ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My GNC's Diary__สดใสจริงๆชีวิตอาสาสมัครIYF__(เอลฟ์ไทยไปเกาหลี)

    ลำดับตอนที่ #2 : GNC2>ไปสำรวจตลาดเกาหลีกันเถอะ!! +(สอนคำศัพท์)

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.พ. 56


    GNC 2

    2 번제 시장으로 가자!! (ไปตลาดกันเถอะจ้า!!)

     

    ไปตลาดกันมั๊ยย จะไปก็รีบไป….

    ไปกะเราแล้วสบายยย ยย ยย

    เดี๋ยว หนิงพาไปกิน กิม จิ ..จิ..จิ จิจิ จิ ..จิ….. จิจิ

             

                ฤดูร้อน2011อากาศดีดีแบบนี้  คุณป้า(이모=น้า,ป้า) มีซอนและคุณป้าเยชินพาพวกเราสามคนไปเดินตลาดจ้า ตลาดกูโพ”(구포시장) เป็นตลาดที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของกรุงพูซานค่ะ เป็นตลาดจ่ายขนาดใหญ่ที่มีทุกสิ่งให้เลือกซื้อ ไม่ว่าจะเป็นอาหารทะเล เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อเป็ด เนื้อไก่ เนื้อหมา เฮ้ย!!! (มีจริงๆไม่ได้ล้อเล่น!อยากฟังใช่ไหมล่ะ?รู้นะ!เดี๋ยวอีกแปปจะเล่าให้ฟัง คึคึ) เสื้อผ้า เครื่องสำอาง รองเท้า สมุนไพร อาหารแห้ง ธัญญพืช ผัก ผลไม้ โสม โอ๊ยยย!!ยิ่งกว่าเดินโลตัสอีกพ่อคุณ!   
                       ตลาดกูโพถือเป็นตลาดจ่ายที่นิยมกันมากดูได้จากวันที่หนิงมาเดิน คนเยอะมากเรียกได้ว่าแทบจะเหยียบกันตายเลยทีเดียว(มีรูปมายืนยัน)

                       ร้านกิมจิ อาหารดอง อาหารพื้นเมืองทั้งหลายเนี่ยสีสันจะแดงจัดจ้านดึงดูดเป็นพิเศษใครเดินผ่านเป็นต้องแวะชิม เพราะจริงๆเเล้วกิมจิน่ะมีมากกว่า180เลยนะจ๊ะ ขอบอกๆ เห็นผักเป็นไม่ได้จับทาพริกซะให้เรียบ ผักอะไรก็ได้พี่เกาเขาเอามาทำกิมจิได้หมด ไม่เว้นเเม้กระทั่งปลาหมึกหรือปู เขาก็เอามาถนอมอาหารในรูปแบบเดียวกับกิมจิกัน



                ป้ามีซอนพาไปเดินแถวๆอาหารทะเล อยากจะบอกว่าอาหารทะเลที่นี่แพงมาก!!โดยเฉพาะกุ้ง! ส่วนพวกปลา ปลาหมึก ตัวก็จะมีขนาดใหญ่กว่าของบ้านเรามากเป็นพิเศษ ปลาที่เห็นๆส่วนใหญ่ก็คือปลา ดาบเงิน ปลาสีเงินตัวยาวได้อีก(ทอดแล้วรสชาติแซ่บมาก!!)

                 พอสั่งปุ๊บ ป้าแม่ค้าก็จะแล่ปลาให้เราดูสดๆตรงนั้นเลยแล้วก็จัดการโรยด้วยเกลือสมุทรเม็ดโตจากนั้นก็ใส่ถุงให้เราอย่างดี ซึ่งถุงพลาสติกที่เราไปจับจ่ายซื้อของนั้นจะเป็นถุงสีดำทีแรกเห็นก็ งงๆ อยู่เหมือนกันเพราะบ้านเราถุงดำจะไว้ใส่ขยะเท่านั้น ป้ามีซอนพาหนิงเดินต่อไปเรื่อยๆอย่างคล่องแคล่วทำเอาเดินตามไม่ทันเลยทีเดียวเพราะคนเยอะมาก ส่วนเราก็เดินตามแล้วก็ถ่ายรูปร้านนั้นร้านนี้ด้วยความตื่นเต้นกับบรรยากาศแย่งกันซื้อแย่งกันขายของชาวเกาหลี


                  ระหว่างทางก็จะได้ยินเสียงเรียกลูกค้า เสียงโฆษณาอวดสรรพคุณกันโหวกเหวกไปหมด เรียกว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเพิ่มให้บรรยากาศการซื้อขายแถวนั่นคึกคักขึ้นได้อีกเป็นกอง ส่วนที่ชอบที่สุดในตลาดคงเป็นร้านขายดอกไม้แล้วก็ร้านขายพวกธัญญพืชเพราะโซนนี้จะค่อนข้างสงบและดูสวยงามหลากหลายเพราะระหว่างสองข้างทางจะถูกประดับไปด้วยกระสอบบรรจุถั่ว ข้าว พริกตากแห้งเมล็ดใหญ่ ที่พ่อค้าแม่ค้านำมาจำหน่ายกัน ระหว่างที่ป้ามีซอนเลือกซื้อข้าวสาร หนิงก็ถ่ายรูปไปเรื่อยๆจนลุงพ่อค้าเริ่มมองเราด้วยสายตาแปลกๆประมาณว่า ถ่ายอยู่ได้ไม่เคยเห็นถั่วรึไงกัน
    !? ถั่วน่ะเคยเห็น แต่ไม่เคยเห็นพ่อค้าถั่วที่ไหนหน้าตาดีและมีซิกค์แพคแบบลุงมาก่อน      
                 จะว่าไปหนุ่มเกาหลีเนี่ยหุ่นดีเหมือนกันนะ เดินมา
    10 มีกล้ามท้องไปแล้ว8อีก2ลงพุงเพราะดื่มมากไป(สันนิษฐานเอาเองนะ) พอนอกเรื่องแล้ว !! ส่วนใหญ่มาตลาดก็จะเจอเเต่พวกป้าๆ พวกคุณแม่ เพราะว่าคนเกาหลีเขาจะมีธรรมเนียมว่าผู้หญิงต้องอยู่บ้านเป็นแม่บ้าน ทำหน้าที่ของผู้หญิง ดูแลลูก ดูแลบ้าน จัดการงานบ้าน ส่วนผู้ชายนั้นจะออกไปทำงานและเป็นหัวหน้าครอบครัวจ้า


                ที่เกาหลีเขาจะยกย่องผู้ชายมากกว่าผู้หญิงนะจ๊ะ  บางบริษัทเนี่ยถึงกับไม่อยากจะรับผู้หญิงเข้าทำงานเพราะว่ามันจะทำให้เสียงานของเขา เพราะว่าผู้หญิงเมื่อแต่งงานก็จะลาออกไปอยู่เป็นแม่บ้าน ผู้หญิงเกาหลี(ในเมือง)จึงอยากแต่งงานกับชาวต่างชาติมากกว่า ส่วนผู้ชาย(ลุงๆ)ก็จะนิยมเเต่งงานกับสาวเวียดนามจ้า(เพราะผู้หญิงเกาเขาเอียมไง!)

            

    อย่างที่บอกการเป็นอาสาสมัครนั้นก็จะไม่ได้พกเงินติดตัวเลยสักบาท ที่หนิงพกมาที่เกาหลีก็มีแค่เสื้อผ้าจำนวนหนึ่ง ของใช้ส่วนตัว โทรศัพท์มือถือ แล้วก็เงินติดตัวมา1000บาท แต่ก็หมดไปแล้วกันของกิน(ล้วนๆ) เพราะงั้นถ้าอยากจะกินอะไรก็บอกป้า เดี๋ยวเขาก็จะซื้อให้เราเอง บางทีไม่ต้องเอ่ยปากเขาก็รู้ใจเรา แบบว่าป้าเข้าใจว่าเราไม่มีเงิน เขาก็จะแย่งกันเลี้ยงดูประดุจว่าเราเป็นลูกหลานเขาจริงๆ ทั้งขนม นม พิซซ่า ไก่ทอด ไอศกรีม โอ๊ยย สารพัด มีแต่คนซื้อมาให้กินอ่ะ ไม่ต้องกลัวอดตายว่างั้นเถอะ!


    พวกเราเดินตลาดร่วมสองชั่วโมงก็รู้สึกหิวมาก ป้ามีซอนกับป้าเยชินก็คงรู้แหละเลยพาเราเข้าร้าน Lotteria ซึ่งเป็นร้านฟ้าดฟู้ดคล้ายๆกับพวกแม็ค เคเอฟซีอะไรเถือกนั้น วันนี้พวกเรากินน้ำแข็งไส(팥삥수น้ำแข็งใสหน้าถั่วแดง) ซึ่งเป็นของหวานยอดฮิตของคนเกาหลีเขาล่ะ ราคาก็ไม่แพงนะจ๊ะ เพราะไม่ใช่เงินเรา (อ้าววว) จริงๆคือร้านนี้ราคาไม่แพงจริงๆแล้วก็อร่อยด้วย น้ำแข็งไสถ้วยสีเหลืองตักคำแรกจะเจอถั่วแดงรสหวานที่ราดด้วยนมข้นรสกลมกล่อมกับน้ำแข็งไสละเอียดราวหิมะ พอกินเข้าไปจะมีรสชาติหวานแล้วก็มีรสชาติมันๆของนมสดด้วยและเสน่ห์ของมันอยู่ที่ล่างสุดจะเป็นแป็งต๊อกเล็กๆเวลาเคี้ยวจะหนุบหนับๆแล้วก็เข้ากับรสหวานของถั่วและนมได้ดี


                   แต่จริงๆแล้วก่อนหน้านี้หนิงเคยกินน้ำแข็งไสของเกาหลีมาก่อนตอนที่พวกเราเข้าค่ายที่กรุงโซล ซึ่งเข้าพัดปิงซูหรือน้ำแข็งไสถั่วแดงเนี่ยอร่อยถึงขนาดมีขายในร้านโดนัทชื่อดังอย่าง
    krispy kreme เลยนะ ซึ่งหนิงขอจบตอน2ด้วยเรื่องของเจ้าน้ำแข็งไสทั้ง3แบบที่เคยกินมาละกันะคะส่วนเรื่องเนื้อหมาจะเล่าอีกทีวันหน้าอากาศดีดี


                    พัทปิงซูเจ้าแรกที่หนิงกินก็คือพัทปิงซูสตรอเบอรี่ของ
    krispy kreme รสชาติเป็นไงค่อนข้างลืม แต่ที่จำได้คือมีคนเลี้ยง แล้วรสชาติก็ไม่หวานมาก สรุปว่าอร่อยแล้วก็คิดว่าเป็นพัทปิงซูที่น่าตาน่ารักที่สุดเท่าที่เคยได้ชิมมานะ ต่อมาคือพัทปิงซูของร้าน Lotteria ซึ่งความพิเศษจะอยู่ตรงที่เขาจะใส่แป้งต๊อก(ขนาดเท่าลูกเต๋า)โลยลงไปด้วยพอกินแล้วก็จะหนุบหนับๆ ซึ่งความพิเศษจะอยู่ตรงที่เขาจะใส่แป้งต๊อก(ขนาดเท่าลูกเต๋า)โลยลงไปด้วยพอกินแล้วก็จะหนุบหนับๆ ไอศกรีมวานิลาที่อยู่ด้านบทจะช่วยให้รู้สึกสดชื่นเพราะว่ามันหวานพอดีๆแล้วก็มีความมันของนมสมอยู่ด้วย เรียกว่า ถูกแล้วก็คุ้มค่าจริงๆจ้า

     

    ถัดมาเป็นน้ำแข็งไสเกาหลีแท้ๆๆๆๆๆ ร้อยเปอร์เซ็นต์นั้น หนิงเคยลองชิมที่หน้ามหาวิทยาลัยพูซาน(부산대학교) ตอนที่ทำหน้าที่อาสาสมัตรในแคมป์นักเรียนประจำฤดูร้อน เป็นพัทปิงซูสีหวานในชามสเตนเลสใบโตที่4คนต้องช่วยกันกินให้หมด น้ำแข็งที่บดอย่างละเอียดกำลังดีราดด้วยน้ำแดงรสหวานแล้วตามด้วยถั่วแดงที่คลุกเคล้าให้เข้ากับนมข้นหวานมาแล้วเป็นอย่างดี แปลกใจที่หน้าตามันน่าจะหวานซะขนาดนี้แต่พอกินเข้าไปรสชาติมันไม่หวานแสบคออย่างที่คิดแต่ส่วนผสมทุกอย่างนั้นเข้ากันได้ดีจนอยากจะขอเบิ้นเลยทีเดียวแต่ติดตรงที่คนอื่นเขาเลี้ยงเนี่ยแหละ อาสาสมัครอย่างเราจึงเรียกร้องอะไรไม่ได้ (ความจริงอิ่มจนกระเดือกเข้าไปไม่ไหวเพราะก่อนหน้านี้เขาก็เลี้ยงนั่นเลี้ยงนี่เรามาตลอดทาง)

    สรุปว่าการเดินตลาดครั้งแรกในเกาหลีนั้นทำให้หนิงประทับใจมากเพราะนี่คือสัญญาณบอกว่าเรากำลังต้องเริ่มต้นการใช้ชีวิตแบบคนเกาหลีแล้ว ทั้งอาหาร วัฒนธรรม แล้วก็การที่ได้อยู่ร่วมกับครอบครัวคนเกาหลี ทำให้หนิงคิดว่าการมาเดินตลาดครั้งนี้ถึงจะไม่มีอะไรที่ดึงดูดใจวัยรุ่นนักแต่ว่ามันเป็นจุดที่เรากำลังจะเข้าใกล้วิถีชีวิตของคนเกาหลีทีละนิดละนิด และภาษาเกาหลีที่หนิงอ่อนสุดๆก็ไม่ใช่อุปสรรคเลยเพราะเรายังมีภาษามือ! วาดภาพ! ทำท่า! บวกกับการActingประกอบกับเสียงแปลกๆก็ทำให้สามารถสื่อสารกันรู้เรื่อง ขอบคุณตลาดเกาหลีที่ทำให้เราไม่เพียงแต่รู้จักประเทศเกาหลีแต่มันทำให้เราได้เห็นวีถีความเป็นอยู่ของเขาอย่างแท้จริง

     

    ตอนที่ สอง ก็ขอลุยตลาดไว้แค่นี้ดีกว่า ยังไงก็อยากจะเขียนต่อไปเรื่อยๆเพราะมันเป็นประสบการณ์ที่เล่าทั้งชีวิตก็เล่าไม่หมด แหม! ดีจริงๆชีวิตอาสาสมัครเนี่ยยยยยย














    คนเยอะ สมราคาคุยไหมล่ะ??

     































    เรียนภาษาเกาหลีจากการบุกตลาด

    IYF_อาสาสมัครต่างประเทศ

     한국어(เกาหลี)

    읽기 (การอ่าน)

    태국어(ไทย)

    시장

    ชีจัง

    ตลาด

    야채

    ยาแช่

    ผัก

    มู

    หัวไช้เท้า

    배추

    แพชู่

    ผักกาด

    고추

    โกชู่

    พริก

    양파

    ยังพ่า

    หอมใหญ่

    감자

    คัมจา

    มันฝรั่ง

    당근

    ทังกึน

    แครอท

    물고기,생선

    มุลโกกี,แซงซอน

    ปลา

    오징어

    โอจิง-งอ

    ปลาหมึก

    เค

    ปู

    조개

    โชแก

    หอย

    돼지고기

    ทเวจี โกกี

    เนื้อหมู

    소고기

    โซ โกกี

    เนื้อวัว

    오리

    โอรี

    เป็ด

    새우

    แซอู

    กุ้ง

    유명하다

    ยู มยอง ฮาดะ

    มีชื่อเสียง

    맛있다

    มัชชิตตะ

    อร่อย

    싸다

    ซาดะ

    ราคาถูก

    비싸다

    บิซาดะ

    ราคาแพง

     

     

     To be continue......
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×