ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My GNC's Diary__สดใสจริงๆชีวิตอาสาสมัครIYF__(เอลฟ์ไทยไปเกาหลี)

    ลำดับตอนที่ #3 : GNC3>งานอาสาครั้งแรกกับค่ายนักเรียนฤดูร้อน(+สอนคำศัพย์)

    • อัปเดตล่าสุด 13 ก.พ. 56


    GNC3

    3번제 여름학생갬프 (ค่ายนักเรียนประจำฤดูร้อน)

     

              งานอาสาสมัครงานแรกที่ได้ทำก็คือ เป็นอาสาสมัครในค่ายนักเรียน ซึ่งจะเป็นการรวบรวมนักเรียนจากทั่วประเทศมารวมตัวกันแล้วทำกิจกรรมร่วมกันจ้า ทีแรกก็ไม่เข้าใจว่ามากับ IYFดีไหม มากับIYFแล้วจะต้องทำอะไรบ้าง ตอนนี้รู้เลย อิอิ ผู้ดูแลพาเรามาที่โรงเรียนมัธยมปลาย “Lincoln House”ประจำเมืองพูซาน อารมณ์จะคล้ายๆพวกอัสสัมชัญ อะไรทำนองนั้นน่ะจ้า ค่ายนักเรียนจะจัดขึ้นทุกฤดูค่ะ ตอนนี้หนิงมาก็ฤดูร้อนพอดีเลย

    มาถึงที่นี่เด็กๆจากทั่วประเทศที่เขารับสมัครเข้ามาก็ได้มารวมตัวกันแล้ว ครั้งนี้ได้ดูแลเด็กมัธยมต้น ซึ่งเป็นเด็กผู้หญิงทั้งหมด น่าตาก็จะคล้ายๆกันซะด้วย แหะๆ จำชื่อผิดจำชื่อถูก พูดผิดพูดถูกแต่เด็กๆก็พยายามจะสื่อสารกับเรา ไม่ว่าจะด้วยภาษามือ ภาษาอังกฤษ หรือจะเป็นวาดรูปให้ดู เขาทำทุกอย่างเพื่อจะให้หนิงเข้าใจ ถึงแม้จะมีอุปสรรคเรื่องภาษาแต่มันรู้สึกว่าอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก

    ค่ายนักเรียนฤดูร้อนพิเศษมากตรงที่สามวันสุดท้ายเขาจะให้เราไปHOME STAYอีกแล้ว กับครอบครัวที่เขาติดต่อไว้ โดยไม่ได้มาพักเปล่าๆนะเพราะว่า เขาจะให้ภารกิจกับพวกเรามาก็คือ ในช่วงโฮมสเตย์ เด็กๆจะต้องเตรียมการแสดง1ชุดเพื่อวันสุดท้ายที่จะกลับไปรวมตัวกันอีกครั้งหนึ่งนั้น พวกเขาจะทำการออดิชั่นเพื่อคัดเลือกว่าเด็กๆกลุ่มไหนจะได้ขึ้นไปแสดงบนเวที

    พอมาถึงที่พักปุ๊บๆ เด็กๆก็จะจัดวางกระเป๋าเป็นอย่างดีแล้วก็รวมตัวกันคุยเรื่องงานซึ่งเด็กเกาหลีเขาจะต่างจากเด็กไทยตรงที่เขาค่อนข้างเอาจริงเอาจังนะ ถึงจะดูเป็นเด็กเกเรแต่เขาจะมีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รัยมอบหมายสูงมาก มาก มาก มาก มากกว่าหนิงอ่ะ!

    ดึกแล้วแต่พวกเด็กๆก็ยังเตรียมการแสดงด้วยกัน แล้วก็เขียนจดหมายRolling เพื่อพูดถึงความรู้สึกที่มีต่อเพื่อนๆหลังที่ได้ร่วมค่ายกัน ทุกๆคนก็จะตั้งใจกันมาก เวลาผ่านไปสุดท้ายก็ได้ข้อตกลงว่าพวกเขาจะเต้นกัน เด็กแยกกันเข้านอนส่วนพวกอาสาสมัครก็จะได้ไปอยู่อีกบ้านนึง ซึ่งพวกเรา9คนถูกแยกกันไปตามแต่ละบ้าน

    หนิงได้มาอยู่ที่บ้านของพี่จียอนซึ่งเคยไปเป็นอาสาสมัครที่ประเทศจีนมาแล้ว พ่อแม่คนใหม่ อิอิ ของเราพาเราสาม พี่ส้ม น้องแคร์และหนิง คนขับรถมาที่อาพาร์ตเม้นบรรยากาศอบอุ่น อิฐสีเข้มด้านนอกช่างให้บรรยากาศของเมืองนอกเสียจริงๆ พ่อกับแม่(ของพี่จียอน) พาเราขึ้นมาที่ชั้นสามของอาพาร์ตเม้น แล้วก็พาเราไปที่ห้องที่เขาเตรียมที่นอนไว้ให้เราอย่างดี

    อาพาร์ตเม้นของเกาหลีนั้น 1ชั้นจะมีเพียงสองห้องเท่านั้น ด้านในก็จะต่างกันไปตามดีไซน์หรือราคา ส่วนบ้านของพี่จียอนจะมีห้องนอน3ห้อง ห้องน้ำ2ห้อง ห้องรับแขกและเคาน์เตอร์ห้องครัวสีแดงสดใสเชื่อมกับห้องรับแขกไว้ ตู้เย็นขนาดใหญ่โตโอฬาร นั้นเต็มไปด้วยขนม ของกินที่พ่อกับแม่ชั่วคราวนั้นเตรียมไว้ให้เรา

    คืนนั้นถึงแม้จะเพลียจากการเดินทางและการเข้าร่วมกิจกรรมกับเด็กๆ แต่ว่าพ่อกับแม่ชวนพวกเราดูซีรี่ย์รอบดึกซึ่งเป็นเรื่องที่โปรดปรานกันในหมู่แม่บ้านมากๆ พวกเราคุยกันเรื่องครอบครัว แล้วก็เรื่องประเทศไทย ซึ่งแม่กับพ่อของพี่จียอนเขาก็สนใจประเทศไทยมาก

    แม่ถามว่า ”ทำไมพวกเธอ3คนถึงได้หน้าตาไม่เหมือนกันเลย?” คือจริงๆแล้วคนเกาหลีเนี่ยเขาจะแต่งตัวคล้ายๆกัน ทำผมทรงเดียวกัน แบบประมาณว่าเห็นเด็กม.ปลาย เดินมา10คน พวกเขาจะไว้ผมยาว ตัดหน้าม้า ใส่แว่นตา ตัวขาวๆ ตาตี่ๆ เหมือนกันซึ่งถ้าให้จำชื่อก็อาจจะเรียกผิดเรียกถูกเพราะว่าแยกไม่ออกว่าใครเป็น

    แต่เด็กไทยนั้น ผิวไม่เหมือนกัน บางคนขาว บางคนแทน บางคนคล้ำ ทำเอาแม่ งง ทั้งทรงผม สีผม รูปร่างหน้าตา อีกอย่างบางคนตาโต ตาตี่ มันไม่มีอะไรเหมือนกันสักอย่าง พวกเรา9คนที่ไปประจำประเทศเกาหลีเลยถูกทักว่าเป็นชาติอื่นบ่อยๆ

    หนักสุดเห็นจะเป็นพี่โต้ง ที่ถูกทักว่าเป็นคนแอฟริกัน! บางคนถูกทักว่าเป็นคนญี่ปุ่นบ้าง พม่าบ้าง อินเดียบ้าง ส่วนหนิงถูกทักว่าเป็นอินเดีย นี่ยังพอให้อภัยนะ เพราะบางคนมันทักว่า “นี่เป็นผู้ชายแล้วมาเข้าห้องผู้หญิงได้ยังไง?!” อื้มมมมม

    ตอนเช้าพวกเราตื่นขึ้นมาก็พบว่าแม่ได้เตรียมอาหารเช้าไว้ให้เราเรียบร้อยแล้ว นี่แหละ สิ่งที่ผู้หญิงเกาหลีโดดเด่นมากเพราะพวกเราจะมีความเป็นแม่บ้านสูง เป็นผู้หญิงที่ทำหน้าที่ของผู้หญิงได้ดีมากง่ะ อาหารบนโต๊ะถูกเตรียมไว้ด้วยข้าวเปล่าคนละถ้วยและกับข้าวอีก10กว่าอย่าง เห็นแล้วแบบ (O[]O!!)   ”กินให้หมดนะจ๊ะเด็กๆ” (เอ่อ แม่คะ?)

    ก่อนรับประทานอาหารนั้นคนเกาหลีจะพูดว่า 먹겠습니다!”(ชัล มอกเก็ตซึมนีดา) แปลว่า “จะ(ดีๆ)กินแล้วนะคะ” พวกเราสามคนพูดพร้อมกันส่วนแม่ก็ยิ้มหน้าบานกับสำเนียงกระเหรี่ยงของพวกเรา แต่เขาชอบนะที่เราทำตามวัฒนธรรมง่ะ กินไปยิ้มไปแหม!ชอบคนไทยล่ะสิ รู้นะ

    กินกันให้อิ่มแปล้ไปคนละข้างและสุดท้ายก็พูดพร้อมกันว่า 먹었습니다
    (ชัล มอกก็อต ซึมนีดา) “ทานเสร็จแล้วค่ะ”  พวกเราออกจากอาพาร์ตเม้นแต่เช้าแล้วก็ไปหาพวกเด็กๆที่พอมาก็เห็นพวกเขาซ้อมเต้นกันอย่างตั้งใจแล้ว

    ความตั้งใจ มุ่งมั่น ก็เป็นอีกอย่างนึงที่หนิงได้กลับมาจากเกาหลีนะ เพราะว่านี่เหมือนกันเป็นจุดเด่นของพวกนักเรียนบ้านเขาด้วยมั้ง เวลาได้รับงานที่ได้รับมอบหมายก็จะทำอย่างตั้งใจและสามัคคีกัน(มาก)

    พวกเราอาสาสมัครมีหน้าที่ดูแลเด็กๆพูดคุยกับเด็กๆ แล้วก็ให้คำปรึกษารวมทั้งช่วยเหลือคุณครูประจำกลุ่มซึ่งบางทีก็ดูแลเด็กๆไม่ไหว หนิงสอนภาษาไทยให้เด็กๆไปสักพักก็จะได้ยินเสียงท่องแปลกๆดังหนวกหูไปหมด

    “นัง อืออัก น่อย มี ชัน บุน มี ชัน ลัง มี ชันนา มีชันลัง มีพมๆ กัน”

    กร๊ากกกกกกกกก !!เด็กๆหัวไวอยู่นะ แต่สำเนียงนี่สิ ทำเอาตกใจจ้า หัวเราะน้ำตาเล็ดง่ะ สนุกมากเวลาได้ฟังคนเกาหลีพูดภาษาไทย บางทีก็กลับมาคิดนะ ว่าตอนที่เราพูดภาษาเกาหลีเขาจะตลกสำเนียงเราบ้างหรือเปล่า หึหึ

    ตอนกลางคืนพ่อกับแม่รับพวกเราสามคนกลับไปอาพาร์ตเม้น ระหว่างทางเขาก็ถามว่าอยากจะกินอะไรดี ซึ่งตอนนั้นหนิงก็ไม่ได้สนใจเพราะมัวแต่อ่านป้ายข้างทางแล้วไปสะดุดกับป้ายเหลืองๆเขียนว่า “시킨” อะไรคือ ชี คิน วะ? “ชี คิน ” พอพูดเสร็จ พ่อก็บอกว่า “อยากกินหรอ?” ด้วยความที่เขาถามอะไรมาก็ไม่รู้เรื่องแต่ก็ตอบ (ค่ะ)เอาไว้ก่อน สุดท้ายมารู้ว่า ไอ้ชีคินเนี่ย คือ ชิกเก้น ที่แปลว่าไก่ ง่ะ คืนนั้นพ่อกับแม่เลยสั่งไก่ทอดแล้วก็พิซซ่ามาให้พวกเรากิน อิอิ(ฟลุ๊คไหมล่ะ คิคิ) อยากบอกไว้ก่อนว่าไก่ทอดที่เกาหลีเนี่ย อร่อยมากกกกกกกกกกกก

    ไก่ทอดของเกาหลีจะเป็นไก่ทอดกรอบนอกนุ่มในที่ราดด้วยน้ำจิ้มรสเผ็ดหวานซึ่งเป็นที่นิยมมาก พอสังเกตดีดีก็จะเห็นร้านไก่ทอดจะเยอะมากแล้วจะมีบริการส่งถึงที่ด้วย ไก่ทอดที่Super Junior เป็นพรีเซ็นเตอร์ก็ดังนะ Kyochon หึๆ กินไปมองหน้าโอปป้าที่ติดอยู่ข้างกล่องไปเป็นไรที่ชื่นมื่นสวดๆ อยากกินไก่SJฟรีไหมล่ะ?

    สรุปค่ายนักเรียนนั้นก็จบลงด้วยที่ว่ากลุ่มของหนิงได้รับการคัดเลือกให้ขึ้นแสดงบนเวทีแล้วก็ต่อด้วยการไปเที่ยวสวนสาธารณะพายเรือด้วยกันแล้วก็ถ่ายรูป เลี้ยงข้าวกันจ้า แล้วที่นั่นหนิงก็ได้เจอกันเพื่อนใหม่ ชื่อว่า ลีอายอง ซึ่งอายุเท่ากันแล้วก็พูดภาษาอังกฤษได้ จนกระทั่งตอนนี้หนิงกลับมาได้4เดือนแล้ว พวกเราก็ยังติดต่อแล้วก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่จ้า

    บอกแล้วว่า นอกจากจะได้เป็นอาสาแล้ว มันยังได้อะไรมากกว่าที่คิด ช่วงนั้นก็จะค่อยๆเรียนภาษาเกาหลี แล้วก็เรียนรู้วัฒนธรรมเกาหลีไปด้วย เริ่มจากทักทายเป็นแล้วก็บอกความต้องการพอได้ ซึ่งก็ได้เห็นพัฒนาการของตัวเองด้วย แล้วก็ได้รู้จักจิตใจของคนเกาหลีมากขึ้นด้วย เรื่องของใจก็สำคัญเหมือนกันแฮะ

    อยากกินไก่SJฟรีไหมล่ะ? อิอิ

     

     

    ถ่ายกับแม่พี่จียอน







    อาสาสมัครดี กินฟรีตลอดงาน อิอิ






     

    ไปทำภารกิจปีนเขาด้านหลังมหาวิทยาลัย พูซาน


     


    ถ่ายรูปรวมกับกลุ่ม


     

    เรียนภาษาเกาหลีจากค่ายนักเรียน

     한국어(เกาหลี)

    읽기 (การอ่าน)

    태국어(ไทย)

    학생

    ฮักแซง

    นักเรียน

    학교

    ฮัก กโย

    โรงเรียน

    선생님

    ซอนแซงนิม

    ครู

    대학교

    แท ฮัก กโย

    โรงเรียน

    대학생

    แทฮักแซง

    มหาวิทยาลัย

    갬프

    แค๊ม ผึ

    ค่าย,Camp

    민박

    มินบัก

    Home stay

    시킨

    ชิ คิน

    ไก่

    피자

    พิ จา

    พิซซ่า

    피부

    พิ บู

    ผิว

    안경

    อัน กยอง

    แว่นตา

    먹다

    มอกดะ

    กิน

    아파트

    อาพาทึ

    อาพาร์ตเมนท์

    ชิบ

    บ้าน

    열심하다

    ยอล ชิม ฮา ดะ

    ขยัน,ตั้งใจ

    댄스하다

    แดน ซึ ฮาดะ

    เต้น

    공원

    คงวอน

    สวนสาธารณะ

    발음

    พา รึม

    การออกเสียง

    문화

    มุน ฮวา

    วัฒนธรรม

    여름

    ยอรึม

    ฤดูร้อน

     

     

     

    To be continue

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×