้ม น้องแคร์และหนิง คนขับรถมาที่อาพาร์ตเม้นบรรยากาศอบอุ่น อิฐสีเข้มด้านนอกช่างให้บรรยากาศของเมืองนอกเสียจริงๆ พ่อกับแม่(ของพี่จียอน) พาเราขึ้นมาที่ชั้นสามของอาพาร์ตเม้น แล้วก็พาเราไปที่ห้องที่เขาเตรียมที่นอนไว้ให้เราอย่างดี
อาพาร์ตเม้นของเกาหลีนั้น 1ชั้นจะมีเพียงสองห้องเท่านั้น ด้านในก็จะต่างกันไปตามดีไซน์หรือราคา ส่วนบ้านของพี่จียอนจะมีห้องนอน3ห้อง ห้องน้ำ2ห้อง ห้องรับแขกและเคาน์เตอร์ห้องครัวสีแดงสดใสเชื่อมกับห้องรับแขกไว้ ตู้เย็นขนาดใหญ่โตโอฬาร นั้นเต็มไปด้วยขนม ของกินที่พ่อกับแม่ชั่วคราวนั้นเตรียมไว้ให้เรา
คืนนั้นถึงแม้จะเพลียจากการเดินทางและการเข้าร่วมกิจกรรมกับเด็กๆ แต่ว่าพ่อกับแม่ชวนพวกเราดูซีรี่ย์รอบดึกซึ่งเป็นเรื่องที่โปรดปรานกันในหมู่แม่บ้านมากๆ พวกเราคุยกันเรื่องครอบครัว แล้วก็เรื่องประเทศไทย ซึ่งแม่กับพ่อของพี่จียอนเขาก็สนใจประเทศไทยมาก
แม่ถามว่า ”ทำไมพวกเธอ3คนถึงได้หน้าตาไม่เหมือนกันเลย?” คือจริงๆแล้วคนเกาหลีเนี่ยเขาจะแต่งตัวคล้ายๆกัน ทำผมทรงเดียวกัน แบบประมาณว่าเห็นเด็กม.ปลาย เดินมา10คน พวกเขาจะไว้ผมยาว ตัดหน้าม้า ใส่แว่นตา ตัวขาวๆ ตาตี่ๆ เหมือนกันซึ่งถ้าให้จำชื่อก็อาจจะเรียกผิดเรียกถูกเพราะว่าแยกไม่ออกว่าใครเป็น
แต่เด็กไทยนั้น ผิวไม่เหมือนกัน บางคนขาว บางคนแทน บางคนคล้ำ ทำเอาแม่ งง ทั้งทรงผม สีผม รูปร่างหน้าตา อีกอย่างบางคนตาโต ตาตี่ มันไม่มีอะไรเหมือนกันสักอย่าง พวกเรา9คนที่ไปประจำประเทศเกาหลีเลยถูกทักว่าเป็นชาติอื่นบ่อยๆ
หนักสุดเห็นจะเป็นพี่โต้ง ที่ถูกทักว่าเป็นคนแอฟริกัน! บางคนถูกทักว่าเป็นคนญี่ปุ่นบ้าง พม่าบ้าง อินเดียบ้าง ส่วนหนิงถูกทักว่าเป็นอินเดีย นี่ยังพอให้อภัยนะ เพราะบางคนมันทักว่า “นี่เป็นผู้ชายแล้วมาเข้าห้องผู้หญิงได้ยังไง?!” อื้มมมมม …
ตอนเช้าพวกเราตื่นขึ้นมาก็พบว่าแม่ได้เตรียมอาหารเช้าไว้ให้เราเรียบร้อยแล้ว นี่แหละ สิ่งที่ผู้หญิงเกาหลีโดดเด่นมากเพราะพวกเราจะมีความเป็นแม่บ้านสูง เป็นผู้หญิงที่ทำหน้าที่ของผู้หญิงได้ดีมากง่ะ อาหารบนโต๊ะถูกเตรียมไว้ด้วยข้าวเปล่าคนละถ้วยและกับข้าวอีก10กว่าอย่าง เห็นแล้วแบบ (O[]O!!) ”กินให้หมดนะจ๊ะเด็กๆ” (เอ่อ แม่คะ?)
ก่อนรับประทานอาหารนั้นคนเกาหลีจะพูดว่า “잘 먹겠습니다!”(ชัล มอกเก็ตซึมนีดา) แปลว่า “จะ(ดีๆ)กินแล้วนะคะ” พวกเราสามคนพูดพร้อมกันส่วนแม่ก็ยิ้มหน้าบานกับสำเนียงกระเหรี่ยงของพวกเรา แต่เขาชอบนะที่เราทำตามวัฒนธรรมง่ะ กินไปยิ้มไปแหม!ชอบคนไทยล่ะสิ รู้นะ
กินกันให้อิ่มแปล้ไปคนละข้างและสุดท้ายก็พูดพร้อมกันว่า “ 잘 먹었습니다”
(ชัล มอกก็อต ซึมนีดา) “ทานเสร็จแล้วค่ะ” พวกเราออกจากอาพาร์ตเม้นแต่เช้าแล้วก็ไปหาพวกเด็กๆที่พอมาก็เห็นพวกเขาซ้อมเต้นกันอย่างตั้งใจแล้ว
ความตั้งใจ มุ่งมั่น ก็เป็นอีกอย่างนึงที่หนิงได้กลับมาจากเกาหลีนะ เพราะว่านี่เหมือนกันเป็นจุดเด่นของพวกนักเรียนบ้านเขาด้วยมั้ง เวลาได้รับงานที่ได้รับมอบหมายก็จะทำอย่างตั้งใจและสามัคคีกัน(มาก)
พวกเราอาสาสมัครมีหน้าที่ดูแลเด็กๆพูดคุยกับเด็กๆ แล้วก็ให้คำปรึกษารวมทั้งช่วยเหลือคุณครูประจำกลุ่มซึ่งบางทีก็ดูแลเด็กๆไม่ไหว หนิงสอนภาษาไทยให้เด็กๆไปสักพักก็จะได้ยินเสียงท่องแปลกๆดังหนวกหูไปหมด
“นัง อืออัก น่อย มี ชัน บุน มี ชัน ลัง มี ชันนา มีชันลัง มีพมๆ กัน”
กร๊ากกกกกกกกก !!เด็กๆหัวไวอยู่นะ แต่สำเนียงนี่สิ ทำเอาตกใจจ้า หัวเราะน้ำตาเล็ดง่ะ สนุกมากเวลาได้ฟังคนเกาหลีพูดภาษาไทย บางทีก็กลับมาคิดนะ ว่าตอนที่เราพูดภาษาเกาหลีเขาจะตลกสำเนียงเราบ้างหรือเปล่า หึหึ
ตอนกลางคืนพ่อกับแม่รับพวกเราสามคนกลับไปอาพาร์ตเม้น ระหว่างทางเขาก็ถามว่าอยากจะกินอะไรดี ซึ่งตอนนั้นหนิงก็ไม่ได้สนใจเพราะมัวแต่อ่านป้ายข้างทางแล้วไปสะดุดกับป้ายเหลืองๆเขียนว่า “시킨” อะไรคือ ชี คิน วะ? “ชี คิน ” พอพูดเสร็จ พ่อก็บอกว่า “อยากกินหรอ?” ด้วยความที่เขาถามอะไรมาก็ไม่รู้เรื่องแต่ก็ตอบ “네(ค่ะ)” เอาไว้ก่อน สุดท้ายมารู้ว่า ไอ้ชีคินเนี่ย คือ ชิกเก้น ที่แปลว่าไก่ ง่ะ คืนนั้นพ่อกับแม่เลยสั่งไก่ทอดแล้วก็พิซซ่ามาให้พวกเรากิน อิอิ(ฟลุ๊คไหมล่ะ คิคิ) อยากบอกไว้ก่อนว่าไก่ทอดที่เกาหลีเนี่ย อร่อยมากกกกกกกกกกกก
ไก่ทอดของเกาหลีจะเป็นไก่ทอดกรอบนอกนุ่มในที่ราดด้วยน้ำจิ้มรสเผ็ดหวานซึ่งเป็นที่นิยมมาก พอสังเกตดีดีก็จะเห็นร้านไก่ทอดจะเยอะมากแล้วจะมีบริการส่งถึงที่ด้วย ไก่ทอดที่Super Junior เป็นพรีเซ็นเตอร์ก็ดังนะ Kyochon หึๆ กินไปมองหน้าโอปป้าที่ติดอยู่ข้างกล่องไปเป็นไรที่ชื่นมื่นสวดๆ อยากกินไก่SJฟรีไหมล่ะ?
สรุปค่ายนักเรียนนั้นก็จบลงด้วยที่ว่ากลุ่มของหนิงได้รับการคัดเลือกให้ขึ้นแสดงบนเวทีแล้วก็ต่อด้วยการไปเที่ยวสวนสาธารณะพายเรือด้วยกันแล้วก็ถ่ายรูป เลี้ยงข้าวกันจ้า แล้วที่นั่นหนิงก็ได้เจอกันเพื่อนใหม่ ชื่อว่า ลีอายอง ซึ่งอายุเท่ากันแล้วก็พูดภาษาอังกฤษได้ จนกระทั่งตอนนี้หนิงกลับมาได้4เดือนแล้ว พวกเราก็ยังติดต่อแล้วก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่จ้า
บอกแล้วว่า นอกจากจะได้เป็นอาสาแล้ว มันยังได้อะไรมากกว่าที่คิด ช่วงนั้นก็จะค่อยๆเรียนภาษาเกาหลี แล้วก็เรียนรู้วัฒนธรรมเกาหลีไปด้วย เริ่มจากทักทายเป็นแล้วก็บอกความต้องการพอได้ ซึ่งก็ได้เห็นพัฒนาการของตัวเองด้วย แล้วก็ได้รู้จักจิตใจของคนเกาหลีมากขึ้นด้วย เรื่องของใจก็สำคัญเหมือนกันแฮะ
อยากกินไก่SJฟรีไหมล่ะ? อิอิ
ถ่ายกับแม่พี่จียอน
อาสาสมัครดี กินฟรีตลอดงาน อิอิ
ไปทำภารกิจปีนเขาด้านหลังมหาวิทยาลัย พูซาน
ถ่ายรูปรวมกับกลุ่ม
“เรียนภาษาเกาหลีจากค่ายนักเรียน”
한국어(เกาหลี) |
읽기 (การอ่าน) |
태국어(ไทย) |
학생 |
ฮักแซง |
นักเรียน |
학교 |
ฮัก กโย |
โรงเรียน |
선생님 |
ซอนแซงนิม |
ครู |
대학교 |
แท ฮัก กโย |
โรงเรียน |
대학생 |
แทฮักแซง |
มหาวิทยาลัย |
갬프 |
แค๊ม ผึ |
ค่าย,Camp |
민박 |
มินบัก |
Home stay |
시킨 |
ชิ คิน |
ไก่ |
피자 |
พิ จา |
พิซซ่า |
피부 |
พิ บู |
ผิว |
안경 |
อัน กยอง |
แว่นตา |
먹다 |
มอกดะ |
กิน |
아파트 |
อาพาทึ |
อาพาร์ตเมนท์ |
집 |
ชิบ |
บ้าน |
열심하다 |
ยอล ชิม ฮา ดะ |
ขยัน,ตั้งใจ |
댄스하다 |
แดน ซึ ฮาดะ |
เต้น |
공원 |
คงวอน |
สวนสาธารณะ |
발음 |
พา รึม |
การออกเสียง |
문화 |
มุน ฮวา |
วัฒนธรรม |
여름 |
ยอรึม |
ฤดูร้อน |
To be continue
ความคิดเห็น